Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๔. ปฐมทารุกฺขโนฺธปมสุตฺตวณฺณนา
4. Paṭhamadārukkhandhopamasuttavaṇṇanā
๒๔๑. วิลาสมาโน วิย สาครํ ปตฺวาฯ อโนฺตสาโขติ คงฺคาย ตีรสฺส อโนฺต โอนตสาโขฯ เตเมตีติ ติโนฺต โหติฯ ติริยํ ปติโต ทณฺฑเสตุ วิย ฐิตตฺตา มหาชนสฺส ปจฺจโย ชาโต, ตถา มหนฺตภาเวน คงฺคาโสตํ โอตรณาทิ นตฺถิฯ
241.Vilāsamāno viya sāgaraṃ patvā. Antosākhoti gaṅgāya tīrassa anto onatasākho. Temetīti tinto hoti. Tiriyaṃ patito daṇḍasetu viya ṭhitattā mahājanassa paccayo jāto, tathā mahantabhāvena gaṅgāsotaṃ otaraṇādi natthi.
อยํ หีติ อนนฺตรํ วุตฺตปุคฺคโลฯ อริยมคฺคํ โอรุยฺหาติ จตุพฺพิธํ อริยมคฺควีถิํ โอตริตฺวาฯ ‘‘จิตฺตํ นาเมต’’นฺติอาทินา จิเนฺตตฺวา คิหิพนฺธนํ น วิสฺสเชฺชตีติ สมฺพโนฺธฯ อตฺตโน ภชมานเกติ อตฺตโน ภชเนฺตฯ ชีวิกตฺถาย ปยุชฺชิตพฺพโต ปโยโค, เขตฺตวตฺถาทิฯ ตโต ปโยคโต อุฎฺฐิตํ อายํฯ กิญฺจาปิ ภิกฺขูนํ กายสามคฺคิํ เทติ ภิกฺขตฺถายฯ
Ayaṃhīti anantaraṃ vuttapuggalo. Ariyamaggaṃ oruyhāti catubbidhaṃ ariyamaggavīthiṃ otaritvā. ‘‘Cittaṃ nāmeta’’ntiādinā cintetvā gihibandhanaṃ na vissajjetīti sambandho. Attano bhajamānaketi attano bhajante. Jīvikatthāya payujjitabbato payogo, khettavatthādi. Tato payogato uṭṭhitaṃ āyaṃ. Kiñcāpi bhikkhūnaṃ kāyasāmaggiṃ deti bhikkhatthāya.
มุณฺฑฆฎนฺติ ภิโนฺนฎฺฐํ ฆฎํฯ ขเนฺธติ อํเสฯ สงฺฆโภคนฺติ สงฺฆสนฺตกํ โภคคามํ คนฺตฺวาฯ อตฺถโต เอวํ วทนฺตีติ ตถา อตฺถสฺส สมฺภวโต เอวํ วทนฺตา วิย โหนฺติฯ ยาคุมตฺตเก ยาคุนฺติ ยาคุํ ปิวิตฺวา ตาย อปริปกฺกาย เอว อญฺญํ ยาคุํ อโชฺฌหริตฺวาติ สมฺพโนฺธฯ
Muṇḍaghaṭanti bhinnoṭṭhaṃ ghaṭaṃ. Khandheti aṃse. Saṅghabhoganti saṅghasantakaṃ bhogagāmaṃ gantvā. Atthato evaṃ vadantīti tathā atthassa sambhavato evaṃ vadantā viya honti. Yāgumattake yāgunti yāguṃ pivitvā tāya aparipakkāya eva aññaṃ yāguṃ ajjhoharitvāti sambandho.
กิเลสานุรญฺชิโตวาติ โยนิโสมนสิการสฺส อภาเวน กิเลสานุคตจิโตฺต เอวฯ อกฺขีนิ นีหริตฺวาติ โกธวเสน อกฺขิเก กโรโนฺต อกฺขีนิ นีหริตฺวา วิจริสฺสติฯ อุทฺธโต โหติ อวูปสโนฺตฯ
Kilesānurañjitovāti yonisomanasikārassa abhāvena kilesānugatacitto eva. Akkhīni nīharitvāti kodhavasena akkhike karonto akkhīni nīharitvā vicarissati. Uddhato hoti avūpasanto.
ทิฎฺฐิคติโกติ สาสนิโก เอวํ อโยนิโส อุมฺมุชฺชิตฺวา สาสนํ อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ กตฺวา ทีเปโนฺต อริฎฺฐสทิโสฯ เตนาห ‘‘โส หี’’ติอาทิฯ อรูปภเว รูปํ อตฺถิ, อญฺญถา ตโต จุตสฺส กุโต รูปกฺขนฺธสฺส สมฺภโวฯ อสญฺญีภเว จิตฺตํ อตฺถีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ พหุจิตฺตกฺขณิโก โลกุตฺตรมโคฺค ‘‘โย อิเม จตฺตาโร สติปฎฺฐาเน ภาเวยฺย สตฺตวสฺสานี’’ติอาทิวจนโต (ที. นิ. ๒.๔๐๔; ม. นิ. ๑.๑๓๗)ฯ อนุสโย จิตฺตวิปฺปยุโตฺต, อญฺญถา สาวชฺชานวชฺชธมฺมานํ เอกชฺฌํ อุปฺปตฺติ สิยาฯ เต จ สตฺตา สนฺธาวนฺติ สํสรนฺติ, อญฺญถา กมฺมผลานํ สมฺพโนฺธ น สิยาติฯ อิติ วทโนฺต เอวํ มิจฺฉาวาทํ ปคฺคยฺห วทโนฺตฯ
Diṭṭhigatikoti sāsaniko evaṃ ayoniso ummujjitvā sāsanaṃ uddhammaṃ ubbinayaṃ katvā dīpento ariṭṭhasadiso. Tenāha ‘‘so hī’’tiādi. Arūpabhave rūpaṃ atthi, aññathā tato cutassa kuto rūpakkhandhassa sambhavo. Asaññībhave cittaṃ atthīti etthāpi eseva nayo. Bahucittakkhaṇiko lokuttaramaggo ‘‘yo ime cattāro satipaṭṭhāne bhāveyya sattavassānī’’tiādivacanato (dī. ni. 2.404; ma. ni. 1.137). Anusayo cittavippayutto, aññathā sāvajjānavajjadhammānaṃ ekajjhaṃ uppatti siyā. Te ca sattā sandhāvanti saṃsaranti, aññathā kammaphalānaṃ sambandho na siyāti. Iti vadanto evaṃ micchāvādaṃ paggayha vadanto.
เตมนรุโกฺข วิย…เป.… ทุลฺลภธมฺมสฺสวโน จ ปุคฺคโล สทฺธาสิเนเหน อเตมนโตฯ กตวินโย สิกฺขิตวินโย ยถา ‘‘กตวิโชฺช’’ติฯ ธมฺมกถิกานํ วิจาเรถาติ อิทํ เทยฺยธมฺมํ ธมฺมกถิกานํ อยฺยานํ ตสฺส ตสฺส ยุตฺตวเสน วิจาเรถาติ นิยฺยาตนวเสน วตฺวาฯ ทิวากถิโก สรภาณโก สายเนฺห กเถติ, ปุริมยามํ กเถโนฺต รตฺติกถิโก ภาณกปุคฺคโลฯ
Temanarukkho viya…pe… dullabhadhammassavano ca puggalo saddhāsinehena atemanato. Katavinayo sikkhitavinayo yathā ‘‘katavijjo’’ti. Dhammakathikānaṃvicārethāti idaṃ deyyadhammaṃ dhammakathikānaṃ ayyānaṃ tassa tassa yuttavasena vicārethāti niyyātanavasena vatvā. Divākathiko sarabhāṇako sāyanhe katheti, purimayāmaṃ kathento rattikathiko bhāṇakapuggalo.
นนฺทนวนาภิราเมติ นนฺทนวนํ วิย มโนรเมฯ อสฺส ภารหารภิกฺขูติ อสฺส กิจฺจวาหกภิกฺขู อุปชฺฌายาทโยฯ สุขนิสินฺนกถนฺติ ปฎิสนฺถารกถาปุพฺพกํ อุปนิสินฺนกถํ สุตฺวาฯ
Nandanavanābhirāmeti nandanavanaṃ viya manorame. Assa bhārahārabhikkhūti assa kiccavāhakabhikkhū upajjhāyādayo. Sukhanisinnakathanti paṭisanthārakathāpubbakaṃ upanisinnakathaṃ sutvā.
ฐิตสณฺฐาเนเนว ฐิตากาเรเนว ฐิตํ, นปฺปยุตฺตนฺติ อโตฺถฯ จิตฺตกมฺมมูลาทีนิ ฐิตสณฺฐาเนเนว ฐิตาติ โยชนาฯ มุทุตายาติ มุทุหทยตาย สาเปกฺขตายฯ
Ṭhitasaṇṭhāneneva ṭhitākāreneva ṭhitaṃ, nappayuttanti attho. Cittakammamūlādīni ṭhitasaṇṭhāneneva ṭhitāti yojanā. Mudutāyāti muduhadayatāya sāpekkhatāya.
ปฎิปทนฺติ สมถวิปสฺสนาปฎิปตฺติํฯ ทีเปตฺวา ปกาเสตฺวา ปากฎํ กตฺวาฯ ตตฺรุปฺปาโทติ ตตฺร อุปฺปชฺชนกอายุปฺปาโทฯ เขตฺตํ สนฺธาย วทติฯ เตล…เป.… หตฺถาติ เตลฆฎ-มธุฆฎผาณิตฆฎาทิหตฺถาฯ อปกฺกมิํสุ ทุพฺพิจาริตตฺตาฯ ปูเรสีติ เหฎฺฐา จ ตตฺถ ตตฺถ อตีตานิ กาลวจนานิ โปราณฎฺฐกถาย อาคตตฺตา กิร วุตฺตานิฯ
Paṭipadanti samathavipassanāpaṭipattiṃ. Dīpetvā pakāsetvā pākaṭaṃ katvā. Tatruppādoti tatra uppajjanakaāyuppādo. Khettaṃ sandhāya vadati. Tela…pe… hatthāti telaghaṭa-madhughaṭaphāṇitaghaṭādihatthā. Apakkamiṃsu dubbicāritattā. Pūresīti heṭṭhā ca tattha tattha atītāni kālavacanāni porāṇaṭṭhakathāya āgatattā kira vuttāni.
อุปคมนานุปคมนาทีนิ โอริมสฺส ปาริมสฺส จ อุปคมนานุปคมนานิ เจว มเชฺฌ สํสีทนานิ จฯ ปฎิวิชฺฌิตุนฺติ ชานิตุํฯ เอตนฺติ ยถาวุตฺตํ จกฺขุสภาวํฯ โทมนสฺสนฺติ ตเสฺสว มนฺทภาวปจฺจยํ โทมนสฺสํฯ อาปชฺชโนฺตปิ อุปคจฺฉติ นาม ตนฺนิมิตฺตสํกิเลสสฺส อุปฺปาทิตตฺตาฯ ติณฺณํ ลกฺขณานนฺติ หุตฺวา อภาวโต อาทิอนฺตวนฺตโต ตาวกาลิกโต นิจฺจปฎิเกฺขปโตติอาทีนํ ติณฺณํ ลกฺขณานํ สลฺลกฺขณวเสนฯ
Upagamanānupagamanādīni orimassa pārimassa ca upagamanānupagamanāni ceva majjhe saṃsīdanāni ca. Paṭivijjhitunti jānituṃ. Etanti yathāvuttaṃ cakkhusabhāvaṃ. Domanassanti tasseva mandabhāvapaccayaṃ domanassaṃ. Āpajjantopi upagacchati nāma tannimittasaṃkilesassa uppāditattā. Tiṇṇaṃ lakkhaṇānanti hutvā abhāvato ādiantavantato tāvakālikato niccapaṭikkhepatotiādīnaṃ tiṇṇaṃ lakkhaṇānaṃ sallakkhaṇavasena.
วามโตติ มิจฺฉาฯ ทกฺขิณโตติ สมฺมาฯ ยถา ตสฺส ตสฺส สตฺตสฺส โอรภาวตฺตา อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ โอริมํ ตีรํ กตฺวา วุตฺตานิ, เอวํ เนสํ ปรภาวตฺตา พาหิรานิ อายตนานิ ปาริมํ วุตฺตานิฯ อปายมเชฺฌ สํสรณเหตุตาย นนฺทีราโคว ‘‘มเชฺฌ สํสาโท’’ติ วุโตฺตฯ
Vāmatoti micchā. Dakkhiṇatoti sammā. Yathā tassa tassa sattassa orabhāvattā ajjhattikāni āyatanāni orimaṃ tīraṃ katvā vuttāni, evaṃ nesaṃ parabhāvattā bāhirāni āyatanāni pārimaṃ vuttāni. Apāyamajjhe saṃsaraṇahetutāya nandīrāgova ‘‘majjhe saṃsādo’’ti vutto.
อุนฺนโตติ ‘‘เสโยฺยหมสฺมี’’ติอาทินา อุนฺนติํ อุปคโตฯ อตฺตุกฺกํสเน ปํสุกูลิกภาเวน อตฺตานํ ทหนโต อญฺญาการตาคเหตโพฺพฯ ปาสาโณ นุ โข เอส ขาณุโกติ คเหตพฺพทารุกฺขนฺธสทิโส วุโตฺตฯ
Unnatoti ‘‘seyyohamasmī’’tiādinā unnatiṃ upagato. Attukkaṃsane paṃsukūlikabhāvena attānaṃ dahanato aññākāratāgahetabbo. Pāsāṇo nu kho esa khāṇukoti gahetabbadārukkhandhasadiso vutto.
จุณฺณวิจุณฺณํ โหติ อาวฎฺฎเวคสฺส พลวภาวโตฯ จตูสุ อปาเยสูติ ปญฺจกามคุณาวเฎฺฎ ปติตปุคฺคโล มนุสฺสโลเกปิ คุณสรีรเภทเนน ทีฆรตฺตํ จุณฺณวิจุณฺณํ อาปชฺชติเยว, ตสฺส ตถา อาปนฺนตฺตาฯ เอวญฺหิ โส อปาเยสุ ตาทิเสสุ ชายติฯ
Cuṇṇavicuṇṇaṃhoti āvaṭṭavegassa balavabhāvato. Catūsu apāyesūti pañcakāmaguṇāvaṭṭe patitapuggalo manussalokepi guṇasarīrabhedanena dīgharattaṃ cuṇṇavicuṇṇaṃ āpajjatiyeva, tassa tathā āpannattā. Evañhi so apāyesu tādisesu jāyati.
สีลสฺส ทุฎฺฐํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา อภาวโตฺถ อิธ ทุ-สโทฺทติ อาห ‘‘นิสฺสีโล’’ติฯ ‘‘ปาปํ ปาเปน สุกร’’นฺติอาทีสุ (อุทา. ๔๘) วิย ปาป-สโทฺท นิหีนปริยาโยติ อาห ‘‘ลามกธโมฺม’’ติฯ น สุจีติ กายวาจาจิเตฺตหิ น สุจิฯ สงฺกาย วาติ อตฺตโน วา สงฺกาย ปเรสํ สมาจารกิริยํ สรติ อาสงฺกติฯ เตนาห ‘‘ตสฺส หี’’ติอาทิฯ ตานิ กมฺมานิ ปวิสตีติ ตานิ กมฺมานิ กโรนฺตานํ อนฺตเร ปวิสติฯ คุณานํ ปูติภาเวนาติ คุณภาเวน คหิตานํ สีลธมฺมานํ สํกิลิฎฺฐภาวปฺปตฺติยาฯ กจวรชาโตติ อพฺภนฺตรํ สญฺชาตกจวโร, กจวรภูโต วาฯ
Sīlassa duṭṭhaṃ nāma natthi, tasmā abhāvattho idha du-saddoti āha ‘‘nissīlo’’ti. ‘‘Pāpaṃ pāpena sukara’’ntiādīsu (udā. 48) viya pāpa-saddo nihīnapariyāyoti āha ‘‘lāmakadhammo’’ti. Na sucīti kāyavācācittehi na suci. Saṅkāya vāti attano vā saṅkāya paresaṃ samācārakiriyaṃ sarati āsaṅkati. Tenāha ‘‘tassa hī’’tiādi. Tāni kammāni pavisatīti tāni kammāni karontānaṃ antare pavisati. Guṇānaṃ pūtibhāvenāti guṇabhāvena gahitānaṃ sīladhammānaṃ saṃkiliṭṭhabhāvappattiyā. Kacavarajātoti abbhantaraṃ sañjātakacavaro, kacavarabhūto vā.
อณณา ปพฺพชฺชาติ อณณเสฺสว ปพฺพชฺชาฯ โอริมตีราทีนํ อุปคมนานุปคมนาทีนํ โชติตตฺตา วฎฺฎวิวฎฺฎํ กถิตํฯ
Aṇaṇā pabbajjāti aṇaṇasseva pabbajjā. Orimatīrādīnaṃ upagamanānupagamanādīnaṃ jotitattā vaṭṭavivaṭṭaṃ kathitaṃ.
ปฐมทารุกฺขโนฺธปมสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Paṭhamadārukkhandhopamasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๔. ปฐมทารุกฺขโนฺธปมสุตฺตํ • 4. Paṭhamadārukkhandhopamasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๔. ปฐมทารุกฺขโนฺธปมสุตฺตวณฺณนา • 4. Paṭhamadārukkhandhopamasuttavaṇṇanā