Tipiṭaka / Tipiṭaka (English) / Dīgha Nikāya, English translation |
ทีฆ นิกาย ๒๙
Long Discourses 29
ปาสาทิกสุตฺต
An Impressive Discourse
เอวํ เม สุตํ—เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ เวธญฺญา นาม สกฺยา, เตสํ อมฺพวเน ปาสาเทฯ
So I have heard. At one time the Buddha was staying in the land of the Sakyans in a stilt longhouse in a mango grove belonging to the Sakyans named Vedhaññā.
เตน โข ปน สมเยน นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต ปาวายํ อธุนากาลงฺกโต โหติฯ ตสฺส กาลงฺกิริยาย ภินฺนา นิคณฺฐา เทฺวธิกชาตา ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อญฺญมญฺญํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ:
Now at that time the Jain ascetic of the Ñātika clan had recently passed away at Pāvā. With his passing the Jain ascetics split, dividing into two factions, arguing, quarreling, and disputing, continually wounding each other with barbed words:
“น ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานาสิ, อหํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานามิ, กึ ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานิสฺสสิ? มิจฺฉาปฏิปนฺโน ตฺวมสิ, อหมสฺมิ สมฺมาปฏิปนฺโนฯ สหิตํ เม, อสหิตํ เตฯ ปุเรวจนียํ ปจฺฉา อวจ, ปจฺฉาวจนียํ ปุเร อวจฯ อธิจิณฺณํ เต วิปราวตฺตํ, อาโรปิโต เต วาโท, นิคฺคหิโต ตฺวมสิ, จร วาทปฺปโมกฺขาย, นิพฺเพเฐหิ วา สเจ ปโหสี”ติฯ
“You don’t understand this teaching and training. I understand this teaching and training. What, you understand this teaching and training? You’re practicing wrong. I’m practicing right. I stay on topic, you don’t. You said last what you should have said first. You said first what you should have said last. What you’ve thought so much about has been disproved. Your doctrine is refuted. Go on, save your doctrine! You’re trapped; get yourself out of this—if you can!”
วโธเยว โข มญฺเญ นิคณฺเฐสุ นาฏปุตฺติเยสุ วตฺตติฯ เยปิ นิคณฺฐสฺส นาฏปุตฺตสฺส สาวกา คิหี โอทาตวสนา, เตปิ นิคณฺเฐสุ นาฏปุตฺติเยสุ นิพฺพินฺนรูปา วิรตฺตรูปา ปฏิวานรูปา, ยถา ตํ ทุรกฺขาเต ธมฺมวินเย ทุปฺปเวทิเต อนิยฺยานิเก อนุปสมสํวตฺตนิเก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิเต ภินฺนถูเป อปฺปฏิสรเณฯ
You’d think there was nothing but slaughter going on among the Jain ascetics. And the Jain Ñātika’s white-clothed lay disciples were disillusioned, dismayed, and disappointed in the Jain ascetics. They were equally disappointed with a teaching and training so poorly explained and poorly propounded, not emancipating, not leading to peace, proclaimed by someone who is not a fully awakened Buddha, with broken monument and without a refuge.
อถ โข จุนฺโท สมณุทฺเทโส ปาวายํ วสฺสํวุฏฺโฐ เยน สามคาโม, เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข จุนฺโท สมณุทฺเทโส อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ: “นิคณฺโฐ, ภนฺเต, นาฏปุตฺโต ปาวายํ อธุนากาลงฺกโตฯ ตสฺส กาลงฺกิริยาย ภินฺนา นิคณฺฐา เทฺวธิกชาตา …เป… ภินฺนถูเป อปฺปฏิสรเณ”ติฯ
And then, after completing the rainy season residence near Pāvā, the novice Cunda went to see Venerable Ānanda at Sāma village. He bowed, sat down to one side, and told him what had happened.
เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา อานนฺโท จุนฺทํ สมณุทฺเทสํ เอตทโวจ: “อตฺถิ โข อิทํ, อาวุโส จุนฺท, กถาปาภตํ ภควนฺตํ ทสฺสนายฯ อายามาวุโส จุนฺท, เยน ภควา เตนุปสงฺกมิสฺสาม; อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ภควโต อาโรเจสฺสามา”ติฯ
Ānanda said to him, “Friend Cunda, we should see the Buddha about this matter. Come, let’s go to the Buddha and tell him about this.”
“เอวํ, ภนฺเต”ติ โข จุนฺโท สมณุทฺเทโส อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปจฺจโสฺสสิฯ
“Yes, sir,” replied Cunda.
อถ โข อายสฺมา จ อานนฺโท จุนฺโท จ สมณุทฺเทโส เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ: “อยํ, ภนฺเต, จุนฺโท สมณุทฺเทโส เอวมาห, ‘นิคณฺโฐ, ภนฺเต, นาฏปุตฺโต ปาวายํ อธุนากาลงฺกโต, ตสฺส กาลงฺกิริยาย ภินฺนา นิคณฺฐา …เป… ภินฺนถูเป อปฺปฏิสรเณ'”ติฯ
Then Ānanda and Cunda went to the Buddha, bowed, sat down to one side, and told him what had happened.
๑ฯ อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิตธมฺมวินย
1. The Teaching of the Unawakened
“เอวํ เหตํ, จุนฺท, โหติ ทุรกฺขาเต ธมฺมวินเย ทุปฺปเวทิเต อนิยฺยานิเก อนุปสมสํวตฺตนิเก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิเตฯ
“That’s what happens, Cunda, when a teaching and training is poorly explained and poorly propounded, not emancipating, not leading to peace, proclaimed by someone who is not a fully awakened Buddha.
อิธ, จุนฺท, สตฺถา จ โหติ อสมฺมาสมฺพุทฺโธ, ธมฺโม จ ทุรกฺขาโต ทุปฺปเวทิโต อนิยฺยานิโก อนุปสมสํวตฺตนิโก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโต, สาวโก จ ตสฺมึ ธมฺเม น ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน วิหรติ น สามีจิปฺปฏิปนฺโน น อนุธมฺมจารี, โวกฺกมฺม จ ตมฺหา ธมฺมา วตฺตติฯ โส เอวมสฺส วจนีโย: ‘ตสฺส เต, อาวุโส, ลาภา, ตสฺส เต สุลทฺธํ, สตฺถา จ เต อสมฺมาสมฺพุทฺโธ, ธมฺโม จ ทุรกฺขาโต ทุปฺปเวทิโต อนิยฺยานิโก อนุปสมสํวตฺตนิโก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโตฯ ตฺวญฺจ ตสฺมึ ธมฺเม น ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน วิหรสิ, น สามีจิปฺปฏิปนฺโน, น อนุธมฺมจารี, โวกฺกมฺม จ ตมฺหา ธมฺมา วตฺตสี'ติฯ อิติ โข, จุนฺท, สตฺถาปิ ตตฺถ คารโยฺห, ธมฺโมปิ ตตฺถ คารโยฺห, สาวโก จ ตตฺถ เอวํ ปาสํโสฯ โย โข, จุนฺท, เอวรูปํ สาวกํ เอวํ วเทยฺย: ‘เอตายสฺมา ตถา ปฏิปชฺชตุ, ยถา เต สตฺถารา ธมฺโม เทสิโต ปญฺญตฺโต'ติฯ โย จ สมาทเปติ, ยญฺจ สมาทเปติ, โย จ สมาทปิโต ตถตฺตาย ปฏิปชฺชติฯ สพฺเพ เต พหุํ อปุญฺญํ ปสวนฺติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? เอวํ เหตํ, จุนฺท, โหติ ทุรกฺขาเต ธมฺมวินเย ทุปฺปเวทิเต อนิยฺยานิเก อนุปสมสํวตฺตนิเก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิเตฯ
Take the case where a teacher is not awakened, and the teaching is poorly explained and poorly propounded, not emancipating, not leading to peace, proclaimed by someone who is not a fully awakened Buddha. A disciple in that teaching does not practice in line with the teachings, does not practice following that procedure, does not live in line with the teaching. They proceed having turned away from that teaching. You should say this to them, ‘You’re fortunate, friend, you’re so very fortunate! For your teacher is not awakened, and their teaching is poorly explained and poorly propounded, not emancipating, not leading to peace, proclaimed by someone who is not a fully awakened Buddha. But you don’t practice in line with that teaching, you don’t practice following that procedure, you don’t live in line with the teaching. You proceed having turned away from that teaching.’ In such a case the teacher and the teaching are to blame, but the disciple deserves praise. Suppose someone was to say to such a disciple, ‘Come on, venerable, practice as taught and pointed out by your teacher.’ The one who encourages, the one who they encourage, and the one who practices accordingly all make much bad karma. Why is that? It’s because that teaching and training is poorly explained and poorly propounded, not emancipating, not leading to peace, proclaimed by someone who is not a fully awakened Buddha.
อิธ ปน, จุนฺท, สตฺถา จ โหติ อสมฺมาสมฺพุทฺโธ, ธมฺโม จ ทุรกฺขาโต ทุปฺปเวทิโต อนิยฺยานิโก อนุปสมสํวตฺตนิโก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโต, สาวโก จ ตสฺมึ ธมฺเม ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน วิหรติ สามีจิปฺปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี, สมาทาย ตํ ธมฺมํ วตฺตติฯ โส เอวมสฺส วจนีโย: ‘ตสฺส เต, อาวุโส, อลาภา, ตสฺส เต ทุลฺลทฺธํ, สตฺถา จ เต อสมฺมาสมฺพุทฺโธ, ธมฺโม จ ทุรกฺขาโต ทุปฺปเวทิโต อนิยฺยานิโก อนุปสมสํวตฺตนิโก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโตฯ ตฺวญฺจ ตสฺมึ ธมฺเม ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน วิหรสิ สามีจิปฺปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี, สมาทาย ตํ ธมฺมํ วตฺตสี'ติฯ อิติ โข, จุนฺท, สตฺถาปิ ตตฺถ คารโยฺห, ธมฺโมปิ ตตฺถ คารโยฺห, สาวโกปิ ตตฺถ เอวํ คารโยฺหฯ โย โข, จุนฺท, เอวรูปํ สาวกํ เอวํ วเทยฺย: ‘อทฺธายสฺมา ญายปฺปฏิปนฺโน ญายมาราเธสฺสตี'ติฯ โย จ ปสํสติ, ยญฺจ ปสํสติ, โย จ ปสํสิโต ภิโยฺยโส มตฺตาย วีริยํ อารภติฯ สพฺเพ เต พหุํ อปุญฺญํ ปสวนฺติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? เอวเญฺหตํ, จุนฺท, โหติ ทุรกฺขาเต ธมฺมวินเย ทุปฺปเวทิเต อนิยฺยานิเก อนุปสมสํวตฺตนิเก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิเตฯ
Take the case where a teacher is not awakened, and the teaching is poorly explained and poorly propounded, not emancipating, not leading to peace, proclaimed by someone who is not a fully awakened Buddha. A disciple in that teaching practices in line with the teachings, practices following that procedure, lives in line with the teaching. They proceed having undertaken that teaching. You should say this to them, ‘It’s your loss, friend, it’s your misfortune! For your teacher is not awakened, and their teaching is poorly explained and poorly propounded, not emancipating, not leading to peace, proclaimed by someone who is not a fully awakened Buddha. And you practice in line with that teaching, you practice following that procedure, you live in line with the teaching. You proceed having undertaken that teaching.’ In such a case the teacher, the teaching, and the disciple are all to blame. Suppose someone was to say to such a disciple, ‘Clearly the venerable is practicing systematically and will succeed in that system.’ The one who praises, the one who they praise, and the one who, being praised, rouses up even more energy all make much bad karma. Why is that? It’s because that teaching and training is poorly explained and poorly propounded, not emancipating, not leading to peace, proclaimed by someone who is not a fully awakened Buddha.
๒ฯ สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิตธมฺมวินย
2. The Teaching of the Awakened
อิธ ปน, จุนฺท, สตฺถา จ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ธมฺโม จ สฺวากฺขาโต สุปฺปเวทิโต นิยฺยานิโก อุปสมสํวตฺตนิโก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโต, สาวโก จ ตสฺมึ ธมฺเม น ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน วิหรติ, น สามีจิปฺปฏิปนฺโน, น อนุธมฺมจารี, โวกฺกมฺม จ ตมฺหา ธมฺมา วตฺตติฯ โส เอวมสฺส วจนีโย: ‘ตสฺส เต, อาวุโส, อลาภา, ตสฺส เต ทุลฺลทฺธํ, สตฺถา จ เต สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ธมฺโม จ สฺวากฺขาโต สุปฺปเวทิโต นิยฺยานิโก อุปสมสํวตฺตนิโก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโตฯ ตฺวญฺจ ตสฺมึ ธมฺเม น ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน วิหรสิ, น สามีจิปฺปฏิปนฺโน, น อนุธมฺมจารี, โวกฺกมฺม จ ตมฺหา ธมฺมา วตฺตสี'ติฯ อิติ โข, จุนฺท, สตฺถาปิ ตตฺถ ปาสํโส, ธมฺโมปิ ตตฺถ ปาสํโส, สาวโก จ ตตฺถ เอวํ คารโยฺหฯ โย โข, จุนฺท, เอวรูปํ สาวกํ เอวํ วเทยฺย: ‘เอตายสฺมา ตถา ปฏิปชฺชตุ ยถา เต สตฺถารา ธมฺโม เทสิโต ปญฺญตฺโต'ติฯ โย จ สมาทเปติ, ยญฺจ สมาทเปติ, โย จ สมาทปิโต ตถตฺตาย ปฏิปชฺชติฯ สพฺเพ เต พหุํ ปุญฺญํ ปสวนฺติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? เอวเญฺหตํ, จุนฺท, โหติ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย สุปฺปเวทิเต นิยฺยานิเก อุปสมสํวตฺตนิเก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิเตฯ
Take the case where a teacher is awakened, and the teaching is well explained and well propounded, emancipating, leading to peace, proclaimed by someone who is a fully awakened Buddha. A disciple in that teaching does not practice in line with the teachings, does not practice following that procedure, does not live in line with the teaching. They proceed having turned away from that teaching. You should say this to them, ‘It’s your loss, friend, it’s your misfortune! For your teacher is awakened, and their teaching is well explained and well propounded, emancipating, leading to peace, proclaimed by someone who is a fully awakened Buddha. But you don’t practice in line with that teaching, you don’t practice following that procedure, you don’t live in line with the teaching. You proceed having turned away from that teaching.’ In such a case the teacher and the teaching deserve praise, but the disciple is to blame. Suppose someone was to say to such a disciple, ‘Come on, venerable, practice as taught and pointed out by your teacher.’ The one who encourages, the one who they encourage, and the one who practices accordingly all make much merit. Why is that? It’s because that teaching and training is well explained and well propounded, emancipating, leading to peace, proclaimed by someone who is a fully awakened Buddha.
อิธ ปน, จุนฺท, สตฺถา จ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ธมฺโม จ สฺวากฺขาโต สุปฺปเวทิโต นิยฺยานิโก อุปสมสํวตฺตนิโก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโต, สาวโก จ ตสฺมึ ธมฺเม ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน วิหรติ สามีจิปฺปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี, สมาทาย ตํ ธมฺมํ วตฺตติฯ โส เอวมสฺส วจนีโย: ‘ตสฺส เต, อาวุโส, ลาภา, ตสฺส เต สุลทฺธํ, สตฺถา จ เต สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ธมฺโม จ สฺวากฺขาโต สุปฺปเวทิโต นิยฺยานิโก อุปสมสํวตฺตนิโก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโตฯ ตฺวญฺจ ตสฺมึ ธมฺเม ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน วิหรสิ สามีจิปฺปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี, สมาทาย ตํ ธมฺมํ วตฺตสี'ติฯ อิติ โข, จุนฺท, สตฺถาปิ ตตฺถ ปาสํโส, ธมฺโมปิ ตตฺถ ปาสํโส, สาวโกปิ ตตฺถ เอวํ ปาสํโสฯ โย โข, จุนฺท, เอวรูปํ สาวกํ เอวํ วเทยฺย: ‘อทฺธายสฺมา ญายปฺปฏิปนฺโน ญายมาราเธสฺสตี'ติฯ โย จ ปสํสติ, ยญฺจ ปสํสติ, โย จ ปสํสิโต ภิโยฺยโส มตฺตาย วีริยํ อารภติฯ สพฺเพ เต พหุํ ปุญฺญํ ปสวนฺติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? เอวเญฺหตํ, จุนฺท, โหติ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย สุปฺปเวทิเต นิยฺยานิเก อุปสมสํวตฺตนิเก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิเตฯ
Take the case where a teacher is awakened, and the teaching is well explained and well propounded, emancipating, leading to peace, proclaimed by someone who is a fully awakened Buddha. A disciple in that teaching practices in line with the teachings, practices following that procedure, lives in line with the teaching. They proceed having undertaken that teaching. You should say this to them, ‘You’re fortunate, friend, you’re so very fortunate! For your teacher is awakened, and their teaching is well explained and well propounded, emancipating, leading to peace, proclaimed by someone who is a fully awakened Buddha. And you practice in line with that teaching, you practice following that procedure, you live in line with the teaching. You proceed having undertaken that teaching.’ In such a case the teacher, the teaching, and the disciple all deserve praise. Suppose someone was to say to such a disciple, ‘Clearly the venerable is practicing systematically and will succeed in that system.’ The one who praises, the one who they praise, and the one who, being praised, rouses up even more energy all make much merit. Why is that? It’s because that teaching and training is well explained and well propounded, emancipating, leading to peace, proclaimed by someone who is a fully awakened Buddha.
๓ฯ สาวกานุตปฺปสตฺถุ
3. When Disciples Have Regrets
อิธ ปน, จุนฺท, สตฺถา จ โลเก อุทปาทิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ธมฺโม จ สฺวากฺขาโต สุปฺปเวทิโต นิยฺยานิโก อุปสมสํวตฺตนิโก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโต, อวิญฺญาปิตตฺถา จสฺส โหนฺติ สาวกา สทฺธมฺเม, น จ เตสํ เกวลํ ปริปูรํ พฺรหฺมจริยํ อาวิกตํ โหติ อุตฺตานีกตํ สพฺพสงฺคาหปทกตํ สปฺปาฏิหีรกตํ ยาว เทวมนุเสฺสหิ สุปฺปกาสิตํฯ อถ เนสํ สตฺถุโน อนฺตรธานํ โหติฯ เอวรูโป โข, จุนฺท, สตฺถา สาวกานํ กาลงฺกโต อนุตปฺโป โหติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘สตฺถา จ โน โลเก อุทปาทิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ธมฺโม จ สฺวากฺขาโต สุปฺปเวทิโต นิยฺยานิโก อุปสมสํวตฺตนิโก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโต, อวิญฺญาปิตตฺถา จมฺห สทฺธมฺเม, น จ โน เกวลํ ปริปูรํ พฺรหฺมจริยํ อาวิกตํ โหติ อุตฺตานีกตํ สพฺพสงฺคาหปทกตํ สปฺปาฏิหีรกตํ ยาว เทวมนุเสฺสหิ สุปฺปกาสิตํฯ อถ โน สตฺถุโน อนฺตรธานํ โหตี'ติฯ เอวรูโป โข, จุนฺท, สตฺถา สาวกานํ กาลงฺกโต อนุตปฺโป โหติฯ
Take the case where a teacher arises in the world who is perfected, a fully awakened Buddha. The teaching is well explained and well propounded, emancipating, leading to peace, proclaimed by someone who is fully awakened. But the disciples have not been educated in the meaning of that good teaching. And the spiritual practice that’s entirely full and pure has not been disclosed and revealed to them; its sayings have not all been collected; and it has not been well proclaimed with its demonstrable basis wherever there are gods and humans. And then their teacher passes away. When such a teacher has passed away the disciples are tormented by regrets. Why is that? They think: ‘Our teacher was perfected, a fully awakened Buddha. His teaching was well explained, but we were not educated in its meaning. And the spiritual practice was not fully disclosed and revealed to us; its sayings have not all been collected; and it has not been well proclaimed with its demonstrable basis wherever there are gods and humans. And then our teacher passed away.’ When such a teacher has passed away the disciples are tormented by regrets.
๔ฯ สาวกานนุตปฺปสตฺถุ
4. When Disciples Have No Regrets
อิธ ปน, จุนฺท, สตฺถา จ โลเก อุทปาทิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธฯ ธมฺโม จ สฺวากฺขาโต สุปฺปเวทิโต นิยฺยานิโก อุปสมสํวตฺตนิโก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโตฯ วิญฺญาปิตตฺถา จสฺส โหนฺติ สาวกา สทฺธมฺเม, เกวลญฺจ เตสํ ปริปูรํ พฺรหฺมจริยํ อาวิกตํ โหติ อุตฺตานีกตํ สพฺพสงฺคาหปทกตํ สปฺปาฏิหีรกตํ ยาว เทวมนุเสฺสหิ สุปฺปกาสิตํฯ อถ เนสํ สตฺถุโน อนฺตรธานํ โหติฯ เอวรูโป โข, จุนฺท, สตฺถา สาวกานํ กาลงฺกโต อนนุตปฺโป โหติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘สตฺถา จ โน โลเก อุทปาทิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธฯ ธมฺโม จ สฺวากฺขาโต สุปฺปเวทิโต นิยฺยานิโก อุปสมสํวตฺตนิโก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโตฯ วิญฺญาปิตตฺถา จมฺห สทฺธมฺเม, เกวลญฺจ โน ปริปูรํ พฺรหฺมจริยํ อาวิกตํ โหติ อุตฺตานีกตํ สพฺพสงฺคาหปทกตํ สปฺปาฏิหีรกตํ ยาว เทวมนุเสฺสหิ สุปฺปกาสิตํฯ อถ โน สตฺถุโน อนฺตรธานํ โหตี'ติฯ เอวรูโป โข, จุนฺท, สตฺถา สาวกานํ กาลงฺกโต อนนุตปฺโป โหติฯ
Take the case where a teacher arises in the world who is perfected, a fully awakened Buddha. The teaching is well explained and well propounded, emancipating, leading to peace, proclaimed by someone who is fully awakened. The disciples have been educated in the meaning of that good teaching. And the spiritual practice that’s entirely full and pure has been disclosed and revealed to them; its sayings have all been collected; and it has been well proclaimed with its demonstrable basis wherever there are gods and humans. And then their teacher passes away. When such a teacher has passed away the disciples are free of regrets. Why is that? They think: ‘Our teacher was perfected, a fully awakened Buddha. His teaching was well explained, we were educated in its meaning, and the spiritual practice was fully disclosed to us. And then our teacher passed away.’ When such a teacher has passed away the disciples are free of regrets.
๕ฯ พฺรหฺมจริยอปริปูราทิกถา
5. On the Incomplete Spiritual Path, Etc.
เอเตหิ เจปิ, จุนฺท, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺรหฺมจริยํ โหติ, โน จ โข สตฺถา โหติ เถโร รตฺตญฺญู จิรปพฺพชิโต อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโตฯ เอวํ ตํ พฺรหฺมจริยํ อปริปูรํ โหติ เตนงฺเคนฯ
Now suppose, Cunda, that a spiritual path possesses those factors. But the teacher is not senior, long standing, long gone forth, advanced in years, and reached the final stage of life. Then that spiritual path is incomplete in that respect.
ยโต จ โข, จุนฺท, เอเตหิ เจว องฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺรหฺมจริยํ โหติ, สตฺถา จ โหติ เถโร รตฺตญฺญู จิรปพฺพชิโต อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโตฯ เอวํ ตํ พฺรหฺมจริยํ ปริปูรํ โหติ เตนงฺเคนฯ
But when a spiritual path possesses those factors and the teacher is senior, then that spiritual path is complete in that respect.
เอเตหิ เจปิ, จุนฺท, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺรหฺมจริยํ โหติ, สตฺถา จ โหติ เถโร รตฺตญฺญู จิรปพฺพชิโต อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต, โน จ ขฺวสฺส เถรา ภิกฺขู สาวกา โหนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา ปตฺตโยคกฺเขมาฯ อลํ สมกฺขาตุํ สทฺธมฺมสฺส, อลํ อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมหิ สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสตุํฯ เอวํ ตํ พฺรหฺมจริยํ อปริปูรํ โหติ เตนงฺเคนฯ
Now suppose that a spiritual path possesses those factors and the teacher is senior. But there are no senior monk disciples who are competent, educated, assured, have attained sanctuary from the yoke, who can rightly explain the true teaching, and who can legitimately and completely refute the doctrines of others that come up, and teach with a demonstrable basis. Then that spiritual path is incomplete in that respect.
ยโต จ โข, จุนฺท, เอเตหิ เจว องฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺรหฺมจริยํ โหติ, สตฺถา จ โหติ เถโร รตฺตญฺญู จิรปพฺพชิโต อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต, เถรา จสฺส ภิกฺขู สาวกา โหนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา ปตฺตโยคกฺเขมาฯ อลํ สมกฺขาตุํ สทฺธมฺมสฺส, อลํ อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมหิ สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสตุํฯ เอวํ ตํ พฺรหฺมจริยํ ปริปูรํ โหติ เตนงฺเคนฯ
But when a spiritual path possesses those factors and the teacher is senior and there are competent senior monks, then that spiritual path is complete in that respect.
เอเตหิ เจปิ, จุนฺท, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺรหฺมจริยํ โหติ, สตฺถา จ โหติ เถโร รตฺตญฺญู จิรปพฺพชิโต อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต, เถรา จสฺส ภิกฺขู สาวกา โหนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา ปตฺตโยคกฺเขมาฯ อลํ สมกฺขาตุํ สทฺธมฺมสฺส, อลํ อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมหิ สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสตุํฯ โน จ ขฺวสฺส มชฺฌิมา ภิกฺขู สาวกา โหนฺติ …เป… มชฺฌิมา จสฺส ภิกฺขู สาวกา โหนฺติ, โน จ ขฺวสฺส นวา ภิกฺขู สาวกา โหนฺติ …เป… นวา จสฺส ภิกฺขู สาวกา โหนฺติ, โน จ ขฺวสฺส เถรา ภิกฺขุนิโย สาวิกา โหนฺติ …เป… เถรา จสฺส ภิกฺขุนิโย สาวิกา โหนฺติ, โน จ ขฺวสฺส มชฺฌิมา ภิกฺขุนิโย สาวิกา โหนฺติ …เป… มชฺฌิมา จสฺส ภิกฺขุนิโย สาวิกา โหนฺติ, โน จ ขฺวสฺส นวา ภิกฺขุนิโย สาวิกา โหนฺติ …เป… นวา จสฺส ภิกฺขุนิโย สาวิกา โหนฺติ, โน จ ขฺวสฺส อุปาสกา สาวกา โหนฺติ คิหี โอทาตวสนา พฺรหฺมจาริโน …เป… อุปาสกา จสฺส สาวกา โหนฺติ คิหี โอทาตวสนา พฺรหฺมจาริโน, โน จ ขฺวสฺส อุปาสกา สาวกา โหนฺติ คิหี โอทาตวสนา กามโภคิโน …เป… อุปาสกา จสฺส สาวกา โหนฺติ คิหี โอทาตวสนา กามโภคิโน, โน จ ขฺวสฺส อุปาสิกา สาวิกา โหนฺติ คิหินิโย โอทาตวสนา พฺรหฺมจารินิโย …เป… อุปาสิกา จสฺส สาวิกา โหนฺติ คิหินิโย โอทาตวสนา พฺรหฺมจารินิโย, โน จ ขฺวสฺส อุปาสิกา สาวิกา โหนฺติ คิหินิโย โอทาตวสนา กามโภคินิโย …เป… อุปาสิกา จสฺส สาวิกา โหนฺติ คิหินิโย โอทาตวสนา กามโภคินิโย, โน จ ขฺวสฺส พฺรหฺมจริยํ โหติ อิทฺธญฺเจว ผีตญฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชญฺญํ ปุถุภูตํ ยาว เทวมนุเสฺสหิ สุปฺปกาสิตํ …เป… พฺรหฺมจริยญฺจสฺส โหติ อิทฺธญฺเจว ผีตญฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชญฺญํ ปุถุภูตํ ยาว เทวมนุเสฺสหิ สุปฺปกาสิตํ, โน จ โข ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺตํฯ เอวํ ตํ พฺรหฺมจริยํ อปริปูรํ โหติ เตนงฺเคนฯ
Now suppose that a spiritual path possesses those factors and the teacher is senior and there are competent senior monks. But there are no competent middle monks, junior monks, senior nuns, middle nuns, junior nuns, celibate white-clothed laymen, white-clothed laymen enjoying sensual pleasures, celibate white-clothed laywomen, white-clothed laywomen enjoying sensual pleasures. … There are white-clothed laywomen enjoying sensual pleasures, but the spiritual path is not successful and prosperous, extensive, popular, widespread, and well proclaimed wherever there are gods and humans … the spiritual path is successful and prosperous, extensive, popular, widespread, and well proclaimed wherever there are gods and humans, but it has not reached the peak of material possessions and fame. Then that spiritual path is incomplete in that respect.
ยโต จ โข, จุนฺท, เอเตหิ เจว องฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺรหฺมจริยํ โหติ, สตฺถา จ โหติ เถโร รตฺตญฺญู จิรปพฺพชิโต อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต, เถรา จสฺส ภิกฺขู สาวกา โหนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา ปตฺตโยคกฺเขมาฯ อลํ สมกฺขาตุํ สทฺธมฺมสฺส, อลํ อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมหิ สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสตุํฯ มชฺฌิมา จสฺส ภิกฺขู สาวกา โหนฺติ … นวา จสฺส ภิกฺขู สาวกา โหนฺติ … เถรา จสฺส ภิกฺขุนิโย สาวิกา โหนฺติ … มชฺฌิมา จสฺส ภิกฺขุนิโย สาวิกา โหนฺติ … นวา จสฺส ภิกฺขุนิโย สาวิกา โหนฺติ … อุปาสกา จสฺส สาวกา โหนฺติ … คิหี โอทาตวสนา พฺรหฺมจาริโนฯ อุปาสกา จสฺส สาวกา โหนฺติ คิหี โอทาตวสนา กามโภคิโน … อุปาสิกา จสฺส สาวิกา โหนฺติ คิหินิโย โอทาตวสนา พฺรหฺมจารินิโย … อุปาสิกา จสฺส สาวิกา โหนฺติ คิหินิโย โอทาตวสนา กามโภคินิโย … พฺรหฺมจริยญฺจสฺส โหติ อิทฺธญฺเจว ผีตญฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชญฺญํ ปุถุภูตํ ยาว เทวมนุเสฺสหิ สุปฺปกาสิตํ, ลาภคฺคปฺปตฺตญฺจ ยสคฺคปฺปตฺตญฺจฯ เอวํ ตํ พฺรหฺมจริยํ ปริปูรํ โหติ เตนงฺเคนฯ
But when a spiritual path possesses those factors and the teacher is senior and there are competent senior monks, middle monks, junior monks, senior nuns, middle nuns, junior nuns, celibate laymen, laymen enjoying sensual pleasures, celibate laywomen, laywomen enjoying sensual pleasures, and the spiritual path is successful and prosperous, extensive, popular, widespread, and well proclaimed wherever there are gods and humans, and it has reached the peak of material possessions and fame, then that spiritual path is complete in that respect.
อหํ โข ปน, จุนฺท, เอตรหิ สตฺถา โลเก อุปฺปนฺโน อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธฯ ธมฺโม จ สฺวากฺขาโต สุปฺปเวทิโต นิยฺยานิโก อุปสมสํวตฺตนิโก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโตฯ วิญฺญาปิตตฺถา จ เม สาวกา สทฺธมฺเม, เกวลญฺจ เตสํ ปริปูรํ พฺรหฺมจริยํ อาวิกตํ อุตฺตานีกตํ สพฺพสงฺคาหปทกตํ สปฺปาฏิหีรกตํ ยาว เทวมนุเสฺสหิ สุปฺปกาสิตํฯ อหํ โข ปน, จุนฺท, เอตรหิ สตฺถา เถโร รตฺตญฺญู จิรปพฺพชิโต อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโตฯ
I, Cunda, am a teacher who has arisen in the world today, perfected and fully awakened. The teaching is well explained and well propounded, emancipating, leading to peace, proclaimed by someone who is fully awakened. My disciples have been educated in the meaning of that good teaching. And the spiritual practice that’s entirely full and pure has been disclosed and revealed to them with all its collected sayings, with its demonstrable basis, well proclaimed wherever there are gods and humans. I am a teacher today who is senior, long standing, long gone forth, advanced in years, and have reached the final stage of life.
สนฺติ โข ปน เม, จุนฺท, เอตรหิ เถรา ภิกฺขู สาวกา โหนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา ปตฺตโยคกฺเขมาฯ อลํ สมกฺขาตุํ สทฺธมฺมสฺส, อลํ อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมหิ สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสตุํฯ สนฺติ โข ปน เม, จุนฺท, เอตรหิ มชฺฌิมา ภิกฺขู สาวกา … สนฺติ โข ปน เม, จุนฺท, เอตรหิ นวา ภิกฺขู สาวกา … สนฺติ โข ปน เม, จุนฺท, เอตรหิ เถรา ภิกฺขุนิโย สาวิกา … สนฺติ โข ปน เม, จุนฺท, เอตรหิ มชฺฌิมา ภิกฺขุนิโย สาวิกา … สนฺติ โข ปน เม, จุนฺท, เอตรหิ นวา ภิกฺขุนิโย สาวิกา … สนฺติ โข ปน เม, จุนฺท, เอตรหิ อุปาสกา สาวกา คิหี โอทาตวสนา พฺรหฺมจาริโน … สนฺติ โข ปน เม, จุนฺท, เอตรหิ อุปาสกา สาวกา คิหี โอทาตวสนา กามโภคิโน … สนฺติ โข ปน เม, จุนฺท, เอตรหิ อุปาสิกา สาวิกา คิหินิโย โอทาตวสนา พฺรหฺมจารินิโย … สนฺติ โข ปน เม, จุนฺท, เอตรหิ อุปาสิกา สาวิกา คิหินิโย โอทาตวสนา กามโภคินิโย … เอตรหิ โข ปน เม, จุนฺท, พฺรหฺมจริยํ อิทฺธญฺเจว ผีตญฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชญฺญํ ปุถุภูตํ ยาว เทวมนุเสฺสหิ สุปฺปกาสิตํฯ
I have today disciples who are competent senior monks, middle monks, junior monks, senior nuns, middle nuns, junior nuns, celibate laymen, laymen enjoying sensual pleasures, celibate laywomen, and laywomen enjoying sensual pleasures. Today my spiritual path is successful and prosperous, extensive, popular, widespread, and well proclaimed wherever there are gods and humans.
ยาวตา โข, จุนฺท, เอตรหิ สตฺถาโร โลเก อุปฺปนฺนา, นาหํ, จุนฺท, อญฺญํ เอกสตฺถารมฺปิ สมนุปสฺสามิ เอวํลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺตํ ยถริวาหํฯ ยาวตา โข ปน, จุนฺท, เอตรหิ สงฺโฆ วา คโณ วา โลเก อุปฺปนฺโน; นาหํ, จุนฺท, อญฺญํ เอกสงฺฆมฺปิ สมนุปสฺสามิ เอวํลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺตํ ยถริวายํ, จุนฺท, ภิกฺขุสงฺโฆฯ ยํ โข ตํ, จุนฺท, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย: ‘สพฺพาการสมฺปนฺนํ สพฺพาการปริปูรํ อนูนมนธิกํ สฺวากฺขาตํ เกวลํ ปริปูรํ พฺรหฺมจริยํ สุปฺปกาสิตนฺ'ติฯ อิทเมว ตํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย: ‘สพฺพาการสมฺปนฺนํ …เป… สุปฺปกาสิตนฺ'ติฯ
Of all the teachers in the world today, Cunda, I don’t see even a single one who has reached the peak of material possessions and fame like me. Of all the spiritual communities and groups in the world today, Cunda, I don’t see even a single one who has reached the pinnacle of material possessions and fame like the bhikkhu Saṅgha. And if there’s any spiritual path of which it may be rightly said that it’s endowed with all good qualities, complete in all good qualities, neither too little nor too much, well explained, whole, full, and well propounded, it’s of this spiritual path that this should be said.
อุทโก สุทํ, จุนฺท, รามปุตฺโต เอวํ วาจํ ภาสติ: ‘ปสฺสํ น ปสฺสตี'ติฯ กิญฺจ ปสฺสํ น ปสฺสตีติ? ขุรสฺส สาธุนิสิตสฺส ตลมสฺส ปสฺสติ, ธารญฺจ ขฺวสฺส น ปสฺสติฯ อิทํ วุจฺจติ: ‘ปสฺสํ น ปสฺสตี'ติฯ ยํ โข ปเนตํ, จุนฺท, อุทเกน รามปุตฺเตน ภาสิตํ หีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ ขุรเมว สนฺธายฯ ยญฺจ ตํ, จุนฺท, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย: ‘ปสฺสํ น ปสฺสตี'ติ, อิทเมว ตํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย: ‘ปสฺสํ น ปสฺสตี'ติฯ กิญฺจ ปสฺสํ น ปสฺสตีติ? เอวํ สพฺพาการสมฺปนฺนํ สพฺพาการปริปูรํ อนูนมนธิกํ สฺวากฺขาตํ เกวลํ ปริปูรํ พฺรหฺมจริยํ สุปฺปกาสิตนฺติ, อิติ เหตํ ปสฺสติฯ อิทเมตฺถ อปกฑฺเฒยฺย, เอวํ ตํ ปริสุทฺธตรํ อสฺสาติ, อิติ เหตํ น ปสฺสติฯ อิทเมตฺถ อุปกฑฺเฒยฺย, เอวํ ตํ ปริปูรํ อสฺสาติ, อิติ เหตํ น ปสฺสติฯ อิทํ วุจฺจติ, จุนฺท: ‘ปสฺสํ น ปสฺสตี'ติฯ ยํ โข ตํ, จุนฺท, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย: ‘สพฺพาการสมฺปนฺนํ …เป… พฺรหฺมจริยํ สุปฺปกาสิตนฺ'ติฯ อิทเมว ตํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย: ‘สพฺพาการสมฺปนฺนํ สพฺพาการปริปูรํ อนูนมนธิกํ สฺวากฺขาตํ เกวลํ ปริปูรํ พฺรหฺมจริยํ สุปฺปกาสิตนฺ'ติฯ
Uddaka, son of Rāma, used to say: ‘Seeing, one does not see.’ But seeing what does one not see? You can see the blade of a well-sharpened razor, but not the edge. Thus it is said: ‘Seeing, one does not see.’ But that saying of Uddaka’s is low, crude, ordinary, ignoble, and pointless, as it’s only about a razor. If there’s anything of which it may be rightly said: ‘Seeing, one does not see,’ it’s of this that it should be said. Seeing what does one not see? One sees this: a spiritual path endowed with all good qualities, complete in all good qualities, neither too little nor too much, well explained, whole, full, and well propounded. One does not see this: anything that, were it to be removed, would make it purer. One does not see this: anything that, were it to be added, would make it more complete. Thus it is rightly said: ‘Seeing, one does not see.’
๖ฯ สงฺคายิตพฺพธมฺม
6. Teachings Should be Recited in Concert
ตสฺมาติห, จุนฺท, เย โว มยา ธมฺมา อภิญฺญา เทสิตา, ตตฺถ สพฺเพเหว สงฺคมฺม สมาคมฺม อตฺเถน อตฺถํ พฺยญฺชเนน พฺยญฺชนํ สงฺคายิตพฺพํ น วิวทิตพฺพํ, ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฏฺฐิติกํ, ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํฯ กตเม จ เต, จุนฺท, ธมฺมา มยา อภิญฺญา เทสิตา, ยตฺถ สพฺเพเหว สงฺคมฺม สมาคมฺม อตฺเถน อตฺถํ พฺยญฺชเนน พฺยญฺชนํ สงฺคายิตพฺพํ น วิวทิตพฺพํ, ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฏฺฐิติกํ, ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ? เสยฺยถิทํ—จตฺตาโร สติปฏฺฐานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, ปญฺจินฺทฺริยานิ, ปญฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา, อริโย อฏฺฐงฺคิโก มคฺโคฯ อิเม โข เต, จุนฺท, ธมฺมา มยา อภิญฺญา เทสิตาฯ ยตฺถ สพฺเพเหว สงฺคมฺม สมาคมฺม อตฺเถน อตฺถํ พฺยญฺชเนน พฺยญฺชนํ สงฺคายิตพฺพํ น วิวทิตพฺพํ, ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฏฺฐิติกํ, ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํฯ
So, Cunda, you should all come together and recite in concert, without disputing, those things I have taught you from my direct knowledge, comparing meaning with meaning and phrasing with phrasing, so that this spiritual path may last for a long time. That would be for the welfare and happiness of the people, out of compassion for the world, for the benefit, welfare, and happiness of gods and humans. And what are those things I have taught from my direct knowledge? They are the four kinds of mindfulness meditation, the four right efforts, the four bases of psychic power, the five faculties, the five powers, the seven awakening factors, and the noble eightfold path. These are the things I have taught from my own direct knowledge.
๗ฯ สญฺญาเปตพฺพวิธิ
7. Reaching Agreement
เตสญฺจ โว, จุนฺท, สมคฺคานํ สมฺโมทมานานํ อวิวทมานานํ สิกฺขตํ อญฺญตโร สพฺรหฺมจารี สงฺเฆ ธมฺมํ ภาเสยฺยฯ ตตฺร เจ ตุมฺหากํ เอวมสฺส: ‘อยํ โข อายสฺมา อตฺถญฺเจว มิจฺฉา คณฺหาติ, พฺยญฺชนานิ จ มิจฺฉา โรเปตี'ติฯ ตสฺส เนว อภินนฺทิตพฺพํ น ปฏิกฺโกสิตพฺพํ, อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา โส เอวมสฺส วจนีโย: ‘อิมสฺส นุ โข, อาวุโส, อตฺถสฺส อิมานิ วา พฺยญฺชนานิ เอตานิ วา พฺยญฺชนานิ กตมานิ โอปายิกตรานิ, อิเมสญฺจ พฺยญฺชนานํ อยํ วา อตฺโถ เอโส วา อตฺโถ กตโม โอปายิกตโร'ติ? โส เจ เอวํ วเทยฺย: ‘อิมสฺส โข, อาวุโส, อตฺถสฺส อิมาเนว พฺยญฺชนานิ โอปายิกตรานิ, ยา เจว เอตานิ; อิเมสญฺจ พฺยญฺชนานํ อยเมว อตฺโถ โอปายิกตโร, ยา เจว เอโส'ติฯ โส เนว อุสฺสาเทตพฺโพ น อปสาเทตพฺโพ, อนุสฺสาเทตฺวา อนปสาเทตฺวา เสฺวว สาธุกํ สญฺญาเปตพฺโพ ตสฺส จ อตฺถสฺส เตสญฺจ พฺยญฺชนานํ นิสนฺติยาฯ
Suppose one of those spiritual companions who is training in harmony and mutual appreciation, without disputing, were to recite the teaching in the Saṅgha. Now, you might think, ‘This venerable misconstrues the meaning and mistakes the phrasing.’ You should neither approve nor dismiss them, but say, ‘Friend, if this is the meaning, the phrasing may either be this or that: which is more fitting? And if this is the phrasing, the meaning may be either this or that: which is more fitting?’ Suppose they reply, ‘This phrasing fits the meaning better than that. And this meaning fits the phrasing better than that.’ Without flattering or rebuking them, you should carefully convince them by examining that meaning and that phrasing.
อปโรปิ เจ, จุนฺท, สพฺรหฺมจารี สงฺเฆ ธมฺมํ ภาเสยฺยฯ ตตฺร เจ ตุมฺหากํ เอวมสฺส: ‘อยํ โข อายสฺมา อตฺถญฺหิ โข มิจฺฉา คณฺหาติ พฺยญฺชนานิ สมฺมา โรเปตี'ติฯ ตสฺส เนว อภินนฺทิตพฺพํ น ปฏิกฺโกสิตพฺพํ, อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา โส เอวมสฺส วจนีโย: ‘อิเมสํ นุ โข, อาวุโส, พฺยญฺชนานํ อยํ วา อตฺโถ เอโส วา อตฺโถ กตโม โอปายิกตโร'ติ? โส เจ เอวํ วเทยฺย: ‘อิเมสํ โข, อาวุโส, พฺยญฺชนานํ อยเมว อตฺโถ โอปายิกตโร, ยา เจว เอโส'ติฯ โส เนว อุสฺสาเทตพฺโพ น อปสาเทตพฺโพ, อนุสฺสาเทตฺวา อนปสาเทตฺวา เสฺวว สาธุกํ สญฺญาเปตพฺโพ ตเสฺสว อตฺถสฺส นิสนฺติยาฯ
Suppose another spiritual companion were to recite the teaching in the Saṅgha. Now, you might think, ‘This venerable misconstrues the meaning but gets the phrasing right.’ You should neither approve nor dismiss them, but say, ‘Friend, if this is the phrasing, the meaning may be either this or that: which is more fitting?’ Suppose they reply, ‘This meaning fits the phrasing better than that.’ Without flattering or rebuking, you should carefully convince them by examining that meaning.
อปโรปิ เจ, จุนฺท, สพฺรหฺมจารี สงฺเฆ ธมฺมํ ภาเสยฺยฯ ตตฺร เจ ตุมฺหากํ เอวมสฺส: ‘อยํ โข อายสฺมา อตฺถญฺหิ โข สมฺมา คณฺหาติ พฺยญฺชนานิ มิจฺฉา โรเปตี'ติฯ ตสฺส เนว อภินนฺทิตพฺพํ น ปฏิกฺโกสิตพฺพํ; อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา โส เอวมสฺส วจนีโย: ‘อิมสฺส นุ โข, อาวุโส, อตฺถสฺส อิมานิ วา พฺยญฺชนานิ เอตานิ วา พฺยญฺชนานิ กตมานิ โอปายิกตรานี'ติ? โส เจ เอวํ วเทยฺย: ‘อิมสฺส โข, อาวุโส, อตฺถสฺส อิมาเนว พฺยญฺชนานิ โอปยิกตรานิ, ยา เจว เอตานี'ติฯ โส เนว อุสฺสาเทตพฺโพ น อปสาเทตพฺโพ; อนุสฺสาเทตฺวา อนปสาเทตฺวา เสฺวว สาธุกํ สญฺญาเปตพฺโพ เตสญฺเญว พฺยญฺชนานํ นิสนฺติยาฯ
Suppose another spiritual companion were to recite the teaching in the Saṅgha. Now, you might think, ‘This venerable construes the meaning correctly but mistakes the phrasing.’ You should neither approve nor dismiss them, but say, ‘Friend, if this is the meaning, the phrasing may be either this or that: which is more fitting?’ Suppose they reply, ‘This phrasing fits the meaning better than that.’ Without flattering or rebuking, you should carefully convince them by examining that phrasing.
อปโรปิ เจ, จุนฺท, สพฺรหฺมจารี สงฺเฆ ธมฺมํ ภาเสยฺยฯ ตตฺร เจ ตุมฺหากํ เอวมสฺส: ‘อยํ โข อายสฺมา อตฺถญฺเจว สมฺมา คณฺหาติ พฺยญฺชนานิ จ สมฺมา โรเปตี'ติฯ ตสฺส ‘สาธู'ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตพฺพํ อนุโมทิตพฺพํ; ตสฺส ‘สาธู'ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา โส เอวมสฺส วจนีโย: ‘ลาภา โน, อาวุโส, สุลทฺธํ โน, อาวุโส, เย มยํ อายสฺมนฺตํ ตาทิสํ สพฺรหฺมจารึ ปสฺสาม เอวํ อตฺถุเปตํ พฺยญฺชนุเปตนฺ'ติฯ
Suppose another spiritual companion were to recite the teaching in the Saṅgha. Now, you might think, ‘This venerable construes the meaning correctly and gets the phrasing right.’ Saying ‘Good!’ you should applaud and cheer that bhikkhu’s statement, and then say to them, ‘We are fortunate, friend, so very fortunate to see a venerable such as yourself, so well-versed in the meaning and the phrasing, as one of our spiritual companions!’
๘ฯ ปจฺจยานุญฺญาตการณ
8. The Reasons for Allowing Requisites
น โว อหํ, จุนฺท, ทิฏฺฐธมฺมิกานํเยว อาสวานํ สํวราย ธมฺมํ เทเสมิฯ น ปนาหํ, จุนฺท, สมฺปรายิกานํเยว อาสวานํ ปฏิฆาตาย ธมฺมํ เทเสมิฯ ทิฏฺฐธมฺมิกานํ เจวาหํ, จุนฺท, อาสวานํ สํวราย ธมฺมํ เทเสมิ; สมฺปรายิกานญฺจ อาสวานํ ปฏิฆาตายฯ
Cunda, I do not teach you solely for restraining defilements that affect the present life. Nor do I teach solely for protecting against defilements that affect lives to come. I teach both for restraining defilements that affect the present life and protecting against defilements that affect lives to come.
ตสฺมาติห, จุนฺท, ยํ โว มยา จีวรํ อนุญฺญาตํ, อลํ โว ตํ ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตาย, อุณฺหสฺส ปฏิฆาตาย, ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสานํ ปฏิฆาตาย, ยาวเทว หิริโกปีนปฏิจฺฉาทนตฺถํฯ โย โว มยา ปิณฺฑปาโต อนุญฺญาโต, อลํ โว โส ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ฐิติยา ยาปนาย วิหึสูปรติยา พฺรหฺมจริยานุคฺคหาย, อิติ ปุราณญฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามิ, นวญฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามิ, ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสติ อนวชฺชตา จ ผาสุวิหาโร จฯ ยํ โว มยา เสนาสนํ อนุญฺญาตํ, อลํ โว ตํ ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตาย, อุณฺหสฺส ปฏิฆาตาย, ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสานํ ปฏิฆาตาย, ยาวเทว อุตุปริสฺสยวิโนทนปฏิสลฺลานารามตฺถํฯ โย โว มยา คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาโร อนุญฺญาโต, อลํ โว โส ยาวเทว อุปฺปนฺนานํ เวยฺยาพาธิกานํ เวทนานํ ปฏิฆาตาย อพฺยาปชฺชปรมตายฯ
And that’s why I have allowed robes for you that suffice only for the sake of warding off cold and heat; for warding off the touch of flies, mosquitoes, wind, sun, and reptiles; and for covering up the private parts. I have allowed almsfood for you that suffices only to sustain this body, avoid harm, and support spiritual practice; so that you will put an end to old discomfort and not give rise to new discomfort, and will keep on living blamelessly and at ease. I have allowed lodgings for you that suffice only for the sake of warding off cold and heat; for warding off the touch of flies, mosquitoes, wind, sun, and reptiles; to shelter from harsh weather and to enjoy retreat. I have allowed medicines and supplies for the sick for you that suffice only for the sake of warding off the pains of illness and to promote good health.
๙ฯ สุขลฺลิกานุโยค
9. Indulgence in Pleasure
ฐานํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ ยํ อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ: ‘สุขลฺลิกานุโยคมนุยุตฺตา สมณา สกฺยปุตฺติยา วิหรนฺตี'ติฯ เอวํวาทิโน, จุนฺท, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา: ‘กตโม โส, อาวุโส, สุขลฺลิกานุโยโค? สุขลฺลิกานุโยคา หิ พหู อเนกวิหิตา นานปฺปการกา'ติฯ
It’s possible that wanderers of other religions might say, ‘The ascetics who follow the Sakyan live indulging in pleasure.’ You should say to them, ‘What is that indulgence in pleasure? For there are many different kinds of indulgence in pleasure.’
จตฺตาโรเม, จุนฺท, สุขลฺลิกานุโยคา หีนา คมฺมา โปถุชฺชนิกา อนริยา อนตฺถสํหิตา น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิญฺญาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตนฺติฯ กตเม จตฺตาโร?
These four kinds of indulgence in pleasure, Cunda, are low, crude, ordinary, ignoble, and pointless. They don’t lead to disillusionment, dispassion, cessation, peace, insight, awakening, and Nibbana. What four?
อิธ, จุนฺท, เอกจฺโจ พาโล ปาเณ วธิตฺวา วธิตฺวา อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติฯ อยํ ปฐโม สุขลฺลิกานุโยโคฯ
It’s when some fool makes themselves happy and pleased by killing living creatures. This is the first kind of indulgence in pleasure.
ปุน จปรํ, จุนฺท, อิเธกจฺโจ อทินฺนํ อาทิยิตฺวา อาทิยิตฺวา อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติฯ อยํ ทุติโย สุขลฺลิกานุโยโคฯ
Furthermore, someone makes themselves happy and pleased by theft. This is the second kind of indulgence in pleasure.
ปุน จปรํ, จุนฺท, อิเธกจฺโจ มุสา ภณิตฺวา ภณิตฺวา อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติฯ อยํ ตติโย สุขลฺลิกานุโยโคฯ
Furthermore, someone makes themselves happy and pleased by lying. This is the third kind of indulgence in pleasure.
ปุน จปรํ, จุนฺท, อิเธกจฺโจ ปญฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรติฯ อยํ จตุตฺโถ สุขลฺลิกานุโยโคฯ
Furthermore, someone amuses themselves, supplied and provided with the five kinds of sensual stimulation. This is the fourth kind of indulgence in pleasure.
อิเม โข, จุนฺท, จตฺตาโร สุขลฺลิกานุโยคา หีนา คมฺมา โปถุชฺชนิกา อนริยา อนตฺถสํหิตา น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิญฺญาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตนฺติฯ
These are the four kinds of indulgence in pleasure that are low, crude, ordinary, ignoble, and pointless. They don’t lead to disillusionment, dispassion, cessation, peace, insight, awakening, and Nibbana.
ฐานํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ ยํ อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ: ‘อิเม จตฺตาโร สุขลฺลิกานุโยเค อนุยุตฺตา สมณา สกฺยปุตฺติยา วิหรนฺตี'ติฯ เต โว ‘มา เหวํ' ติสฺสุ วจนียาฯ น เต โว สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ, อพฺภาจิกฺเขยฺยุํ อสตา อภูเตนฯ
It’s possible that wanderers of other religions might say, ‘The ascetics who follow the Sakyan live indulging in pleasure in these four ways.’ They should be told, ‘Not so!’ It isn’t right to say that about you; it misrepresents you with an untruth.
จตฺตาโรเม, จุนฺท, สุขลฺลิกานุโยคา เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิญฺญาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตนฺติฯ กตเม จตฺตาโร?
Cunda, these four kinds of indulgence in pleasure lead solely to disillusionment, dispassion, cessation, peace, insight, awakening, and Nibbana. What four?
อิธ, จุนฺท, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ ปฐโม สุขลฺลิกานุโยโคฯ
It’s when a bhikkhu, quite secluded from sensual pleasures, secluded from unskillful qualities, enters and remains in the first jhāna, which has the rapture and bliss born of seclusion, while placing the mind and keeping it connected. This is the first kind of indulgence in pleasure.
ปุน จปรํ, จุนฺท, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา …เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ ทุติโย สุขลฺลิกานุโยโคฯ
Furthermore, as the placing of the mind and keeping it connected are stilled, a bhikkhu enters and remains in the second jhāna. It has the rapture and bliss born of immersion, with internal clarity and mind at one, without placing the mind and keeping it connected. This is the second kind of indulgence in pleasure.
ปุน จปรํ, จุนฺท, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา …เป… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ ตติโย สุขลฺลิกานุโยโคฯ
Furthermore, with the fading away of rapture, a bhikkhu enters and remains in the third jhāna. They meditate with equanimity, mindful and aware, personally experiencing the bliss of which the noble ones declare, ‘Equanimous and mindful, one meditates in bliss.’ This is the third kind of indulgence in pleasure.
ปุน จปรํ, จุนฺท, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา …เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ จตุตฺโถ สุขลฺลิกานุโยโคฯ
Furthermore, giving up pleasure and pain, and ending former happiness and sadness, a bhikkhu enters and remains in the fourth jhāna. It is without pleasure or pain, with pure equanimity and mindfulness. This is the fourth kind of indulgence in pleasure.
อิเม โข, จุนฺท, จตฺตาโร สุขลฺลิกานุโยคา เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิญฺญาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตนฺติฯ
These are the four kinds of indulgence in pleasure which lead solely to disillusionment, dispassion, cessation, peace, insight, awakening, and Nibbana.
ฐานํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ ยํ อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ: ‘อิเม จตฺตาโร สุขลฺลิกานุโยเค อนุยุตฺตา สมณา สกฺยปุตฺติยา วิหรนฺตี'ติฯ เต โว ‘เอวํ' ติสฺสุ วจนียาฯ สมฺมา เต โว วทมานา วเทยฺยุํ, น เต โว อพฺภาจิกฺเขยฺยุํ อสตา อภูเตนฯ
It’s possible that wanderers of other religions might say, ‘The ascetics who follow the Sakyan live indulging in pleasure in these four ways.’ They should be told, ‘Exactly so!’ It’s right to say that about you; it doesn’t misrepresent you with an untruth.
๑๐ฯ สุขลฺลิกานุโยคานิสํส
10. The Benefits of Indulgence in Pleasure
ฐานํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ, ยํ อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ: ‘อิเม ปนาวุโส, จตฺตาโร สุขลฺลิกานุโยเค อนุยุตฺตานํ วิหรตํ กติ ผลานิ กตานิสํสา ปาฏิกงฺขา'ติ? เอวํวาทิโน, จุนฺท, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา: ‘อิเม โข, อาวุโส, จตฺตาโร สุขลฺลิกานุโยเค อนุยุตฺตานํ วิหรตํ จตฺตาริ ผลานิ จตฺตาโร อานิสํสา ปาฏิกงฺขาฯ กตเม จตฺตาโร?
It’s possible that wanderers of other religions might say, ‘How many fruits and benefits may be expected by those who live indulging in pleasure in these four ways?’ You should say to them, ‘Four benefits may be expected by those who live indulging in pleasure in these four ways. What four?
อิธาวุโส, ภิกฺขุ ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณฯ อิทํ ปฐมํ ผลํ, ปฐโม อานิสํโสฯ
Firstly, with the ending of three fetters a bhikkhu becomes a stream-enterer, not liable to be reborn in the underworld, bound for awakening. This is the first fruit and benefit.
ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี โหติ, สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติฯ อิทํ ทุติยํ ผลํ, ทุติโย อานิสํโสฯ
Furthermore, a bhikkhu—with the ending of three fetters, and the weakening of greed, hate, and delusion—becomes a once-returner. They come back to this world once only, then make an end of suffering. This is the second fruit and benefit.
ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ปญฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ, ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกาฯ อิทํ ตติยํ ผลํ, ตติโย อานิสํโสฯ
Furthermore, with the ending of the five lower fetters, a bhikkhu is reborn spontaneously and will become extinguished there, not liable to return from that world. This is the third fruit and benefit.
ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปญฺญาวิมุตฺตึ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อิทํ จตุตฺถํ ผลํ จตุตฺโถ อานิสํโสฯ
Furthermore, a bhikkhu realizes the undefiled freedom of heart and freedom by wisdom in this very life, and lives having realized it with their own insight due to the ending of defilements. This is the fourth fruit and benefit.
อิเม โข, อาวุโส, จตฺตาโร สุขลฺลิกานุโยเค อนุยุตฺตานํ วิหรตํ อิมานิ จตฺตาริ ผลานิ, จตฺตาโร อานิสํสา ปาฏิกงฺขา'ติฯ
These four benefits may be expected by those who live indulging in pleasure in these four ways.’
๑๑ฯ ขีณาสวอภพฺพฐาน
11. Things Impossible for the Perfected
ฐานํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ ยํ อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ: ‘อฏฺฐิตธมฺมา สมณา สกฺยปุตฺติยา วิหรนฺตี'ติฯ เอวํวาทิโน, จุนฺท, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา: ‘อตฺถิ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สาวกานํ ธมฺมา เทสิตา ปญฺญตฺตา ยาวชีวํ อนติกฺกมนียาฯ เสยฺยถาปิ, อาวุโส, อินฺทขีโล วา อโยขีโล วา คมฺภีรเนโม สุนิขาโต อจโล อสมฺปเวธี; เอวเมว โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สาวกานํ ธมฺมา เทสิตา ปญฺญตฺตา ยาวชีวํ อนติกฺกมนียาฯ
It’s possible that wanderers of other religions might say, ‘The ascetics who follow the Sakyan are fickle.’ You should say to them, ‘Friends, these things have been taught and pointed out for his disciples by the Blessed One, who knows and sees, the perfected one, the fully awakened Buddha, not to be transgressed so long as life lasts. Suppose there was a boundary pillar or an iron pillar with deep foundations, firmly embedded, imperturbable and unshakable. In the same way, these things have been taught and pointed out for his disciples by the Blessed One, who knows and sees, the perfected one, the fully awakened Buddha, not to be transgressed so long as life lasts.
โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทญฺญาวิมุตฺโต, อภพฺโพ โส นว ฐานานิ อชฺฌาจริตุํฯ อภพฺโพ, อาวุโส, ขีณาสโว ภิกฺขุ สญฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปตุํ; อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยิตุํ; อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตุํ; อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สมฺปชานมุสา ภาสิตุํ; อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สนฺนิธิการกํ กาเม ปริภุญฺชิตุํ, เสยฺยถาปิ ปุพฺเพ อาคาริกภูโต; อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ ฉนฺทาคตึ คนฺตุํ; อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ โทสาคตึ คนฺตุํ; อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ โมหาคตึ คนฺตุํ; อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ ภยาคตึ คนฺตุํฯ โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทญฺญาวิมุตฺโต, อภพฺโพ โส อิมานิ นว ฐานานิ อชฺฌาจริตุนฺ'ติฯ
A bhikkhu who is perfected—with defilements ended, who has completed the spiritual journey, done what had to be done, laid down the burden, achieved their own true goal, utterly ended the fetters of rebirth, and is rightly freed through enlightenment—can’t transgress in nine respects. A bhikkhu with defilements ended can’t deliberately take the life of a living creature, take something with the intention to steal, have sex, tell a deliberate lie, or store up goods for their own enjoyment like they used to as a lay person. And they can’t make decisions prejudiced by favoritism, hostility, stupidity, or cowardice. A bhikkhu who is perfected can’t transgress in these nine respects.’
๑๒ฯ ปญฺหาพฺยากรณ
12. Questions and Answers
ฐานํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ, ยํ อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ: ‘อตีตํ โข อทฺธานํ อารพฺภ สมโณ โคตโม อตีรกํ ญาณทสฺสนํ ปญฺญเปติ, โน จ โข อนาคตํ อทฺธานํ อารพฺภ อตีรกํ ญาณทสฺสนํ ปญฺญเปติ, ตยิทํ กึสุ ตยิทํ กถํสู'ติ? เต จ อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา อญฺญวิหิตเกน ญาณทสฺสเนน อญฺญวิหิตกํ ญาณทสฺสนํ ปญฺญเปตพฺพํ มญฺญนฺติ ยถริว พาลา อพฺยตฺตาฯ
It’s possible that wanderers of other religions might say, ‘The ascetic Gotama demonstrates boundless knowledge and vision of the past, but not of the future. What’s up with that?’ Those wanderers, like incompetent fools, seem to imagine that one kind of knowledge and vision can be demonstrated by means of another kind of knowledge and vision.
อตีตํ โข, จุนฺท, อทฺธานํ อารพฺภ ตถาคตสฺส สตานุสาริญาณํ โหติ; โส ยาวตกํ อากงฺขติ ตาวตกํ อนุสฺสรติฯ
Regarding the past, the Realized One has knowledge stemming from memory. He recollects as far as he wants.
อนาคตญฺจ โข อทฺธานํ อารพฺภ ตถาคตสฺส โพธิชํ ญาณํ อุปฺปชฺชติ: ‘อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว'ติฯ
Regarding the future, the Realized One has the knowledge born of awakening: ‘This is my last rebirth. Now there are no more future lives.’
อตีตญฺเจปิ, จุนฺท, โหติ อภูตํ อตจฺฉํ อนตฺถสํหิตํ, น ตํ ตถาคโต พฺยากโรติฯ อตีตญฺเจปิ, จุนฺท, โหติ ภูตํ ตจฺฉํ อนตฺถสํหิตํ, ตมฺปิ ตถาคโต น พฺยากโรติฯ อตีตญฺเจปิ, จุนฺท, โหติ ภูตํ ตจฺฉํ อตฺถสํหิตํ, ตตฺร กาลญฺญู ตถาคโต โหติ ตสฺส ปญฺหสฺส เวยฺยากรณายฯ อนาคตญฺเจปิ, จุนฺท, โหติ อภูตํ อตจฺฉํ อนตฺถสํหิตํ, น ตํ ตถาคโต พฺยากโรติ …เป… ตสฺส ปญฺหสฺส เวยฺยากรณายฯ ปจฺจุปฺปนฺนญฺเจปิ, จุนฺท, โหติ อภูตํ อตจฺฉํ อนตฺถสํหิตํ, น ตํ ตถาคโต พฺยากโรติฯ ปจฺจุปฺปนฺนญฺเจปิ, จุนฺท, โหติ ภูตํ ตจฺฉํ อนตฺถสํหิตํ, ตมฺปิ ตถาคโต น พฺยากโรติฯ ปจฺจุปฺปนฺนญฺเจปิ, จุนฺท, โหติ ภูตํ ตจฺฉํ อตฺถสํหิตํ, ตตฺร กาลญฺญู ตถาคโต โหติ ตสฺส ปญฺหสฺส เวยฺยากรณายฯ
If a question about the past is untrue, false, and pointless, the Realized One does not reply. If a question about the past is true and correct, but pointless, he does not reply. If a question about the past is true, correct, and beneficial, he knows the right time to reply. And the Realized One replies to questions about the future or the present in the same way.
อิติ โข, จุนฺท, อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ ตถาคโต กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที, ตสฺมา ‘ตถาคโต'ติ วุจฺจติฯ
And so the Realized One has speech that’s well-timed, true, meaningful, in line with the teaching and training. That’s why he’s called the ‘Realized One’.
ยญฺจ โข, จุนฺท, สเทวกสฺส โลกสฺส สมารกสฺส สพฺรหฺมกสฺส สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ทิฏฺฐํ สุตํ มุตํ วิญฺญาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, สพฺพํ ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธํ, ตสฺมา ‘ตถาคโต'ติ วุจฺจติฯ
In this world—with its gods, Māras, and Brahmās, this population with its ascetics and brahmins, its gods and humans—whatever is seen, heard, thought, known, attained, sought, and explored by the mind, all that has been understood by the Realized One. That’s why he’s called the ‘Realized One’.
ยญฺจ, จุนฺท, รตฺตึ ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌติ, ยญฺจ รตฺตึ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ, ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร ภาสติ ลปติ นิทฺทิสติฯ สพฺพํ ตํ ตเถว โหติ โน อญฺญถา, ตสฺมา ‘ตถาคโต'ติ วุจฺจติฯ
From the night when the Realized One understands the supreme perfect awakening until the night he becomes fully extinguished—in the element of Nibbana with nothing left over—everything he speaks, says, and expresses is real, not otherwise. That’s why he’s called the ‘Realized One’.
ยถาวาที, จุนฺท, ตถาคโต ตถาการี, ยถาการี ตถาวาทีฯ อิติ ยถาวาที ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที, ตสฺมา ‘ตถาคโต'ติ วุจฺจติฯ สเทวเก โลเก, จุนฺท, สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ตถาคโต อภิภู อนภิภูโต อญฺญทตฺถุทโส วสวตฺตี, ตสฺมา ‘ตถาคโต'ติ วุจฺจติฯ
The Realized One does as he says, and says as he does. Since this is so, that’s why he’s called the ‘Realized One’. In this world—with its gods, Māras and Brahmās, this population with its ascetics and brahmins, gods and humans—the Realized One is the vanquisher, the unvanquished, the universal seer, the wielder of power.
๑๓ฯ อพฺยากตฏฺฐาน
13. The Undeclared Points
ฐานํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ ยํ อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ: ‘กึ นุ โข, อาวุโส, โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติ? เอวํวาทิโน, จุนฺท, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา: ‘อพฺยากตํ โข เอตํ, อาวุโส, ภควตา: “โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ”'ติฯ
It’s possible that wanderers of other religions might say, ‘Is this your view: “A Realized One still exists after death. This is the only truth, other ideas are silly”?’ You should say to them, ‘Friend, this has not been declared by the Buddha.’
ฐานํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ, ยํ อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ: ‘กึ ปนาวุโส, น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติ? เอวํวาทิโน, จุนฺท, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา: ‘เอตมฺปิ โข, อาวุโส, ภควตา อพฺยากตํ: “น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ”'ติฯ
The wanderers might say, ‘Then is this your view: “A Realized One no longer exists after death. This is the only truth, other ideas are silly”?’ You should say to them, ‘This too has not been declared by the Buddha.’
ฐานํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ, ยํ อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ: ‘กึ ปนาวุโส, โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติ? เอวํวาทิโน, จุนฺท, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา: ‘อพฺยากตํ โข เอตํ, อาวุโส, ภควตา: “โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ”'ติฯ
The wanderers might say, ‘Then is this your view: “A Realized One both still exists and no longer exists after death. This is the only truth, other ideas are silly”?’ You should say to them, ‘This too has not been declared by the Buddha.’
ฐานํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ, ยํ อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ: ‘กึ ปนาวุโส, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติ? เอวํวาทิโน, จุนฺท, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา: ‘เอตมฺปิ โข, อาวุโส, ภควตา อพฺยากตํ: “เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ”'ติฯ
The wanderers might say, ‘Then is this your view: “A Realized One neither still exists nor no longer exists after death. This is the only truth, other ideas are silly”?’ You should say to them, ‘This too has not been declared by the Buddha.’
ฐานํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ, ยํ อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ: ‘กสฺมา ปเนตํ, อาวุโส, สมเณน โคตเมน อพฺยากตนฺ'ติ? เอวํวาทิโน, จุนฺท, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา: ‘น เหตํ, อาวุโส, อตฺถสํหิตํ น ธมฺมสํหิตํ น อาทิพฺรหฺมจริยกํ น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิญฺญาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติ, ตสฺมา ตํ ภควตา อพฺยากตนฺ'ติฯ
The wanderers might say, ‘But why has this not been declared by the ascetic Gotama?’ You should say to them, ‘Because it’s not beneficial or relevant to the fundamentals of the spiritual life. It doesn’t lead to disillusionment, dispassion, cessation, peace, insight, awakening, and Nibbana. That’s why it hasn’t been declared by the Buddha.’
๑๔ฯ พฺยากตฏฺฐาน
14. The Declared Points
ฐานํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ, ยํ อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ: ‘กึ ปนาวุโส, สมเณน โคตเมน พฺยากตนฺ'ติ? เอวํวาทิโน, จุนฺท, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา: ‘อิทํ ทุกฺขนฺติ โข, อาวุโส, ภควตา พฺยากตํ, อยํ ทุกฺขสมุทโยติ โข, อาวุโส, ภควตา พฺยากตํ, อยํ ทุกฺขนิโรโธติ โข, อาวุโส, ภควตา พฺยากตํ, อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ โข, อาวุโส, ภควตา พฺยากตนฺ'ติฯ
It’s possible that wanderers of other religions might say, ‘But what has been declared by the ascetic Gotama?’ You should say to them, ‘What has been declared by the Buddha is this: “This is suffering”—“This is the origin of suffering”—“This is the cessation of suffering”—“This is the practice that leads to the cessation of suffering.”’
ฐานํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ, ยํ อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ: ‘กสฺมา ปเนตํ, อาวุโส, สมเณน โคตเมน พฺยากตนฺ'ติ? เอวํวาทิโน, จุนฺท, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา: ‘เอตญฺหิ, อาวุโส, อตฺถสํหิตํ, เอตํ ธมฺมสํหิตํ, เอตํ อาทิพฺรหฺมจริยกํ เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิญฺญาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติฯ ตสฺมา ตํ ภควตา พฺยากตนฺ'ติฯ
The wanderers might say, ‘But why has this been declared by the ascetic Gotama?’ You should say to them, ‘Because it’s beneficial and relevant to the fundamentals of the spiritual life. It leads to disillusionment, dispassion, cessation, peace, insight, awakening, and Nibbana. That’s why it has been declared by the Buddha.’
๑๕ฯ ปุพฺพนฺตสหคตทิฏฺฐินิสฺสย
15. Views of the Past
เยปิ เต, จุนฺท, ปุพฺพนฺตสหคตา ทิฏฺฐินิสฺสยา, เตปิ โว มยา พฺยากตา, ยถา เต พฺยากาตพฺพาฯ ยถา จ เต น พฺยากาตพฺพา, กึ โว อหํ เต ตถา พฺยากริสฺสามิ? เยปิ เต, จุนฺท, อปรนฺตสหคตา ทิฏฺฐินิสฺสยา, เตปิ โว มยา พฺยากตา, ยถา เต พฺยากาตพฺพาฯ ยถา จ เต น พฺยากาตพฺพา, กึ โว อหํ เต ตถา พฺยากริสฺสามิ?
Cunda, I have explained to you as they should be explained the views that some rely on regarding the past. Shall I explain them to you in the wrong way? I have explained to you as they should be explained the views that some rely on regarding the future. Shall I explain them to you in the wrong way?
กตเม จ เต, จุนฺท, ปุพฺพนฺตสหคตา ทิฏฺฐินิสฺสยา, เย โว มยา พฺยากตา, ยถา เต พฺยากาตพฺพาฯ ยถา จ เต น พฺยากาตพฺพา, กึ โว อหํ เต ตถา พฺยากริสฺสามิ? สนฺติ โข, จุนฺท, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน: ‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติฯ สนฺติ ปน, จุนฺท, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน: ‘อสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ …เป… สสฺสโต จ อสสฺสโต จ อตฺตา จ โลโก จ … เนว สสฺสโต นาสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ … สยงฺกโต อตฺตา จ โลโก จ … ปรงฺกโต อตฺตา จ โลโก จ … สยงฺกโต จ ปรงฺกโต จ อตฺตา จ โลโก จ … อสยงฺกาโร อปรงฺกาโร อธิจฺจสมุปฺปนฺโน อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติฯ ‘สสฺสตํ สุขทุกฺขํ … อสสฺสตํ สุขทุกฺขํ … สสฺสตญฺจ อสสฺสตญฺจ สุขทุกฺขํ … เนวสสฺสตํ นาสสฺสตํ สุขทุกฺขํ … สยงฺกตํ สุขทุกฺขํ … ปรงฺกตํ สุขทุกฺขํ … สยงฺกตญฺจ ปรงฺกตญฺจ สุขทุกฺขํ … อสยงฺการํ อปรงฺการํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ สุขทุกฺขํ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติฯ
What are the views that some rely on regarding the past? There are some ascetics and brahmins who have this doctrine and view: ‘The self and the cosmos are eternal. This is the only truth, other ideas are silly.’ There are some ascetics and brahmins who have this doctrine and view: ‘The self and the cosmos are not eternal, or both eternal and not eternal, or neither eternal nor not eternal. The self and the cosmos are made by oneself, or made by another, or made by both oneself and another, or they have arisen by chance, not made by oneself or another. Pleasure and pain are eternal, or not eternal, or both eternal and not eternal, or neither eternal nor not eternal. Pleasure and pain are made by oneself, or made by another, or made by both oneself and another, or they have arisen by chance, not made by oneself or another. This is the only truth, other ideas are silly.’
ตตฺร, จุนฺท, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน: ‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติฯ ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ: ‘อตฺถิ นุ โข อิทํ, อาวุโส, วุจฺจติ: “สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จา”'ติ? ยญฺจ โข เต เอวมาหํสุ: ‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติฯ ตํ เตสํ นานุชานามิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อญฺญถาสญฺญิโนปิ เหตฺถ, จุนฺท, สนฺเตเก สตฺตาฯ อิมายปิ โข อหํ, จุนฺท, ปญฺญตฺติยา เนว อตฺตนา สมสมํ สมนุปสฺสามิ กุโต ภิโยฺยฯ อถ โข อหเมว ตตฺถ ภิโยฺย ยทิทํ อธิปญฺญตฺติฯ
Regarding this, I go up to the ascetics and brahmins whose view is that the self and the cosmos are eternal, and say, ‘Friends, is this what you say, “The self and the cosmos are eternal”?’ But when they say, ‘Yes! This is the only truth, other ideas are silly,’ I don’t acknowledge that. Why is that? Because there are beings who have different opinions on this topic. I don’t see any such expositions that are equal to my own, still less superior. Rather, I am the one who is superior when it comes to the higher exposition.
ตตฺร, จุนฺท, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน: ‘อสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ … สสฺสโต จ อสสฺสโต จ อตฺตา จ โลโก จ … เนวสสฺสโต นาสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ … สยงฺกโต อตฺตา จ โลโก จ … ปรงฺกโต อตฺตา จ โลโก จ … สยงฺกโต จ ปรงฺกโต จ อตฺตา จ โลโก จ … อสยงฺกาโร อปรงฺกาโร อธิจฺจสมุปฺปนฺโน อตฺตา จ โลโก จ … สสฺสตํ สุขทุกฺขํ … อสสฺสตํ สุขทุกฺขํ … สสฺสตญฺจ อสสฺสตญฺจ สุขทุกฺขํ … เนวสสฺสตํ นาสสฺสตํ สุขทุกฺขํ … สยงฺกตํ สุขทุกฺขํ … ปรงฺกตํ สุขทุกฺขํ … สยงฺกตญฺจ ปรงฺกตญฺจ สุขทุกฺขํ … อสยงฺการํ อปรงฺการํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ สุขทุกฺขํ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติฯ ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ: ‘อตฺถิ นุ โข อิทํ, อาวุโส, วุจฺจติ: “อสยงฺการํ อปรงฺการํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ สุขทุกฺขนฺ”'ติ? ยญฺจ โข เต เอวมาหํสุ: ‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติฯ ตํ เตสํ นานุชานามิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อญฺญถาสญฺญิโนปิ เหตฺถ, จุนฺท, สนฺเตเก สตฺตาฯ อิมายปิ โข อหํ, จุนฺท, ปญฺญตฺติยา เนว อตฺตนา สมสมํ สมนุปสฺสามิ กุโต ภิโยฺยฯ อถ โข อหเมว ตตฺถ ภิโยฺย ยทิทํ อธิปญฺญตฺติฯ
Regarding this, I go up to the ascetics and brahmins who assert all the other views as described above. And in each case, I don’t acknowledge that. Why is that? Because there are beings who have different opinions on this topic. I don’t see any such expositions that are equal to my own, still less superior. Rather, I am the one who is superior when it comes to the higher exposition.
อิเม โข เต, จุนฺท, ปุพฺพนฺตสหคตา ทิฏฺฐินิสฺสยา, เย โว มยา พฺยากตา, ยถา เต พฺยากาตพฺพาฯ ยถา จ เต น พฺยากาตพฺพา, กึ โว อหํ เต ตถา พฺยากริสฺสามิ?
These are the views that some rely on regarding the past.
๑๖ฯ อปรนฺตสหคตทิฏฺฐินิสฺสย
16. Views of the Future
กตเม จ เต, จุนฺท, อปรนฺตสหคตา ทิฏฺฐินิสฺสยา, เย โว มยา พฺยากตา, ยถา เต พฺยากาตพฺพาฯ ยถา จ เต น พฺยากาตพฺพา, กึ โว อหํ เต ตถา พฺยากริสฺสามิ? สนฺติ, จุนฺท, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน: ‘รูปี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติฯ สนฺติ ปน, จุนฺท, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน: ‘อรูปี อตฺตา โหติ … รูปี จ อรูปี จ อตฺตา โหติ … เนวรูปี นารูปี อตฺตา โหติ … สญฺญี อตฺตา โหติ … อสญฺญี อตฺตา โหติ … เนวสญฺญีนาสญฺญี อตฺตา โหติ … อตฺตา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ น โหติ ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติฯ
What are the views that some rely on regarding the future? There are some ascetics and brahmins who have this doctrine and view: ‘The self has form and is well after death, or it is formless, or both having form and formless, or neither having form nor formless, or percipient, or non-percipient, or neither percipient nor non-percipient, or the self is annihilated and destroyed when the body breaks up, and doesn’t exist after death. This is the only truth, other ideas are silly.’
ตตฺร, จุนฺท, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน: ‘รูปี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติฯ ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ: ‘อตฺถิ นุ โข อิทํ, อาวุโส, วุจฺจติ: “รูปี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา”'ติ? ยญฺจ โข เต เอวมาหํสุ: ‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติฯ ตํ เตสํ นานุชานามิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อญฺญถาสญฺญิโนปิ เหตฺถ, จุนฺท, สนฺเตเก สตฺตาฯ อิมายปิ โข อหํ, จุนฺท, ปญฺญตฺติยา เนว อตฺตนา สมสมํ สมนุปสฺสามิ กุโต ภิโยฺยฯ อถ โข อหเมว ตตฺถ ภิโยฺย ยทิทํ อธิปญฺญตฺติฯ
Regarding this, I go up to the ascetics and brahmins whose view is that The self is has form and is well after death, and say, ‘Friends, is this what you say, “The self is has form and is well after death”?’ But when they say, ‘Yes! This is the only truth, other ideas are silly,’ I don’t acknowledge that. Why is that? Because there are beings who have different opinions on this topic. I don’t see any such expositions that are equal to my own, still less superior. Rather, I am the one who is superior when it comes to the higher exposition.
ตตฺร, จุนฺท, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน: ‘อรูปี อตฺตา โหติ … รูปี จ อรูปี จ อตฺตา โหติ … เนวรูปีนารูปี อตฺตา โหติ … สญฺญี อตฺตา โหติ … อสญฺญี อตฺตา โหติ … เนวสญฺญีนาสญฺญี อตฺตา โหติ … อตฺตา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ น โหติ ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติฯ ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ: ‘อตฺถิ นุ โข อิทํ, อาวุโส, วุจฺจติ: “อตฺตา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ น โหติ ปรํ มรณา”'ติ? ยญฺจ โข เต, จุนฺท, เอวมาหํสุ: ‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติฯ ตํ เตสํ นานุชานามิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อญฺญถาสญฺญิโนปิ เหตฺถ, จุนฺท, สนฺเตเก สตฺตาฯ อิมายปิ โข อหํ, จุนฺท, ปญฺญตฺติยา เนว อตฺตนา สมสมํ สมนุปสฺสามิ, กุโต ภิโยฺยฯ อถ โข อหเมว ตตฺถ ภิโยฺย ยทิทํ อธิปญฺญตฺติฯ
Regarding this, I go up to the ascetics and brahmins who assert all the other views as described above. And in each case, I don’t acknowledge that. Why is that? Because there are beings who have different opinions on this topic. I don’t see any such expositions that are equal to my own, still less superior. Rather, I am the one who is superior when it comes to the higher exposition.
อิเม โข เต, จุนฺท, อปรนฺตสหคตา ทิฏฺฐินิสฺสยา, เย โว มยา พฺยากตา, ยถา เต พฺยากาตพฺพาฯ ยถา จ เต น พฺยากาตพฺพา, กึ โว อหํ เต ตถา พฺยากริสฺสามิ?
These are the views that some rely on regarding the future, which I have explained to you as they should be explained. Shall I explain them to you in the wrong way?
อิเมสญฺจ, จุนฺท, ปุพฺพนฺตสหคตานํ ทิฏฺฐินิสฺสยานํ อิเมสญฺจ อปรนฺตสหคตานํ ทิฏฺฐินิสฺสยานํ ปหานาย สมติกฺกมาย เอวํ มยา จตฺตาโร สติปฏฺฐานา เทสิตา ปญฺญตฺตาฯ กตเม จตฺตาโร? อิธ, จุนฺท, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํฯ เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี …เป… จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี …เป… ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํฯ อิเมสญฺจ, จุนฺท, ปุพฺพนฺตสหคตานํ ทิฏฺฐินิสฺสยานํ อิเมสญฺจ อปรนฺตสหคตานํ ทิฏฺฐินิสฺสยานํ ปหานาย สมติกฺกมายฯ เอวํ มยา อิเม จตฺตาโร สติปฏฺฐานา เทสิตา ปญฺญตฺตา”ติฯ
I have taught and pointed out the four kinds of mindfulness meditation for giving up and going beyond all these views of the past and the future. What four? It’s when a bhikkhu meditates by observing an aspect of the body—keen, aware, and mindful, rid of covetousness and displeasure for the world. They meditate observing an aspect of feelings … mind … principles—keen, aware, and mindful, rid of covetousness and displeasure for the world. These are the four kinds of mindfulness meditation that I have taught for giving up and going beyond all these views of the past and the future.”
เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุปวาโณ ภควโต ปิฏฺฐิโต ฐิโต โหติ ภควนฺตํ พีชยมาโนฯ อถ โข อายสฺมา อุปวาโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ: “อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเตฯ ปาสาทิโก วตายํ, ภนฺเต, ธมฺมปริยาโย; สุปาสาทิโก วตายํ, ภนฺเต, ธมฺมปริยาโย, โก นามายํ, ภนฺเต, ธมฺมปริยาโย”ติ?
Now at that time Venerable Upavāna was standing behind the Buddha fanning him. He said to the Buddha, “It’s incredible, sir, it’s amazing! This exposition of the teaching is impressive, sir, it is very impressive. Sir, what is the name of this exposition of the teaching?”
“ตสฺมาติห ตฺวํ, อุปวาณ, อิมํ ธมฺมปริยายํ ‘ปาสาทิโก' เตฺวว นํ ธาเรหี”ติฯ
“Well, Upavāna, you may remember this exposition of the teaching as ‘The Impressive Discourse’.”
อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมโน อายสฺมา อุปวาโณ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติฯ
That is what the Buddha said. Satisfied, Venerable Upavāna was happy with what the Buddha said.
ปาสาทิกสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ฉฏฺฐํฯ
The authoritative text of the Dīgha Nikāya is the Pāli text. The English translation is provided as an aid to the study of the original Pāli text. [CREDITS »]