Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā |
ปฐมจตุกฺกวณฺณนา
Paṭhamacatukkavaṇṇanā
๕๗. อสฺสาติ อาขฺยาตปทนฺติ ตสฺส อตฺถํ ทเสฺสโนฺต ‘‘โหตี’’ติ อาห, ภเวยฺยาติ อโตฺถ, โหตีติ วุตฺตํ โหติฯ ทุติเย อตฺถวิกเปฺป ‘‘โหตี’’ติ อิทํ วจนเสโสฯ
57.Assāti ākhyātapadanti tassa atthaṃ dassento ‘‘hotī’’ti āha, bhaveyyāti attho, hotīti vuttaṃ hoti. Dutiye atthavikappe ‘‘hotī’’ti idaṃ vacanaseso.
๕๘. สาทิยนฺตเสฺสวาติ เอตฺถ สาทิยนํ นาม เสเวตุกามตาจิตฺตสฺส อุปฺปาทนเมวาติ อาห ‘‘ปฎิเสวนจิตฺตสมงฺคิสฺสา’’ติฯ ปฎิปกฺขนฺติ อนิฎฺฐํ อหิตํฯ ‘‘ภิกฺขูนํ ปจฺจตฺถิกา ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา’’ติ วุเตฺต อุปริ วุจฺจมานา ราชปจฺจตฺถิกาทโยปิ อิเธว ปวิสนฺตีติ ตํ นิวตฺตนตฺถํ ภิกฺขู เอว ปจฺจตฺถิกาติ ราชปจฺจตฺถิกานุรูเปน อโตฺถ ทสฺสิโตฯ ตสฺมิํ ขเณติ ปเวสนกฺขเณฯ อคฺคโต หิ ยาว มูลา ปเวสนกิริยาย วตฺตมานกาโล ปเวสนกฺขโณ นามฯ ปวิฎฺฐกาเลติ องฺคชาตสฺส ยตฺตกํ ฐานํ ปเวสนารหํ, ตตฺตกํ อนวเสสโต ปวิฎฺฐกาเล, ปเวสนกิริยาย นิฎฺฐิตกฺขเณติ อโตฺถฯ เอวํ ปวิฎฺฐสฺส อุทฺธรณารมฺภโต อนฺตรา ฐิตกาเล ฐิตํ องฺคชาตํ, ตสฺส ฐิติ วา ฐิตํ นาม, อฎฺฐกถายํ ปน มาตุคามสฺส สุกฺกวิสฺสฎฺฐิํ ปตฺวา สพฺพถา วายามโต โอรมิตฺวา ฐิตกาลํ สนฺธาย ‘‘สุกฺกวิสฺสฎฺฐิสมเย’’ติ วุตฺตํ, ตทุภยมฺปิ ฐิตเมวาติ คเหตพฺพํฯ อุทฺธรณํ นาม ยาว อคฺคา นีหรณกิริยาย วตฺตมานกาโลติ อาห ‘‘นีหรณกาเล ปฎิเสวนจิตฺตํ อุปฎฺฐาเปตี’’ติฯ
58.Sādiyantassevāti ettha sādiyanaṃ nāma sevetukāmatācittassa uppādanamevāti āha ‘‘paṭisevanacittasamaṅgissā’’ti. Paṭipakkhanti aniṭṭhaṃ ahitaṃ. ‘‘Bhikkhūnaṃ paccatthikā bhikkhupaccatthikā’’ti vutte upari vuccamānā rājapaccatthikādayopi idheva pavisantīti taṃ nivattanatthaṃ bhikkhū eva paccatthikāti rājapaccatthikānurūpena attho dassito. Tasmiṃ khaṇeti pavesanakkhaṇe. Aggato hi yāva mūlā pavesanakiriyāya vattamānakālo pavesanakkhaṇo nāma. Paviṭṭhakāleti aṅgajātassa yattakaṃ ṭhānaṃ pavesanārahaṃ, tattakaṃ anavasesato paviṭṭhakāle, pavesanakiriyāya niṭṭhitakkhaṇeti attho. Evaṃ paviṭṭhassa uddharaṇārambhato antarā ṭhitakāle ṭhitaṃ aṅgajātaṃ, tassa ṭhiti vā ṭhitaṃ nāma, aṭṭhakathāyaṃ pana mātugāmassa sukkavissaṭṭhiṃ patvā sabbathā vāyāmato oramitvā ṭhitakālaṃ sandhāya ‘‘sukkavissaṭṭhisamaye’’ti vuttaṃ, tadubhayampi ṭhitamevāti gahetabbaṃ. Uddharaṇaṃ nāma yāva aggā nīharaṇakiriyāya vattamānakāloti āha ‘‘nīharaṇakāle paṭisevanacittaṃ upaṭṭhāpetī’’ti.
เอตฺถ จ ยสฺมา ปเรหิ อุปกฺกมิยมานสฺส องฺคชาตาทิกายจลนสฺส วิชฺชมานตฺตา เสวนจิเตฺต อุปฎฺฐิตมเตฺต ตสฺมิํ ขเณ จิตฺตชรูเปน สญฺชายมานํ องฺคชาตาทิจลนํ อิมินา เสวนจิเตฺตน อุปฺปาทิตเมว โหติฯ อปิจ เสวนจิเตฺต อุปฺปเนฺน ปเรหิ อนุปกฺกมิยมานสฺสาปิ องฺคชาเต จลนํ โหเตว, ตญฺจ เตน กตํ นาม โหติ, ตสฺมา กายจิตฺตโต สมุฎฺฐิตํ ปาราชิกาปตฺติํ โส อาปชฺชติเยว อุพฺภชาณุมณฺฑลิกา (ปาจิ. ๖๕๗-๖๕๘) วิยฯ ตตฺถาปิ หิ ‘‘อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑลํ อามสนํ วา…เป.… ปฎิปีฬนํ วา สาทิเยยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๖๕๗) สาทิยนมเตฺตเยว อาปตฺติ วุตฺตา, ภิกฺขุโน กายสํสเคฺค ปน ‘‘กายสํสคฺคํ สมาปเชฺชยฺยา’’ติ (ปารา. ๒๗๐) อตฺตโน อุปกฺกมสฺส อาปตฺตินิมิตฺตภาเวน วุตฺตตฺตา อิตฺถิยา ผุสิยมานสฺส กายสํสคฺคราเค จ อิตฺถิยา สญฺชนิตกายจลเน จ วิชฺชมาเนปิ อตฺตโน ปโยคาภาเวน อนาปตฺติเยว วุตฺตาติ คเหตพฺพํฯ เกจิ ปน ‘‘ปฐมสงฺฆาทิเสสวิสเยปิ ปเรหิ พลกฺกาเรน หตฺถาทีหิ อุปกฺกมิยมานสฺส โมจนสฺสาโท จ อุปฺปชฺชติ, เตน จ อสุจิมฺหิ มุเตฺต สงฺฆาทิเสโส, อมุเตฺต ถุลฺลจฺจยํ เอวา’’ติ วทนฺติฯ องฺคารกาสุนฺติ องฺคารราสิํ, องฺคารปุณฺณาวาฎํ วาฯ อิตฺถิยา อุปกฺกมิยมาเน อสาทิยนํ นาม น สเพฺพสํ วิสโยติ อาห อิมญฺหีติอาทิฯ เอกาทสหิ อคฺคีหีติ ราคโทสโมหชาติชรามรณโสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสสงฺขาเตหิ เอกาทสคฺคีหิฯ อสฺสาติ อสาทิยนฺตสฺสฯ จตุกฺกํ นีหริตฺวา ฐเปสีติ เอตฺถ เอกปุคฺคลวิสยตาย เอโกปิ อนาปตฺติวาโร ปเวสนปวิฎฺฐฐิตอุทฺธรณสงฺขอาตานํ จตุนฺนํ ปทานํ วเสน ‘‘จตุกฺก’’นฺติ วุโตฺตฯ ปฐมจตุกฺกกถาติ เอตฺถ ปน อนาปตฺติวาเรน สทฺธิํ ปญฺจนฺนํ วารานํ วุตฺตนเยน ‘‘ปญฺจ จตุกฺกา’’ติ วตฺตเพฺพปิ เอกมคฺควิสยตาย เตสํ เอกตฺตํ อาโรเปตฺวา ปฐมจตุกฺกตา วุตฺตาฯ เตเนว วกฺขติ ติณฺณํ มคฺคานํ วเสน ตีณิ สุทฺธิกจตุกฺกานีติอาทิฯ
Ettha ca yasmā parehi upakkamiyamānassa aṅgajātādikāyacalanassa vijjamānattā sevanacitte upaṭṭhitamatte tasmiṃ khaṇe cittajarūpena sañjāyamānaṃ aṅgajātādicalanaṃ iminā sevanacittena uppāditameva hoti. Apica sevanacitte uppanne parehi anupakkamiyamānassāpi aṅgajāte calanaṃ hoteva, tañca tena kataṃ nāma hoti, tasmā kāyacittato samuṭṭhitaṃ pārājikāpattiṃ so āpajjatiyeva ubbhajāṇumaṇḍalikā (pāci. 657-658) viya. Tatthāpi hi ‘‘adhakkhakaṃ ubbhajāṇumaṇḍalaṃ āmasanaṃ vā…pe… paṭipīḷanaṃ vā sādiyeyyā’’ti (pāci. 657) sādiyanamatteyeva āpatti vuttā, bhikkhuno kāyasaṃsagge pana ‘‘kāyasaṃsaggaṃ samāpajjeyyā’’ti (pārā. 270) attano upakkamassa āpattinimittabhāvena vuttattā itthiyā phusiyamānassa kāyasaṃsaggarāge ca itthiyā sañjanitakāyacalane ca vijjamānepi attano payogābhāvena anāpattiyeva vuttāti gahetabbaṃ. Keci pana ‘‘paṭhamasaṅghādisesavisayepi parehi balakkārena hatthādīhi upakkamiyamānassa mocanassādo ca uppajjati, tena ca asucimhi mutte saṅghādiseso, amutte thullaccayaṃ evā’’ti vadanti. Aṅgārakāsunti aṅgārarāsiṃ, aṅgārapuṇṇāvāṭaṃ vā. Itthiyā upakkamiyamāne asādiyanaṃ nāma na sabbesaṃ visayoti āha imañhītiādi. Ekādasahi aggīhīti rāgadosamohajātijarāmaraṇasokaparidevadukkhadomanassupāyāsasaṅkhātehi ekādasaggīhi. Assāti asādiyantassa. Catukkaṃ nīharitvā ṭhapesīti ettha ekapuggalavisayatāya ekopi anāpattivāro pavesanapaviṭṭhaṭhitauddharaṇasaṅkhaātānaṃ catunnaṃ padānaṃ vasena ‘‘catukka’’nti vutto. Paṭhamacatukkakathāti ettha pana anāpattivārena saddhiṃ pañcannaṃ vārānaṃ vuttanayena ‘‘pañca catukkā’’ti vattabbepi ekamaggavisayatāya tesaṃ ekattaṃ āropetvā paṭhamacatukkatā vuttā. Teneva vakkhati tiṇṇaṃ maggānaṃ vasena tīṇi suddhikacatukkānītiādi.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๑. ปฐมปาราชิกํ • 1. Paṭhamapārājikaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๑. ปฐมปาราชิกํ • 1. Paṭhamapārājikaṃ
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ปฐมจตุกฺกกถาวณฺณนา • Paṭhamacatukkakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ปฐมจตุกฺกกถาวณฺณนา • Paṭhamacatukkakathāvaṇṇanā