Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya

    ๙. ปฐมโกสลสุตฺตํ

    9. Paṭhamakosalasuttaṃ

    ๒๙. ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, กาสิโกสลา, ยาวตา รโญฺญ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส วิชิตํ 1, ราชา ตตฺถ ปเสนทิ โกสโล อคฺคมกฺขายติฯ รโญฺญปิ โข, ภิกฺขเว, ปเสนทิสฺส โกสลสฺส อเตฺถว อญฺญถตฺตํ อตฺถิ วิปริณาโมฯ เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติฯ ตสฺมิํ นิพฺพินฺทโนฺต อเคฺค วิรชฺชติ, ปเคว หีนสฺมิํฯ

    29. ‘‘Yāvatā, bhikkhave, kāsikosalā, yāvatā rañño pasenadissa kosalassa vijitaṃ 2, rājā tattha pasenadi kosalo aggamakkhāyati. Raññopi kho, bhikkhave, pasenadissa kosalassa attheva aññathattaṃ atthi vipariṇāmo. Evaṃ passaṃ, bhikkhave, sutavā ariyasāvako tasmimpi nibbindati. Tasmiṃ nibbindanto agge virajjati, pageva hīnasmiṃ.

    ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, จนฺทิมสูริยา ปริหรนฺติ ทิสา ภนฺติ วิโรจมานา, ตาว สหสฺสธา โลโกฯ ตสฺมิํ สหสฺสธา โลเก สหสฺสํ จนฺทานํ สหสฺสํ สูริยานํ 3 สหสฺสํ สิเนรุปพฺพตราชานํ สหสฺสํ ชมฺพุทีปานํ สหสฺสํ อปรโคยานานํ สหสฺสํ อุตฺตรกุรูนํ สหสฺสํ ปุพฺพวิเทหานํ จตฺตาริ มหาสมุทฺทสหสฺสานิ จตฺตาริ มหาราชสหสฺสานิ สหสฺสํ จาตุมหาราชิกานํ สหสฺสํ ตาวติํสานํ สหสฺสํ ยามานํ สหสฺสํ ตุสิตานํ สหสฺสํ นิมฺมานรตีนํ สหสฺสํ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ สหสฺสํ พฺรหฺมโลกานํฯ ยาวตา, ภิกฺขเว, สหสฺสี โลกธาตุ, มหาพฺรหฺมา ตตฺถ อคฺคมกฺขายติฯ มหาพฺรหฺมุโนปิ โข, ภิกฺขเว, อเตฺถว อญฺญถตฺตํ อตฺถิ วิปริณาโมฯ เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติฯ ตสฺมิํ นิพฺพินฺทโนฺต อเคฺค วิรชฺชติ, ปเคว หีนสฺมิํฯ

    ‘‘Yāvatā, bhikkhave, candimasūriyā pariharanti disā bhanti virocamānā, tāva sahassadhā loko. Tasmiṃ sahassadhā loke sahassaṃ candānaṃ sahassaṃ sūriyānaṃ 4 sahassaṃ sinerupabbatarājānaṃ sahassaṃ jambudīpānaṃ sahassaṃ aparagoyānānaṃ sahassaṃ uttarakurūnaṃ sahassaṃ pubbavidehānaṃ cattāri mahāsamuddasahassāni cattāri mahārājasahassāni sahassaṃ cātumahārājikānaṃ sahassaṃ tāvatiṃsānaṃ sahassaṃ yāmānaṃ sahassaṃ tusitānaṃ sahassaṃ nimmānaratīnaṃ sahassaṃ paranimmitavasavattīnaṃ sahassaṃ brahmalokānaṃ. Yāvatā, bhikkhave, sahassī lokadhātu, mahābrahmā tattha aggamakkhāyati. Mahābrahmunopi kho, bhikkhave, attheva aññathattaṃ atthi vipariṇāmo. Evaṃ passaṃ, bhikkhave, sutavā ariyasāvako tasmimpi nibbindati. Tasmiṃ nibbindanto agge virajjati, pageva hīnasmiṃ.

    ‘‘โหติ โส, ภิกฺขเว, สมโย ยํ อยํ โลโก สํวฎฺฎติฯ สํวฎฺฎมาเน, ภิกฺขเว, โลเก เยภุเยฺยน สตฺตา อาภสฺสรสํวตฺตนิกา 5 ภวนฺติฯ เต ตตฺถ โหนฺติ มโนมยา ปีติภกฺขา สยํปภา อนฺตลิเกฺขจรา สุภฎฺฐายิโน จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฎฺฐนฺติฯ สํวฎฺฎมาเน, ภิกฺขเว, โลเก อาภสฺสรา เทวา อคฺคมกฺขายนฺติฯ อาภสฺสรานมฺปิ โข, ภิกฺขเว, เทวานํ อเตฺถว อญฺญถตฺตํ อตฺถิ วิปริณาโมฯ เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ ฯ ตสฺมิํ นิพฺพินฺทโนฺต อเคฺค วิรชฺชติ, ปเคว หีนสฺมิํฯ

    ‘‘Hoti so, bhikkhave, samayo yaṃ ayaṃ loko saṃvaṭṭati. Saṃvaṭṭamāne, bhikkhave, loke yebhuyyena sattā ābhassarasaṃvattanikā 6 bhavanti. Te tattha honti manomayā pītibhakkhā sayaṃpabhā antalikkhecarā subhaṭṭhāyino ciraṃ dīghamaddhānaṃ tiṭṭhanti. Saṃvaṭṭamāne, bhikkhave, loke ābhassarā devā aggamakkhāyanti. Ābhassarānampi kho, bhikkhave, devānaṃ attheva aññathattaṃ atthi vipariṇāmo. Evaṃ passaṃ, bhikkhave, sutavā ariyasāvako tasmimpi nibbindati . Tasmiṃ nibbindanto agge virajjati, pageva hīnasmiṃ.

    7 ‘‘ทสยิมานิ, ภิกฺขเว, กสิณายตนานิฯ กตมานิ ทส? ปถวีกสิณเมโก สญฺชานาติ อุทฺธํ อโธ ติริยํ อทฺวยํ อปฺปมาณํ; อาโปกสิณเมโก สญฺชานาติ…เป.… เตโชกสิณเมโก สญฺชานาติ… วาโยกสิณเมโก สญฺชานาติ… นีลกสิณเมโก สญฺชานาติ… ปีตกสิณเมโก สญฺชานาติ… โลหิตกสิณเมโก สญฺชานาติ… โอทาตกสิณเมโก สญฺชานาติ… อากาสกสิณเมโก สญฺชานาติ… วิญฺญาณกสิณเมโก สญฺชานาติ อุทฺธํ อโธ ติริยํ อทฺวยํ อปฺปมาณํฯ อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทส กสิณายตนานิฯ

    8 ‘‘Dasayimāni, bhikkhave, kasiṇāyatanāni. Katamāni dasa? Pathavīkasiṇameko sañjānāti uddhaṃ adho tiriyaṃ advayaṃ appamāṇaṃ; āpokasiṇameko sañjānāti…pe… tejokasiṇameko sañjānāti… vāyokasiṇameko sañjānāti… nīlakasiṇameko sañjānāti… pītakasiṇameko sañjānāti… lohitakasiṇameko sañjānāti… odātakasiṇameko sañjānāti… ākāsakasiṇameko sañjānāti… viññāṇakasiṇameko sañjānāti uddhaṃ adho tiriyaṃ advayaṃ appamāṇaṃ. Imāni kho, bhikkhave, dasa kasiṇāyatanāni.

    ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทสนฺนํ กสิณายตนานํ ยทิทํ วิญฺญาณกสิณํ เอโก สญฺชานาติ อุทฺธํ อโธ ติริยํ อทฺวยํ อปฺปมาณํฯ เอวํสญฺญิโนปิ โข, ภิกฺขเว, สนฺติ สตฺตาฯ เอวํสญฺญีนมฺปิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตานํ อเตฺถว อญฺญถตฺตํ อตฺถิ วิปริณาโมฯ เอวํ ปสฺสํ , ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติฯ ตสฺมิํ นิพฺพินฺทโนฺต อเคฺค วิรชฺชติ, ปเคว หีนสฺมิํฯ

    ‘‘Etadaggaṃ, bhikkhave, imesaṃ dasannaṃ kasiṇāyatanānaṃ yadidaṃ viññāṇakasiṇaṃ eko sañjānāti uddhaṃ adho tiriyaṃ advayaṃ appamāṇaṃ. Evaṃsaññinopi kho, bhikkhave, santi sattā. Evaṃsaññīnampi kho, bhikkhave, sattānaṃ attheva aññathattaṃ atthi vipariṇāmo. Evaṃ passaṃ , bhikkhave, sutavā ariyasāvako tasmimpi nibbindati. Tasmiṃ nibbindanto agge virajjati, pageva hīnasmiṃ.

    9 ‘‘อฎฺฐิมานิ, ภิกฺขเว, อภิภายตนานิฯ กตมานิ อฎฺฐ? อชฺฌตฺตํ รูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ; ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสญฺญี โหติฯ อิทํ ปฐมํ อภิภายตนํฯ

    10 ‘‘Aṭṭhimāni, bhikkhave, abhibhāyatanāni. Katamāni aṭṭha? Ajjhattaṃ rūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati parittāni suvaṇṇadubbaṇṇāni; ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti, evaṃsaññī hoti. Idaṃ paṭhamaṃ abhibhāyatanaṃ.

    ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ; ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสญฺญี โหติฯ อิทํ ทุติยํ อภิภายตนํฯ

    ‘‘Ajjhattaṃ rūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati appamāṇāni suvaṇṇadubbaṇṇāni; ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti, evaṃsaññī hoti. Idaṃ dutiyaṃ abhibhāyatanaṃ.

    ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ; ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสญฺญี โหติฯ อิทํ ตติยํ อภิภายตนํฯ

    ‘‘Ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati parittāni suvaṇṇadubbaṇṇāni; ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti, evaṃsaññī hoti. Idaṃ tatiyaṃ abhibhāyatanaṃ.

    ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ; ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสญฺญี โหติฯ อิทํ จตุตฺถํ อภิภายตนํฯ

    ‘‘Ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati appamāṇāni suvaṇṇadubbaṇṇāni; ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti, evaṃsaññī hoti. Idaṃ catutthaṃ abhibhāyatanaṃ.

    ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ นีลานิ นีลวณฺณานิ นีลนิทสฺสนานิ นีลนิภาสานิฯ เสยฺยถาปิ นาม อุมาปุปฺผํ นีลํ นีลวณฺณํ นีลนิทสฺสนํ นีลนิภาสํ, เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฎฺฐํ นีลํ นีลวณฺณํ นีลนิทสฺสนํ นีลนิภาสํ; เอวเมวํ อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ นีลานิ นีลวณฺณานิ นีลนิทสฺสนานิ นีลนิภาสานิ; ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสญฺญี โหติฯ อิทํ ปญฺจมํ อภิภายตนํฯ

    ‘‘Ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati nīlāni nīlavaṇṇāni nīlanidassanāni nīlanibhāsāni. Seyyathāpi nāma umāpupphaṃ nīlaṃ nīlavaṇṇaṃ nīlanidassanaṃ nīlanibhāsaṃ, seyyathā vā pana taṃ vatthaṃ bārāṇaseyyakaṃ ubhatobhāgavimaṭṭhaṃ nīlaṃ nīlavaṇṇaṃ nīlanidassanaṃ nīlanibhāsaṃ; evamevaṃ ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati nīlāni nīlavaṇṇāni nīlanidassanāni nīlanibhāsāni; ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti, evaṃsaññī hoti. Idaṃ pañcamaṃ abhibhāyatanaṃ.

    ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปีตานิ ปีตวณฺณานิ ปีตนิทสฺสนานิ ปีตนิภาสานิฯ เสยฺยถาปิ นาม กณิการปุปฺผํ ปีตํ ปีตวณฺณํ ปีตนิทสฺสนํ ปีตนิภาสํ, เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฎฺฐํ ปีตํ ปีตวณฺณํ ปีตนิทสฺสนํ ปีตนิภาสํ; เอวเมวํ อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปีตานิ ปีตวณฺณานิ ปีตนิทสฺสนานิ ปีตนิภาสานิ; ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสญฺญี โหติฯ อิทํ ฉฎฺฐํ อภิภายตนํฯ

    ‘‘Ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati pītāni pītavaṇṇāni pītanidassanāni pītanibhāsāni. Seyyathāpi nāma kaṇikārapupphaṃ pītaṃ pītavaṇṇaṃ pītanidassanaṃ pītanibhāsaṃ, seyyathā vā pana taṃ vatthaṃ bārāṇaseyyakaṃ ubhatobhāgavimaṭṭhaṃ pītaṃ pītavaṇṇaṃ pītanidassanaṃ pītanibhāsaṃ; evamevaṃ ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati pītāni pītavaṇṇāni pītanidassanāni pītanibhāsāni; ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti, evaṃsaññī hoti. Idaṃ chaṭṭhaṃ abhibhāyatanaṃ.

    ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โลหิตกานิ โลหิตกวณฺณานิ โลหิตกนิทสฺสนานิ โลหิตกนิภาสานิฯ เสยฺยถาปิ นาม พนฺธุชีวกปุปฺผํ โลหิตกํ โลหิตกวณฺณํ โลหิตกนิทสฺสนํ โลหิตกนิภาสํ, เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฎฺฐํ โลหิตกํ โลหิตกวณฺณํ โลหิตกนิทสฺสนํ โลหิตกนิภาสํ; เอวเมวํ อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โลหิตกานิ โลหิตกวณฺณานิ โลหิตกนิทสฺสนานิ โลหิตกนิภาสานิ; ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสญฺญี โหติฯ อิทํ สตฺตมํ อภิภายตนํฯ

    ‘‘Ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati lohitakāni lohitakavaṇṇāni lohitakanidassanāni lohitakanibhāsāni. Seyyathāpi nāma bandhujīvakapupphaṃ lohitakaṃ lohitakavaṇṇaṃ lohitakanidassanaṃ lohitakanibhāsaṃ, seyyathā vā pana taṃ vatthaṃ bārāṇaseyyakaṃ ubhatobhāgavimaṭṭhaṃ lohitakaṃ lohitakavaṇṇaṃ lohitakanidassanaṃ lohitakanibhāsaṃ; evamevaṃ ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati lohitakāni lohitakavaṇṇāni lohitakanidassanāni lohitakanibhāsāni; ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti, evaṃsaññī hoti. Idaṃ sattamaṃ abhibhāyatanaṃ.

    ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ โอทาตนิทสฺสนานิ โอทาตนิภาสานิฯ เสยฺยถาปิ นาม โอสธิตารกา โอทาตา โอทาตวณฺณา โอทาตนิทสฺสนา โอทาตนิภาสา, เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฎฺฐํ โอทาตํ โอทาตวณฺณํ โอทาตนิทสฺสนํ โอทาตนิภาสํ; เอวเมวํ อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ โอทาตนิทสฺสนานิ โอทาตนิภาสานิ; ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสญฺญี โหติฯ อิทํ อฎฺฐมํ อภิภายตนํฯ อิมานิ โข, ภิกฺขเว, อฎฺฐ อภิภายตนานิฯ

    ‘‘Ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati odātāni odātavaṇṇāni odātanidassanāni odātanibhāsāni. Seyyathāpi nāma osadhitārakā odātā odātavaṇṇā odātanidassanā odātanibhāsā, seyyathā vā pana taṃ vatthaṃ bārāṇaseyyakaṃ ubhatobhāgavimaṭṭhaṃ odātaṃ odātavaṇṇaṃ odātanidassanaṃ odātanibhāsaṃ; evamevaṃ ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati odātāni odātavaṇṇāni odātanidassanāni odātanibhāsāni; ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti, evaṃsaññī hoti. Idaṃ aṭṭhamaṃ abhibhāyatanaṃ. Imāni kho, bhikkhave, aṭṭha abhibhāyatanāni.

    ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ อฎฺฐนฺนํ อภิภายตนานํ ยทิทํ อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ โอทาตนิทสฺสนานิ โอทาตนิภาสานิ; ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสญฺญี โหติฯ เอวํสญฺญิโนปิ โข, ภิกฺขเว, สนฺติ สตฺตาฯ เอวํสญฺญีนมฺปิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตานํ อเตฺถว อญฺญถตฺตํ อตฺถิ วิปริณาโมฯ เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติฯ ตสฺมิํ นิพฺพินฺทโนฺต อเคฺค วิรชฺชติ, ปเคว หีนสฺมิํฯ

    ‘‘Etadaggaṃ, bhikkhave, imesaṃ aṭṭhannaṃ abhibhāyatanānaṃ yadidaṃ ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati odātāni odātavaṇṇāni odātanidassanāni odātanibhāsāni; ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti, evaṃsaññī hoti. Evaṃsaññinopi kho, bhikkhave, santi sattā. Evaṃsaññīnampi kho, bhikkhave, sattānaṃ attheva aññathattaṃ atthi vipariṇāmo. Evaṃ passaṃ, bhikkhave, sutavā ariyasāvako tasmimpi nibbindati. Tasmiṃ nibbindanto agge virajjati, pageva hīnasmiṃ.

    ‘‘จตโสฺส อิมา, ภิกฺขเว, ปฎิปทาฯ กตมา จตโสฺส? ทุกฺขา ปฎิปทา ทนฺธาภิญฺญา, ทุกฺขา ปฎิปทา ขิปฺปาภิญฺญา, สุขา ปฎิปทา ทนฺธาภิญฺญา, สุขา ปฎิปทา ขิปฺปาภิญฺญา – อิมา โข, ภิกฺขเว, จตโสฺส ปฎิปทาฯ

    ‘‘Catasso imā, bhikkhave, paṭipadā. Katamā catasso? Dukkhā paṭipadā dandhābhiññā, dukkhā paṭipadā khippābhiññā, sukhā paṭipadā dandhābhiññā, sukhā paṭipadā khippābhiññā – imā kho, bhikkhave, catasso paṭipadā.

    ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ จตุนฺนํ ปฎิปทานํ ยทิทํ สุขา ปฎิปทา ขิปฺปาภิญฺญาฯ เอวํปฎิปนฺนาปิ โข, ภิกฺขเว, สนฺติ สตฺตาฯ เอวํปฎิปนฺนานมฺปิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตานํ อเตฺถว อญฺญถตฺตํ อตฺถิ วิปริณาโมฯ เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติฯ ตสฺมิํ นิพฺพินฺทโนฺต อเคฺค วิรชฺชติ, ปเคว หีนสฺมิํฯ

    ‘‘Etadaggaṃ, bhikkhave, imāsaṃ catunnaṃ paṭipadānaṃ yadidaṃ sukhā paṭipadā khippābhiññā. Evaṃpaṭipannāpi kho, bhikkhave, santi sattā. Evaṃpaṭipannānampi kho, bhikkhave, sattānaṃ attheva aññathattaṃ atthi vipariṇāmo. Evaṃ passaṃ, bhikkhave, sutavā ariyasāvako tasmimpi nibbindati. Tasmiṃ nibbindanto agge virajjati, pageva hīnasmiṃ.

    ‘‘จตโสฺส อิมา, ภิกฺขเว, สญฺญาฯ กตมา จตโสฺส? ปริตฺตเมโก สญฺชานาติ, มหคฺคตเมโก สญฺชานาติ, อปฺปมาณเมโก สญฺชานาติ, ‘นตฺถิ กิญฺจี’ติ อากิญฺจญฺญายตนเมโก สญฺชานาติ – อิมา โข, ภิกฺขเว, จตโสฺส สญฺญาฯ

    ‘‘Catasso imā, bhikkhave, saññā. Katamā catasso? Parittameko sañjānāti, mahaggatameko sañjānāti, appamāṇameko sañjānāti, ‘natthi kiñcī’ti ākiñcaññāyatanameko sañjānāti – imā kho, bhikkhave, catasso saññā.

    ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ จตุนฺนํ สญฺญานํ ยทิทํ ‘นตฺถิ กิญฺจี’ติ อากิญฺจญฺญายตนเมโก สญฺชานาติฯ เอวํสญฺญิโนปิ โข, ภิกฺขเว, สนฺติ สตฺตาฯ เอวํสญฺญีนมฺปิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตานํ อเตฺถว อญฺญถตฺตํ อตฺถิ วิปริณาโมฯ เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติฯ ตสฺมิํ นิพฺพินฺทโนฺต อเคฺค วิรชฺชติ, ปเคว หีนสฺมิํฯ

    ‘‘Etadaggaṃ, bhikkhave, imāsaṃ catunnaṃ saññānaṃ yadidaṃ ‘natthi kiñcī’ti ākiñcaññāyatanameko sañjānāti. Evaṃsaññinopi kho, bhikkhave, santi sattā. Evaṃsaññīnampi kho, bhikkhave, sattānaṃ attheva aññathattaṃ atthi vipariṇāmo. Evaṃ passaṃ, bhikkhave, sutavā ariyasāvako tasmimpi nibbindati. Tasmiṃ nibbindanto agge virajjati, pageva hīnasmiṃ.

    ‘‘เอตทคฺคํ , ภิกฺขเว, พาหิรกานํ ทิฎฺฐิคตานํ ยทิทํ ‘โน จสฺสํ, โน จ เม สิยา, น ภวิสฺสามิ, น เม ภวิสฺสตี’ติฯ เอวํทิฎฺฐิโน, ภิกฺขเว , เอตํ ปาฎิกงฺขํ – ‘ยา จายํ ภเว อปฺปฎิกุลฺยตา, สา จสฺส น ภวิสฺสติ; ยา จายํ ภวนิโรเธ ปาฎิกุลฺยตา, สา จสฺส น ภวิสฺสตี’ติฯ เอวํทิฎฺฐิโนปิ โข, ภิกฺขเว, สนฺติ สตฺตาฯ เอวํทิฎฺฐีนมฺปิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตานํ อเตฺถว อญฺญถตฺตํ อตฺถิ วิปริณาโมฯ เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติฯ ตสฺมิํ นิพฺพินฺทโนฺต อเคฺค วิรชฺชติ, ปเคว หีนสฺมิํฯ

    ‘‘Etadaggaṃ , bhikkhave, bāhirakānaṃ diṭṭhigatānaṃ yadidaṃ ‘no cassaṃ, no ca me siyā, na bhavissāmi, na me bhavissatī’ti. Evaṃdiṭṭhino, bhikkhave , etaṃ pāṭikaṅkhaṃ – ‘yā cāyaṃ bhave appaṭikulyatā, sā cassa na bhavissati; yā cāyaṃ bhavanirodhe pāṭikulyatā, sā cassa na bhavissatī’ti. Evaṃdiṭṭhinopi kho, bhikkhave, santi sattā. Evaṃdiṭṭhīnampi kho, bhikkhave, sattānaṃ attheva aññathattaṃ atthi vipariṇāmo. Evaṃ passaṃ, bhikkhave, sutavā ariyasāvako tasmimpi nibbindati. Tasmiṃ nibbindanto agge virajjati, pageva hīnasmiṃ.

    ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา ปรมตฺถวิสุทฺธิํ ปญฺญาเปนฺติฯ เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, ปรมตฺถวิสุทฺธิํ ปญฺญาเปนฺตานํ ยทิทํ สพฺพโส อากิญฺจญฺญายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ เต ตทภิญฺญาย ตสฺส สจฺฉิกิริยาย ธมฺมํ เทเสนฺติฯ เอวํวาทิโนปิ โข, ภิกฺขเว, สนฺติ สตฺตาฯ เอวํวาทีนมฺปิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตานํ อเตฺถว อญฺญถตฺตํ อตฺถิ วิปริณาโมฯ เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติฯ ตสฺมิํ นิพฺพินฺทโนฺต อเคฺค วิรชฺชติ, ปเคว หีนสฺมิํฯ

    ‘‘Santi, bhikkhave, eke samaṇabrāhmaṇā paramatthavisuddhiṃ paññāpenti. Etadaggaṃ, bhikkhave, paramatthavisuddhiṃ paññāpentānaṃ yadidaṃ sabbaso ākiñcaññāyatanaṃ samatikkamma nevasaññānāsaññāyatanaṃ upasampajja viharati. Te tadabhiññāya tassa sacchikiriyāya dhammaṃ desenti. Evaṃvādinopi kho, bhikkhave, santi sattā. Evaṃvādīnampi kho, bhikkhave, sattānaṃ attheva aññathattaṃ atthi vipariṇāmo. Evaṃ passaṃ, bhikkhave, sutavā ariyasāvako tasmimpi nibbindati. Tasmiṃ nibbindanto agge virajjati, pageva hīnasmiṃ.

    ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา ปรมทิฎฺฐธมฺมนิพฺพานํ ปญฺญาเปนฺติฯ เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, ปรมทิฎฺฐธมฺมนิพฺพานํ ปญฺญาเปนฺตานํ ยทิทํ ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา อนุปาทา วิโมโกฺขฯ เอวํวาทิํ โข มํ, ภิกฺขเว, เอวมกฺขายิํ เอเก สมณพฺราหฺมณา อสตา ตุจฺฉา มุสา อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ – ‘สมโณ โคตโม น กามานํ ปริญฺญํ ปญฺญาเปติ, น รูปานํ ปริญฺญํ ปญฺญาเปติ, น เวทนานํ ปริญฺญํ ปญฺญาเปตี’ติฯ กามานญฺจาหํ , ภิกฺขเว, ปริญฺญํ ปญฺญาเปมิ, รูปานญฺจ ปริญฺญํ ปญฺญาเปมิ, เวทนานญฺจ ปริญฺญํ ปญฺญาเปมิ, ทิเฎฺฐว ธเมฺม นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีติภูโต อนุปาทา ปรินิพฺพานํ ปญฺญาเปมี’’ติฯ นวมํฯ

    ‘‘Santi, bhikkhave, eke samaṇabrāhmaṇā paramadiṭṭhadhammanibbānaṃ paññāpenti. Etadaggaṃ, bhikkhave, paramadiṭṭhadhammanibbānaṃ paññāpentānaṃ yadidaṃ channaṃ phassāyatanānaṃ samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ viditvā anupādā vimokkho. Evaṃvādiṃ kho maṃ, bhikkhave, evamakkhāyiṃ eke samaṇabrāhmaṇā asatā tucchā musā abhūtena abbhācikkhanti – ‘samaṇo gotamo na kāmānaṃ pariññaṃ paññāpeti, na rūpānaṃ pariññaṃ paññāpeti, na vedanānaṃ pariññaṃ paññāpetī’ti. Kāmānañcāhaṃ , bhikkhave, pariññaṃ paññāpemi, rūpānañca pariññaṃ paññāpemi, vedanānañca pariññaṃ paññāpemi, diṭṭheva dhamme nicchāto nibbuto sītibhūto anupādā parinibbānaṃ paññāpemī’’ti. Navamaṃ.







    Footnotes:
    1. วิชิเต (สี. ก.)
    2. vijite (sī. ka.)
    3. สุริยานํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    4. suriyānaṃ (sī. syā. kaṃ. pī.)
    5. อาภสฺสรวตฺตนิกา (สี. สฺยา.)
    6. ābhassaravattanikā (sī. syā.)
    7. อ. นิ. ๑๐.๒๕
    8. a. ni. 10.25
    9. ที. นิ. ๓.๓๓๘, ๓๕๘; อ. นิ. ๘.๖๔
    10. dī. ni. 3.338, 358; a. ni. 8.64



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๙. ปฐมโกสลสุตฺตวณฺณนา • 9. Paṭhamakosalasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๘-๙. ทุติยมหาปญฺหสุตฺตาทิวณฺณนา • 8-9. Dutiyamahāpañhasuttādivaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact