Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā)

    ๙. ปฐมปาปณิกสุตฺตวณฺณนา

    9. Paṭhamapāpaṇikasuttavaṇṇanā

    ๑๙. นวเม ปาปณิโกติ อาปณิโก, อาปณํ อุคฺฆาเฎตฺวา ภณฺฑวิกฺกายกสฺส วาณิชเสฺสตํ อธิวจนํฯ อภโพฺพติ อภาชนภูโตฯ สกฺกจฺจํ กมฺมนฺตํ อธิฎฺฐาตีติ ยถา อธิฎฺฐิตํ สุอธิฎฺฐิตํ โหติ, เอวํ สยํ อตฺตปจฺจกฺขํ กโรโนฺต นาธิฎฺฐาติฯ ตตฺถ ปจฺจูสกาเล ปทสเทฺทน อุฎฺฐาย ทีปํ ชาเลตฺวา ภณฺฑํ ปสาเรตฺวา อนิสีทโนฺต ปุพฺพณฺหสมยํ น สกฺกจฺจํ กมฺมนฺตํ อธิฎฺฐาติ นามฯ อยํ หิ ยํ โจรา รตฺติํ ภณฺฑํ หริตฺวา ‘‘อิทํ อมฺหากํ หตฺถโต วิสฺสเชฺชสฺสามา’’ติ อาปณํ คนฺตฺวา อเปฺปน อเคฺฆน เทนฺติ, ยมฺปิ พหุเวริโน มนุสฺสา รตฺติํ นคเร วสิตฺวา ปาโตว อาปณํ คนฺตฺวา ภณฺฑํ คณฺหนฺติ, ยํ วา ปน ชนปทํ คนฺตุกามา มนุสฺสา ปาโตว อาปณํ คนฺตฺวา ภณฺฑํ กิณนฺติ, ตปฺปจฺจยสฺส ลาภสฺส อสฺสามิโก โหติฯ

    19. Navame pāpaṇikoti āpaṇiko, āpaṇaṃ ugghāṭetvā bhaṇḍavikkāyakassa vāṇijassetaṃ adhivacanaṃ. Abhabboti abhājanabhūto. Nasakkaccaṃ kammantaṃ adhiṭṭhātīti yathā adhiṭṭhitaṃ suadhiṭṭhitaṃ hoti, evaṃ sayaṃ attapaccakkhaṃ karonto nādhiṭṭhāti. Tattha paccūsakāle padasaddena uṭṭhāya dīpaṃ jāletvā bhaṇḍaṃ pasāretvā anisīdanto pubbaṇhasamayaṃ na sakkaccaṃ kammantaṃ adhiṭṭhāti nāma. Ayaṃ hi yaṃ corā rattiṃ bhaṇḍaṃ haritvā ‘‘idaṃ amhākaṃ hatthato vissajjessāmā’’ti āpaṇaṃ gantvā appena agghena denti, yampi bahuverino manussā rattiṃ nagare vasitvā pātova āpaṇaṃ gantvā bhaṇḍaṃ gaṇhanti, yaṃ vā pana janapadaṃ gantukāmā manussā pātova āpaṇaṃ gantvā bhaṇḍaṃ kiṇanti, tappaccayassa lābhassa assāmiko hoti.

    อเญฺญสํ โภชนเวลาย ปน ภุญฺชิตุํ อาคนฺตฺวา ปาโตว ภณฺฑํ ปฎิสาเมตฺวา ฆรํ คนฺตฺวา ภุญฺชิตฺวา นิทฺทายิตฺวา สายํ ปุน อาปณํ อาคจฺฉโนฺต มชฺฌนฺหิกสมยํ น สกฺกจฺจํ กมฺมนฺตํ อธิฎฺฐาติ นามฯ โส หิ ยํ โจรา ปาโตว วิสฺสเชฺชตุํ น สมฺปาปุณิํสุ, ทิวากาเล ปน ปเรสํ อสญฺจารกฺขเณ อาปณํ คนฺตฺวา อปฺปเคฺฆน เทนฺติ, ยญฺจ โภชนเวลาย ปุญฺญวโนฺต อิสฺสรา ‘‘อาปณโต อิทญฺจิทญฺจ ลทฺธุํ วฎฺฎตี’’ติ ปหิณิตฺวา อาหราเปนฺติ, ตปฺปจฺจยสฺส ลาภสฺส อสฺสามิโก โหติฯ

    Aññesaṃ bhojanavelāya pana bhuñjituṃ āgantvā pātova bhaṇḍaṃ paṭisāmetvā gharaṃ gantvā bhuñjitvā niddāyitvā sāyaṃ puna āpaṇaṃ āgacchanto majjhanhikasamayaṃ na sakkaccaṃ kammantaṃ adhiṭṭhāti nāma. So hi yaṃ corā pātova vissajjetuṃ na sampāpuṇiṃsu, divākāle pana paresaṃ asañcārakkhaṇe āpaṇaṃ gantvā appagghena denti, yañca bhojanavelāya puññavanto issarā ‘‘āpaṇato idañcidañca laddhuṃ vaṭṭatī’’ti pahiṇitvā āharāpenti, tappaccayassa lābhassa assāmiko hoti.

    ยาว ยามเภรินิกฺขมนา ปน อโนฺตอาปเณ ทีปํ ชาลาเปตฺวา อนิสีทโนฺต สายนฺหสมยํ น สกฺกจฺจํ กมฺมนฺตํ อธิฎฺฐาติ นามฯ โส หิ ยํ โจรา ปาโตปิ ทิวาปิ วิสฺสเชฺชตุํ น สมฺปาปุณิํสุ , สายํ ปน อาปณํ คนฺตฺวา อปฺปเคฺฆน เทนฺติ, ตปฺปจฺจยสฺส ลาภสฺส อสฺสามิโก โหติฯ

    Yāva yāmabherinikkhamanā pana antoāpaṇe dīpaṃ jālāpetvā anisīdanto sāyanhasamayaṃ na sakkaccaṃ kammantaṃ adhiṭṭhāti nāma. So hi yaṃ corā pātopi divāpi vissajjetuṃ na sampāpuṇiṃsu , sāyaṃ pana āpaṇaṃ gantvā appagghena denti, tappaccayassa lābhassa assāmiko hoti.

    น สกฺกจฺจํ สมาธินิมิตฺตํ อธิฎฺฐาตีติ สกฺกจฺจกิริยาย สมาธิํ น สมาปชฺชติฯ เอตฺถ จ ปาโตว เจติยงฺคณโพธิยงฺคเณสุ วตฺตํ กตฺวา เสนาสนํ ปวิสิตฺวา ยาว ภิกฺขาจารเวลา, ตาว สมาปตฺติํ อเปฺปตฺวา อนิสีทโนฺต ปุพฺพณฺหสมยํ น สกฺกจฺจํ สมาธินิมิตฺตํ อธิฎฺฐาติ นามฯ ปจฺฉาภตฺตํ ปน ปิณฺฑปาตปฎิกฺกโนฺต รตฺติฎฺฐานทิวาฎฺฐานํ ปวิสิตฺวา ยาว สายนฺหสมยา สมาปตฺติํ อเปฺปตฺวา อนิสีทโนฺต มชฺฌนฺหิกสมยํ น สกฺกจฺจํ สมาธินิมิตฺตํ อธิฎฺฐาติ นามฯ สายํ ปน เจติยํ วนฺทิตฺวา เถรูปฎฺฐานํ กตฺวา เสนาสนํ ปวิสิตฺวา ปฐมยามํ สมาปตฺติํ สมาปชฺชิตฺวา อนิสีทโนฺต สายนฺหสมยํ น สกฺกจฺจํ สมาธินิมิตฺตํ อธิฎฺฐาติ นามฯ สุกฺกปโกฺข วุตฺตปฎิปกฺขนเยเนว เวทิตโพฺพฯ อปิเจตฺถ ‘‘สมาปตฺติํ อเปฺปตฺวา’’ติ วุตฺตฎฺฐาเน สมาปตฺติยา อสติ วิปสฺสนาปิ วฎฺฎติ, สมาธินิมิตฺตนฺติ จ สมาธิอารมฺมณมฺปิ วฎฺฎติเยวฯ วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘สมาธิปิ สมาธินิมิตฺตํ, สมาธารมฺมณมฺปิ สมาธินิมิตฺต’’นฺติฯ

    Na sakkaccaṃ samādhinimittaṃ adhiṭṭhātīti sakkaccakiriyāya samādhiṃ na samāpajjati. Ettha ca pātova cetiyaṅgaṇabodhiyaṅgaṇesu vattaṃ katvā senāsanaṃ pavisitvā yāva bhikkhācāravelā, tāva samāpattiṃ appetvā anisīdanto pubbaṇhasamayaṃ na sakkaccaṃ samādhinimittaṃ adhiṭṭhāti nāma. Pacchābhattaṃ pana piṇḍapātapaṭikkanto rattiṭṭhānadivāṭṭhānaṃ pavisitvā yāva sāyanhasamayā samāpattiṃ appetvā anisīdanto majjhanhikasamayaṃ na sakkaccaṃ samādhinimittaṃ adhiṭṭhāti nāma. Sāyaṃ pana cetiyaṃ vanditvā therūpaṭṭhānaṃ katvā senāsanaṃ pavisitvā paṭhamayāmaṃ samāpattiṃ samāpajjitvā anisīdanto sāyanhasamayaṃ na sakkaccaṃ samādhinimittaṃ adhiṭṭhāti nāma. Sukkapakkho vuttapaṭipakkhanayeneva veditabbo. Apicettha ‘‘samāpattiṃ appetvā’’ti vuttaṭṭhāne samāpattiyā asati vipassanāpi vaṭṭati, samādhinimittanti ca samādhiārammaṇampi vaṭṭatiyeva. Vuttampi cetaṃ – ‘‘samādhipi samādhinimittaṃ, samādhārammaṇampi samādhinimitta’’nti.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๙. ปฐมปาปณิกสุตฺตํ • 9. Paṭhamapāpaṇikasuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๙. ปฐมปาปณิกสุตฺตวณฺณนา • 9. Paṭhamapāpaṇikasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact