Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā

    ๓. ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา

    3. Paramparabhojanasikkhāpadavaṇṇanā

    ๒๒๑. อธิฎฺฐิตาติ นิจฺจปฺปวตฺตาฯ พทรจุณฺณสกฺกราทีหิ โยชิตํ พทรสาฬวํกิรกมฺมกาเรนาติ กิรสฺส กมฺมกาเรนฯ

    221.Adhiṭṭhitāti niccappavattā. Badaracuṇṇasakkarādīhi yojitaṃ badarasāḷavaṃ. Kirakammakārenāti kirassa kammakārena.

    ๒๒๖. ‘‘วิกเปฺปตฺวา คณฺหาหี’’ติ เอตฺถาหุ โปราณเตฺถรา ‘‘ภควโต สมฺมุขา อวิกเปฺปตฺวา เคหโต นิกฺขมิตฺวา รถิกาย อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก วิกเปฺปสิ, วิกเปฺปเนฺตน ปน ‘มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’ติ วตฺตพฺพํ, อิตเรน วตฺตพฺพํ ‘ตสฺส สนฺตกํ ปริภุญฺช วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’’ติฯ ปญฺจสุสหธมฺมิเกสูติ สมฺมุขา ฐิตสฺส สหธมฺมิกสฺส ยสฺส วิกเปฺปตุกาโม, ตํ สหธมฺมิกํ อทิสฺวา คหฎฺฐสฺส วา สนฺติเก, สยเมว วา ‘‘ปญฺจสุ สหธมฺมิเกสุ อิตฺถนฺนามสฺส วิกเปฺปมี’’ติ วตฺวา ภุญฺชิตพฺพนฺติ เอเก, เอวํ สติ เถโร ตสฺมิํเยว นิสิโนฺนว ตถา วาจํ นิจฺฉาเรตฺวา ปฎิคฺคณฺหาตีติ ตโกฺก ทิสฺสติฯ มหาปจฺจริยาทีสุ ปน ปรมฺมุขา วิกปฺปนาว วุตฺตา, สา ‘‘เตน หานนฺท, วิกเปฺปตฺวา คณฺหาหี’’ติ อิมินา สเมติ, ตถาปิ มาติกาฎฺฐกถายํ (กงฺขา. อฎฺฐ. ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘ตสฺมา โย ภิกฺขุ ปญฺจสุ สหธมฺมิเกสุ อญฺญตรสฺส ‘มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสํ ตุยฺหํ ทมฺมี’ติ วา ‘วิกเปฺปมี’ติ วา เอวํ สมฺมุขา วา ‘อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’ติ วา ‘วิกเปฺปมี’ติ วา เอวํ ปรมฺมุขา วา’’ติ วจนโต สหธมฺมิกสฺส สนฺติเก เอว วตฺตพฺพํ, น สยเมวาติ ทิสฺสติฯ ยสฺมา อยํ ปจฺฉิมนโย โปราณคณฺฐิปเทนปิ สเมติ, ตสฺมา อิธ มาติกาฎฺฐกถานุสาเรน อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ เอตฺถ กิญฺจาปิ ‘‘เต มนุสฺสา…เป.… โภชนมทํสู’’ติ วจนโต อกปฺปิยนิมนฺตนํ ปญฺญายติ, ตถาปิ เถรสฺส กุกฺกุจฺจุปฺปตฺติการเณน ภเตฺตน โส นิมนฺติโตติ เวทิตโพฺพฯ อญฺญถา ปรโต ‘‘เทฺว ตโย นิมนฺตเน เอกโต ภุญฺชตี’’ติ วจเนน, อนาปตฺติวาเรน จ วิรุชฺฌติฯ

    226.‘‘Vikappetvā gaṇhāhī’’ti etthāhu porāṇattherā ‘‘bhagavato sammukhā avikappetvā gehato nikkhamitvā rathikāya aññatarassa bhikkhuno santike vikappesi, vikappentena pana ‘mayhaṃ bhattapaccāsaṃ itthannāmassa dammī’ti vattabbaṃ, itarena vattabbaṃ ‘tassa santakaṃ paribhuñja vā yathāpaccayaṃ vā karohī’’’ti. Pañcasusahadhammikesūti sammukhā ṭhitassa sahadhammikassa yassa vikappetukāmo, taṃ sahadhammikaṃ adisvā gahaṭṭhassa vā santike, sayameva vā ‘‘pañcasu sahadhammikesu itthannāmassa vikappemī’’ti vatvā bhuñjitabbanti eke, evaṃ sati thero tasmiṃyeva nisinnova tathā vācaṃ nicchāretvā paṭiggaṇhātīti takko dissati. Mahāpaccariyādīsu pana parammukhā vikappanāva vuttā, sā ‘‘tena hānanda, vikappetvā gaṇhāhī’’ti iminā sameti, tathāpi mātikāṭṭhakathāyaṃ (kaṅkhā. aṭṭha. paramparabhojanasikkhāpadavaṇṇanā) ‘‘tasmā yo bhikkhu pañcasu sahadhammikesu aññatarassa ‘mayhaṃ bhattapaccāsaṃ tuyhaṃ dammī’ti vā ‘vikappemī’ti vā evaṃ sammukhā vā ‘itthannāmassa dammī’ti vā ‘vikappemī’ti vā evaṃ parammukhā vā’’ti vacanato sahadhammikassa santike eva vattabbaṃ, na sayamevāti dissati. Yasmā ayaṃ pacchimanayo porāṇagaṇṭhipadenapi sameti, tasmā idha mātikāṭṭhakathānusārena attho veditabbo. Ettha kiñcāpi ‘‘te manussā…pe… bhojanamadaṃsū’’ti vacanato akappiyanimantanaṃ paññāyati, tathāpi therassa kukkuccuppattikāraṇena bhattena so nimantitoti veditabbo. Aññathā parato ‘‘dve tayo nimantane ekato bhuñjatī’’ti vacanena, anāpattivārena ca virujjhati.

    ๒๒๙. เอตฺถายํ วิจารณา – ‘‘อโญฺญ มนุโสฺส ปตฺตํ คณฺหาติ, น ทาตพฺพ’’นฺติ วจนโต อปรภาเค อกปฺปิยนิมนฺตเนน นตฺถิ ปโยชนํ, ปุพฺพภาเคเยว อกปฺปิยนิมนฺตเนน ปโยชนนฺติ เสฺวปิ ภเนฺต อาคเจฺฉยฺยาถาติ เอตฺถ กตรํ อกปฺปิยนิมนฺตนํ, ตสฺมา อธิปฺปาโย เจตฺถ ปมาณนฺติฯ น, ‘‘ปิณฺฑาย จริตฺวา ลทฺธภตฺตํ ภุญฺชติ, อาปตฺตี’’ติ วจนโตติฯ ตตฺถ ‘‘เสฺวปิ ภเนฺต’’ติ เอตฺถ ยถา วจนมตฺตํ อคฺคเหตฺวา อกปฺปิยนิมนฺตนกฺกเมน อโตฺถ คหิโต, ตถา ‘‘ปิณฺฑาย จริตฺวา’’ติ เอตฺถาปิ อนฺตรา อกปฺปิยนิมนฺตเนน ลทฺธภตฺตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อโตฺถ คเหตโพฺพฯ ปิณฺฑาย หิ จรนฺตํ ทิสฺวา ‘‘เอตฺถ, ภเนฺต, ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ ทินฺนมฺปิ อกปฺปิยนิมนฺตเนน ลทฺธํ นาม โหติฯ โวหาเรน ปน ‘‘ปิณฺฑาย จริตฺวา ลทฺธภตฺต’’นฺติ วุจฺจติ, เอวํสมฺปทมิทํ ทฎฺฐพฺพํฯ อญฺญถา มาติกาฎฺฐกถายํ ‘‘คณโภชเน วุตฺตนเยเนว ปญฺจหิ โภชเนหิ นิมนฺติตสฺส…เป.… ปรสฺส ปรสฺส โภชเน’’ติ วุตฺตวจนวิโรโธฯ อิทญฺหิ วจนํ เยน ปฐมํ นิมนฺติโต, ตโต ปฐมนิมนฺติตํ อาทาย คโต ปรสฺส ปรสฺส นิมนฺตนกทายกสฺส โภชเนติ อตฺถปริทีปนโต นิมนฺตนโต ลทฺธภตฺตสฺส โภชเนเยว อาปตฺตีติ ทีเปติฯ ‘‘เทฺว ตโย นิมนฺตเน เอกโต’’ติ วจเนนปิ สเมติ, อญฺญถา ‘‘เยน นิมนฺติโต, ตสฺส โภชนโต ปรสฺส โภชเน’’ติ เอตฺตกํ วตฺตพฺพํ สิยา, ปาฬิยํ วา ‘‘นิมนฺตเนน เอกโตภุญฺชตี’’ติ เอตฺตกํ วตฺตพฺพํ สิยาฯ ทุติยนิมนฺตนสฺส ปฐมโภชเน อาปตฺติปฺปสงฺคนิวารณตฺถํ ‘‘เยน เยนา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ นิมนฺตนปฎิปาฎิยา ภุญฺชตีติ ปาฬีติ เจ? น, ‘‘อนาปตฺติ นิจฺจภเตฺต’’ติอาทิปาฬิวิโรธโตฯ

    229. Etthāyaṃ vicāraṇā – ‘‘añño manusso pattaṃ gaṇhāti, na dātabba’’nti vacanato aparabhāge akappiyanimantanena natthi payojanaṃ, pubbabhāgeyeva akappiyanimantanena payojananti svepi bhante āgaccheyyāthāti ettha kataraṃ akappiyanimantanaṃ, tasmā adhippāyo cettha pamāṇanti. Na, ‘‘piṇḍāya caritvā laddhabhattaṃ bhuñjati, āpattī’’ti vacanatoti. Tattha ‘‘svepi bhante’’ti ettha yathā vacanamattaṃ aggahetvā akappiyanimantanakkamena attho gahito, tathā ‘‘piṇḍāya caritvā’’ti etthāpi antarā akappiyanimantanena laddhabhattaṃ sandhāya vuttanti attho gahetabbo. Piṇḍāya hi carantaṃ disvā ‘‘ettha, bhante, bhattaṃ gaṇhathā’’ti dinnampi akappiyanimantanena laddhaṃ nāma hoti. Vohārena pana ‘‘piṇḍāya caritvā laddhabhatta’’nti vuccati, evaṃsampadamidaṃ daṭṭhabbaṃ. Aññathā mātikāṭṭhakathāyaṃ ‘‘gaṇabhojane vuttanayeneva pañcahi bhojanehi nimantitassa…pe… parassa parassa bhojane’’ti vuttavacanavirodho. Idañhi vacanaṃ yena paṭhamaṃ nimantito, tato paṭhamanimantitaṃ ādāya gato parassa parassa nimantanakadāyakassa bhojaneti atthaparidīpanato nimantanato laddhabhattassa bhojaneyeva āpattīti dīpeti. ‘‘Dve tayo nimantane ekato’’ti vacanenapi sameti, aññathā ‘‘yena nimantito, tassa bhojanato parassa bhojane’’ti ettakaṃ vattabbaṃ siyā, pāḷiyaṃ vā ‘‘nimantanena ekatobhuñjatī’’ti ettakaṃ vattabbaṃ siyā. Dutiyanimantanassa paṭhamabhojane āpattippasaṅganivāraṇatthaṃ ‘‘yena yenā’’tiādi vuttaṃ. Nimantanapaṭipāṭiyā bhuñjatīti pāḷīti ce? Na, ‘‘anāpatti niccabhatte’’tiādipāḷivirodhato.

    คณฺฐิปเท ปน ‘‘ปิณฺฑาย จริตฺวา ลทฺธภตฺตํ กสฺมา ภุญฺชิตุํ น ลภตีติ เจ? ‘ปรมฺปรโภชนํ นาม ปญฺจนฺนํ โภชนานํ อญฺญตเรน โภชเนน นิมนฺติโต, ตํ ฐเปตฺวา ปญฺจนฺนํ โภชนานํ อญฺญตรํ โภชนํ ภุญฺชติ, เอตํ ปรมฺปรโภชนํ นามา’ติ วุตฺตตฺตา’’ติ ลิขิตํฯ ยทิ เอวํ นิจฺจภตฺตาทิกมฺปิ น วฎฺฎตีติ อาปชฺชตีติ นิจฺจภตฺตาทิ โอทิสฺสกนฺติ เจ? ตํ น, ตทญฺญสฺส อตฺตโน ธเนน นิปฺผนฺนสฺส, สงฺฆโต ลทฺธสฺส วา ปาโต ปจนกยาคุ เจ ฆนา โหติ, ตสฺสาปิ, เอกกุฎิกํ คามํ อุปนิสฺสาย วิหรโต ภิกฺขาจริยวเสน ลภิตพฺพนิจฺจภตฺตสฺส จ อกปฺปิยภาวปฺปสงฺคโตฯ ตตฺถ ภิกฺขาจริยวเสน ลทฺธํ น กปฺปติ นิมนฺตนกานํ อปฺปสาทาวหนโตติ เจ? น, ‘‘ปญฺจ โภชนานิ ฐเปตฺวา สพฺพตฺถ อนาปตฺตี’’ติ วจนวิโรธโตฯ ขาทนียมฺปิ หิ ปรสฺส ขาทิตฺวา ภุตฺตตฺตา นิมนฺตนโภชนํ อภุญฺชโนฺต อปฺปสาทํ กโรติ เอว, ตสฺมา อปฺปสาทาวหํ อปฺปมาณํ, ตสฺมา นิจฺจภตฺตาทิ โอทิสฺสกํ น สมฺภวติฯ อปิจ เหฎฺฐา วุตฺตนเยน สทฺธิํ อิธ วุตฺตนเยน สํสนฺทิตฺวา ยํ ยํ ขมติ, ตํ ตํ คเหตพฺพนฺติ สโพฺพปิ เกสญฺจิ อาจริยานํ วินิจฺฉโยฯ อาจริยสฺส ปน วินิจฺฉโย อเนฺต อาวิ ภวิสฺสติฯ ‘‘ขีรํ วา รสํ วา ปิวโต อมิสฺสมฺปีติ อธิปฺปาโย’’ติ วุตฺตํฯ คณฺฐิปเท ‘‘เหฎฺฐา โอทเนนามิเสฺสตฺวา อุปริ ติฎฺฐตี’’ติ ลิขิตํฯ

    Gaṇṭhipade pana ‘‘piṇḍāya caritvā laddhabhattaṃ kasmā bhuñjituṃ na labhatīti ce? ‘Paramparabhojanaṃ nāma pañcannaṃ bhojanānaṃ aññatarena bhojanena nimantito, taṃ ṭhapetvā pañcannaṃ bhojanānaṃ aññataraṃ bhojanaṃ bhuñjati, etaṃ paramparabhojanaṃ nāmā’ti vuttattā’’ti likhitaṃ. Yadi evaṃ niccabhattādikampi na vaṭṭatīti āpajjatīti niccabhattādi odissakanti ce? Taṃ na, tadaññassa attano dhanena nipphannassa, saṅghato laddhassa vā pāto pacanakayāgu ce ghanā hoti, tassāpi, ekakuṭikaṃ gāmaṃ upanissāya viharato bhikkhācariyavasena labhitabbaniccabhattassa ca akappiyabhāvappasaṅgato. Tattha bhikkhācariyavasena laddhaṃ na kappati nimantanakānaṃ appasādāvahanatoti ce? Na, ‘‘pañca bhojanāni ṭhapetvā sabbattha anāpattī’’ti vacanavirodhato. Khādanīyampi hi parassa khāditvā bhuttattā nimantanabhojanaṃ abhuñjanto appasādaṃ karoti eva, tasmā appasādāvahaṃ appamāṇaṃ, tasmā niccabhattādi odissakaṃ na sambhavati. Apica heṭṭhā vuttanayena saddhiṃ idha vuttanayena saṃsanditvā yaṃ yaṃ khamati, taṃ taṃ gahetabbanti sabbopi kesañci ācariyānaṃ vinicchayo. Ācariyassa pana vinicchayo ante āvi bhavissati. ‘‘Khīraṃ vā rasaṃ vā pivato amissampīti adhippāyo’’ti vuttaṃ. Gaṇṭhipade ‘‘heṭṭhā odanenāmissetvā upari tiṭṭhatī’’ti likhitaṃ.

    มหาอุปาสโกติ เคหสามิโกฯ มหาอฎฺฐกถายํ ‘‘อาปตฺตี’’ติ วจเนน กุรุนฺทิยํ ‘‘วฎฺฎตี’’ติ วจนํ วิรุทฺธํ วิย ทิสฺสติฯ ‘‘ทฺวินฺนมฺปิ อธิปฺปาโย มหาปจฺจริยํ วิจาริโต’’ติ ลิขิตํฯ ‘‘จาริตฺตโตติ ‘สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา’ติ ปรโต วตฺตพฺพโต’’ติ วุตฺตํฯ วจีกมฺมํ อวิกปฺปนํฯ เอตฺถ ‘‘มหาอุปาสโก ภิกฺขู นิมเนฺตติ…เป.… ปจฺฉา ลทฺธํ ภตฺตํ ภุญฺชนฺตสฺส อาปตฺติฯ ปิณฺฑาย จริตฺวา ลทฺธภตฺตํ ภุญฺชติ, อาปตฺตี’’ติ อฎฺฐกถายํ วจนโต, ‘‘กาลเสฺสว ปิณฺฑาย จริตฺวา ภุญฺชิมฺหา’’ติ ปาฬิโต, ขนฺธเก ‘‘น จ, ภิกฺขเว, อญฺญตฺร นิมนฺตเน อญฺญสฺส โภชฺชยาคุ ปริภุญฺชิตพฺพา, โย ปริภุเญฺชยฺย, ยถาธโมฺม กาเรตโพฺพ’’ติ (มหาว. ๒๘๓) วจนโต จ นิมเนฺตตฺวา วา ปเวเทตุ อนิมเนฺตตฺวา วา, ปฐมคหิตนิมนฺตนสฺส ภิกฺขุโน ปฐมนิมนฺตนโภชนโต อญฺญํ ยํ กิญฺจิ ปรสนฺตกํ โภชนํ ปรมฺปรโภชนาปตฺติํ กโรติฯ อตฺตโน สนฺตกํ, สงฺฆคณโต ลทฺธํ วา อคหฎฺฐสนฺตกํ วฎฺฎติ, นิมนฺตนโต ปฐมํ นิพทฺธตฺตา ปน นิจฺจภตฺตาทิ ปรสนฺตกมฺปิ วฎฺฎติฯ ขนฺธเก ‘‘น จ , ภิกฺขเว…เป.… ยถาธโมฺม กาเรตโพฺพ’’ติ (มหาว. ๒๘๓) วจนํ ปรสนฺตกโภชนวุตฺตนิยมนํฯ ตโต หตฺถโกว โน ตโกฺกติ อาจริโยฯ

    Mahāupāsakoti gehasāmiko. Mahāaṭṭhakathāyaṃ ‘‘āpattī’’ti vacanena kurundiyaṃ ‘‘vaṭṭatī’’ti vacanaṃ viruddhaṃ viya dissati. ‘‘Dvinnampi adhippāyo mahāpaccariyaṃ vicārito’’ti likhitaṃ. ‘‘Cārittatoti ‘santaṃ bhikkhuṃ anāpucchā’ti parato vattabbato’’ti vuttaṃ. Vacīkammaṃ avikappanaṃ. Ettha ‘‘mahāupāsako bhikkhū nimanteti…pe… pacchā laddhaṃ bhattaṃ bhuñjantassa āpatti. Piṇḍāya caritvā laddhabhattaṃ bhuñjati, āpattī’’ti aṭṭhakathāyaṃ vacanato, ‘‘kālasseva piṇḍāya caritvā bhuñjimhā’’ti pāḷito, khandhake ‘‘na ca, bhikkhave, aññatra nimantane aññassa bhojjayāgu paribhuñjitabbā, yo paribhuñjeyya, yathādhammo kāretabbo’’ti (mahāva. 283) vacanato ca nimantetvā vā pavedetu animantetvā vā, paṭhamagahitanimantanassa bhikkhuno paṭhamanimantanabhojanato aññaṃ yaṃ kiñci parasantakaṃ bhojanaṃ paramparabhojanāpattiṃ karoti. Attano santakaṃ, saṅghagaṇato laddhaṃ vā agahaṭṭhasantakaṃ vaṭṭati, nimantanato paṭhamaṃ nibaddhattā pana niccabhattādi parasantakampi vaṭṭati. Khandhake ‘‘na ca , bhikkhave…pe… yathādhammo kāretabbo’’ti (mahāva. 283) vacanaṃ parasantakabhojanavuttaniyamanaṃ. Tato hatthakova no takkoti ācariyo.

    ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Paramparabhojanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๔. โภชนวโคฺค • 4. Bhojanavaggo

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๓. ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา • 3. Paramparabhojanasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๓. ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา • 3. Paramparabhojanasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๓. ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา • 3. Paramparabhojanasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๓. ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทํ • 3. Paramparabhojanasikkhāpadaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact