Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๗. ปฐมอนาคตภยสุตฺตํ
7. Paṭhamaanāgatabhayasuttaṃ
๗๗. ‘‘ปญฺจิมานิ, ภิกฺขเว, อนาคตภยานิ สมฺปสฺสมาเนน อลเมว อารญฺญิเกน 1 ภิกฺขุนา อปฺปมเตฺตน อาตาปินา ปหิตเตฺตน วิหริตุํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายฯ
77. ‘‘Pañcimāni, bhikkhave, anāgatabhayāni sampassamānena alameva āraññikena 2 bhikkhunā appamattena ātāpinā pahitattena viharituṃ appattassa pattiyā anadhigatassa adhigamāya asacchikatassa sacchikiriyāya.
‘‘กตมานิ ปญฺจ? อิธ, ภิกฺขเว, อารญฺญิโก ภิกฺขุ อิติ ปฎิสญฺจิกฺขติ – ‘อหํ โข เอตรหิ เอกโก อรเญฺญ วิหรามิฯ เอกกํ โข ปน มํ 3 อรเญฺญ วิหรนฺตํ อหิ วา มํ ฑํเสยฺย, วิจฺฉิโก 4 วา มํ ฑํเสยฺย, สตปที วา มํ ฑํเสยฺย, เตน เม อสฺส กาลงฺกิริยา, โส มมสฺส อนฺตราโย; หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’ติฯ อิทํ, ภิกฺขเว, ปฐมํ อนาคตภยํ สมฺปสฺสมาเนน อลเมว อารญฺญิเกน ภิกฺขุนา อปฺปมเตฺตน อาตาปินา ปหิตเตฺตน วิหริตุํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายฯ
‘‘Katamāni pañca? Idha, bhikkhave, āraññiko bhikkhu iti paṭisañcikkhati – ‘ahaṃ kho etarahi ekako araññe viharāmi. Ekakaṃ kho pana maṃ 5 araññe viharantaṃ ahi vā maṃ ḍaṃseyya, vicchiko 6 vā maṃ ḍaṃseyya, satapadī vā maṃ ḍaṃseyya, tena me assa kālaṅkiriyā, so mamassa antarāyo; handāhaṃ vīriyaṃ ārabhāmi appattassa pattiyā anadhigatassa adhigamāya asacchikatassa sacchikiriyāyā’ti. Idaṃ, bhikkhave, paṭhamaṃ anāgatabhayaṃ sampassamānena alameva āraññikena bhikkhunā appamattena ātāpinā pahitattena viharituṃ appattassa pattiyā anadhigatassa adhigamāya asacchikatassa sacchikiriyāya.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อารญฺญิโก ภิกฺขุ อิติ ปฎิสญฺจิกฺขติ – ‘อหํ โข เอตรหิ เอกโก อรเญฺญ วิหรามิฯ เอกโก โข ปนาหํ อรเญฺญ วิหรโนฺต อุปกฺขลิตฺวา วา ปปเตยฺยํ, ภตฺตํ วา ภุตฺตํ เม พฺยาปเชฺชยฺย, ปิตฺตํ วา เม กุเปฺปยฺย, เสมฺหํ วา เม กุเปฺปยฺย, สตฺถกา วา เม วาตา กุเปฺปยฺยุํ, เตน เม อสฺส กาลงฺกิริยา, โส มมสฺส อนฺตราโย; หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’ติฯ อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ อนาคตภยํ สมฺปสฺสมาเนน อลเมว อารญฺญิเกน ภิกฺขุนา อปฺปมเตฺตน อาตาปินา ปหิตเตฺตน วิหริตุํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายฯ
‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, āraññiko bhikkhu iti paṭisañcikkhati – ‘ahaṃ kho etarahi ekako araññe viharāmi. Ekako kho panāhaṃ araññe viharanto upakkhalitvā vā papateyyaṃ, bhattaṃ vā bhuttaṃ me byāpajjeyya, pittaṃ vā me kuppeyya, semhaṃ vā me kuppeyya, satthakā vā me vātā kuppeyyuṃ, tena me assa kālaṅkiriyā, so mamassa antarāyo; handāhaṃ vīriyaṃ ārabhāmi appattassa pattiyā anadhigatassa adhigamāya asacchikatassa sacchikiriyāyā’ti. Idaṃ, bhikkhave, dutiyaṃ anāgatabhayaṃ sampassamānena alameva āraññikena bhikkhunā appamattena ātāpinā pahitattena viharituṃ appattassa pattiyā anadhigatassa adhigamāya asacchikatassa sacchikiriyāya.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อารญฺญิโก ภิกฺขุ อิติ ปฎิสญฺจิกฺขติ – ‘อหํ โข เอตรหิ เอกโก อรเญฺญ วิหรามิฯ เอกโก โข ปนาหํ อรเญฺญ วิหรโนฺต วาเฬหิ สมาคเจฺฉยฺยํ, สีเหน วา พฺยเคฺฆน วา ทีปินา วา อเจฺฉน วา ตรเจฺฉน วา, เต มํ ชีวิตา โวโรเปยฺยุํ, เตน เม อสฺส กาลงฺกิริยา , โส มมสฺส อนฺตราโย; หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’ติฯ อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ อนาคตภยํ สมฺปสฺสมาเนน อลเมว อารญฺญิเกน ภิกฺขุนา อปฺปมเตฺตน อาตาปินา ปหิตเตฺตน วิหริตุํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายฯ
‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, āraññiko bhikkhu iti paṭisañcikkhati – ‘ahaṃ kho etarahi ekako araññe viharāmi. Ekako kho panāhaṃ araññe viharanto vāḷehi samāgaccheyyaṃ, sīhena vā byagghena vā dīpinā vā acchena vā taracchena vā, te maṃ jīvitā voropeyyuṃ, tena me assa kālaṅkiriyā , so mamassa antarāyo; handāhaṃ vīriyaṃ ārabhāmi appattassa pattiyā anadhigatassa adhigamāya asacchikatassa sacchikiriyāyā’ti. Idaṃ, bhikkhave, tatiyaṃ anāgatabhayaṃ sampassamānena alameva āraññikena bhikkhunā appamattena ātāpinā pahitattena viharituṃ appattassa pattiyā anadhigatassa adhigamāya asacchikatassa sacchikiriyāya.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อารญฺญิโก ภิกฺขุ อิติ ปฎิสญฺจิกฺขติ – ‘อหํ โข เอตรหิ เอกโก อรเญฺญ วิหรามิฯ เอกโก โข ปนาหํ อรเญฺญ วิหรโนฺต มาณเวหิ สมาคเจฺฉยฺยํ กตกเมฺมหิ วา อกตกเมฺมหิ วา, เต มํ ชีวิตา โวโรเปยฺยุํ, เตน เม อสฺส กาลงฺกิริยา , โส มมสฺส อนฺตราโย; หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’ติฯ อิทํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ อนาคตภยํ สมฺปสฺสมาเนน อลเมว อารญฺญิเกน ภิกฺขุนา อปฺปมเตฺตน อาตาปินา ปหิตเตฺตน วิหริตุํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายฯ
‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, āraññiko bhikkhu iti paṭisañcikkhati – ‘ahaṃ kho etarahi ekako araññe viharāmi. Ekako kho panāhaṃ araññe viharanto māṇavehi samāgaccheyyaṃ katakammehi vā akatakammehi vā, te maṃ jīvitā voropeyyuṃ, tena me assa kālaṅkiriyā , so mamassa antarāyo; handāhaṃ vīriyaṃ ārabhāmi appattassa pattiyā anadhigatassa adhigamāya asacchikatassa sacchikiriyāyā’ti. Idaṃ, bhikkhave, catutthaṃ anāgatabhayaṃ sampassamānena alameva āraññikena bhikkhunā appamattena ātāpinā pahitattena viharituṃ appattassa pattiyā anadhigatassa adhigamāya asacchikatassa sacchikiriyāya.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อารญฺญิโก ภิกฺขุ อิติ ปฎิสญฺจิกฺขติ – ‘อหํ โข เอตรหิ เอกโก อรเญฺญ วิหรามิฯ สนฺติ โข ปนารเญฺญ วาฬา อมนุสฺสา, เต มํ ชีวิตา โวโรเปยฺยุํ, เตน เม อสฺส กาลงฺกิริยา, โส มมสฺส อนฺตราโย; หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’ติฯ อิทํ, ภิกฺขเว, ปญฺจมํ อนาคตภยํ สมฺปสฺสมาเนน อลเมว อารญฺญิเกน ภิกฺขุนา อปฺปมเตฺตน อาตาปินา ปหิตเตฺตน วิหริตุํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายฯ
‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, āraññiko bhikkhu iti paṭisañcikkhati – ‘ahaṃ kho etarahi ekako araññe viharāmi. Santi kho panāraññe vāḷā amanussā, te maṃ jīvitā voropeyyuṃ, tena me assa kālaṅkiriyā, so mamassa antarāyo; handāhaṃ vīriyaṃ ārabhāmi appattassa pattiyā anadhigatassa adhigamāya asacchikatassa sacchikiriyāyā’ti. Idaṃ, bhikkhave, pañcamaṃ anāgatabhayaṃ sampassamānena alameva āraññikena bhikkhunā appamattena ātāpinā pahitattena viharituṃ appattassa pattiyā anadhigatassa adhigamāya asacchikatassa sacchikiriyāya.
‘‘อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ อนาคตภยานิ สมฺปสฺสมาเนน อลเมว อารญฺญิเกน ภิกฺขุนา อปฺปมเตฺตน อาตาปินา ปหิตเตฺตน วิหริตุํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติฯ สตฺตมํฯ
‘‘Imāni kho, bhikkhave, pañca anāgatabhayāni sampassamānena alameva āraññikena bhikkhunā appamattena ātāpinā pahitattena viharituṃ appattassa pattiyā anadhigatassa adhigamāya asacchikatassa sacchikiriyāyā’’ti. Sattamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๗. ปฐมอนาคตภยสุตฺตวณฺณนา • 7. Paṭhamaanāgatabhayasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๗-๘. ปฐมอนาคตภยสุตฺตาทิวณฺณนา • 7-8. Paṭhamaanāgatabhayasuttādivaṇṇanā