Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๓. ปฐมนานากรณสุตฺตํ
3. Paṭhamanānākaraṇasuttaṃ
๑๒๓. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ กตเม จตฺตาโร? 1 อิธ, ภิกฺขเว, เอกโจฺจ ปุคฺคโล วิวิเจฺจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธเมฺมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ โส ตทสฺสาเทติ, ตํ นิกาเมติ, เตน จ วิตฺติํ อาปชฺชติฯ ตตฺถ ฐิโต ตทธิมุโตฺต ตพฺพหุลวิหารี อปริหีโน กาลํ กุรุมาโน พฺรหฺมกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ พฺรหฺมกายิกานํ, ภิกฺขเว, เทวานํ กโปฺป อายุปฺปมาณํฯ ตตฺถ ปุถุชฺชโน ยาวตายุกํ ฐตฺวา ยาวตกํ เตสํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ ตํ สพฺพํ เขเปตฺวา นิรยมฺปิ คจฺฉติ ติรจฺฉานโยนิมฺปิ คจฺฉติ เปตฺติวิสยมฺปิ คจฺฉติฯ ภควโต ปน สาวโก ตตฺถ ยาวตายุกํ ฐตฺวา ยาวตกํ เตสํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ ตํ สพฺพํ เขเปตฺวา ตสฺมิํเยว ภเว ปรินิพฺพายติฯ อยํ โข, ภิกฺขเว, วิเสโส อยํ อธิปฺปยาโส อิทํ นานากรณํ สุตวโต อริยสาวกสฺส อสฺสุตวตา ปุถุชฺชเนน, ยทิทํ คติยา อุปปตฺติยา สติ 2ฯ
123. ‘‘Cattārome, bhikkhave, puggalā santo saṃvijjamānā lokasmiṃ. Katame cattāro? 3 Idha, bhikkhave, ekacco puggalo vivicceva kāmehi vivicca akusalehi dhammehi savitakkaṃ savicāraṃ vivekajaṃ pītisukhaṃ paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. So tadassādeti, taṃ nikāmeti, tena ca vittiṃ āpajjati. Tattha ṭhito tadadhimutto tabbahulavihārī aparihīno kālaṃ kurumāno brahmakāyikānaṃ devānaṃ sahabyataṃ upapajjati. Brahmakāyikānaṃ, bhikkhave, devānaṃ kappo āyuppamāṇaṃ. Tattha puthujjano yāvatāyukaṃ ṭhatvā yāvatakaṃ tesaṃ devānaṃ āyuppamāṇaṃ taṃ sabbaṃ khepetvā nirayampi gacchati tiracchānayonimpi gacchati pettivisayampi gacchati. Bhagavato pana sāvako tattha yāvatāyukaṃ ṭhatvā yāvatakaṃ tesaṃ devānaṃ āyuppamāṇaṃ taṃ sabbaṃ khepetvā tasmiṃyeva bhave parinibbāyati. Ayaṃ kho, bhikkhave, viseso ayaṃ adhippayāso idaṃ nānākaraṇaṃ sutavato ariyasāvakassa assutavatā puthujjanena, yadidaṃ gatiyā upapattiyā sati 4.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ โส ตทสฺสาเทติ, ตํ นิกาเมติ, เตน จ วิตฺติํ อาปชฺชติฯ ตตฺถ ฐิโต ตทธิมุโตฺต ตพฺพหุลวิหารี อปริหีโน กาลํ กุรุมาโน อาภสฺสรานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ อาภสฺสรานํ, ภิกฺขเว, เทวานํ เทฺว กปฺปา อายุปฺปมาณํฯ ตตฺถ ปุถุชฺชโน ยาวตายุกํ ฐตฺวา ยาวตกํ เตสํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ ตํ สพฺพํ เขเปตฺวา นิรยมฺปิ คจฺฉติ ติรจฺฉานโยนิมฺปิ คจฺฉติ เปตฺติวิสยมฺปิ คจฺฉติฯ ภควโต ปน สาวโก ตตฺถ ยาวตายุกํ ฐตฺวา ยาวตกํ เตสํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ ตํ สพฺพํ เขเปตฺวา ตสฺมิํเยว ภเว ปรินิพฺพายติฯ อยํ โข, ภิกฺขเว, วิเสโส อยํ อธิปฺปยาโส อิทํ นานากรณํ สุตวโต อริยสาวกสฺส อสฺสุตวตา ปุถุชฺชเนน, ยทิทํ คติยา อุปปตฺติยา สติฯ
‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, idhekacco puggalo vitakkavicārānaṃ vūpasamā ajjhattaṃ sampasādanaṃ cetaso ekodibhāvaṃ avitakkaṃ avicāraṃ samādhijaṃ pītisukhaṃ dutiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. So tadassādeti, taṃ nikāmeti, tena ca vittiṃ āpajjati. Tattha ṭhito tadadhimutto tabbahulavihārī aparihīno kālaṃ kurumāno ābhassarānaṃ devānaṃ sahabyataṃ upapajjati. Ābhassarānaṃ, bhikkhave, devānaṃ dve kappā āyuppamāṇaṃ. Tattha puthujjano yāvatāyukaṃ ṭhatvā yāvatakaṃ tesaṃ devānaṃ āyuppamāṇaṃ taṃ sabbaṃ khepetvā nirayampi gacchati tiracchānayonimpi gacchati pettivisayampi gacchati. Bhagavato pana sāvako tattha yāvatāyukaṃ ṭhatvā yāvatakaṃ tesaṃ devānaṃ āyuppamāṇaṃ taṃ sabbaṃ khepetvā tasmiṃyeva bhave parinibbāyati. Ayaṃ kho, bhikkhave, viseso ayaṃ adhippayāso idaṃ nānākaraṇaṃ sutavato ariyasāvakassa assutavatā puthujjanena, yadidaṃ gatiyā upapattiyā sati.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต จ สมฺปชาโน สุขญฺจ กาเยน ปฎิสํเวเทติ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ โส ตทสฺสาเทติ, ตํ นิกาเมติ, เตน จ วิตฺติํ อาปชฺชติฯ ตตฺถ ฐิโต ตทธิมุโตฺต ตพฺพหุลวิหารี อปริหีโน, กาลํ กุรุมาโน สุภกิณฺหานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ สุภกิณฺหานํ, ภิกฺขเว, เทวานํ จตฺตาโร กปฺปา อายุปฺปมาณํฯ ตตฺถ ปุถุชฺชโน ยาวตายุกํ ฐตฺวา ยาวตกํ เตสํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ ตํ สพฺพํ เขเปตฺวา นิรยมฺปิ คจฺฉติ ติรจฺฉานโยนิมฺปิ คจฺฉติ เปตฺติวิสยมฺปิ คจฺฉติฯ ภควโต ปน สาวโก ตตฺถ ยาวตายุกํ ฐตฺวา ยาวตกํ เตสํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ ตํ สพฺพํ เขเปตฺวา ตสฺมิํเยว ภเว ปรินิพฺพายติฯ อยํ โข, ภิกฺขเว, วิเสโส อยํ อธิปฺปยาโส อิทํ นานากรณํ สุตวโต อริยสาวกสฺส อสฺสุตวตา ปุถุชฺชเนน, ยทิทํ คติยา อุปปตฺติยา สติฯ
‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, idhekacco puggalo pītiyā ca virāgā upekkhako ca viharati sato ca sampajāno sukhañca kāyena paṭisaṃvedeti yaṃ taṃ ariyā ācikkhanti – ‘upekkhako satimā sukhavihārī’ti tatiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. So tadassādeti, taṃ nikāmeti, tena ca vittiṃ āpajjati. Tattha ṭhito tadadhimutto tabbahulavihārī aparihīno, kālaṃ kurumāno subhakiṇhānaṃ devānaṃ sahabyataṃ upapajjati. Subhakiṇhānaṃ, bhikkhave, devānaṃ cattāro kappā āyuppamāṇaṃ. Tattha puthujjano yāvatāyukaṃ ṭhatvā yāvatakaṃ tesaṃ devānaṃ āyuppamāṇaṃ taṃ sabbaṃ khepetvā nirayampi gacchati tiracchānayonimpi gacchati pettivisayampi gacchati. Bhagavato pana sāvako tattha yāvatāyukaṃ ṭhatvā yāvatakaṃ tesaṃ devānaṃ āyuppamāṇaṃ taṃ sabbaṃ khepetvā tasmiṃyeva bhave parinibbāyati. Ayaṃ kho, bhikkhave, viseso ayaṃ adhippayāso idaṃ nānākaraṇaṃ sutavato ariyasāvakassa assutavatā puthujjanena, yadidaṃ gatiyā upapattiyā sati.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุเพฺพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิํ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ โส ตทสฺสาเทติ, ตํ นิกาเมติ, เตน จ วิตฺติํ อาปชฺชติฯ ตตฺถ ฐิโต ตทธิมุโตฺต ตพฺพหุลวิหารี อปริหีโน กาลํ กุรุมาโน เวหปฺผลานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ เวหปฺผลานํ, ภิกฺขเว, เทวานํ ปญฺจ กปฺปสตานิ อายุปฺปมาณํฯ ตตฺถ ปุถุชฺชโน ยาวตายุกํ ฐตฺวา ยาวตกํ เตสํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ ตํ สพฺพํ เขเปตฺวา นิรยมฺปิ คจฺฉติ ติรจฺฉานโยนิมฺปิ คจฺฉติ เปตฺติวิสยมฺปิ คจฺฉติฯ ภควโต ปน สาวโก ตตฺถ ยาวตายุกํ ฐตฺวา ยาวตกํ เตสํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ ตํ สพฺพํ เขเปตฺวา ตสฺมิํเยว ภเว ปรินิพฺพายติฯ อยํ โข, ภิกฺขเว, วิเสโส อยํ อธิปฺปยาโส อิทํ นานากรณํ สุตวโต อริยสาวกสฺส อสฺสุตวตา ปุถุชฺชเนน, ยทิทํ คติยา อุปปตฺติยา สติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติฯ ตติยํฯ
‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, idhekacco puggalo sukhassa ca pahānā dukkhassa ca pahānā pubbeva somanassadomanassānaṃ atthaṅgamā adukkhamasukhaṃ upekkhāsatipārisuddhiṃ catutthaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. So tadassādeti, taṃ nikāmeti, tena ca vittiṃ āpajjati. Tattha ṭhito tadadhimutto tabbahulavihārī aparihīno kālaṃ kurumāno vehapphalānaṃ devānaṃ sahabyataṃ upapajjati. Vehapphalānaṃ, bhikkhave, devānaṃ pañca kappasatāni āyuppamāṇaṃ. Tattha puthujjano yāvatāyukaṃ ṭhatvā yāvatakaṃ tesaṃ devānaṃ āyuppamāṇaṃ taṃ sabbaṃ khepetvā nirayampi gacchati tiracchānayonimpi gacchati pettivisayampi gacchati. Bhagavato pana sāvako tattha yāvatāyukaṃ ṭhatvā yāvatakaṃ tesaṃ devānaṃ āyuppamāṇaṃ taṃ sabbaṃ khepetvā tasmiṃyeva bhave parinibbāyati. Ayaṃ kho, bhikkhave, viseso ayaṃ adhippayāso idaṃ nānākaraṇaṃ sutavato ariyasāvakassa assutavatā puthujjanena, yadidaṃ gatiyā upapattiyā sati. Ime kho, bhikkhave, cattāro puggalā santo saṃvijjamānā lokasmi’’nti. Tatiyaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๓. ปฐมนานากรณสุตฺตวณฺณนา • 3. Paṭhamanānākaraṇasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๓. ปฐมนานากรณสุตฺตวณฺณนา • 3. Paṭhamanānākaraṇasuttavaṇṇanā