Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi |
๑๐. ปาราปริยเตฺถรคาถา
10. Pārāpariyattheragāthā
๙๒๐.
920.
สมณสฺส อหุ จินฺตา, ปุปฺผิตมฺหิ มหาวเน;
Samaṇassa ahu cintā, pupphitamhi mahāvane;
เอกคฺคสฺส นิสินฺนสฺส, ปวิวิตฺตสฺส ฌายิโนฯ
Ekaggassa nisinnassa, pavivittassa jhāyino.
๙๒๑.
921.
‘‘อญฺญถา โลกนาถมฺหิ, ติฎฺฐเนฺต ปุริสุตฺตเม;
‘‘Aññathā lokanāthamhi, tiṭṭhante purisuttame;
อิริยํ อาสิ ภิกฺขูนํ, อญฺญถา ทานิ ทิสฺสติฯ
Iriyaṃ āsi bhikkhūnaṃ, aññathā dāni dissati.
๙๒๒.
922.
‘‘สีตวาตปริตฺตานํ, หิริโกปีนฉาทนํ;
‘‘Sītavātaparittānaṃ, hirikopīnachādanaṃ;
มตฺตฎฺฐิยํ อภุญฺชิํสุ, สนฺตุฎฺฐา อิตรีตเรฯ
Mattaṭṭhiyaṃ abhuñjiṃsu, santuṭṭhā itarītare.
๙๒๓.
923.
‘‘ปณีตํ ยทิ วา ลูขํ, อปฺปํ วา ยทิ วา พหุํ;
‘‘Paṇītaṃ yadi vā lūkhaṃ, appaṃ vā yadi vā bahuṃ;
ยาปนตฺถํ อภุญฺชิํสุ, อคิทฺธา นาธิมุจฺฉิตาฯ
Yāpanatthaṃ abhuñjiṃsu, agiddhā nādhimucchitā.
๙๒๔.
924.
‘‘ชีวิตานํ ปริกฺขาเร, เภสเชฺช อถ ปจฺจเย;
‘‘Jīvitānaṃ parikkhāre, bhesajje atha paccaye;
น พาฬฺหํ อุสฺสุกา อาสุํ, ยถา เต อาสวกฺขเยฯ
Na bāḷhaṃ ussukā āsuṃ, yathā te āsavakkhaye.
๙๒๕.
925.
‘‘อรเญฺญ รุกฺขมูเลสุ, กนฺทราสุ คุหาสุ จ;
‘‘Araññe rukkhamūlesu, kandarāsu guhāsu ca;
วิเวกมนุพฺรูหนฺตา, วิหํสุ ตปฺปรายนาฯ
Vivekamanubrūhantā, vihaṃsu tapparāyanā.
๙๒๖.
926.
‘‘นีจา นิวิฎฺฐา สุภรา, มุทู อตฺถทฺธมานสา;
‘‘Nīcā niviṭṭhā subharā, mudū atthaddhamānasā;
อพฺยาเสกา อมุขรา, อตฺถจินฺตา วสานุคาฯ
Abyāsekā amukharā, atthacintā vasānugā.
๙๒๗.
927.
‘‘ตโต ปาสาทิกํ อาสิ, คตํ ภุตฺตํ นิเสวิตํ;
‘‘Tato pāsādikaṃ āsi, gataṃ bhuttaṃ nisevitaṃ;
สินิทฺธา เตลธาราว, อโหสิ อิริยาปโถฯ
Siniddhā teladhārāva, ahosi iriyāpatho.
๙๒๘.
928.
‘‘สพฺพาสวปริกฺขีณา, มหาฌายี มหาหิตา;
‘‘Sabbāsavaparikkhīṇā, mahājhāyī mahāhitā;
นิพฺพุตา ทานิ เต เถรา, ปริตฺตา ทานิ ตาทิสาฯ
Nibbutā dāni te therā, parittā dāni tādisā.
๙๒๙.
929.
‘‘กุสลานญฺจ ธมฺมานํ, ปญฺญาย จ ปริกฺขยา;
‘‘Kusalānañca dhammānaṃ, paññāya ca parikkhayā;
สพฺพาการวรูเปตํ, ลุชฺชเต ชินสาสนํฯ
Sabbākāravarūpetaṃ, lujjate jinasāsanaṃ.
๙๓๐.
930.
‘‘ปาปกานญฺจ ธมฺมานํ, กิเลสานญฺจ โย อุตุ;
‘‘Pāpakānañca dhammānaṃ, kilesānañca yo utu;
อุปฎฺฐิตา วิเวกาย, เย จ สทฺธมฺมเสสกาฯ
Upaṭṭhitā vivekāya, ye ca saddhammasesakā.
๙๓๑.
931.
‘‘เต กิเลสา ปวฑฺฒนฺตา, อาวิสนฺติ พหุํ ชนํ;
‘‘Te kilesā pavaḍḍhantā, āvisanti bahuṃ janaṃ;
กีฬนฺติ มเญฺญ พาเลหิ, อุมฺมเตฺตหิว รกฺขสาฯ
Kīḷanti maññe bālehi, ummattehiva rakkhasā.
๙๓๒.
932.
‘‘กิเลเสหาภิภูตา เต, เตน เตน วิธาวิตา;
‘‘Kilesehābhibhūtā te, tena tena vidhāvitā;
นรา กิเลสวตฺถูสุ, สสงฺคาเมว โฆสิเตฯ
Narā kilesavatthūsu, sasaṅgāmeva ghosite.
๙๓๓.
933.
‘‘ปริจฺจชิตฺวา สทฺธมฺมํ, อญฺญมเญฺญหิ ภณฺฑเร;
‘‘Pariccajitvā saddhammaṃ, aññamaññehi bhaṇḍare;
ทิฎฺฐิคตานิ อเนฺวนฺตา, อิทํ เสโยฺยติ มญฺญเรฯ
Diṭṭhigatāni anventā, idaṃ seyyoti maññare.
๙๓๔.
934.
‘‘ธนญฺจ ปุตฺตํ ภริยญฺจ, ฉฑฺฑยิตฺวาน นิคฺคตา;
‘‘Dhanañca puttaṃ bhariyañca, chaḍḍayitvāna niggatā;
กฎจฺฉุภิกฺขเหตูปิ, อกิจฺฉานิ นิเสวเรฯ
Kaṭacchubhikkhahetūpi, akicchāni nisevare.
๙๓๕.
935.
‘‘อุทราวเทหกํ ภุตฺวา, สยนฺตุตฺตานเสยฺยกา;
‘‘Udarāvadehakaṃ bhutvā, sayantuttānaseyyakā;
กถํ วเตฺตนฺติ 1 ปฎิพุทฺธา, ยา กถา สตฺถุครหิตาฯ
Kathaṃ vattenti 2 paṭibuddhā, yā kathā satthugarahitā.
๙๓๖.
936.
๙๓๗.
937.
‘‘มตฺติกํ เตลจุณฺณญฺจ, อุทกาสนโภชนํ;
‘‘Mattikaṃ telacuṇṇañca, udakāsanabhojanaṃ;
คิหีนํ อุปนาเมนฺติ, อากงฺขนฺตา พหุตฺตรํฯ
Gihīnaṃ upanāmenti, ākaṅkhantā bahuttaraṃ.
๙๓๘.
938.
‘‘ทนฺตโปนํ กปิตฺถญฺจ, ปุปฺผํ ขาทนิยานิ จ;
‘‘Dantaponaṃ kapitthañca, pupphaṃ khādaniyāni ca;
ปิณฺฑปาเต จ สมฺปเนฺน, อเมฺพ อามลกานิ จฯ
Piṇḍapāte ca sampanne, ambe āmalakāni ca.
๙๓๙.
939.
‘‘เภสเชฺชสุ ยถา เวชฺชา, กิจฺจากิเจฺจ ยถา คิหี;
‘‘Bhesajjesu yathā vejjā, kiccākicce yathā gihī;
คณิกาว วิภูสายํ, อิสฺสเร ขตฺติยา ยถาฯ
Gaṇikāva vibhūsāyaṃ, issare khattiyā yathā.
๙๔๐.
940.
‘‘เนกติกา วญฺจนิกา, กูฎสกฺขี อปาฎุกา;
‘‘Nekatikā vañcanikā, kūṭasakkhī apāṭukā;
พหูหิ ปริกเปฺปหิ, อามิสํ ปริภุญฺชเรฯ
Bahūhi parikappehi, āmisaṃ paribhuñjare.
๙๔๑.
941.
‘‘เลสกเปฺป ปริยาเย, ปริกเปฺปนุธาวิตา;
‘‘Lesakappe pariyāye, parikappenudhāvitā;
ชีวิกตฺถา อุปาเยน, สงฺกฑฺฒนฺติ พหุํ ธนํฯ
Jīvikatthā upāyena, saṅkaḍḍhanti bahuṃ dhanaṃ.
๙๔๒.
942.
‘‘อุปฎฺฐาเปนฺติ ปริสํ, กมฺมโต โน จ ธมฺมโต;
‘‘Upaṭṭhāpenti parisaṃ, kammato no ca dhammato;
ธมฺมํ ปเรสํ เทเสนฺติ, ลาภโต โน จ อตฺถโตฯ
Dhammaṃ paresaṃ desenti, lābhato no ca atthato.
๙๔๓.
943.
‘‘สงฺฆลาภสฺส ภณฺฑนฺติ, สงฺฆโต ปริพาหิรา;
‘‘Saṅghalābhassa bhaṇḍanti, saṅghato paribāhirā;
ปรลาโภปชีวนฺตา, อหิรีกา น ลชฺชเรฯ
Paralābhopajīvantā, ahirīkā na lajjare.
๙๔๔.
944.
‘‘นานุยุตฺตา ตถา เอเก, มุณฺฑา สงฺฆาฎิปารุตา;
‘‘Nānuyuttā tathā eke, muṇḍā saṅghāṭipārutā;
สมฺภาวนํเยวิจฺฉนฺติ, ลาภสกฺการมุจฺฉิตาฯ
Sambhāvanaṃyevicchanti, lābhasakkāramucchitā.
๙๔๕.
945.
‘‘เอวํ นานปฺปยาตมฺหิ, น ทานิ สุกรํ ตถา;
‘‘Evaṃ nānappayātamhi, na dāni sukaraṃ tathā;
อผุสิตํ วา ผุสิตุํ, ผุสิตํ วานุรกฺขิตุํฯ
Aphusitaṃ vā phusituṃ, phusitaṃ vānurakkhituṃ.
๙๔๖.
946.
‘‘ยถา กณฺฎกฎฺฐานมฺหิ, จเรยฺย อนุปาหโน;
‘‘Yathā kaṇṭakaṭṭhānamhi, careyya anupāhano;
สติํ อุปฎฺฐเปตฺวาน, เอวํ คาเม มุนี จเรฯ
Satiṃ upaṭṭhapetvāna, evaṃ gāme munī care.
๙๔๗.
947.
‘‘สริตฺวา ปุพฺพเก โยคี, เตสํ วตฺตมนุสฺสรํ;
‘‘Saritvā pubbake yogī, tesaṃ vattamanussaraṃ;
กิญฺจาปิ ปจฺฉิโม กาโล, ผุเสยฺย อมตํ ปทํฯ
Kiñcāpi pacchimo kālo, phuseyya amataṃ padaṃ.
๙๔๘.
948.
‘‘อิทํ วตฺวา สาลวเน, สมโณ ภาวิตินฺทฺริโย;
‘‘Idaṃ vatvā sālavane, samaṇo bhāvitindriyo;
พฺราหฺมโณ ปรินิพฺพายี, อิสิ ขีณปุนพฺภโว’’ติฯ
Brāhmaṇo parinibbāyī, isi khīṇapunabbhavo’’ti.
วีสตินิปาโต นิฎฺฐิโตฯ
Vīsatinipāto niṭṭhito.
ตตฺรุทฺทานํ –
Tatruddānaṃ –
อธิมุโตฺต ปาราปริโย, เตลกานิ รฎฺฐปาโล;
Adhimutto pārāpariyo, telakāni raṭṭhapālo;
มาลุกฺยเสโล ภทฺทิโย, องฺคุลิ ทิพฺพจกฺขุโกฯ
Mālukyaselo bhaddiyo, aṅguli dibbacakkhuko.
ปาราปริโย ทเสเต, วีสมฺหิ ปริกิตฺติตา;
Pārāpariyo dasete, vīsamhi parikittitā;
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā / ๑๐. ปาราปริยเตฺถรคาถาวณฺณนา • 10. Pārāpariyattheragāthāvaṇṇanā