Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อุทาน-อฎฺฐกถา • Udāna-aṭṭhakathā

    ๗. จูฬวโคฺค

    7. Cūḷavaggo

    ๑. ปฐมลกุณฺฑกภทฺทิยสุตฺตวณฺณนา

    1. Paṭhamalakuṇḍakabhaddiyasuttavaṇṇanā

    ๖๑. จูฬวคฺคสฺส ปฐเม ลกุณฺฑกภทฺทิยนฺติ เอตฺถ ภทฺทิโยติ ตสฺส อายสฺมโต นามํ, กายสฺส ปน รสฺสตฺตา ‘‘ลกุณฺฑกภทฺทิโย’’ติ นํ สญฺชานนฺติฯ โส กิร สาวตฺถิวาสี กุลปุโตฺต มหทฺธโน มหาโภโค รูเปน อปาสาทิโก ทุพฺพโณฺณ ทุทฺทสิโก โอโกฎิมโกฯ โส เอกทิวสํ สตฺถริ เชตวเน วิหรเนฺต อุปาสเกหิ สทฺธิํ วิหารํ คนฺตฺวา ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปฎิลทฺธสโทฺธ ปพฺพชิตฺวา ลทฺธูปสมฺปโท สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฎฺฐานํ คเหตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรโนฺต โสตาปตฺติผลํ ปาปุณิฯ ตทา เสกฺขา ภิกฺขู เยภุเยฺยน อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา อุปริมคฺคตฺถาย กมฺมฎฺฐานํ ยาจนฺติ, ธมฺมเทสนํ ยาจนฺติ, ปญฺหํ ปุจฺฉนฺติฯ โส เตสํ อธิปฺปายํ ปูเรโนฺต กมฺมฎฺฐานํ อาจิกฺขติ, ธมฺมํ เทเสติ, ปญฺหํ วิสฺสเชฺชติฯ เต ฆเฎนฺตา วายมนฺตา อเปฺปกเจฺจ สกทาคามิผลํ, อเปฺปกเจฺจ อนาคามิผลํ, อเปฺปกเจฺจ อรหตฺตํ, อเปฺปกเจฺจ ติโสฺส วิชฺชา, อเปฺปกเจฺจ ฉฬภิญฺญา, อเปฺปกเจฺจ จตโสฺส ปฎิสมฺภิทา อธิคจฺฉนฺติฯ เต ทิสฺวา ลกุณฺฑกภทฺทิโยปิ เสโข สมาโน กาลํ ญตฺวา อตฺตโน จิตฺตกลฺลตญฺจ สเลฺลขญฺจ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ธมฺมเสนาปติํ อุปสงฺกมิตฺวา กตปฎิสนฺถาโร สโมฺมทมาโน ธมฺมเทสนํ ยาจิฯ โสปิสฺส อชฺฌาสยสฺส อนุรูปํ กถํ กเถสิฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สาริปุโตฺต อายสฺมนฺตํ ลกุณฺฑกภทฺทิยํ อเนกปริยาเยน ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสตี’’ติอาทิฯ

    61. Cūḷavaggassa paṭhame lakuṇḍakabhaddiyanti ettha bhaddiyoti tassa āyasmato nāmaṃ, kāyassa pana rassattā ‘‘lakuṇḍakabhaddiyo’’ti naṃ sañjānanti. So kira sāvatthivāsī kulaputto mahaddhano mahābhogo rūpena apāsādiko dubbaṇṇo duddasiko okoṭimako. So ekadivasaṃ satthari jetavane viharante upāsakehi saddhiṃ vihāraṃ gantvā dhammadesanaṃ sutvā paṭiladdhasaddho pabbajitvā laddhūpasampado satthu santike kammaṭṭhānaṃ gahetvā vipassanāya kammaṃ karonto sotāpattiphalaṃ pāpuṇi. Tadā sekkhā bhikkhū yebhuyyena āyasmantaṃ sāriputtaṃ upasaṅkamitvā uparimaggatthāya kammaṭṭhānaṃ yācanti, dhammadesanaṃ yācanti, pañhaṃ pucchanti. So tesaṃ adhippāyaṃ pūrento kammaṭṭhānaṃ ācikkhati, dhammaṃ deseti, pañhaṃ vissajjeti. Te ghaṭentā vāyamantā appekacce sakadāgāmiphalaṃ, appekacce anāgāmiphalaṃ, appekacce arahattaṃ, appekacce tisso vijjā, appekacce chaḷabhiññā, appekacce catasso paṭisambhidā adhigacchanti. Te disvā lakuṇḍakabhaddiyopi sekho samāno kālaṃ ñatvā attano cittakallatañca sallekhañca paccavekkhitvā dhammasenāpatiṃ upasaṅkamitvā katapaṭisanthāro sammodamāno dhammadesanaṃ yāci. Sopissa ajjhāsayassa anurūpaṃ kathaṃ kathesi. Tena vuttaṃ – ‘‘tena kho pana samayena āyasmā sāriputto āyasmantaṃ lakuṇḍakabhaddiyaṃ anekapariyāyena dhammiyā kathāya sandassetī’’tiādi.

    ตตฺถ อเนกปริยาเยนาติ ‘‘อิติปิ ปญฺจกฺขนฺธา อนิจฺจา, อิติปิ ทุกฺขา, อิติปิ อนตฺตา’’ติ เอวํ อเนเกหิ การเณหิฯ ธมฺมิยา กถายาติ ปญฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อุทยพฺพยาทิปกาสนิยา ธมฺมิยา กถายฯ สนฺทเสฺสตีติ ตานิเยว อนิจฺจาทิลกฺขณานิ อุทยพฺพยาทิเก จ สมฺมา ทเสฺสติ, หเตฺถน คเหตฺวา วิย ปจฺจกฺขโต ทเสฺสติฯ สมาทเปตีติ ตตฺถ ลกฺขณารมฺมณิกํ วิปสฺสนํ สมฺมา อาทเปติ, ยถา วีถิปฎิปนฺนา หุตฺวา ปวตฺตติ, เอวํ คณฺหาเปติฯ สมุเตฺตเชตีติ วิปสฺสนาย อารทฺธาย สงฺขารานํ อุทยพฺพยาทีสุ อุปฎฺฐหเนฺตสุ ยถากาลํ ปคฺคหนิคฺคหสมุเปกฺขเณหิ โพชฺฌงฺคานํ อนุปวตฺตเนน ภาวนํ มชฺฌิมํ วีถิํ โอตาเรตฺวา ยถา วิปสฺสนาญาณํ สูรํ ปสนฺนํ หุตฺวา วหติ, เอวํ อินฺทฺริยานํ วิสทภาวกรเณน วิปสฺสนาจิตฺตํ สมฺมา อุเตฺตเชติ, วิสทาปนวเสน โวทเปติฯ สมฺปหํเสตีติ ตถา ปวตฺติยมานาย วิปสฺสนาย สมปฺปวตฺตภาวนาวเสน เจว อุปริลทฺธพฺพภาวนาพเลน จ จิตฺตํ สมฺมา ปหํเสติ, ลทฺธสฺสาทวเสน วา สุฎฺฐุ โตเสติฯ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจีติ ยถา ยถา ธมฺมเสนาปติ ธมฺมํ เทเสติ, ตถา ตถา ตถลกฺขณํ วิปสฺสนฺตสฺส เถรสฺส จ เทสนานุภาเวน, อตฺตโน จ อุปนิสฺสยสมฺปตฺติยา ญาณสฺส ปริปากํ คตตฺตา เทสนานุสาเรน ญาเณ อนุปวตฺตเนฺต กามาสวาทีสุ กญฺจิ อาสวํ อคฺคเหตฺวา มคฺคปฎิปาฎิยาว อนวเสสโต จิตฺตํ วิมุจฺจิ, อรหตฺตผลํ สจฺฉากาสีติ อโตฺถฯ

    Tattha anekapariyāyenāti ‘‘itipi pañcakkhandhā aniccā, itipi dukkhā, itipi anattā’’ti evaṃ anekehi kāraṇehi. Dhammiyā kathāyāti pañcannaṃ upādānakkhandhānaṃ udayabbayādipakāsaniyā dhammiyā kathāya. Sandassetīti tāniyeva aniccādilakkhaṇāni udayabbayādike ca sammā dasseti, hatthena gahetvā viya paccakkhato dasseti. Samādapetīti tattha lakkhaṇārammaṇikaṃ vipassanaṃ sammā ādapeti, yathā vīthipaṭipannā hutvā pavattati, evaṃ gaṇhāpeti. Samuttejetīti vipassanāya āraddhāya saṅkhārānaṃ udayabbayādīsu upaṭṭhahantesu yathākālaṃ paggahaniggahasamupekkhaṇehi bojjhaṅgānaṃ anupavattanena bhāvanaṃ majjhimaṃ vīthiṃ otāretvā yathā vipassanāñāṇaṃ sūraṃ pasannaṃ hutvā vahati, evaṃ indriyānaṃ visadabhāvakaraṇena vipassanācittaṃ sammā uttejeti, visadāpanavasena vodapeti. Sampahaṃsetīti tathā pavattiyamānāya vipassanāya samappavattabhāvanāvasena ceva upariladdhabbabhāvanābalena ca cittaṃ sammā pahaṃseti, laddhassādavasena vā suṭṭhu toseti. Anupādāya āsavehi cittaṃ vimuccīti yathā yathā dhammasenāpati dhammaṃ deseti, tathā tathā tathalakkhaṇaṃ vipassantassa therassa ca desanānubhāvena, attano ca upanissayasampattiyā ñāṇassa paripākaṃ gatattā desanānusārena ñāṇe anupavattante kāmāsavādīsu kañci āsavaṃ aggahetvā maggapaṭipāṭiyāva anavasesato cittaṃ vimucci, arahattaphalaṃ sacchākāsīti attho.

    เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ เอตํ อายสฺมโต ลกุณฺฑกภทฺทิยสฺส อญฺญาราธนสงฺขาตํ อตฺถํ สพฺพาการโต วิทิตฺวา ตทตฺถทีปนํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ

    Etamatthaṃ viditvāti etaṃ āyasmato lakuṇḍakabhaddiyassa aññārādhanasaṅkhātaṃ atthaṃ sabbākārato viditvā tadatthadīpanaṃ imaṃ udānaṃ udānesi.

    ตตฺถ อุทฺธนฺติ รูปธาตุยา อรูปธาตุยา จฯ อโธติ กามธาตุยาฯ สพฺพธีติ สพฺพสฺมิมฺปิ สงฺขารคเตฯ วิปฺปมุโตฺตติ ปุพฺพภาเค วิกฺขมฺภนวิมุตฺติยา อปรภาเค สมุเจฺฉทปฎิปสฺสทฺธิวิมุตฺตีหิ สพฺพปฺปกาเรน วิมุโตฺตฯ เอตฺถ จ อุทฺธํ วิปฺปมุโตฺตติ เอเตน ปญฺจุทฺธมฺภาคิยสํโยชนปหานํ ทเสฺสติฯ อโธ วิปฺปมุโตฺตติ เอเตน ปโญฺจรมฺภาคิยสํโยชนปหานํฯ สพฺพธิ วิปฺปมุโตฺตติ เอเตน อวสิฎฺฐสพฺพากุสลปหานํ ทเสฺสติฯ อถ วา อุทฺธนฺติ อนาคตกาลคฺคหณํฯ อโธติ อตีตกาลคฺคหณํฯ อุภยคฺคหเณเนว ตทุภยปฎิสํยุตฺตตฺตา ปจฺจุปฺปโนฺน อทฺธา คหิโต โหติ, ตตฺถ อนาคตกาลคฺคหเณน อนาคตกฺขนฺธายตนธาตุโย คหิตาฯ เสสปเทสุปิ เอเสว นโยฯ สพฺพธีติ กามเภทาทิเก สพฺพสฺมิํ ภเวฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – อนาคโต อตีโต ปจฺจุปฺปโนฺนติ เอวํ ติยทฺธสงฺคหิเต สพฺพสฺมิํ ภเว วิปฺปมุโตฺตติฯ

    Tattha uddhanti rūpadhātuyā arūpadhātuyā ca. Adhoti kāmadhātuyā. Sabbadhīti sabbasmimpi saṅkhāragate. Vippamuttoti pubbabhāge vikkhambhanavimuttiyā aparabhāge samucchedapaṭipassaddhivimuttīhi sabbappakārena vimutto. Ettha ca uddhaṃ vippamuttoti etena pañcuddhambhāgiyasaṃyojanapahānaṃ dasseti. Adho vippamuttoti etena pañcorambhāgiyasaṃyojanapahānaṃ. Sabbadhivippamuttoti etena avasiṭṭhasabbākusalapahānaṃ dasseti. Atha vā uddhanti anāgatakālaggahaṇaṃ. Adhoti atītakālaggahaṇaṃ. Ubhayaggahaṇeneva tadubhayapaṭisaṃyuttattā paccuppanno addhā gahito hoti, tattha anāgatakālaggahaṇena anāgatakkhandhāyatanadhātuyo gahitā. Sesapadesupi eseva nayo. Sabbadhīti kāmabhedādike sabbasmiṃ bhave. Idaṃ vuttaṃ hoti – anāgato atīto paccuppannoti evaṃ tiyaddhasaṅgahite sabbasmiṃ bhave vippamuttoti.

    อยํหมสฺมีติ อนานุปสฺสีติ โย เอวํ วิปฺปมุโตฺต, โส รูปเวทนาทีสุ ‘‘อยํ นาม ธโมฺม อหมสฺมี’’ติ ทิฎฺฐิมานมญฺญนาวเสน เอวํ นานุปสฺสติฯ ตสฺส ตถา ทสฺสเน การณํ นตฺถีติ อธิปฺปาโยฯ อถ วา อยํหมสฺมีติ อนานุปสฺสีติ อิทํ ยถาวุตฺตาย วิมุตฺติยา อธิคมุปายทีปนํฯ ติยทฺธสงฺคหิเต เตภูมเก สงฺขาเร ‘‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’ติ ปวตฺตนสภาวาย มญฺญนาย อนธิฎฺฐานํ กตฺวา ‘‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เม โส อตฺตา’’ติ เอวํ อุปฺปชฺชมานา ยา ปุพฺพภาควุฎฺฐานคามินี วิปสฺสนา, สา วิมุตฺติยา ปทฎฺฐานํฯ เอวํ วิมุโตฺต อุทตาริ โอฆํ, อติณฺณปุพฺพํ อปุนพฺภวายาติ เอวํ ทสหิ สํโยชเนหิ สพฺพากุสเลหิ จ สพฺพถา วิมุโตฺต อรหา อริยมคฺคาธิคมนโต ปุเพฺพ สุปินเนฺตปิ อติณฺณปุพฺพํ กาโมโฆ ภโวโฆ ทิโฎฺฐโฆ อวิโชฺชโฆติ อิมํ จตุพฺพิธํ โอฆํ, สํสารมโหฆเมว วา อปุนพฺภวาย อนุปาทิเสสาย นิพฺพานาย อุทตาริ อุตฺติโณฺณ, อุตฺตริตฺวา ปาเร ฐิโตติ อโตฺถฯ

    Ayaṃhamasmītianānupassīti yo evaṃ vippamutto, so rūpavedanādīsu ‘‘ayaṃ nāma dhammo ahamasmī’’ti diṭṭhimānamaññanāvasena evaṃ nānupassati. Tassa tathā dassane kāraṇaṃ natthīti adhippāyo. Atha vā ayaṃhamasmīti anānupassīti idaṃ yathāvuttāya vimuttiyā adhigamupāyadīpanaṃ. Tiyaddhasaṅgahite tebhūmake saṅkhāre ‘‘etaṃ mama, esohamasmi, eso me attā’’ti pavattanasabhāvāya maññanāya anadhiṭṭhānaṃ katvā ‘‘netaṃ mama, nesohamasmi, na me so attā’’ti evaṃ uppajjamānā yā pubbabhāgavuṭṭhānagāminī vipassanā, sā vimuttiyā padaṭṭhānaṃ. Evaṃ vimutto udatāri oghaṃ, atiṇṇapubbaṃ apunabbhavāyāti evaṃ dasahi saṃyojanehi sabbākusalehi ca sabbathā vimutto arahā ariyamaggādhigamanato pubbe supinantepi atiṇṇapubbaṃ kāmogho bhavogho diṭṭhogho avijjoghoti imaṃ catubbidhaṃ oghaṃ, saṃsāramahoghameva vā apunabbhavāya anupādisesāya nibbānāya udatāri uttiṇṇo, uttaritvā pāre ṭhitoti attho.

    ปฐมสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Paṭhamasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อุทานปาฬิ • Udānapāḷi / ๑. ปฐมลกุณฺฑกภทฺทิยสุตฺตํ • 1. Paṭhamalakuṇḍakabhaddiyasuttaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact