Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๔. ปฐมทารุกฺขโนฺธปมสุตฺตํ
4. Paṭhamadārukkhandhopamasuttaṃ
๒๔๑. เอกํ สมยํ ภควา โกสมฺพิยํ วิหรติ คงฺคาย นทิยา ตีเรฯ อทฺทสา โข ภควา มหนฺตํ ทารุกฺขนฺธํ คงฺคาย นทิยา โสเตน วุยฺหมานํฯ ทิสฺวาน ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘ปสฺสถ โน ตุเมฺห, ภิกฺขเว, อมุํ มหนฺตํ ทารุกฺขนฺธํ คงฺคาย นทิยา โสเตน วุยฺหมาน’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ฯ ‘‘สเจ โส, ภิกฺขเว, ทารุกฺขโนฺธ น โอริมํ ตีรํ อุปคจฺฉติ, น ปาริมํ ตีรํ อุปคจฺฉติ, น มเชฺฌ สํสีทิสฺสติ, น ถเล อุสฺสีทิสฺสติ, น มนุสฺสคฺคาโห คเหสฺสติ, น อมนุสฺสคฺคาโห คเหสฺสติ, น อาวฎฺฎคฺคาโห คเหสฺสติ, น อโนฺตปูติ ภวิสฺสติ; เอวญฺหิ โส, ภิกฺขเว, ทารุกฺขโนฺธ สมุทฺทนิโนฺน ภวิสฺสติ สมุทฺทโปโณ สมุทฺทปพฺภาโรฯ ตํ กิสฺส เหตุ? สมุทฺทนิโนฺน, ภิกฺขเว, คงฺคาย นทิยา โสโต สมุทฺทโปโณ สมุทฺทปพฺภาโรฯ
241. Ekaṃ samayaṃ bhagavā kosambiyaṃ viharati gaṅgāya nadiyā tīre. Addasā kho bhagavā mahantaṃ dārukkhandhaṃ gaṅgāya nadiyā sotena vuyhamānaṃ. Disvāna bhikkhū āmantesi – ‘‘passatha no tumhe, bhikkhave, amuṃ mahantaṃ dārukkhandhaṃ gaṅgāya nadiyā sotena vuyhamāna’’nti? ‘‘Evaṃ, bhante’’. ‘‘Sace so, bhikkhave, dārukkhandho na orimaṃ tīraṃ upagacchati, na pārimaṃ tīraṃ upagacchati, na majjhe saṃsīdissati, na thale ussīdissati, na manussaggāho gahessati, na amanussaggāho gahessati, na āvaṭṭaggāho gahessati, na antopūti bhavissati; evañhi so, bhikkhave, dārukkhandho samuddaninno bhavissati samuddapoṇo samuddapabbhāro. Taṃ kissa hetu? Samuddaninno, bhikkhave, gaṅgāya nadiyā soto samuddapoṇo samuddapabbhāro.
‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, สเจ ตุเมฺหปิ น โอริมํ ตีรํ อุปคจฺฉถ, น ปาริมํ ตีรํ อุปคจฺฉถ; น มเชฺฌ สํสีทิสฺสถ, น ถเล อุสฺสีทิสฺสถ, น มนุสฺสคฺคาโห คเหสฺสติ, น อมนุสฺสคฺคาโห คเหสฺสติ, น อาวฎฺฎคฺคาโห คเหสฺสติ, น อโนฺตปูตี ภวิสฺสถ; เอวํ ตุเมฺห , ภิกฺขเว, นิพฺพานนินฺนา ภวิสฺสถ นิพฺพานโปณา นิพฺพานปพฺภาราฯ ตํ กิสฺส เหตุ? นิพฺพานนินฺนา, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฎฺฐิ นิพฺพานโปณา นิพฺพานปพฺภารา’’ติฯ เอวํ วุเตฺต, อญฺญตโร ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิํ นุ โข, ภเนฺต, โอริมํ ตีรํ, กิํ ปาริมํ ตีรํ, โก มเชฺฌ สํสาโท 1, โก ถเล อุสฺสาโท, โก มนุสฺสคฺคาโห, โก อมนุสฺสคฺคาโห, โก อาวฎฺฎคฺคาโห, โก อโนฺตปูติภาโว’’ติ?
‘‘Evameva kho, bhikkhave, sace tumhepi na orimaṃ tīraṃ upagacchatha, na pārimaṃ tīraṃ upagacchatha; na majjhe saṃsīdissatha, na thale ussīdissatha, na manussaggāho gahessati, na amanussaggāho gahessati, na āvaṭṭaggāho gahessati, na antopūtī bhavissatha; evaṃ tumhe , bhikkhave, nibbānaninnā bhavissatha nibbānapoṇā nibbānapabbhārā. Taṃ kissa hetu? Nibbānaninnā, bhikkhave, sammādiṭṭhi nibbānapoṇā nibbānapabbhārā’’ti. Evaṃ vutte, aññataro bhikkhu bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘kiṃ nu kho, bhante, orimaṃ tīraṃ, kiṃ pārimaṃ tīraṃ, ko majjhe saṃsādo 2, ko thale ussādo, ko manussaggāho, ko amanussaggāho, ko āvaṭṭaggāho, ko antopūtibhāvo’’ti?
‘‘‘โอริมํ ตีร’นฺติ โข, ภิกฺขุ, ฉเนฺนตํ อชฺฌตฺติกานํ อายตนานํ อธิวจนํฯ ‘ปาริมํ ตีร’นฺติ โข , ภิกฺขุ, ฉเนฺนตํ พาหิรานํ อายตนานํ อธิวจนํฯ ‘มเชฺฌ สํสาโท’ติ โข, ภิกฺขุ, นนฺทีราคเสฺสตํ อธิวจนํฯ ‘ถเล อุสฺสาโท’ติ โข, ภิกฺขุ, อสฺมิมานเสฺสตํ อธิวจนํฯ
‘‘‘Orimaṃ tīra’nti kho, bhikkhu, channetaṃ ajjhattikānaṃ āyatanānaṃ adhivacanaṃ. ‘Pārimaṃ tīra’nti kho , bhikkhu, channetaṃ bāhirānaṃ āyatanānaṃ adhivacanaṃ. ‘Majjhe saṃsādo’ti kho, bhikkhu, nandīrāgassetaṃ adhivacanaṃ. ‘Thale ussādo’ti kho, bhikkhu, asmimānassetaṃ adhivacanaṃ.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขุ, มนุสฺสคฺคาโห? อิธ, ภิกฺขุ, คิหีหิ สํสโฎฺฐ 3 วิหรติ, สหนนฺที สหโสกี, สุขิเตสุ สุขิโต, ทุกฺขิเตสุ ทุกฺขิโต, อุปฺปเนฺนสุ กิจฺจกรณีเยสุ อตฺตนา เตสุ โยคํ อาปชฺชติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขุ, มนุสฺสคฺคาโหฯ
‘‘Katamo ca, bhikkhu, manussaggāho? Idha, bhikkhu, gihīhi saṃsaṭṭho 4 viharati, sahanandī sahasokī, sukhitesu sukhito, dukkhitesu dukkhito, uppannesu kiccakaraṇīyesu attanā tesu yogaṃ āpajjati. Ayaṃ vuccati, bhikkhu, manussaggāho.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขุ, อมนุสฺสคฺคาโห? อิธ, ภิกฺขุ, เอกโจฺจ อญฺญตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยํ จรติ – ‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวญฺญตโร วา’ติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขุ, อมนุสฺสคฺคาโหฯ ‘อาวฎฺฎคฺคาโห’ติ โข, ภิกฺขุ, ปญฺจเนฺนตํ กามคุณานํ อธิวจนํฯ
‘‘Katamo ca, bhikkhu, amanussaggāho? Idha, bhikkhu, ekacco aññataraṃ devanikāyaṃ paṇidhāya brahmacariyaṃ carati – ‘imināhaṃ sīlena vā vatena vā tapena vā brahmacariyena vā devo vā bhavissāmi devaññataro vā’ti. Ayaṃ vuccati, bhikkhu, amanussaggāho. ‘Āvaṭṭaggāho’ti kho, bhikkhu, pañcannetaṃ kāmaguṇānaṃ adhivacanaṃ.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขุ, อโนฺตปูติภาโว? อิธ, ภิกฺขุ, เอกโจฺจ ทุสฺสีโล โหติ ปาปธโมฺม อสุจิสงฺกสฺสรสมาจาโร ปฎิจฺฉนฺนกมฺมโนฺต อสฺสมโณ สมณปฎิโญฺญ อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฎิโญฺญ อโนฺตปูติ อวสฺสุโต กสมฺพุชาโตฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขุ, ‘อโนฺตปูติภาโว’’’ติฯ
‘‘Katamo ca, bhikkhu, antopūtibhāvo? Idha, bhikkhu, ekacco dussīlo hoti pāpadhammo asucisaṅkassarasamācāro paṭicchannakammanto assamaṇo samaṇapaṭiñño abrahmacārī brahmacāripaṭiñño antopūti avassuto kasambujāto. Ayaṃ vuccati, bhikkhu, ‘antopūtibhāvo’’’ti.
เตน โข ปน สมเยน นโนฺท โคปาลโก ภควโต อวิทูเร ฐิโต โหติฯ อถ โข นโนฺท โคปาลโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหํ โข, ภเนฺต, น โอริมํ ตีรํ อุปคจฺฉามิ, น ปาริมํ ตีรํ อุปคจฺฉามิ, น มเชฺฌ สํสีทิสฺสามิ, น ถเล อุสฺสีทิสฺสามิ, น มํ มนุสฺสคฺคาโห คเหสฺสติ, น อมนุสฺสคฺคาโห คเหสฺสติ, น อาวฎฺฎคฺคาโห คเหสฺสติ, น อโนฺตปูติ ภวิสฺสามิฯ ลเภยฺยาหํ, ภเนฺต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติฯ ‘‘เตน หิ ตฺวํ, นนฺท, สามิกานํ คาโว นิยฺยาเตหี’’ติ 5ฯ ‘‘คมิสฺสนฺติ, ภเนฺต, คาโว วจฺฉคิทฺธินิโย’’ติฯ ‘‘นิยฺยาเตเหว ตฺวํ, นนฺท, สามิกานํ คาโว’’ติฯ อถ โข นโนฺท โคปาลโก สามิกานํ คาโว นิยฺยาเตตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘นิยฺยาติตา 6, ภเนฺต, สามิกานํ คาโวฯ ลเภยฺยาหํ, ภเนฺต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติฯ อลตฺถ โข นโนฺท โคปาลโก ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปทํฯ อจิรูปสมฺปโนฺน จ ปนายสฺมา นโนฺท เอโก วูปกโฎฺฐ…เป.… อญฺญตโร จ ปนายสฺมา นโนฺท อรหตํ อโหสีติฯ จตุตฺถํฯ
Tena kho pana samayena nando gopālako bhagavato avidūre ṭhito hoti. Atha kho nando gopālako bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘ahaṃ kho, bhante, na orimaṃ tīraṃ upagacchāmi, na pārimaṃ tīraṃ upagacchāmi, na majjhe saṃsīdissāmi, na thale ussīdissāmi, na maṃ manussaggāho gahessati, na amanussaggāho gahessati, na āvaṭṭaggāho gahessati, na antopūti bhavissāmi. Labheyyāhaṃ, bhante, bhagavato santike pabbajjaṃ, labheyyaṃ upasampada’’nti. ‘‘Tena hi tvaṃ, nanda, sāmikānaṃ gāvo niyyātehī’’ti 7. ‘‘Gamissanti, bhante, gāvo vacchagiddhiniyo’’ti. ‘‘Niyyāteheva tvaṃ, nanda, sāmikānaṃ gāvo’’ti. Atha kho nando gopālako sāmikānaṃ gāvo niyyātetvā yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘niyyātitā 8, bhante, sāmikānaṃ gāvo. Labheyyāhaṃ, bhante, bhagavato santike pabbajjaṃ, labheyyaṃ upasampada’’nti. Alattha kho nando gopālako bhagavato santike pabbajjaṃ, alattha upasampadaṃ. Acirūpasampanno ca panāyasmā nando eko vūpakaṭṭho…pe… aññataro ca panāyasmā nando arahataṃ ahosīti. Catutthaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๔. ปฐมทารุกฺขโนฺธปมสุตฺตวณฺณนา • 4. Paṭhamadārukkhandhopamasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๔. ปฐมทารุกฺขโนฺธปมสุตฺตวณฺณนา • 4. Paṭhamadārukkhandhopamasuttavaṇṇanā