Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) |
๕. ปริสวคฺควณฺณนา
5. Parisavaggavaṇṇanā
๔๓. ปญฺจมสฺส ปฐเม อุทฺธเจฺจน สมนฺนาคตาติ อกปฺปิเย กปฺปิยสญฺญิตาย, กปฺปิเย อกปฺปิยสญฺญิตาย, อวเชฺช วชฺชสญฺญิตาย, วเชฺช อวชฺชสญฺญิตาย อุทฺธจฺจปฺปกติกาฯ เย หิ วินเย อปกตญฺญุโน สํกิเลสโวทานิเยสุ ธเมฺมสุ น กุสลา สกิญฺจนการิโน วิปฺปฎิสารพหุลา, เตสํ อนุปฺปนฺนญฺจ อุทฺธจฺจํ อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺนญฺจ ภิโยฺยภาวํ เวปุลฺลํ อาปชฺชติฯ สาราภาเวน ตุจฺฉตฺตา นโฬ วิยาติ นโฬ, มาโนติ อาห ‘‘อุนฺนฬาติ อุคฺคตนฬา’’ติฯ เตนาห ‘‘อุฎฺฐิตตุจฺฉมานา’’ติฯ มาโน หิ เสยฺยสฺส เสโยฺยติ สทิโสติ จ ปวตฺติยา วิเสสโต ตุโจฺฉฯ จาปเลฺลนาติ จปลภาเวน, ตณฺหาโลลุเปฺปนาติ อโตฺถฯ มุขขราติ มุเขน ผรุสา, ผรุสวาทิโนติ อโตฺถฯ
43. Pañcamassa paṭhame uddhaccena samannāgatāti akappiye kappiyasaññitāya, kappiye akappiyasaññitāya, avajje vajjasaññitāya, vajje avajjasaññitāya uddhaccappakatikā. Ye hi vinaye apakataññuno saṃkilesavodāniyesu dhammesu na kusalā sakiñcanakārino vippaṭisārabahulā, tesaṃ anuppannañca uddhaccaṃ uppajjati, uppannañca bhiyyobhāvaṃ vepullaṃ āpajjati. Sārābhāvena tucchattā naḷo viyāti naḷo, mānoti āha ‘‘unnaḷāti uggatanaḷā’’ti. Tenāha ‘‘uṭṭhitatucchamānā’’ti. Māno hi seyyassa seyyoti sadisoti ca pavattiyā visesato tuccho. Cāpallenāti capalabhāvena, taṇhāloluppenāti attho. Mukhakharāti mukhena pharusā, pharusavādinoti attho.
วิกิณฺณวาจาติ วิสฺสฎวจนา สมฺผปฺปลาปิตาย อปริยนฺตวจนาฯ เตนาห ‘‘อสํยตวจนา’’ติอาทิฯ วิสฺสฎฺฐสติโนติ สติวิรหิตาฯ ปจฺจยเวกเลฺลน วิชฺชมานายปิ สติยา สติกิจฺจํ กาตุํ อสมตฺถตาย เอวํ วุตฺตาฯ น สมฺปชานนฺตีติ อสมฺปชานา, ตํโยคนิวตฺติยํ จายํ อกาโร ‘‘อเหตุกา ธมฺมา (ธ. ส. ทุกมาติกา ๒), อภิกฺขุโก อาวาโส’’ติอาทีสุ (จูฬว. ๗๖) วิยาติ อาห ‘‘นิปฺปญฺญา’’ติ, ปญฺญารหิตาติ อโตฺถฯ ปาฬิยํ วิพฺภนฺตจิตฺตาติ อุพฺภนฺตจิตฺตาฯ สมาธิวิรเหน ลโทฺธกาเสน อุทฺธเจฺจน เตสํ สมาธิวิรหานํ จิตฺตํ นานารมฺมเณสุ ปริพฺภมติ วนมกฺกโฎ วิย วนสาขาสุฯ ปากตินฺทฺริยาติ สํวราภาเวน คิหิกาเล วิย วิวฎอินฺทฺริยาฯ เตนาห ‘‘ปกติยา ฐิเตหี’’ติอาทิฯ วิวเฎหีติ อสํวุเตหิฯ
Vikiṇṇavācāti vissaṭavacanā samphappalāpitāya apariyantavacanā. Tenāha ‘‘asaṃyatavacanā’’tiādi. Vissaṭṭhasatinoti sativirahitā. Paccayavekallena vijjamānāyapi satiyā satikiccaṃ kātuṃ asamatthatāya evaṃ vuttā. Na sampajānantīti asampajānā, taṃyoganivattiyaṃ cāyaṃ akāro ‘‘ahetukā dhammā (dha. sa. dukamātikā 2), abhikkhuko āvāso’’tiādīsu (cūḷava. 76) viyāti āha ‘‘nippaññā’’ti, paññārahitāti attho. Pāḷiyaṃ vibbhantacittāti ubbhantacittā. Samādhivirahena laddhokāsena uddhaccena tesaṃ samādhivirahānaṃ cittaṃ nānārammaṇesu paribbhamati vanamakkaṭo viya vanasākhāsu. Pākatindriyāti saṃvarābhāvena gihikāle viya vivaṭaindriyā. Tenāha ‘‘pakatiyā ṭhitehī’’tiādi. Vivaṭehīti asaṃvutehi.
๔๔. ทุติเย ภณฺฑนํ วุจฺจติ กลหสฺส ปุพฺพภาโคติ กลหสฺส เหตุภูตา ปริภาสา ตํสทิสี จ อนิฎฺฐกิริยา ภณฺฑนํ นามฯ กลหชาตาติ หตฺถปรามาสาทิวเสน มตฺถกปฺปโตฺต กลโห ชาโต เอเตสนฺติ กลหชาตาติ เอวเมตฺถ อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ วิรุทฺธวาทนฺติ ‘‘อยํ ธโมฺม, นายํ ธโมฺม’’ติอาทินา วิรุทฺธวาทภูตํ วิวาทํฯ มุขสนฺนิสฺสิตตาย วาจา อิธ ‘‘มุข’’นฺติ อธิเปฺปตาติ อาห ‘‘ทุพฺภาสิตา วาจา มุขสตฺติโยติ วุจฺจนฺตี’’ติฯ จตุพฺพิธมฺปิ สงฺฆกมฺมํ สีมาปริจฺฉิเนฺนหิ ปกตเตฺตหิ ภิกฺขูหิ เอกโต กตฺตพฺพตฺตา เอกกมฺมํ นามฯ ปญฺจวิโธปิ ปาติโมกฺขุเทฺทโส เอกโต อุทฺทิสิตพฺพตฺตา เอกุเทฺทโส นามฯ ปญฺญตฺตํ ปน สิกฺขาปทํ สเพฺพหิปิ ลชฺชีปุคฺคเลหิ สมํ สิกฺขิตพฺพภาวโต สมสิกฺขตา นาม ฯ ปาฬิยํ ขีโรทกีภูตาติ ยถา ขีรญฺจ อุทกญฺจ อญฺญมญฺญํ สํสนฺทติ, วิสุํ น โหติ, เอกตฺตํ วิย อุเปติฯ สติปิ หิ อุภเยสํ กลาปานํ ปรมตฺถโต เภเท ปจุรชเนหิ ปน ทุวิเญฺญยฺยนานตฺตํ ขีโรทกํ สโมทิตํ อจฺจนฺตเมว สํสฎฺฐํ วิย หุตฺวา ติฎฺฐติ, เอวํ สามคฺคิวเสน เอกตฺตูปคตจิตฺตุปฺปาทา วิยาติ ขีโรทกีภูตาติ เอวเมตฺถ อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ เมตฺตาจกฺขูหีติ เมตฺตาจิตฺตํ ปจฺจุปฎฺฐเปตฺวา โอโลกนจกฺขูหิฯ ตานิ หิ ปิยภาวทีปนโต ‘‘ปิยจกฺขูนี’’ติ วุจฺจนฺติฯ
44. Dutiye bhaṇḍanaṃ vuccati kalahassa pubbabhāgoti kalahassa hetubhūtā paribhāsā taṃsadisī ca aniṭṭhakiriyā bhaṇḍanaṃ nāma. Kalahajātāti hatthaparāmāsādivasena matthakappatto kalaho jāto etesanti kalahajātāti evamettha attho daṭṭhabbo. Viruddhavādanti ‘‘ayaṃ dhammo, nāyaṃ dhammo’’tiādinā viruddhavādabhūtaṃ vivādaṃ. Mukhasannissitatāya vācā idha ‘‘mukha’’nti adhippetāti āha ‘‘dubbhāsitā vācā mukhasattiyoti vuccantī’’ti. Catubbidhampi saṅghakammaṃ sīmāparicchinnehi pakatattehi bhikkhūhi ekato kattabbattā ekakammaṃ nāma. Pañcavidhopi pātimokkhuddeso ekato uddisitabbattā ekuddeso nāma. Paññattaṃ pana sikkhāpadaṃ sabbehipi lajjīpuggalehi samaṃ sikkhitabbabhāvato samasikkhatā nāma . Pāḷiyaṃ khīrodakībhūtāti yathā khīrañca udakañca aññamaññaṃ saṃsandati, visuṃ na hoti, ekattaṃ viya upeti. Satipi hi ubhayesaṃ kalāpānaṃ paramatthato bhede pacurajanehi pana duviññeyyanānattaṃ khīrodakaṃ samoditaṃ accantameva saṃsaṭṭhaṃ viya hutvā tiṭṭhati, evaṃ sāmaggivasena ekattūpagatacittuppādā viyāti khīrodakībhūtāti evamettha attho daṭṭhabbo. Mettācakkhūhīti mettācittaṃ paccupaṭṭhapetvā olokanacakkhūhi. Tāni hi piyabhāvadīpanato ‘‘piyacakkhūnī’’ti vuccanti.
๔๕. ตติเย อคฺควตีติ เอตฺถ อคฺค-สโทฺท อุตฺตมปริยาโย, เตน วิสิฎฺฐสฺส ปุคฺคลสฺส, วิสิฎฺฐาย วา ปฎิปตฺติยา คหณํ อิธาธิเปฺปตนฺติ อาห ‘‘อคฺควตีติ อุตฺตมปุคฺคลวตี’’ติอาทิฯ อวิคตตณฺหตาย ตํ ตํ ปริกฺขารชาตํ พหุํ ลนฺติ อาทิยนฺตีติ พหุลา, พหุลา เอว พาหุลิกา ยถา ‘‘เวนยิโก’’ติ (อ. นิ. ๘.๑๑; ปารา. ๘; ม. นิ. ๑.๒๔๖)ฯ เต ปน ยสฺมา ปจฺจยพหุภาวาย ยุตฺตปฺปยุตฺตา นาม โหนฺติ, ตสฺมา อาห ‘‘จีวราทิพาหุลฺลาย ปฎิปนฺนา’’ติฯ สิกฺขาย อาทรคารวาภาวโต สิถิลํ อทฬฺหํ คณฺหนฺตีติ สาถลิกาติ วุตฺตํฯ สิถิลนฺติ จ ภาวนปุํสกนิเทฺทโส, สิถิลสเทฺทน วา สมานตฺถสฺส สาถลสทฺทสฺส วเสน สาถลิกาติ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพาฯ อวคมนเฎฺฐนาติ อโธคมนเฎฺฐน, โอรมฺภาคิยภาเวนาติ อโตฺถฯ อุปธิวิเวเกติ สพฺพูปธิปฎินิสฺสคฺคตาย อุปธิวิวิเตฺตฯ โอโรปิตธุราติ อุชฺฌิตุสฺสาหาฯ ทุวิธมฺปิ วีริยนฺติ กายิกํ เจตสิกญฺจ วีริยํฯ
45. Tatiye aggavatīti ettha agga-saddo uttamapariyāyo, tena visiṭṭhassa puggalassa, visiṭṭhāya vā paṭipattiyā gahaṇaṃ idhādhippetanti āha ‘‘aggavatīti uttamapuggalavatī’’tiādi. Avigatataṇhatāya taṃ taṃ parikkhārajātaṃ bahuṃ lanti ādiyantīti bahulā, bahulā eva bāhulikā yathā ‘‘venayiko’’ti (a. ni. 8.11; pārā. 8; ma. ni. 1.246). Te pana yasmā paccayabahubhāvāya yuttappayuttā nāma honti, tasmā āha ‘‘cīvarādibāhullāya paṭipannā’’ti. Sikkhāya ādaragāravābhāvato sithilaṃ adaḷhaṃ gaṇhantīti sāthalikāti vuttaṃ. Sithilanti ca bhāvanapuṃsakaniddeso, sithilasaddena vā samānatthassa sāthalasaddassa vasena sāthalikāti padasiddhi veditabbā. Avagamanaṭṭhenāti adhogamanaṭṭhena, orambhāgiyabhāvenāti attho. Upadhiviveketi sabbūpadhipaṭinissaggatāya upadhivivitte. Oropitadhurāti ujjhitussāhā. Duvidhampi vīriyanti kāyikaṃ cetasikañca vīriyaṃ.
๔๖. จตุเตฺถ อิทํ ทุกฺขนฺติ ทุกฺขสฺส อริยสจฺจสฺส ปจฺจกฺขโต อคฺคหิตภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํฯ เอตฺตกเมว ทุกฺขนฺติ ตสฺส ปริจฺฉิชฺช อคฺคหิตภาวทสฺสนตฺถํฯ อิโต อุทฺธํ ทุกฺขํ นตฺถีติ อนวเสเสตฺวา อคฺคหิตภาวทสฺสนตฺถํฯ ยถาสภาวโต นปฺปชานนฺตีติ สรสลกฺขณปฺปฎิเวเธน อสโมฺมหโต นปฺปฎิวิชฺฌนฺติฯ อสโมฺมหปฎิเวโธ จ ยถา ตสฺมิํ ญาเณ ปวเตฺต ปจฺจา ทุกฺขสฺส รูปาทิปริเจฺฉเท สโมฺมโห น โหติ, ตถา ปวตฺติฯ อจฺจนฺตกฺขโยติ อจฺจนฺตกฺขยนิมิตฺตํ นิพฺพานํฯ อสมุปฺปตฺตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ ยํ นิพฺพานํ มคฺคสฺส อารมฺมณปจฺจยเฎฺฐน การณภูตํ อาคมฺม ตทุภยมฺปิ นิรุชฺฌติ, ตํ เตสํ อสมุปฺปตฺติ นิพฺพานํ ทุกฺขนิโรโธติ วุจฺจติฯ
46. Catutthe idaṃ dukkhanti dukkhassa ariyasaccassa paccakkhato aggahitabhāvadassanatthaṃ vuttaṃ. Ettakameva dukkhanti tassa paricchijja aggahitabhāvadassanatthaṃ. Ito uddhaṃ dukkhaṃ natthīti anavasesetvā aggahitabhāvadassanatthaṃ. Yathāsabhāvato nappajānantīti sarasalakkhaṇappaṭivedhena asammohato nappaṭivijjhanti. Asammohapaṭivedho ca yathā tasmiṃ ñāṇe pavatte paccā dukkhassa rūpādiparicchede sammoho na hoti, tathā pavatti. Accantakkhayoti accantakkhayanimittaṃ nibbānaṃ. Asamuppattīti etthāpi eseva nayo. Yaṃ nibbānaṃ maggassa ārammaṇapaccayaṭṭhena kāraṇabhūtaṃ āgamma tadubhayampi nirujjhati, taṃ tesaṃ asamuppatti nibbānaṃ dukkhanirodhoti vuccati.
๔๗. ปญฺจเม วิเสสนสฺส ปรนิปาเตน ‘‘ปริสากสโฎ’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘กสฎปริสา’’ติอาทิฯ ‘‘กสฎปริสา’’ติ หิ วตฺตเพฺพ ‘‘ปริสากสโฎ’’ติ วุตฺตํฯ ปริสามโณฺฑติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวฯ
47. Pañcame visesanassa paranipātena ‘‘parisākasaṭo’’ti vuttanti āha ‘‘kasaṭaparisā’’tiādi. ‘‘Kasaṭaparisā’’ti hi vattabbe ‘‘parisākasaṭo’’ti vuttaṃ. Parisāmaṇḍoti etthāpi eseva nayo. Sesamettha uttānameva.
๔๘. ฉเฎฺฐ คมฺภีราติ อคาธา ทุโกฺขคาฬฺหาฯ ปาฬิวเสนาติ อิมินา โย ธมฺมปฎิสมฺภิทาย วิสโย คมฺภีรภาโว, ตมาหฯ ธมฺมปฺปฎิเวธสฺส หิ ทุกฺกรภาวโต ธมฺมสฺส ปาฬิยา ทุโกฺขคาฬฺหตาย คมฺภีรภาโวฯ ‘‘ปาฬิวเสน คมฺภีรา’’ติ วตฺวา ‘‘สลฺลสุตฺตสทิสา’’ติ วุตฺตํ ตสฺส ‘‘อนิมิตฺตมนญฺญาต’’นฺติอาทินา (สุ. นิ. ๕๗๙) ปาฬิวเสน คมฺภีรตาย ลพฺภนโตฯ ตถา หิ ตตฺถ ตา คาถา ทุวิเญฺญยฺยรูปา ติฎฺฐนฺติฯ ทุวิเญฺญยฺยญฺหิ ญาเณน ทุโกฺขคาฬฺหนฺติ กตฺวา ‘‘คมฺภีร’’นฺติ วุจฺจติฯ ปุพฺพาปรเมฺปตฺถ กาสญฺจิ คาถานํ ทุวิเญฺญยฺยตาย ทุโกฺขคาฬฺหเมว, ตสฺมา ตํ ‘‘ปาฬิวเสน คมฺภีรา’’ติ วุตฺตํฯ อิมินาว นเยน ‘‘อตฺถวเสน คมฺภีรา’’ติ เอตฺถาปิ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ มหาเวทลฺลสุตฺตสฺส (ม. นิ. ๑.๔๔๙ อาทโย) อตฺถวเสน คมฺภีรตา สุวิเญฺญยฺยาวฯ โลกํ อุตฺตรตีติ โลกุตฺตโร, นววิโธ อปฺปมาณธโมฺมฯ โส อตฺถภูโต เอเตสํ อตฺถีติ โลกุตฺตราฯ เตนาห ‘‘โลกุตฺตรอตฺถทีปกา’’ติฯ
48. Chaṭṭhe gambhīrāti agādhā dukkhogāḷhā. Pāḷivasenāti iminā yo dhammapaṭisambhidāya visayo gambhīrabhāvo, tamāha. Dhammappaṭivedhassa hi dukkarabhāvato dhammassa pāḷiyā dukkhogāḷhatāya gambhīrabhāvo. ‘‘Pāḷivasena gambhīrā’’ti vatvā ‘‘sallasuttasadisā’’ti vuttaṃ tassa ‘‘animittamanaññāta’’ntiādinā (su. ni. 579) pāḷivasena gambhīratāya labbhanato. Tathā hi tattha tā gāthā duviññeyyarūpā tiṭṭhanti. Duviññeyyañhi ñāṇena dukkhogāḷhanti katvā ‘‘gambhīra’’nti vuccati. Pubbāparampettha kāsañci gāthānaṃ duviññeyyatāya dukkhogāḷhameva, tasmā taṃ ‘‘pāḷivasena gambhīrā’’ti vuttaṃ. Imināva nayena ‘‘atthavasena gambhīrā’’ti etthāpi attho veditabbo. Mahāvedallasuttassa (ma. ni. 1.449 ādayo) atthavasena gambhīratā suviññeyyāva. Lokaṃ uttaratīti lokuttaro, navavidho appamāṇadhammo. So atthabhūto etesaṃ atthīti lokuttarā. Tenāha ‘‘lokuttaraatthadīpakā’’ti.
สตฺตสุญฺญํ ธมฺมมตฺตเมวาติ สเตฺตน อตฺตนา สุญฺญํ เกวลํ ธมฺมมตฺตเมวฯ อุคฺคเหตพฺพํ ปริยาปุณิตพฺพนฺติ ลิงฺควจนวิปลฺลาเสน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อุคฺคเหตเพฺพ จ ปริยาปุณิตเพฺพ จา’’ติฯ กวิโน กมฺมํ กวิตาฯ ยํ ปนสฺส กมฺมํ, ตํ เตน กตนฺติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘กวิตาติ กวีหิ กตา’’ติฯ อิตรนฺติ กาเวยฺยาติ ปทํ, กาพฺยนฺติ วุตฺตํ โหติฯ กาพฺยนฺติ จ กวินา วุตฺตนฺติ อโตฺถฯ เตนาห ‘‘ตเสฺสว เววจน’’นฺติฯ วิจิตฺรอกฺขราติ วิจิตฺตาการกฺขรา วิญฺญาปนียาฯ สาสนโต พหิภูตาติ น สาสนาวจราฯ เตสํ สาวเกหีติ พุทฺธานํ สาวกาติ อปญฺญาตานํ เยสํ เกสญฺจิ สาวเกหิฯ น เจว อญฺญมญฺญํ ปฎิปุจฺฉนฺตีติ เย วาเจนฺติ, เย จ สุณนฺติ, เต อญฺญมญฺญํ อตฺถาทิํ นปฺปฎิปุจฺฉนฺติ, เกวลํ วาจนสวนมเตฺตเนว ปริตุฎฺฐา โหนฺติฯ จาริกํ น วิจรนฺตีติ อสุกสฺมิํ ฐาเน อตฺถาทิํ ชานนฺตา อตฺถีติ ปุจฺฉนตฺถาย จาริกํ น คจฺฉนฺติ ตาทิสสฺส ปุคฺคลสฺส อภาวโต ตสฺส จ ปุพฺพาปรวิโรธโตฯ กถํ โรเปตพฺพนฺติ เกน ปกาเรน นิกฺขิปิตพฺพํฯ อโตฺถ นาม สภาวโต อนุสนฺธิโต สมฺพนฺธโต ปุพฺพาปรโต อาทิปริโยสานโต จ ญาโต สมฺมาญาโต โหตีติ อาห ‘‘โก อโตฺถ’’ติอาทิฯ อนุตฺตานีกตนฺติ อกฺขรสนฺนิเวสาทินา อนุตฺตานีกตํฯ กงฺขายาติ สํสยสฺสฯ
Sattasuññaṃ dhammamattamevāti sattena attanā suññaṃ kevalaṃ dhammamattameva. Uggahetabbaṃ pariyāpuṇitabbanti liṅgavacanavipallāsena vuttanti āha ‘‘uggahetabbe ca pariyāpuṇitabbe cā’’ti. Kavino kammaṃ kavitā. Yaṃ panassa kammaṃ, taṃ tena katanti vuccatīti āha ‘‘kavitāti kavīhi katā’’ti. Itaranti kāveyyāti padaṃ, kābyanti vuttaṃ hoti. Kābyanti ca kavinā vuttanti attho. Tenāha ‘‘tasseva vevacana’’nti. Vicitraakkharāti vicittākārakkharā viññāpanīyā. Sāsanato bahibhūtāti na sāsanāvacarā. Tesaṃ sāvakehīti buddhānaṃ sāvakāti apaññātānaṃ yesaṃ kesañci sāvakehi. Na ceva aññamaññaṃ paṭipucchantīti ye vācenti, ye ca suṇanti, te aññamaññaṃ atthādiṃ nappaṭipucchanti, kevalaṃ vācanasavanamatteneva parituṭṭhā honti. Cārikaṃ na vicarantīti asukasmiṃ ṭhāne atthādiṃ jānantā atthīti pucchanatthāya cārikaṃ na gacchanti tādisassa puggalassa abhāvato tassa ca pubbāparavirodhato. Kathaṃ ropetabbanti kena pakārena nikkhipitabbaṃ. Attho nāma sabhāvato anusandhito sambandhato pubbāparato ādipariyosānato ca ñāto sammāñāto hotīti āha ‘‘ko attho’’tiādi. Anuttānīkatanti akkharasannivesādinā anuttānīkataṃ. Kaṅkhāyāti saṃsayassa.
๔๙. สตฺตเม กิเลเสหี อามสิตพฺพโต อามิสํ, จตฺตาโร ปจฺจยาฯ ตเทว ครุ ครุกาตพฺพํ เอเตสํ, น ธโมฺมติ อามิสครูฯ เตนาห ‘‘โลกุตฺตรธมฺมํ ลามกโต คเหตฺวา ฐิตปริสา’’ติฯ อุภโต ภาคโต วิมุโตฺตติ อุภโตภาควิมุโตฺตฯ ทฺวีหิ ภาเคหิ เทฺว วาเร วิมุโตฺตฯ ปญฺญาย วิมุโตฺตติ สมถสนฺนิสฺสเยน วินา อคฺคมคฺคปญฺญาย วิมุโตฺตฯ เตนาห ‘‘สุกฺขวิปสฺสกขีณาสโว’’ติ ฯ กาเยนาติ นามกาเยนฯ ฌานผสฺสํ ผุสิตฺวาติ อฎฺฐสมาปตฺติสญฺญิตํ ฌานผสฺสํ อธิคมวเสน ผุสิตฺวาฯ ปจฺฉา นิโรธํ นิพฺพานํ ยถา อาโลจิตํ นามกาเยน สจฺฉิกโรตีติ กายสกฺขีฯ น ตุ วิมุโตฺต เอกจฺจานํ อาสวานํ อปริกฺขีณตฺตาฯ ทิฎฺฐนฺตํ ปโตฺตติ ทิฎฺฐสฺส อโนฺต อนนฺตโร กาโล ทิฎฺฐโนฺต, ทสฺสนสงฺขาตสฺส โสตาปตฺติมคฺคญาณสฺส อนนฺตรํ ปโตฺตติ อโตฺถฯ ปฐมผลโต ปฎฺฐาย หิ ยาว อคฺคมคฺคา ทิฎฺฐิปฺปโตฺตฯ เตนาห ‘‘อิเม เทฺวปิ ฉสุ ฐาเนสุ ลพฺภนฺตี’’ติฯ
49. Sattame kilesehī āmasitabbato āmisaṃ, cattāro paccayā. Tadeva garu garukātabbaṃ etesaṃ, na dhammoti āmisagarū. Tenāha ‘‘lokuttaradhammaṃ lāmakato gahetvā ṭhitaparisā’’ti. Ubhato bhāgato vimuttoti ubhatobhāgavimutto. Dvīhi bhāgehi dve vāre vimutto. Paññāya vimuttoti samathasannissayena vinā aggamaggapaññāya vimutto. Tenāha ‘‘sukkhavipassakakhīṇāsavo’’ti . Kāyenāti nāmakāyena. Jhānaphassaṃ phusitvāti aṭṭhasamāpattisaññitaṃ jhānaphassaṃ adhigamavasena phusitvā. Pacchā nirodhaṃ nibbānaṃ yathā ālocitaṃ nāmakāyena sacchikarotīti kāyasakkhī. Na tu vimutto ekaccānaṃ āsavānaṃ aparikkhīṇattā. Diṭṭhantaṃ pattoti diṭṭhassa anto anantaro kālo diṭṭhanto, dassanasaṅkhātassa sotāpattimaggañāṇassa anantaraṃ pattoti attho. Paṭhamaphalato paṭṭhāya hi yāva aggamaggā diṭṭhippatto. Tenāha ‘‘ime dvepi chasu ṭhānesu labbhantī’’ti.
สทฺทหโนฺต วิมุโตฺตติ เอเตน สพฺพถา อวิมุตฺตสฺส สทฺธามเตฺตน วิมุตฺตภาวทสฺสเนน สทฺธาวิมุตฺตสฺส เสกฺขภาวเมว วิภาเวติฯ สทฺธาวิมุโตฺตติ วา สทฺธาย อวิมุโตฺตติ อโตฺถฯ ฉสุ ฐาเนสูติ ปฐมผลโต ปฎฺฐาย ฉสุ ฐาเนสุฯ ธมฺมํ อนุสฺสรตีติ ปฐมมคฺคปญฺญาสงฺขาตํ ธมฺมํ อนุสฺสรติฯ สทฺธํ อนุสฺสรตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ อุโภปิ เหเต โสตาปตฺติมคฺคฎฺฐาเยวฯ อิมํ กสฺมา คณฺหนฺตีติ เอวํ เอกนฺตปาสํเสสุ อริเยสุ คยฺหมาเนสุ อิมํ เอกนฺตนินฺทิตํ ลามกํ ทุสฺสีลํ กสฺมา คณฺหนฺติฯ สเพฺพสุ สพฺพตา สทิเสสุ ลพฺภมาโนปิ วิเสโส น ปญฺญายติ, วิสภาเค ปน สติ เอว ปญฺญายติ ปฎภาเวน วิย จิตฺตปฎสฺสาติ อาห ‘‘เอกเจฺจสุ ปนา’’ติอาทิฯ คนฺถิตาติ อวพทฺธาฯ มุจฺฉิตาติ มุจฺฉํ สโมฺมหํ อาปนฺนาฯ ฉนฺทราคอปกฑฺฒนายาติ ฉนฺทราคสฺส อปนยนตฺถํฯ นิสฺสรณปญฺญายาติ ตโต นิสฺสรณาวหาย ปญฺญาย วิรหิตาฯ
Saddahanto vimuttoti etena sabbathā avimuttassa saddhāmattena vimuttabhāvadassanena saddhāvimuttassa sekkhabhāvameva vibhāveti. Saddhāvimuttoti vā saddhāya avimuttoti attho. Chasu ṭhānesūti paṭhamaphalato paṭṭhāya chasu ṭhānesu. Dhammaṃ anussaratīti paṭhamamaggapaññāsaṅkhātaṃ dhammaṃ anussarati. Saddhaṃ anussaratīti etthāpi eseva nayo. Ubhopi hete sotāpattimaggaṭṭhāyeva. Imaṃ kasmā gaṇhantīti evaṃ ekantapāsaṃsesu ariyesu gayhamānesu imaṃ ekantaninditaṃ lāmakaṃ dussīlaṃ kasmā gaṇhanti. Sabbesu sabbatā sadisesu labbhamānopi viseso na paññāyati, visabhāge pana sati eva paññāyati paṭabhāvena viya cittapaṭassāti āha ‘‘ekaccesu panā’’tiādi. Ganthitāti avabaddhā. Mucchitāti mucchaṃ sammohaṃ āpannā. Chandarāgaapakaḍḍhanāyāti chandarāgassa apanayanatthaṃ. Nissaraṇapaññāyāti tato nissaraṇāvahāya paññāya virahitā.
ปญฺญาธุเรนาติ วิปสฺสนาภินิเวเสนฯ อภินิวิโฎฺฐติ วิปสฺสนามคฺคํ โอติโณฺณฯ ตสฺมิํ ขเณติ โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณฯ ธมฺมานุสารี นาม ปญฺญาสงฺขาเตน ธเมฺมน อริยมคฺคโสตสฺส อนุสฺสรณโตฯ กายสกฺขี นาม นามกาเยน สจฺฉิกาตพฺพสฺส นิพฺพานสฺส สจฺฉิกรณโตฯ วิกฺขมฺภนสมุเจฺฉทานํ วเสน ทฺวิกฺขตฺตุํฯ อรูปชฺฌาเนหิ รูปกายโต, อคฺคมเคฺคน เสสกายโตติ ทฺวีหิ ภาเคหิ นิสฺสกฺกวจนเญฺจตํฯ ทิฎฺฐนฺตํ ปโตฺต, ทิฎฺฐตฺตา วา ปโตฺตติ ทิฎฺฐิปฺปโตฺตฯ ตตฺถ ทิฎฺฐนฺตํ ปโตฺตติ ทสฺสนสงฺขาตสฺส โสตาปตฺติมคฺคญาณสฺส อนนฺตรํ ปโตฺตติ อโตฺถฯ ทิฎฺฐตฺตาติ จตุสจฺจทสฺสนสงฺขาตาย ปญฺญาย นิโรธสฺส ทิฎฺฐตฺตาฯ ฌานผสฺสรหิตาย สาติสยาย ปญฺญาย เอว วิมุโตฺตติ ปญฺญาวิมุโตฺตฯ เสสํ วุตฺตนยตฺตา สุวิเญฺญยฺยเมวฯ
Paññādhurenāti vipassanābhinivesena. Abhiniviṭṭhoti vipassanāmaggaṃ otiṇṇo. Tasmiṃ khaṇeti sotāpattimaggakkhaṇe. Dhammānusārī nāma paññāsaṅkhātena dhammena ariyamaggasotassa anussaraṇato. Kāyasakkhī nāma nāmakāyena sacchikātabbassa nibbānassa sacchikaraṇato. Vikkhambhanasamucchedānaṃ vasena dvikkhattuṃ. Arūpajjhānehi rūpakāyato, aggamaggena sesakāyatoti dvīhi bhāgehi nissakkavacanañcetaṃ. Diṭṭhantaṃ patto, diṭṭhattā vā pattoti diṭṭhippatto. Tattha diṭṭhantaṃ pattoti dassanasaṅkhātassa sotāpattimaggañāṇassa anantaraṃ pattoti attho. Diṭṭhattāti catusaccadassanasaṅkhātāya paññāya nirodhassa diṭṭhattā. Jhānaphassarahitāya sātisayāya paññāya eva vimuttoti paññāvimutto. Sesaṃ vuttanayattā suviññeyyameva.
๕๐. อฎฺฐเม น สมาติ วิสมาฯ กายกมฺมาทีนํ วิสมตฺตา ตโต เอว ตตฺถ ปกฺขลนํ สุลภนฺติ อาห ‘‘สปกฺขลนเฎฺฐนา’’ติฯ นิปฺปกฺขลนเฎฺฐนาติ ปกฺขลนาภาเวนฯ อุทฺธมฺมานีติ ธมฺมโต อเปตานิฯ อุพฺพินยานีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ
50. Aṭṭhame na samāti visamā. Kāyakammādīnaṃ visamattā tato eva tattha pakkhalanaṃ sulabhanti āha ‘‘sapakkhalanaṭṭhenā’’ti. Nippakkhalanaṭṭhenāti pakkhalanābhāvena. Uddhammānīti dhammato apetāni. Ubbinayānīti etthāpi eseva nayo.
๕๑. นวเม อธมฺมิกาติ อธเมฺม นิยุตฺตาฯ เตนาห ‘‘นิทฺธมฺมา’’ติ, ธมฺมรหิตาติ อโตฺถฯ
51. Navame adhammikāti adhamme niyuttā. Tenāha ‘‘niddhammā’’ti, dhammarahitāti attho.
๕๒. ทสเม คณฺหนฺตีติ ปวเตฺตนฺติฯ น เจว อญฺญมญฺญํ สญฺญาเปนฺตีติ มูลโต ปฎฺฐาย ตํ อธิกรณํ ยถา วูปสมฺมติ, เอวํ อญฺญมญฺญํ อิตรีตเร น สมฺมา ชานาเปนฺติฯ สญฺญาปนตฺถํ สนฺนิปาเต สติ ตตฺถ ยุตฺตปตฺตกรเณน สญฺญตฺติยา ภวิตพฺพํ, เต ปน สญฺญาปนตฺถํ น สนฺนิปตนฺติฯ น เปกฺขาเปนฺตีติ ตํ อธิกรณํ มูลโต ปฎฺฐาย อญฺญมญฺญํ น เปกฺขาเปนฺติฯ อสญฺญตฺติเยว อตฺตนา คหิตปกฺขสฺส พลํ เอเตสนฺติ อสญฺญตฺติพลาฯ น ตถา มเนฺตนฺตีติ สนฺทิฎฺฐิปรามาสิอาธานคฺคาหิทุปฺปฎินิสฺสคฺคิภาเวน ตถา น มเนฺตนฺติฯ เตนาห ‘‘ถามสา’’ติอาทิฯ อุตฺตานโตฺถเยว กณฺหปเกฺข วุตฺตปฺปฎิปเกฺขน คเหตพฺพตฺตาฯ
52. Dasame gaṇhantīti pavattenti. Na ceva aññamaññaṃ saññāpentīti mūlato paṭṭhāya taṃ adhikaraṇaṃ yathā vūpasammati, evaṃ aññamaññaṃ itarītare na sammā jānāpenti. Saññāpanatthaṃ sannipāte sati tattha yuttapattakaraṇena saññattiyā bhavitabbaṃ, te pana saññāpanatthaṃ na sannipatanti. Na pekkhāpentīti taṃ adhikaraṇaṃ mūlato paṭṭhāya aññamaññaṃ na pekkhāpenti. Asaññattiyeva attanā gahitapakkhassa balaṃ etesanti asaññattibalā. Na tathā mantentīti sandiṭṭhiparāmāsiādhānaggāhiduppaṭinissaggibhāvena tathā na mantenti. Tenāha ‘‘thāmasā’’tiādi. Uttānatthoyeva kaṇhapakkhe vuttappaṭipakkhena gahetabbattā.
ปริสวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Parisavaggavaṇṇanā niṭṭhitā.
ปฐมปณฺณาสกํ นิฎฺฐิตํฯ
Paṭhamapaṇṇāsakaṃ niṭṭhitaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๕. ปริสวโคฺค • 5. Parisavaggo
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๕. ปริสวคฺควณฺณนา • 5. Parisavaggavaṇṇanā