Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya

    ๗. ปฐมเคลญฺญสุตฺตํ

    7. Paṭhamagelaññasuttaṃ

    ๒๕๕. เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฎาคารสาลายํฯ อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฎิสลฺลานา วุฎฺฐิโต เยน คิลานสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ –

    255. Ekaṃ samayaṃ bhagavā vesāliyaṃ viharati mahāvane kūṭāgārasālāyaṃ. Atha kho bhagavā sāyanhasamayaṃ paṭisallānā vuṭṭhito yena gilānasālā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi. Nisajja kho bhagavā bhikkhū āmantesi –

    ‘‘สโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺปชาโน กาลํ อาคเมยฺยฯ อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนีฯ

    ‘‘Sato, bhikkhave, bhikkhu sampajāno kālaṃ āgameyya. Ayaṃ vo amhākaṃ anusāsanī.

    ‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ; เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ…เป.… จิเตฺต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ…เป.… ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ ฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สโต โหติฯ

    ‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu sato hoti? Idha, bhikkhave, bhikkhu kāye kāyānupassī viharati ātāpī sampajāno satimā, vineyya loke abhijjhādomanassaṃ; vedanāsu vedanānupassī viharati…pe… citte cittānupassī viharati…pe… dhammesu dhammānupassī viharati ātāpī sampajāno satimā, vineyya loke abhijjhādomanassaṃ . Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu sato hoti.

    ‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺปชาโน โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อภิกฺกเนฺต ปฎิกฺกเนฺต สมฺปชานการี โหติ, อาโลกิเต วิโลกิเต สมฺปชานการี โหติ, สมิญฺชิเต ปสาริเต สมฺปชานการี โหติ, สงฺฆาฎิปตฺตจีวรธารเณ สมฺปชานการี โหติ, อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต สมฺปชานการี โหติ, อุจฺจารปสฺสาวกเมฺม สมฺปชานการี โหติ, คเต ฐิเต นิสิเนฺน สุเตฺต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี โหติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺปชานการี โหติฯ สโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺปชาโน กาลํ อาคเมยฺยฯ อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนีฯ

    ‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu sampajāno hoti? Idha, bhikkhave, bhikkhu abhikkante paṭikkante sampajānakārī hoti, ālokite vilokite sampajānakārī hoti, samiñjite pasārite sampajānakārī hoti, saṅghāṭipattacīvaradhāraṇe sampajānakārī hoti, asite pīte khāyite sāyite sampajānakārī hoti, uccārapassāvakamme sampajānakārī hoti, gate ṭhite nisinne sutte jāgarite bhāsite tuṇhībhāve sampajānakārī hoti. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu sampajānakārī hoti. Sato, bhikkhave, bhikkhu sampajāno kālaṃ āgameyya. Ayaṃ vo amhākaṃ anusāsanī.

    ‘‘ตสฺส เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เอวํ สตสฺส สมฺปชานสฺส อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต อุปฺปชฺชติ สุขา เวทนา, โส เอวํ ปชานาติ – ‘อุปฺปนฺนา โข มฺยายํ สุขา เวทนาฯ สา จ โข ปฎิจฺจ, โน อปฺปฎิจฺจฯ กิํ ปฎิจฺจ? อิมเมว กายํ ปฎิจฺจฯ อยํ โข ปน กาโย อนิโจฺจ สงฺขโต ปฎิจฺจสมุปฺปโนฺนฯ อนิจฺจํ โข ปน สงฺขตํ ปฎิจฺจสมุปฺปนฺนํ กายํ ปฎิจฺจ อุปฺปนฺนา สุขา เวทนา กุโต นิจฺจา ภวิสฺสตี’ติ! โส กาเย จ สุขาย จ เวทนาย อนิจฺจานุปสฺสี วิหรติ, วยานุปสฺสี วิหรติ, วิราคานุปสฺสี วิหรติ, นิโรธานุปสฺสี วิหรติ, ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสี วิหรติฯ ตสฺส กาเย จ สุขาย จ เวทนาย อนิจฺจานุปสฺสิโน วิหรโต, วยานุปสฺสิโน วิหรโต, วิราคานุปสฺสิโน วิหรโต, นิโรธานุปสฺสิโน วิหรโต, ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสิโน วิหรโต, โย กาเย จ สุขาย จ เวทนาย ราคานุสโย, โส ปหียติฯ

    ‘‘Tassa ce, bhikkhave, bhikkhuno evaṃ satassa sampajānassa appamattassa ātāpino pahitattassa viharato uppajjati sukhā vedanā, so evaṃ pajānāti – ‘uppannā kho myāyaṃ sukhā vedanā. Sā ca kho paṭicca, no appaṭicca. Kiṃ paṭicca? Imameva kāyaṃ paṭicca. Ayaṃ kho pana kāyo anicco saṅkhato paṭiccasamuppanno. Aniccaṃ kho pana saṅkhataṃ paṭiccasamuppannaṃ kāyaṃ paṭicca uppannā sukhā vedanā kuto niccā bhavissatī’ti! So kāye ca sukhāya ca vedanāya aniccānupassī viharati, vayānupassī viharati, virāgānupassī viharati, nirodhānupassī viharati, paṭinissaggānupassī viharati. Tassa kāye ca sukhāya ca vedanāya aniccānupassino viharato, vayānupassino viharato, virāgānupassino viharato, nirodhānupassino viharato, paṭinissaggānupassino viharato, yo kāye ca sukhāya ca vedanāya rāgānusayo, so pahīyati.

    ‘‘ตสฺส เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เอวํ สตสฺส สมฺปชานสฺส อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต อุปฺปชฺชติ ทุกฺขา เวทนาฯ โส เอวํ ปชานาติ – ‘อุปฺปนฺนา โข มฺยายํ ทุกฺขา เวทนาฯ สา จ โข ปฎิจฺจ, โน อปฺปฎิจฺจฯ กิํ ปฎิจฺจ? อิมเมว กายํ ปฎิจฺจฯ อยํ โข ปน กาโย อนิโจฺจ สงฺขโต ปฎิจฺจสมุปฺปโนฺนฯ อนิจฺจํ โข ปน สงฺขตํ ปฎิจฺจสมุปฺปนฺนํ กายํ ปฎิจฺจ อุปฺปนฺนา ทุกฺขา เวทนา กุโต นิจฺจา ภวิสฺสตี’ติ! โส กาเย จ ทุกฺขาย เวทนาย อนิจฺจานุปสฺสี วิหรติ, วยานุปสฺสี วิหรติ, วิราคานุปสฺสี วิหรติ, นิโรธานุปสฺสี วิหรติ, ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสี วิหรติฯ ตสฺส กาเย จ ทุกฺขาย จ เวทนาย อนิจฺจานุปสฺสิโน วิหรโต…เป.… ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสิโน วิหรโต, โย กาเย จ ทุกฺขาย จ เวทนาย ปฎิฆานุสโย, โส ปหียติฯ

    ‘‘Tassa ce, bhikkhave, bhikkhuno evaṃ satassa sampajānassa appamattassa ātāpino pahitattassa viharato uppajjati dukkhā vedanā. So evaṃ pajānāti – ‘uppannā kho myāyaṃ dukkhā vedanā. Sā ca kho paṭicca, no appaṭicca. Kiṃ paṭicca? Imameva kāyaṃ paṭicca. Ayaṃ kho pana kāyo anicco saṅkhato paṭiccasamuppanno. Aniccaṃ kho pana saṅkhataṃ paṭiccasamuppannaṃ kāyaṃ paṭicca uppannā dukkhā vedanā kuto niccā bhavissatī’ti! So kāye ca dukkhāya vedanāya aniccānupassī viharati, vayānupassī viharati, virāgānupassī viharati, nirodhānupassī viharati, paṭinissaggānupassī viharati. Tassa kāye ca dukkhāya ca vedanāya aniccānupassino viharato…pe… paṭinissaggānupassino viharato, yo kāye ca dukkhāya ca vedanāya paṭighānusayo, so pahīyati.

    ‘‘ตสฺส เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เอวํ สตสฺส สมฺปชานสฺส อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต อุปฺปชฺชติ อทุกฺขมสุขา เวทนา, โส เอวํ ปชานาติ – ‘อุปฺปนฺนา โข มฺยายํ อทุกฺขมสุขา เวทนาฯ สา จ โข ปฎิจฺจ, โน อปฺปฎิจฺจฯ กิํ ปฎิจฺจ? อิมเมว กายํ ปฎิจฺจฯ อยํ โข ปน กาโย อนิโจฺจ สงฺขโต ปฎิจฺจสมุปฺปโนฺนฯ อนิจฺจํ โข ปน สงฺขตํ ปฎิจฺจสมุปฺปนฺนํ กายํ ปฎิจฺจ อุปฺปนฺนา อทุกฺขมสุขา เวทนา กุโต นิจฺจา ภวิสฺสตี’ติ! โส กาเย จ อทุกฺขมสุขาย จ เวทนาย อนิจฺจานุปสฺสี วิหรติ, วยานุปสฺสี วิหรติ, วิราคานุปสฺสี วิหรติ, นิโรธานุปสฺสี วิหรติ, ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสี วิหรติฯ ตสฺส กาเย จ อทุกฺขมสุขาย จ เวทนาย อนิจฺจานุปสฺสิโน วิหรโต…เป.… ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสิโน วิหรโต, โย กาเย จ อทุกฺขมสุขาย จ เวทนาย อวิชฺชานุสโย, โส ปหียติฯ

    ‘‘Tassa ce, bhikkhave, bhikkhuno evaṃ satassa sampajānassa appamattassa ātāpino pahitattassa viharato uppajjati adukkhamasukhā vedanā, so evaṃ pajānāti – ‘uppannā kho myāyaṃ adukkhamasukhā vedanā. Sā ca kho paṭicca, no appaṭicca. Kiṃ paṭicca? Imameva kāyaṃ paṭicca. Ayaṃ kho pana kāyo anicco saṅkhato paṭiccasamuppanno. Aniccaṃ kho pana saṅkhataṃ paṭiccasamuppannaṃ kāyaṃ paṭicca uppannā adukkhamasukhā vedanā kuto niccā bhavissatī’ti! So kāye ca adukkhamasukhāya ca vedanāya aniccānupassī viharati, vayānupassī viharati, virāgānupassī viharati, nirodhānupassī viharati, paṭinissaggānupassī viharati. Tassa kāye ca adukkhamasukhāya ca vedanāya aniccānupassino viharato…pe… paṭinissaggānupassino viharato, yo kāye ca adukkhamasukhāya ca vedanāya avijjānusayo, so pahīyati.

    ‘‘โส สุขเญฺจ เวทนํ เวทยติ, สา อนิจฺจาติ ปชานาติ, อนโชฺฌสิตาติ ปชานาติ, อนภินนฺทิตาติ ปชานาติ; ทุกฺขเญฺจ เวทนํ เวทยติ, สา อนิจฺจาติ ปชานาติ, อนโชฺฌสิตาติ ปชานาติ, อนภินนฺทิตาติ ปชานาติ; อทุกฺขมสุขเญฺจ เวทนํ เวทยติ, สา อนิจฺจาติ ปชานาติ, อนโชฺฌสิตาติ ปชานาติ, อนภินนฺทิตาติ ปชานาติฯ โส สุขเญฺจ เวทนํ เวทยติ, วิสญฺญุโตฺต นํ เวทยติ; ทุกฺขเญฺจ เวทนํ เวทยติ, วิสญฺญุโตฺต นํ เวทยติ; อทุกฺขมสุขเญฺจ เวทนํ เวทยติ, วิสญฺญุโตฺต นํ เวทยติฯ โส กายปริยนฺติกํ เวทนํ เวทยมาโน ‘กายปริยนฺติกํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ, ชีวิตปริยนฺติกํ เวทนํ เวทยมาโน ‘ชีวิตปริยนฺติกํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติฯ ‘กายสฺส เภทา อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา อิเธว สพฺพเวทยิตานิ อนภินนฺทิตานิ สีตีภวิสฺสนฺตี’ติ 1 ปชานาติฯ

    ‘‘So sukhañce vedanaṃ vedayati, sā aniccāti pajānāti, anajjhositāti pajānāti, anabhinanditāti pajānāti; dukkhañce vedanaṃ vedayati, sā aniccāti pajānāti, anajjhositāti pajānāti, anabhinanditāti pajānāti; adukkhamasukhañce vedanaṃ vedayati, sā aniccāti pajānāti, anajjhositāti pajānāti, anabhinanditāti pajānāti. So sukhañce vedanaṃ vedayati, visaññutto naṃ vedayati; dukkhañce vedanaṃ vedayati, visaññutto naṃ vedayati; adukkhamasukhañce vedanaṃ vedayati, visaññutto naṃ vedayati. So kāyapariyantikaṃ vedanaṃ vedayamāno ‘kāyapariyantikaṃ vedanaṃ vedayāmī’ti pajānāti, jīvitapariyantikaṃ vedanaṃ vedayamāno ‘jīvitapariyantikaṃ vedanaṃ vedayāmī’ti pajānāti. ‘Kāyassa bhedā uddhaṃ jīvitapariyādānā idheva sabbavedayitāni anabhinanditāni sītībhavissantī’ti 2 pajānāti.

    ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, เตลญฺจ ปฎิจฺจ วฎฺฎิญฺจ ปฎิจฺจ เตลปฺปทีโป ฌาเยยฺย, ตเสฺสว เตลสฺส จ วฎฺฎิยา จ ปริยาทานา อนาหาโร นิพฺพาเยยฺย; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กายปริยนฺติกํ เวทนํ เวทยมาโน ‘กายปริยนฺติกํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติฯ ชีวิตปริยนฺติกํ เวทนํ เวทยมาโน ‘ชีวิตปริยนฺติกํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติฯ ‘กายสฺส เภทา อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา อิเธว สพฺพเวทยิตานิ อนภินนฺทิตานิ สีตีภวิสฺสนฺตี’ติ ปชานาตี’’ติฯ สตฺตมํฯ

    ‘‘Seyyathāpi, bhikkhave, telañca paṭicca vaṭṭiñca paṭicca telappadīpo jhāyeyya, tasseva telassa ca vaṭṭiyā ca pariyādānā anāhāro nibbāyeyya; evameva kho, bhikkhave, bhikkhu kāyapariyantikaṃ vedanaṃ vedayamāno ‘kāyapariyantikaṃ vedanaṃ vedayāmī’ti pajānāti. Jīvitapariyantikaṃ vedanaṃ vedayamāno ‘jīvitapariyantikaṃ vedanaṃ vedayāmī’ti pajānāti. ‘Kāyassa bhedā uddhaṃ jīvitapariyādānā idheva sabbavedayitāni anabhinanditāni sītībhavissantī’ti pajānātī’’ti. Sattamaṃ.







    Footnotes:
    1. สีติภวิสฺสนฺตีติ (สี. ปี. ก.)
    2. sītibhavissantīti (sī. pī. ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๗. ปฐมเคลญฺญสุตฺตวณฺณนา • 7. Paṭhamagelaññasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๗. ปฐมเคลญฺญสุตฺตวณฺณนา • 7. Paṭhamagelaññasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact