Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) |
๕. ปาริจฺฉตฺตกสุตฺตวณฺณนา
5. Pāricchattakasuttavaṇṇanā
๖๙. ปญฺจเม ปนฺนปลาโสติ ปติตปลาโสฯ ชาลกชาโตติ สญฺชาตปตฺตปุปฺผชาโลฯ ตสฺส หิ ปตฺตชาลญฺจ ปุปฺผชาลญฺจ สเหว นิกฺขมติฯ ขารกชาโตติ ปาฎิเยกฺกํ สญฺชาเตน สุวิภเตฺตน ปตฺตชาลเกน จ ปุปฺผชาลเกน จ สมนฺนาคโตฯ กุฎุมลกชาโตติ สญฺชาตมกุโฬฯ โกรกชาโตติ อวิกสิเตหิ มหากุจฺฉีหิ สมฺภินฺนมุเขหิ ปุเปฺผหิ สมนฺนาคโตฯ สพฺพปาลิผุโลฺลติ สพฺพากาเรน สุปุปฺผิโตฯ ทิเพฺพ จตฺตาโร มาเสติ ทิเพฺพน อายุนา จตฺตาโร มาเสฯ มนุสฺสคณนาย ปน ตานิ ทฺวาทส วสฺสสหสฺสานิ โหนฺติฯ ปริจาเรนฺตีติ อิโต จิโต จ อินฺทฺริยานิ จาเรนฺติ, กีฬนฺติ รมนฺตีติ อโตฺถฯ
69. Pañcame pannapalāsoti patitapalāso. Jālakajātoti sañjātapattapupphajālo. Tassa hi pattajālañca pupphajālañca saheva nikkhamati. Khārakajātoti pāṭiyekkaṃ sañjātena suvibhattena pattajālakena ca pupphajālakena ca samannāgato. Kuṭumalakajātoti sañjātamakuḷo. Korakajātoti avikasitehi mahākucchīhi sambhinnamukhehi pupphehi samannāgato. Sabbapāliphulloti sabbākārena supupphito. Dibbe cattāro māseti dibbena āyunā cattāro māse. Manussagaṇanāya pana tāni dvādasa vassasahassāni honti. Paricārentīti ito cito ca indriyāni cārenti, kīḷanti ramantīti attho.
อาภาย ผุฎํ โหตีติ ตตฺตกํ ฐานํ โอภาเสน ผุฎํ โหติฯ เตสญฺหิ ปุปฺผานํ พาลสูริยสฺส วิย อาภา โหติ, ปตฺตานิ ปณฺณจฺฉตฺตปฺปมาณานิ, อโนฺต มหาตุมฺพมตฺตา เรณุ โหติฯ ปุปฺผิเต ปน ปาริจฺฉตฺตเก อาโรหนกิจฺจํ วา องฺกุสกํ คเหตฺวา นมนกิจฺจํ วา ปุปฺผาหรณตฺถํ จโงฺคฎกกิจฺจํ วา นตฺถิ, กนฺตนกวาโต อุฎฺฐหิตฺวา ปุปฺผานิ วณฺฎโต กนฺตติ, สมฺปฎิจฺฉนกวาโต สมฺปฎิจฺฉติ, ปเวสนกวาโต สุธมฺมํ เทวสภํ ปเวเสติ, สมฺมชฺชนกวาโต ปุราณปุปฺผานิ นีหรติ, สนฺถรณกวาโต ปตฺตกณฺณิกเกสรานิ รเญฺชโนฺต สนฺถรติฯ มชฺฌฎฺฐาเน ธมฺมาสนํ โหติ โยชนปฺปมาโณ รตนปลฺลโงฺก อุปริ ติโยชเนน เสตจฺฉเตฺตน ธาริยมาเนน, ตทนนฺตรํ สกฺกสฺส เทวรโญฺญ อาสนํ อตฺถริยติ, ตโต เตตฺติํสาย เทวปุตฺตานํ, ตโต อเญฺญสํ มเหสกฺขานํ เทวานํ, อญฺญตรเทวตานํ ปุปฺผกณฺณิกาว อาสนํ โหติฯ เทวา เทวสภํ ปวิสิตฺวา นิสีทนฺติฯ ตโต ปุเปฺผหิ เรณุวฎฺฎิ อุคฺคนฺตฺวา อุปริกณฺณิกํ อาหจฺจ นิปตมานา เทวตานํ ติคาวุตปฺปมาณํ อตฺตภาวํ ลาขารสปริกมฺมสชฺชิตํ วิย สุวณฺณจุณฺณปิญฺชรํ วิย กโรติฯ เอกเจฺจ เทวา เอเกกํ ปุปฺผํ คเหตฺวา อญฺญมญฺญํ ปหรนฺตาปิ กีฬนฺติเยวฯ ปหรณกาเลปิ มหาตุมฺพปฺปมาณา เรณุ นิกฺขมิตฺวา สรีรํ ปภาสมฺปเนฺนหิ คนฺธจุเณฺณหิ สญฺชตมโนสิลาราคํ วิย กโรติฯ เอวํ สา กีฬา จตูหิ มาเสหิ ปริโยสานํ คจฺฉติฯ อยมานุภาโวติ อยํ อนุผริตุํ อานุภาโวฯ
Ābhāya phuṭaṃ hotīti tattakaṃ ṭhānaṃ obhāsena phuṭaṃ hoti. Tesañhi pupphānaṃ bālasūriyassa viya ābhā hoti, pattāni paṇṇacchattappamāṇāni, anto mahātumbamattā reṇu hoti. Pupphite pana pāricchattake ārohanakiccaṃ vā aṅkusakaṃ gahetvā namanakiccaṃ vā pupphāharaṇatthaṃ caṅgoṭakakiccaṃ vā natthi, kantanakavāto uṭṭhahitvā pupphāni vaṇṭato kantati, sampaṭicchanakavāto sampaṭicchati, pavesanakavāto sudhammaṃ devasabhaṃ paveseti, sammajjanakavāto purāṇapupphāni nīharati, santharaṇakavāto pattakaṇṇikakesarāni rañjento santharati. Majjhaṭṭhāne dhammāsanaṃ hoti yojanappamāṇo ratanapallaṅko upari tiyojanena setacchattena dhāriyamānena, tadanantaraṃ sakkassa devarañño āsanaṃ atthariyati, tato tettiṃsāya devaputtānaṃ, tato aññesaṃ mahesakkhānaṃ devānaṃ, aññataradevatānaṃ pupphakaṇṇikāva āsanaṃ hoti. Devā devasabhaṃ pavisitvā nisīdanti. Tato pupphehi reṇuvaṭṭi uggantvā uparikaṇṇikaṃ āhacca nipatamānā devatānaṃ tigāvutappamāṇaṃ attabhāvaṃ lākhārasaparikammasajjitaṃ viya suvaṇṇacuṇṇapiñjaraṃ viya karoti. Ekacce devā ekekaṃ pupphaṃ gahetvā aññamaññaṃ paharantāpi kīḷantiyeva. Paharaṇakālepi mahātumbappamāṇā reṇu nikkhamitvā sarīraṃ pabhāsampannehi gandhacuṇṇehi sañjatamanosilārāgaṃ viya karoti. Evaṃ sā kīḷā catūhi māsehi pariyosānaṃ gacchati. Ayamānubhāvoti ayaṃ anupharituṃ ānubhāvo.
อิทานิ ยสฺมา น สตฺถา ปาริจฺฉตฺตเกน อตฺถิโก, เตน ปน สทฺธิํ อุปเมตฺวา สตฺต อริยสาวเก ทเสฺสตุกาโม, ตสฺมา เต ทเสฺสตุํ เอวเมว โขติอาทิมาหฯ ตตฺถ ปพฺพชฺชาย เจเตตีติ ปพฺพชิสฺสามีติ จิเนฺตติฯ เทวานํวาติ เทวานํ วิยฯ ยาว พฺรหฺมโลกา สโทฺท อพฺภุคฺคจฺฉตีติ ปถวิตลโต ยาว พฺรหฺมโลกา สาธุการสเทฺทน สพฺพํ เอกสทฺทเมว โหติฯ อยมานุภาโวติ อยํ ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน อนุผรณานุภาโวฯ อิมสฺมิํ สุเตฺต จตุปาริสุทฺธิสีลํ ปพฺพชฺชานิสฺสิตํ โหติ, กสิณปริกมฺมํ ปฐมชฺฌานสนฺนิสฺสิตํ, วิปสฺสนาย สทฺธิํ ตโย มคฺคา ตีณิ จ ผลานิ อรหตฺตมคฺคสนฺนิสฺสิตานิ โหนฺติฯ เทสนาย เหฎฺฐโต วา อุปริโต วา อุภยโต วา ปริเจฺฉโท โหติ, อิธ ปน อุภยโต ปริเจฺฉโทฯ เตเนตํ วุตฺตํฯ สเงฺขปโต ปเนตฺถ วฎฺฎวิวฎฺฎํ กถิตนฺติ เวทิตพฺพํฯ
Idāni yasmā na satthā pāricchattakena atthiko, tena pana saddhiṃ upametvā satta ariyasāvake dassetukāmo, tasmā te dassetuṃ evameva khotiādimāha. Tattha pabbajjāya cetetīti pabbajissāmīti cinteti. Devānaṃvāti devānaṃ viya. Yāva brahmalokā saddo abbhuggacchatīti pathavitalato yāva brahmalokā sādhukārasaddena sabbaṃ ekasaddameva hoti. Ayamānubhāvoti ayaṃ khīṇāsavassa bhikkhuno anupharaṇānubhāvo. Imasmiṃ sutte catupārisuddhisīlaṃ pabbajjānissitaṃ hoti, kasiṇaparikammaṃ paṭhamajjhānasannissitaṃ, vipassanāya saddhiṃ tayo maggā tīṇi ca phalāni arahattamaggasannissitāni honti. Desanāya heṭṭhato vā uparito vā ubhayato vā paricchedo hoti, idha pana ubhayato paricchedo. Tenetaṃ vuttaṃ. Saṅkhepato panettha vaṭṭavivaṭṭaṃ kathitanti veditabbaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๕. ปาริจฺฉตฺตกสุตฺตํ • 5. Pāricchattakasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๕-๖. ปาริจฺฉตฺตกสุตฺตาทิวณฺณนา • 5-6. Pāricchattakasuttādivaṇṇanā