Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā |
๑๐. ปริณตสิกฺขาปทวณฺณนา
10. Pariṇatasikkhāpadavaṇṇanā
๖๕๗. เทถาวุโส อมฺหากนฺติ เอตฺถ อกตวิญฺญตฺติ โหติ น โหตีติ? โหติ, ยทิ เอวํ อญฺญาตกวิญฺญตฺติสิกฺขาปทสฺส จ อิมสฺส จ กิํ นานากรณนฺติ? ตํ อญฺญาตกอปฺปวาริเตเยว วิญฺญาเปนฺตสฺส, อิทํ ญาตกปวาริเตปิ, ตํ อนจฺฉินฺนจีวรเสฺสว, อิทํ ตสฺสปิ, ตํ จีวรํเยว วิญฺญาเปนฺตสฺส, อิทํ อจีวรมฺปิฯ เอวํ สเนฺต อิทํ ตํ อโนฺตกตฺวา ฐิตํ โหติ, ตสฺมา ทฺวินฺนมฺปิ องฺคสมฺปตฺติยา สติ เกน ภวิตพฺพนฺติ? อิมินา ภวิตพฺพํ อิมสฺส นิปฺปเทสโตติ เอเกฯ ทฺวีหิปิ ภวิตพฺพํ อุภินฺนมฺปิ องฺคสิทฺธิโตติ เอเกฯ อิมานิ ตสฺส องฺคานิ วิกปฺปนุปคจีวรตา, สมยาภาโว, อญฺญาตกวิญฺญตฺติ, ตาย จ ปฎิลาโภติ จตฺตาริฯ อิมสฺส ปน สเงฺฆ ปริณตภาโว, ญตฺวา อตฺตโน ปริณามนํ, ปฎิลาโภติ ตีณิฯ เอตฺถ ปฐโม วาโท อยุโตฺต กตฺวาปิ โอกาสํ อฎฺฐกถายํ, ปริวาเร จ อวิจาริตตฺตาฯ ยทิ เอวํ ตตฺถ อเงฺคสุ ‘‘อนญฺญปริณตตา’’ติ วตฺตพฺพนฺติ เจ? น วตฺตพฺพํ, อตฺถโต สิทฺธตฺตาฯ ปริณตสิกฺขาปททฺวยสิทฺธิโต, ปริณตสญฺญิโต, อาปตฺติสมฺภวโต จ ‘‘มยฺหมฺปิ เทถา’’ติ วทติ, ‘‘วฎฺฎตี’’ติ อนุทฺทิฎฺฐํ, ‘‘อมฺหากมฺปิ อตฺถี’’ติ วุตฺตตฺตา วฎฺฎติฯ ‘‘สงฺฆสฺส ปริณตํ…เป.… อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติ เอตฺถ ‘‘ปุคฺคลสฺสา’’ติ น วุตฺตํ, ยโต สุทฺธปาจิตฺติยวเสน อาคตตฺตาฯ ‘‘อญฺญเจติยสฺสา’’ติ น วุตฺตํ สงฺฆสฺส อเจติยตฺตา, ตสฺมาเยว ‘‘เจติยสฺส ปริณตํ…เป.… อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติ เอตฺถาปิ ‘‘อญฺญสงฺฆสฺส อญฺญปุคฺคลสฺสา’’ติ น วุตฺตํฯ ‘‘ยโต ตถา อิธ จ ‘ปุคฺคลสฺส ปริณตํ…เป.… อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’ติ เอตฺถ จ ‘อตฺตโนปี’ติ กิญฺจาปิ น วุตฺตํ, ตถาปิ สมฺภวตี’’ติ วทนฺติฯ ตํ ปน อิธ อตฺตโน ปริณามนาธิการตฺตา อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส น วุตฺตนฺติ เอเกฯ ตตุตฺตริสิกฺขาปเท ‘‘อญฺญสฺสตฺถายา’’ติ (ปารา. อฎฺฐ. ๒.๕๒๖) ปทํ วิยาติ เอเกฯ ตํ น, เอตฺถ ปุคฺคลปริณามนสิกฺขาปเท อวุตฺตตฺตาฯ ธมฺมสิริเตฺถโร ปนาห –
657.Dethāvusoamhākanti ettha akataviññatti hoti na hotīti? Hoti, yadi evaṃ aññātakaviññattisikkhāpadassa ca imassa ca kiṃ nānākaraṇanti? Taṃ aññātakaappavāriteyeva viññāpentassa, idaṃ ñātakapavāritepi, taṃ anacchinnacīvarasseva, idaṃ tassapi, taṃ cīvaraṃyeva viññāpentassa, idaṃ acīvarampi. Evaṃ sante idaṃ taṃ antokatvā ṭhitaṃ hoti, tasmā dvinnampi aṅgasampattiyā sati kena bhavitabbanti? Iminā bhavitabbaṃ imassa nippadesatoti eke. Dvīhipi bhavitabbaṃ ubhinnampi aṅgasiddhitoti eke. Imāni tassa aṅgāni vikappanupagacīvaratā, samayābhāvo, aññātakaviññatti, tāya ca paṭilābhoti cattāri. Imassa pana saṅghe pariṇatabhāvo, ñatvā attano pariṇāmanaṃ, paṭilābhoti tīṇi. Ettha paṭhamo vādo ayutto katvāpi okāsaṃ aṭṭhakathāyaṃ, parivāre ca avicāritattā. Yadi evaṃ tattha aṅgesu ‘‘anaññapariṇatatā’’ti vattabbanti ce? Na vattabbaṃ, atthato siddhattā. Pariṇatasikkhāpadadvayasiddhito, pariṇatasaññito, āpattisambhavato ca ‘‘mayhampi dethā’’ti vadati, ‘‘vaṭṭatī’’ti anuddiṭṭhaṃ, ‘‘amhākampi atthī’’ti vuttattā vaṭṭati. ‘‘Saṅghassa pariṇataṃ…pe… āpatti dukkaṭassā’’ti ettha ‘‘puggalassā’’ti na vuttaṃ, yato suddhapācittiyavasena āgatattā. ‘‘Aññacetiyassā’’ti na vuttaṃ saṅghassa acetiyattā, tasmāyeva ‘‘cetiyassa pariṇataṃ…pe… āpatti dukkaṭassā’’ti etthāpi ‘‘aññasaṅghassa aññapuggalassā’’ti na vuttaṃ. ‘‘Yato tathā idha ca ‘puggalassa pariṇataṃ…pe… āpatti dukkaṭassā’ti ettha ca ‘attanopī’ti kiñcāpi na vuttaṃ, tathāpi sambhavatī’’ti vadanti. Taṃ pana idha attano pariṇāmanādhikārattā imassa sikkhāpadassa na vuttanti eke. Tatuttarisikkhāpade ‘‘aññassatthāyā’’ti (pārā. aṭṭha. 2.526) padaṃ viyāti eke. Taṃ na, ettha puggalapariṇāmanasikkhāpade avuttattā. Dhammasiritthero panāha –
‘‘อตฺตโน อญฺญโต ลาภํ, สงฺฆสฺสญฺญสฺส วา นตํ;
‘‘Attano aññato lābhaṃ, saṅghassaññassa vā nataṃ;
ปริณาเมยฺย นิสฺสคฺคิ, ปาจิตฺติยมฺปิ ทุกฺกฎ’’นฺติฯ
Pariṇāmeyya nissaggi, pācittiyampi dukkaṭa’’nti.
ตสฺสโตฺถ – สงฺฆสฺส ปริณตํ อตฺตโน ปริณาเมยฺย นิสฺสคฺคิยํฯ ตเทว อญฺญโต ปริณาเมยฺย ปาจิตฺติยํฯ อญฺญสฺส ปริณตํ อตฺตโน วา ปรสฺส วา ปริณาเมยฺย ทุกฺกฎนฺติ, ตสฺมา อญฺญาตกวิญฺญตฺติอาทีสุ วุตฺตาปตฺติสมฺภวโต อิธ ปริณตทฺวเย ‘‘อตฺตโน’’ติ ปทํ น วุตฺตํฯ ตสฺมิญฺหิ วุเตฺต ทุกฺกฎมตฺตปฺปสโงฺค สิยา, อวุเตฺต ปเนเตสุ วุตฺตาปตฺตีนํ ยถาคมมญฺญตรา จ อิธ อวุตฺตสิทฺธิ ทุกฺกฎญฺจาติ เทฺว อาปตฺติโย เอกโต โหนฺตีติ วินยธรานํ อนวเสสญาณสฺส โอกาโส กโต โหตีติฯ
Tassattho – saṅghassa pariṇataṃ attano pariṇāmeyya nissaggiyaṃ. Tadeva aññato pariṇāmeyya pācittiyaṃ. Aññassa pariṇataṃ attano vā parassa vā pariṇāmeyya dukkaṭanti, tasmā aññātakaviññattiādīsu vuttāpattisambhavato idha pariṇatadvaye ‘‘attano’’ti padaṃ na vuttaṃ. Tasmiñhi vutte dukkaṭamattappasaṅgo siyā, avutte panetesu vuttāpattīnaṃ yathāgamamaññatarā ca idha avuttasiddhi dukkaṭañcāti dve āpattiyo ekato hontīti vinayadharānaṃ anavasesañāṇassa okāso kato hotīti.
อิติ ติํสกกณฺฑํ สารมณฺฑํ,
Iti tiṃsakakaṇḍaṃ sāramaṇḍaṃ,
อลเมตํ วินยสฺส สารมเณฺฑ;
Alametaṃ vinayassa sāramaṇḍe;
อิธ นิฎฺฐิตสพฺพสารมณฺฑํ,
Idha niṭṭhitasabbasāramaṇḍaṃ,
วินยวเสน ปุนาติ สารมณฺฑนฺติฯ
Vinayavasena punāti sāramaṇḍanti.
ปริณตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Pariṇatasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
นิฎฺฐิโต ปตฺตวโคฺค ตติโยฯ
Niṭṭhito pattavaggo tatiyo.
นิสฺสคฺคิยวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Nissaggiyavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๑๐. ปริณตสิกฺขาปทํ • 10. Pariṇatasikkhāpadaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๑๐. ปริณตสิกฺขาปทวณฺณนา • 10. Pariṇatasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๑๐. ปริณตสิกฺขาปทวณฺณนา • 10. Pariṇatasikkhāpadavaṇṇanā