Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā |
๓. อนิยตกโณฺฑ
3. Aniyatakaṇḍo
๑. ปฐมอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา
1. Paṭhamaaniyatasikkhāpadavaṇṇanā
๔๔๔-๕. อุเทฺทสนฺติ อุทฺทิสนํ, อาสาฬฺหินกฺขตฺตํ นาม วสฺสูปคมปูชาฯ โสตสฺส รโหติ เอตฺถ รโห-วจนสามญฺญโต วุตฺตํ ทุฎฺฐุลฺลสามญฺญโต ทุฎฺฐุลฺลาโรจนปฺปฎิจฺฉาทนสิกฺขาปเทสุ ปาราชิกวจนํ วิยฯ ตสฺมา ‘‘จกฺขุสฺส รเหเนว ปน ปริเจฺฉโท กาตโพฺพ’’ติ วุตฺตํฯ กถํ ปญฺญายตีติ เจ? ‘‘มาตุคาโม นาม ตทหุชาตาปิ ทาริกา’’ติ วจนโต, ‘‘อลํกมฺมนิเยติ สกฺกา โหติ เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิตุ’’นฺติ วจนโต จ รโหนิสชฺชสฺสาโท เจตฺถ เมถุนสนฺนิสฺสิตกิเลโส, น ทุติเย วิย ทุฎฺฐุลฺลวาจสฺสาทกิเลโส, ตสฺมา จ ปญฺญายติ ‘‘โสตสฺส รโห นาธิเปฺปโต’’ติฯ เกจิ ปน ‘‘ตญฺจ ลพฺภตีติ วจนสฺส ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, เตน ทุติเย วุตฺตา วิญฺญู ปฎิพลา คหิตา โหตี’’ติ วทนฺติฯ เยน วา สาติ เอตฺถ วา-สโทฺท ‘‘เตน โส ภิกฺขุ กาเรตโพฺพ วา’’ติ โยเชตโพฺพ, โส จ วิกปฺปโตฺถ, ตสฺมา กาเรตโพฺพ วา ปฎิชานมาโน, น วา กาเรตโพฺพ อปฺปฎิชานมาโนติ อโตฺถฯ เตน วุตฺตํ อฎฺฐกถายํ ‘‘ปฎิชานมาโนว เตน โส ภิกฺขุ กาเรตโพฺพ…เป.… น กาเรตโพฺพ’’ติฯ ตสฺมา เอว ปาฬิยํ ตทตฺถทฺวยทสฺสนตฺถํ ‘‘สา เจ เอวํ วเทยฺยา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ‘‘สเทฺธยฺยวจสา’’ติ อิมินา โสตาปนฺนา อตฺถภญฺชนกํ น ภณนฺติ, เสสํ ภณนฺตีติ วาทีนํ วาโท ปฎิเสธิโต โหติฯ ‘‘ทิฎฺฐ’’นฺติ วุตฺตตฺตา ‘‘โอโลเกสี’’ติ สุนฺทรํฯ รเกฺขยฺยาสีติ มม วิเสสํ กสฺสจิ นาโรเจยฺยาสีติ อธิปฺปาโยฯ
444-5.Uddesanti uddisanaṃ, āsāḷhinakkhattaṃ nāma vassūpagamapūjā. Sotassa rahoti ettha raho-vacanasāmaññato vuttaṃ duṭṭhullasāmaññato duṭṭhullārocanappaṭicchādanasikkhāpadesu pārājikavacanaṃ viya. Tasmā ‘‘cakkhussa raheneva pana paricchedo kātabbo’’ti vuttaṃ. Kathaṃ paññāyatīti ce? ‘‘Mātugāmo nāma tadahujātāpi dārikā’’ti vacanato, ‘‘alaṃkammaniyeti sakkā hoti methunaṃ dhammaṃ paṭisevitu’’nti vacanato ca rahonisajjassādo cettha methunasannissitakileso, na dutiye viya duṭṭhullavācassādakileso, tasmā ca paññāyati ‘‘sotassa raho nādhippeto’’ti. Keci pana ‘‘tañca labbhatīti vacanassa dassanatthaṃ vuttaṃ, tena dutiye vuttā viññū paṭibalā gahitā hotī’’ti vadanti. Yena vā sāti ettha vā-saddo ‘‘tena so bhikkhu kāretabbo vā’’ti yojetabbo, so ca vikappattho, tasmā kāretabbo vā paṭijānamāno, na vā kāretabbo appaṭijānamānoti attho. Tena vuttaṃ aṭṭhakathāyaṃ ‘‘paṭijānamānova tena so bhikkhu kāretabbo…pe… na kāretabbo’’ti. Tasmā eva pāḷiyaṃ tadatthadvayadassanatthaṃ ‘‘sā ce evaṃ vadeyyā’’tiādi vuttaṃ. ‘‘Saddheyyavacasā’’ti iminā sotāpannā atthabhañjanakaṃ na bhaṇanti, sesaṃ bhaṇantīti vādīnaṃ vādo paṭisedhito hoti. ‘‘Diṭṭha’’nti vuttattā ‘‘olokesī’’ti sundaraṃ. Rakkheyyāsīti mama visesaṃ kassaci nāroceyyāsīti adhippāyo.
๔๔๖. ‘‘สา เจ เอวํ วเทยฺย ‘อยฺยสฺส มยา สุตํ นิสินฺนสฺส มาตุคามํ ทุฎฺฐุลฺลาหิ วาจาหิ โอภาเสนฺตสฺสา’’’ติ, อิทํ กิมตฺถเมตฺถ วุตฺตํ, น อธิเปฺปตเญฺหตํ อิธ โสตสฺส รโห นาธิเปฺปโตติ กตฺวาติ เจ? อลํกมฺมนิยฎฺฐาเน ทุฎฺฐุลฺลวาจาปิ ลพฺภติ, น ปน นาลํกมฺมนิยฎฺฐาเน เมถุนนฺติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพนฺติฯ ยถา เอตํ, ตถา ‘‘สา เจ เอวํ วเทยฺย ‘อยฺยสฺส มยา สุตํ มาตุคามสฺส สนฺติเก อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณํ ภาสนฺตสฺสา’’’ติ เอตมฺปิ อิธ ลพฺภติ, น ทุติเย นาลํกมฺมนิยฎฺฐานตฺตาติ เอเกฯ กงฺขาวิตรณิยํ (กงฺขา. อฎฺฐ. ทุติยานิยตสิกฺขาปทวณฺณนา) อิธาปิ ทุติยานิยตาธิกาเร ปาราชิกาปตฺติญฺจ ปริหาเปตฺวา ทุฎฺฐุลฺลวาจาปตฺติยา วุตฺตตฺตา ปฐมานิยเต ทุฎฺฐุลฺลวาจาปตฺติ น วุตฺตาติ เจ? ‘‘สา เจ’’ติ ตสฺสา ปาฬิยา โปตฺถกา โสเธตพฺพาฯ คณฺฐิปเท จ ‘‘อิธ สิกฺขาปเท เมถุนกายสํสคฺครโหนิสชฺชานเมวาคตตฺตา จกฺขุสฺสรโหว ปมาณ’’นฺติ ลิขิตํ, ทุติยานิยตาธิกาเร จ ‘‘อนโนฺธ กายสํสคฺคํ ปสฺสติ, อพธิโร ทุฎฺฐุลฺลํ สุณาติ, กายจิตฺตโต กายสํสโคฺค, วาจาจิตฺตโต ทุฎฺฐุลฺลํ, อุภเยหิ อุภย’’นฺติ จ ลิขิตํฯ อฎฺฐกถายํ ‘‘สมุฎฺฐานาทีนิ ปฐมปาราชิกสทิสาเนวา’’ติ วุตฺตตฺตาปิ ทุฎฺฐุลฺลวาโท น สุนฺทโร ‘‘ตทหุชาตา’’ติ วุตฺตตฺตาติฯ
446. ‘‘Sā ce evaṃ vadeyya ‘ayyassa mayā sutaṃ nisinnassa mātugāmaṃ duṭṭhullāhi vācāhi obhāsentassā’’’ti, idaṃ kimatthamettha vuttaṃ, na adhippetañhetaṃ idha sotassa raho nādhippetoti katvāti ce? Alaṃkammaniyaṭṭhāne duṭṭhullavācāpi labbhati, na pana nālaṃkammaniyaṭṭhāne methunanti dassanatthaṃ vuttanti veditabbanti. Yathā etaṃ, tathā ‘‘sā ce evaṃ vadeyya ‘ayyassa mayā sutaṃ mātugāmassa santike attakāmapāricariyāya vaṇṇaṃ bhāsantassā’’’ti etampi idha labbhati, na dutiye nālaṃkammaniyaṭṭhānattāti eke. Kaṅkhāvitaraṇiyaṃ (kaṅkhā. aṭṭha. dutiyāniyatasikkhāpadavaṇṇanā) idhāpi dutiyāniyatādhikāre pārājikāpattiñca parihāpetvā duṭṭhullavācāpattiyā vuttattā paṭhamāniyate duṭṭhullavācāpatti na vuttāti ce? ‘‘Sā ce’’ti tassā pāḷiyā potthakā sodhetabbā. Gaṇṭhipade ca ‘‘idha sikkhāpade methunakāyasaṃsaggarahonisajjānamevāgatattā cakkhussarahova pamāṇa’’nti likhitaṃ, dutiyāniyatādhikāre ca ‘‘anandho kāyasaṃsaggaṃ passati, abadhiro duṭṭhullaṃ suṇāti, kāyacittato kāyasaṃsaggo, vācācittato duṭṭhullaṃ, ubhayehi ubhaya’’nti ca likhitaṃ. Aṭṭhakathāyaṃ ‘‘samuṭṭhānādīni paṭhamapārājikasadisānevā’’ti vuttattāpi duṭṭhullavādo na sundaro ‘‘tadahujātā’’ti vuttattāti.
ปฐมอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Paṭhamaaniyatasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๑. ปฐมอนิยตสิกฺขาปทํ • 1. Paṭhamaaniyatasikkhāpadaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๑. ปฐมอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Paṭhamaaniyatasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๑. ปฐมอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Paṭhamaaniyatasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๑. ปฐมอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Paṭhamaaniyatasikkhāpadavaṇṇanā