Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā |
๒. นิเทฺทสวณฺณนา
2. Niddesavaṇṇanā
๑. ปฐมนโย สงฺคหาสงฺคหปทวณฺณนา
1. Paṭhamanayo saṅgahāsaṅgahapadavaṇṇanā
๑. ขนฺธปทวณฺณนา
1. Khandhapadavaṇṇanā
๖. อิทานิ ปญฺจกฺขนฺธาทิวเสน นิกฺขิตฺตมาติกํ ‘สงฺคโห อสงฺคโห’ติอาทีหิ นยมาติกาปเทหิ สทฺธิํ โยเชตฺวา ทเสฺสตุํ รูปกฺขโนฺธ กติหิ ขเนฺธหีติอาทินา นเยน นิเทฺทสวาโร อารโทฺธฯ ตตฺถ ยสฺมา ‘‘สงฺคโห อสงฺคโหติอาทิกาย นยมาติกาย ‘‘ตีหิ สงฺคโห, ตีหิ อสงฺคโห’’ติ นยมุขมาติกา ฐปิตา, ตสฺมา รูปกฺขนฺธาทีนํ สงฺคหํ ทเสฺสตุํ กติหิ ขเนฺธหิ กติหายตเนหิ กติหิ ธาตูหีติ ตีณิ ขนฺธายตนธาตุปทาเนว อุทฺธฎานิฯ ‘จตฺตาริ สจฺจานี’ติอาทีสุ เอกมฺปิ น ปรามฎฺฐํฯ ยสฺมา จ ‘‘สภาโค วิสภาโค’’ติ เอวํ ลกฺขณมาติกา ฐปิตา, ตสฺมา อิมสฺส ปญฺหสฺส วิสฺสชฺชเน รูปกฺขโนฺธ เอเกน ขเนฺธนาติอาทิ วุตฺตํฯ สภาคา หิ ตสฺส เอเต ขนฺธาทโยติฯ ตตฺถ เอเกน ขเนฺธนาติ รูปกฺขเนฺธเนวฯ ยญฺหิ กิญฺจิ รูปํ รูปกฺขนฺธสภาคตฺตา รูปกฺขโนฺธเตฺวว สงฺคหํ คจฺฉตีติ รูปกฺขเนฺธเนว คณิตํ, ตํ รูปกฺขเนฺธเนว ปริจฺฉินฺนํฯ เอกาทสหายตเนหีติ มนายตนวเชฺชหิฯ สโพฺพปิ หิ รูปกฺขโนฺธ ทสายตนานิ ธมฺมายตเนกเทโส จ โหติ, ตสฺมา เอกาทสหายตเนหิ คณิโต , ปริจฺฉิโนฺนฯ เอกาทสหิ ธาตูหีติ สตฺตวิญฺญาณธาตุวชฺชาหิ เอกาทสหิ เอตาสุ หิ อปริยาปนฺนํ รูปํ นาม นตฺถิฯ
6. Idāni pañcakkhandhādivasena nikkhittamātikaṃ ‘saṅgaho asaṅgaho’tiādīhi nayamātikāpadehi saddhiṃ yojetvā dassetuṃ rūpakkhandho katihi khandhehītiādinā nayena niddesavāro āraddho. Tattha yasmā ‘‘saṅgaho asaṅgahotiādikāya nayamātikāya ‘‘tīhi saṅgaho, tīhi asaṅgaho’’ti nayamukhamātikā ṭhapitā, tasmā rūpakkhandhādīnaṃ saṅgahaṃ dassetuṃ katihi khandhehi katihāyatanehi katihi dhātūhīti tīṇi khandhāyatanadhātupadāneva uddhaṭāni. ‘Cattāri saccānī’tiādīsu ekampi na parāmaṭṭhaṃ. Yasmā ca ‘‘sabhāgo visabhāgo’’ti evaṃ lakkhaṇamātikā ṭhapitā, tasmā imassa pañhassa vissajjane rūpakkhandho ekena khandhenātiādi vuttaṃ. Sabhāgā hi tassa ete khandhādayoti. Tattha ekena khandhenāti rūpakkhandheneva. Yañhi kiñci rūpaṃ rūpakkhandhasabhāgattā rūpakkhandhotveva saṅgahaṃ gacchatīti rūpakkhandheneva gaṇitaṃ, taṃ rūpakkhandheneva paricchinnaṃ. Ekādasahāyatanehīti manāyatanavajjehi. Sabbopi hi rūpakkhandho dasāyatanāni dhammāyatanekadeso ca hoti, tasmā ekādasahāyatanehi gaṇito , paricchinno. Ekādasahi dhātūhīti sattaviññāṇadhātuvajjāhi ekādasahi etāsu hi apariyāpannaṃ rūpaṃ nāma natthi.
อสงฺคหนยนิเทฺทเส กติหิ อสงฺคหิโตติ สเงฺขเปเนว ปุจฺฉา กตาฯ วิสฺสชฺชเน ปนสฺส ยสฺมา รูปกฺขนฺธสฺส วิสภาคา จตฺตาโร อรูปกฺขนฺธา, เอกํ มนายตนํ, สตฺต วิญฺญาณธาตุโย; ตสฺมา จตูหิ ขเนฺธหีติอาทิ วุตฺตํฯ อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ สงฺคหาสงฺคโห เวทิตโพฺพฯ อิมสฺมิํ ปน ขนฺธนิเทฺทเส – ‘‘รูปกฺขโนฺธ กติหิ ขเนฺธหี’’ติอาทิมฺหิ ตาว เอกมูลเก สงฺคหนเย สรูเปเนว ทสฺสิตา ปญฺจ ปุจฺฉา, ปญฺจ วิสฺสชฺชนานิฯ อสงฺคหนเย สเงฺขเปน ทสฺสิตา ปญฺจ ปุจฺฉา, ปญฺจ วิสฺสชฺชนานิฯ อิมินา อุปาเยน ทุกมูลกาทีสุปิ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานิ เวทิตพฺพานิฯ รูปกฺขนฺธมูลกาเยว เจตฺถ ทุกติกจตุกฺกา ทสฺสิตาฯ ปญฺจเก ปน ‘‘รูปกฺขโนฺธ จ…เป.… วิญฺญาณกฺขโนฺธ จา’’ติ เอวํ เภทโต จ, ‘‘ปญฺจกฺขนฺธา กติหิ ขเนฺธหี’’ติ เอวํ อเภทโต จาติ ทฺวิธา ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานิ กตานิฯ เอวํ ปาฬินโย เวทิตโพฺพติฯ
Asaṅgahanayaniddese katihi asaṅgahitoti saṅkhepeneva pucchā katā. Vissajjane panassa yasmā rūpakkhandhassa visabhāgā cattāro arūpakkhandhā, ekaṃ manāyatanaṃ, satta viññāṇadhātuyo; tasmā catūhi khandhehītiādi vuttaṃ. Iminā nayena sabbapadesu saṅgahāsaṅgaho veditabbo. Imasmiṃ pana khandhaniddese – ‘‘rūpakkhandho katihi khandhehī’’tiādimhi tāva ekamūlake saṅgahanaye sarūpeneva dassitā pañca pucchā, pañca vissajjanāni. Asaṅgahanaye saṅkhepena dassitā pañca pucchā, pañca vissajjanāni. Iminā upāyena dukamūlakādīsupi pucchāvissajjanāni veditabbāni. Rūpakkhandhamūlakāyeva cettha dukatikacatukkā dassitā. Pañcake pana ‘‘rūpakkhandho ca…pe… viññāṇakkhandho cā’’ti evaṃ bhedato ca, ‘‘pañcakkhandhā katihi khandhehī’’ti evaṃ abhedato cāti dvidhā pucchāvissajjanāni katāni. Evaṃ pāḷinayo veditabboti.
๒. อายตนปทาทิวณฺณนา
2. Āyatanapadādivaṇṇanā
๒๒. อายตนปทนิเทฺทสาทีสุ อายตนปทนิเทฺทเส ตาว จกฺขายตนํ เอเกน ขเนฺธนาติ เอเกน รูปกฺขเนฺธเนว, เอเกน จกฺขายตเนเนว เอกาย จกฺขุธาตุยาว สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํฯ โสตายตนาทีสุปิ อิมินาว นเยน สงฺคหาสงฺคโห เวทิตโพฺพฯ อสงฺขตํ ขนฺธโต ฐเปตฺวาติ เอตฺถ ปน ยสฺมา อสงฺขตํ ธมฺมายตนํ นาม นิพฺพานํ, ตญฺจ ขนฺธสงฺคหํ น คจฺฉติ; ตสฺมา ‘ขนฺธโต ฐเปตฺวา’ติ วุตฺตํฯ จตูหิ ขเนฺธหีติ รูปเวทนาสญฺญาสงฺขารกฺขเนฺธหิฯ นิพฺพานวชฺชญฺหิ ธมฺมายตนํ เอเตหิ สงฺคหิตํฯ วิญฺญาณกฺขเนฺธน ปน ฐเปตฺวา ธมฺมายตนธมฺมธาตุโย เสสายตนธาตูหิ จ ตํ น สงฺคยฺหติฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘เอเกน ขเนฺธน, เอกาทสหายตเนหิ, สตฺตรสหิ ธาตูหิ อสงฺคหิต’’นฺติฯ ยถา จ เต เหฎฺฐา รูปกฺขนฺธมูลกา, เอวมิธาปิ จกฺขายตนมูลกาว นยา เวทิตพฺพาฯ ทุกมตฺตเมว ปน ปาฬิยํ ทเสฺสตฺวา ‘‘ทฺวาทสายตนานี’’ติ อเภทโตว ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนํ กตํฯ ธาตุนิเทฺทเสปิ เอเสว นโยฯ
22. Āyatanapadaniddesādīsu āyatanapadaniddese tāva cakkhāyatanaṃ ekena khandhenāti ekena rūpakkhandheneva, ekena cakkhāyataneneva ekāya cakkhudhātuyāva saṅgahitanti veditabbaṃ. Sotāyatanādīsupi imināva nayena saṅgahāsaṅgaho veditabbo. Asaṅkhataṃ khandhato ṭhapetvāti ettha pana yasmā asaṅkhataṃ dhammāyatanaṃ nāma nibbānaṃ, tañca khandhasaṅgahaṃ na gacchati; tasmā ‘khandhato ṭhapetvā’ti vuttaṃ. Catūhi khandhehīti rūpavedanāsaññāsaṅkhārakkhandhehi. Nibbānavajjañhi dhammāyatanaṃ etehi saṅgahitaṃ. Viññāṇakkhandhena pana ṭhapetvā dhammāyatanadhammadhātuyo sesāyatanadhātūhi ca taṃ na saṅgayhati. Tena vuttaṃ – ‘‘ekena khandhena, ekādasahāyatanehi, sattarasahi dhātūhi asaṅgahita’’nti. Yathā ca te heṭṭhā rūpakkhandhamūlakā, evamidhāpi cakkhāyatanamūlakāva nayā veditabbā. Dukamattameva pana pāḷiyaṃ dassetvā ‘‘dvādasāyatanānī’’ti abhedatova pucchāvissajjanaṃ kataṃ. Dhātuniddesepi eseva nayo.
๔๐. สจฺจนิเทฺทเส – สเพฺพปิ ทุกติกจตุกฺกา ปาฬิยํ ทสฺสิตาฯ ยสฺมา จ ทุกติเกสุ สมุทยสจฺจสทิสเมว มคฺคสเจฺจปิ วิสฺสชฺชนํ, ตสฺมา ตํ สมุทยานนฺตรํ วุตฺตํฯ
40. Saccaniddese – sabbepi dukatikacatukkā pāḷiyaṃ dassitā. Yasmā ca dukatikesu samudayasaccasadisameva maggasaccepi vissajjanaṃ, tasmā taṃ samudayānantaraṃ vuttaṃ.
๕๐. อินฺทฺริยนิเทฺทเส – ชีวิตินฺทฺริยํ ทฺวีหิ ขเนฺธหีติ รูปชีวิตินฺทฺริยํ รูปกฺขเนฺธน, อรูปชีวิตินฺทฺริยํ สงฺขารกฺขเนฺธน สงฺคหิตํฯ เสสํ วุตฺตนยานุสาเรเนว เวทิตพฺพํฯ ปาฬิววตฺถานํ ปเนตฺถ อายตนธาตุนิเทฺทสสทิสเมวฯ
50. Indriyaniddese – jīvitindriyaṃ dvīhi khandhehīti rūpajīvitindriyaṃ rūpakkhandhena, arūpajīvitindriyaṃ saṅkhārakkhandhena saṅgahitaṃ. Sesaṃ vuttanayānusāreneva veditabbaṃ. Pāḷivavatthānaṃ panettha āyatanadhātuniddesasadisameva.
๖. ปฎิจฺจสมุปฺปาทวณฺณนา
6. Paṭiccasamuppādavaṇṇanā
๖๑. ปฎิจฺจสมุปฺปาทนิเทฺทเส – ‘‘อวิชฺชา กติหิ ขเนฺธหี’’ติ ปุจฺฉํ อนารภิตฺวา อวิชฺชา เอเกน ขเนฺธนาติ เอวํ วิสฺสชฺชนเมว ทสฺสิตํฯ ตตฺถ สงฺขารปจฺจยา วิญฺญาณนฺติ ปฎิสนฺธิยํ ปวเตฺต จ สพฺพมฺปิ วิปากวิญฺญาณํฯ เตเนวาห – ‘‘สตฺตหิ ธาตูหิ สงฺคหิต’’นฺติฯ นามรูปมฺปิ ปฎิสนฺธิปวตฺติวเสเนว เวทิตพฺพํฯ เตเนเวตฺถ สทฺทายตนมฺปิ สงฺคเหตฺวา เอกาทสหายตเนหิ สงฺคโห ทสฺสิโตฯ ผสฺสาทีสุ ขนฺธเภโท เวทิตโพฺพฯ อเญฺญเนว หิ เอเกน ขเนฺธน ผโสฺส สงฺคหิโต, อเญฺญน เวทนา, ตณฺหาอุปาทานกมฺมภวา ปน สงฺขารกฺขเนฺธเนว สงฺคหิตาฯ ภวปทเญฺจตฺถ กมฺมภวาทีนํ วเสน เอกาทสธา วิภตฺตํฯ ตตฺถ กมฺมภโว ผสฺสาทีหิ สทิสวิสชฺชนตฺตา เตหิ สทฺธิํ เอกโต ทสฺสิโตฯ อุปปตฺติภวกามภวสญฺญาภวปญฺจโวการภวา อญฺญมญฺญสทิสวิสฺสชฺชนตฺตา เอกโต ทสฺสิตาฯ ยสฺมา เจเต อุปาทินฺนกธมฺมาว ตสฺมา ‘‘เอกาทสหายตเนหิ สตฺตรสหิ ธาตูหี’’ติ วุตฺตํฯ สทฺทายตนญฺหิ อนุปาทินฺนํ, ตํ เอตฺถ น คหิตํฯ
61. Paṭiccasamuppādaniddese – ‘‘avijjā katihi khandhehī’’ti pucchaṃ anārabhitvā avijjā ekena khandhenāti evaṃ vissajjanameva dassitaṃ. Tattha saṅkhārapaccayā viññāṇanti paṭisandhiyaṃ pavatte ca sabbampi vipākaviññāṇaṃ. Tenevāha – ‘‘sattahi dhātūhi saṅgahita’’nti. Nāmarūpampi paṭisandhipavattivaseneva veditabbaṃ. Tenevettha saddāyatanampi saṅgahetvā ekādasahāyatanehi saṅgaho dassito. Phassādīsu khandhabhedo veditabbo. Aññeneva hi ekena khandhena phasso saṅgahito, aññena vedanā, taṇhāupādānakammabhavā pana saṅkhārakkhandheneva saṅgahitā. Bhavapadañcettha kammabhavādīnaṃ vasena ekādasadhā vibhattaṃ. Tattha kammabhavo phassādīhi sadisavisajjanattā tehi saddhiṃ ekato dassito. Upapattibhavakāmabhavasaññābhavapañcavokārabhavā aññamaññasadisavissajjanattā ekato dassitā. Yasmā cete upādinnakadhammāva tasmā ‘‘ekādasahāyatanehi sattarasahi dhātūhī’’ti vuttaṃ. Saddāyatanañhi anupādinnaṃ, taṃ ettha na gahitaṃ.
๖๘. รูปภวนิเทฺทเส – ปญฺจหายตเนหีติ จกฺขุโสตมนรูปธมฺมายตเนหิฯ อฎฺฐหิ ธาตูหีติ จกฺขุโสตจกฺขุวิญฺญาณโสตวิญฺญาณรูปธมฺมมโนธาตุมโนวิญฺญาณธาตูหิฯ อรูปภวาทโยปิ ตโย สทิสวิสฺสชฺชนตฺตาว เอกโต ทสฺสิตาฯ ตถา อสญฺญาภวเอกโวการภวาฯ ตตฺถ ทฺวีหายตเนหีติ รูปายตนธมฺมายตเนหิฯ ธาตูสุปิ เอเสว นโยฯ เอกตลวาสิกานญฺหิ เสสพฺรหฺมานํ จกฺขุสพฺภาวโต ตสฺสารมฺมณตฺตา ตตฺถ รูปายตนํ อุทฺธฎํฯ
68. Rūpabhavaniddese – pañcahāyatanehīti cakkhusotamanarūpadhammāyatanehi. Aṭṭhahi dhātūhīti cakkhusotacakkhuviññāṇasotaviññāṇarūpadhammamanodhātumanoviññāṇadhātūhi. Arūpabhavādayopi tayo sadisavissajjanattāva ekato dassitā. Tathā asaññābhavaekavokārabhavā. Tattha dvīhāyatanehīti rūpāyatanadhammāyatanehi. Dhātūsupi eseva nayo. Ekatalavāsikānañhi sesabrahmānaṃ cakkhusabbhāvato tassārammaṇattā tattha rūpāyatanaṃ uddhaṭaṃ.
๗๑. ชาติ ทฺวีหิ ขเนฺธหีติ รูปชาติ รูปกฺขเนฺธน, อรูปชาติ สงฺขารกฺขเนฺธนฯ ชรามรเณสุปิ เอเสว นโยฯ โสกาทีสุปิ เอเกน ขเนฺธนาติ โสกทุกฺขโทมนสฺสานิ เวทนากฺขเนฺธน, ปริเทโว รูปกฺขเนฺธน, อุปายาสาทโย สงฺขารกฺขเนฺธนาติ เอวํ ขนฺธวิเสโส เวทิตโพฺพฯ
71. Jāti dvīhi khandhehīti rūpajāti rūpakkhandhena, arūpajāti saṅkhārakkhandhena. Jarāmaraṇesupi eseva nayo. Sokādīsupi ekena khandhenāti sokadukkhadomanassāni vedanākkhandhena, paridevo rūpakkhandhena, upāyāsādayo saṅkhārakkhandhenāti evaṃ khandhaviseso veditabbo.
๗๓. อิทฺธิปาโท ทฺวีหีติ สงฺขารวิญฺญาณกฺขเนฺธหิ, มนายตนธมฺมายตเนหิ, ธมฺมธาตุมโนวิญฺญาณธาตูหิ จฯ ฌานํ ทฺวีหีติ เวทนากฺขนฺธสงฺขารกฺขเนฺธหิฯ อปฺปมญฺญาทโย สทิสวิสฺสชฺชนตฺตา เอกโต นิทฺทิฎฺฐาฯ จิตฺตํ ปน เจตนานนฺตรํ นิกฺขิตฺตมฺปิ อสทิสวิสฺสชฺชนตฺตา ปจฺฉา คหิตํฯ ตตฺถ อปฺปมญฺญาทีสุ เอเกน ขเนฺธนาติ เวทนา เวทนากฺขเนฺธน, สญฺญา สญฺญากฺขเนฺธน, เสสา สงฺขารกฺขเนฺธน สงฺคหิตาติ เอวํ ขนฺธวิเสโส เวทิตโพฺพฯ
73. Iddhipādo dvīhīti saṅkhāraviññāṇakkhandhehi, manāyatanadhammāyatanehi, dhammadhātumanoviññāṇadhātūhi ca. Jhānaṃ dvīhīti vedanākkhandhasaṅkhārakkhandhehi. Appamaññādayo sadisavissajjanattā ekato niddiṭṭhā. Cittaṃ pana cetanānantaraṃ nikkhittampi asadisavissajjanattā pacchā gahitaṃ. Tattha appamaññādīsu ekena khandhenāti vedanā vedanākkhandhena, saññā saññākkhandhena, sesā saṅkhārakkhandhena saṅgahitāti evaṃ khandhaviseso veditabbo.
๗. ติกปทวณฺณนา
7. Tikapadavaṇṇanā
๗๗. เอวํ อพฺภนฺตรมาติกาย สงฺคหํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ พาหิรมาติกาย สงฺคหํ ทเสฺสตุํ กุสลา ธมฺมาติอาทิ อารทฺธํฯ ตตฺถ เวทนาตฺติเก ตีหิ ธาตูหีติ กายวิญฺญาณมโนวิญฺญาณธมฺมธาตูหิฯ สตฺตหิ ธาตูหีติ จกฺขุโสตฆานชิวฺหาวิญฺญาณธาตูหิ เจว มโนธาตุธมฺมธาตุมโนวิญฺญาณธาตูหิ จฯ วิปากตฺติเก อฎฺฐหิ ธาตูหีติ กายวิญฺญาณธาตุยา สทฺธิํ ตาหิเยวฯ วิปากธมฺมธมฺมา ปน สํกิลิฎฺฐสํกิเลสิเกหิ สทฺธิํ สทิสวิสฺสชฺชนตฺตา เอกโต คหิตาฯ ยถา เจเต, เอวํ สพฺพติกทุกปเทสุ ยํ ยํ ปทํ เยน เยน ปเทน สทฺธิํ สทิสวิสฺสชฺชนํ โหติ, ตํ ตํ อุปฺปฎิปาฎิยาปิ เตน เตน สทฺธิํ คเหตฺวา วิสฺสชฺชิตํฯ ตตฺถ วุตฺตานุสาเรเนว สงฺคหาสงฺคหนโย เวทิตโพฺพติฯ
77. Evaṃ abbhantaramātikāya saṅgahaṃ dassetvā idāni bāhiramātikāya saṅgahaṃ dassetuṃ kusalā dhammātiādi āraddhaṃ. Tattha vedanāttike tīhi dhātūhīti kāyaviññāṇamanoviññāṇadhammadhātūhi. Sattahi dhātūhīti cakkhusotaghānajivhāviññāṇadhātūhi ceva manodhātudhammadhātumanoviññāṇadhātūhi ca. Vipākattike aṭṭhahi dhātūhīti kāyaviññāṇadhātuyā saddhiṃ tāhiyeva. Vipākadhammadhammā pana saṃkiliṭṭhasaṃkilesikehi saddhiṃ sadisavissajjanattā ekato gahitā. Yathā cete, evaṃ sabbatikadukapadesu yaṃ yaṃ padaṃ yena yena padena saddhiṃ sadisavissajjanaṃ hoti, taṃ taṃ uppaṭipāṭiyāpi tena tena saddhiṃ gahetvā vissajjitaṃ. Tattha vuttānusāreneva saṅgahāsaṅgahanayo veditabboti.
สงฺคหาสงฺคหปทวณฺณนาฯ
Saṅgahāsaṅgahapadavaṇṇanā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / ธาตุกถาปาฬิ • Dhātukathāpāḷi / ๑. สงฺคหาสงฺคหปทนิเทฺทโส • 1. Saṅgahāsaṅgahapadaniddeso
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā / ๑. ปฐมนโย สงฺคหาสงฺคหปทวณฺณนา • 1. Paṭhamanayo saṅgahāsaṅgahapadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā / ๑. ปฐมนโย สงฺคหาสงฺคหปทวณฺณนา • 1. Paṭhamanayo saṅgahāsaṅgahapadavaṇṇanā