Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เนตฺติปฺปกรณปาฬิ • Nettippakaraṇapāḷi |
๙. ปริวตฺตนหารวิภโงฺค
9. Parivattanahāravibhaṅgo
๓๕. ตตฺถ กตโม ปริวตฺตโน หาโร? ‘‘กุสลากุสเล ธเมฺม’’ติฯ สมฺมาทิฎฺฐิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส มิจฺฉาทิฎฺฐิ นิชฺชิณฺณา ภวติฯ เย จสฺส มิจฺฉาทิฎฺฐิปจฺจยา อุปฺปเชฺชยฺยุํ อเนเก 1 ปาปกา อกุสลา ธมฺมา, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติฯ สมฺมาทิฎฺฐิปจฺจยา จสฺส อเนเก กุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, เต จสฺส ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ สมฺมาสงฺกปฺปสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส มิจฺฉาสงฺกโปฺป นิชฺชิโณฺณ ภวติฯ เย จสฺส มิจฺฉาสงฺกปฺปปจฺจยา อุปฺปเชฺชยฺยุํ อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติฯ สมฺมาสงฺกปฺปปจฺจยา จสฺส อเนเก กุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติฯ เต จสฺส ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ เอวํ สมฺมาวาจสฺส สมฺมากมฺมนฺตสฺส สมฺมาอาชีวสฺส สมฺมาวายามสฺส สมฺมาสติสฺส สมฺมาสมาธิสฺส สมฺมาวิมุตฺตสฺส สมฺมาวิมุตฺติญาณทสฺสนสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส มิจฺฉาวิมุตฺติญาณทสฺสนํ นิชฺชิณฺณํ ภวติฯ เย จสฺส มิจฺฉาวิมุตฺติญาณทสฺสนปจฺจยา อุปฺปเชฺชยฺยุํ อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติฯ สมฺมาวิมุตฺติญาณทสฺสนปจฺจยา จสฺส อเนเก กุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, เต จสฺส ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ
35. Tattha katamo parivattano hāro? ‘‘Kusalākusale dhamme’’ti. Sammādiṭṭhissa purisapuggalassa micchādiṭṭhi nijjiṇṇā bhavati. Ye cassa micchādiṭṭhipaccayā uppajjeyyuṃ aneke 2 pāpakā akusalā dhammā, te cassa nijjiṇṇā honti. Sammādiṭṭhipaccayā cassa aneke kusalā dhammā sambhavanti, te cassa bhāvanāpāripūriṃ gacchanti. Sammāsaṅkappassa purisapuggalassa micchāsaṅkappo nijjiṇṇo bhavati. Ye cassa micchāsaṅkappapaccayā uppajjeyyuṃ aneke pāpakā akusalā dhammā, te cassa nijjiṇṇā honti. Sammāsaṅkappapaccayā cassa aneke kusalā dhammā sambhavanti. Te cassa bhāvanāpāripūriṃ gacchanti. Evaṃ sammāvācassa sammākammantassa sammāājīvassa sammāvāyāmassa sammāsatissa sammāsamādhissa sammāvimuttassa sammāvimuttiñāṇadassanassa purisapuggalassa micchāvimuttiñāṇadassanaṃ nijjiṇṇaṃ bhavati. Ye cassa micchāvimuttiñāṇadassanapaccayā uppajjeyyuṃ aneke pāpakā akusalā dhammā, te cassa nijjiṇṇā honti. Sammāvimuttiñāṇadassanapaccayā cassa aneke kusalā dhammā sambhavanti, te cassa bhāvanāpāripūriṃ gacchanti.
๓๖. ยสฺส วา ปาณาติปาตา ปฎิวิรตสฺส ปาณาติปาโต ปหีโน โหติฯ อทินฺนาทานา ปฎิวิรตสฺส อทินฺนาทานํ ปหีนํ โหติฯ พฺรหฺมจาริสฺส อพฺรหฺมจริยํ ปหีนํ โหติฯ สจฺจวาทิสฺส มุสาวาโท ปหีโน โหติฯ อปิสุณวาจสฺส ปิสุณา วาจา ปหีนา โหติฯ สณฺหวาจสฺส ผรุสา วาจา ปหีนา โหติฯ กาลวาทิสฺส สมฺผปฺปลาโป ปหีโน โหติฯ อนภิชฺฌาลุสฺส 3 อภิชฺฌา ปหีนา โหติฯ อพฺยาปนฺนจิตฺตสฺส พฺยาปาโท ปหีโน โหติฯ สมฺมาทิฎฺฐิสฺส มิจฺฉาทิฎฺฐิ ปหีนา โหติฯ
36. Yassa vā pāṇātipātā paṭiviratassa pāṇātipāto pahīno hoti. Adinnādānā paṭiviratassa adinnādānaṃ pahīnaṃ hoti. Brahmacārissa abrahmacariyaṃ pahīnaṃ hoti. Saccavādissa musāvādo pahīno hoti. Apisuṇavācassa pisuṇā vācā pahīnā hoti. Saṇhavācassa pharusā vācā pahīnā hoti. Kālavādissa samphappalāpo pahīno hoti. Anabhijjhālussa 4 abhijjhā pahīnā hoti. Abyāpannacittassa byāpādo pahīno hoti. Sammādiṭṭhissa micchādiṭṭhi pahīnā hoti.
เย จ โข เกจิ อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ ครหนฺติ, เนสํ สนฺทิฎฺฐิกา สหธมฺมิกา คารยฺหา วาทานุวาทา อาคจฺฉนฺติฯ สมฺมาทิฎฺฐิญฺจ เต ภวโนฺต ธมฺมํ ครหนฺติฯ เตน หิ เย มิจฺฉาทิฎฺฐิกา, เตสํ ภวนฺตานํ ปุชฺชา จ ปาสํสา จฯ เอวํ สมฺมาสงฺกปฺปํ สมฺมาวาจํ สมฺมากมฺมนฺตํ สมฺมาอาชีวํ สมฺมาวายามํ สมฺมาสติํ สมฺมาสมาธิํ สมฺมาวิมุตฺติํ สมฺมาวิมุตฺติญาณทสฺสนญฺจ เต ภวโนฺต ธมฺมํ ครหนฺติฯ เตน หิ เย มิจฺฉาวิมุตฺติญาณทสฺสนา, เตสํ ภวนฺตานํ ปุชฺชา จ ปาสํสา จฯ
Ye ca kho keci ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ garahanti, nesaṃ sandiṭṭhikā sahadhammikā gārayhā vādānuvādā āgacchanti. Sammādiṭṭhiñca te bhavanto dhammaṃ garahanti. Tena hi ye micchādiṭṭhikā, tesaṃ bhavantānaṃ pujjā ca pāsaṃsā ca. Evaṃ sammāsaṅkappaṃ sammāvācaṃ sammākammantaṃ sammāājīvaṃ sammāvāyāmaṃ sammāsatiṃ sammāsamādhiṃ sammāvimuttiṃ sammāvimuttiñāṇadassanañca te bhavanto dhammaṃ garahanti. Tena hi ye micchāvimuttiñāṇadassanā, tesaṃ bhavantānaṃ pujjā ca pāsaṃsā ca.
เย จ โข เกจิ เอวมาหํสุ ‘‘ภุญฺชิตพฺพา กามา, ปริภุญฺชิตพฺพา กามา, อาเสวิตพฺพา กามา, นิเสวิตพฺพา กามา, ภาวยิตพฺพา กามา, พหุลีกาตพฺพา กามา’’ติฯ กาเมหิ เวรมณี เตสํ อธโมฺมฯ
Ye ca kho keci evamāhaṃsu ‘‘bhuñjitabbā kāmā, paribhuñjitabbā kāmā, āsevitabbā kāmā, nisevitabbā kāmā, bhāvayitabbā kāmā, bahulīkātabbā kāmā’’ti. Kāmehi veramaṇī tesaṃ adhammo.
เย วา ปน เกจิ เอวมาหํสุ ‘‘อตฺตกิลมถานุโยโค ธโมฺม’’ติฯ นิยฺยานิโก เตสํ ธโมฺม อธโมฺมฯ เย จ โข เกจิ เอวมาหํสุ ‘‘ทุโกฺข ธโมฺม’’ติฯ สุโข เตสํ ธโมฺม อธโมฺมฯ ยถา วา ปน ภิกฺขุโน สพฺพสงฺขาเรสุ อสุภานุปสฺสิโน วิหรโต สุภสญฺญา ปหียนฺติฯ ทุกฺขานุปสฺสิโน วิหรโต สุขสญฺญา ปหียนฺติฯ อนิจฺจานุปสฺสิโน วิหรโต นิจฺจสญฺญา ปหียนฺติฯ อนตฺตานุปสฺสิโน วิหรโต อตฺตสญฺญา ปหียนฺติฯ ยํ ยํ วา ปน ธมฺมํ โรจยติ วา อุปคจฺฉติ วา, ตสฺส ตสฺส ธมฺมสฺส โย ปฎิปโกฺข, สฺวสฺส อนิฎฺฐโต อชฺฌาปโนฺน ภวติฯ เตนาห อายสฺมา มหากจฺจายโน ‘‘กุสลากุสลธเมฺม’’ติฯ
Ye vā pana keci evamāhaṃsu ‘‘attakilamathānuyogo dhammo’’ti. Niyyāniko tesaṃ dhammo adhammo. Ye ca kho keci evamāhaṃsu ‘‘dukkho dhammo’’ti. Sukho tesaṃ dhammo adhammo. Yathā vā pana bhikkhuno sabbasaṅkhāresu asubhānupassino viharato subhasaññā pahīyanti. Dukkhānupassino viharato sukhasaññā pahīyanti. Aniccānupassino viharato niccasaññā pahīyanti. Anattānupassino viharato attasaññā pahīyanti. Yaṃ yaṃ vā pana dhammaṃ rocayati vā upagacchati vā, tassa tassa dhammassa yo paṭipakkho, svassa aniṭṭhato ajjhāpanno bhavati. Tenāha āyasmā mahākaccāyano ‘‘kusalākusaladhamme’’ti.
นิยุโตฺต ปริวตฺตโน หาโรฯ
Niyutto parivattano hāro.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เนตฺติปฺปกรณ-อฎฺฐกถา • Nettippakaraṇa-aṭṭhakathā / ๙. ปริวตฺตนหารวิภงฺควณฺณนา • 9. Parivattanahāravibhaṅgavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติปฺปกรณ-ฎีกา • Nettippakaraṇa-ṭīkā / ๙. ปริวตฺตนหารวิภงฺควณฺณนา • 9. Parivattanahāravibhaṅgavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติวิภาวินี • Nettivibhāvinī / ๙. ปริวตฺตนหารวิภงฺควิภาวนา • 9. Parivattanahāravibhaṅgavibhāvanā