Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) |
๑๐. ปริพฺพาชกสุตฺตวณฺณนา
10. Paribbājakasuttavaṇṇanā
๓๐. ทสเม อภิญฺญาตาติ ญาตา ปากฎาฯ อนฺนภาโรติอาทีนิ เตสํ นามานิฯ ปฎิสลฺลานา วุฎฺฐิโตติ ผลสมาปตฺติโต วุฎฺฐิโตฯ สา หิ อิธ ปฎิสลฺลานนฺติ อธิเปฺปตาฯ ปจฺจกฺขายาติ ปฎิกฺขิปิตฺวาฯ อภิชฺฌาลุนฺติ สตณฺหํฯ กาเมสุ ติพฺพสาราคนฺติ วตฺถุกาเมสุ พหลราคํฯ ตมหํ ตตฺถ เอวํ วเทยฺยนฺติ ตํ อหํ ตสฺมิํ การเณ เอวํ วเทยฺยํฯ ปฎิโกฺกสิตพฺพํ มเญฺญยฺยาติ ปฎิโกฺกสิตพฺพานิ ปฎิพาหิตพฺพนิ วา มเญฺญยฺยฯ สหธมฺมิกาติ สการณาฯ วาทานุปาตาติ ธมฺมิกวาเท ฆฎฺฎยมานา อธมฺมิกวาทานุปาตา, วาทปฺปวตฺติโยติ อโตฺถฯ คารยฺหา ฐานาติ ครหิตพฺพยุตฺตกา ปจฺจยาฯ อาคจฺฉนฺตีติ อุปคจฺฉนฺติฯ
30. Dasame abhiññātāti ñātā pākaṭā. Annabhārotiādīni tesaṃ nāmāni. Paṭisallānā vuṭṭhitoti phalasamāpattito vuṭṭhito. Sā hi idha paṭisallānanti adhippetā. Paccakkhāyāti paṭikkhipitvā. Abhijjhālunti sataṇhaṃ. Kāmesutibbasārāganti vatthukāmesu bahalarāgaṃ. Tamahaṃ tattha evaṃ vadeyyanti taṃ ahaṃ tasmiṃ kāraṇe evaṃ vadeyyaṃ. Paṭikkositabbaṃ maññeyyāti paṭikkositabbāni paṭibāhitabbani vā maññeyya. Sahadhammikāti sakāraṇā. Vādānupātāti dhammikavāde ghaṭṭayamānā adhammikavādānupātā, vādappavattiyoti attho. Gārayhā ṭhānāti garahitabbayuttakā paccayā. Āgacchantīti upagacchanti.
อุกฺกลาติ อุกฺกลชนปทวาสิโนฯ วสฺสภญฺญาติ วโสฺส จ ภโญฺญ จาติ เทฺว ชนาฯ อเหตุกวาทาติ ‘‘นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ วิสุทฺธิยา’’ติเอวมาทิวาทิโนฯ อกิริยวาทาติ ‘‘กโรโต น กรียติ ปาป’’นฺติ เอวํ กิริยปฎิเกฺขปวาทิโนฯ นตฺถิกวาทาติ ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิวาทิโนฯ เต อิเมสุ ตีสุปิ ทสฺสเนสุ โอกฺกนฺตนิยามา อเหสุํฯ กถํ ปน เตสุ นิยาโม โหตีติ? โย หิ เอวรูปํ ลทฺธิํ คเหตฺวา รตฺติฎฺฐานทิวาฎฺฐาเนสุ นิสิโนฺน สชฺฌายติ วีมํสติ, ตสฺส ‘‘นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย กโรโต น กรียติ ปาปํ…เป.… นตฺถิ ทินฺนํ…เป.… กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชตี’’ติ ตสฺมิํ อารมฺมเณ มิจฺฉาสติ สนฺติฎฺฐติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, ชวนานิ ชวนฺติฯ ปฐมชวเน สเตกิโจฺฉ โหติ, ตถา ทุติยาทีสุ, สตฺตเม พุทฺธานมฺปิ อเตกิโจฺฉ อนิวตฺติ อริฎฺฐกณฺฎกสทิโส โหติ ฯ ตตฺถ โกจิ เอกํ ทสฺสนํ โอกฺกมติ, โกจิ เทฺว, โกจิ ตีณิปิฯ นิยตมิจฺฉาทิฎฺฐิโกว โหติ, ปโตฺต สคฺคมคฺคาวรณเญฺจว โมกฺขมคฺคาวรณญฺจ, อภโพฺพ ตสฺส อตฺตภาวสฺส อนนฺตรํ สคฺคมฺปิ คนฺตุํ, ปเคว โมกฺขํฯ วฎฺฎขาณุโก นาเมส สโตฺต ปถวิโคปโก, เยภุเยฺยน เอวรูปสฺส ภวโต วุฎฺฐานํ นตฺถิฯ วสฺสภญฺญาปิ เอทิสา อเหสุํฯ นินฺทาพฺยาโรสนอุปารมฺภภยาติ อตฺตโน นินฺทภเยน ฆฎฺฎนภเยน อุปวาทภเยน จาติ อโตฺถฯ อภิชฺฌาวินเย สิกฺขนฺติ อภิชฺฌาวินโย วุจฺจติ อรหตฺตํ, อรหเตฺต สิกฺขมาโน อปฺปมโตฺต นาม วุจฺจตีติ สุตฺตเนฺต วฎฺฎวิฎฺฎํ กเถตฺวา คาถาย ผลสมาปตฺติ กถิตาติฯ
Ukkalāti ukkalajanapadavāsino. Vassabhaññāti vasso ca bhañño cāti dve janā. Ahetukavādāti ‘‘natthi hetu natthi paccayo sattānaṃ visuddhiyā’’tievamādivādino. Akiriyavādāti ‘‘karoto na karīyati pāpa’’nti evaṃ kiriyapaṭikkhepavādino. Natthikavādāti ‘‘natthi dinna’’ntiādivādino. Te imesu tīsupi dassanesu okkantaniyāmā ahesuṃ. Kathaṃ pana tesu niyāmo hotīti? Yo hi evarūpaṃ laddhiṃ gahetvā rattiṭṭhānadivāṭṭhānesu nisinno sajjhāyati vīmaṃsati, tassa ‘‘natthi hetu natthi paccayo karoto na karīyati pāpaṃ…pe… natthi dinnaṃ…pe… kāyassa bhedā ucchijjatī’’ti tasmiṃ ārammaṇe micchāsati santiṭṭhati, cittaṃ ekaggaṃ hoti, javanāni javanti. Paṭhamajavane satekiccho hoti, tathā dutiyādīsu, sattame buddhānampi atekiccho anivatti ariṭṭhakaṇṭakasadiso hoti . Tattha koci ekaṃ dassanaṃ okkamati, koci dve, koci tīṇipi. Niyatamicchādiṭṭhikova hoti, patto saggamaggāvaraṇañceva mokkhamaggāvaraṇañca, abhabbo tassa attabhāvassa anantaraṃ saggampi gantuṃ, pageva mokkhaṃ. Vaṭṭakhāṇuko nāmesa satto pathavigopako, yebhuyyena evarūpassa bhavato vuṭṭhānaṃ natthi. Vassabhaññāpi edisā ahesuṃ. Nindābyārosanaupārambhabhayāti attano nindabhayena ghaṭṭanabhayena upavādabhayena cāti attho. Abhijjhāvinaye sikkhanti abhijjhāvinayo vuccati arahattaṃ, arahatte sikkhamāno appamatto nāma vuccatīti suttante vaṭṭaviṭṭaṃ kathetvā gāthāya phalasamāpatti kathitāti.
อุรุเวลวโคฺค ตติโยฯ
Uruvelavaggo tatiyo.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๑๐. ปริพฺพาชกสุตฺตํ • 10. Paribbājakasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑๐. ปริพฺพาชกสุตฺตวณฺณนา • 10. Paribbājakasuttavaṇṇanā