Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๙. ปฐมมรณสฺสติสุตฺตํ
9. Paṭhamamaraṇassatisuttaṃ
๑๙. เอกํ สมยํ ภควา นาติเก 1 วิหรติ คิญฺชกาวสเถฯ ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ ฯ ‘‘ภทเนฺต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํฯ ภควา เอตทโวจ – ‘‘มรณสฺสติ, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานาฯ ภาเวถ โน ตุเมฺห, ภิกฺขเว, มรณสฺสติ’’นฺติ?
19. Ekaṃ samayaṃ bhagavā nātike 2 viharati giñjakāvasathe. Tatra kho bhagavā bhikkhū āmantesi – ‘‘bhikkhavo’’ti . ‘‘Bhadante’’ti te bhikkhū bhagavato paccassosuṃ. Bhagavā etadavoca – ‘‘maraṇassati, bhikkhave, bhāvitā bahulīkatā mahapphalā hoti mahānisaṃsā amatogadhā amatapariyosānā. Bhāvetha no tumhe, bhikkhave, maraṇassati’’nti?
เอวํ วุเตฺต อญฺญตโร ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหํ โข, ภเนฺต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติฯ ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภาเวสิ มรณสฺสติ’’นฺติ? ‘‘อิธ มยฺหํ, ภเนฺต , เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ รตฺตินฺทิวํ ชีเวยฺยํ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติฯ เอวํ โข อหํ, ภเนฺต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติฯ
Evaṃ vutte aññataro bhikkhu bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘ahaṃ kho, bhante, bhāvemi maraṇassati’’nti. ‘‘Yathā kathaṃ pana tvaṃ, bhikkhu, bhāvesi maraṇassati’’nti? ‘‘Idha mayhaṃ, bhante , evaṃ hoti – ‘aho vatāhaṃ rattindivaṃ jīveyyaṃ, bhagavato sāsanaṃ manasi kareyyaṃ, bahu vata me kataṃ assā’ti. Evaṃ kho ahaṃ, bhante, bhāvemi maraṇassati’’nti.
อญฺญตโรปิ โข ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหมฺปิ โข, ภเนฺต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติฯ ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภาเวสิ มรณสฺสติ’’นฺติ? ‘‘อิธ มยฺหํ, ภเนฺต, เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ ทิวสํ ชีเวยฺยํ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติฯ เอวํ โข อหํ, ภเนฺต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติฯ
Aññataropi kho bhikkhu bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘ahampi kho, bhante, bhāvemi maraṇassati’’nti. ‘‘Yathā kathaṃ pana tvaṃ, bhikkhu, bhāvesi maraṇassati’’nti? ‘‘Idha mayhaṃ, bhante, evaṃ hoti – ‘aho vatāhaṃ divasaṃ jīveyyaṃ, bhagavato sāsanaṃ manasi kareyyaṃ, bahu vata me kataṃ assā’ti. Evaṃ kho ahaṃ, bhante, bhāvemi maraṇassati’’nti.
อญฺญตโรปิ โข ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหมฺปิ โข, ภเนฺต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติฯ ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภาเวสิ มรณสฺสติ’’นฺติ ? ‘‘อิธ มยฺหํ, ภเนฺต, เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ เอกปิณฺฑปาตํ ภุญฺชามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติฯ เอวํ โข อหํ, ภเนฺต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติฯ
Aññataropi kho bhikkhu bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘ahampi kho, bhante, bhāvemi maraṇassati’’nti. ‘‘Yathā kathaṃ pana tvaṃ, bhikkhu, bhāvesi maraṇassati’’nti ? ‘‘Idha mayhaṃ, bhante, evaṃ hoti – ‘aho vatāhaṃ tadantaraṃ jīveyyaṃ yadantaraṃ ekapiṇḍapātaṃ bhuñjāmi, bhagavato sāsanaṃ manasi kareyyaṃ, bahu vata me kataṃ assā’ti. Evaṃ kho ahaṃ, bhante, bhāvemi maraṇassati’’nti.
อญฺญตโรปิ โข ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหมฺปิ โข, ภเนฺต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติฯ ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภาเวสิ มรณสฺสติ’’นฺติ? ‘‘อิธ มยฺหํ, ภเนฺต, เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ จตฺตาโร ปญฺจ อาโลเป สงฺขาทิตฺวา 3 อโชฺฌหรามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติฯ เอวํ โข อหํ, ภเนฺต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติฯ
Aññataropi kho bhikkhu bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘ahampi kho, bhante, bhāvemi maraṇassati’’nti. ‘‘Yathā kathaṃ pana tvaṃ, bhikkhu, bhāvesi maraṇassati’’nti? ‘‘Idha mayhaṃ, bhante, evaṃ hoti – ‘aho vatāhaṃ tadantaraṃ jīveyyaṃ yadantaraṃ cattāro pañca ālope saṅkhāditvā 4 ajjhoharāmi, bhagavato sāsanaṃ manasi kareyyaṃ, bahu vata me kataṃ assā’ti. Evaṃ kho ahaṃ, bhante, bhāvemi maraṇassati’’nti.
อญฺญตโรปิ โข ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหมฺปิ โข, ภเนฺต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติฯ ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภาเวสิ มรณสฺสติ’’นฺติ? ‘‘อิธ มยฺหํ, ภเนฺต, เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ เอกํ อาโลปํ สงฺขาทิตฺวา 5 อโชฺฌหรามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติฯ เอวํ โข อหํ, ภเนฺต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติฯ
Aññataropi kho bhikkhu bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘ahampi kho, bhante, bhāvemi maraṇassati’’nti. ‘‘Yathā kathaṃ pana tvaṃ, bhikkhu, bhāvesi maraṇassati’’nti? ‘‘Idha mayhaṃ, bhante, evaṃ hoti – ‘aho vatāhaṃ tadantaraṃ jīveyyaṃ yadantaraṃ ekaṃ ālopaṃ saṅkhāditvā 6 ajjhoharāmi, bhagavato sāsanaṃ manasi kareyyaṃ, bahu vata me kataṃ assā’ti. Evaṃ kho ahaṃ, bhante, bhāvemi maraṇassati’’nti.
อญฺญตโรปิ โข ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหมฺปิ โข, ภเนฺต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติฯ ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภาเวสิ มรณสฺสติ’’นฺติ? ‘‘อิธ มยฺหํ, ภเนฺต , เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ อสฺสสิตฺวา วา ปสฺสสามิ ปสฺสสิตฺวา วา อสฺสสามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติฯ เอวํ โข อหํ, ภเนฺต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติฯ
Aññataropi kho bhikkhu bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘ahampi kho, bhante, bhāvemi maraṇassati’’nti. ‘‘Yathā kathaṃ pana tvaṃ, bhikkhu, bhāvesi maraṇassati’’nti? ‘‘Idha mayhaṃ, bhante , evaṃ hoti – ‘aho vatāhaṃ tadantaraṃ jīveyyaṃ yadantaraṃ assasitvā vā passasāmi passasitvā vā assasāmi, bhagavato sāsanaṃ manasi kareyyaṃ, bahu vata me kataṃ assā’ti. Evaṃ kho ahaṃ, bhante, bhāvemi maraṇassati’’nti.
เอวํ วุเตฺต ภควา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘โย จายํ 7, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสติํ ภาเวติ – ‘อโห วตาหํ รตฺตินฺทิวํ ชีเวยฺยํ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’’’ติฯ
Evaṃ vutte bhagavā te bhikkhū etadavoca – ‘‘yo cāyaṃ 8, bhikkhave, bhikkhu evaṃ maraṇassatiṃ bhāveti – ‘aho vatāhaṃ rattindivaṃ jīveyyaṃ, bhagavato sāsanaṃ manasi kareyyaṃ, bahu vata me kataṃ assā’’’ti.
‘‘โย จายํ 9, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสติํ ภาเวติ – ‘อโห วตาหํ ทิวสํ ชีเวยฺยํ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’’’ติฯ
‘‘Yo cāyaṃ 10, bhikkhave, bhikkhu evaṃ maraṇassatiṃ bhāveti – ‘aho vatāhaṃ divasaṃ jīveyyaṃ, bhagavato sāsanaṃ manasi kareyyaṃ, bahu vata me kataṃ assā’’’ti.
‘‘โย จายํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสติํ ภาเวติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ เอกปิณฺฑปาตํ ภุญฺชามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’’’ติฯ
‘‘Yo cāyaṃ, bhikkhave, bhikkhu evaṃ maraṇassatiṃ bhāveti – ‘aho vatāhaṃ tadantaraṃ jīveyyaṃ yadantaraṃ ekapiṇḍapātaṃ bhuñjāmi, bhagavato sāsanaṃ manasi kareyyaṃ, bahu vata me kataṃ assā’’’ti.
‘‘โย จายํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสติํ ภาเวติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ จตฺตาโร ปญฺจ อาโลเป สงฺขาทิตฺวา อโชฺฌหรามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ , พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติฯ อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ปมตฺตา วิหรนฺติ ทนฺธํ มรณสฺสติํ ภาเวนฺติ อาสวานํ ขยายฯ
‘‘Yo cāyaṃ, bhikkhave, bhikkhu evaṃ maraṇassatiṃ bhāveti – ‘aho vatāhaṃ tadantaraṃ jīveyyaṃ yadantaraṃ cattāro pañca ālope saṅkhāditvā ajjhoharāmi, bhagavato sāsanaṃ manasi kareyyaṃ , bahu vata me kataṃ assā’ti. Ime vuccanti, bhikkhave, bhikkhū pamattā viharanti dandhaṃ maraṇassatiṃ bhāventi āsavānaṃ khayāya.
‘‘โย จ ขฺวายํ 11, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสติํ ภาเวติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ เอกํ อาโลปํ สงฺขาทิตฺวา อโชฺฌหรามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’’’ติฯ
‘‘Yo ca khvāyaṃ 12, bhikkhave, bhikkhu evaṃ maraṇassatiṃ bhāveti – ‘aho vatāhaṃ tadantaraṃ jīveyyaṃ yadantaraṃ ekaṃ ālopaṃ saṅkhāditvā ajjhoharāmi, bhagavato sāsanaṃ manasi kareyyaṃ, bahu vata me kataṃ assā’’’ti.
‘‘โย จายํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสติํ ภาเวติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ อสฺสสิตฺวา วา ปสฺสสามิ ปสฺสสิตฺวา วา อสฺสสามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติฯ อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อปฺปมตฺตา วิหรนฺติ ติกฺขํ มรณสฺสติํ ภาเวนฺติ อาสวานํ ขยายฯ
‘‘Yo cāyaṃ, bhikkhave, bhikkhu evaṃ maraṇassatiṃ bhāveti – ‘aho vatāhaṃ tadantaraṃ jīveyyaṃ yadantaraṃ assasitvā vā passasāmi passasitvā vā assasāmi, bhagavato sāsanaṃ manasi kareyyaṃ, bahu vata me kataṃ assā’ti. Ime vuccanti, bhikkhave, bhikkhū appamattā viharanti tikkhaṃ maraṇassatiṃ bhāventi āsavānaṃ khayāya.
‘‘ตสฺมาติห , ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘อปฺปมตฺตา วิหริสฺสาม, ติกฺขํ มรณสฺสติํ ภาเวสฺสาม อาสวานํ ขยายา’ติฯ เอวญฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติฯ นวมํฯ
‘‘Tasmātiha , bhikkhave, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘appamattā viharissāma, tikkhaṃ maraṇassatiṃ bhāvessāma āsavānaṃ khayāyā’ti. Evañhi vo, bhikkhave, sikkhitabba’’nti. Navamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๙. ปฐมมรณสฺสติสุตฺตวณฺณนา • 9. Paṭhamamaraṇassatisuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๙. ปฐมมรณสฺสติสุตฺตวณฺณนา • 9. Paṭhamamaraṇassatisuttavaṇṇanā