Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๙. ปฐมอปุตฺตกสุตฺตํ
9. Paṭhamaaputtakasuttaṃ
๑๓๐. สาวตฺถินิทานํฯ อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ทิวา ทิวสฺส เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ราชานํ ปเสนทิํ โกสลํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘หนฺท, กุโต นุ ตฺวํ, มหาราช, อาคจฺฉสิ ทิวา ทิวสฺสา’’ติ?
130. Sāvatthinidānaṃ. Atha kho rājā pasenadi kosalo divā divassa yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnaṃ kho rājānaṃ pasenadiṃ kosalaṃ bhagavā etadavoca – ‘‘handa, kuto nu tvaṃ, mahārāja, āgacchasi divā divassā’’ti?
‘‘อิธ, ภเนฺต, สาวตฺถิยํ เสฎฺฐิ คหปติ กาลงฺกโตฯ ตมหํ อปุตฺตกํ สาปเตยฺยํ ราชเนฺตปุรํ อติหริตฺวา อาคจฺฉามิฯ อสีติ, ภเนฺต, สตสหสฺสานิ หิรญฺญเสฺสว, โก ปน วาโท รูปิยสฺส ! ตสฺส โข ปน, ภเนฺต, เสฎฺฐิสฺส คหปติสฺส เอวรูโป ภตฺตโภโค อโหสิ – กณาชกํ ภุญฺชติ พิลงฺคทุติยํฯ เอวรูโป วตฺถโภโค อโหสิ – สาณํ ธาเรติ ติปกฺขวสนํฯ เอวรูโป ยานโภโค อโหสิ – ชชฺชรรถเกน ยาติ ปณฺณฉตฺตเกน ธาริยมาเนนา’’ติฯ
‘‘Idha, bhante, sāvatthiyaṃ seṭṭhi gahapati kālaṅkato. Tamahaṃ aputtakaṃ sāpateyyaṃ rājantepuraṃ atiharitvā āgacchāmi. Asīti, bhante, satasahassāni hiraññasseva, ko pana vādo rūpiyassa ! Tassa kho pana, bhante, seṭṭhissa gahapatissa evarūpo bhattabhogo ahosi – kaṇājakaṃ bhuñjati bilaṅgadutiyaṃ. Evarūpo vatthabhogo ahosi – sāṇaṃ dhāreti tipakkhavasanaṃ. Evarūpo yānabhogo ahosi – jajjararathakena yāti paṇṇachattakena dhāriyamānenā’’ti.
‘‘เอวเมตํ, มหาราช, เอวเมตํ, มหาราช! อสปฺปุริโส โข, มหาราช, อุฬาเร โภเค ลภิตฺวา เนวตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ, น มาตาปิตโร สุเขติ ปีเณติ, น ปุตฺตทารํ สุเขติ ปีเณติ, น ทาสกมฺมกรโปริเส สุเขติ ปีเณติ, น มิตฺตามเจฺจ สุเขติ ปีเณติ, น สมณพฺราหฺมเณสุ อุทฺธคฺคิกํ ทกฺขิณํ ปติฎฺฐาเปติ โสวคฺคิกํ สุขวิปากํ สคฺคสํวตฺตนิกํฯ ตสฺส เต โภเค เอวํ สมฺมา อปริภุญฺชิยมาเน 1 ราชาโน วา หรนฺติ โจรา วา หรนฺติ อคฺคิ วา ฑหติ อุทกํ วา วหติ อปฺปิยา วา ทายาทา หรนฺติฯ เอวํส เต 2, มหาราช, โภคา สมฺมา อปริภุญฺชิยมานา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โน ปริโภคํฯ
‘‘Evametaṃ, mahārāja, evametaṃ, mahārāja! Asappuriso kho, mahārāja, uḷāre bhoge labhitvā nevattānaṃ sukheti pīṇeti, na mātāpitaro sukheti pīṇeti, na puttadāraṃ sukheti pīṇeti, na dāsakammakaraporise sukheti pīṇeti, na mittāmacce sukheti pīṇeti, na samaṇabrāhmaṇesu uddhaggikaṃ dakkhiṇaṃ patiṭṭhāpeti sovaggikaṃ sukhavipākaṃ saggasaṃvattanikaṃ. Tassa te bhoge evaṃ sammā aparibhuñjiyamāne 3 rājāno vā haranti corā vā haranti aggi vā ḍahati udakaṃ vā vahati appiyā vā dāyādā haranti. Evaṃsa te 4, mahārāja, bhogā sammā aparibhuñjiyamānā parikkhayaṃ gacchanti, no paribhogaṃ.
‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, อมนุสฺสฎฺฐาเน โปกฺขรณี อโจฺฉทกา สีโตทกา สาโตทกา เสโตทกา สุปติตฺถา รมณียาฯ ตํ ชโน เนว หเรยฺย น ปิเวยฺย น นหาเยยฺย น ยถาปจฺจยํ วา กเรยฺยฯ เอวญฺหิ ตํ, มหาราช, อุทกํ สมฺมา อปริภุญฺชิยมานํ 5 ปริกฺขยํ คเจฺฉยฺย , โน ปริโภคํฯ เอวเมว โข, มหาราช, อสปฺปุริโส อุฬาเร โภเค ลภิตฺวา เนวตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ, น มาตาปิตโร สุเขติ ปีเณติ, น ปุตฺตทารํ สุเขติ ปีเณติ, น ทาสกมฺมกรโปริเส สุเขติ ปีเณติ, น มิตฺตามเจฺจ สุเขติ ปีเณติ, น สมณพฺราหฺมเณสุ อุทฺธคฺคิกํ ทกฺขิณํ ปติฎฺฐาเปติ โสวคฺคิกํ สุขวิปากํ สคฺคสํวตฺตนิกํฯ ตสฺส เต โภเค เอวํ สมฺมา อปริภุญฺชิยมาเน ราชาโน วา หรนฺติ โจรา วา หรนฺติ อคฺคิ วา ฑหติ อุทกํ วา วหติ อปฺปิยา วา ทายาทา หรนฺติฯ เอวํส เต 6, มหาราช, โภคา สมฺมา อปริภุญฺชิยมานา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โน ปริโภคํฯ
‘‘Seyyathāpi, mahārāja, amanussaṭṭhāne pokkharaṇī acchodakā sītodakā sātodakā setodakā supatitthā ramaṇīyā. Taṃ jano neva hareyya na piveyya na nahāyeyya na yathāpaccayaṃ vā kareyya. Evañhi taṃ, mahārāja, udakaṃ sammā aparibhuñjiyamānaṃ 7 parikkhayaṃ gaccheyya , no paribhogaṃ. Evameva kho, mahārāja, asappuriso uḷāre bhoge labhitvā nevattānaṃ sukheti pīṇeti, na mātāpitaro sukheti pīṇeti, na puttadāraṃ sukheti pīṇeti, na dāsakammakaraporise sukheti pīṇeti, na mittāmacce sukheti pīṇeti, na samaṇabrāhmaṇesu uddhaggikaṃ dakkhiṇaṃ patiṭṭhāpeti sovaggikaṃ sukhavipākaṃ saggasaṃvattanikaṃ. Tassa te bhoge evaṃ sammā aparibhuñjiyamāne rājāno vā haranti corā vā haranti aggi vā ḍahati udakaṃ vā vahati appiyā vā dāyādā haranti. Evaṃsa te 8, mahārāja, bhogā sammā aparibhuñjiyamānā parikkhayaṃ gacchanti, no paribhogaṃ.
‘‘สปฺปุริโส จ โข, มหาราช, อุฬาเร โภเค ลภิตฺวา อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ, มาตาปิตโร สุเขติ ปีเณติ, ปุตฺตทารํ สุเขติ ปีเณติ, ทาสกมฺมกรโปริเส สุเขติ ปีเณติ, มิตฺตามเจฺจ สุเขติ ปีเณติ, สมณพฺราหฺมเณสุ อุทฺธคฺคิกํ ทกฺขิณํ ปติฎฺฐาเปติ โสวคฺคิกํ สุขวิปากํ สคฺคสํวตฺตนิกํฯ ตสฺส เต โภเค เอวํ สมฺมา ปริภุญฺชิยมาเน เนว ราชาโน หรนฺติ , น โจรา หรนฺติ, น อคฺคิ ฑหติ, น อุทกํ วหติ, น อปฺปิยา ทายาทา หรนฺติฯ เอวํส เต, มหาราช, โภคา สมฺมา ปริภุญฺชิยมานา ปริโภคํ คจฺฉนฺติ, โน ปริกฺขยํฯ
‘‘Sappuriso ca kho, mahārāja, uḷāre bhoge labhitvā attānaṃ sukheti pīṇeti, mātāpitaro sukheti pīṇeti, puttadāraṃ sukheti pīṇeti, dāsakammakaraporise sukheti pīṇeti, mittāmacce sukheti pīṇeti, samaṇabrāhmaṇesu uddhaggikaṃ dakkhiṇaṃ patiṭṭhāpeti sovaggikaṃ sukhavipākaṃ saggasaṃvattanikaṃ. Tassa te bhoge evaṃ sammā paribhuñjiyamāne neva rājāno haranti , na corā haranti, na aggi ḍahati, na udakaṃ vahati, na appiyā dāyādā haranti. Evaṃsa te, mahārāja, bhogā sammā paribhuñjiyamānā paribhogaṃ gacchanti, no parikkhayaṃ.
‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, คามสฺส วา นิคมสฺส วา อวิทูเร โปกฺขรณี อโจฺฉทกา สีโตทกา สาโตทกา เสโตทกา สุปติตฺถา รมณียาฯ ตญฺจ อุทกํ ชโน หเรยฺยปิ ปิเวยฺยปิ นหาเยยฺยปิ ยถาปจฺจยมฺปิ กเรยฺยฯ เอวญฺหิ ตํ, มหาราช, อุทกํ สมฺมา ปริภุญฺชิยมานํ ปริโภคํ คเจฺฉยฺย, โน ปริกฺขยํฯ เอวเมว โข, มหาราช, สปฺปุริโส อุฬาเร โภเค ลภิตฺวา อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ, มาตาปิตโร สุเขติ ปีเณติ, ปุตฺตทารํ สุเขติ ปีเณติ, ทาสกมฺมกรโปริเส สุเขติ ปีเณติ, มิตฺตามเจฺจ สุเขติ ปีเณติ, สมณพฺราหฺมเณสุ อุทฺธคฺคิกํ ทกฺขิณํ ปติฎฺฐาเปติ โสวคฺคิกํ สุขวิปากํ สคฺคสํวตฺตนิกํฯ ตสฺส เต โภเค เอวํ สมฺมา ปริภุญฺชิยมาเน เนว ราชาโน หรนฺติ, น โจรา หรนฺติ, น อคฺคิ ฑหติ, น อุทกํ วหติ, น อปฺปิยา ทายาทา หรนฺติฯ เอวํส เต, มหาราช, โภคา สมฺมา ปริภุญฺชิยมานา ปริโภคํ คจฺฉนฺติ, โน ปริกฺขย’’นฺติฯ
‘‘Seyyathāpi, mahārāja, gāmassa vā nigamassa vā avidūre pokkharaṇī acchodakā sītodakā sātodakā setodakā supatitthā ramaṇīyā. Tañca udakaṃ jano hareyyapi piveyyapi nahāyeyyapi yathāpaccayampi kareyya. Evañhi taṃ, mahārāja, udakaṃ sammā paribhuñjiyamānaṃ paribhogaṃ gaccheyya, no parikkhayaṃ. Evameva kho, mahārāja, sappuriso uḷāre bhoge labhitvā attānaṃ sukheti pīṇeti, mātāpitaro sukheti pīṇeti, puttadāraṃ sukheti pīṇeti, dāsakammakaraporise sukheti pīṇeti, mittāmacce sukheti pīṇeti, samaṇabrāhmaṇesu uddhaggikaṃ dakkhiṇaṃ patiṭṭhāpeti sovaggikaṃ sukhavipākaṃ saggasaṃvattanikaṃ. Tassa te bhoge evaṃ sammā paribhuñjiyamāne neva rājāno haranti, na corā haranti, na aggi ḍahati, na udakaṃ vahati, na appiyā dāyādā haranti. Evaṃsa te, mahārāja, bhogā sammā paribhuñjiyamānā paribhogaṃ gacchanti, no parikkhaya’’nti.
‘‘อมนุสฺสฎฺฐาเน อุทกํว สีตํ,
‘‘Amanussaṭṭhāne udakaṃva sītaṃ,
ตทเปยฺยมานํ ปริโสสเมติ;
Tadapeyyamānaṃ parisosameti;
เอวํ ธนํ กาปุริโส ลภิตฺวา,
Evaṃ dhanaṃ kāpuriso labhitvā,
เนวตฺตนา ภุญฺชติ โน ททาติฯ
Nevattanā bhuñjati no dadāti.
ธีโร จ วิญฺญู อธิคมฺม โภเค,
Dhīro ca viññū adhigamma bhoge,
โส ภุญฺชติ กิจฺจกโร จ โหติ;
So bhuñjati kiccakaro ca hoti;
โส ญาติสงฺฆํ นิสโภ ภริตฺวา,
So ñātisaṅghaṃ nisabho bharitvā,
อนินฺทิโต สคฺคมุเปติ ฐาน’’นฺติฯ
Anindito saggamupeti ṭhāna’’nti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๙. ปฐมอปุตฺตกสุตฺตวณฺณนา • 9. Paṭhamaaputtakasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๙. ปฐมอปุตฺตกสุตฺตวณฺณนา • 9. Paṭhamaaputtakasuttavaṇṇanā