Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā

    ๙. (ปฐม) เทวสภเตฺถรคาถาวณฺณนา

    9. (Paṭhama) devasabhattheragāthāvaṇṇanā

    อุตฺติณฺณา ปงฺกปลิปาติ อายสฺมโต เทวสภเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? โสปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฎฺฎูปนิสฺสยํ ปุญฺญํ อุปจินโนฺต สิขิสฺส ภควโต กาเล ปาราวตโยนิยํ นิพฺพโตฺต เอกทิวสํ สตฺถารํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส ปิยาลผลํ อุปเนสิฯ สตฺถา ตสฺส ปสาทสํวฑฺฒนตฺถํ ตํ ปริภุญฺชิฯ โส เตน อติวิย ปสนฺนจิโตฺต หุตฺวา กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา จิตฺตํ ปสาเทติ ฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน เทวโลเก นิพฺพโตฺต อปราปรํ ปุญฺญานิ กตฺวา เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท อญฺญตรสฺส มณฺฑลิกรโญฺญ ปุโตฺต หุตฺวา นิพฺพโตฺต ตรุณกาเลเยว รเชฺช ปติฎฺฐิโต รชฺชสุขมนุภวโนฺต วุโทฺธ สตฺถารํ อุปสงฺกมิ, ตสฺส สตฺถา ธมฺมํ เทเสสิฯ โส ธมฺมํ สุตฺวา ปฎิลทฺธสโทฺธ สํเวคชาโต รชฺชํ ปหาย ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรโนฺต นจิรเสฺสว อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๑๔.๖๖-๗๒) –

    Uttiṇṇā paṅkapalipāti āyasmato devasabhattherassa gāthā. Kā uppatti? Sopi purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave vivaṭṭūpanissayaṃ puññaṃ upacinanto sikhissa bhagavato kāle pārāvatayoniyaṃ nibbatto ekadivasaṃ satthāraṃ disvā pasannamānaso piyālaphalaṃ upanesi. Satthā tassa pasādasaṃvaḍḍhanatthaṃ taṃ paribhuñji. So tena ativiya pasannacitto hutvā kālena kālaṃ upasaṅkamitvā vanditvā cittaṃ pasādeti . So tena puññakammena devaloke nibbatto aparāparaṃ puññāni katvā devamanussesu saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde aññatarassa maṇḍalikarañño putto hutvā nibbatto taruṇakāleyeva rajje patiṭṭhito rajjasukhamanubhavanto vuddho satthāraṃ upasaṅkami, tassa satthā dhammaṃ desesi. So dhammaṃ sutvā paṭiladdhasaddho saṃvegajāto rajjaṃ pahāya pabbajitvā vipassanāya kammaṃ karonto nacirasseva arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 1.14.66-72) –

    ‘‘ปาราวโต ตทา อาสิํ, ปรํ อนุปโรธโก;

    ‘‘Pārāvato tadā āsiṃ, paraṃ anuparodhako;

    ปพฺภาเร เสยฺยํ กเปฺปมิ, อวิทูเร สิขิสตฺถุโนฯ

    Pabbhāre seyyaṃ kappemi, avidūre sikhisatthuno.

    ‘‘สายํ ปาตญฺจ ปสฺสามิ, พุทฺธํ โลกคฺคนายกํ;

    ‘‘Sāyaṃ pātañca passāmi, buddhaṃ lokagganāyakaṃ;

    เทยฺยธโมฺม จ เม นตฺถิ, ทฺวิปทินฺทสฺส ตาทิโนฯ

    Deyyadhammo ca me natthi, dvipadindassa tādino.

    ‘‘ปิยาลผลมาทาย , อคมํ พุทฺธสนฺติกํ;

    ‘‘Piyālaphalamādāya , agamaṃ buddhasantikaṃ;

    ปฎิคฺคเหสิ ภควา, โลกเชโฎฺฐ นราสโภฯ

    Paṭiggahesi bhagavā, lokajeṭṭho narāsabho.

    ‘‘ตโต ปรํ อุปาทาย, ปริจาริํ วินายกํ;

    ‘‘Tato paraṃ upādāya, paricāriṃ vināyakaṃ;

    เตน จิตฺตปฺปสาเทน, ตตฺถ กาลงฺกโต อหํฯ

    Tena cittappasādena, tattha kālaṅkato ahaṃ.

    ‘‘เอกตฺติํเส อิโต กเปฺป, ยํ ผลํ อททิํ อหํ;

    ‘‘Ekattiṃse ito kappe, yaṃ phalaṃ adadiṃ ahaṃ;

    ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, ผลทานสฺสิทํ ผลํฯ

    Duggatiṃ nābhijānāmi, phaladānassidaṃ phalaṃ.

    ‘‘อิโต ปนฺนรเส กเปฺป, ตโย อาสุํ ปิยาลิโน;

    ‘‘Ito pannarase kappe, tayo āsuṃ piyālino;

    สตฺตรตนสมฺปนฺนา, จกฺกวตฺตี มหพฺพลาฯ

    Sattaratanasampannā, cakkavattī mahabbalā.

    ‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

    ‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.

    อรหตฺตํ ปน ปตฺวา ปหีนกิเลสปจฺจเวกฺขณวเสน อุปฺปนฺนโสมนโสฺส อุทานํ อุทาเนโนฺต –

    Arahattaṃ pana patvā pahīnakilesapaccavekkhaṇavasena uppannasomanasso udānaṃ udānento –

    ๘๙.

    89.

    ‘‘อุตฺติณฺณา ปงฺกปลิปา, ปาตาลา ปริวชฺชิตา;

    ‘‘Uttiṇṇā paṅkapalipā, pātālā parivajjitā;

    มุโตฺต โอฆา จ คนฺถา จ, สเพฺพ มานา วิสํหตา’’ติฯ – คาถํ อภาสิ;

    Mutto oghā ca ganthā ca, sabbe mānā visaṃhatā’’ti. – gāthaṃ abhāsi;

    ตตฺถ อุตฺติณฺณาติ อุตฺตริตา อติกฺกนฺตาฯ ปงฺกปลิปาติ ปงฺกา จ ปลิปา จฯ ปโงฺก วุจฺจติ ปกติกทฺทโมฯ ‘‘ปลิโป’’ติ คมฺภีรปุถุโล มหากทฺทโมฯ อิธ ปน ปโงฺก วิยาติ ปโงฺก, กามราโค อสุจิภาวาปาทเนน จิตฺตสฺส มกฺขนโตฯ ปลิโป วิยาติ ปลิโป, ปุตฺตทาราทิวิสโย พหโล ฉนฺทราโค วุตฺตนเยน สมฺมกฺขนโต ทุรุตฺตรณโต จฯ เต มยา อนาคามิมเคฺคน สพฺพโส อติกฺกนฺตาติ อาห ‘‘อุตฺติณฺณา ปงฺกปลิปา’’ติฯ ปาตาลาติ ปาตายาลนฺติ ปาตาลา, มหาสมุเทฺท นินฺนตรปเทสาฯ เกจิ ปน นาคภวนํ ‘‘ปาตาล’’นฺติ วทนฺติฯ อิธ ปน อคาหทุรวคฺคาหทุรุตฺตรณเฎฺฐน ปาตาลา วิยาติ ปาตาลา, ทิฎฺฐิโยฯ เต จ มยา ปฐมมคฺคาธิคเมเนว สพฺพถา วชฺชิตา สมุจฺฉินฺนาติ อาห ‘‘ปาตาลา ปริวชฺชิตา’’ติ มุโตฺต โอฆา จ คนฺถา จาติ กาโมฆาทิโอฆโต อภิชฺฌากายคนฺถาทิคนฺถโต จ เตน เตน มเคฺคน มุโตฺต ปริมุโตฺต, ปุน อนภิกิรณอคนฺถนวเสน อติกฺกโนฺตติ อโตฺถฯ สเพฺพ มานา วิสํหตาติ นววิธาปิ มานา อคฺคมคฺคาธิคเมน วิเสสโต สงฺฆาตํ วินาสํ อาปาทิตา สมุจฺฉินฺนา ‘‘มานวิธา หตา’’ติ เกจิ ปฐนฺติ, มานโกฎฺฐาสาติ อโตฺถฯ ‘‘มานวิสา’’ติ อปเร, เตสํ ปน มานวิสสฺส ทุกฺขสฺส ผลโต มานวิสาติ อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ

    Tattha uttiṇṇāti uttaritā atikkantā. Paṅkapalipāti paṅkā ca palipā ca. Paṅko vuccati pakatikaddamo. ‘‘Palipo’’ti gambhīraputhulo mahākaddamo. Idha pana paṅko viyāti paṅko, kāmarāgo asucibhāvāpādanena cittassa makkhanato. Palipo viyāti palipo, puttadārādivisayo bahalo chandarāgo vuttanayena sammakkhanato duruttaraṇato ca. Te mayā anāgāmimaggena sabbaso atikkantāti āha ‘‘uttiṇṇā paṅkapalipā’’ti. Pātālāti pātāyālanti pātālā, mahāsamudde ninnatarapadesā. Keci pana nāgabhavanaṃ ‘‘pātāla’’nti vadanti. Idha pana agāhaduravaggāhaduruttaraṇaṭṭhena pātālā viyāti pātālā, diṭṭhiyo. Te ca mayā paṭhamamaggādhigameneva sabbathā vajjitā samucchinnāti āha ‘‘pātālā parivajjitā’’ti mutto oghā ca ganthā cāti kāmoghādioghato abhijjhākāyaganthādiganthato ca tena tena maggena mutto parimutto, puna anabhikiraṇaaganthanavasena atikkantoti attho. Sabbe mānā visaṃhatāti navavidhāpi mānā aggamaggādhigamena visesato saṅghātaṃ vināsaṃ āpāditā samucchinnā ‘‘mānavidhā hatā’’ti keci paṭhanti, mānakoṭṭhāsāti attho. ‘‘Mānavisā’’ti apare, tesaṃ pana mānavisassa dukkhassa phalato mānavisāti attho daṭṭhabbo.

    (ปฐม) เทวสภเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    (Paṭhama) devasabhattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๙. (ปฐม)-เทวสภเตฺถรคาถา • 9. (Paṭhama)-devasabhattheragāthā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact