Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๘-๙. ปฐมคิญฺชกาวสถสุตฺตาทิวณฺณนา
8-9. Paṭhamagiñjakāvasathasuttādivaṇṇanā
๑๐๐๔-๕. เทฺว คามา ทฺวินฺนํ ญาตีนํ คามาติ กตฺวาฯ ญาติเกติ เอวํลทฺธนาเม เอกสฺมิํ คามเกฯ คิญฺชกาวสเถติ คิญฺชกา วุจฺจนฺติ อิฎฺฐกา, คิญฺชกาหิ เอว กโต อาวสโถ, ตสฺมิํฯ โส กิร อาวาโส ยถา สุธาหิ ปริกเมฺมน ปโยชนํ นตฺถิ, เอวํ อิฎฺฐกาหิ เอว จินิตฺวา กโตฯ เตน วุตฺตํ ‘‘อิฎฺฐกามเย อาวสเถ’’ติฯ ตุลาถมฺภทฺวารพนฺธกวาฎผลกานิ ปน ทารุมยา เอวฯ โอรํ วุจฺจติ กามธาตุ, ปจฺจยภาเวน ตํ โอรํ ภชนฺตีติ โอรมฺภาคิยานิ, โอรมฺภาคสฺส วา หิตานิ โอรมฺภาคิยานิฯ เตนาห ‘‘เหฎฺฐาภาคิยาน’’นฺติอาทิฯ ตีหิ มเคฺคหีติ เหฎฺฐิเมหิ ตีหิ มเคฺคหิฯ เตหิ ปหาตพฺพตาย หิ เตสํ สโญฺญชนานํ โอรมฺภาคิยตา, โอรํ ภญฺชิยานิ วา โอรมฺภาคิยานิ วุตฺตานิ นิรุตฺตินเยนฯ อิทานิ พฺยติเรกมุเขน เนสํ โอรมฺภาคิยภาวํ วิภาเวตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ วิกฺขมฺภิตานิ สมตฺถตาวิฆาเตน ปุถุชฺชนานํ, สมุจฺฉินฺนานิ สพฺพโส อภาเวน อริยานํ รูปารูปภวูปปตฺติยา วิพนฺธนาย น โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘อวิกฺขมฺภิตานิ มเคฺคน วา อสมุจฺฉินฺนานี’’ติฯ นิพฺพตฺติวเสนาติ ปฎิสนฺธิคฺคหณวเสน คนฺตุํ น เทนฺติฯ มหคฺคตภวคามิกมฺมายูหนสฺส วิพนฺธนโต สกฺกายทิฎฺฐิอาทีนิ ตีณิ สโญฺญชนานิ กามจฺฉนฺทพฺยาปาทา วิย มหคฺคตภวูปปตฺติยา วิเสสปจฺจยตฺตา ตตฺถ มหคฺคตภเว นิพฺพตฺตมฺปิ ตนฺนิพฺพตฺติเหตุกมฺมปริกฺขเย กามภวูปปตฺติปจฺจยตาย มหคฺคตภวโต อาเนตฺวา อิเธว กามภเว เอว นิพฺพตฺตาเปนฺติฯ ตสฺมา สพฺพานิปิ ปญฺจปิ สํโยชนานิ โอรมฺภาคิยาเนวฯ ปฎิสนฺธิวเสน อนาคมนสภาโวติ ปฎิสนฺธิคฺคหณวเสน ตสฺมา โลกา อิธ น อาคมนสภาโวฯ พุทฺธทสฺสน-เถรทสฺสน-ธมฺมสฺสวนานํ ปน อตฺถาย อสฺส อาคมนํ อนิวาริตํฯ
1004-5.Dve gāmā dvinnaṃ ñātīnaṃ gāmāti katvā. Ñātiketi evaṃladdhanāme ekasmiṃ gāmake. Giñjakāvasatheti giñjakā vuccanti iṭṭhakā, giñjakāhi eva kato āvasatho, tasmiṃ. So kira āvāso yathā sudhāhi parikammena payojanaṃ natthi, evaṃ iṭṭhakāhi eva cinitvā kato. Tena vuttaṃ ‘‘iṭṭhakāmaye āvasathe’’ti. Tulāthambhadvārabandhakavāṭaphalakāni pana dārumayā eva. Oraṃ vuccati kāmadhātu, paccayabhāvena taṃ oraṃ bhajantīti orambhāgiyāni, orambhāgassa vā hitāni orambhāgiyāni. Tenāha ‘‘heṭṭhābhāgiyāna’’ntiādi. Tīhi maggehīti heṭṭhimehi tīhi maggehi. Tehi pahātabbatāya hi tesaṃ saññojanānaṃ orambhāgiyatā, oraṃ bhañjiyāni vā orambhāgiyāni vuttāni niruttinayena. Idāni byatirekamukhena nesaṃ orambhāgiyabhāvaṃ vibhāvetuṃ ‘‘tatthā’’tiādi vuttaṃ. Vikkhambhitāni samatthatāvighātena puthujjanānaṃ, samucchinnāni sabbaso abhāvena ariyānaṃ rūpārūpabhavūpapattiyā vibandhanāya na hontīti vuttaṃ ‘‘avikkhambhitāni maggena vā asamucchinnānī’’ti. Nibbattivasenāti paṭisandhiggahaṇavasena gantuṃ na denti. Mahaggatabhavagāmikammāyūhanassa vibandhanato sakkāyadiṭṭhiādīni tīṇi saññojanāni kāmacchandabyāpādā viya mahaggatabhavūpapattiyā visesapaccayattā tattha mahaggatabhave nibbattampi tannibbattihetukammaparikkhaye kāmabhavūpapattipaccayatāya mahaggatabhavato ānetvā idheva kāmabhave eva nibbattāpenti. Tasmā sabbānipi pañcapi saṃyojanāni orambhāgiyāneva. Paṭisandhivasena anāgamanasabhāvoti paṭisandhiggahaṇavasena tasmā lokā idha na āgamanasabhāvo. Buddhadassana-theradassana-dhammassavanānaṃ pana atthāya assa āgamanaṃ anivāritaṃ.
กทาจิ อุปฺปตฺติยา วิรฬาการตา, ปริยุฎฺฐานมนฺทตาย อพหลตาติ เทฺวธาปิ ตนุภาโวฯ อภิณฺหนฺติ พหุโสฯ พหลพหลาติ ติพฺพติพฺพาฯ ยตฺถ อุปฺปชฺชนฺติ, ตํ สนฺตานํ มทฺทนฺตา ผรนฺตา สาเธนฺตา อนฺธการํ กโรนฺตา อุปฺปชฺชนฺติ, ทฺวีหิ ปน มเคฺคหิ ปหีนตฺตา ตนุกตนุกา มนฺทมนฺทา อุปฺปชฺชนฺติฯ ปุตฺตธีตโร โหนฺตีติ อิทํ อการณํฯ ตถา หิ องฺคปจฺจงฺคปรามสนมเตฺตนปิ เต โหนฺติฯ อิทนฺติ ‘‘ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา’’ติ อิทํ วจนํฯ ภวตนุกวเสนาติ อปฺปกภววเสนฯ ตนฺติ มหาสีวเตฺถรสฺส วจนํ ปฎิกฺขิตฺตนฺติ สมฺพโนฺธฯ เย ภวา อริยานํ ลพฺภนฺติ, เต ปริปุณฺณลกฺขณภวา เอวฯ เย น ลพฺภนฺติ, ตตฺถ กีทิสํ ตํ ภวตนุกํฯ ตสฺมา อุภยถาปิ ภวตนุกสฺส อสมฺภโว เอวาติ ทเสฺสตุํ ‘‘โสตาปนฺนสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อฎฺฐเม ภเว ภวตนุกํ นตฺถิ อฎฺฐมเสฺสว ภวสฺส สพฺพเสฺสว อภาวโตฯ เสเสสุปิ เอเสว นโยฯ
Kadāci uppattiyā viraḷākāratā, pariyuṭṭhānamandatāya abahalatāti dvedhāpi tanubhāvo. Abhiṇhanti bahuso. Bahalabahalāti tibbatibbā. Yattha uppajjanti, taṃ santānaṃ maddantā pharantā sādhentā andhakāraṃ karontā uppajjanti, dvīhi pana maggehi pahīnattā tanukatanukā mandamandā uppajjanti. Puttadhītaro hontīti idaṃ akāraṇaṃ. Tathā hi aṅgapaccaṅgaparāmasanamattenapi te honti. Idanti ‘‘rāgadosamohānaṃ tanuttā’’ti idaṃ vacanaṃ. Bhavatanukavasenāti appakabhavavasena. Tanti mahāsīvattherassa vacanaṃ paṭikkhittanti sambandho. Ye bhavā ariyānaṃ labbhanti, te paripuṇṇalakkhaṇabhavā eva. Ye na labbhanti, tattha kīdisaṃ taṃ bhavatanukaṃ. Tasmā ubhayathāpi bhavatanukassa asambhavo evāti dassetuṃ ‘‘sotāpannassā’’tiādi vuttaṃ. Aṭṭhame bhave bhavatanukaṃ natthi aṭṭhamasseva bhavassa sabbasseva abhāvato. Sesesupi eseva nayo.
กามาวจรโลกํ สนฺธาย วุตฺตํ อิตรสฺส โลกสฺส วเสน ตถา วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตาฯ โย หิ สกทาคามี เทวมนุสฺสโลเกสุ โวมิสฺสกวเสน นิพฺพตฺตติ, โสปิ กามภววเสเนว ปริจฺฉินฺทิตโพฺพฯ ภควตา จ กามโลเก ฐตฺวา – ‘‘สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา’’ติ วุตฺตํฯ อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวาติ จ อิมินา ปญฺจสุ สกทาคามีสุ จตฺตาโร วเชฺชตฺวา เอโกว คหิโตฯ เอกโจฺจ หิ อิธ สกทาคามิผลํ ปตฺวา อิเธว ปรินิพฺพายติ, เอกโจฺจ อิธ ปตฺวา เทวโลเก ปรินิพฺพายติ, เอกโจฺจ เทวโลเก ปตฺวา ตเตฺถว ปรินิพฺพายติ, เอกโจฺจ เทวโลเก ปตฺวา อิธูปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายติ, อิเม จตฺตาโร อิธ น ลพฺภนฺติฯ โย ปน อิธ ปตฺวา เทวโลเก ยาวตายุกํ วสิตฺวา ปุน อิธูปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายติ, อยมิธ อธิเปฺปโตฯ อฎฺฐกถายํ ปน ‘‘อิมํ โลกนฺติ กามภโว อธิเปฺปโต’’ติ อิมมตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘สเจ หี’’ติอาทินา อญฺญํเยว จตุกฺกํ ทสฺสิตํฯ
Kāmāvacaralokaṃsandhāya vuttaṃ itarassa lokassa vasena tathā vattuṃ asakkuṇeyyattā. Yo hi sakadāgāmī devamanussalokesu vomissakavasena nibbattati, sopi kāmabhavavaseneva paricchinditabbo. Bhagavatā ca kāmaloke ṭhatvā – ‘‘sakideva imaṃ lokaṃ āgantvā’’ti vuttaṃ. Imaṃ lokaṃ āgantvāti ca iminā pañcasu sakadāgāmīsu cattāro vajjetvā ekova gahito. Ekacco hi idha sakadāgāmiphalaṃ patvā idheva parinibbāyati, ekacco idha patvā devaloke parinibbāyati, ekacco devaloke patvā tattheva parinibbāyati, ekacco devaloke patvā idhūpapajjitvā parinibbāyati, ime cattāro idha na labbhanti. Yo pana idha patvā devaloke yāvatāyukaṃ vasitvā puna idhūpapajjitvā parinibbāyati, ayamidha adhippeto. Aṭṭhakathāyaṃ pana ‘‘imaṃ lokanti kāmabhavo adhippeto’’ti imamatthaṃ vibhāvetuṃ ‘‘sace hī’’tiādinā aññaṃyeva catukkaṃ dassitaṃ.
จตูสุ…เป.… สภาโวติ อโตฺถ อปายคมนียานํ ปาปธมฺมานํ สพฺพโส ปหีนตฺตาฯ ธมฺมนิยาเมนาติ มคฺคธมฺมนิยาเมน นิยโต อุปริมคฺคาธิคมสฺส อวสฺสํภาวิภาวโตฯ เตนาห ‘‘สโมฺพธิปรายโณ’’ติฯ เตสํ เตสํ ญาณคตินฺติ เตสํ เตสํ สตฺตานํ ‘‘อสุโก โสตาปโนฺน, อสุโก สกทาคามี’’ติอาทินา ตํตํญาณาธิคมนํ ญาณูปปตฺติํฯ ญาณาภิสมฺปรายนฺติ ตโต ปรมฺปิ – ‘‘นิยโต สโมฺพธิปรายโณ สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสตี’’ติอาทินา ญาณสหิตํ อุปปตฺติปจฺจยภวํฯ โอโลเกนฺตสฺส ญาณจกฺขุนา อเปกฺขนฺตสฺสฯ เกวลํ กายกิลมโถว, น เตน กาจิ ปเรสํ อตฺถสิทฺธีติ อธิปฺปาโยฯ จิตฺตวิเหสา จิตฺตเขโท, สา กิเลสูปสํหิตตฺตา พุทฺธานํ นตฺถิฯ
Catūsu…pe… sabhāvoti attho apāyagamanīyānaṃ pāpadhammānaṃ sabbaso pahīnattā. Dhammaniyāmenāti maggadhammaniyāmena niyato uparimaggādhigamassa avassaṃbhāvibhāvato. Tenāha ‘‘sambodhiparāyaṇo’’ti. Tesaṃ tesaṃ ñāṇagatinti tesaṃ tesaṃ sattānaṃ ‘‘asuko sotāpanno, asuko sakadāgāmī’’tiādinā taṃtaṃñāṇādhigamanaṃ ñāṇūpapattiṃ. Ñāṇābhisamparāyanti tato parampi – ‘‘niyato sambodhiparāyaṇo sakideva imaṃ lokaṃ āgantvā dukkhassantaṃ karissatī’’tiādinā ñāṇasahitaṃ upapattipaccayabhavaṃ. Olokentassa ñāṇacakkhunā apekkhantassa. Kevalaṃ kāyakilamathova, na tena kāci paresaṃ atthasiddhīti adhippāyo. Cittavihesā cittakhedo, sā kilesūpasaṃhitattā buddhānaṃ natthi.
อาทิสฺสติ อาโลกียติ อตฺตา เอเตนาติ อาทาสํ, ธมฺมภูตํ อาทาสํ ธมฺมาทาสํ, อริยมคฺคญาณเสฺสตํ อธิวจนํฯ เตน หิ อริยสาวโก จตูสุ อริยสเจฺจสุ วิทฺธสฺตสโมฺมหตฺตา อตฺตานํ ยาถาวโต ญตฺวา ยาถาวโต พฺยากเรยฺย, ตปฺปกาสนโต ปน ธมฺมปริยายสฺส สุตฺตสฺส ธมฺมาทาสตา เวทิตพฺพาติฯ เยน ธมฺมาทาเสนาติ อิธ ปน มคฺคธมฺมเมว วทติฯ เสสํ อุตฺตานตฺถตฺตา สุวิเญฺญยฺยเมวาติฯ
Ādissati ālokīyati attā etenāti ādāsaṃ, dhammabhūtaṃ ādāsaṃ dhammādāsaṃ, ariyamaggañāṇassetaṃ adhivacanaṃ. Tena hi ariyasāvako catūsu ariyasaccesu viddhastasammohattā attānaṃ yāthāvato ñatvā yāthāvato byākareyya, tappakāsanato pana dhammapariyāyassa suttassa dhammādāsatā veditabbāti. Yena dhammādāsenāti idha pana maggadhammameva vadati. Sesaṃ uttānatthattā suviññeyyamevāti.
เวฬุทฺวารวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Veḷudvāravaggavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya
๘. ปฐมคิญฺชกาวสถสุตฺตํ • 8. Paṭhamagiñjakāvasathasuttaṃ
๙. ทุติยคิญฺชกาวสถสุตฺตํ • 9. Dutiyagiñjakāvasathasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๘-๙. ปฐมคิญฺชกาวสถสุตฺตาทิวณฺณนา • 8-9. Paṭhamagiñjakāvasathasuttādivaṇṇanā