Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā |
๕. ปริโภคมยปุญฺญกถาวณฺณนา
5. Paribhogamayapuññakathāvaṇṇanā
๔๘๓. อิทานิ ปริโภคมยปุญฺญกถา นาม โหติฯ ตตฺถ ‘‘เตสํ ทิวา จ รโตฺต จ, สทา ปุญฺญํ ปวฑฺฒตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๔๗) จ ‘‘ยสฺส ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จีวรํ ปริภุญฺชมาโน’’ติ (อ. นิ. ๔.๕๑) จ เอวมาทีนิ สุตฺตานิ อโยนิโส คเหตฺวา เยสํ ปริโภคมยํ นาม ปุญฺญํ อตฺถี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ราชคิริกสิทฺธตฺถิกสมฺมิติยานํ; เต สนฺธาย ปริโภคมยนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฎิญฺญา อิตรสฺสฯ อถ นํ ‘‘ปุญฺญํ นาม ผสฺสาทโย กุสลา ธมฺมา, น ตโต ปรํ, ตสฺมา ผสฺสาทีหิ เต วฑฺฒิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ ปริโภคมโย ผโสฺสติอาทิ อารทฺธํฯ ตํ สพฺพํ อิตเรน เตสํ อวฑฺฒนโต ปฎิกฺขิตฺตํฯ ลตาวิยาติอาทีนิ ‘‘กิริยาย วา ภาวนาย วา วินาปิ ยถา ลตาทีนิ สยเมว วฑฺฒนฺติ, กิํ เต เอวํ วฑฺฒนฺตี’’ติ โจทนตฺถํ วุตฺตานิฯ ตถา ปนสฺส อวฑฺฒนโต น เหวาติ ปฎิกฺขิตฺตํฯ
483. Idāni paribhogamayapuññakathā nāma hoti. Tattha ‘‘tesaṃ divā ca ratto ca, sadā puññaṃ pavaḍḍhatī’’ti (saṃ. ni. 1.47) ca ‘‘yassa bhikkhave, bhikkhu cīvaraṃ paribhuñjamāno’’ti (a. ni. 4.51) ca evamādīni suttāni ayoniso gahetvā yesaṃ paribhogamayaṃ nāma puññaṃ atthī’’ti laddhi, seyyathāpi rājagirikasiddhatthikasammitiyānaṃ; te sandhāya paribhogamayanti pucchā sakavādissa, paṭiññā itarassa. Atha naṃ ‘‘puññaṃ nāma phassādayo kusalā dhammā, na tato paraṃ, tasmā phassādīhi te vaḍḍhitabba’’nti codetuṃ paribhogamayo phassotiādi āraddhaṃ. Taṃ sabbaṃ itarena tesaṃ avaḍḍhanato paṭikkhittaṃ. Latāviyātiādīni ‘‘kiriyāya vā bhāvanāya vā vināpi yathā latādīni sayameva vaḍḍhanti, kiṃ te evaṃ vaḍḍhantī’’ti codanatthaṃ vuttāni. Tathā panassa avaḍḍhanato na hevāti paṭikkhittaṃ.
๔๘๔. น สมนฺนาหรตีติ ปเญฺห ปฎิคฺคาหกานํ ปริโภเคน ปุริมเจตนา วฑฺฒติ, เอวํ ตํ โหติ ปุญฺญนฺติ ลทฺธิวเสน ปฎิชานาติฯ ตโต อนาวเฎฺฎนฺตสฺสาติอาทีหิ ปุโฎฺฐ ทายกสฺส จาคเจตนํ สนฺธาย ปฎิกฺขิปติฯ ตตฺถ อนาวเฎฺฎนฺตสฺสาติ ทานเจตนาย ปุเรจาริเกน อาวชฺชเนน ภวงฺคํ อนาวเฎฺฎนฺตสฺส อปริวเฎฺฎนฺตสฺสฯ อนาโภคสฺสาติ นิราโภคสฺสฯ อสมนฺนาหรนฺตสฺสาติ น สมนฺนาหรนฺตสฺสฯ อาวชฺชนญฺหิ ภวงฺคํ วิจฺฉินฺทิตฺวา อตฺตโน คตมเคฺค อุปฺปชฺชมานํ ทานเจตนํ สมนฺนาหรติ นามฯ เอวํกิเจฺจน อิมินา จิเตฺตน อสมนฺนาหรนฺตสฺส ปุญฺญํ โหตีติ ปุจฺฉติฯ อมนสิกโรนฺตสฺสาติ มนํ อกโรนฺตสฺสฯ อาวชฺชเนน หิ ตทนนฺตรํ อุปฺปชฺชมานํ มนํ กโรติ นามฯ เอวํ อกโรนฺตสฺสาติ อโตฺถฯ อุปโยควจนสฺมิญฺหิ เอตํ ภุมฺมํฯ อเจตยนฺตสฺสาติ เจตนํ อนุปฺปาเทนฺตสฺสฯ อปเตฺถนฺตสฺสาติ ปตฺถนาสงฺขาตํ กุสลจฺฉนฺทํ อกโรนฺตสฺสฯ อปฺปณิทหนฺตสฺสาติ ทานเจตนาวเสน จิตฺตํ อฎฺฐเปนฺตสฺสาติ อโตฺถฯ นนุ อาวเฎฺฎนฺตสฺสาติ วาเร อาโภคสฺสาติ อาโภควโตฯ อถ วา อาโภคา อสฺส, อาโภคสฺส วา อนนฺตรํ ตํ ปุญฺญํ โหตีติ อโตฺถฯ
484. Na samannāharatīti pañhe paṭiggāhakānaṃ paribhogena purimacetanā vaḍḍhati, evaṃ taṃ hoti puññanti laddhivasena paṭijānāti. Tato anāvaṭṭentassātiādīhi puṭṭho dāyakassa cāgacetanaṃ sandhāya paṭikkhipati. Tattha anāvaṭṭentassāti dānacetanāya purecārikena āvajjanena bhavaṅgaṃ anāvaṭṭentassa aparivaṭṭentassa. Anābhogassāti nirābhogassa. Asamannāharantassāti na samannāharantassa. Āvajjanañhi bhavaṅgaṃ vicchinditvā attano gatamagge uppajjamānaṃ dānacetanaṃ samannāharati nāma. Evaṃkiccena iminā cittena asamannāharantassa puññaṃ hotīti pucchati. Amanasikarontassāti manaṃ akarontassa. Āvajjanena hi tadanantaraṃ uppajjamānaṃ manaṃ karoti nāma. Evaṃ akarontassāti attho. Upayogavacanasmiñhi etaṃ bhummaṃ. Acetayantassāti cetanaṃ anuppādentassa. Apatthentassāti patthanāsaṅkhātaṃ kusalacchandaṃ akarontassa. Appaṇidahantassāti dānacetanāvasena cittaṃ aṭṭhapentassāti attho. Nanu āvaṭṭentassāti vāre ābhogassāti ābhogavato. Atha vā ābhogā assa, ābhogassa vā anantaraṃ taṃ puññaṃ hotīti attho.
๔๘๕. ทฺวินฺนํ ผสฺสานนฺติอาทีสุปิ เอกกฺขเณ ทายกสฺส ทฺวินฺนํ ผสฺสาทีนํ อภาวา ปฎิกฺขิปติ, ทายกสฺส จ ปริภุญฺชนฺตสฺส จาติ อุภินฺนํ ผสฺสาทโย สนฺธาย ปฎิชานาติฯ อปิจสฺส ปญฺจนฺนํ วิญฺญาณานํ สโมธานํ โหตีติ ลทฺธิ, ตสฺสาปิ วเสน ปฎิชานาติฯ อถ นํ สกวาที ปริยายสฺส ทฺวารํปิทหิตฺวา อุชุวิปจฺจนีกวเสน โจเทตุํ กุสลาทิปญฺหํ ปุจฺฉติฯ ตตฺราปิ กุสลากุสลานํ เอกเสฺสกกฺขเณ สมฺปโยคาภาวํ สนฺธาย ปฎิกฺขิปติฯ ปริโภคมยํ ปน จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ ลทฺธิยา ปฎิชานาติฯ อถ นํ สกวาที สุเตฺตน นิคฺคณฺหาติฯ
485. Dvinnaṃ phassānantiādīsupi ekakkhaṇe dāyakassa dvinnaṃ phassādīnaṃ abhāvā paṭikkhipati, dāyakassa ca paribhuñjantassa cāti ubhinnaṃ phassādayo sandhāya paṭijānāti. Apicassa pañcannaṃ viññāṇānaṃ samodhānaṃ hotīti laddhi, tassāpi vasena paṭijānāti. Atha naṃ sakavādī pariyāyassa dvāraṃpidahitvā ujuvipaccanīkavasena codetuṃ kusalādipañhaṃ pucchati. Tatrāpi kusalākusalānaṃ ekassekakkhaṇe sampayogābhāvaṃ sandhāya paṭikkhipati. Paribhogamayaṃ pana cittavippayuttaṃ uppajjatīti laddhiyā paṭijānāti. Atha naṃ sakavādī suttena niggaṇhāti.
๔๘๖. สุตฺตสาธเน อารามโรปกาทีนํ อนุสฺสรณปฎิสงฺขรณาทิวเสน อนฺตรนฺตรา อุปฺปชฺชมานํ ปุญฺญํ สนฺธาย สทา ปุญฺญํ ปวฑฺฒตีติ วุตฺตํฯ อปฺปมาโณ ตสฺส ปุญฺญาภิสโนฺทติ อิทํ อปฺปมาณวิหาริโน ทินฺนปจฺจยตฺตา จ ‘‘เอวรูโป เม จีวรํ ปริภุญฺชตี’’ติ อนุโมทนวเสน จ วุตฺตํฯ ตํ โส ปริโภคมยนฺติ สลฺลเกฺขติฯ ยสฺมา ปน ปฎิคฺคาหเกน ปฎิคฺคเหตฺวา อปริภุเตฺตปิ เทยฺยธเมฺม ปุญฺญํ โหติเยว, ตสฺมา สกวาทีวาโทว พลวา, ตตฺถ ปฎิคฺคาหเกน ปฎิคฺคหิเตติ อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติฯ
486. Suttasādhane ārāmaropakādīnaṃ anussaraṇapaṭisaṅkharaṇādivasena antarantarā uppajjamānaṃ puññaṃ sandhāya sadā puññaṃ pavaḍḍhatīti vuttaṃ. Appamāṇo tassa puññābhisandoti idaṃ appamāṇavihārino dinnapaccayattā ca ‘‘evarūpo me cīvaraṃ paribhuñjatī’’ti anumodanavasena ca vuttaṃ. Taṃ so paribhogamayanti sallakkheti. Yasmā pana paṭiggāhakena paṭiggahetvā aparibhuttepi deyyadhamme puññaṃ hotiyeva, tasmā sakavādīvādova balavā, tattha paṭiggāhakena paṭiggahiteti attho daṭṭhabbo. Sesaṃ uttānatthamevāti.
ปริโภคมยปุญฺญกถาวณฺณนาฯ
Paribhogamayapuññakathāvaṇṇanā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / กถาวตฺถุปาฬิ • Kathāvatthupāḷi / (๖๗) ๕. ปริโภคมยปุญฺญกถา • (67) 5. Paribhogamayapuññakathā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā / ๕. ปริโภคมยปุญฺญกถาวณฺณนา • 5. Paribhogamayapuññakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā / ๕. ปริโภคมยปุญฺญกถาวณฺณนา • 5. Paribhogamayapuññakathāvaṇṇanā