Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā |
ปสนฺนาการกถา
Pasannākārakathā
เอวํ เทสนํ โถเมตฺวา อิมาย เทสนาย รตนตฺตเย ปสนฺนจิโตฺต ปสนฺนาการํ กโรโนฺต ‘‘เอสาห’’นฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ เอสาหนฺติ เอโส อหํฯ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามีติ ภวนฺตํ โคตมํ สรณนฺติ คจฺฉามิ; ภวํ เม โคตโม สรณํ, ปรายณํ, อฆสฺส ตาตา, หิตสฺส จ วิธาตาติ อิมินา อธิปฺปาเยน ภวนฺตํ โคตมํ คจฺฉามิ ภชามิ เสวามิ ปยิรุปาสามิ , เอวํ วา ชานามิ พุชฺฌามีติฯ เยสญฺหิ ธาตูนํ คติอโตฺถ, พุทฺธิปิ เตสํ อโตฺถ; ตสฺมา ‘‘คจฺฉามี’’ติ อิมสฺส ชานามิ พุชฺฌามีติ อยมฺปิ อโตฺถ วุโตฺตฯ ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสงฺฆญฺจาติ เอตฺถ ปน อธิคตมเคฺค สจฺฉิกตนิโรเธ ยถานุสิฎฺฐํ ปฎิปชฺชมาเน จ จตูสุ อปาเยสุ อปตมาเน ธาเรตีติ ธโมฺม; โส อตฺถโต อริยมโคฺค เจว นิพฺพานญฺจฯ วุตฺตํ เหตํ – ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา, อริโย อฎฺฐงฺคิโก มโคฺค เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๔) วิตฺถาโรฯ น เกวลญฺจ อริยมโคฺค เจว นิพฺพานญฺจ, อปิ จ โข อริยผเลหิ สทฺธิํ ปริยตฺติธโมฺมปิฯ วุตฺตมฺปิ เหตํ ฉตฺตมาณวกวิมาเน –
Evaṃ desanaṃ thometvā imāya desanāya ratanattaye pasannacitto pasannākāraṃ karonto ‘‘esāha’’ntiādimāha. Tattha esāhanti eso ahaṃ. Bhavantaṃ gotamaṃ saraṇaṃ gacchāmīti bhavantaṃ gotamaṃ saraṇanti gacchāmi; bhavaṃ me gotamo saraṇaṃ, parāyaṇaṃ, aghassa tātā, hitassa ca vidhātāti iminā adhippāyena bhavantaṃ gotamaṃ gacchāmi bhajāmi sevāmi payirupāsāmi , evaṃ vā jānāmi bujjhāmīti. Yesañhi dhātūnaṃ gatiattho, buddhipi tesaṃ attho; tasmā ‘‘gacchāmī’’ti imassa jānāmi bujjhāmīti ayampi attho vutto. Dhammañca bhikkhusaṅghañcāti ettha pana adhigatamagge sacchikatanirodhe yathānusiṭṭhaṃ paṭipajjamāne ca catūsu apāyesu apatamāne dhāretīti dhammo; so atthato ariyamaggo ceva nibbānañca. Vuttaṃ hetaṃ – ‘‘yāvatā, bhikkhave, dhammā saṅkhatā, ariyo aṭṭhaṅgiko maggo tesaṃ aggamakkhāyatī’’ti (a. ni. 4.34) vitthāro. Na kevalañca ariyamaggo ceva nibbānañca, api ca kho ariyaphalehi saddhiṃ pariyattidhammopi. Vuttampi hetaṃ chattamāṇavakavimāne –
‘‘ราควิราคมเนชมโสกํ, ธมฺมมสงฺขตมปฺปฎิกูลํ;
‘‘Rāgavirāgamanejamasokaṃ, dhammamasaṅkhatamappaṭikūlaṃ;
มธุรมิมํ ปคุณํ สุวิภตฺตํ, ธมฺมมิมํ สรณตฺถมุเปหี’’ติฯ (วิ. ว. ๘๘๗);
Madhuramimaṃ paguṇaṃ suvibhattaṃ, dhammamimaṃ saraṇatthamupehī’’ti. (vi. va. 887);
เอตฺถ หิ ราควิราโคติ มโคฺค กถิโตฯ อเนชมโสกนฺติ ผลํฯ ธมฺมมสงฺขตนฺติ นิพฺพานํฯ อปฺปฎิกูลํ มธุรมิมํ ปคุณํ สุวิภตฺตนฺติ ปิฎกตฺตเยน วิภตฺตา สพฺพธมฺมกฺขนฺธาติฯ ทิฎฺฐิสีลสงฺฆาเตน สํหโตติ สโงฺฆ, โส อตฺถโต อฎฺฐอริยปุคฺคลสมูโหฯ วุตฺตเญฺหตํ ตสฺมิํเยว วิมาเน –
Ettha hi rāgavirāgoti maggo kathito. Anejamasokanti phalaṃ. Dhammamasaṅkhatanti nibbānaṃ. Appaṭikūlaṃ madhuramimaṃ paguṇaṃ suvibhattanti piṭakattayena vibhattā sabbadhammakkhandhāti. Diṭṭhisīlasaṅghātena saṃhatoti saṅgho, so atthato aṭṭhaariyapuggalasamūho. Vuttañhetaṃ tasmiṃyeva vimāne –
‘‘ยตฺถ จ ทินฺนมหปฺผลมาหุ, จตูสุ สุจีสุ ปุริสยุเคสุ;
‘‘Yattha ca dinnamahapphalamāhu, catūsu sucīsu purisayugesu;
อฎฺฐ จ ปุคฺคลธมฺมทสา เต, สงฺฆมิมํ สรณตฺถมุเปหี’’ติฯ (วิ. ว. ๘๘๘);
Aṭṭha ca puggaladhammadasā te, saṅghamimaṃ saraṇatthamupehī’’ti. (vi. va. 888);
ภิกฺขูนํ สโงฺฆ ภิกฺขุสโงฺฆฯ เอตฺตาวตา จ พฺราหฺมโณ ตีณิ สรณคมนานิ ปฎิเวเทสิฯ
Bhikkhūnaṃ saṅgho bhikkhusaṅgho. Ettāvatā ca brāhmaṇo tīṇi saraṇagamanāni paṭivedesi.
ปสนฺนาการกถา นิฎฺฐิตาฯ
Pasannākārakathā niṭṭhitā.