| Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā |
ปริวาสกถาวณฺณนา
Parivāsakathāvaṇṇanā
๑๐๒. ‘‘สติเยว อนฺตราเย อนฺตรายิกสญฺญี ฉาเทติ, อจฺฉนฺนา โหติฯ อนฺตรายิกสฺส ปน อนนฺตรายิกสญฺญาย ฉาทยโต อจฺฉนฺนาวา’’ติปิ ปาโฐฯ อเวรีติ หิตกาโมฯ อุทฺธเสฺต อรุเณติ อุฎฺฐิเต อรุเณฯ สุทฺธสฺส สนฺติเกติ สภาคสงฺฆาทิเสสํ อนาปนฺนสฺส สนฺติเกฯ วตฺถุนฺติ อสุจิโมจนาทิวีติกฺกมํฯ
102. ‘‘Satiyeva antarāye antarāyikasaññī chādeti, acchannā hoti. Antarāyikassa pana anantarāyikasaññāya chādayato acchannāvā’’tipi pāṭho. Averīti hitakāmo. Uddhaste aruṇeti uṭṭhite aruṇe. Suddhassa santiketi sabhāgasaṅghādisesaṃ anāpannassa santike. Vatthunti asucimocanādivītikkamaṃ.
สุกฺกวิสฺสฎฺฐีติ วตฺถุ เจว โคตฺตญฺจาติ สุกฺกวิสฺสฎฺฐีติ อิทํ อสุจิโมจนลกฺขณสฺส วีติกฺกมสฺส ปกาสนโต วตฺถุ เจว โหติ, สชาติยสาธารณวิชาติยวินิวตฺตสภาวาย สุกฺกวิสฺสฎฺฐิยา เอว ปกาสนโต โคตฺตญฺจ โหตีติ อโตฺถฯ คํ ตายตีติ หิ โคตฺตํฯ สงฺฆาทิเสโสติ นามเญฺจว อาปตฺติ จาติ สงฺฆาทิเสโสติ เตน เตน วีติกฺกเมน อาปนฺนสฺส อาปตฺตินิกายสฺส นามปฺปกาสนโต นามเญฺจว โหติ อาปตฺติสภาคตฺตา อาปตฺติ จฯ
Sukkavissaṭṭhītivatthu ceva gottañcāti sukkavissaṭṭhīti idaṃ asucimocanalakkhaṇassa vītikkamassa pakāsanato vatthu ceva hoti, sajātiyasādhāraṇavijātiyavinivattasabhāvāya sukkavissaṭṭhiyā eva pakāsanato gottañca hotīti attho. Gaṃ tāyatīti hi gottaṃ. Saṅghādisesotināmañceva āpatti cāti saṅghādisesoti tena tena vītikkamena āpannassa āpattinikāyassa nāmappakāsanato nāmañceva hoti āpattisabhāgattā āpatti ca.
ตทนุรูปํ กมฺมวาจํ กตฺวา มานตฺตํ ทาตพฺพนฺติ –
Tadanurūpaṃ kammavācaṃ katvā mānattaṃ dātabbanti –
‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ เอกํ อาปตฺติํ อาปชฺชิ สเญฺจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฎฺฐิํ เอกาหปฎิจฺฉนฺนํ, โส สงฺฆํ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สเญฺจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฎฺฐิยา เอกาหปฎิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ ยาจิฯ สโงฺฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน เอกิสฺสา อาปตฺติยา สเญฺจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฎฺฐิยา เอกาหปฎิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ อทาสิฯ โส ปริวุตฺถปริวาโสฯ อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ เอกํ อาปตฺติํ อาปชฺชิ สเญฺจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฎฺฐิํ อปฺปฎิจฺฉนฺนํ, โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สเญฺจตนิกานํ สุกฺกวิสฺสฎฺฐีนํ ปฎิจฺฉนฺนาย จ อปฺปฎิจฺฉนฺนาย จ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจติฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทฺวินฺนํ อาปตฺตีนํ สเญฺจตนิกานํ สุกฺกวิสฺสฎฺฐีนํ ปฎิจฺฉนฺนาย จ อปฺปฎิจฺฉนฺนาย จ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ทเทยฺย, เอสา ญตฺติฯ
‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho, ayaṃ itthannāmo bhikkhu ekaṃ āpattiṃ āpajji sañcetanikaṃ sukkavissaṭṭhiṃ ekāhapaṭicchannaṃ, so saṅghaṃ ekissā āpattiyā sañcetanikāya sukkavissaṭṭhiyā ekāhapaṭicchannāya ekāhaparivāsaṃ yāci. Saṅgho itthannāmassa bhikkhuno ekissā āpattiyā sañcetanikāya sukkavissaṭṭhiyā ekāhapaṭicchannāya ekāhaparivāsaṃ adāsi. So parivutthaparivāso. Ayaṃ itthannāmo bhikkhu ekaṃ āpattiṃ āpajji sañcetanikaṃ sukkavissaṭṭhiṃ appaṭicchannaṃ, so saṅghaṃ tāsaṃ āpattīnaṃ sañcetanikānaṃ sukkavissaṭṭhīnaṃ paṭicchannāya ca appaṭicchannāya ca chārattaṃ mānattaṃ yācati. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho itthannāmassa bhikkhuno dvinnaṃ āpattīnaṃ sañcetanikānaṃ sukkavissaṭṭhīnaṃ paṭicchannāya ca appaṭicchannāya ca chārattaṃ mānattaṃ dadeyya, esā ñatti.
สุณาตุ เม, ภเนฺต…เป.… โส ปริวุตฺถปริวาโสฯ อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ เอกํ อาปตฺติํ อาปชฺชิ สเญฺจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฎฺฐิํ อปฺปฎิจฺฉนฺนํ, โส สงฺฆํ ตาสํ…เป.… ยาจติฯ สโงฺฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทฺวินฺนํ อาปตฺตีนํ สเญฺจตนิกานํ สุกฺกวิสฺสฎฺฐีนํ ปฎิจฺฉนฺนาย จ อปฺปฎิจฺฉนฺนาย จ ฉารตฺตํ มานตฺตํ เทติฯ ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทฺวินฺนํ อาปตฺตีนํ สเญฺจตนิกานํ สุกฺกวิสฺสฎฺฐีนํ ปฎิจฺฉนฺนาย จ อปฺปฎิจฺฉนฺนาย จ ฉารตฺตํ มานตฺตสฺส ทานํ, โส ตุณฺหสฺสฯ ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยฯ
Suṇātu me, bhante…pe… so parivutthaparivāso. Ayaṃ itthannāmo bhikkhu ekaṃ āpattiṃ āpajji sañcetanikaṃ sukkavissaṭṭhiṃ appaṭicchannaṃ, so saṅghaṃ tāsaṃ…pe… yācati. Saṅgho itthannāmassa bhikkhuno dvinnaṃ āpattīnaṃ sañcetanikānaṃ sukkavissaṭṭhīnaṃ paṭicchannāya ca appaṭicchannāya ca chārattaṃ mānattaṃ deti. Yassāyasmato khamati itthannāmassa bhikkhuno dvinnaṃ āpattīnaṃ sañcetanikānaṃ sukkavissaṭṭhīnaṃ paṭicchannāya ca appaṭicchannāya ca chārattaṃ mānattassa dānaṃ, so tuṇhassa. Yassa nakkhamati, so bhāseyya.
ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป.… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป.…
Dutiyampi etamatthaṃ vadāmi…pe… tatiyampi etamatthaṃ vadāmi…pe…
ทินฺนํ สเงฺฆน อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทฺวินฺนํ อาปตฺตีนํ สเญฺจตนิกานํ สุกฺกวิสฺสฎฺฐีนํ ปฎิจฺฉนฺนาย จ อปฺปฎิจฺฉนฺนาย จ ฉารตฺตํ มานตฺตํ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหีฯ เอวเมตํ ธารยามีติ –
Dinnaṃ saṅghena itthannāmassa bhikkhuno dvinnaṃ āpattīnaṃ sañcetanikānaṃ sukkavissaṭṭhīnaṃ paṭicchannāya ca appaṭicchannāya ca chārattaṃ mānattaṃ, khamati saṅghassa, tasmā tuṇhī. Evametaṃ dhārayāmīti –
เอวํ กมฺมวาจํ กตฺวา มานตฺตํ ทาตพฺพํฯ จิณฺณมานตฺตสฺส จ อิมินาว นเยน กมฺมวาจํ โยเชตฺวา อพฺภานํ กาตพฺพํฯ
Evaṃ kammavācaṃ katvā mānattaṃ dātabbaṃ. Ciṇṇamānattassa ca imināva nayena kammavācaṃ yojetvā abbhānaṃ kātabbaṃ.
อญฺญสฺมินฺติ สุทฺธนฺตปริวาสวเสน อาปตฺติวุฎฺฐานโต อญฺญสฺมิํฯ ทสสตํ อาปตฺติโย รตฺติสตํ ฉาทยิตฺวาติ โยเชตพฺพํฯ
Aññasminti suddhantaparivāsavasena āpattivuṭṭhānato aññasmiṃ. Dasasataṃ āpattiyo rattisataṃ chādayitvāti yojetabbaṃ.
ปริวาสกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Parivāsakathāvaṇṇanā niṭṭhitā.
อตฺตโน สีมํ โสเธตฺวา วิหารสีมายาติ วิหาเร พทฺธสีมเมว สนฺธาย วุตฺตํฯ วิหารูปจารโตปิ เทฺว เลฑฺฑุปาตา อติกฺกมิตพฺพาติ ภิกฺขุวิหารํ สนฺธาย วทติ คามูปจาราติกฺกเมเนว ภิกฺขุนีวิหารูปจาราติกฺกมสฺส สิทฺธตฺตาฯ วิหารสฺส จาติ ภิกฺขุวิหารสฺสฯ คามสฺสาติ น วุตฺตนฺติ คามสฺส อุปจารํ มุญฺจิตุํ วฎฺฎตีติ น วุตฺตํ, ตสฺมา คามูปจาเรปิ วฎฺฎตีติ อธิปฺปาโยฯ
Attano sīmaṃ sodhetvā vihārasīmāyāti vihāre baddhasīmameva sandhāya vuttaṃ. Vihārūpacāratopi dve leḍḍupātā atikkamitabbāti bhikkhuvihāraṃ sandhāya vadati gāmūpacārātikkameneva bhikkhunīvihārūpacārātikkamassa siddhattā. Vihārassa cāti bhikkhuvihārassa. Gāmassāti na vuttanti gāmassa upacāraṃ muñcituṃ vaṭṭatīti na vuttaṃ, tasmā gāmūpacārepi vaṭṭatīti adhippāyo.
ตเตฺถว ฐานํ ปจฺจาสีสนฺตีติ ภิกฺขูนํ ฐานํ ปจฺจาสีสนฺติฯ ปริวาสวตฺตาทีนนฺติ ปริวาสนิสฺสยปฎิปฺปสฺสทฺธิอาทีนํฯ ยุตฺตตรํ ทิสฺสตีติ อิมินา อนิกฺขิตฺตวตฺตภิกฺขุนา วิย ภิกฺขุนิยาปิ อโนฺตอุปจารสีมคตานํเยว อาโรเจตพฺพํ, น คาเม ฐิตานมฺปิ คนฺตฺวา อาโรเจตพฺพนฺติ ทีเปติฯ ตสฺมิํ คาเมติ ยสฺมิํ คาเม ภิกฺขุนุปสฺสโย โหติ, ตสฺมิํ คาเมฯ พหิ อุปจารสีมาย ฐตฺวาติ อุปจารสีมโต พหิ ฐตฺวาฯ สมฺมนฺนิตฺวา ทาตพฺพาติ เอตฺถ สมฺมนฺนิตฺวา ทินฺนาย สหวาเสปิ รตฺติเจฺฉโท น โหติฯ
Tattheva ṭhānaṃ paccāsīsantīti bhikkhūnaṃ ṭhānaṃ paccāsīsanti. Parivāsavattādīnanti parivāsanissayapaṭippassaddhiādīnaṃ. Yuttataraṃ dissatīti iminā anikkhittavattabhikkhunā viya bhikkhuniyāpi antoupacārasīmagatānaṃyeva ārocetabbaṃ, na gāme ṭhitānampi gantvā ārocetabbanti dīpeti. Tasmiṃ gāmeti yasmiṃ gāme bhikkhunupassayo hoti, tasmiṃ gāme. Bahi upacārasīmāya ṭhatvāti upacārasīmato bahi ṭhatvā. Sammannitvā dātabbāti ettha sammannitvā dinnāya sahavāsepi ratticchedo na hoti.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi / เอกาหปฺปฎิจฺฉนฺนปริวาสํ • Ekāhappaṭicchannaparivāsaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / จูฬวคฺค-อฎฺฐกถา • Cūḷavagga-aṭṭhakathā / ปฎิจฺฉนฺนปริวาสกถา • Paṭicchannaparivāsakathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ปริวาสกถาวณฺณนา • Parivāsakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ปฎิจฺฉนฺนปริวาสกถาวณฺณนา • Paṭicchannaparivāsakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ปฎิจฺฉนฺนปริวาสกถา • Paṭicchannaparivāsakathā
