Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๘. คิลานวโคฺค
8. Gilānavaggo
๑. ปฐมคิลานสุตฺตํ
1. Paṭhamagilānasuttaṃ
๗๔. สาวตฺถินิทานํ ฯ อถ โข อญฺญตโร ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ…เป.… เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อมุกสฺมิํ, ภเนฺต, วิหาเร อญฺญตโร ภิกฺขุ นโว อปฺปญฺญาโต อาพาธิโก ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโนฯ สาธุ, ภเนฺต, ภควา เยน โส ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติฯ
74. Sāvatthinidānaṃ . Atha kho aññataro bhikkhu yena bhagavā tenupasaṅkami…pe… ekamantaṃ nisinno kho so bhikkhu bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘amukasmiṃ, bhante, vihāre aññataro bhikkhu navo appaññāto ābādhiko dukkhito bāḷhagilāno. Sādhu, bhante, bhagavā yena so bhikkhu tenupasaṅkamatu anukampaṃ upādāyā’’ti.
อถ โข ภควา นววาทญฺจ สุตฺวา คิลานวาทญฺจ, ‘‘อปฺปญฺญาโต ภิกฺขู’’ติ อิติ วิทิตฺวา เยน โส ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิฯ อทฺทสา โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํฯ ทิสฺวาน มญฺจเก สมโธสิ 1ฯ อถ โข ภควา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘อลํ, ภิกฺขุ, มา ตฺวํ มญฺจเก สมโธสิฯ สนฺติมานิ อาสนานิ ปญฺญตฺตานิ, ตตฺถาหํ นิสีทิสฺสามี’’ติฯ นิสีทิ ภควา ปญฺญเตฺต อาสเนฯ นิสชฺช โข ภควา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ เต, ภิกฺขุ, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ ทุกฺขา เวทนา ปฎิกฺกมนฺติ โน อภิกฺกมนฺติ, ปฎิกฺกโมสานํ ปญฺญายติ โน อภิกฺกโม’’ติ?
Atha kho bhagavā navavādañca sutvā gilānavādañca, ‘‘appaññāto bhikkhū’’ti iti viditvā yena so bhikkhu tenupasaṅkami. Addasā kho so bhikkhu bhagavantaṃ dūratova āgacchantaṃ. Disvāna mañcake samadhosi 2. Atha kho bhagavā taṃ bhikkhuṃ etadavoca – ‘‘alaṃ, bhikkhu, mā tvaṃ mañcake samadhosi. Santimāni āsanāni paññattāni, tatthāhaṃ nisīdissāmī’’ti. Nisīdi bhagavā paññatte āsane. Nisajja kho bhagavā taṃ bhikkhuṃ etadavoca – ‘‘kacci te, bhikkhu, khamanīyaṃ, kacci yāpanīyaṃ, kacci dukkhā vedanā paṭikkamanti no abhikkamanti, paṭikkamosānaṃ paññāyati no abhikkamo’’ti?
‘‘น เม, ภเนฺต, ขมนียํ, น ยาปนียํ, พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ โน ปฎิกฺกมนฺติ, อภิกฺกโมสานํ ปญฺญายติ โน ปฎิกฺกโม’’ติฯ
‘‘Na me, bhante, khamanīyaṃ, na yāpanīyaṃ, bāḷhā me dukkhā vedanā abhikkamanti no paṭikkamanti, abhikkamosānaṃ paññāyati no paṭikkamo’’ti.
‘‘กจฺจิ เต, ภิกฺขุ, น กิญฺจิ กุกฺกุจฺจํ, น โกจิ วิปฺปฎิสาโร’’ติ?
‘‘Kacci te, bhikkhu, na kiñci kukkuccaṃ, na koci vippaṭisāro’’ti?
‘‘ตคฺฆ เม, ภเนฺต, อนปฺปกํ กุกฺกุจฺจํ, อนปฺปโก วิปฺปฎิสาโร’’ติฯ
‘‘Taggha me, bhante, anappakaṃ kukkuccaṃ, anappako vippaṭisāro’’ti.
‘‘กจฺจิ ปน ตํ 3, ภิกฺขุ, อตฺตา สีลโต อุปวทตี’’ติ?
‘‘Kacci pana taṃ 4, bhikkhu, attā sīlato upavadatī’’ti?
‘‘โน เจ กิร เต, ภิกฺขุ, อตฺตา สีลโต อุปวทติ, อถ กิญฺจ 7 เต กุกฺกุจฺจํ โก จ วิปฺปฎิสาโร’’ติ?
‘‘No ce kira te, bhikkhu, attā sīlato upavadati, atha kiñca 8 te kukkuccaṃ ko ca vippaṭisāro’’ti?
‘‘น ขฺวาหํ , ภเนฺต, สีลวิสุทฺธตฺถํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามี’’ติ ฯ
‘‘Na khvāhaṃ , bhante, sīlavisuddhatthaṃ bhagavatā dhammaṃ desitaṃ ājānāmī’’ti .
‘‘โน เจ กิร ตฺวํ, ภิกฺขุ, สีลวิสุทฺธตฺถํ มยา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานาสิ, อถ กิมตฺถํ จรหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, มยา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานาสี’’ติ?
‘‘No ce kira tvaṃ, bhikkhu, sīlavisuddhatthaṃ mayā dhammaṃ desitaṃ ājānāsi, atha kimatthaṃ carahi tvaṃ, bhikkhu, mayā dhammaṃ desitaṃ ājānāsī’’ti?
‘‘ราควิราคตฺถํ ขฺวาหํ, ภเนฺต, ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามี’’ติฯ
‘‘Rāgavirāgatthaṃ khvāhaṃ, bhante, bhagavatā dhammaṃ desitaṃ ājānāmī’’ti.
‘‘สาธุ สาธุ, ภิกฺขุ! สาธุ โข ตฺวํ, ภิกฺขุ, ราควิราคตฺถํ มยา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานาสิฯ ราควิราคโตฺถ หิ, ภิกฺขุ, มยา ธโมฺม เทสิโตฯ ตํ กิํ มญฺญสิ ภิกฺขุ, จกฺขุ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ?
‘‘Sādhu sādhu, bhikkhu! Sādhu kho tvaṃ, bhikkhu, rāgavirāgatthaṃ mayā dhammaṃ desitaṃ ājānāsi. Rāgavirāgattho hi, bhikkhu, mayā dhammo desito. Taṃ kiṃ maññasi bhikkhu, cakkhu niccaṃ vā aniccaṃ vā’’ti?
‘‘อนิจฺจํ, ภเนฺต’’ฯ
‘‘Aniccaṃ, bhante’’.
‘‘ยํ…เป.… โสตํ… ฆานํ… ชิวฺหา… กาโย… มโน นิโจฺจ วา อนิโจฺจ วา’’ติ?
‘‘Yaṃ…pe… sotaṃ… ghānaṃ… jivhā… kāyo… mano nicco vā anicco vā’’ti?
‘‘อนิโจฺจ, ภเนฺต’’ฯ
‘‘Anicco, bhante’’.
‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ?
‘‘Yaṃ panāniccaṃ dukkhaṃ vā taṃ sukhaṃ vā’’ti?
‘‘ทุกฺขํ, ภเนฺต’’ฯ
‘‘Dukkhaṃ, bhante’’.
‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ?
‘‘Yaṃ panāniccaṃ dukkhaṃ vipariṇāmadhammaṃ, kallaṃ nu taṃ samanupassituṃ – ‘etaṃ mama, esohamasmi, eso me attā’’’ti?
‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ฯ
‘‘No hetaṃ, bhante’’.
‘‘เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขุ, สุตวา อริยสาวโก จกฺขุสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ, โสตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ…เป.… มนสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติฯ นิพฺพินฺทํ วิรชฺชติ; วิราคา วิมุจฺจติ; วิมุตฺตสฺมิํ วิมุตฺตมิติ ญาณํ โหติฯ ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาตี’’ติฯ
‘‘Evaṃ passaṃ, bhikkhu, sutavā ariyasāvako cakkhusmimpi nibbindati, sotasmimpi nibbindati…pe… manasmimpi nibbindati. Nibbindaṃ virajjati; virāgā vimuccati; vimuttasmiṃ vimuttamiti ñāṇaṃ hoti. ‘Khīṇā jāti, vusitaṃ brahmacariyaṃ, kataṃ karaṇīyaṃ nāparaṃ itthattāyā’ti pajānātī’’ti.
อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมโน โส ภิกฺขุ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิฯ อิมสฺมิญฺจ ปน เวยฺยากรณสฺมิํ ภญฺญมาเน ตสฺส ภิกฺขุโน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘‘ยํ กิญฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติฯ ปฐมํฯ
Idamavoca bhagavā. Attamano so bhikkhu bhagavato bhāsitaṃ abhinandi. Imasmiñca pana veyyākaraṇasmiṃ bhaññamāne tassa bhikkhuno virajaṃ vītamalaṃ dhammacakkhuṃ udapādi – ‘‘yaṃ kiñci samudayadhammaṃ, sabbaṃ taṃ nirodhadhamma’’nti. Paṭhamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑-๕. ปฐมคิลานสุตฺตาทิวณฺณนา • 1-5. Paṭhamagilānasuttādivaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑-๕. ปฐมคิลานสุตฺตาทิวณฺณนา • 1-5. Paṭhamagilānasuttādivaṇṇanā