Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วินยวินิจฺฉย-ฎีกา • Vinayavinicchaya-ṭīkā |
จูฬวโคฺค
Cūḷavaggo
ปาริวาสิกกฺขนฺธกกถาวณฺณนา
Pārivāsikakkhandhakakathāvaṇṇanā
๒๗๔๘. เอวํ มหาวคฺควินิจฺฉยํ สเงฺขเปน ทเสฺสตฺวา จูฬวคฺคาคตวินิจฺฉยํ ทเสฺสตุมาห ‘‘ตชฺชนีย’’นฺติอาทิฯ ตชฺชนียนฺติ กลหการกานํ ภิกฺขูนํ ตโต วิรมนตฺถาย นิคฺคหวเสน อนุญฺญาตํ ญตฺติจตุตฺถํ ตชฺชนียกมฺมญฺจฯ นิยสฺสนฺติ พาลสฺส อพฺยตฺตสฺส อาปตฺติพหุลสฺส อนปทานสฺส อนนุโลมิเกหิ คิหิสํสเคฺคหิ สํสฎฺฐสฺส วิหรโต ภิกฺขุโน นิคฺคหวเสน นิสฺสาย วสนตฺถาย กาตุํ อนุญฺญาตํ ญตฺติจตุตฺถํ นิยสฺสกมฺมญฺจฯ
2748. Evaṃ mahāvaggavinicchayaṃ saṅkhepena dassetvā cūḷavaggāgatavinicchayaṃ dassetumāha ‘‘tajjanīya’’ntiādi. Tajjanīyanti kalahakārakānaṃ bhikkhūnaṃ tato viramanatthāya niggahavasena anuññātaṃ ñatticatutthaṃ tajjanīyakammañca. Niyassanti bālassa abyattassa āpattibahulassa anapadānassa ananulomikehi gihisaṃsaggehi saṃsaṭṭhassa viharato bhikkhuno niggahavasena nissāya vasanatthāya kātuṃ anuññātaṃ ñatticatutthaṃ niyassakammañca.
ปพฺพาชนฺติ กุลทูสกสฺส ภิกฺขุโน ยตฺถ เตน กุลทูสนํ กตํ, ตตฺถ น ลภิตพฺพอาวาสตฺถาย นิคฺคหวเสน อนุญฺญาตํ ญตฺติจตุตฺถํ ปพฺพาชนียกมฺมญฺจฯ ปฎิสารณนฺติ สทฺธสฺส อุปาสกสฺส ทายกสฺส การกสฺส สงฺฆุปฎฺฐากสฺส ชาติอาทีหิ อโกฺกสวตฺถูหิ อโกฺกสกสฺส ภิกฺขุโน ตํขมาปนตฺถาย นิคฺคหวเสน อนุญฺญาตํ ญตฺติจตุตฺถํ ปฎิสารณียกมฺมญฺจฯ
Pabbājanti kuladūsakassa bhikkhuno yattha tena kuladūsanaṃ kataṃ, tattha na labhitabbaāvāsatthāya niggahavasena anuññātaṃ ñatticatutthaṃ pabbājanīyakammañca. Paṭisāraṇanti saddhassa upāsakassa dāyakassa kārakassa saṅghupaṭṭhākassa jātiādīhi akkosavatthūhi akkosakassa bhikkhuno taṃkhamāpanatthāya niggahavasena anuññātaṃ ñatticatutthaṃ paṭisāraṇīyakammañca.
ติวิธุเกฺขปนนฺติ อาปตฺติยา อทสฺสเน, อาปตฺติยา อปฺปฎิกเมฺม, ปาปิกาย ทิฎฺฐิยา อปฺปฎินิสฺสเคฺค จ ตโต โอรมิตุํ นิคฺคหวเสน อนุญฺญาตํ ญตฺติจตุตฺถํ ติวิธํ อุเกฺขปนียกมฺมญฺจาติฯ ทีปเยติ ปาฬิยา, อฎฺฐกถาย จ วุตฺตนเยน ปกาเสยฺยาติ อโตฺถฯ
Tividhukkhepananti āpattiyā adassane, āpattiyā appaṭikamme, pāpikāya diṭṭhiyā appaṭinissagge ca tato oramituṃ niggahavasena anuññātaṃ ñatticatutthaṃ tividhaṃ ukkhepanīyakammañcāti. Dīpayeti pāḷiyā, aṭṭhakathāya ca vuttanayena pakāseyyāti attho.
ตชฺชนียาทิกมฺมานํ โอสารณนิสฺสารณวเสน ปเจฺจกํ ทุวิธเตฺตปิ ตํ เภทํ อนามสิตฺวา เกวลํ ชาติวเสน ‘‘สตฺต กมฺมานี’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ ยถา ทสฺสิโต ปเนเตสํ วิเสโส อตฺถุปฺปตฺติวเสนาติ ทฎฺฐโพฺพฯ วิตฺถาโร ปเนสํ กมฺมกฺขนฺธกโต เวทิตโพฺพฯ
Tajjanīyādikammānaṃ osāraṇanissāraṇavasena paccekaṃ duvidhattepi taṃ bhedaṃ anāmasitvā kevalaṃ jātivasena ‘‘satta kammānī’’ti vuttanti veditabbaṃ. Yathā dassito panetesaṃ viseso atthuppattivasenāti daṭṭhabbo. Vitthāro panesaṃ kammakkhandhakato veditabbo.
๒๗๔๙. ขนฺธเก กมฺมสงฺขาเต ขนฺธเก อาคตานิ เตจตฺตาลีส วตฺตานิฯ ตทนนฺตเรติ ตสฺส กมฺมกฺขนฺธกสฺส อนนฺตเรฯ ขนฺธเกติ ปาริวาสิกกฺขนฺธเกฯ นว อธิกานิ เยสํ เต นวาธิกานิ ติํเสว วตฺตานิ, เอกูนจตฺตาลีส วตฺตานีติ วุตฺตํ โหติฯ
2749.Khandhake kammasaṅkhāte khandhake āgatāni tecattālīsa vattāni. Tadanantareti tassa kammakkhandhakassa anantare. Khandhaketi pārivāsikakkhandhake. Nava adhikāni yesaṃ te navādhikāni tiṃseva vattāni, ekūnacattālīsa vattānīti vuttaṃ hoti.
กมฺมกฺขนฺธเก ตาว –
Kammakkhandhake tāva –
‘‘อาปตฺติยา อทสฺสเน อุเกฺขปนียกมฺมกเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา สมฺมา วตฺติตพฺพํฯ ตตฺรายํ สมฺมาวตฺตนา – น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตโพฺพ, น สามเณโร อุปฎฺฐาเปตโพฺพ, น ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติ สาทิตพฺพา, สมฺมเตนาปิ ภิกฺขุนิโย น โอวทิตพฺพา, ยาย อาปตฺติยา สเงฺฆน อาปตฺติยา อทสฺสเน อุเกฺขปนียกมฺมํ กตํ โหติ, สา อาปตฺติ น อาปชฺชิตพฺพา, อญฺญา วา ตาทิสิกา, ตโต วา ปาปิฎฺฐตรา, กมฺมํ น ครหิตพฺพํ, กมฺมิกา น ครหิตพฺพา, น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ ปจฺจุฎฺฐานํ อญฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ อาสนาภิหาโร เสยฺยาภิหาโร ปาโททกํ ปาทปีฐํ ปาทกถลิกํ ปตฺตจีวรปฎิคฺคหณํ นหาเน ปิฎฺฐิปริกมฺมํ สาทิตพฺพํ, น ปกตโตฺต ภิกฺขุ สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตโพฺพ, น อาจารวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตโพฺพ, น ทิฎฺฐิวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตโพฺพ, น อาชีววิปตฺติยา อนุทฺธํเสตโพฺพ, น ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ เภเทตโพฺพ, น คิหิทฺธโช ธาเรตโพฺพ, น ติตฺถิยทฺธโช ธาเรตโพฺพ, น ติตฺถิยา เสวิตพฺพา, ภิกฺขู เสวิตพฺพา, ภิกฺขุสิกฺขาย สิกฺขิตพฺพํ, น ปกตเตฺตน ภิกฺขุนา สทฺธิํ เอกจฺฉเนฺน อาวาเส วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉเนฺน อนาวาเส วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉเนฺน อาวาเส วา อนาวาเส วา วตฺถพฺพํ, ปกตตฺตํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา อาสนา วุฎฺฐาตพฺพํ, น ปกตโตฺต ภิกฺขุ อาสาเทตโพฺพ อโนฺต วา พหิ วา, น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อุโปสโถ ฐเปตโพฺพ, น ปวารณา ฐเปตพฺพา, น สวจนียํ กาตพฺพํ, น อนุวาโท ปฎฺฐเปตโพฺพ, น โอกาโส กาเรตโพฺพ, น โจเทตโพฺพ, น สาเรตโพฺพ, น ภิกฺขูหิ สมฺปโยเชตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๕๑) –
‘‘Āpattiyā adassane ukkhepanīyakammakatena, bhikkhave, bhikkhunā sammā vattitabbaṃ. Tatrāyaṃ sammāvattanā – na upasampādetabbaṃ, na nissayo dātabbo, na sāmaṇero upaṭṭhāpetabbo, na bhikkhunovādakasammuti sāditabbā, sammatenāpi bhikkhuniyo na ovaditabbā, yāya āpattiyā saṅghena āpattiyā adassane ukkhepanīyakammaṃ kataṃ hoti, sā āpatti na āpajjitabbā, aññā vā tādisikā, tato vā pāpiṭṭhatarā, kammaṃ na garahitabbaṃ, kammikā na garahitabbā, na pakatattassa bhikkhuno abhivādanaṃ paccuṭṭhānaṃ añjalikammaṃ sāmīcikammaṃ āsanābhihāro seyyābhihāro pādodakaṃ pādapīṭhaṃ pādakathalikaṃ pattacīvarapaṭiggahaṇaṃ nahāne piṭṭhiparikammaṃ sāditabbaṃ, na pakatatto bhikkhu sīlavipattiyā anuddhaṃsetabbo, na ācāravipattiyā anuddhaṃsetabbo, na diṭṭhivipattiyā anuddhaṃsetabbo, na ājīvavipattiyā anuddhaṃsetabbo, na bhikkhu bhikkhūhi bhedetabbo, na gihiddhajo dhāretabbo, na titthiyaddhajo dhāretabbo, na titthiyā sevitabbā, bhikkhū sevitabbā, bhikkhusikkhāya sikkhitabbaṃ, na pakatattena bhikkhunā saddhiṃ ekacchanne āvāse vatthabbaṃ, na ekacchanne anāvāse vatthabbaṃ, na ekacchanne āvāse vā anāvāse vā vatthabbaṃ, pakatattaṃ bhikkhuṃ disvā āsanā vuṭṭhātabbaṃ, na pakatatto bhikkhu āsādetabbo anto vā bahi vā, na pakatattassa bhikkhuno uposatho ṭhapetabbo, na pavāraṇā ṭhapetabbā, na savacanīyaṃ kātabbaṃ, na anuvādo paṭṭhapetabbo, na okāso kāretabbo, na codetabbo, na sāretabbo, na bhikkhūhi sampayojetabba’’nti (cūḷava. 51) –
เอวํ เจตานิ เตจตฺตาลีส วตฺตานิ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เตจตฺตาลีส วตฺตานิ, ขนฺธเก กมฺมสญฺญิเต’’ติฯ
Evaṃ cetāni tecattālīsa vattāni sandhāya vuttaṃ ‘‘tecattālīsa vattāni, khandhake kammasaññite’’ti.
ปาริวาสิกกฺขนฺธเก (จูฬว. ๗๖-๘๒) –
Pārivāsikakkhandhake (cūḷava. 76-82) –
‘‘ปาริวาสิเกน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา สมฺมา วตฺติตพฺพํฯ ตตฺรายํ สมฺมาวตฺตนา – น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตโพฺพ, น สามเณโร อุปฎฺฐาเปตโพฺพ, น ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติ สาทิตพฺพา, สมฺมเตนปิ ภิกฺขุนิโย น โอวทิตพฺพา, ยาย อาปตฺติยา สเงฺฆน ปริวาโส ทิโนฺน โหติ, สา อาปตฺติ น อาปชฺชิตพฺพา, อญฺญา วา ตาทิสิกา, ตโต วา ปาปิฎฺฐตรา, กมฺมํ น ครหิตพฺพํ, กมฺมิกา น ครหิตพฺพา, น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อุโปสโถ ฐเปตโพฺพ, น ปวารณา ฐเปตพฺพา, น สวจนียํ กาตพฺพํ, น อนุวาโท ปฎฺฐเปตโพฺพ, น โอกาโส กาเรตโพฺพ, น โจเทตโพฺพ, น สาเรตโพฺพ, น ภิกฺขูหิ สมฺปโยเชตพฺพํฯ
‘‘Pārivāsikena, bhikkhave, bhikkhunā sammā vattitabbaṃ. Tatrāyaṃ sammāvattanā – na upasampādetabbaṃ, na nissayo dātabbo, na sāmaṇero upaṭṭhāpetabbo, na bhikkhunovādakasammuti sāditabbā, sammatenapi bhikkhuniyo na ovaditabbā, yāya āpattiyā saṅghena parivāso dinno hoti, sā āpatti na āpajjitabbā, aññā vā tādisikā, tato vā pāpiṭṭhatarā, kammaṃ na garahitabbaṃ, kammikā na garahitabbā, na pakatattassa bhikkhuno uposatho ṭhapetabbo, na pavāraṇā ṭhapetabbā, na savacanīyaṃ kātabbaṃ, na anuvādo paṭṭhapetabbo, na okāso kāretabbo, na codetabbo, na sāretabbo, na bhikkhūhi sampayojetabbaṃ.
‘‘น , ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน ปุรโต คนฺตพฺพํ, น ปุรโต นิสีทิตพฺพํ, โย โหติ สงฺฆสฺส อาสนปริยโนฺต เสยฺยาปริยโนฺต วิหารปริยโนฺต, โส ตสฺส ปทาตโพฺพ, เตน จ โส สาทิตโพฺพฯ
‘‘Na , bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā pakatattassa bhikkhuno purato gantabbaṃ, na purato nisīditabbaṃ, yo hoti saṅghassa āsanapariyanto seyyāpariyanto vihārapariyanto, so tassa padātabbo, tena ca so sāditabbo.
‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน ปุเรสมเณน วา ปจฺฉาสมเณน วา กุลานิ อุปสงฺกมิตพฺพานิ, น อารญฺญิกงฺคํ สมาทาตพฺพํ, น ปิณฺฑปาติกงฺคํ สมาทาตพฺพํ, น จ ตปฺปจฺจยา ปิณฺฑปาโต นีหราเปตโพฺพ ‘มา มํ ชานิํสู’ติฯ
‘‘Na, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā pakatattassa bhikkhuno puresamaṇena vā pacchāsamaṇena vā kulāni upasaṅkamitabbāni, na āraññikaṅgaṃ samādātabbaṃ, na piṇḍapātikaṅgaṃ samādātabbaṃ, na ca tappaccayā piṇḍapāto nīharāpetabbo ‘mā maṃ jāniṃsū’ti.
‘‘ปาริวาสิเกน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา อาคนฺตุเกน อาโรเจตพฺพํ, อาคนฺตุกสฺส อาโรเจตพฺพํ, อุโปสเถ อาโรเจตพฺพํ, ปวารณาย อาโรเจตพฺพํ, สเจ คิลาโน โหติ, ทูเตนปิ อาโรเจตพฺพํฯ
‘‘Pārivāsikena, bhikkhave, bhikkhunā āgantukena ārocetabbaṃ, āgantukassa ārocetabbaṃ, uposathe ārocetabbaṃ, pavāraṇāya ārocetabbaṃ, sace gilāno hoti, dūtenapi ārocetabbaṃ.
‘‘น , ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา อภิกฺขุโก อาวาโส คนฺตโพฺพ อญฺญตฺร ปกตเตฺตน อญฺญตฺร อนฺตรายาฯ
‘‘Na , bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā āvāsā abhikkhuko āvāso gantabbo aññatra pakatattena aññatra antarāyā.
‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา อภิกฺขุโก อนาวาโส คนฺตโพฺพ อญฺญตฺร ปกตเตฺตน อญฺญตฺร อนฺตรายาฯ น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา อภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตโพฺพ อญฺญตฺร ปกตเตฺตน อญฺญตฺร อนฺตรายาฯ
‘‘Na, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā āvāsā abhikkhuko anāvāso gantabbo aññatra pakatattena aññatra antarāyā. Na, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā āvāsā abhikkhuko āvāso vā anāvāso vā gantabbo aññatra pakatattena aññatra antarāyā.
‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา อภิกฺขุโก อาวาโส คนฺตโพฺพ อญฺญตฺร ปกตเตฺตน อญฺญตฺร อนฺตรายาฯ น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา อภิกฺขุโก อนาวาโส คนฺตโพฺพ อญฺญตฺร ปกตเตฺตน อญฺญตฺร อนฺตรายาฯ น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา อภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตโพฺพ อญฺญตฺร ปกตเตฺตน อญฺญตฺร อนฺตรายาฯ
‘‘Na, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā anāvāsā abhikkhuko āvāso gantabbo aññatra pakatattena aññatra antarāyā. Na, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā anāvāsā abhikkhuko anāvāso gantabbo aññatra pakatattena aññatra antarāyā. Na, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā anāvāsā abhikkhuko āvāso vā anāvāso vā gantabbo aññatra pakatattena aññatra antarāyā.
‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา อภิกฺขุโก อาวาโส คนฺตโพฺพ อญฺญตฺร ปกตเตฺตน อญฺญตฺร อนฺตรายาฯ น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา อภิกฺขุโก อนาวาโส คนฺตโพฺพ อญฺญตฺร ปกตเตฺตน อญฺญตฺร อนฺตรายาฯ น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา อภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตโพฺพ อญฺญตฺร ปกตเตฺตน อญฺญตฺร อนฺตรายาฯ
‘‘Na, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā āvāsā vā anāvāsā vā abhikkhuko āvāso gantabbo aññatra pakatattena aññatra antarāyā. Na, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā āvāsā vā anāvāsā vā abhikkhuko anāvāso gantabbo aññatra pakatattena aññatra antarāyā. Na, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā āvāsā vā anāvāsā vā abhikkhuko āvāso vā anāvāso vā gantabbo aññatra pakatattena aññatra antarāyā.
‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส คนฺตโพฺพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อญฺญตฺร ปกตเตฺตน อญฺญตฺร อนฺตรายาฯ น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา สภิกฺขุโก อนาวาโส คนฺตโพฺพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อญฺญตฺร ปกตเตฺตน อญฺญตฺร อนฺตรายาฯ น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตโพฺพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อญฺญตฺร ปกตเตฺตน อญฺญตฺร อนฺตรายาฯ
‘‘Na, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā āvāsā sabhikkhuko āvāso gantabbo yatthassu bhikkhū nānāsaṃvāsakā aññatra pakatattena aññatra antarāyā. Na, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā āvāsā sabhikkhuko anāvāso gantabbo yatthassu bhikkhū nānāsaṃvāsakā aññatra pakatattena aññatra antarāyā. Na, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā āvāsā sabhikkhuko āvāso vā anāvāso vā gantabbo yatthassu bhikkhū nānāsaṃvāsakā aññatra pakatattena aññatra antarāyā.
‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส คนฺตโพฺพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อญฺญตฺร ปกตเตฺตน อญฺญตฺร อนฺตรายาฯ น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา สภิกฺขุโก อนาวาโส คนฺตโพฺพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อญฺญตฺร ปกตเตฺตน อญฺญตฺร อนฺตรายาฯ น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตโพฺพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อญฺญตฺร ปกตเตฺตน อญฺญตฺร อนฺตรายาฯ
‘‘Na, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā anāvāsā sabhikkhuko āvāso gantabbo yatthassu bhikkhū nānāsaṃvāsakā aññatra pakatattena aññatra antarāyā. Na, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā anāvāsā sabhikkhuko anāvāso gantabbo yatthassu bhikkhū nānāsaṃvāsakā aññatra pakatattena aññatra antarāyā. Na, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā anāvāsā sabhikkhuko āvāso vā anāvāso vā gantabbo yatthassu bhikkhū nānāsaṃvāsakā aññatra pakatattena aññatra antarāyā.
‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา สภิกฺขุโก อาวาโส คนฺตโพฺพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อญฺญตฺร ปกตเตฺตน อญฺญตฺร อนฺตรายาฯ น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา สภิกฺขุโก อนาวาโส คนฺตโพฺพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อญฺญตฺร ปกตเตฺตน อญฺญตฺร อนฺตรายาฯ น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา สภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตโพฺพ ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา อญฺญตฺร ปกตเตฺตน อญฺญตฺร อนฺตรายาฯ
‘‘Na, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā āvāsā vā anāvāsā vā sabhikkhuko āvāso gantabbo yatthassu bhikkhū nānāsaṃvāsakā aññatra pakatattena aññatra antarāyā. Na, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā āvāsā vā anāvāsā vā sabhikkhuko anāvāso gantabbo yatthassu bhikkhū nānāsaṃvāsakā aññatra pakatattena aññatra antarāyā. Na, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā āvāsā vā anāvāsā vā sabhikkhuko āvāso vā anāvāso vā gantabbo yatthassu bhikkhū nānāsaṃvāsakā aññatra pakatattena aññatra antarāyā.
‘‘คนฺตโพฺพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชญฺญา ‘สโกฺกมิ อเชฺชว คนฺตุ’นฺติฯ
‘‘Gantabbo, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā āvāsā sabhikkhuko āvāso yatthassu bhikkhū samānasaṃvāsakā yaṃ jaññā ‘sakkomi ajjeva gantu’nti.
‘‘คนฺตโพฺพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา สภิกฺขุโก อนาวาโส ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชญฺญา ‘สโกฺกมิ อเชฺชว คนฺตุ’นฺติฯ
‘‘Gantabbo, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā āvāsā sabhikkhuko anāvāso yatthassu bhikkhū samānasaṃvāsakā yaṃ jaññā ‘sakkomi ajjeva gantu’nti.
‘‘คนฺตโพฺพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชญฺญา ‘สโกฺกมิ อเชฺชว คนฺตุ’นฺติฯ
‘‘Gantabbo, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā āvāsā sabhikkhuko āvāso vā anāvāso vā yatthassu bhikkhū samānasaṃvāsakā yaṃ jaññā ‘sakkomi ajjeva gantu’nti.
‘‘คนฺตโพฺพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชญฺญา ‘สโกฺกมิ อเชฺชว คนฺตุ’นฺติฯ
‘‘Gantabbo, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā anāvāsā sabhikkhuko āvāso yatthassu bhikkhū samānasaṃvāsakā yaṃ jaññā ‘sakkomi ajjeva gantu’nti.
‘‘คนฺตโพฺพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา สภิกฺขุโก อนาวาโส ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชญฺญา ‘สโกฺกมิ อเชฺชว คนฺตุ’นฺติฯ
‘‘Gantabbo, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā anāvāsā sabhikkhuko anāvāso yatthassu bhikkhū samānasaṃvāsakā yaṃ jaññā ‘sakkomi ajjeva gantu’nti.
‘‘คนฺตโพฺพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อนาวาสา สภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชญฺญา ‘สโกฺกมิ อเชฺชว คนฺตุ’นฺติฯ
‘‘Gantabbo, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā anāvāsā sabhikkhuko āvāso vā anāvāso vā yatthassu bhikkhū samānasaṃvāsakā yaṃ jaññā ‘sakkomi ajjeva gantu’nti.
‘‘คนฺตโพฺพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา สภิกฺขุโก อาวาโส ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชญฺญา ‘สโกฺกมิ อเชฺชว คนฺตุ’นฺติฯ
‘‘Gantabbo, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā āvāsā vā anāvāsā vā sabhikkhuko āvāso yatthassu bhikkhū samānasaṃvāsakā yaṃ jaññā ‘sakkomi ajjeva gantu’nti.
‘‘คนฺตโพฺพ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา สภิกฺขุโก อนาวาโส ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชญฺญา ‘สโกฺกมิ อเชฺชว คนฺตุ’นฺติฯ
‘‘Gantabbo, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā āvāsā vā anāvāsā vā sabhikkhuko anāvāso yatthassu bhikkhū samānasaṃvāsakā yaṃ jaññā ‘sakkomi ajjeva gantu’nti.
‘‘คนฺตโพฺพ , ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา สภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู สมานสํวาสกา ยํ ชญฺญา ‘สโกฺกมิ อเชฺชว คนฺตุ’นฺติฯ
‘‘Gantabbo , bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā sabhikkhukā āvāsā vā anāvāsā vā sabhikkhuko āvāso vā anāvāso vā yatthassu bhikkhū samānasaṃvāsakā yaṃ jaññā ‘sakkomi ajjeva gantu’nti.
‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปกตเตฺตน ภิกฺขุนา สทฺธิํ เอกจฺฉเนฺน อาวาเส วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉเนฺน อนาวาเส วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉเนฺน อาวาเส วา อนาวาเส วา วตฺถพฺพํ, ปกตตฺตํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา อาสนา วุฎฺฐาตพฺพํ, ปกตโตฺต ภิกฺขุ อาสเนน นิมเนฺตตโพฺพ, น ปกตเตฺตน ภิกฺขุนา สทฺธิํ เอกาสเน นิสีทิตพฺพํ, น นีเจ อาสเน นิสิเนฺน อุเจฺจ อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น ฉมายํ นิสิเนฺน อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น เอกจงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ, น นีเจ จงฺกเม จงฺกมเนฺต อุเจฺจ จงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ, น ฉมายํ จงฺกมเนฺต จงฺกเม จงฺกมิตพฺพํฯ
‘‘Na, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā pakatattena bhikkhunā saddhiṃ ekacchanne āvāse vatthabbaṃ, na ekacchanne anāvāse vatthabbaṃ, na ekacchanne āvāse vā anāvāse vā vatthabbaṃ, pakatattaṃ bhikkhuṃ disvā āsanā vuṭṭhātabbaṃ, pakatatto bhikkhu āsanena nimantetabbo, na pakatattena bhikkhunā saddhiṃ ekāsane nisīditabbaṃ, na nīce āsane nisinne ucce āsane nisīditabbaṃ, na chamāyaṃ nisinne āsane nisīditabbaṃ, na ekacaṅkame caṅkamitabbaṃ, na nīce caṅkame caṅkamante ucce caṅkame caṅkamitabbaṃ, na chamāyaṃ caṅkamante caṅkame caṅkamitabbaṃ.
‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปาริวาสิเกน วุฑฺฒตเรน ภิกฺขุนา สทฺธิํ…เป.… มูลายปฎิกสฺสนารเหน ภิกฺขุนา สทฺธิํ…เป.… มานตฺตารเหน ภิกฺขุนา สทฺธิํ…เป.… มานตฺตจาริเกน ภิกฺขุนา สทฺธิํ…เป.… อพฺภานารเหน ภิกฺขุนา สทฺธิํ เอกจฺฉเนฺน อาวาเส วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉเนฺน อนาวาเส วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉเนฺน อาวาเส วา อนาวาเส วา วตฺถพฺพํ, น เอกาสเน นิสีทิตพฺพํ, น นีเจ อาสเน นิสิเนฺน อุเจฺจ อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น ฉมายํ นิสิเนฺน อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น เอกจงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ, น นีเจ จงฺกเม จงฺกมเนฺต อุเจฺจ จงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ, น ฉมายํ จงฺกมเนฺต จงฺกเม จงฺกมิตพฺพํฯ
‘‘Na, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā pārivāsikena vuḍḍhatarena bhikkhunā saddhiṃ…pe… mūlāyapaṭikassanārahena bhikkhunā saddhiṃ…pe… mānattārahena bhikkhunā saddhiṃ…pe… mānattacārikena bhikkhunā saddhiṃ…pe… abbhānārahena bhikkhunā saddhiṃ ekacchanne āvāse vatthabbaṃ, na ekacchanne anāvāse vatthabbaṃ, na ekacchanne āvāse vā anāvāse vā vatthabbaṃ, na ekāsane nisīditabbaṃ, na nīce āsane nisinne ucce āsane nisīditabbaṃ, na chamāyaṃ nisinne āsane nisīditabbaṃ, na ekacaṅkame caṅkamitabbaṃ, na nīce caṅkame caṅkamante ucce caṅkame caṅkamitabbaṃ, na chamāyaṃ caṅkamante caṅkame caṅkamitabbaṃ.
‘‘ปาริวาสิกจตุโตฺถ เจ, ภิกฺขเว, ปริวาสํ ทเทยฺย, มูลาย ปฎิกเสฺสยฺย, มานตฺตํ ทเทยฺย, ตํวีโส อเพฺภยฺย, อกมฺมํ น จ กรณีย’’นฺติ (จูฬว. ๗๖-๘๒) –
‘‘Pārivāsikacatuttho ce, bhikkhave, parivāsaṃ dadeyya, mūlāya paṭikasseyya, mānattaṃ dadeyya, taṃvīso abbheyya, akammaṃ na ca karaṇīya’’nti (cūḷava. 76-82) –
เอวํ ปาริวาสิกานํ จตุนวุติ วตฺตานิฯ
Evaṃ pārivāsikānaṃ catunavuti vattāni.
สา จ เนสํ จตุนวุติสงฺขา เอวํ เวทิตพฺพา – นอุปสมฺปาทนาทินกมฺมิกครหปริโยสานานิ นว วตฺตานิ, ตโต ปกตตฺตสฺส อุโปสถฎฺฐปนาทิภิกฺขูหิสมฺปโยชนปริโยสานานิ อฎฺฐ, ตโต นปุรโตคมนาที ปญฺจ, นปุเรคมนาที จตฺตาริ, อาคนฺตุเกน อาโรจนาที จตฺตารีติ ติํส, สภิกฺขุกาวาสาทิโต อภิกฺขุกาวาสาทิคมนปอสํยุตฺตานิ ตีณิ นวกานิ จาติ สตฺตปญฺญาส, ตโต นปกตเตฺตน สทฺธิํ เอกจฺฉนฺนวาสาทิปฎิสํยุตฺตานิ เอกาทส, ตโต นปาริวาสิกวุฑฺฒตรมูลายปฎิกสฺสนารหมานตฺตารหมานตฺตจาริกอพฺภานารเหหิ สทฺธิํ เอกจฺฉนฺนวาสาทิปฎิสํยุตฺตานิ ปเจฺจกํ เอกาทส กตฺวา ปญฺจปญฺญาสาย วเตฺตสุ ปาริวาสิกวุฑฺฒตรมูลายปฎิกสฺสนารหมานตฺตารหานํ ติณฺณํ สมานตฺตา เตสุ เอกํ เอกาทสกํ, มานตฺตจาริกอพฺภานารหานํ ทฺวินฺนํ สมานตฺตา เตสุ เอกํ เอกาทสกนฺติ ทุเว เอกาทสกานิ, อเนฺต ปาริวาสิกจตุตฺถสฺส สงฺฆสฺส ปริวาสาทิทานจตุเกฺก คณปูรณตฺถโทสโต นิวตฺติวเสน จตฺตาริ จตฺตารีติ จตุนวุติ วตฺตานิฯ ตานิ อคฺคหิตคฺคหเณน เอกูนจตฺตาลีสวตฺตานิ นามฯ อาทิโต นว, อุโปสถฎฺฐปนาทีนิ อฎฺฐ, ปกตเตฺตน เอกจฺฉนฺนวาสาที จตฺตาริ จาติ เอกวีสติ วตฺตานิ กมฺมกฺขนฺธเก คหิตตฺตา อิธ คณนาย อคฺคเหตฺวา ตโต เสเสสุ เตสตฺตติยา วเตฺตสุ ปาริวาสิกวุฑฺฒตราทีหิ เอกจฺฉเนฺน วาสาทิปฎิสํยุตฺตานิ ทฺวาวีสติ วตฺตานิ ปกตเตฺตหิ สมานตฺตา ตานิ จ ‘‘คนฺตโพฺพ ภิกฺขเว’’ติอาทิกํ นวกํ ตถา คจฺฉนฺตสฺส อนาปตฺติทสฺสนปรํ, น อาวาสโต คจฺฉนฺตสฺส อาปตฺติทสฺสนปรนฺติ ตญฺจ อคฺคเหตฺวา อวเสเสสุ ทฺวาจตฺตาลีสวเตฺตสุ ปาริวาสิกจตอุตฺถาทิกมฺมจตุกฺกํ ครุกาปตฺติวุฎฺฐานาย คณปูรณตฺถสามเญฺญน เอกํ กตฺวา ตโย อปเนตฺวา คณิตานิ เอกูนจตฺตาลีสานิ โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘นวาธิกานิ ติํเสว, ขนฺธเก ตทนนฺตเร’’ติฯ
Sā ca nesaṃ catunavutisaṅkhā evaṃ veditabbā – naupasampādanādinakammikagarahapariyosānāni nava vattāni, tato pakatattassa uposathaṭṭhapanādibhikkhūhisampayojanapariyosānāni aṭṭha, tato napuratogamanādī pañca, napuregamanādī cattāri, āgantukena ārocanādī cattārīti tiṃsa, sabhikkhukāvāsādito abhikkhukāvāsādigamanapaasaṃyuttāni tīṇi navakāni cāti sattapaññāsa, tato napakatattena saddhiṃ ekacchannavāsādipaṭisaṃyuttāni ekādasa, tato napārivāsikavuḍḍhataramūlāyapaṭikassanārahamānattārahamānattacārikaabbhānārahehi saddhiṃ ekacchannavāsādipaṭisaṃyuttāni paccekaṃ ekādasa katvā pañcapaññāsāya vattesu pārivāsikavuḍḍhataramūlāyapaṭikassanārahamānattārahānaṃ tiṇṇaṃ samānattā tesu ekaṃ ekādasakaṃ, mānattacārikaabbhānārahānaṃ dvinnaṃ samānattā tesu ekaṃ ekādasakanti duve ekādasakāni, ante pārivāsikacatutthassa saṅghassa parivāsādidānacatukke gaṇapūraṇatthadosato nivattivasena cattāri cattārīti catunavuti vattāni. Tāni aggahitaggahaṇena ekūnacattālīsavattāni nāma. Ādito nava, uposathaṭṭhapanādīni aṭṭha, pakatattena ekacchannavāsādī cattāri cāti ekavīsati vattāni kammakkhandhake gahitattā idha gaṇanāya aggahetvā tato sesesu tesattatiyā vattesu pārivāsikavuḍḍhatarādīhi ekacchanne vāsādipaṭisaṃyuttāni dvāvīsati vattāni pakatattehi samānattā tāni ca ‘‘gantabbo bhikkhave’’tiādikaṃ navakaṃ tathā gacchantassa anāpattidassanaparaṃ, na āvāsato gacchantassa āpattidassanaparanti tañca aggahetvā avasesesu dvācattālīsavattesu pārivāsikacatautthādikammacatukkaṃ garukāpattivuṭṭhānāya gaṇapūraṇatthasāmaññena ekaṃ katvā tayo apanetvā gaṇitāni ekūnacattālīsāni hontīti vuttaṃ ‘‘navādhikāni tiṃseva, khandhake tadanantare’’ti.
๒๗๕๐. อิมานิ เอกูนจตฺตาลีส วตฺตานิ ปุริเมหิ เตจตฺตาลีสวเตฺตหิ สทฺธิํ ทฺวาสีติ โหนฺตีติ อาห ‘‘เอวํ สพฺพานิ…เป.… คหิตาคหเณน ตู’’ติฯ
2750. Imāni ekūnacattālīsa vattāni purimehi tecattālīsavattehi saddhiṃ dvāsīti hontīti āha ‘‘evaṃ sabbāni…pe… gahitāgahaṇena tū’’ti.
เอวํ กมฺมกฺขนฺธกปาริวาสิกกฺขนฺธเกสุ มเหสินา วุตฺตานิ ขนฺธกวตฺตานิ คหิตาคหเณน ทฺวาสีติ เอว โหนฺตีติ โยชนาฯ เอวเมตฺถ ทฺวาสีติกฺขนฺธกวตฺตานิ ทสฺสิตานิฯ
Evaṃ kammakkhandhakapārivāsikakkhandhakesu mahesinā vuttāni khandhakavattāni gahitāgahaṇena dvāsīti eva hontīti yojanā. Evamettha dvāsītikkhandhakavattāni dassitāni.
อาคมฎฺฐกถาวณฺณนายํ ปน –
Āgamaṭṭhakathāvaṇṇanāyaṃ pana –
‘‘ปาริวาสิกานํ ภิกฺขูนํ วตฺตํ ปญฺญเปสฺสามีติ (จูฬว. ๗๕) อารภิตฺวา ‘น อุปสมฺปาเทตพฺพํ…เป.… น ฉมายํ จงฺกมเนฺต จงฺกเม จงฺกมิตพฺพ’นฺติ (จูฬว. ๗๖-๘๑) วุตฺตาวสานานิ ฉสฎฺฐิ, ตโต ปรํ ‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปาริวาสิเกน วุฑฺฒตเรน ภิกฺขุนา สทฺธิํ, มูลายปฎิกสฺสนารเหน, มานตฺตารเหน, มานตฺตจาริเกน, อพฺภานารเหน ภิกฺขุนา สทฺธิํ เอกจฺฉเนฺน อาวาเส วตฺถพฺพ’นฺติอาทีนํ (จูฬว. ๘๒) ปกตเตฺต จริตเพฺพหิ อนญฺญตฺตา วิสุํ เต อคเณตฺวา ปาริวาสิกวุฑฺฒตราทีสุ ปุคฺคลนฺตเรสุ จริตพฺพตฺตา เตสํ วเสน สมฺปิเณฺฑตฺวา เอเกกํ กตฺวา คณิตานิ ปญฺจาติ เอกสตฺตติ วตฺตานิ, อุเกฺขปนียกมฺมกตวเตฺตสุ วตฺตปญฺญาปนวเสน วุตฺตํ ‘น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ …เป.… นหาเน ปิฎฺฐิปริกมฺมํ สาทิตพฺพ’นฺติ (จูฬว. ๕๑) อิทํ อภิวาทนาทีนํ อสาทิยนํ เอกํ, ‘น ปกตโตฺต ภิกฺขุ สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตโพฺพ’ติอาทีนิ จ ทสาติ เอวเมตานิ ทฺวาสีติ โหนฺติฯ เอเตเสฺวว กานิจิ ตชฺชนียกมฺมาทิวตฺตานิ, กานิจิ ปาริวาสิกาทิวตฺตานีติ อคฺคหิตคฺคหเณน ทฺวาสีติ เอวา’’ติ (ม. นิ. ฎี. ๒.๒๕; สารตฺถ. ฎี. ๒.๓๙; วิ. วิ. ฎี. ๑.๓๙) –
‘‘Pārivāsikānaṃ bhikkhūnaṃ vattaṃ paññapessāmīti (cūḷava. 75) ārabhitvā ‘na upasampādetabbaṃ…pe… na chamāyaṃ caṅkamante caṅkame caṅkamitabba’nti (cūḷava. 76-81) vuttāvasānāni chasaṭṭhi, tato paraṃ ‘na, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā pārivāsikena vuḍḍhatarena bhikkhunā saddhiṃ, mūlāyapaṭikassanārahena, mānattārahena, mānattacārikena, abbhānārahena bhikkhunā saddhiṃ ekacchanne āvāse vatthabba’ntiādīnaṃ (cūḷava. 82) pakatatte caritabbehi anaññattā visuṃ te agaṇetvā pārivāsikavuḍḍhatarādīsu puggalantaresu caritabbattā tesaṃ vasena sampiṇḍetvā ekekaṃ katvā gaṇitāni pañcāti ekasattati vattāni, ukkhepanīyakammakatavattesu vattapaññāpanavasena vuttaṃ ‘na pakatattassa bhikkhuno abhivādanaṃ …pe… nahāne piṭṭhiparikammaṃ sāditabba’nti (cūḷava. 51) idaṃ abhivādanādīnaṃ asādiyanaṃ ekaṃ, ‘na pakatatto bhikkhu sīlavipattiyā anuddhaṃsetabbo’tiādīni ca dasāti evametāni dvāsīti honti. Etesveva kānici tajjanīyakammādivattāni, kānici pārivāsikādivattānīti aggahitaggahaṇena dvāsīti evā’’ti (ma. ni. ṭī. 2.25; sārattha. ṭī. 2.39; vi. vi. ṭī. 1.39) –
วุตฺตํฯ เอตานิ ปน วตฺตานิ กทาจิ ตชฺชนียกมฺมกตาทิกาเล, ปาริวาสิกาทิกาเล จ จริตพฺพานิ ขุทฺทกวตฺตานีติ คเหตพฺพานิ อาคนฺตุกวตฺตาทีนํ จุทฺทสมหาวตฺตานํ วกฺขมานตฺตาฯ
Vuttaṃ. Etāni pana vattāni kadāci tajjanīyakammakatādikāle, pārivāsikādikāle ca caritabbāni khuddakavattānīti gahetabbāni āgantukavattādīnaṃ cuddasamahāvattānaṃ vakkhamānattā.
๒๗๕๑. อิทานิ ปาริวาสิกสฺส ภิกฺขุโน รตฺติเจฺฉทํ, วตฺตเภทญฺจ ทเสฺสตุมาห ‘‘ปริวาสญฺจ วตฺตญฺจา’’ติอาทิฯ ปริวาสญฺจ วตฺตญฺจ สมาทินฺนสฺสาติ ‘‘ปริวาสํ สมาทิยามี’’ติ ปริวาสญฺจ ‘‘วตฺตํ สมาทิยามี’’ติ วตฺตญฺจ ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก อุกฺกุฎิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา วจีเภทํ กตฺวา สมาทินฺนสฺสฯ ภิกฺขุโนติ ปาริวาสิกสฺส ภิกฺขุโนฯ
2751. Idāni pārivāsikassa bhikkhuno ratticchedaṃ, vattabhedañca dassetumāha ‘‘parivāsañca vattañcā’’tiādi. Parivāsañca vattañca samādinnassāti ‘‘parivāsaṃ samādiyāmī’’ti parivāsañca ‘‘vattaṃ samādiyāmī’’ti vattañca pakatattassa bhikkhuno santike ukkuṭikaṃ nisīditvā añjaliṃ paggahetvā vacībhedaṃ katvā samādinnassa. Bhikkhunoti pārivāsikassa bhikkhuno.
๒๗๕๒. สหวาสาทโย ‘‘เอกจฺฉเนฺน’’ติอาทินา สยเมว วกฺขติฯ สหวาโส, วินาวาโส, อนาโรจนเมว จาติ อิเมหิ ตีหิ ปาริวาสิกภิกฺขุสฺส รตฺติเจฺฉโท จ ทุกฺกฎญฺจ โหตีติ โยชนาฯ
2752.Sahavāsādayo ‘‘ekacchanne’’tiādinā sayameva vakkhati. Sahavāso, vināvāso, anārocanameva cāti imehi tīhi pārivāsikabhikkhussa ratticchedo ca dukkaṭañca hotīti yojanā.
๒๗๕๓. อุทกปาเตน สมนฺตา นิพฺพโกสสฺส อุทกปาตฎฺฐาเนนฯ เอกจฺฉเนฺนติ เอกจฺฉเนฺน ปริจฺฉเนฺน วา อปริจฺฉเนฺน วา อาวาเสฯ ปกตเตฺตน ภิกฺขุนา สห อุกฺขิตฺตสฺส นิวาโส นิวาริโตติ โยชนาฯ ‘‘นิวาริโต’’ติ อิมินา ทุกฺกฎํ โหตีติ ทีเปติฯ
2753.Udakapātena samantā nibbakosassa udakapātaṭṭhānena. Ekacchanneti ekacchanne paricchanne vā aparicchanne vā āvāse. Pakatattena bhikkhunā saha ukkhittassa nivāso nivāritoti yojanā. ‘‘Nivārito’’ti iminā dukkaṭaṃ hotīti dīpeti.
๒๗๕๔. อโนฺตเยวาติ เอกจฺฉนฺนสฺส อาวาสปริเจฺฉทสฺส อโนฺตเยวฯ ‘‘น ลพฺภตี’’ติ อิมินา รตฺติเจฺฉโท จ ทุกฺกฎญฺจ โหตีติ ทีเปติฯ
2754.Antoyevāti ekacchannassa āvāsaparicchedassa antoyeva. ‘‘Na labbhatī’’ti iminā ratticchedo ca dukkaṭañca hotīti dīpeti.
๒๗๕๕. มหาอฎฺฐกถาทิสูติ อาทิ-สเทฺทน กุรุนฺทฎฺฐกถาทิํ สงฺคณฺหาติฯ อุภินฺนนฺติ อุกฺขิตฺตกปาริวาสิกานํฯ อิติ อวิเสเสน นิทฺทิฎฺฐนฺติ โยชนาฯ
2755.Mahāaṭṭhakathādisūti ādi-saddena kurundaṭṭhakathādiṃ saṅgaṇhāti. Ubhinnanti ukkhittakapārivāsikānaṃ. Iti avisesena niddiṭṭhanti yojanā.
๒๗๕๖. อิมินา สหวาเสน รตฺติเจฺฉทญฺจ ทุกฺกฎญฺจ ทเสฺสตฺวา วินาวาเสน ทเสฺสตุมาห ‘‘อภิกฺขุเก ปนาวาเส’’ติฯ อาวาเสติ วสนตฺถาย กตเสนาสเนฯ อนาวาเสติ วาสตฺถาย อกเต เจติยฆเร วา โพธิฆเร วา สมฺมชฺชนิอฎฺฎเก วา ทารุอฎฺฎเก วา ปานียมาเฬ วา วจฺจกุฎิยํ วา ทฺวารโกฎฺฐเก วา อญฺญตฺร วา ยตฺถ กตฺถจิ เอวรูเป ฐาเนฯ วิปฺปวาสํ วสนฺตสฺสาติ ปกตเตฺตน วินา วาสํ กเปฺปนฺตสฺสฯ รตฺติเจฺฉโท จ ทุกฺกฎนฺติ รตฺติเจฺฉโท เจว วตฺตเภททุกฺกฎญฺจ โหติฯ
2756. Iminā sahavāsena ratticchedañca dukkaṭañca dassetvā vināvāsena dassetumāha ‘‘abhikkhuke panāvāse’’ti. Āvāseti vasanatthāya katasenāsane. Anāvāseti vāsatthāya akate cetiyaghare vā bodhighare vā sammajjaniaṭṭake vā dāruaṭṭake vā pānīyamāḷe vā vaccakuṭiyaṃ vā dvārakoṭṭhake vā aññatra vā yattha katthaci evarūpe ṭhāne. Vippavāsaṃ vasantassāti pakatattena vinā vāsaṃ kappentassa. Ratticchedo ca dukkaṭanti ratticchedo ceva vattabhedadukkaṭañca hoti.
๒๗๕๗. เอวํ วิปฺปวาเสน รตฺติเจฺฉททุกฺกฎานิ ทเสฺสตฺวา อนาโรจเนน ทเสฺสตุมาห ‘‘ปาริวาสิกภิกฺขุสฺสา’’ติอาทิฯ ภิกฺขุํ ทิสฺวานาติ อากาเสนาปิ คจฺฉนฺตํ สมานสํวาสกํ อาคนฺตุกํ ภิกฺขุํ ทิสฺวาฯ ตงฺขเณติ ตสฺมิํ ทิฎฺฐกฺขเณเยวฯ ‘‘อนาโรเจนฺตสฺส เอว เอตสฺสา’’ติ ปทเจฺฉโทฯ เอวกาเรน รตฺติเจฺฉโท จ ทุกฺกฎญฺจาติ อุภยํ เอตสฺส โหตีติ ทีเปเนฺตน อทิโฎฺฐ เจ, รตฺติเจฺฉโทว โหตีติ ญาเปติฯ ยถาห – ‘‘โสปิสฺส รตฺติเจฺฉทํ กโรติ, อญฺญาตตฺตา ปน วตฺตเภททุกฺกฎํ นตฺถี’’ติ (จูฬว. อฎฺฐ. ๗๕)ฯ นานาสํวาสเกน สห วินยกมฺมํ กาตุํ น วฎฺฎติ, ตสฺส อนาโรจเนปิ รตฺติเจฺฉโท น โหติฯ
2757. Evaṃ vippavāsena ratticchedadukkaṭāni dassetvā anārocanena dassetumāha ‘‘pārivāsikabhikkhussā’’tiādi. Bhikkhuṃ disvānāti ākāsenāpi gacchantaṃ samānasaṃvāsakaṃ āgantukaṃ bhikkhuṃ disvā. Taṅkhaṇeti tasmiṃ diṭṭhakkhaṇeyeva. ‘‘Anārocentassa eva etassā’’ti padacchedo. Evakārena ratticchedo ca dukkaṭañcāti ubhayaṃ etassa hotīti dīpentena adiṭṭho ce, ratticchedova hotīti ñāpeti. Yathāha – ‘‘sopissa ratticchedaṃ karoti, aññātattā pana vattabhedadukkaṭaṃ natthī’’ti (cūḷava. aṭṭha. 75). Nānāsaṃvāsakena saha vinayakammaṃ kātuṃ na vaṭṭati, tassa anārocanepi ratticchedo na hoti.
๒๗๕๘-๙. ปาริวาสิโก ภิกฺขุ ยตฺถ สงฺฆนวกฎฺฐาเน ฐิโต, ตเตฺถว ตสฺมิํเยว ฐาเน ฐตฺวา ยถาวุฑฺฒํ ปกตเตฺตหิปิ สทฺธิํ วุฑฺฒปฎิปาฎิยา ปญฺจ กิจฺจานิ กาตุํ วฎฺฎตีติ โยชนาฯ
2758-9.Pārivāsiko bhikkhu yattha saṅghanavakaṭṭhāne ṭhito, tattheva tasmiṃyeva ṭhāne ṭhatvā yathāvuḍḍhaṃ pakatattehipi saddhiṃ vuḍḍhapaṭipāṭiyā pañca kiccāni kātuṃ vaṭṭatīti yojanā.
ตานิ สรูปโต ทเสฺสตุมาห ‘‘อุโปสถปวารณ’’นฺติอาทิฯ อุโปสถปวารณํ ยถาวุฑฺฒํ กาตุํ ลภตีติ โยชนาฯ เทนฺตีติ เอตฺถ ‘‘ฆณฺฎิํ ปหริตฺวา’’ติ เสโสฯ สงฺฆทายกาติ กมฺมธารยสมาโสฯ สงฺฆสฺส เอกเตฺตปิ ครูสุ พหุวจนนิเทฺทโสฯ ‘‘เทติ เจ สงฺฆทายโก’’ติปิ ปาโฐฯ ตตฺถ ฆณฺฎิํ ปหริตฺวา ภาเชตฺวา เทโนฺต สโงฺฆ วสฺสิกสาฎิกํ เทติ เจ, ปาริวาสิโก ยถาวุฑฺฒํ อตฺตโน ปตฺตฎฺฐาเน ลภตีติ โยชนาฯ
Tāni sarūpato dassetumāha ‘‘uposathapavāraṇa’’ntiādi. Uposathapavāraṇaṃ yathāvuḍḍhaṃ kātuṃ labhatīti yojanā. Dentīti ettha ‘‘ghaṇṭiṃ paharitvā’’ti seso. Saṅghadāyakāti kammadhārayasamāso. Saṅghassa ekattepi garūsu bahuvacananiddeso. ‘‘Deti ce saṅghadāyako’’tipi pāṭho. Tattha ghaṇṭiṃ paharitvā bhājetvā dento saṅgho vassikasāṭikaṃ deti ce, pārivāsiko yathāvuḍḍhaṃ attano pattaṭṭhāne labhatīti yojanā.
โอโณชนนฺติ วิสฺสชฺชนํ, สงฺฆโต อตฺตโน ปตฺตานํ ทฺวินฺนํ, ติณฺณํ วา อุเทฺทสภตฺตาทีนํ อตฺตโน ปุคฺคลิกภตฺตปจฺจาสาย ปฎิคฺคเหตฺวา ‘‘มยฺหํ อชฺช ภตฺตปจฺจาสา อตฺถิ, เสฺว คณฺหิสฺสามี’’ติ วตฺวา สงฺฆวิสฺสชฺชนํ ลภตีติ วุตฺตํ โหติฯ ภตฺตนฺติ อาคตาคเตหิ วุฑฺฒปฎิปาฎิยา คเหตฺวา คนฺตพฺพํ วิหาเร สงฺฆสฺส จตุสฺสาลภตฺตํฯ ตถา ปาริวาสิโก ยถาวุฑฺฒํ ลภตีติ โยชนาฯ อิเม ปญฺจาติ วุตฺตเมวตฺถํ นิคมยติฯ
Oṇojananti vissajjanaṃ, saṅghato attano pattānaṃ dvinnaṃ, tiṇṇaṃ vā uddesabhattādīnaṃ attano puggalikabhattapaccāsāya paṭiggahetvā ‘‘mayhaṃ ajja bhattapaccāsā atthi, sve gaṇhissāmī’’ti vatvā saṅghavissajjanaṃ labhatīti vuttaṃ hoti. Bhattanti āgatāgatehi vuḍḍhapaṭipāṭiyā gahetvā gantabbaṃ vihāre saṅghassa catussālabhattaṃ. Tathā pārivāsiko yathāvuḍḍhaṃ labhatīti yojanā. Ime pañcāti vuttamevatthaṃ nigamayati.
ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (จูฬว. อฎฺฐ. ๗๕) – อุโปสถปวารเณ ตาว ปาติโมเกฺข อุทฺทิสฺสมาเน หตฺถปาเส นิสีทิตุํ วฎฺฎติฯ มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ปาฬิยา อนิสีทิตฺวา ปาฬิํ วิหาย หตฺถปาสํ อมุญฺจเนฺตน นิสีทิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํฯ ปาริสุทฺธิอุโปสเถ กริยมาเน สงฺฆนวกฎฺฐาเน นิสีทิตฺวา ตเตฺถว นิสิเนฺนน อตฺตโน ปาฬิยา ปาริสุทฺธิอุโปสโถ กาตโพฺพวฯ ปวารณายปิ สงฺฆนวกฎฺฐาเน นิสีทิตฺวา ตเตฺถว นิสิเนฺนน อตฺตโน ปาฬิยา ปวาเรตพฺพํฯ สเงฺฆน ฆณฺฎิํ ปหริตฺวา ภาชิยมานํ วสฺสิกสาฎิกมฺปิ อตฺตโน ปตฺตฎฺฐาเน คเหตุํ วฎฺฎติฯ
Tatrāyaṃ vinicchayo (cūḷava. aṭṭha. 75) – uposathapavāraṇe tāva pātimokkhe uddissamāne hatthapāse nisīdituṃ vaṭṭati. Mahāpaccariyaṃ pana ‘‘pāḷiyā anisīditvā pāḷiṃ vihāya hatthapāsaṃ amuñcantena nisīditabba’’nti vuttaṃ. Pārisuddhiuposathe kariyamāne saṅghanavakaṭṭhāne nisīditvā tattheva nisinnena attano pāḷiyā pārisuddhiuposatho kātabbova. Pavāraṇāyapi saṅghanavakaṭṭhāne nisīditvā tattheva nisinnena attano pāḷiyā pavāretabbaṃ. Saṅghena ghaṇṭiṃ paharitvā bhājiyamānaṃ vassikasāṭikampi attano pattaṭṭhāne gahetuṃ vaṭṭati.
โอโณชเน สเจ ปาริวาสิกสฺส เทฺว ตีณิ อุเทฺทสภตฺตาทีนิ ปาปุณนฺติ, อญฺญา จสฺส ปุคฺคลิกภตฺตปจฺจาสา โหติ, ตานิ ปฎิปาฎิยา คเหตฺวา ‘‘ภเนฺต, เหฎฺฐา คาเหถ, อชฺช มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสา อตฺถิ, เสฺวว คณฺหิสฺสามี’’ติ วตฺวา วิสฺสเชฺชตพฺพานิ, เอวํ ตานิ ปุนทิวเสสุ คณฺหิตุํ ลภติฯ ‘‘ปุนทิวเส สพฺพปฐมํ เอตสฺส ทาตพฺพ’’นฺติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํฯ ยทิ ปน น คณฺหาติ น วิสฺสเชฺชติ, ปุนทิวเส น ลภติฯ อิทํ โอโณชนํ นาม ปาริวาสิกเสฺสว โอทิสฺส อนุญฺญาตํฯ กสฺมา? ตสฺส หิ สงฺฆนวกฎฺฐาเน นิสินฺนสฺส ภตฺตเคฺค ยาคุขชฺชกาทีนิ ปาปุณนฺติ วา น วา, ตสฺมา ‘‘โส ภิกฺขาหาเรน มา กิลมิตฺถา’’ติ อิทมสฺส สงฺคหกรณตฺถาย โอทิสฺส อนุญฺญาตํฯ
Oṇojane sace pārivāsikassa dve tīṇi uddesabhattādīni pāpuṇanti, aññā cassa puggalikabhattapaccāsā hoti, tāni paṭipāṭiyā gahetvā ‘‘bhante, heṭṭhā gāhetha, ajja mayhaṃ bhattapaccāsā atthi, sveva gaṇhissāmī’’ti vatvā vissajjetabbāni, evaṃ tāni punadivasesu gaṇhituṃ labhati. ‘‘Punadivase sabbapaṭhamaṃ etassa dātabba’’nti kurundiyaṃ vuttaṃ. Yadi pana na gaṇhāti na vissajjeti, punadivase na labhati. Idaṃ oṇojanaṃ nāma pārivāsikasseva odissa anuññātaṃ. Kasmā? Tassa hi saṅghanavakaṭṭhāne nisinnassa bhattagge yāgukhajjakādīni pāpuṇanti vā na vā, tasmā ‘‘so bhikkhāhārena mā kilamitthā’’ti idamassa saṅgahakaraṇatthāya odissa anuññātaṃ.
ภเตฺต จตุสฺสาลภตฺตํ ยถาวุฑฺฒํ ลภติ, ปาฬิยา ปน คนฺตุํ วา ฐาตุํ วา น ลภติฯ ตสฺมา ปาฬิโต โอสกฺกิตฺวา หตฺถปาเส ฐิเตน หตฺถํ ปสาเรตฺวา ยถา เสโน นิปติตฺวา คณฺหาติ, เอวํ คณฺหิตพฺพํฯ อารามิกสมณุเทฺทเสหิ อาหราเปตุํ น ลภติฯ สเจ สยเมว อาหรนฺติ, วฎฺฎติฯ รโญฺญ มหาเปฬภเตฺตปิ เอเสว นโยฯ จตุสฺสาลภเตฺต ปน สเจ โอโณชนํ กตฺตุกาโม โหติ, อตฺตโน อตฺถาย อุกฺขิเตฺต ปิเณฺฑ ‘‘อชฺช เม ภตฺตํ อตฺถิ, เสฺวว คณฺหิสฺสามี’’ติ วตฺตพฺพํฯ ‘‘ปุนทิวเส เทฺว ปิเณฺฑ ลภตี’’ติ (จูฬว. อฎฺฐ. ๗๕) มหาปจฺจริยํ วุตฺตํฯ อุเทฺทสภตฺตาทีนิปิ ปาฬิโต โอสกฺกิตฺวาว คเหตพฺพานิฯ ยตฺถ ปน นิสีทาเปตฺวา ปริวิสนฺติ , ตตฺถ สามเณรานํ เชฎฺฐเกน ภิกฺขูนํ สงฺฆนวเกน หุตฺวา นิสีทิตพฺพนฺติฯ
Bhatte catussālabhattaṃ yathāvuḍḍhaṃ labhati, pāḷiyā pana gantuṃ vā ṭhātuṃ vā na labhati. Tasmā pāḷito osakkitvā hatthapāse ṭhitena hatthaṃ pasāretvā yathā seno nipatitvā gaṇhāti, evaṃ gaṇhitabbaṃ. Ārāmikasamaṇuddesehi āharāpetuṃ na labhati. Sace sayameva āharanti, vaṭṭati. Rañño mahāpeḷabhattepi eseva nayo. Catussālabhatte pana sace oṇojanaṃ kattukāmo hoti, attano atthāya ukkhitte piṇḍe ‘‘ajja me bhattaṃ atthi, sveva gaṇhissāmī’’ti vattabbaṃ. ‘‘Punadivase dve piṇḍe labhatī’’ti (cūḷava. aṭṭha. 75) mahāpaccariyaṃ vuttaṃ. Uddesabhattādīnipi pāḷito osakkitvāva gahetabbāni. Yattha pana nisīdāpetvā parivisanti , tattha sāmaṇerānaṃ jeṭṭhakena bhikkhūnaṃ saṅghanavakena hutvā nisīditabbanti.
ปาริวาสิกกฺขนฺธกกถาวณฺณนาฯ
Pārivāsikakkhandhakakathāvaṇṇanā.