Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๕. ปริสวโคฺค
5. Parisavaggo
๔๓. ‘‘เทฺวมา , ภิกฺขเว, ปริสาฯ กตมา เทฺว? อุตฺตานา จ ปริสา คมฺภีรา จ ปริสาฯ กตมา จ, ภิกฺขเว, อุตฺตานา ปริสา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู อุทฺธตา โหนฺติ อุนฺนฬา จปลา มุขรา วิกิณฺณวาจา มุฎฺฐสฺสตี อสมฺปชานา อสมาหิตา วิพฺภนฺตจิตฺตา ปากตินฺทฺริยาฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อุตฺตานา ปริสาฯ
43. ‘‘Dvemā , bhikkhave, parisā. Katamā dve? Uttānā ca parisā gambhīrā ca parisā. Katamā ca, bhikkhave, uttānā parisā? Idha, bhikkhave, yassaṃ parisāyaṃ bhikkhū uddhatā honti unnaḷā capalā mukharā vikiṇṇavācā muṭṭhassatī asampajānā asamāhitā vibbhantacittā pākatindriyā. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, uttānā parisā.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, คมฺภีรา ปริสา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู อนุทฺธตา โหนฺติ อนุนฺนฬา อจปลา อมุขรา อวิกิณฺณวาจา อุปฎฺฐิตสฺสตี สมฺปชานา สมาหิตา เอกคฺคจิตฺตา สํวุตินฺทฺริยาฯ อยํ วุจฺจติ , ภิกฺขเว, คมฺภีรา ปริสาฯ อิมา โข, ภิกฺขเว, เทฺว ปริสาฯ เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ ปริสานํ ยทิทํ คมฺภีรา ปริสา’’ติฯ
‘‘Katamā ca, bhikkhave, gambhīrā parisā? Idha, bhikkhave, yassaṃ parisāyaṃ bhikkhū anuddhatā honti anunnaḷā acapalā amukharā avikiṇṇavācā upaṭṭhitassatī sampajānā samāhitā ekaggacittā saṃvutindriyā. Ayaṃ vuccati , bhikkhave, gambhīrā parisā. Imā kho, bhikkhave, dve parisā. Etadaggaṃ, bhikkhave, imāsaṃ dvinnaṃ parisānaṃ yadidaṃ gambhīrā parisā’’ti.
๔๔. ‘‘เทฺวมา, ภิกฺขเว, ปริสาฯ กตมา เทฺว? วคฺคา จ ปริสา สมคฺคา จ ปริสาฯ กตมา จ, ภิกฺขเว, วคฺคา ปริสา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อญฺญมญฺญํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, วคฺคา ปริสาฯ
44. ‘‘Dvemā, bhikkhave, parisā. Katamā dve? Vaggā ca parisā samaggā ca parisā. Katamā ca, bhikkhave, vaggā parisā? Idha, bhikkhave, yassaṃ parisāyaṃ bhikkhū bhaṇḍanajātā kalahajātā vivādāpannā aññamaññaṃ mukhasattīhi vitudantā viharanti. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, vaggā parisā.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สมคฺคา ปริสา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู สมคฺคา สโมฺมทมานา อวิวทมานา ขีโรทกีภูตา อญฺญมญฺญํ ปิยจกฺขูหิ สมฺปสฺสนฺตา วิหรนฺติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมคฺคา ปริสาฯ อิมา โข, ภิกฺขเว, เทฺว ปริสาฯ เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ ปริสานํ ยทิทํ สมคฺคา ปริสา’’ติฯ
‘‘Katamā ca, bhikkhave, samaggā parisā? Idha, bhikkhave, yassaṃ parisāyaṃ bhikkhū samaggā sammodamānā avivadamānā khīrodakībhūtā aññamaññaṃ piyacakkhūhi sampassantā viharanti. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, samaggā parisā. Imā kho, bhikkhave, dve parisā. Etadaggaṃ, bhikkhave, imāsaṃ dvinnaṃ parisānaṃ yadidaṃ samaggā parisā’’ti.
๔๕. ‘‘เทฺวมา, ภิกฺขเว, ปริสาฯ กตมา เทฺว? อนคฺควตี จ ปริสา อคฺควตี จ ปริสาฯ กตมา จ, ภิกฺขเว, อนคฺควตี ปริสา? อิธ , ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ เถรา ภิกฺขู พาหุลิกา 1 โหนฺติ สาถลิกา, โอกฺกมเน ปุพฺพงฺคมา, ปวิเวเก นิกฺขิตฺตธุรา, น วีริยํ อารภนฺติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายฯ เตสํ ปจฺฉิมา ชนตา ทิฎฺฐานุคติํ อาปชฺชติฯ สาปิ โหติ พาหุลิกา สาถลิกา, โอกฺกมเน ปุพฺพงฺคมา, ปวิเวเก นิกฺขิตฺตธุรา, น วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนคฺควตี ปริสาฯ
45. ‘‘Dvemā, bhikkhave, parisā. Katamā dve? Anaggavatī ca parisā aggavatī ca parisā. Katamā ca, bhikkhave, anaggavatī parisā? Idha , bhikkhave, yassaṃ parisāyaṃ therā bhikkhū bāhulikā 2 honti sāthalikā, okkamane pubbaṅgamā, paviveke nikkhittadhurā, na vīriyaṃ ārabhanti appattassa pattiyā anadhigatassa adhigamāya asacchikatassa sacchikiriyāya. Tesaṃ pacchimā janatā diṭṭhānugatiṃ āpajjati. Sāpi hoti bāhulikā sāthalikā, okkamane pubbaṅgamā, paviveke nikkhittadhurā, na vīriyaṃ ārabhati appattassa pattiyā anadhigatassa adhigamāya asacchikatassa sacchikiriyāya. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, anaggavatī parisā.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, อคฺควตี ปริสา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ เถรา ภิกฺขู น พาหุลิกา โหนฺติ น สาถลิกา, โอกฺกมเน นิกฺขิตฺตธุรา, ปวิเวเก ปุพฺพงฺคมา, วีริยํ อารภนฺติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายฯ เตสํ ปจฺฉิมา ชนตา ทิฎฺฐานุคติํ อาปชฺชติฯ สาปิ โหติ น พาหุลิกา น สาถลิกา, โอกฺกมเน นิกฺขิตฺตธุรา, ปวิเวเก ปุพฺพงฺคมา, วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อคฺควตี ปริสาฯ อิมา โข, ภิกฺขเว, เทฺว ปริสาฯ เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ ปริสานํ ยทิทํ อคฺควตี ปริสา’’ติฯ
‘‘Katamā ca, bhikkhave, aggavatī parisā? Idha, bhikkhave, yassaṃ parisāyaṃ therā bhikkhū na bāhulikā honti na sāthalikā, okkamane nikkhittadhurā, paviveke pubbaṅgamā, vīriyaṃ ārabhanti appattassa pattiyā anadhigatassa adhigamāya asacchikatassa sacchikiriyāya. Tesaṃ pacchimā janatā diṭṭhānugatiṃ āpajjati. Sāpi hoti na bāhulikā na sāthalikā, okkamane nikkhittadhurā, paviveke pubbaṅgamā, vīriyaṃ ārabhati appattassa pattiyā anadhigatassa adhigamāya asacchikatassa sacchikiriyāya. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, aggavatī parisā. Imā kho, bhikkhave, dve parisā. Etadaggaṃ, bhikkhave, imāsaṃ dvinnaṃ parisānaṃ yadidaṃ aggavatī parisā’’ti.
๔๖. ‘‘เทฺวมา, ภิกฺขเว, ปริสาฯ กตมา เทฺว? อนริยา จ ปริสา อริยา จ ปริสาฯ กตมา จ, ภิกฺขเว, อนริยา ปริสา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ , ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนริยา ปริสาฯ
46. ‘‘Dvemā, bhikkhave, parisā. Katamā dve? Anariyā ca parisā ariyā ca parisā. Katamā ca, bhikkhave, anariyā parisā? Idha, bhikkhave, yassaṃ parisāyaṃ bhikkhū ‘idaṃ dukkha’nti yathābhūtaṃ nappajānanti, ‘ayaṃ dukkhasamudayo’ti yathābhūtaṃ nappajānanti, ‘ayaṃ dukkhanirodho’ti yathābhūtaṃ nappajānanti , ‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’ti yathābhūtaṃ nappajānanti. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, anariyā parisā.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, อริยา ปริสา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานนฺติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานนฺติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานนฺตฺนฺตฺติ , ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานนฺติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อริยา ปริสาฯ อิมา โข, ภิกฺขเว, เทฺว ปริสาฯ เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ ปริสานํ ยทิทํ อริยา ปริสา’’ติฯ
‘‘Katamā ca, bhikkhave, ariyā parisā? Idha, bhikkhave, yassaṃ parisāyaṃ bhikkhū ‘idaṃ dukkha’nti yathābhūtaṃ pajānanti, ‘ayaṃ dukkhasamudayo’ti yathābhūtaṃ pajānanti, ‘ayaṃ dukkhanirodho’ti yathābhūtaṃ pajānantntti , ‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’ti yathābhūtaṃ pajānanti. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, ariyā parisā. Imā kho, bhikkhave, dve parisā. Etadaggaṃ, bhikkhave, imāsaṃ dvinnaṃ parisānaṃ yadidaṃ ariyā parisā’’ti.
๔๗. ‘‘เทฺวมา, ภิกฺขเว, ปริสาฯ กตมา เทฺว? ปริสากสโฎ จ ปริสามโณฺฑ จฯ กตโม จ, ภิกฺขเว, ปริสากสโฎ? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู ฉนฺทาคติํ คจฺฉนฺติ, โทสาคติํ คจฺฉนฺติ, โมหาคติํ คจฺฉนฺติ, ภยาคติํ คจฺฉนฺติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปริสากสโฎฯ
47. ‘‘Dvemā, bhikkhave, parisā. Katamā dve? Parisākasaṭo ca parisāmaṇḍo ca. Katamo ca, bhikkhave, parisākasaṭo? Idha, bhikkhave, yassaṃ parisāyaṃ bhikkhū chandāgatiṃ gacchanti, dosāgatiṃ gacchanti, mohāgatiṃ gacchanti, bhayāgatiṃ gacchanti. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, parisākasaṭo.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปริสามโณฺฑ? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู น ฉนฺทาคติํ คจฺฉนฺติ, น โทสาคติํ คจฺฉนฺติ, น โมหาคติํ คจฺฉนฺติ, น ภยาคติํ คจฺฉนฺติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปริสามโณฺฑฯ อิมา โข, ภิกฺขเว, เทฺว ปริสาฯ เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ ปริสานํ ยทิทํ ปริสามโณฺฑ’’ติฯ
‘‘Katamo ca, bhikkhave, parisāmaṇḍo? Idha, bhikkhave, yassaṃ parisāyaṃ bhikkhū na chandāgatiṃ gacchanti, na dosāgatiṃ gacchanti, na mohāgatiṃ gacchanti, na bhayāgatiṃ gacchanti. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, parisāmaṇḍo. Imā kho, bhikkhave, dve parisā. Etadaggaṃ, bhikkhave, imāsaṃ dvinnaṃ parisānaṃ yadidaṃ parisāmaṇḍo’’ti.
๔๘. ‘‘เทฺวมา, ภิกฺขเว, ปริสาฯ กตมา เทฺว? โอกฺกาจิตวินีตา ปริสา โนปฎิปุจฺฉาวินีตา, ปฎิปุจฺฉาวินีตา ปริสา โนโอกฺกาจิตวินีตาฯ กตมา จ, ภิกฺขเว, โอกฺกาจิตวินีตา ปริสา โนปฎิปุจฺฉาวินีตา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู เย เต สุตฺตนฺตา ตถาคตภาสิตา คมฺภีรา คมฺภีรตฺถา โลกุตฺตรา สุญฺญตาปฎิสํยุตฺตา เตสุ ภญฺญมาเนสุ น สุสฺสูสนฺติ น โสตํ โอทหนฺติ น อญฺญา จิตฺตํ อุปฎฺฐเปนฺติ น จ เต ธเมฺม อุคฺคเหตพฺพํ ปริยาปุณิตพฺพํ มญฺญนฺติฯ เย ปน เต สุตฺตนฺตา กวิตา 3 กาเวยฺยา จิตฺตกฺขรา จิตฺตพฺยญฺชนา พาหิรกา สาวกภาสิตา เตสุ ภญฺญมาเนสุ สุสฺสูสนฺติ โสตํ โอทหนฺติ อญฺญา จิตฺตํ อุปฎฺฐเปนฺติ, เต ธเมฺม อุคฺคเหตพฺพํ ปริยาปุณิตพฺพํ มญฺญนฺติ, เต จ ตํ ธมฺมํ ปริยาปุณิตฺวา น เจว อญฺญมญฺญํ ปฎิปุจฺฉนฺติ น จ ปฎิวิจรนฺติ – ‘อิทํ กถํ, อิมสฺส โก อโตฺถ’ติ? เต อวิวฎเญฺจว น วิวรนฺติ, อนุตฺตานีกตญฺจ น อุตฺตานีกโรนฺติ, อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาฐานิเยสุ ธเมฺมสุ กงฺขํ น ปฎิวิโนเทนฺติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, โอกฺกาจิตวินีตา ปริสา โน ปฎิปุจฺฉาวินีตาฯ
48. ‘‘Dvemā, bhikkhave, parisā. Katamā dve? Okkācitavinītā parisā nopaṭipucchāvinītā, paṭipucchāvinītā parisā nookkācitavinītā. Katamā ca, bhikkhave, okkācitavinītā parisā nopaṭipucchāvinītā? Idha, bhikkhave, yassaṃ parisāyaṃ bhikkhū ye te suttantā tathāgatabhāsitā gambhīrā gambhīratthā lokuttarā suññatāpaṭisaṃyuttā tesu bhaññamānesu na sussūsanti na sotaṃ odahanti na aññā cittaṃ upaṭṭhapenti na ca te dhamme uggahetabbaṃ pariyāpuṇitabbaṃ maññanti. Ye pana te suttantā kavitā 4 kāveyyā cittakkharā cittabyañjanā bāhirakā sāvakabhāsitā tesu bhaññamānesu sussūsanti sotaṃ odahanti aññā cittaṃ upaṭṭhapenti, te dhamme uggahetabbaṃ pariyāpuṇitabbaṃ maññanti, te ca taṃ dhammaṃ pariyāpuṇitvā na ceva aññamaññaṃ paṭipucchanti na ca paṭivicaranti – ‘idaṃ kathaṃ, imassa ko attho’ti? Te avivaṭañceva na vivaranti, anuttānīkatañca na uttānīkaronti, anekavihitesu ca kaṅkhāṭhāniyesu dhammesu kaṅkhaṃ na paṭivinodenti. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, okkācitavinītā parisā no paṭipucchāvinītā.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, ปฎิปุจฺฉาวินีตา ปริสา โนโอกฺกาจิตวินีตา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู เย เต สุตฺตนฺตา กวิตา กาเวยฺยา จิตฺตกฺขรา จิตฺตพฺยญฺชนา พาหิรกา สาวกภาสิตา เตสุ ภญฺญมาเนสุ น สุสฺสูสนฺติ น โสตํ โอทหนฺติ น อญฺญา จิตฺตํ อุปฎฺฐเปนฺติ, น จ เต ธเมฺม อุคฺคเหตพฺพํ ปริยาปุณิตพฺพํ มญฺญนฺติฯ เย ปน เต สุตฺตนฺตา ตถาคตภาสิตา คมฺภีรา คมฺภีรตฺถา โลกุตฺตรา สุญฺญตาปฎิสํยุตฺตา เตสุ ภญฺญมาเนสุ สุสฺสูสนฺติ โสตํ โอทหนฺติ อญฺญา จิตฺตํ อุปฎฺฐเปนฺติ, เต จ ธเมฺม อุคฺคเหตพฺพํ ปริยาปุณิตพฺพํ มญฺญนฺติฯ เต ตํ ธมฺมํ ปริยาปุณิตฺวา อญฺญมญฺญํ ปฎิปุจฺฉนฺติ ปฎิวิจรนฺติ – ‘อิทํ กถํ, อิมสฺส โก อโตฺถ’ติ? เต อวิวฎเญฺจว วิวรนฺติ, อนุตฺตานีกตญฺจ อุตฺตานีกโรนฺติ, อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาฐานิเยสุ ธเมฺมสุ กงฺขํ ปฎิวิโนเทนฺติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฎิปุจฺฉาวินีตา ปริสา โนโอกฺกาจิตวินีตาฯ อิมา โข, ภิกฺขเว, เทฺว ปริสาฯ เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ ปริสานํ ยทิทํ ปฎิปุจฺฉาวินีตา ปริสา โนโอกฺกาจิตวินีตา’’ติฯ
‘‘Katamā ca, bhikkhave, paṭipucchāvinītā parisā nookkācitavinītā? Idha, bhikkhave, yassaṃ parisāyaṃ bhikkhū ye te suttantā kavitā kāveyyā cittakkharā cittabyañjanā bāhirakā sāvakabhāsitā tesu bhaññamānesu na sussūsanti na sotaṃ odahanti na aññā cittaṃ upaṭṭhapenti, na ca te dhamme uggahetabbaṃ pariyāpuṇitabbaṃ maññanti. Ye pana te suttantā tathāgatabhāsitā gambhīrā gambhīratthā lokuttarā suññatāpaṭisaṃyuttā tesu bhaññamānesu sussūsanti sotaṃ odahanti aññā cittaṃ upaṭṭhapenti, te ca dhamme uggahetabbaṃ pariyāpuṇitabbaṃ maññanti. Te taṃ dhammaṃ pariyāpuṇitvā aññamaññaṃ paṭipucchanti paṭivicaranti – ‘idaṃ kathaṃ, imassa ko attho’ti? Te avivaṭañceva vivaranti, anuttānīkatañca uttānīkaronti, anekavihitesu ca kaṅkhāṭhāniyesu dhammesu kaṅkhaṃ paṭivinodenti. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, paṭipucchāvinītā parisā nookkācitavinītā. Imā kho, bhikkhave, dve parisā. Etadaggaṃ, bhikkhave, imāsaṃ dvinnaṃ parisānaṃ yadidaṃ paṭipucchāvinītā parisā nookkācitavinītā’’ti.
๔๙. ‘‘เทฺวมา, ภิกฺขเว, ปริสาฯ กตมา เทฺว? อามิสครุ ปริสา โน สทฺธมฺมครุ, สทฺธมฺมครุ ปริสา โน อามิสครุฯ กตมา จ, ภิกฺขเว, อามิสครุ ปริสา โน สทฺธมฺมครุ? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู คิหีนํ โอทาตวสนานํ สมฺมุขา อญฺญมญฺญสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ – ‘อสุโก ภิกฺขุ อุภโตภาควิมุโตฺต, อสุโก ปญฺญาวิมุโตฺต , อสุโก กายสกฺขี , อสุโก ทิฎฺฐิปฺปโตฺต, อสุโก สทฺธาวิมุโตฺต, อสุโก ธมฺมานุสารี, อสุโก สทฺธานุสารี, อสุโก สีลวา กลฺยาณธโมฺม, อสุโก ทุสฺสีโล ปาปธโมฺม’ติฯ เต เตน ลาภํ ลภนฺติฯ เต ตํ ลาภํ ลภิตฺวา คถิตา 5 มุจฺฉิตา อโชฺฌปนฺนา 6 อนาทีนวทสฺสาวิโน อนิสฺสรณปญฺญา ปริภุญฺชนฺติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อามิสครุ ปริสา โน สทฺธมฺมครุฯ
49. ‘‘Dvemā, bhikkhave, parisā. Katamā dve? Āmisagaru parisā no saddhammagaru, saddhammagaru parisā no āmisagaru. Katamā ca, bhikkhave, āmisagaru parisā no saddhammagaru? Idha, bhikkhave, yassaṃ parisāyaṃ bhikkhū gihīnaṃ odātavasanānaṃ sammukhā aññamaññassa vaṇṇaṃ bhāsanti – ‘asuko bhikkhu ubhatobhāgavimutto, asuko paññāvimutto , asuko kāyasakkhī , asuko diṭṭhippatto, asuko saddhāvimutto, asuko dhammānusārī, asuko saddhānusārī, asuko sīlavā kalyāṇadhammo, asuko dussīlo pāpadhammo’ti. Te tena lābhaṃ labhanti. Te taṃ lābhaṃ labhitvā gathitā 7 mucchitā ajjhopannā 8 anādīnavadassāvino anissaraṇapaññā paribhuñjanti. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, āmisagaru parisā no saddhammagaru.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สทฺธมฺมครุ ปริสา โนอามิสครุ? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู คิหีนํ โอทาตวสนานํ สมฺมุขา อญฺญมญฺญสฺส วณฺณํ น ภาสนฺติ – ‘อสุโก ภิกฺขุ อุภโตภาควิมุโตฺต, อสุโก ปญฺญาวิมุโตฺต, อสุโก กายสกฺขี, อสุโก ทิฎฺฐิปฺปโตฺต, อสุโก สทฺธาวิมุโตฺต, อสุโก ธมฺมานุสฺสารี, อสุโก สทฺธานุสารี, อสุโก สีลวา กลฺยาณธโมฺม, อสุโก ทุสฺสีโล ปาปธโมฺม’ติฯ เต เตน ลาภํ ลภนฺติฯ เต ตํ ลาภํ ลภิตฺวา อคถิตา อมุจฺฉิตา อนโชฺฌสนฺนา อาทีนวทสฺสาวิโน นิสฺสรณปญฺญา ปริภุญฺชนฺติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สทฺธมฺมครุ ปริสา โนอามิสครุฯ อิมา โข, ภิกฺขเว, เทฺว ปริสาฯ เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ ปริสานํ ยทิทํ สทฺธมฺมครุ ปริสา โนอามิสครู’’ติฯ
‘‘Katamā ca, bhikkhave, saddhammagaru parisā noāmisagaru? Idha, bhikkhave, yassaṃ parisāyaṃ bhikkhū gihīnaṃ odātavasanānaṃ sammukhā aññamaññassa vaṇṇaṃ na bhāsanti – ‘asuko bhikkhu ubhatobhāgavimutto, asuko paññāvimutto, asuko kāyasakkhī, asuko diṭṭhippatto, asuko saddhāvimutto, asuko dhammānussārī, asuko saddhānusārī, asuko sīlavā kalyāṇadhammo, asuko dussīlo pāpadhammo’ti. Te tena lābhaṃ labhanti. Te taṃ lābhaṃ labhitvā agathitā amucchitā anajjhosannā ādīnavadassāvino nissaraṇapaññā paribhuñjanti. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, saddhammagaru parisā noāmisagaru. Imā kho, bhikkhave, dve parisā. Etadaggaṃ, bhikkhave, imāsaṃ dvinnaṃ parisānaṃ yadidaṃ saddhammagaru parisā noāmisagarū’’ti.
๕๐. ‘‘เทฺวมา, ภิกฺขเว, ปริสาฯ กตมา เทฺว? วิสมา จ ปริสา สมา จ ปริสาฯ กตมา จ, ภิกฺขเว, วิสมา ปริสา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ อธมฺมกมฺมานิ ปวตฺตนฺติ ธมฺมกมฺมานิ นปฺปวตฺตนฺติ , อวินยกมฺมานิ ปวตฺตนฺติ วินยกมฺมานิ นปฺปวตฺตนฺติ, อธมฺมกมฺมานิ ทิปฺปนฺติ ธมฺมกมฺมานิ น ทิปฺปนฺติ, อวินยกมฺมานิ ทิปฺปนฺติ วินยกมฺมานิ น ทิปฺปนฺติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, วิสมา ปริสาฯ ( ) 9
50. ‘‘Dvemā, bhikkhave, parisā. Katamā dve? Visamā ca parisā samā ca parisā. Katamā ca, bhikkhave, visamā parisā? Idha, bhikkhave, yassaṃ parisāyaṃ adhammakammāni pavattanti dhammakammāni nappavattanti , avinayakammāni pavattanti vinayakammāni nappavattanti, adhammakammāni dippanti dhammakammāni na dippanti, avinayakammāni dippanti vinayakammāni na dippanti. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, visamā parisā. ( ) 10
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สมา ปริสา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ธมฺมกมฺมานิ ปวตฺตนฺติ อธมฺมกมฺมานิ นปฺปวตฺตนฺติ, วินยกมฺมานิ ปวตฺตนฺติ อวินยกมฺมานิ นปฺปวตฺตนฺติ, ธมฺมกมฺมานิ ทิปฺปนฺติ อธมฺมกมฺมานิ น ทิปฺปนฺติ, วินยกมฺมานิ ทิปฺปนฺติ อวินยกมฺมานิ น ทิปฺปนฺติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมา ปริสาฯ ( ) 11 อิมา โข, ภิกฺขเว, เทฺว ปริสาฯ เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ ปริสานํ ยทิทํ สมา ปริสา’’ติฯ
‘‘Katamā ca, bhikkhave, samā parisā? Idha, bhikkhave, yassaṃ parisāyaṃ dhammakammāni pavattanti adhammakammāni nappavattanti, vinayakammāni pavattanti avinayakammāni nappavattanti, dhammakammāni dippanti adhammakammāni na dippanti, vinayakammāni dippanti avinayakammāni na dippanti. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, samā parisā. ( ) 12 Imā kho, bhikkhave, dve parisā. Etadaggaṃ, bhikkhave, imāsaṃ dvinnaṃ parisānaṃ yadidaṃ samā parisā’’ti.
๕๑. ‘‘เทฺวมา, ภิกฺขเว, ปริสาฯ กตมา เทฺว? อธมฺมิกา จ ปริสา ธมฺมิกา จ ปริสา…เป.… อิมา โข, ภิกฺขเว, เทฺว ปริสาฯ เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ ปริสานํ ยทิทํ ธมฺมิกา ปริสา’’ติฯ
51. ‘‘Dvemā, bhikkhave, parisā. Katamā dve? Adhammikā ca parisā dhammikā ca parisā…pe… imā kho, bhikkhave, dve parisā. Etadaggaṃ, bhikkhave, imāsaṃ dvinnaṃ parisānaṃ yadidaṃ dhammikā parisā’’ti.
๕๒. ‘‘เทฺวมา, ภิกฺขเว, ปริสาฯ กตมา เทฺว? อธมฺมวาทินี จ ปริสา ธมฺมวาทินี จ ปริสาฯ กตมา จ, ภิกฺขเว, อธมฺมวาทินี ปริสา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู อธิกรณํ อาทิยนฺติ ธมฺมิกํ วา อธมฺมิกํ วาฯ เต ตํ อธิกรณํ อาทิยิตฺวา น เจว อญฺญมญฺญํ สญฺญาเปนฺติ น จ สญฺญตฺติํ อุปคจฺฉนฺติ, น จ นิชฺฌาเปนฺติ น จ นิชฺฌตฺติํ อุปคจฺฉนฺติฯ เต อสญฺญตฺติพลา อนิชฺฌตฺติพลา อปฺปฎินิสฺสคฺคมนฺติโน ตเมว อธิกรณํ ถามสา ปรามาสา 13 อภินิวิสฺส โวหรนฺติ – ‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญ’นฺติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อธมฺมวาทินี ปริสาฯ
52. ‘‘Dvemā, bhikkhave, parisā. Katamā dve? Adhammavādinī ca parisā dhammavādinī ca parisā. Katamā ca, bhikkhave, adhammavādinī parisā? Idha, bhikkhave, yassaṃ parisāyaṃ bhikkhū adhikaraṇaṃ ādiyanti dhammikaṃ vā adhammikaṃ vā. Te taṃ adhikaraṇaṃ ādiyitvā na ceva aññamaññaṃ saññāpenti na ca saññattiṃ upagacchanti, na ca nijjhāpenti na ca nijjhattiṃ upagacchanti. Te asaññattibalā anijjhattibalā appaṭinissaggamantino tameva adhikaraṇaṃ thāmasā parāmāsā 14 abhinivissa voharanti – ‘idameva saccaṃ moghamañña’nti. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, adhammavādinī parisā.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, ธมฺมวาทินี ปริสา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู อธิกรณํ อาทิยนฺติ ธมฺมิกํ วา อธมฺมิกํ วาฯ เต ตํ อธิกรณํ อาทิยิตฺวา อญฺญมญฺญํ สญฺญาเปนฺติ เจว สญฺญตฺติญฺจ อุปคจฺฉนฺติ, นิชฺฌาเปนฺติ เจว นิชฺฌตฺติญฺจ อุปคจฺฉนฺติฯ เต สญฺญตฺติพลา นิชฺฌตฺติพลา ปฎินิสฺสคฺคมนฺติโน, น ตเมว อธิกรณํ ถามสา ปรามาสา อภินิวิสฺส โวหรนฺติ – ‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญ’นฺติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ธมฺมวาทินี ปริสาฯ อิมา โข, ภิกฺขเว, เทฺว ปริสาฯ เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ ปริสานํ ยทิทํ ธมฺมวาทินี ปริสา’’ติฯ
‘‘Katamā ca, bhikkhave, dhammavādinī parisā? Idha, bhikkhave, yassaṃ parisāyaṃ bhikkhū adhikaraṇaṃ ādiyanti dhammikaṃ vā adhammikaṃ vā. Te taṃ adhikaraṇaṃ ādiyitvā aññamaññaṃ saññāpenti ceva saññattiñca upagacchanti, nijjhāpenti ceva nijjhattiñca upagacchanti. Te saññattibalā nijjhattibalā paṭinissaggamantino, na tameva adhikaraṇaṃ thāmasā parāmāsā abhinivissa voharanti – ‘idameva saccaṃ moghamañña’nti. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, dhammavādinī parisā. Imā kho, bhikkhave, dve parisā. Etadaggaṃ, bhikkhave, imāsaṃ dvinnaṃ parisānaṃ yadidaṃ dhammavādinī parisā’’ti.
ปริสวโคฺค ปญฺจโมฯ
Parisavaggo pañcamo.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
อุตฺตานา วคฺคา อคฺควตี, อริยา กสโฎ จ ปญฺจโม;
Uttānā vaggā aggavatī, ariyā kasaṭo ca pañcamo;
โอกฺกาจิตอามิสเญฺจว, วิสมา อธมฺมาธมฺมิเยน จาติฯ
Okkācitaāmisañceva, visamā adhammādhammiyena cāti.
ปฐโม ปณฺณาสโก สมโตฺตฯ
Paṭhamo paṇṇāsako samatto.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๕. ปริสวคฺควณฺณนา • 5. Parisavaggavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๕. ปริสวคฺควณฺณนา • 5. Parisavaggavaṇṇanā