Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ธมฺมสงฺคณี-อนุฎีกา • Dhammasaṅgaṇī-anuṭīkā |
อกุสลปทํ
Akusalapadaṃ
ธมฺมุเทฺทสวาโร
Dhammuddesavāro
ปฐมจิตฺตวณฺณนา
Paṭhamacittavaṇṇanā
๓๖๕. ขณตฺตยสฺส อกุสเลสุ อสมฺภวโต สมวายกาลเหตุสมูหโตฺถ สมย-สโทฺทฯ โลภาภิภูตาย เอว อิฎฺฐารมฺมณสฺมิํ อิตรตฺร จ อิฎฺฐาการคฺคหณวเสน โสมนสฺสสหคตภาโวติ เอวมาทิํ สนฺธาย ‘‘ยถานุรูป’’นฺติ วุตฺตํฯ ‘‘กิเลสาตุรตาย อนาโรคฺยเฎฺฐน กิเลสวชฺชสพฺภาวโต สาวชฺชเฎฺฐน อวิชฺชาสมฺภูตตาย อโกสลฺยสมฺภูตเฎฺฐน อกุสล’’นฺติ จ ‘‘สาวชฺชทุกฺขวิปากลกฺขณํ, อนตฺถชนนรสํ, สํกิเลสปจฺจุปฎฺฐานํ, อโยนิโสมนสิการปทฎฺฐานํ, คารยฺหภาวโต วา สาวชฺชลกฺขณํ, สํกิเลสภาวรสํ, อนิฎฺฐวิปากปจฺจุปฎฺฐานํ, ยถาวุตฺตปทฎฺฐานเมวา’’ติ จ เอวมาทินา วุตฺตนเยน อนุคนฺตพฺพตาย วุตฺตํ ‘‘วุตฺตนยํ อนุคนฺตฺวา’’ติฯ
365. Khaṇattayassa akusalesu asambhavato samavāyakālahetusamūhattho samaya-saddo. Lobhābhibhūtāya eva iṭṭhārammaṇasmiṃ itaratra ca iṭṭhākāraggahaṇavasena somanassasahagatabhāvoti evamādiṃ sandhāya ‘‘yathānurūpa’’nti vuttaṃ. ‘‘Kilesāturatāya anārogyaṭṭhena kilesavajjasabbhāvato sāvajjaṭṭhena avijjāsambhūtatāya akosalyasambhūtaṭṭhena akusala’’nti ca ‘‘sāvajjadukkhavipākalakkhaṇaṃ, anatthajananarasaṃ, saṃkilesapaccupaṭṭhānaṃ, ayonisomanasikārapadaṭṭhānaṃ, gārayhabhāvato vā sāvajjalakkhaṇaṃ, saṃkilesabhāvarasaṃ, aniṭṭhavipākapaccupaṭṭhānaṃ, yathāvuttapadaṭṭhānamevā’’ti ca evamādinā vuttanayena anugantabbatāya vuttaṃ ‘‘vuttanayaṃ anugantvā’’ti.
คตํ คมนํ ปวตฺตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘คตมตฺตํ คติมตฺตํ คหณมตฺต’’นฺติฯ ทิฎฺฐิยา หิ คติ ปวตฺติ เอวาติฯ อาสนฺนการณตฺตาติ ปทฎฺฐานตาย, โยนิโสมนสิกาโร วิย หิ กุสลสฺส อโยนิโสมนสิกาโร อกุสลสฺส อจฺจาสนฺนเหตุฯ ตถา หิ สติปิ อสทฺธมฺมสวนาทิการเณ อโยนิโส อนาวชฺชิเต อววตฺถาปิเต จ นตฺถิ อกุสลปฺปวตฺติฯ ตถา จ วกฺขติ อฎฺฐกถายํ ‘‘อโยนิโส อกุสล’’นฺติฯ เอเตน เอกนฺตการณตา จ วุตฺตตฺถา โหติฯ ปฎิสงฺขา สีตาทิขมนํ อปฺปมาทวิหาโรติ วุตฺตํ ‘‘อปฺปมชฺชนํ ขมน’’นฺติฯ เตน สติสํวโรติ อิธ ขนฺติสํวโร วุโตฺตติ อธิปฺปาโย อินฺทฺริยสํวรสฺส วุตฺตตฺตาฯ ปหานสํวโรติ วีริยสํวโรฯ โส หิ ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ ปชหตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๖; อ. นิ. ๔.๑๔; ๖.๕๘) วุโตฺตติฯ
Gataṃ gamanaṃ pavattīti katvā vuttaṃ ‘‘gatamattaṃ gatimattaṃ gahaṇamatta’’nti. Diṭṭhiyā hi gati pavatti evāti. Āsannakāraṇattāti padaṭṭhānatāya, yonisomanasikāro viya hi kusalassa ayonisomanasikāro akusalassa accāsannahetu. Tathā hi satipi asaddhammasavanādikāraṇe ayoniso anāvajjite avavatthāpite ca natthi akusalappavatti. Tathā ca vakkhati aṭṭhakathāyaṃ ‘‘ayoniso akusala’’nti. Etena ekantakāraṇatā ca vuttatthā hoti. Paṭisaṅkhā sītādikhamanaṃ appamādavihāroti vuttaṃ ‘‘appamajjanaṃ khamana’’nti. Tena satisaṃvaroti idha khantisaṃvaro vuttoti adhippāyo indriyasaṃvarassa vuttattā. Pahānasaṃvaroti vīriyasaṃvaro. So hi ‘‘uppannaṃ kāmavitakkaṃ nādhivāseti pajahatī’’tiādinā (ma. ni. 1.26; a. ni. 4.14; 6.58) vuttoti.
สมฺมาปฎิปตฺติยา ปฎิปกฺขภาเวน คเหตพฺพตากาโร โมโห สมฺมาปฎิปตฺติปฎิปกฺขภาวคฺคหณากาโรฯ เตน หิ นิวุตา น สมฺมา ปฎิปชฺชนฺติฯ อภิชฺฌาย วิเสสโยโค กมฺมปถปฺปตฺติฯ
Sammāpaṭipattiyā paṭipakkhabhāvena gahetabbatākāro moho sammāpaṭipattipaṭipakkhabhāvaggahaṇākāro. Tena hi nivutā na sammā paṭipajjanti. Abhijjhāya visesayogo kammapathappatti.
อนุปปริกฺขา โมโหฯ โส เจตฺถ ทิฎฺฐิรหิโต เวทิตโพฺพฯ ทิฎฺฐิสหิตสฺส ปน ทิฎฺฐิยา อนุวิธายกตฺตา ตคฺคหเณเนว คหณนฺติฯ อวตฺถุสฺมินฺติ อสทฺทหนีเย วตฺถุสฺมิํฯ สานุนโย อธิโมโกฺขติ โมหทิฎฺฐีนํ สทฺธาปติรูปตมาหฯ อหิริกาโนตฺตปฺปโมหาทีหิ ปมชฺชนโต อหิริกาทีหิ การเณหิฯ อารกฺขรหิตจิเตฺตติ จิตฺตสฺส สติวิรหตํเยว ทเสฺสติฯ อารกฺขปจฺจุปฎฺฐานา หิ สตีติฯ เอเตน ‘‘อสฺสทฺธิยจิเตฺต อนฺธพาลจิเตฺต’’ติ ปททฺวยํ วุตฺตตฺถํ โหติฯ อุปนาหาทีติ อาทิ-สเทฺทน ราคาทโย สงฺคยฺหนฺติฯ ราคาทีนํ ปริยุฎฺฐานาทิสภาวตาย ‘‘อวิเสเสนา’’ติ วุตฺตํ วิเสสสฺส เอกจฺจสฺส อสมฺภวโตฯ อิธาติ, อิมสฺมิํ จิเตฺตฯ นิปฺผาเทตเพฺพ ปโยชเน ภุมฺมํ ‘‘จมฺมสฺมิํ ทีปินํ หนฺตี’’ติ (วชิร. ฎี. ๑๗-๑๘ เวรญฺชกณฺฑวณฺณนา) วิย อารมฺมณํ วา อวูปสโม ผลูปจาเรน ‘‘เสโมฺห คุโฬ’’ติ วิยฯ
Anupaparikkhā moho. So cettha diṭṭhirahito veditabbo. Diṭṭhisahitassa pana diṭṭhiyā anuvidhāyakattā taggahaṇeneva gahaṇanti. Avatthusminti asaddahanīye vatthusmiṃ. Sānunayo adhimokkhoti mohadiṭṭhīnaṃ saddhāpatirūpatamāha. Ahirikānottappamohādīhi pamajjanato ahirikādīhi kāraṇehi. Ārakkharahitacitteti cittassa sativirahataṃyeva dasseti. Ārakkhapaccupaṭṭhānā hi satīti. Etena ‘‘assaddhiyacitte andhabālacitte’’ti padadvayaṃ vuttatthaṃ hoti. Upanāhādīti ādi-saddena rāgādayo saṅgayhanti. Rāgādīnaṃ pariyuṭṭhānādisabhāvatāya ‘‘avisesenā’’ti vuttaṃ visesassa ekaccassa asambhavato. Idhāti, imasmiṃ citte. Nipphādetabbe payojane bhummaṃ ‘‘cammasmiṃ dīpinaṃ hantī’’ti (vajira. ṭī. 17-18 verañjakaṇḍavaṇṇanā) viya ārammaṇaṃ vā avūpasamo phalūpacārena ‘‘semho guḷo’’ti viya.
ธมฺมุเทฺทสวารกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dhammuddesavārakathāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / ธมฺมสงฺคณีปาฬิ • Dhammasaṅgaṇīpāḷi / ทฺวาทส อกุสลานิ • Dvādasa akusalāni
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / อภิธมฺมปิฎก (อฎฺฐกถา) • Abhidhammapiṭaka (aṭṭhakathā) / ธมฺมสงฺคณิ-อฎฺฐกถา • Dhammasaṅgaṇi-aṭṭhakathā / ปฐมจิตฺตํ • Paṭhamacittaṃ
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ธมฺมสงฺคณี-มูลฎีกา • Dhammasaṅgaṇī-mūlaṭīkā / ปฐมจิตฺตกถาวณฺณนา • Paṭhamacittakathāvaṇṇanā