Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya

    ๑๐. ปริพฺพาชกสุตฺตํ

    10. Paribbājakasuttaṃ

    ๓๐. เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฎ ปพฺพเตฯ เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา อภิญฺญาตา อภิญฺญาตา ปริพฺพาชกา สิปฺปินิกาตีเร 1 ปริพฺพาชการาเม ปฎิวสนฺติ, เสยฺยถิทํ อนฺนภาโร วรธโร สกุลุทายี จ ปริพฺพาชโก อเญฺญ จ อภิญฺญาตา อภิญฺญาตา ปริพฺพาชกาฯ อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฎิสลฺลานา วุฎฺฐิโต เยน สิปฺปินิกาตีรํ ปริพฺพาชการาโม เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ นิสชฺช โข ภควา เต ปริพฺพาชเก เอตทโวจ –

    30. Ekaṃ samayaṃ bhagavā rājagahe viharati gijjhakūṭe pabbate. Tena kho pana samayena sambahulā abhiññātā abhiññātā paribbājakā sippinikātīre 2 paribbājakārāme paṭivasanti, seyyathidaṃ annabhāro varadharo sakuludāyī ca paribbājako aññe ca abhiññātā abhiññātā paribbājakā. Atha kho bhagavā sāyanhasamayaṃ paṭisallānā vuṭṭhito yena sippinikātīraṃ paribbājakārāmo tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi. Nisajja kho bhagavā te paribbājake etadavoca –

    ‘‘จตฺตาริมานิ, ปริพฺพาชกา, ธมฺมปทานิ อคฺคญฺญานิ รตฺตญฺญานิ วํสญฺญานิ โปราณานิ อสํกิณฺณานิ อสํกิณฺณปุพฺพานิ, น สํกียนฺติ น สํกียิสฺสนฺติ, อปฺปฎิกุฎฺฐานิ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิญฺญูหิฯ กตมานิ จตฺตาริ? อนภิชฺฌา, ปริพฺพาชกา, ธมฺมปทํ อคฺคญฺญํ รตฺตญฺญํ วํสญฺญํ โปราณํ อสํกิณฺณํ อสํกิณฺณปุพฺพํ, น สํกียติ น สํกียิสฺสติ, อปฺปฎิกุฎฺฐํ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิญฺญูหิฯ อพฺยาปาโท, ปริพฺพาชกา, ธมฺมปทํ…เป.… สมฺมาสติ, ปริพฺพาชกา, ธมฺมปทํ…เป.… สมฺมาสมาธิ, ปริพฺพาชกา, ธมฺมปทํ อคฺคญฺญํ รตฺตญฺญํ วํสญฺญํ โปราณํ อสํกิณฺณํ อสํกิณฺณปุพฺพํ, น สํกียติ น สํกียิสฺสติ, อปฺปฎิกุฎฺฐํ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิญฺญูหิฯ อิมานิ โข , ปริพฺพาชกา, จตฺตาริ ธมฺมปทานิ อคฺคญฺญานิ รตฺตญฺญานิ วํสญฺญานิ โปราณานิ อสํกิณฺณานิ อสํกิณฺณปุพฺพานิ, น สํกียนฺติ น สํกียิสฺสนฺติ, อปฺปฎิกุฎฺฐานิ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิญฺญูหิฯ

    ‘‘Cattārimāni, paribbājakā, dhammapadāni aggaññāni rattaññāni vaṃsaññāni porāṇāni asaṃkiṇṇāni asaṃkiṇṇapubbāni, na saṃkīyanti na saṃkīyissanti, appaṭikuṭṭhāni samaṇehi brāhmaṇehi viññūhi. Katamāni cattāri? Anabhijjhā, paribbājakā, dhammapadaṃ aggaññaṃ rattaññaṃ vaṃsaññaṃ porāṇaṃ asaṃkiṇṇaṃ asaṃkiṇṇapubbaṃ, na saṃkīyati na saṃkīyissati, appaṭikuṭṭhaṃ samaṇehi brāhmaṇehi viññūhi. Abyāpādo, paribbājakā, dhammapadaṃ…pe… sammāsati, paribbājakā, dhammapadaṃ…pe… sammāsamādhi, paribbājakā, dhammapadaṃ aggaññaṃ rattaññaṃ vaṃsaññaṃ porāṇaṃ asaṃkiṇṇaṃ asaṃkiṇṇapubbaṃ, na saṃkīyati na saṃkīyissati, appaṭikuṭṭhaṃ samaṇehi brāhmaṇehi viññūhi. Imāni kho , paribbājakā, cattāri dhammapadāni aggaññāni rattaññāni vaṃsaññāni porāṇāni asaṃkiṇṇāni asaṃkiṇṇapubbāni, na saṃkīyanti na saṃkīyissanti, appaṭikuṭṭhāni samaṇehi brāhmaṇehi viññūhi.

    ‘‘โย โข, ปริพฺพาชกา, เอวํ วเทยฺย – ‘อหเมตํ อนภิชฺฌํ ธมฺมปทํ ปจฺจกฺขาย อภิชฺฌาลุํ กาเมสุ ติพฺพสาราคํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา ปญฺญาเปสฺสามี’ติ, ตมหํ ตตฺถ เอวํ วเทยฺยํ – ‘เอตุ วทตุ พฺยาหรตุ ปสฺสามิสฺสานุภาว’นฺติฯ โส วต, ปริพฺพาชกา, อนภิชฺฌํ ธมฺมปทํ ปจฺจกฺขาย อภิชฺฌาลุํ กาเมสุ ติพฺพสาราคํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา ปญฺญาเปสฺสตีติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ

    ‘‘Yo kho, paribbājakā, evaṃ vadeyya – ‘ahametaṃ anabhijjhaṃ dhammapadaṃ paccakkhāya abhijjhāluṃ kāmesu tibbasārāgaṃ samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā paññāpessāmī’ti, tamahaṃ tattha evaṃ vadeyyaṃ – ‘etu vadatu byāharatu passāmissānubhāva’nti. So vata, paribbājakā, anabhijjhaṃ dhammapadaṃ paccakkhāya abhijjhāluṃ kāmesu tibbasārāgaṃ samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā paññāpessatīti netaṃ ṭhānaṃ vijjati.

    ‘‘โย โข, ปริพฺพาชกา, เอวํ วเทยฺย – ‘อหเมตํ อพฺยาปาทํ ธมฺมปทํ ปจฺจกฺขาย พฺยาปนฺนจิตฺตํ ปทุฎฺฐมนสงฺกปฺปํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา ปญฺญาเปสฺสามี’ติ, ตมหํ ตตฺถ เอวํ วเทยฺยํ – ‘เอตุ วทตุ พฺยาหรตุ ปสฺสามิสฺสานุภาว’นฺติฯ โส วต, ปริพฺพาชกา, อพฺยาปาทํ ธมฺมปทํ ปจฺจกฺขาย พฺยาปนฺนจิตฺตํ ปทุฎฺฐมนสงฺกปฺปํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา ปญฺญาเปสฺสตีติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ

    ‘‘Yo kho, paribbājakā, evaṃ vadeyya – ‘ahametaṃ abyāpādaṃ dhammapadaṃ paccakkhāya byāpannacittaṃ paduṭṭhamanasaṅkappaṃ samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā paññāpessāmī’ti, tamahaṃ tattha evaṃ vadeyyaṃ – ‘etu vadatu byāharatu passāmissānubhāva’nti. So vata, paribbājakā, abyāpādaṃ dhammapadaṃ paccakkhāya byāpannacittaṃ paduṭṭhamanasaṅkappaṃ samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā paññāpessatīti netaṃ ṭhānaṃ vijjati.

    ‘‘โย โข, ปริพฺพาชกา, เอวํ วเทยฺย – ‘อหเมตํ สมฺมาสติํ ธมฺมปทํ ปจฺจกฺขาย มุฎฺฐสฺสติํ อสมฺปชานํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา ปญฺญาเปสฺสามี’ติ, ตมหํ ตตฺถ เอวํ วเทยฺยํ – ‘เอตุ วทตุ พฺยาหรตุ ปสฺสามิสฺสานุภาว’นฺติฯ โส วต, ปริพฺพาชกา, สมฺมาสติํ ธมฺมปทํ ปจฺจกฺขาย มุฎฺฐสฺสติํ อสมฺปชานํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา ปญฺญาเปสฺสตีติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ

    ‘‘Yo kho, paribbājakā, evaṃ vadeyya – ‘ahametaṃ sammāsatiṃ dhammapadaṃ paccakkhāya muṭṭhassatiṃ asampajānaṃ samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā paññāpessāmī’ti, tamahaṃ tattha evaṃ vadeyyaṃ – ‘etu vadatu byāharatu passāmissānubhāva’nti. So vata, paribbājakā, sammāsatiṃ dhammapadaṃ paccakkhāya muṭṭhassatiṃ asampajānaṃ samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā paññāpessatīti netaṃ ṭhānaṃ vijjati.

    ‘‘โย โข, ปริพฺพาชกา, เอวํ วเทยฺย – ‘อหเมตํ สมฺมาสมาธิํ ธมฺมปทํ ปจฺจกฺขาย อสมาหิตํ วิพฺภนฺตจิตฺตํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา ปญฺญาเปสฺสามี’ติ, ตมหํ ตตฺถ เอวํ วเทยฺยํ – ‘เอตุ วทตุ พฺยาหรตุ ปสฺสามิสฺสานุภาว’นฺติฯ โส วต, ปริพฺพาชกา, สมฺมาสมาธิํ ธมฺมปทํ ปจฺจกฺขาย อสมาหิตํ วิพฺภนฺตจิตฺตํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา ปญฺญาเปสฺสตีติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ

    ‘‘Yo kho, paribbājakā, evaṃ vadeyya – ‘ahametaṃ sammāsamādhiṃ dhammapadaṃ paccakkhāya asamāhitaṃ vibbhantacittaṃ samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā paññāpessāmī’ti, tamahaṃ tattha evaṃ vadeyyaṃ – ‘etu vadatu byāharatu passāmissānubhāva’nti. So vata, paribbājakā, sammāsamādhiṃ dhammapadaṃ paccakkhāya asamāhitaṃ vibbhantacittaṃ samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā paññāpessatīti netaṃ ṭhānaṃ vijjati.

    ‘‘โย โข, ปริพฺพาชกา, อิมานิ จตฺตาริ ธมฺมปทานิ ครหิตพฺพํ ปฎิโกฺกสิตพฺพํ มเญฺญยฺย, ตสฺส ทิเฎฺฐว ธเมฺม จตฺตาโร สหธมฺมิกา วาทานุปาตา คารยฺหา ฐานา 3 อาคจฺฉนฺติฯ กตเม จตฺตาโร? อนภิชฺฌํ เจ ภวํ ธมฺมปทํ ครหติ ปฎิโกฺกสติ, เย จ หิ 4 อภิชฺฌาลู กาเมสุ ติพฺพสาราคา สมณพฺราหฺมณา เต โภโต ปุชฺชา เต โภโต ปาสํสาฯ อพฺยาปาทํ เจ ภวํ ธมฺมปทํ ครหติ ปฎิโกฺกสติ, เย จ หิ พฺยาปนฺนจิตฺตา ปทุฎฺฐมนสงฺกปฺปา สมณพฺราหฺมณา เต โภโต ปุชฺชา เต โภโต ปาสํสาฯ สมฺมาสติํ เจ ภวํ ธมฺมปทํ ครหติ ปฎิโกฺกสติ, เย จ หิ มุฎฺฐสฺสตี อสมฺปชานา สมณพฺราหฺมณา เต โภโต ปุชฺชา เต โภโต ปาสํสาฯ สมฺมาสมาธิํ เจ ภวํ ธมฺมปทํ ครหติ ปฎิโกฺกสติ, เย จ หิ อสมาหิตา วิพฺภนฺตจิตฺตา สมณพฺราหฺมณา เต โภโต ปุชฺชา เต โภโต ปาสํสาฯ

    ‘‘Yo kho, paribbājakā, imāni cattāri dhammapadāni garahitabbaṃ paṭikkositabbaṃ maññeyya, tassa diṭṭheva dhamme cattāro sahadhammikā vādānupātā gārayhā ṭhānā 5 āgacchanti. Katame cattāro? Anabhijjhaṃ ce bhavaṃ dhammapadaṃ garahati paṭikkosati, ye ca hi 6 abhijjhālū kāmesu tibbasārāgā samaṇabrāhmaṇā te bhoto pujjā te bhoto pāsaṃsā. Abyāpādaṃ ce bhavaṃ dhammapadaṃ garahati paṭikkosati, ye ca hi byāpannacittā paduṭṭhamanasaṅkappā samaṇabrāhmaṇā te bhoto pujjā te bhoto pāsaṃsā. Sammāsatiṃ ce bhavaṃ dhammapadaṃ garahati paṭikkosati, ye ca hi muṭṭhassatī asampajānā samaṇabrāhmaṇā te bhoto pujjā te bhoto pāsaṃsā. Sammāsamādhiṃ ce bhavaṃ dhammapadaṃ garahati paṭikkosati, ye ca hi asamāhitā vibbhantacittā samaṇabrāhmaṇā te bhoto pujjā te bhoto pāsaṃsā.

    ‘‘โย โข, ปริพฺพาชกา, อิมานิ จตฺตาริ ธมฺมปทานิ ครหิตพฺพํ ปฎิโกฺกสิตพฺพํ มเญฺญยฺย, ตสฺส ทิเฎฺฐว ธเมฺม อิเม จตฺตาโร สหธมฺมิกา วาทานุปาตา คารยฺหา ฐานา อาคจฺฉนฺติ ฯ เยปิ เต ปริพฺพาชกา อเหสุํ อุกฺกลา วสฺสภญฺญา 7 อเหตุกวาทา อกิริยวาทา นตฺถิกวาทา, เตปิ อิมานิ จตฺตาริ ธมฺมปทานิ น ครหิตพฺพํ น ปฎิโกฺกสิตพฺพํ อมญฺญิํสุฯ ตํ กิสฺส เหตุ? นินฺทาพฺยาโรสนอุปารมฺภภยา’’ติ 8

    ‘‘Yo kho, paribbājakā, imāni cattāri dhammapadāni garahitabbaṃ paṭikkositabbaṃ maññeyya, tassa diṭṭheva dhamme ime cattāro sahadhammikā vādānupātā gārayhā ṭhānā āgacchanti . Yepi te paribbājakā ahesuṃ ukkalā vassabhaññā 9 ahetukavādā akiriyavādā natthikavādā, tepi imāni cattāri dhammapadāni na garahitabbaṃ na paṭikkositabbaṃ amaññiṃsu. Taṃ kissa hetu? Nindābyārosanaupārambhabhayā’’ti 10.

    ‘‘อพฺยาปโนฺน สทา สโต, อชฺฌตฺตํ สุสมาหิโต;

    ‘‘Abyāpanno sadā sato, ajjhattaṃ susamāhito;

    อภิชฺฌาวินเย สิกฺขํ, อปฺปมโตฺตติ วุจฺจตี’’ติฯ ทสมํ;

    Abhijjhāvinaye sikkhaṃ, appamattoti vuccatī’’ti. dasamaṃ;

    อุรุเวลวโคฺค ตติโยฯ

    Uruvelavaggo tatiyo.

    ตสฺสุทฺทานํ –

    Tassuddānaṃ –

    เทฺว อุรุเวลา โลโก กาฬโก 11, พฺรหฺมจริเยน ปญฺจมํ;

    Dve uruvelā loko kāḷako 12, brahmacariyena pañcamaṃ;

    กุหํ สนฺตุฎฺฐิ วํโส จ, ธมฺมปทํ ปริพฺพาชเกน จาติฯ

    Kuhaṃ santuṭṭhi vaṃso ca, dhammapadaṃ paribbājakena cāti.







    Footnotes:
    1. สปฺปินิยา ตีเร (สี. ปี.), สิปฺปินิยา ตีเร (สฺยา. กํ.), สิปฺปินิยา นทิยา ตีเร (ก.)
    2. sappiniyā tīre (sī. pī.), sippiniyā tīre (syā. kaṃ.), sippiniyā nadiyā tīre (ka.)
    3. วาทานุวาทา คารยฺหํ ฐานํ (ม. นิ. ๓.๘)
    4. เย จ (ม. นิ. ๓.๑๔๒-๑๔๓)
    5. vādānuvādā gārayhaṃ ṭhānaṃ (ma. ni. 3.8)
    6. ye ca (ma. ni. 3.142-143)
    7. วสฺสภิญฺญา (ก.) สํ. นิ. ๓.๖๒ ปสฺสิตพฺพํ
    8. อุปวาทภยาติ (ก.) ม. นิ. ๓.๑๕๐; สํ. นิ. ๓.๖๒ ปสฺสิตพฺพํ
    9. vassabhiññā (ka.) saṃ. ni. 3.62 passitabbaṃ
    10. upavādabhayāti (ka.) ma. ni. 3.150; saṃ. ni. 3.62 passitabbaṃ
    11. โกฬิโก (ก.)
    12. koḷiko (ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. ปริพฺพาชกสุตฺตวณฺณนา • 10. Paribbājakasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑๐. ปริพฺพาชกสุตฺตวณฺณนา • 10. Paribbājakasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact