Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi |
๒. ปริวาสกถา
2. Parivāsakathā
๑๐๒. ตสฺสาติ ปฎิจฺฉนฺนมานตฺตสฺสฯ สโมธาเนตฺวาติ อิเธว ปริวาสกถายํ สโมธาเนตฺวาฯ อิเธว ปริวาสกถายํ ทสฺสยิสฺสามาติ โยชนาฯ อิเธวสโทฺท หิ ปุพฺพาปราเปโกฺขฯ
102.Tassāti paṭicchannamānattassa. Samodhānetvāti idheva parivāsakathāyaṃ samodhānetvā. Idheva parivāsakathāyaṃ dassayissāmāti yojanā. Idhevasaddo hi pubbāparāpekkho.
อิธ อธิเปฺปตํ ปริวาสํ วิตฺถาเรตฺวา ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อยํ หี’’ติอาทิฯ อิธ อธิเปฺปโต ปริวาโส นาม ติวิโธ โหตีติ โยชนาฯ ตตฺถาติ ติวิเธสุ ปริวาเสสุฯ ‘‘ยถาปฎิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา’’ติ วจนํ วิตฺถาเรโนฺต อาห ‘‘กสฺสจิ หี’’ติอาทิฯ ยถา อุทายิเตฺถรสฺส เอกาหปฎิจฺฉนฺนา อยํ อาปตฺติ โหติ, ตถา กสฺสจิ เอกาหปฎิจฺฉนฺนา อาปตฺติ โหตีติ โยชนาฯ ยถา จ ปรโต อาคตา อุทายิเตฺถรเสฺสว อาปตฺติ โหติ, ตถา กสฺสจิ ทฺวิหาทิปฎิจฺฉนฺนา อาปตฺติ โหตีติ โยชนาฯ อิมินา วุตฺตนยานุสาเรน ปรโตปิ นโย เนตโพฺพฯ ตสฺมาติ ยสฺมา เอกาหาทิปฎิจฺฉนฺนา เอกาทิอาปตฺติ โหติ, ตสฺมา ชานิตโพฺพติ โยชนาฯ
Idha adhippetaṃ parivāsaṃ vitthāretvā dassento āha ‘‘ayaṃ hī’’tiādi. Idha adhippeto parivāso nāma tividho hotīti yojanā. Tatthāti tividhesu parivāsesu. ‘‘Yathāpaṭicchannāya āpattiyā’’ti vacanaṃ vitthārento āha ‘‘kassaci hī’’tiādi. Yathā udāyittherassa ekāhapaṭicchannā ayaṃ āpatti hoti, tathā kassaci ekāhapaṭicchannā āpatti hotīti yojanā. Yathā ca parato āgatā udāyittherasseva āpatti hoti, tathā kassaci dvihādipaṭicchannā āpatti hotīti yojanā. Iminā vuttanayānusārena paratopi nayo netabbo. Tasmāti yasmā ekāhādipaṭicchannā ekādiāpatti hoti, tasmā jānitabboti yojanā.
ปฎิจฺฉนฺนภาวํ วิตฺถาเรโนฺต อาห ‘‘อยํ หี’’ติอาทิฯ ตตฺถาติ ‘‘ทสหากาเรหี’’ติ ปาเฐฯ อาปตฺติอิติ สญฺญา เอตสฺสาติ อาปตฺติสญฺญี ฯ ปหุ จาติ สมโตฺถ จฯ ปปุโพฺพ หูธาตุ สมตฺถเตฺถ โหติฯ
Paṭicchannabhāvaṃ vitthārento āha ‘‘ayaṃ hī’’tiādi. Tatthāti ‘‘dasahākārehī’’ti pāṭhe. Āpattiiti saññā etassāti āpattisaññī. Pahu cāti samattho ca. Papubbo hūdhātu samatthatthe hoti.
ตตฺถาติ ตสฺสํ มาติกายํฯ ยนฺติ อาปตฺติํฯ โสปิ จาติ ภิกฺขุปิ จฯ ตตฺถาติ ตสฺสํ อาปตฺติยํฯ อยนฺติ ภิกฺขุฯ ตตฺถาติ อาปตฺติยํฯ อลชฺชิปเกฺข ติฎฺฐตีติ ‘‘สญฺจิจฺจ อาปตฺติํ ปริคูหตี’’ติ (ปริ. ๓๕๙) วุตฺตปเกฺข ฐิตตฺตา อลชฺชิปเกฺข ติฎฺฐติฯ
Tatthāti tassaṃ mātikāyaṃ. Yanti āpattiṃ. Sopi cāti bhikkhupi ca. Tatthāti tassaṃ āpattiyaṃ. Ayanti bhikkhu. Tatthāti āpattiyaṃ. Alajjipakkhe tiṭṭhatīti ‘‘sañcicca āpattiṃ parigūhatī’’ti (pari. 359) vuttapakkhe ṭhitattā alajjipakkhe tiṭṭhati.
ปกตโตฺตติ เอตฺถ ‘‘ปาราชิกํ อนชฺฌาปโนฺน’’ติ อตฺถํ ปฎิกฺขิปโนฺต อาห ‘‘ติวิธํ อุเกฺขปนียกมฺมํ อกโต’’ติฯ เอตนฺติ อปฺปฎิจฺฉนฺนภาวํ, ‘‘อาปชฺชติ…เป.… กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ วจนํ วาฯ
Pakatattoti ettha ‘‘pārājikaṃ anajjhāpanno’’ti atthaṃ paṭikkhipanto āha ‘‘tividhaṃ ukkhepanīyakammaṃ akato’’ti. Etanti appaṭicchannabhāvaṃ, ‘‘āpajjati…pe… kusalehi cintitā’’ti vacanaṃ vā.
คาถาย ‘‘สาวเสส’’นฺติ อิมินา ปาราชิกํ นิวเตฺตติฯ ครุกนฺติ เอตฺถ สงฺฆาทิเสสเมว อธิเปฺปตนฺติ ทเสฺสติฯ อนาทริยนฺติ สิกฺขาปเท อนาทริยํฯ วชฺชนฺติ ทุกฺกฎํฯ อุกฺขิตฺตเกน กรณภูเตนฯ
Gāthāya ‘‘sāvasesa’’nti iminā pārājikaṃ nivatteti. Garukanti ettha saṅghādisesameva adhippetanti dasseti. Anādariyanti sikkhāpade anādariyaṃ. Vajjanti dukkaṭaṃ. Ukkhittakena karaṇabhūtena.
ยสฺสาติ ภิกฺขุสฺส, นตฺถีติ สมฺพโนฺธฯ ภีรุกชาติกตายาติ ภีรุกสภาวตายฯ ปพฺพตวิหาเร วสนฺตสฺส ยสฺส ภิกฺขุโนติ โยชนาฯ ปพฺพตวิหาเรติ ปพฺพตสฺส ตเล, อนฺตเร วา การิเต วิหาเรฯ เอตสฺมินฺติ เอตาทิเสฯ อนฺตราเย สติเยวาติ โยชนาฯ ตสฺส อจฺฉนฺนาว โหตีติ โยชนาฯ อนนฺตรายิกสญฺญาย ฉาทยโต อจฺฉนฺนาวาติ อนนฺตรายิกสญฺญาย ฉาเทนฺตสฺสาปิ เอกเนฺตน อนฺตรายิกตฺตา อจฺฉนฺนาวาติ อธิปฺปาโยฯ
Yassāti bhikkhussa, natthīti sambandho. Bhīrukajātikatāyāti bhīrukasabhāvatāya. Pabbatavihāre vasantassa yassa bhikkhunoti yojanā. Pabbatavihāreti pabbatassa tale, antare vā kārite vihāre. Etasminti etādise. Antarāye satiyevāti yojanā. Tassa acchannāva hotīti yojanā. Anantarāyikasaññāya chādayato acchannāvāti anantarāyikasaññāya chādentassāpi ekantena antarāyikattā acchannāvāti adhippāyo.
อสฺสาติ ภิกฺขุสฺสฯ หนุกวาโตติ หนุกสฺส เคลญฺญกโร วาโตฯ วิชฺฌตีติ หนุกํ วิชฺฌติฯ อิมินาติ ภิกฺขุนาฯ ปหุสญฺญิโน ฉาทิตาปิ เอกเนฺตน อปหุตฺตา อจฺฉาทิตาว โหติฯ
Assāti bhikkhussa. Hanukavātoti hanukassa gelaññakaro vāto. Vijjhatīti hanukaṃ vijjhati. Imināti bhikkhunā. Pahusaññino chāditāpi ekantena apahuttā acchāditāva hoti.
ฉาเทตุกาโม จาติ เอตฺถ อิทํ จตุกฺกํ เวทิตพฺพํ ฉาเทตุกาโม ฉาเทติ, ฉาเทตุกาโม นจฺฉาเทติ, อจฺฉาเทตุกาโม ฉาเทติ, นจฺฉาเทตุกาโม นจฺฉาเทตีติฯ ตตฺถ ปฐมปทํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อิทํ อุตฺตานตฺถเมวา’’ติฯ เอวํ เสสาสุปิ มาติกาสุ จตุกฺกํ เวทิตพฺพํ ฯ จตูสุ จตุเกฺกสุ ปฐมปเท เอว ฉนฺนา โหติ, น เสสปเทสุฯ อนุตฺตานตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิฯ ปุเรภเตฺต วาติ ปุเรภตฺตํ วา, ภตฺตโต, ภตฺตสฺส วา ปุเรติ ปุเรภตฺตํฯ อพฺยยีภาวสมาเส สตฺตมีวิภตฺติยา อมิติการิยสฺส อนิจฺจภาวโต วุตฺตํ ‘‘ปุเรภเตฺต’’ติฯ เอเสว นโย ‘‘ปจฺฉาภเตฺต’’ติ เอตฺถาปิฯ ทุติยปทสฺส อตฺถํ ทเสฺสตฺวา ตติยปทสฺส อตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ยสฺส ปนา’’ติอาทิฯ อภิกฺขุเก ฐาเน วสนฺตสฺส ยสฺส ภิกฺขุสฺสาติ โยชนาฯ อาคเมนฺตสฺส คจฺฉนฺตสฺสาติ อนาทเร เจตานิ สามิวจนานิฯ
Chādetukāmo cāti ettha idaṃ catukkaṃ veditabbaṃ chādetukāmo chādeti, chādetukāmo nacchādeti, acchādetukāmo chādeti, nacchādetukāmo nacchādetīti. Tattha paṭhamapadaṃ sandhāya vuttaṃ ‘‘idaṃ uttānatthamevā’’ti. Evaṃ sesāsupi mātikāsu catukkaṃ veditabbaṃ . Catūsu catukkesu paṭhamapade eva channā hoti, na sesapadesu. Anuttānatthaṃ dassento āha ‘‘sace panā’’tiādi. Purebhatte vāti purebhattaṃ vā, bhattato, bhattassa vā pureti purebhattaṃ. Abyayībhāvasamāse sattamīvibhattiyā amitikāriyassa aniccabhāvato vuttaṃ ‘‘purebhatte’’ti. Eseva nayo ‘‘pacchābhatte’’ti etthāpi. Dutiyapadassa atthaṃ dassetvā tatiyapadassa atthaṃ dassento āha ‘‘yassa panā’’tiādi. Abhikkhuke ṭhāne vasantassa yassa bhikkhussāti yojanā. Āgamentassa gacchantassāti anādare cetāni sāmivacanāni.
จตุตฺถปทสฺส อตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘โย ปนา’’ติอาทิฯ ตตฺถ โย ปนาติ ภิกฺขุ ปน, อาวิ กโรตีติ สมฺพโนฺธฯ สภาคนฺติ อเวริํฯ อยนฺติ ภิกฺขุฯ อุปชฺฌาโย อิติ วา อาจริโย อิติ วาติ โยชนาฯ ลชฺชายาติ ลชฺชนิมิตฺตํ, ลชฺชการณา, ลชฺชเหตุ วาฯ หีติ สจฺจํ, ยสฺมา วา, อิธาติ อาปตฺติอาโรจนฎฺฐาเนฯ อเวริสภาคสฺสาติ อเวรี หุตฺวา สภาคสฺสฯ
Catutthapadassa atthaṃ dassento āha ‘‘yo panā’’tiādi. Tattha yo panāti bhikkhu pana, āvi karotīti sambandho. Sabhāganti averiṃ. Ayanti bhikkhu. Upajjhāyo iti vā ācariyo iti vāti yojanā. Lajjāyāti lajjanimittaṃ, lajjakāraṇā, lajjahetu vā. Hīti saccaṃ, yasmā vā, idhāti āpattiārocanaṭṭhāne. Averisabhāgassāti averī hutvā sabhāgassa.
ปกาเสตุกาโมติ อเญฺญสํ ปกาเสตุกาโมฯ อุปชฺฌายสฺสาปีติ ปิสเทฺทน อญฺญสฺส สนฺติเก กา นาม กถาติ ทเสฺสติฯ ตตฺถาติ อาปตฺติอาโรจนฎฺฐาเนฯ สภาคสงฺฆาทิเสสนฺติ วตฺถุสภาคสงฺฆาทิเสสํฯ สุทฺธสฺสาติ วตฺถุสภาคสงฺฆาทิเสสโต สุทฺธสฺสฯ อาวิกรณาการํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อาวิกโรโนฺต จา’’ติอาทิฯ อิติ อิมานีติอาทิ นิคมนํฯ
Pakāsetukāmoti aññesaṃ pakāsetukāmo. Upajjhāyassāpīti pisaddena aññassa santike kā nāma kathāti dasseti. Tatthāti āpattiārocanaṭṭhāne. Sabhāgasaṅghādisesanti vatthusabhāgasaṅghādisesaṃ. Suddhassāti vatthusabhāgasaṅghādisesato suddhassa. Āvikaraṇākāraṃ dassento āha ‘‘āvikaronto cā’’tiādi. Iti imānītiādi nigamanaṃ.
ตโตติ ชานิตพฺพโต, ปรนฺติ สมฺพโนฺธฯ เอกาหปฎิจฺฉนฺนาติ เอกาเหน ปฎิจฺฉนฺนาฯ ยาว จุทฺทส ทิวสานิ, ตาว ทิวสวเสน โยชนา กาตพฺพาติ โยชนาฯ ปกฺขปฎิจฺฉนฺนนฺติ ปเกฺขน ปฎิจฺฉนฺนํฯ อติเรกปกฺขปฎิจฺฉนฺนนฺติ ปกฺขโต อติเรเกน ปฎิจฺฉนฺนํฯ
Tatoti jānitabbato, paranti sambandho. Ekāhapaṭicchannāti ekāhena paṭicchannā. Yāva cuddasa divasāni, tāva divasavasena yojanā kātabbāti yojanā. Pakkhapaṭicchannanti pakkhena paṭicchannaṃ. Atirekapakkhapaṭicchannanti pakkhato atirekena paṭicchannaṃ.
สํวจฺฉรปฎิจฺฉนฺนนฺติ สํวจฺฉเรน ปฎิจฺฉนฺนํฯ ตโต วาติ อติเรกสฎฺฐิสํวจฺฉ รโต วาฯ ภิโยฺยปีติ อติเรกมฺปิฯ
Saṃvaccharapaṭicchannanti saṃvaccharena paṭicchannaṃ. Tato vāti atirekasaṭṭhisaṃvaccha rato vā. Bhiyyopīti atirekampi.
ตโตติ ตีหิ อาปตฺตีหิฯ ปรนฺติ อติเรกํฯ คณนวเสนาติ อาปตฺติคณนวเสนฯ วตฺถุกิตฺตนวเสน วาติ อาปตฺตีนํ วตฺถุกิตฺตนวเสน วาฯ นามมตฺตวเสน วาติ ‘‘สงฺฆาทิเสสาปตฺติโย’’ติ เอวํ นามเสฺสว วเสน วาฯ เอตฺถ หิ มตฺตสโทฺท อวธารณโตฺถ, เตน วตฺถุํ นิวเตฺตติฯ
Tatoti tīhi āpattīhi. Paranti atirekaṃ. Gaṇanavasenāti āpattigaṇanavasena. Vatthukittanavasena vāti āpattīnaṃ vatthukittanavasena vā. Nāmamattavasena vāti ‘‘saṅghādisesāpattiyo’’ti evaṃ nāmasseva vasena vā. Ettha hi mattasaddo avadhāraṇattho, tena vatthuṃ nivatteti.
ตตฺถาติ ‘‘นามมตฺตวเสนา’’ติ ปเทฯ สชาติสาธารณนฺติ สสฺส อตฺตโน ชาติ สชาติ, ตาย สาธารณํ สชาติสาธารณํฯ สเพฺพสํ, สเพฺพหิ วา อาปตฺตีหิ สาธารณํ สพฺพสาธารณํฯ ตตฺถาติ ทุวิเธสุ นาเมสุฯ สพฺพสาธารณนามวเสนาปีติ เอตฺถ ปิสโทฺท ‘‘อหํ ภเนฺต สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปชฺชิํ เอกาหปฎิจฺฉนฺนาโย’’ติ เอวํ สชาติสาธารณนามวเสนปิ ‘‘อหํ ภเนฺต สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิํ เอกาหปฎิจฺฉนฺนาโย’’ติ เอวํ อุภยสาธารณวเสนปิ วตฺตุํ วฎฺฎตีติ ทเสฺสติฯ หีติ สจฺจํฯ สพฺพมฺปิ ปริวาสาทิกํ อิทํ วินยกมฺมนฺติ โยชนาฯ วสติ อาปตฺติ เอตฺถ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ วตฺถุฯ โค วุจฺจติ วจนํ วา ญาณํ วา, ตํ ตายตีติ โคตฺตํฯ
Tatthāti ‘‘nāmamattavasenā’’ti pade. Sajātisādhāraṇanti sassa attano jāti sajāti, tāya sādhāraṇaṃ sajātisādhāraṇaṃ. Sabbesaṃ, sabbehi vā āpattīhi sādhāraṇaṃ sabbasādhāraṇaṃ. Tatthāti duvidhesu nāmesu. Sabbasādhāraṇanāmavasenāpīti ettha pisaddo ‘‘ahaṃ bhante sambahulā saṅghādisesā āpajjiṃ ekāhapaṭicchannāyo’’ti evaṃ sajātisādhāraṇanāmavasenapi ‘‘ahaṃ bhante sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjiṃ ekāhapaṭicchannāyo’’ti evaṃ ubhayasādhāraṇavasenapi vattuṃ vaṭṭatīti dasseti. Hīti saccaṃ. Sabbampi parivāsādikaṃ idaṃ vinayakammanti yojanā. Vasati āpatti ettha tadāyattavuttitāyāti vatthu. Go vuccati vacanaṃ vā ñāṇaṃ vā, taṃ tāyatīti gottaṃ.
ตตฺถาติ วตฺถาทีสุ จตุพฺพิเธสุฯ ตตฺถาติ เตสุ วจเนสุฯ สุกฺกวิสฺสฎฺฐิํ กายสํสคฺคนฺติอาทินา วจเนนาปีติ เอตฺถ อาทิสเทฺทน ทุฎฺฐุลฺลาทิวจนานิ สงฺคณฺหาติฯ อิธ ปนาติ อิมสฺมิํ ปน ฐาเนฯ โย โยติ ติโสฺส วา ผุโสฺส วา อาปโนฺน โหติฯ
Tatthāti vatthādīsu catubbidhesu. Tatthāti tesu vacanesu. Sukkavissaṭṭhiṃ kāyasaṃsaggantiādinā vacanenāpīti ettha ādisaddena duṭṭhullādivacanāni saṅgaṇhāti. Idha panāti imasmiṃ pana ṭhāne. Yo yoti tisso vā phusso vā āpanno hoti.
เอวํ อาโรเจตพฺพนฺติ เอวํ วกฺขมานนเยน อาโรเจตพฺพนฺติ โยชนาฯ กิํ อาโรเจตพฺพํ? ‘‘อหํ ภเนฺต…เป.… สโงฺฆ ธาเรตุ’’ อิติ อาโรเจตพฺพนฺติ โยชนาฯ
Evaṃ ārocetabbanti evaṃ vakkhamānanayena ārocetabbanti yojanā. Kiṃ ārocetabbaṃ? ‘‘Ahaṃ bhante…pe… saṅgho dhāretu’’ iti ārocetabbanti yojanā.
เวทยามหนฺติ เวทยามิ อหํฯ มม ปาริวาสิกภาวํ สงฺฆํ, สงฺฆสฺส วา ชานาเปมีติ อโตฺถฯ เวทยตีติ มนฺติ เวทยติ อิติ มํฯ ปาริวาสิกภาวํ สงฺฆํ, สงฺฆสฺส วา ชานาเปตีติ มํ สโงฺฆ ธาเรตูติ อโตฺถฯ เอตฺถ พหูสุ อฎฺฐกถาโปตฺถเกสุ ‘‘ติณฺณํ วา อติเรกานํ วา อาโรเจเนฺตน อายสฺมโนฺต ธาเรนฺตู’’ติ ปาโฐ อตฺถิ ฯ เกสุจิ อฎฺฐกถาโปตฺถเกสุ ‘‘ติณฺณํ อาโรเจเนฺตน อายสฺมโนฺต ธาเรนฺตู’’ติ เอตฺตโกเยว ปาโฐ อตฺถิฯ เหฎฺฐา มานตฺตกถายมฺปิ เอวเมว อตฺถิฯ ตตฺถ ‘‘อติเรกาน’’นฺติ อิมินา ตีหิ อติเรกานํ อาโรเจเนฺตน สงฺฆํ อเปกฺขิตฺวา สเจ เอกวจนวเสน วตฺตุกาโม โหติ, ‘‘มํ สโงฺฆ ธาเรตู’’ติ วตฺตพฺพํฯ อถ สมฺพหุเล ภิกฺขู อเปกฺขิตฺวา สเจ พหุวจนวเสน วตฺตุกาโม โหติ, ยถา ติณฺณํ, เอวํ ‘‘มํ อายสฺมโนฺต ธาเรนฺตู’’ติ วตฺตพฺพนฺติ ทเสฺสติฯ อิทญฺจ สทฺทสตฺถวเสเนว วุตฺตํ, น วินยกมฺมวิปตฺติวเสนาติ ทฎฺฐพฺพํฯ
Vedayāmahanti vedayāmi ahaṃ. Mama pārivāsikabhāvaṃ saṅghaṃ, saṅghassa vā jānāpemīti attho. Vedayatīti manti vedayati iti maṃ. Pārivāsikabhāvaṃ saṅghaṃ, saṅghassa vā jānāpetīti maṃ saṅgho dhāretūti attho. Ettha bahūsu aṭṭhakathāpotthakesu ‘‘tiṇṇaṃ vā atirekānaṃ vā ārocentena āyasmanto dhārentū’’ti pāṭho atthi . Kesuci aṭṭhakathāpotthakesu ‘‘tiṇṇaṃ ārocentena āyasmanto dhārentū’’ti ettakoyeva pāṭho atthi. Heṭṭhā mānattakathāyampi evameva atthi. Tattha ‘‘atirekāna’’nti iminā tīhi atirekānaṃ ārocentena saṅghaṃ apekkhitvā sace ekavacanavasena vattukāmo hoti, ‘‘maṃ saṅgho dhāretū’’ti vattabbaṃ. Atha sambahule bhikkhū apekkhitvā sace bahuvacanavasena vattukāmo hoti, yathā tiṇṇaṃ, evaṃ ‘‘maṃ āyasmanto dhārentū’’ti vattabbanti dasseti. Idañca saddasatthavaseneva vuttaṃ, na vinayakammavipattivasenāti daṭṭhabbaṃ.
‘‘วิหาเรเยว รตฺติปริคฺคโห’’ติ อิมินา อโนฺตอุปจารสีมายมฺปิ ปริวสิตพฺพภาวํ ทเสฺสติฯ อุปจารสีมนฺติ ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริเกฺขปํ, อปริกฺขิตฺตสฺส ปริเกฺขปารหฎฺฐานํฯ เอสาติ ปาริวาสิโก ภิกฺขุฯ อสฺสาติ อาคตสฺส ภิกฺขุโนฯ
‘‘Vihāreyeva rattipariggaho’’ti iminā antoupacārasīmāyampi parivasitabbabhāvaṃ dasseti. Upacārasīmanti parikkhittassa vihārassa parikkhepaṃ, aparikkhittassa parikkhepārahaṭṭhānaṃ. Esāti pārivāsiko bhikkhu. Assāti āgatassa bhikkhuno.
ตโตติ อาปตฺติปฎิจฺฉนฺนทิวสโตฯ กุกฺกุจฺจวิโนทนตฺถายาติ อาปตฺติปฎิจฺฉนฺนทิวเสน สมํ ปริวสิตพฺพํ นุโข, น นุโขติ กุกฺกุจฺจสฺส วิโนทนตฺถายฯ ปริวุตฺถตฺตาติ ปริวสิตตฺตาฯ โสติ ปริวุโตฺถ ภิกฺขุฯ อิทนฺติ ทาตพฺพมานตฺตํฯ ตนฺติ ปฎิจฺฉนฺนมานตฺตํฯ ฉารตฺตนฺติ ฉรตฺติโย สมาหฎาติ ฉารตฺตํ, สมาหาเร ทิคุฯ ‘‘ฉรตฺต’’นฺติ วตฺตเพฺพ สุขุจฺจารณตฺถํ ฉการสฺส ทีฆํ กตฺวา เอวํ วุตฺตํ, อจฺจนฺตสํโยเค เจตํ อุปโยควจนํฯ
Tatoti āpattipaṭicchannadivasato. Kukkuccavinodanatthāyāti āpattipaṭicchannadivasena samaṃ parivasitabbaṃ nukho, na nukhoti kukkuccassa vinodanatthāya. Parivutthattāti parivasitattā. Soti parivuttho bhikkhu. Idanti dātabbamānattaṃ. Tanti paṭicchannamānattaṃ. Chārattanti charattiyo samāhaṭāti chārattaṃ, samāhāre digu. ‘‘Charatta’’nti vattabbe sukhuccāraṇatthaṃ chakārassa dīghaṃ katvā evaṃ vuttaṃ, accantasaṃyoge cetaṃ upayogavacanaṃ.
อปฺปฎิจฺฉนฺนาปตฺติํ ทาตุํ วฎฺฎตีติ สมฺพโนฺธฯ อิมินา เหฎฺฐา วุตฺตํ ปฎิจฺฉนฺนมานตฺตํ อิมสฺมิํ ปฎิจฺฉนฺนมานเตฺต สโมธาเนตฺวาปิ ทาตุํ วฎฺฎตีติ ทเสฺสติฯ เอวํ สเนฺตปิ มูลมานตฺตํ ปฎิจฺจ ปฎิจฺฉนฺนมานตฺตนฺติ วุจฺจติฯ กถํ ทาตุํ วฎฺฎตีติ โยชนาฯ
Appaṭicchannāpattiṃ dātuṃ vaṭṭatīti sambandho. Iminā heṭṭhā vuttaṃ paṭicchannamānattaṃ imasmiṃ paṭicchannamānatte samodhānetvāpi dātuṃ vaṭṭatīti dasseti. Evaṃ santepi mūlamānattaṃ paṭicca paṭicchannamānattanti vuccati. Kathaṃ dātuṃ vaṭṭatīti yojanā.
อสฺสาติ มานตฺตํ ยาจนฺตสฺสฯ ตทนุรูปนฺติ ตสฺส ยาจนสฺส อนุรูปํฯ สเจ ปฎิจฺฉนฺนา เทฺวติ เอตฺถ เทฺวติ นิทสฺสนมตฺตํ ตโต อติเรกมฺปิ คเหตพฺพตฺตาฯ สพฺพตฺถาติ สเพฺพสุ เอกพหูสุฯ ตทนุรูปเม วาติ ตสฺส มานตฺตทานสฺส อนุรูปเมวฯ อิธ ปนาติ ปฎิจฺฉนฺนมานเตฺต ปนฯ อิตีติอาทิ นิคมนํฯ ยํ มานตฺตํ ทิยฺยตีติ โยชนาฯ เอตฺถาติ ปฎิจฺฉนฺนมานเตฺตฯ
Assāti mānattaṃ yācantassa. Tadanurūpanti tassa yācanassa anurūpaṃ. Sace paṭicchannā dveti ettha dveti nidassanamattaṃ tato atirekampi gahetabbattā. Sabbatthāti sabbesu ekabahūsu. Tadanurūpame vāti tassa mānattadānassa anurūpameva. Idha panāti paṭicchannamānatte pana. Itītiādi nigamanaṃ. Yaṃ mānattaṃ diyyatīti yojanā. Etthāti paṭicchannamānatte.
อวเสสาติ อปฺปฎิจฺฉนฺนปริวาสปฎิจฺฉนฺนปริวาเสหิ อวเสสาฯ ตตฺถาติ อวเสเสสุ ทฺวีสุ ปริวาเสสุฯ อธมฺมิกมานตฺตจาราวสาเน อนุญฺญาตปริวาโสติ สมฺพโนฺธฯ กิสฺมิํ วตฺถุสฺมิํ อนุญฺญาโตติ อาห ‘‘อิมสฺมิํ วตฺถุสฺมิ’’นฺติฯ เอสาติ สุทฺธโนฺต, ทาตโพฺพติ สมฺพโนฺธฯ เอตนฺติ ชานนาชานนํฯ
Avasesāti appaṭicchannaparivāsapaṭicchannaparivāsehi avasesā. Tatthāti avasesesu dvīsu parivāsesu. Adhammikamānattacārāvasāne anuññātaparivāsoti sambandho. Kismiṃ vatthusmiṃ anuññātoti āha ‘‘imasmiṃ vatthusmi’’nti. Esāti suddhanto, dātabboti sambandho. Etanti jānanājānanaṃ.
ตตฺถาติ ทฺวีสุ สุทฺธเนฺตสุ, จูฬสุทฺธโนฺตติ วุจฺจตีติ สมฺพโนฺธฯ โยติ ภิกฺขุ, วทตีติ สมฺพโนฺธฯ อาโรจิตทิวสโตติ อาปตฺติอาโรจิตทิวสโตฯ
Tatthāti dvīsu suddhantesu, cūḷasuddhantoti vuccatīti sambandho. Yoti bhikkhu, vadatīti sambandho. Ārocitadivasatoti āpattiārocitadivasato.
ตนฺติ จูฬสุทฺธนฺตํ, ปริวสเนฺตน ปริวสิตพฺพนฺติ สมฺพโนฺธฯ อคฺคเหสีติ ปริวาสํ อคฺคเหสิฯ อญฺญนฺติ คหิตมาสโต อญฺญํฯ ‘‘ปริวาสทานกิจฺจํ นตฺถี’’ติ อิมินา ปริวาสคหณกิจฺจมฺปิ นตฺถีติ ทเสฺสติ คณฺหนฺตเสฺสว ทาตพฺพตฺตา, เทนฺตเสฺสว คเหตพฺพตฺตา วาฯ อุทฺธมฺปิ อาโรหตีติ ปริวาสคหณกาลโต อญฺญมฺปิ กาลํ ปริวสิตพฺพตฺตา อุทฺธมฺปิ อาโรหติฯ เหฎฺฐาปิ โอโรหตีติ ปริวาสคหณกาลโต อูนมฺปิ กาลํ ปริวสิตพฺพตฺตา เหฎฺฐาปิ โอโรหติฯ อิทนฺติ อาโรหโนโรหนํฯ ตสฺสาติ สุทฺธนฺตปริวาสสฺสฯ เอกเมว ปฎิจฺจ เทฺว, ติโสฺส, สมฺพหุลา วา ภวนฺตีติ อาห ‘‘เอกํ วินา สมฺพหุลานํ อภาวโต’’ติฯ
Tanti cūḷasuddhantaṃ, parivasantena parivasitabbanti sambandho. Aggahesīti parivāsaṃ aggahesi. Aññanti gahitamāsato aññaṃ. ‘‘Parivāsadānakiccaṃ natthī’’ti iminā parivāsagahaṇakiccampi natthīti dasseti gaṇhantasseva dātabbattā, dentasseva gahetabbattā vā. Uddhampi ārohatīti parivāsagahaṇakālato aññampi kālaṃ parivasitabbattā uddhampi ārohati. Heṭṭhāpi orohatīti parivāsagahaṇakālato ūnampi kālaṃ parivasitabbattā heṭṭhāpi orohati. Idanti ārohanorohanaṃ. Tassāti suddhantaparivāsassa. Ekameva paṭicca dve, tisso, sambahulā vā bhavantīti āha ‘‘ekaṃ vinā sambahulānaṃ abhāvato’’ti.
เอวํ จูฬสุทฺธนฺตํ ทเสฺสตฺวา มหาสุทฺธนฺตํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘โย ปนา’’ติอาทิฯ ตนฺติ มหาสุทฺธนฺตํฯ ยาว ยตฺตโก อุปสมฺปททิวโส โหติ, ตาว ตตฺตกํ กาลนฺติ โยชนาฯ อุทฺธํ นาโรหตีติ อุทฺธํ อาโรหนกาลสฺส อภาวโต อุทฺธํ น อาโรหติฯ เอตฺถาติ สุทฺธนฺตปริวาเสฯ อยํ สุทฺธนฺตปริวาโส นามาติ นิคมนํฯ
Evaṃ cūḷasuddhantaṃ dassetvā mahāsuddhantaṃ dassento āha ‘‘yo panā’’tiādi. Tanti mahāsuddhantaṃ. Yāva yattako upasampadadivaso hoti, tāva tattakaṃ kālanti yojanā. Uddhaṃ nārohatīti uddhaṃ ārohanakālassa abhāvato uddhaṃ na ārohati. Etthāti suddhantaparivāse. Ayaṃ suddhantaparivāso nāmāti nigamanaṃ.
ตตฺถาติ ติวิเธสุ สโมธานปริวาเสสุฯ ‘‘โอธุนิตฺวา สโมทหิตฺวา ทาตพฺพปริวาโส’’ติ อิมินา โอธุนิตฺวา สโมธาเนตฺวา ทาตโพฺพ ปริวาโส โอธานสโมธาโนติ วจนตฺถํ ทเสฺสติ, ‘‘ปริวาโส’’ติ อิมินา ตทฺธิตณปจฺจยสฺส สรูปํ ทเสฺสติฯ เอตฺถ จ อวธุนิยเต, อวธุนิตพฺพนฺติ วา โอธานํ, สํ เอกโต โอทหียเต สมฺปิณฺฑียเต, อุทหิยติ สมฺปิณฺฑิยตีติ วา สโมธานนฺติ อวยววจนโตฺถ กาตโพฺพฯ ‘‘มเกฺขตฺวา’’ติ อิมินา ธุธาตุยา ปโปฺปฎนธํสนโธวนานิ ทเสฺสติฯ โสติ โอธานสโมธาโน, อาคโตติ สมฺพโนฺธฯ
Tatthāti tividhesu samodhānaparivāsesu. ‘‘Odhunitvā samodahitvā dātabbaparivāso’’ti iminā odhunitvā samodhānetvā dātabbo parivāso odhānasamodhānoti vacanatthaṃ dasseti, ‘‘parivāso’’ti iminā taddhitaṇapaccayassa sarūpaṃ dasseti. Ettha ca avadhuniyate, avadhunitabbanti vā odhānaṃ, saṃ ekato odahīyate sampiṇḍīyate, udahiyati sampiṇḍiyatīti vā samodhānanti avayavavacanattho kātabbo. ‘‘Makkhetvā’’ti iminā dhudhātuyā pappoṭanadhaṃsanadhovanāni dasseti. Soti odhānasamodhāno, āgatoti sambandho.
เอตฺถาติ โอธานสโมธาเนฯ โยติ ภิกฺขุ, ปฎิจฺฉาเทตีติ สมฺพโนฺธฯ ปริวสโนฺต วา มานตฺตารโห วา มานตฺตํ จรโนฺต วา อพฺภานารโห วา โย ภิกฺขูติ โยชนาฯ ‘‘ปุริมาย อาปตฺติยา’’ติ ปทํ ‘‘สมา วา’’ติ ปเท สหาทิโยโคฯ ‘‘อูนตรา’’ติปเท วิภตฺติอปาทานํ, อนุเมยฺยวิสยอปาทานํ วาฯ ‘‘อทิวเส กตฺวา’’ติ อิมินา โอธุนิตฺวาติ เอตฺถ ธุธาตุยา ยถาวุตฺตเตฺถเยว ทเสฺสติฯ อูนกปกฺขปฎิจฺฉนฺนาติ ปกฺขโต อูนเกน ปฎิจฺฉนฺนาฯ เอเตนุปาเยนาติ ปเกฺข วุเตฺตน เอเตน อุปาเยนฯ
Etthāti odhānasamodhāne. Yoti bhikkhu, paṭicchādetīti sambandho. Parivasanto vā mānattāraho vā mānattaṃ caranto vā abbhānāraho vā yo bhikkhūti yojanā. ‘‘Purimāya āpattiyā’’ti padaṃ ‘‘samā vā’’ti pade sahādiyogo. ‘‘Ūnatarā’’tipade vibhattiapādānaṃ, anumeyyavisayaapādānaṃ vā. ‘‘Adivase katvā’’ti iminā odhunitvāti ettha dhudhātuyā yathāvuttattheyeva dasseti. Ūnakapakkhapaṭicchannāti pakkhato ūnakena paṭicchannā. Etenupāyenāti pakkhe vuttena etena upāyena.
ตตฺถาติ มูลาปตฺติโต อติเรกปฎิจฺฉเนฺนฯ อาวิ การาเปตฺวาติ มูลาปตฺติโต อนฺตราปตฺติยา ปฎิจฺฉนฺนภาวํ อาวิ การาเปตฺวาฯ เอตฺถาติ อาปตฺติปฎิจฺฉเนฺนฯ ปมาณนฺติ การณํฯ ยาติ อาปตฺติฯ ตตฺถาติ มูลภาเวน กตฺตพฺพายํ มูลิอาปตฺติยํฯ อิตรนฺติ มูลิภาเวน กตฺตพฺพํ มูลาปตฺติํฯ สโมธายาติ สโมทหิตฺวาฯ ปกฺขิปิตฺวาติ อโตฺถฯ
Tatthāti mūlāpattito atirekapaṭicchanne. Āvi kārāpetvāti mūlāpattito antarāpattiyā paṭicchannabhāvaṃ āvi kārāpetvā. Etthāti āpattipaṭicchanne. Pamāṇanti kāraṇaṃ. Yāti āpatti. Tatthāti mūlabhāvena kattabbāyaṃ mūliāpattiyaṃ. Itaranti mūlibhāvena kattabbaṃ mūlāpattiṃ. Samodhāyāti samodahitvā. Pakkhipitvāti attho.
เอกา วา ยา อาปตฺติ สพฺพจิรปฎิจฺฉนฺนา โหตีติ โยชนาฯ สพฺพจิรปฎิจฺฉนฺนาโยติ สพฺพาสํ อาปตฺตีนํ จิเรน ปฎิจฺฉนฺนาโยฯ ตาสนฺติ อาปตฺตีนํฯ อเคฺฆนาติ ปริเจฺฉเทนฯ อคฺฆสโทฺท เหตฺถ ปริเจฺฉทตฺถวาจโกฯ อภิธาเน (อภิธานปฺปทีปิกายํ ๑๐๔๘ คาถายํ) วุตฺตํ ‘‘อโคฺฆ มุเลฺย จ ปูชเน’’ติฯ เอตฺถ ‘‘มุเลฺย จา’’ติ ปทสฺส มูลปริเจฺฉเทติ อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ ตเมวตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ตาสํ รตฺติปริเจฺฉทวเสนา’’ติฯ อิเมหิ ปเทหิ อเคฺฆน รตฺติปริเจฺฉเทน สโมธาเนตฺวา ทาตโพฺพ ปริวาโส อคฺฆสโมธาโนติ วจนตฺถํ ทเสฺสติฯ เอตฺถ จ ‘‘สพฺพจิรปฎิจฺฉนฺนาโย’’ติ วุตฺตตฺตา กิญฺจาปิ โกฎิอตฺถวาจโก ตติยกฺขเรน ปาโฐ ยุโตฺต วิย ทิสฺสติฯ ตถาปิ โส ปาโฐ น คเหตโพฺพฯ กสฺมา? พหูสุ ปาฬิโปตฺถเกสุ, อฎฺฐกถาโปตฺถเกสุ จ อลิขิตตฺตาฯ พหูสุ หิ โปราณโปตฺถเกสุ จตุตฺถกฺขเรน ปาโฐเยว ลิขิโต, ตสฺมา โส ปาโฐเยว คเหตโพฺพ, น อโญฺญติ ทฎฺฐพฺพํฯ โสติ อคฺฆสโมธาโนฯ อาคโตเยวาติ สมฺพโนฺธฯ
Ekā vā yā āpatti sabbacirapaṭicchannā hotīti yojanā. Sabbacirapaṭicchannāyoti sabbāsaṃ āpattīnaṃ cirena paṭicchannāyo. Tāsanti āpattīnaṃ. Agghenāti paricchedena. Agghasaddo hettha paricchedatthavācako. Abhidhāne (abhidhānappadīpikāyaṃ 1048 gāthāyaṃ) vuttaṃ ‘‘aggho mulye ca pūjane’’ti. Ettha ‘‘mulye cā’’ti padassa mūlaparicchedeti attho daṭṭhabbo. Tamevatthaṃ dassento āha ‘‘tāsaṃ rattiparicchedavasenā’’ti. Imehi padehi agghena rattiparicchedena samodhānetvā dātabbo parivāso agghasamodhānoti vacanatthaṃ dasseti. Ettha ca ‘‘sabbacirapaṭicchannāyo’’ti vuttattā kiñcāpi koṭiatthavācako tatiyakkharena pāṭho yutto viya dissati. Tathāpi so pāṭho na gahetabbo. Kasmā? Bahūsu pāḷipotthakesu, aṭṭhakathāpotthakesu ca alikhitattā. Bahūsu hi porāṇapotthakesu catutthakkharena pāṭhoyeva likhito, tasmā so pāṭhoyeva gahetabbo, na aññoti daṭṭhabbaṃ. Soti agghasamodhāno. Āgatoyevāti sambandho.
ยสฺส ปนาติ ภิกฺขุสฺส, ปฎิจฺฉนฺนาติ สมฺพโนฺธฯ สพฺพนฺติ สกลํฯ อาปตฺติสหสฺสคาถาย –
Yassa panāti bhikkhussa, paṭicchannāti sambandho. Sabbanti sakalaṃ. Āpattisahassagāthāya –
ทสสตํ อาปตฺติโย รตฺติสตํ ฉาทยิตฺวานาติ โยชนาฯ อิมินา นเยนปิ อคฺฆสโมธาโนติ เอตฺถ อคฺฆสทฺทสฺส จตุตฺถกฺขเรน ปาฐสฺส ยุตฺตภาโว เวทิตโพฺพฯ อเคฺฆน ทสรตฺติปริเจฺฉเทน สโมธาย ทาตโพฺพ อคฺฆสโมธาโนฯ
Dasasataṃ āpattiyo rattisataṃ chādayitvānāti yojanā. Iminā nayenapi agghasamodhānoti ettha agghasaddassa catutthakkharena pāṭhassa yuttabhāvo veditabbo. Agghena dasarattiparicchedena samodhāya dātabbo agghasamodhāno.
โย ปริวาโส นานาวตฺถุกาโย อาปตฺติโย เอกโต กตฺวา ทิยฺยติ, อยํ ปริวาโส มิสฺสกสโมธาโน นามาติ โยชนาฯ เอตฺถ วตฺถุวเสน มิสฺสกา อาปตฺติโย สโมธาเนตฺวา ทาตโพฺพ ปริวาโส มิสฺสกสโมธาโนติ วจนโตฺถ กาตโพฺพฯ ตตฺราติ มิสฺสกสโมธาเนฯ ตทนุรูปายาติ ตสฺส ยาจนสฺส อนุรูปายฯ
Yo parivāso nānāvatthukāyo āpattiyo ekato katvā diyyati, ayaṃ parivāso missakasamodhāno nāmāti yojanā. Ettha vatthuvasena missakā āpattiyo samodhānetvā dātabbo parivāso missakasamodhānoti vacanattho kātabbo. Tatrāti missakasamodhāne. Tadanurūpāyāti tassa yācanassa anurūpāya.
เอตฺถ จาติ มิสฺสกสโมธาเน จ, กาตุํ วฎฺฎตีติ สมฺพโนฺธฯ
Ettha cāti missakasamodhāne ca, kātuṃ vaṭṭatīti sambandho.
‘‘ปกฺขมานตฺตญฺจ …เป.… กถยิสฺสามา’’ติ ยํ วจนํ วุตฺตํ, ตสฺส วจนสฺส โอกาโสติ โยชนาฯ ตํ ปนาติ ปกฺขมานตฺตํ ปนฯ ‘‘อฑฺฒมาสเมว ทาตพฺพ’’นฺติ อิมินา ปกฺขเมว ทาตพฺพํ มานตฺตํ ปกฺขมานตฺตนฺติ วจนตฺถํ ทเสฺสติฯ หีติ สจฺจํฯ ตํ ปนาติ ปกฺขมานตฺตํ ปน, ทาตพฺพนฺติ สมฺพโนฺธฯ อตฺตโน สีมนฺติ อตฺตโน วิหารสีมํ, มหาสีมนฺติ อโตฺถฯ โสเธตฺวาติ สพฺพาสํ หตฺถปาสนยนวเสน, ฉนฺทารหานํ ฉนฺทนยนวเสน, สีมโต พหิกรณวเสน จ โสเธตฺวาฯ จตุวคฺคคณนฺติ จตุวคฺคสงฺฆํฯ คโณติ เจตฺถ สโงฺฆเยวาธิเปฺปโตฯ
‘‘Pakkhamānattañca …pe… kathayissāmā’’ti yaṃ vacanaṃ vuttaṃ, tassa vacanassa okāsoti yojanā. Taṃ panāti pakkhamānattaṃ pana. ‘‘Aḍḍhamāsameva dātabba’’nti iminā pakkhameva dātabbaṃ mānattaṃ pakkhamānattanti vacanatthaṃ dasseti. Hīti saccaṃ. Taṃ panāti pakkhamānattaṃ pana, dātabbanti sambandho. Attano sīmanti attano vihārasīmaṃ, mahāsīmanti attho. Sodhetvāti sabbāsaṃ hatthapāsanayanavasena, chandārahānaṃ chandanayanavasena, sīmato bahikaraṇavasena ca sodhetvā. Catuvaggagaṇanti catuvaggasaṅghaṃ. Gaṇoti cettha saṅghoyevādhippeto.
ตตฺราติ ‘‘โยชนา กาตพฺพา’’ติ วจเนฯ มุขมตฺตทสฺสนนฺติ อุปายมตฺตทสฺสนํ, อาทิมตฺตทสฺสนํ วาฯ ‘‘อาปนฺนาย ภิกฺขุนิยา’’ติ ปทํ ‘‘เอวมสฺส วจนีโย’’ติ ปเท กตฺตา, ‘‘ยาจาเปตฺวา’’ติ ปเท การิตกมฺมํฯ ‘‘พฺยตฺตาย ภิกฺขุนิยา’’ติ ปทํ ‘‘ญาเปตโพฺพ’’ติ ปเท การิตกตฺตา, ‘‘สโงฺฆ’’ติ ปทํ ตเตฺถว การิตกมฺมํฯ ‘‘เอตํ การณ’’นฺติ ธาตุกมฺมํ อชฺฌาหริตพฺพํฯ ตพฺพปจฺจเยน การิตกมฺมเมว วุตฺตํฯ ญาเปตพฺพาการํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สุณาตุ เม’’ติอาทิฯ
Tatrāti ‘‘yojanā kātabbā’’ti vacane. Mukhamattadassananti upāyamattadassanaṃ, ādimattadassanaṃ vā. ‘‘Āpannāya bhikkhuniyā’’ti padaṃ ‘‘evamassa vacanīyo’’ti pade kattā, ‘‘yācāpetvā’’ti pade kāritakammaṃ. ‘‘Byattāya bhikkhuniyā’’ti padaṃ ‘‘ñāpetabbo’’ti pade kāritakattā, ‘‘saṅgho’’ti padaṃ tattheva kāritakammaṃ. ‘‘Etaṃ kāraṇa’’nti dhātukammaṃ ajjhāharitabbaṃ. Tabbapaccayena kāritakammameva vuttaṃ. Ñāpetabbākāraṃ dassento āha ‘‘suṇātu me’’tiādi.
นิกฺขิตฺตวตฺตนฺติ กรณเตฺถ เจตํ อุปโยควจนํฯ นิกฺขิตฺตวเตฺตนาติ หิ อโตฺถฯ ตเตฺถวาติ มาฬกสีมายเมวฯ หีติ สจฺจํ, ยสฺมา วาฯ อสฺสาติ มานตฺตจาริกาย ภิกฺขุนิยาฯ ตตฺราติ ตสฺมา กตฺตพฺพวินยกมฺมภาวโตติ อโตฺถฯ โนติ อมฺหากํ, สนฺติกนฺติ สมฺพโนฺธฯ จตูหิ ปกตตฺตภิกฺขุนีหิ นิสีทิตพฺพนฺติ สมฺพโนฺธฯ คามูปจารโต เทฺว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมิตฺวาติ อิทํ ภิกฺขุนีวิหารูปจาราติกฺกมํ สนฺธาย วุตฺตํฯ วิหารูปจารโตปีติ ภิกฺขุวิหารูปจารโตปิฯ ตตฺถาติ ภิกฺขุนีนํ นิสินฺนฎฺฐานํฯ กุรุนฺทิมหาปจฺจรีสุ ปน วุตฺตนฺติ สมฺพโนฺธฯ วิหารสฺส จาติ ภิกฺขุวิหารสฺส จฯ คามสฺส อุปจารํ มุญฺจิตุํ วฎฺฎตีติ น วุตฺตนฺติ โยชนาฯ ตสฺมา คามูปจาเรปิ นิสีทิตุํ วฎฺฎตีติ อธิปฺปาโยฯ
Nikkhittavattanti karaṇatthe cetaṃ upayogavacanaṃ. Nikkhittavattenāti hi attho. Tatthevāti māḷakasīmāyameva. Hīti saccaṃ, yasmā vā. Assāti mānattacārikāya bhikkhuniyā. Tatrāti tasmā kattabbavinayakammabhāvatoti attho. Noti amhākaṃ, santikanti sambandho. Catūhi pakatattabhikkhunīhi nisīditabbanti sambandho. Gāmūpacārato dve leḍḍupāte atikkamitvāti idaṃ bhikkhunīvihārūpacārātikkamaṃ sandhāya vuttaṃ. Vihārūpacāratopīti bhikkhuvihārūpacāratopi. Tatthāti bhikkhunīnaṃ nisinnaṭṭhānaṃ. Kurundimahāpaccarīsu pana vuttanti sambandho. Vihārassa cāti bhikkhuvihārassa ca. Gāmassa upacāraṃ muñcituṃ vaṭṭatīti na vuttanti yojanā. Tasmā gāmūpacārepi nisīdituṃ vaṭṭatīti adhippāyo.
ตาย ภิกฺขุนิยา อาโรเจตพฺพนฺติ สมฺพโนฺธฯ
Tāya bhikkhuniyā ārocetabbanti sambandho.
ตเตฺถวาติ ภิกฺขุนีนํ นิสีทนฎฺฐาเนเยวฯ ฐานนฺติ ภิกฺขูนํ ฐานํฯ เอตีติ อาคจฺฉติฯ ปเควาติ ปาโตเยวฯ ตายาติ มานตฺตจารินิยาฯ
Tatthevāti bhikkhunīnaṃ nisīdanaṭṭhāneyeva. Ṭhānanti bhikkhūnaṃ ṭhānaṃ. Etīti āgacchati. Pagevāti pātoyeva. Tāyāti mānattacāriniyā.
อนิกฺขิตฺตวตฺตาย ปน ภิกฺขุนิยาติ สมฺพโนฺธฯ อชานนปจฺจยาติ อชานนการณาฯ ตนฺติ วจนํฯ ปาริวาสิกวตฺตาทีนนฺติ อาทิสเทฺทน อาคนฺตุกวตฺตปูรณนิสฺสยปฎิปฺปสฺสทฺธาทโย สงฺคณฺหาติ ฯ ยุตฺตตรํ ทิสฺสตีติ ยุตฺตตรํ หุตฺวา ทิสฺสติฯ อิมินา อนิกฺขิตฺตวตฺตภิกฺขุนา วิย ภิกฺขุนิยาปิ อโนฺตอุปจารสีมคตานํเยว อาโรเจตพฺพํ, น คาเม ฐิตานมฺปิ คนฺตฺวา อาโรเจตพฺพนฺติ ทีเปติฯ อุโปสเถติ อุโปสถทิวเสฯ เอเสว นโย ปวารณายปิฯ เทวสิกนฺติ ทิวเส ทิวเสฯ ตสฺมิํ คาเมติ ภิกฺขุนีนํ วสนคาเมฯ อญฺญตฺราติ ภิกฺขุนีนํ วสนคามโต อญฺญสฺมิํ คาเมฯ ตตฺราติ ภิกฺขุนีนํ วสนคามํฯ ทเสฺสตฺวาติ ภิกฺขุนีนํ ทเสฺสตฺวาฯ ตายาติ มานตฺตจารินิยาฯ วิหารนฺติ ภิกฺขูนํ วิหารํฯ อุปจารสีมายาติ อุปจารสีมโต พหีติ สมฺพโนฺธฯ อยนฺติ มานตฺตจารินีฯ
Anikkhittavattāya pana bhikkhuniyāti sambandho. Ajānanapaccayāti ajānanakāraṇā. Tanti vacanaṃ. Pārivāsikavattādīnanti ādisaddena āgantukavattapūraṇanissayapaṭippassaddhādayo saṅgaṇhāti . Yuttataraṃ dissatīti yuttataraṃ hutvā dissati. Iminā anikkhittavattabhikkhunā viya bhikkhuniyāpi antoupacārasīmagatānaṃyeva ārocetabbaṃ, na gāme ṭhitānampi gantvā ārocetabbanti dīpeti. Uposatheti uposathadivase. Eseva nayo pavāraṇāyapi. Devasikanti divase divase. Tasmiṃ gāmeti bhikkhunīnaṃ vasanagāme. Aññatrāti bhikkhunīnaṃ vasanagāmato aññasmiṃ gāme. Tatrāti bhikkhunīnaṃ vasanagāmaṃ. Dassetvāti bhikkhunīnaṃ dassetvā. Tāyāti mānattacāriniyā. Vihāranti bhikkhūnaṃ vihāraṃ. Upacārasīmāyāti upacārasīmato bahīti sambandho. Ayanti mānattacārinī.
วีสติ คโณ อิมสฺสาติ วีสติคโณ, สโงฺฆ, ตสฺมิํฯ มานตฺตํ จรมานา ภิกฺขุนีติ โยชนาฯ อิทํ ปกฺขมานตฺตํ นามาติ อิทํ ปุพฺพวจนสฺส นิคมวเสน ปรวจนสฺส กถนตฺถาย วุตฺตนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ
Vīsati gaṇo imassāti vīsatigaṇo, saṅgho, tasmiṃ. Mānattaṃ caramānā bhikkhunīti yojanā. Idaṃ pakkhamānattaṃ nāmāti idaṃ pubbavacanassa nigamavasena paravacanassa kathanatthāya vuttanti daṭṭhabbaṃ.
ตตฺถาติ ติวิเธสุ มานเตฺตสุฯ ยเทตํ มานตฺตํ อนุญฺญาตนฺติ สมฺพโนฺธฯ ปรโตติ ปรสฺมิํฯ ปริวาสํ ปริวสนฺตสฺส มูลายปฎิกสฺสิตสฺส อุทายิเตฺถรสฺส อนุญฺญาตนฺติ สมฺพโนฺธฯ อาปชฺชิตฺวาติ อาปชฺชนโตฯ อิทนฺติ มานตฺตํ วุจฺจตีติ สมฺพโนฺธฯ หีติ สจฺจํ, ยสฺมา วาฯ โอธานสโมธานนฺติ เอตฺถ วจนโตฺถ เหฎฺฐา วุโตฺตเยวฯ ตมฺปีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตวจนมฺปิฯ
Tatthāti tividhesu mānattesu. Yadetaṃ mānattaṃ anuññātanti sambandho. Paratoti parasmiṃ. Parivāsaṃ parivasantassa mūlāyapaṭikassitassa udāyittherassa anuññātanti sambandho. Āpajjitvāti āpajjanato. Idanti mānattaṃ vuccatīti sambandho. Hīti saccaṃ, yasmā vā. Odhānasamodhānanti ettha vacanattho heṭṭhā vuttoyeva. Tampīti kurundiyaṃ vuttavacanampi.
ตนฺติ อคฺฆสโมธานมิสฺสกสโมธานํ, ทาตพฺพนฺติ สมฺพโนฺธฯ เอตฺตาวตาติ เอตปริมาเณน วจนกฺกเมน, ‘‘อยญฺหิ อิธ อธิเปฺปโต ปริวาโส นามา’’ติ (จูฬว. อฎฺฐ. ๑๐๒) วจนโต ปฎฺฐาย ยาว ‘‘โยเชตฺวา ทาตพฺพ’’นฺติ วจนํ, ตาว วจนกฺกเมนาติ อโตฺถฯ ‘‘เตน หิ ภิกฺขเว…เป.… ทเสฺสสฺสามา’’ติ ยํ วจนํ วุตฺตนฺติ โยชนาฯ ‘‘อตฺถโต’’ติ อิมินา สโทฺทปิ คเหตโพฺพ อวินาภาวโตฯ
Tanti agghasamodhānamissakasamodhānaṃ, dātabbanti sambandho. Ettāvatāti etaparimāṇena vacanakkamena, ‘‘ayañhi idha adhippeto parivāso nāmā’’ti (cūḷava. aṭṭha. 102) vacanato paṭṭhāya yāva ‘‘yojetvā dātabba’’nti vacanaṃ, tāva vacanakkamenāti attho. ‘‘Tena hi bhikkhave…pe… dassessāmā’’ti yaṃ vacanaṃ vuttanti yojanā. ‘‘Atthato’’ti iminā saddopi gahetabbo avinābhāvato.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi / เอกาหปฺปฎิจฺฉนฺนปริวาสํ • Ekāhappaṭicchannaparivāsaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / จูฬวคฺค-อฎฺฐกถา • Cūḷavagga-aṭṭhakathā / ปฎิจฺฉนฺนปริวาสกถา • Paṭicchannaparivāsakathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ปริวาสกถาวณฺณนา • Parivāsakathāvaṇṇanā