Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga |
๓. อนิยตกณฺฑํ
3. Aniyatakaṇḍaṃ
๑. ปฐมอนิยตสิกฺขาปทํ
1. Paṭhamaaniyatasikkhāpadaṃ
อิเม โข ปนายสฺมโนฺต เทฺว อนิยตา ธมฺมา
Ime kho panāyasmanto dve aniyatā dhammā
อุเทฺทสํ อาคจฺฉนฺติฯ
Uddesaṃ āgacchanti.
๔๔๓. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุทายี สาวตฺถิยํ กุลูปโก โหติ, พหุกานิ กุลานิ อุปสงฺกมติฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต อุทายิสฺส อุปฎฺฐากกุลสฺส กุมาริกา อญฺญตรสฺส กุลสฺส กุมารกสฺส ทินฺนา โหติฯ อถ โข อายสฺมา อุทายี ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ตํ กุลํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มนุเสฺส ปุจฺฉิ – ‘‘กหํ อิตฺถนฺนามา’’ติ? เต เอวมาหํสุ – ‘‘ทินฺนา, ภเนฺต, อมุกสฺส กุลสฺส กุมารกสฺสา’’ติฯ ตมฺปิ โข กุลํ อายสฺมโต อุทายิสฺส อุปฎฺฐากํ โหติฯ อถ โข อายสฺมา อุทายี เยน ตํ กุลํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มนุเสฺส ปุจฺฉิ – ‘‘กหํ อิตฺถนฺนามา’’ติ? เต เอวมาหํสุ – ‘‘เอสายฺย, โอวรเก นิสินฺนา’’ติฯ อถ โข อายสฺมา อุทายี เยน สา กุมาริกา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตสฺสา กุมาริกาย สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห ปฎิจฺฉเนฺน อาสเน อลํกมฺมนิเย นิสชฺชํ กเปฺปสิ กาลยุตฺตํ สมุลฺลปโนฺต กาลยุตฺตํ ธมฺมํ ภณโนฺตฯ
443. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena āyasmā udāyī sāvatthiyaṃ kulūpako hoti, bahukāni kulāni upasaṅkamati. Tena kho pana samayena āyasmato udāyissa upaṭṭhākakulassa kumārikā aññatarassa kulassa kumārakassa dinnā hoti. Atha kho āyasmā udāyī pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yena taṃ kulaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā manusse pucchi – ‘‘kahaṃ itthannāmā’’ti? Te evamāhaṃsu – ‘‘dinnā, bhante, amukassa kulassa kumārakassā’’ti. Tampi kho kulaṃ āyasmato udāyissa upaṭṭhākaṃ hoti. Atha kho āyasmā udāyī yena taṃ kulaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā manusse pucchi – ‘‘kahaṃ itthannāmā’’ti? Te evamāhaṃsu – ‘‘esāyya, ovarake nisinnā’’ti. Atha kho āyasmā udāyī yena sā kumārikā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā tassā kumārikāya saddhiṃ eko ekāya raho paṭicchanne āsane alaṃkammaniye nisajjaṃ kappesi kālayuttaṃ samullapanto kālayuttaṃ dhammaṃ bhaṇanto.
เตน โข ปน สมเยน วิสาขา มิคารมาตา พหุปุตฺตา โหติ พหุนตฺตา อโรคปุตฺตา อโรคนตฺตา อภิมงฺคลสมฺมตาฯ มนุสฺสา ยเญฺญสุ ฉเณสุ อุสฺสเวสุ วิสาขํ มิคารมาตรํ ปฐมํ โภเชนฺติฯ อถ โข วิสาขา มิคารมาตา นิมนฺติตา ตํ กุลํ อคมาสิฯ อทฺทสา โข วิสาขา มิคารมาตา อายสฺมนฺตํ อุทายิํ ตสฺสา กุมาริกาย สทฺธิํ เอกํ เอกาย รโห ปฎิจฺฉเนฺน อาสเน อลํกมฺมนิเย นิสินฺนํฯ ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ อุทายิํ เอตทโวจ – ‘‘อิทํ, ภเนฺต, นจฺฉนฺนํ นปฺปติรูปํ ยํ อโยฺย มาตุคาเมน สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห ปฎิจฺฉเนฺน อาสเน อลํกมฺมนิเย นิสชฺชํ กเปฺปติฯ กิญฺจาปิ, ภเนฺต, อโยฺย อนตฺถิโก เตน ธเมฺมน, อปิจ ทุสฺสทฺธาปยา อปฺปสนฺนา มนุสฺสา’’ติฯ เอวมฺปิ โข อายสฺมา อุทายี วิสาขาย มิคารมาตุยา วุจฺจมาโน นาทิยิฯ อถ โข วิสาขา มิคารมาตา นิกฺขมิตฺวา ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อายสฺมา อุทายี มาตุคาเมน สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห ปฎิจฺฉเนฺน อาสเน อลํกมฺมนิเย นิสชฺชํ กเปฺปสฺสตี’’ติ! อถ โข เต ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ อุทายิํ อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, อุทายิ, มาตุคาเมน สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห ปฎิจฺฉเนฺน อาสเน อลํกมฺมนิเย นิสชฺชํ กเปฺปสี’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, มาตุคาเมน สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห ปฎิจฺฉเนฺน อาสเน อลํกมฺมนิเย นิสชฺชํ กเปฺปสฺสสิ! เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว , อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
Tena kho pana samayena visākhā migāramātā bahuputtā hoti bahunattā arogaputtā aroganattā abhimaṅgalasammatā. Manussā yaññesu chaṇesu ussavesu visākhaṃ migāramātaraṃ paṭhamaṃ bhojenti. Atha kho visākhā migāramātā nimantitā taṃ kulaṃ agamāsi. Addasā kho visākhā migāramātā āyasmantaṃ udāyiṃ tassā kumārikāya saddhiṃ ekaṃ ekāya raho paṭicchanne āsane alaṃkammaniye nisinnaṃ. Disvāna āyasmantaṃ udāyiṃ etadavoca – ‘‘idaṃ, bhante, nacchannaṃ nappatirūpaṃ yaṃ ayyo mātugāmena saddhiṃ eko ekāya raho paṭicchanne āsane alaṃkammaniye nisajjaṃ kappeti. Kiñcāpi, bhante, ayyo anatthiko tena dhammena, apica dussaddhāpayā appasannā manussā’’ti. Evampi kho āyasmā udāyī visākhāya migāramātuyā vuccamāno nādiyi. Atha kho visākhā migāramātā nikkhamitvā bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesi. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma āyasmā udāyī mātugāmena saddhiṃ eko ekāya raho paṭicchanne āsane alaṃkammaniye nisajjaṃ kappessatī’’ti! Atha kho te bhikkhū āyasmantaṃ udāyiṃ anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘saccaṃ kira tvaṃ, udāyi, mātugāmena saddhiṃ eko ekāya raho paṭicchanne āsane alaṃkammaniye nisajjaṃ kappesī’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, mātugāmena saddhiṃ eko ekāya raho paṭicchanne āsane alaṃkammaniye nisajjaṃ kappessasi! Netaṃ, moghapurisa, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave , imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๔๔๔. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ มาตุคาเมน สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห ปฎิจฺฉเนฺน อาสเน อลํกมฺมนิเย นิสชฺชํ กเปฺปยฺย, ตเมนํ สเทฺธยฺยวจสา อุปาสิกา ทิสฺวา ติณฺณํ ธมฺมานํ อญฺญตเรน วเทยฺย – ปาราชิเกน วา สงฺฆาทิเสเสน วา ปาจิตฺติเยน วา, นิสชฺชํ ภิกฺขุ ปฎิชานมาโน ติณฺณํ ธมฺมานํ อญฺญตเรน กาเรตโพฺพ – ปาราชิเกน วา สงฺฆาทิเสเสน วา ปาจิตฺติเยน วา เยน วา สา สเทฺธยฺยวจสา อุปาสิกา วเทยฺย, เตน โส ภิกฺขุ กาเรตโพฺพฯ อยํ ธโมฺม อนิยโต’’ติฯ
444.‘‘Yo pana bhikkhu mātugāmena saddhiṃ eko ekāya raho paṭicchanne āsane alaṃkammaniye nisajjaṃ kappeyya, tamenaṃ saddheyyavacasā upāsikā disvā tiṇṇaṃ dhammānaṃ aññatarena vadeyya – pārājikena vā saṅghādisesena vā pācittiyena vā, nisajjaṃ bhikkhu paṭijānamāno tiṇṇaṃ dhammānaṃ aññatarena kāretabbo – pārājikena vā saṅghādisesena vā pācittiyena vā yena vā sā saddheyyavacasā upāsikā vadeyya, tena so bhikkhu kāretabbo. Ayaṃ dhammo aniyato’’ti.
๔๔๕. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ
445.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.
มาตุคาโม นาม มนุสฺสิตฺถี, น ยกฺขี น เปตี น ติรจฺฉานคตาฯ อนฺตมโส ตทหุชาตาปิ ทาริกา, ปเคว มหตฺตรีฯ
Mātugāmo nāma manussitthī, na yakkhī na petī na tiracchānagatā. Antamaso tadahujātāpi dārikā, pageva mahattarī.
สทฺธินฺติ เอกโตฯ
Saddhinti ekato.
เอโก เอกายาติ ภิกฺขุ เจว โหติ มาตุคาโม จฯ
Eko ekāyāti bhikkhu ceva hoti mātugāmo ca.
รโห นาม จกฺขุสฺส รโห, โสตสฺส รโหฯ จกฺขุสฺส รโหนาม น สกฺกา โหติ อกฺขิํ วา นิขณียมาเน ภมุกํ วา อุกฺขิปียมาเน สีสํ วา อุกฺขิปียมาเน ปสฺสิตุํฯ โสตสฺส รโหนาม น สกฺกา โหติ ปกติกถา โสตุํฯ
Raho nāma cakkhussa raho, sotassa raho. Cakkhussa rahonāma na sakkā hoti akkhiṃ vā nikhaṇīyamāne bhamukaṃ vā ukkhipīyamāne sīsaṃ vā ukkhipīyamāne passituṃ. Sotassa rahonāma na sakkā hoti pakatikathā sotuṃ.
ปฎิจฺฉนฺนํ นาม อาสนํ กุเฎฺฎน วา 1 กวาเฎน วา กิลเญฺชน วา สาณิปากาเรน วา รุเกฺขน วา ถเมฺภน วา โกตฺถฬิยา วา เยน เกนจิ ปฎิจฺฉนฺนํ โหติฯ
Paṭicchannaṃ nāma āsanaṃ kuṭṭena vā 2 kavāṭena vā kilañjena vā sāṇipākārena vā rukkhena vā thambhena vā kotthaḷiyā vā yena kenaci paṭicchannaṃ hoti.
อลํกมฺมนิเยติ สกฺกา โหติ เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิตุํฯ
Alaṃkammaniyeti sakkā hoti methunaṃ dhammaṃ paṭisevituṃ.
นิสชฺชํ กเปฺปยฺยาติ มาตุคาเม นิสิเนฺน ภิกฺขุ อุปนิสิโนฺน วา โหติ อุปนิปโนฺน วาฯ ภิกฺขุ นิสิเนฺน มาตุคาโม อุปนิสิโนฺน วา โหติ อุปนิปโนฺน วาฯ อุโภ วา นิสินฺนา โหนฺติ อุโภ วา นิปนฺนาฯ
Nisajjaṃkappeyyāti mātugāme nisinne bhikkhu upanisinno vā hoti upanipanno vā. Bhikkhu nisinne mātugāmo upanisinno vā hoti upanipanno vā. Ubho vā nisinnā honti ubho vā nipannā.
สเทฺธยฺยวจสา นาม อาคตผลา อภิสเมตาวินี วิญฺญาตสาสนาฯ
Saddheyyavacasā nāma āgataphalā abhisametāvinī viññātasāsanā.
อุปาสิกา นาม พุทฺธํ สรณํ คตา, ธมฺมํ สรณํ คตา, สงฺฆํ สรณํ คตาฯ
Upāsikā nāma buddhaṃ saraṇaṃ gatā, dhammaṃ saraṇaṃ gatā, saṅghaṃ saraṇaṃ gatā.
ทิสฺวาติ ปสฺสิตฺวาฯ
Disvāti passitvā.
ติณฺณํ ธมฺมานํ อญฺญตเรน วเทยฺย – ปาราชิเกน วา สงฺฆาทิเสเสน วา ปาจิตฺติเยน วาฯ นิสชฺชํ ภิกฺขุ ปฎิชานมาโน ติณฺณํ ธมฺมานํ อญฺญตเรน กาเรตโพฺพ – ปาราชิเกน วา สงฺฆาทิเสเสน วา ปาจิตฺติเยน วาฯ เยน วา สา สเทฺธยฺยวจสา อุปาสิกา วเทยฺย เตน โส ภิกฺขุ กาเรตโพฺพฯ
Tiṇṇaṃ dhammānaṃ aññatarena vadeyya – pārājikena vā saṅghādisesena vā pācittiyena vā. Nisajjaṃ bhikkhu paṭijānamāno tiṇṇaṃ dhammānaṃ aññatarena kāretabbo – pārājikena vā saṅghādisesena vā pācittiyena vā. Yena vā sā saddheyyavacasā upāsikā vadeyya tena so bhikkhu kāretabbo.
๔๔๖. สา เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘อโยฺย มยา ทิโฎฺฐ นิสิโนฺน มาตุคามสฺส เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวโนฺต’’ติ, โส จ ตํ ปฎิชานาติ, อาปตฺติยา กาเรตโพฺพฯ สา เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘อโยฺย มยา ทิโฎฺฐ นิสิโนฺน มาตุคามสฺส เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวโนฺต’’ติ, โส เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘สจฺจาหํ นิสิโนฺน, โน จ โข เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิ’’นฺติ, นิสชฺชาย กาเรตโพฺพฯ สา เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘อโยฺย มยา ทิโฎฺฐ นิสิโนฺน มาตุคามสฺส เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวโนฺต’’ติ, โส เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘นาหํ นิสิโนฺน, อปิจ โข นิปโนฺน’’ติ, นิปชฺชาย กาเรตโพฺพ ฯ สา เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘อโยฺย มยา ทิโฎฺฐ นิสิโนฺน มาตุคามสฺส เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวโนฺต’’ติ, โส เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘นาหํ นิสิโนฺน อปิจ โข ฐิโต’’ติ, น กาเรตโพฺพฯ
446. Sā ce evaṃ vadeyya – ‘‘ayyo mayā diṭṭho nisinno mātugāmassa methunaṃ dhammaṃ paṭisevanto’’ti, so ca taṃ paṭijānāti, āpattiyā kāretabbo. Sā ce evaṃ vadeyya – ‘‘ayyo mayā diṭṭho nisinno mātugāmassa methunaṃ dhammaṃ paṭisevanto’’ti, so ce evaṃ vadeyya – ‘‘saccāhaṃ nisinno, no ca kho methunaṃ dhammaṃ paṭisevi’’nti, nisajjāya kāretabbo. Sā ce evaṃ vadeyya – ‘‘ayyo mayā diṭṭho nisinno mātugāmassa methunaṃ dhammaṃ paṭisevanto’’ti, so ce evaṃ vadeyya – ‘‘nāhaṃ nisinno, apica kho nipanno’’ti, nipajjāya kāretabbo . Sā ce evaṃ vadeyya – ‘‘ayyo mayā diṭṭho nisinno mātugāmassa methunaṃ dhammaṃ paṭisevanto’’ti, so ce evaṃ vadeyya – ‘‘nāhaṃ nisinno apica kho ṭhito’’ti, na kāretabbo.
๔๔๗. สา เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘อโยฺย มยา ทิโฎฺฐ นิปโนฺน มาตุคามสฺส เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวโนฺต’’ติ, โส จ ตํ ปฎิชานาติ, อาปตฺติยา กาเรตโพฺพฯ สา เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘อโยฺย มยา ทิโฎฺฐ นิปโนฺน มาตุคามสฺส เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวโนฺต’’ติ, โส เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘สจฺจาหํ นิปโนฺน, โน จ โข เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิ’’นฺติ, นิปชฺชาย กาเรตโพฺพฯ สา เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘อโยฺย มยา ทิโฎฺฐ นิปโนฺน มาตุคามสฺส เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวโนฺต’’ติ, โส เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘นาหํ นิปโนฺน, อปิจ โข นิสิโนฺน’’ติ, นิสชฺชาย กาเรตโพฺพฯ สา เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘อโยฺย มยา ทิโฎฺฐ นิปโนฺน มาตุคามสฺส เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวโนฺต’’ติ , โส เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘นาหํ นิปโนฺน อปิจ โข ฐิโต’’ติ, น กาเรตโพฺพฯ
447. Sā ce evaṃ vadeyya – ‘‘ayyo mayā diṭṭho nipanno mātugāmassa methunaṃ dhammaṃ paṭisevanto’’ti, so ca taṃ paṭijānāti, āpattiyā kāretabbo. Sā ce evaṃ vadeyya – ‘‘ayyo mayā diṭṭho nipanno mātugāmassa methunaṃ dhammaṃ paṭisevanto’’ti, so ce evaṃ vadeyya – ‘‘saccāhaṃ nipanno, no ca kho methunaṃ dhammaṃ paṭisevi’’nti, nipajjāya kāretabbo. Sā ce evaṃ vadeyya – ‘‘ayyo mayā diṭṭho nipanno mātugāmassa methunaṃ dhammaṃ paṭisevanto’’ti, so ce evaṃ vadeyya – ‘‘nāhaṃ nipanno, apica kho nisinno’’ti, nisajjāya kāretabbo. Sā ce evaṃ vadeyya – ‘‘ayyo mayā diṭṭho nipanno mātugāmassa methunaṃ dhammaṃ paṭisevanto’’ti , so ce evaṃ vadeyya – ‘‘nāhaṃ nipanno apica kho ṭhito’’ti, na kāretabbo.
๔๔๘. สา เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘อโยฺย มยา ทิโฎฺฐ นิสิโนฺน มาตุคาเมน สทฺธิํ กายสํสคฺคํ สมาปชฺชโนฺต’’ติ, โส จ ตํ ปฎิชานาติ, อาปตฺติยา กาเรตโพฺพ…เป.… สจฺจาหํ นิสิโนฺน โน จ โข กายสํสคฺคํ สมาปชฺชินฺติ, นิสชฺชาย กาเรตโพฺพ…เป.… นาหํ นิสิโนฺน อปิจ โข นิปโนฺนติ, นิปชฺชาย กาเรตโพฺพ…เป.… นาหํ นิสิโนฺน อปิจ โข ฐิโตติ, น กาเรตโพฺพฯ
448. Sā ce evaṃ vadeyya – ‘‘ayyo mayā diṭṭho nisinno mātugāmena saddhiṃ kāyasaṃsaggaṃ samāpajjanto’’ti, so ca taṃ paṭijānāti, āpattiyā kāretabbo…pe… saccāhaṃ nisinno no ca kho kāyasaṃsaggaṃ samāpajjinti, nisajjāya kāretabbo…pe… nāhaṃ nisinno apica kho nipannoti, nipajjāya kāretabbo…pe… nāhaṃ nisinno apica kho ṭhitoti, na kāretabbo.
สา เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘อโยฺย มยา ทิโฎฺฐ นิปโนฺน มาตุคาเมน สทฺธิํ กายสํสคฺคํ สมาปชฺชโนฺต’’ติ, โส จ ตํ ปฎิชานาติ, อาปตฺติยา กาเรตโพฺพ…เป.… สจฺจาหํ นิปโนฺน, โน จ โข กายสํสคฺคํ สมาปชฺชินฺติ, นิปชฺชาย กาเรตโพฺพ…เป.… นาหํ นิปโนฺน, อปิจ โข นิสิโนฺนติ, นิสชฺชาย กาเรตโพฺพ…เป.… นาหํ นิปโนฺน, อปิจ โข ฐิโตติ, น กาเรตโพฺพฯ
Sā ce evaṃ vadeyya – ‘‘ayyo mayā diṭṭho nipanno mātugāmena saddhiṃ kāyasaṃsaggaṃ samāpajjanto’’ti, so ca taṃ paṭijānāti, āpattiyā kāretabbo…pe… saccāhaṃ nipanno, no ca kho kāyasaṃsaggaṃ samāpajjinti, nipajjāya kāretabbo…pe… nāhaṃ nipanno, apica kho nisinnoti, nisajjāya kāretabbo…pe… nāhaṃ nipanno, apica kho ṭhitoti, na kāretabbo.
๔๔๙. สา เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘อโยฺย มยา ทิโฎฺฐ มาตุคาเมน สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห ปฎิจฺฉเนฺน อาสเน อลํกมฺมนิเย นิสิโนฺน’’ติ , โส จ ตํ ปฎิชานาติ, นิสชฺชาย กาเรตโพฺพ…เป.… นาหํ นิสิโนฺน อปิจ โข นิปโนฺนติ, นิปชฺชาย กาเรตโพฺพ…เป.… นาหํ นิสิโนฺน, อปิจ โข ฐิโตติ, น กาเรตโพฺพฯ
449. Sā ce evaṃ vadeyya – ‘‘ayyo mayā diṭṭho mātugāmena saddhiṃ eko ekāya raho paṭicchanne āsane alaṃkammaniye nisinno’’ti , so ca taṃ paṭijānāti, nisajjāya kāretabbo…pe… nāhaṃ nisinno apica kho nipannoti, nipajjāya kāretabbo…pe… nāhaṃ nisinno, apica kho ṭhitoti, na kāretabbo.
๔๕๐. สา เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘อโยฺย มยา ทิโฎฺฐ มาตุคาเมน สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห ปฎิจฺฉเนฺน อาสเน อลํกมฺมนิเย นิปโนฺน’’ติ, โส จ ตํ ปฎิชานาติ, นิปชฺชาย กาเรตโพฺพ…เป.… นาหํ นิปโนฺน, อปิจ โข นิสิโนฺนติ, นิสชฺชาย กาเรตโพฺพ…เป.… นาหํ นิปโนฺน, อปิจ โข ฐิโตติ, น กาเรตโพฺพฯ
450. Sā ce evaṃ vadeyya – ‘‘ayyo mayā diṭṭho mātugāmena saddhiṃ eko ekāya raho paṭicchanne āsane alaṃkammaniye nipanno’’ti, so ca taṃ paṭijānāti, nipajjāya kāretabbo…pe… nāhaṃ nipanno, apica kho nisinnoti, nisajjāya kāretabbo…pe… nāhaṃ nipanno, apica kho ṭhitoti, na kāretabbo.
อนิยโตติ น นิยโต, ปาราชิกํ วา สงฺฆาทิเสโส วา ปาจิตฺติยํ วาฯ
Aniyatoti na niyato, pārājikaṃ vā saṅghādiseso vā pācittiyaṃ vā.
๔๕๑. คมนํ ปฎิชานาติ, นิสชฺชํ ปฎิชานาติ, อาปตฺติํ ปฎิชานาติ, อาปตฺติยา กาเรตโพฺพฯ คมนํ ปฎิชานาติ, นิสชฺชํ น ปฎิชานาติ, อาปตฺติํ ปฎิชานาติ, อาปตฺติยา กาเรตโพฺพฯ คมนํ ปฎิชานาติ, นิสชฺชํ ปฎิชานาติ, อาปตฺติํ น ปฎิชานาติ, นิสชฺชาย กาเรตโพฺพฯ คมนํ ปฎิชานาติ, นิสชฺชํ น ปฎิชานาติ, อาปตฺติํ น ปฎิชานาติ, น กาเรตโพฺพฯ
451. Gamanaṃ paṭijānāti, nisajjaṃ paṭijānāti, āpattiṃ paṭijānāti, āpattiyā kāretabbo. Gamanaṃ paṭijānāti, nisajjaṃ na paṭijānāti, āpattiṃ paṭijānāti, āpattiyā kāretabbo. Gamanaṃ paṭijānāti, nisajjaṃ paṭijānāti, āpattiṃ na paṭijānāti, nisajjāya kāretabbo. Gamanaṃ paṭijānāti, nisajjaṃ na paṭijānāti, āpattiṃ na paṭijānāti, na kāretabbo.
คมนํ น ปฎิชานาติ, นิสชฺชํ ปฎิชานาติ, อาปตฺติํ ปฎิชานาติ, อาปตฺติยา
Gamanaṃ na paṭijānāti, nisajjaṃ paṭijānāti, āpattiṃ paṭijānāti, āpattiyā
กาเรตโพฺพฯ คมนํ น ปฎิชานาติ, นิสชฺชํ น ปฎิชานาติ, อาปตฺติํ ปฎิชานาติ, อาปตฺติยา กาเรตโพฺพฯ คมนํ น ปฎิชานาติ, นิสชฺชํ ปฎิชานาติ, อาปตฺติํ น ปฎิชานาติ, นิสชฺชาย กาเรตโพฺพฯ คมนํ น ปฎิชานาติ, นิสชฺชํ น ปฎิชานาติ, อาปตฺติํ น ปฎิชานาติ, น กาเรตโพฺพติฯ
Kāretabbo. Gamanaṃ na paṭijānāti, nisajjaṃ na paṭijānāti, āpattiṃ paṭijānāti, āpattiyā kāretabbo. Gamanaṃ na paṭijānāti, nisajjaṃ paṭijānāti, āpattiṃ na paṭijānāti, nisajjāya kāretabbo. Gamanaṃ na paṭijānāti, nisajjaṃ na paṭijānāti, āpattiṃ na paṭijānāti, na kāretabboti.
ปฐโม อนิยโต นิฎฺฐิโตฯ
Paṭhamo aniyato niṭṭhito.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๑. ปฐมอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Paṭhamaaniyatasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๑. ปฐมอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Paṭhamaaniyatasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๑. ปฐมอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Paṭhamaaniyatasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๑. ปฐมอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Paṭhamaaniyatasikkhāpadavaṇṇanā