Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā

    ๑๐. ทสมวโคฺค

    10. Dasamavaggo

    ๑. ปริปุณฺณกเตฺถรคาถาวณฺณนา

    1. Paripuṇṇakattheragāthāvaṇṇanā

    ตถา มตํ สตรสนฺติ อายสฺมโต ปริปุณฺณกเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ธมฺมทสฺสิสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปโตฺต สตฺถริ ปรินิพฺพุเต สตฺถุ เจติเย ปุปฺผาทีหิ อุฬารํ ปูชํ อกาสิฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน เทเวสุ นิพฺพตฺติตฺวา อปราปรํ ปุญฺญานิ กตฺวา สุคตีสุเยว สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท กปิลวตฺถุสฺมิํ สกฺยราชกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปโตฺต ปริปุณฺณวิภวตาย ปริปุณฺณโกติ ปญฺญายิตฺถฯ โส วิภวสมฺปนฺนตาย สพฺพกาลํ สตรสํ นาม อาหารํ ปริภุญฺชโนฺต สตฺถุ มิสฺสกาหารปริโภคํ สุตฺวา ‘‘ตาว สุขุมาโลปิ ภควา นิพฺพานสุขํ อเปกฺขิตฺวา ยถา ตถา ยาเปติ, กสฺมา มยํ อาหารคิทฺธา หุตฺวา อาหารสุทฺธิกา ภวิสฺสาม, นิพฺพานสุขเมว ปน อเมฺหหิ ปริเยสิตพฺพ’’นฺติ สํสาเร ชาตสํเวโค ฆราวาสํ ปหาย สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ภควตา กายคตาสติกมฺมฎฺฐาเน นิโยชิโต ตตฺถ ปติฎฺฐาย ปฎิลทฺธฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรโนฺต วิปสฺสนํ วเฑฺฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๑๕.๕-๙) –

    Natathā mataṃ satarasanti āyasmato paripuṇṇakattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayampi purimabuddhesu katādhikāro dhammadassissa bhagavato kāle kulagehe nibbattitvā viññutaṃ patto satthari parinibbute satthu cetiye pupphādīhi uḷāraṃ pūjaṃ akāsi. So tena puññakammena devesu nibbattitvā aparāparaṃ puññāni katvā sugatīsuyeva saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde kapilavatthusmiṃ sakyarājakule nibbattitvā viññutaṃ patto paripuṇṇavibhavatāya paripuṇṇakoti paññāyittha. So vibhavasampannatāya sabbakālaṃ satarasaṃ nāma āhāraṃ paribhuñjanto satthu missakāhāraparibhogaṃ sutvā ‘‘tāva sukhumālopi bhagavā nibbānasukhaṃ apekkhitvā yathā tathā yāpeti, kasmā mayaṃ āhāragiddhā hutvā āhārasuddhikā bhavissāma, nibbānasukhameva pana amhehi pariyesitabba’’nti saṃsāre jātasaṃvego gharāvāsaṃ pahāya satthu santike pabbajitvā bhagavatā kāyagatāsatikammaṭṭhāne niyojito tattha patiṭṭhāya paṭiladdhajhānaṃ pādakaṃ katvā vipassanāya kammaṃ karonto vipassanaṃ vaḍḍhetvā arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 1.15.5-9) –

    ‘‘นิพฺพุเต โลกนาถมฺหิ, ธมฺมทสฺสีนราสเภ;

    ‘‘Nibbute lokanāthamhi, dhammadassīnarāsabhe;

    อาโรเปสิํ ธชตฺถมฺภํ, พุทฺธเสฎฺฐสฺส เจติเยฯ

    Āropesiṃ dhajatthambhaṃ, buddhaseṭṭhassa cetiye.

    ‘‘นิเสฺสณิํ มาปยิตฺวาน, ถูปเสฎฺฐํ สมารุหิํ;

    ‘‘Nisseṇiṃ māpayitvāna, thūpaseṭṭhaṃ samāruhiṃ;

    ชาติปุปฺผํ คเหตฺวาน, ถูปมฺหิ อภิโรปยิํฯ

    Jātipupphaṃ gahetvāna, thūpamhi abhiropayiṃ.

    ‘‘อโห พุโทฺธ อโห ธโมฺม, อโห โน สตฺถุ สมฺปทา;

    ‘‘Aho buddho aho dhammo, aho no satthu sampadā;

    ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, ถูปปูชายิทํ ผลํฯ

    Duggatiṃ nābhijānāmi, thūpapūjāyidaṃ phalaṃ.

    ‘‘จตุนฺนวุติโต กเปฺป, ถูปสีขสนามกา;

    ‘‘Catunnavutito kappe, thūpasīkhasanāmakā;

    โสฬสาสิํสุ ราชาโน, จกฺกวตฺตี มหพฺพลาฯ

    Soḷasāsiṃsu rājāno, cakkavattī mahabbalā.

    ‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

    ‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.

    อรหตฺตํ ปน ปตฺวา ธเมฺม คารวพหุมาเนน ปีติเวควิสฺสฎฺฐํ อุทานํ อุทาเนโนฺต ‘‘น ตถา มตํ สตรส’’นฺติ คาถํ อภาสิฯ

    Arahattaṃ pana patvā dhamme gāravabahumānena pītivegavissaṭṭhaṃ udānaṃ udānento ‘‘na tathā mataṃ satarasa’’nti gāthaṃ abhāsi.

    ๙๑. ตตฺถ น ตถา มตํ สตรสํ, สุธนฺนํ ยํ มยชฺช ปริภุตฺตนฺติ ตถาติ เตน ปกาเรนฯ มตนฺติ อภิมตํฯ สตรสนฺติ สตรสโภชนํ ‘‘สตรสโภชนํ นาม สตปากสปฺปิอาทีหิ อภิสงฺขตํ โภชน’’นฺติ วทนฺติฯ อถ วา อเนกโตฺถ สตสโทฺท ‘‘สตโส สหสฺสโส’’ติอาทีสุ วิยฯ ตสฺมา ยํ โภชนํ อเนกสูปํ อเนกพฺยญฺชนํ, ตํ อเนกรสตาย ‘‘สตรส’’นฺติ วุจฺจติ, นานารสโภชนนฺติ อโตฺถฯ สุธา เอว อนฺนํ สุธาโภชนํ เทวานํ อาหาโรฯ ยํ มยชฺช ปริภุตฺตนฺติ ยํ มยา อชฺช อนุภุตฺตํฯ ‘‘ยํ มยา ปริภุตฺต’’นฺติ จ อิทํ ‘‘สตรสํ สุธนฺน’’นฺติ เอตฺถาปิ โยเชตพฺพํฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยํ มยา อชฺช เอตรหิ นิโรธสมาปตฺติสมาปชฺชนวเสน ผลสมาปตฺติสมาปชฺชนวเสน จ อจฺจนฺตเมว สนฺตํ ปณีตํ นิพฺพานสุขํ ปริภุญฺชิยมานํ, ตํ ยถา มตํ อภิมตํ สมฺภาวิตํ ตถา ราชกาเล มยา ปริภุตฺตํ สตรสโภชนํ เทวตฺตภาเว ปริภุตฺตํ สุธนฺนญฺจ น มตํ นาภิมตํฯ กสฺมา? อิทญฺหิ อริยนิเสวิตํ นิรามิสํ กิเลสานํ อวตฺถุภูตํ, ตํ ปน ปุถุชฺชนเสวิตํ สามิสํ กิเลสานํ วตฺถุภูตํ, ตํ อิมสฺส สงฺขมฺปิ กลมฺปิ กลภาคมฺปิ น อุเปตีติฯ อิทานิ ‘‘ยํ มยชฺช ปริภุตฺต’’นฺติ วุตฺตธมฺมํ เทเสโนฺต อปริมิตทสฺสินา โคตเมน, พุเทฺธน สุเทสิโต ธโมฺม’’ติ อาหฯ ตสฺสโตฺถ – อปริมิตํ อปริจฺฉินฺนํ อุปฺปาทวยาภาวโต สนฺตํ อสงฺขตธาตุํ สยมฺภูญาเณน ปสฺสี, อปริมิตสฺส อนนฺตาปริเมยฺยสฺส เญยฺยสฺส ทสฺสาวีติ เตน อปริมิตทสฺสินา โคตมโคเตฺตน สมฺมาสมฺพุเทฺธน ‘‘ขยํ วิราคํ อมตํ ปณีต’’นฺติ (ขุ. ปา. ๖.๔; สุ. นิ. ๒๒๗) จ ‘‘มทนิมฺมทโน ปิปาสวินโย’’ (อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๙๐) ‘‘สพฺพสงฺขารสมโถ’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๔๐; ๑๐.๖) จ อาทินา สุฎฺฐุ เทสิโต ธโมฺม, นิพฺพานํ มยา อชฺช ปริภุตฺตนฺติ โยชนาฯ

    91. Tattha na tathā mataṃ satarasaṃ, sudhannaṃ yaṃ mayajja paribhuttanti tathāti tena pakārena. Matanti abhimataṃ. Satarasanti satarasabhojanaṃ ‘‘satarasabhojanaṃ nāma satapākasappiādīhi abhisaṅkhataṃ bhojana’’nti vadanti. Atha vā anekattho satasaddo ‘‘sataso sahassaso’’tiādīsu viya. Tasmā yaṃ bhojanaṃ anekasūpaṃ anekabyañjanaṃ, taṃ anekarasatāya ‘‘satarasa’’nti vuccati, nānārasabhojananti attho. Sudhā eva annaṃ sudhābhojanaṃ devānaṃ āhāro. Yaṃ mayajja paribhuttanti yaṃ mayā ajja anubhuttaṃ. ‘‘Yaṃ mayā paribhutta’’nti ca idaṃ ‘‘satarasaṃ sudhanna’’nti etthāpi yojetabbaṃ. Idaṃ vuttaṃ hoti – yaṃ mayā ajja etarahi nirodhasamāpattisamāpajjanavasena phalasamāpattisamāpajjanavasena ca accantameva santaṃ paṇītaṃ nibbānasukhaṃ paribhuñjiyamānaṃ, taṃ yathā mataṃ abhimataṃ sambhāvitaṃ tathā rājakāle mayā paribhuttaṃ satarasabhojanaṃ devattabhāve paribhuttaṃ sudhannañca na mataṃ nābhimataṃ. Kasmā? Idañhi ariyanisevitaṃ nirāmisaṃ kilesānaṃ avatthubhūtaṃ, taṃ pana puthujjanasevitaṃ sāmisaṃ kilesānaṃ vatthubhūtaṃ, taṃ imassa saṅkhampi kalampi kalabhāgampi na upetīti. Idāni ‘‘yaṃ mayajja paribhutta’’nti vuttadhammaṃ desento aparimitadassinā gotamena, buddhena sudesito dhammo’’ti āha. Tassattho – aparimitaṃ aparicchinnaṃ uppādavayābhāvato santaṃ asaṅkhatadhātuṃ sayambhūñāṇena passī, aparimitassa anantāparimeyyassa ñeyyassa dassāvīti tena aparimitadassinā gotamagottena sammāsambuddhena ‘‘khayaṃ virāgaṃ amataṃ paṇīta’’nti (khu. pā. 6.4; su. ni. 227) ca ‘‘madanimmadano pipāsavinayo’’ (a. ni. 4.34; itivu. 90) ‘‘sabbasaṅkhārasamatho’’ti (a. ni. 5.140; 10.6) ca ādinā suṭṭhu desito dhammo, nibbānaṃ mayā ajja paribhuttanti yojanā.

    ปริปุณฺณกเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Paripuṇṇakattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๑. ปริปุณฺณกเตฺถรคาถา • 1. Paripuṇṇakattheragāthā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact