Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ภิกฺขุนีวิภงฺค • Bhikkhunīvibhaṅga |
ฯ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ
Namo tassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa
ภิกฺขุนีวิภโงฺค
Bhikkhunīvibhaṅgo
๑. ปาราชิกกณฺฑํ (ภิกฺขุนีวิภโงฺค)
1. Pārājikakaṇḍaṃ (bhikkhunīvibhaṅgo)
๑. ปฐมปาราชิกํ
1. Paṭhamapārājikaṃ
๖๕๖. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน สาโฬฺห มิคารนตฺตา ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส วิหารํ กตฺตุกาโม โหติฯ อถ โข สาโฬฺห มิคารนตฺตา ภิกฺขุนิโย อุปสงฺกมิตฺวา เอตทโวจ – ‘‘อิจฺฉามหํ, อเยฺย, ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส วิหารํ กาตุํฯ เทถ เม นวกมฺมิกํ ภิกฺขุนิ’’นฺติฯ เตน โข ปน สมเยน จตโสฺส ภคินิโย ภิกฺขุนีสุ ปพฺพชิตา โหนฺติ – นนฺทา, นนฺทวตี, สุนฺทรีนนฺทา, ถุลฺลนนฺทาติฯ ตาสุ สุนฺทรีนนฺทา ภิกฺขุนี ตรุณปพฺพชิตา อภิรูปา โหติ ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปณฺฑิตา พฺยตฺตา เมธาวินี ทกฺขา อนลสา, ตตฺรุปายาย วีมํสาย สมนฺนาคตา, อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุํฯ อถ โข ภิกฺขุนิสโงฺฆ สุนฺทรีนนฺทํ ภิกฺขุนิํ สมฺมนฺนิตฺวา สาฬฺหสฺส มิคารนตฺตุโน นวกมฺมิกํ อทาสิฯ เตน โข ปน สมเยน สุนฺทรีนนฺทา ภิกฺขุนี สาฬฺหสฺส มิคารนตฺตุโน นิเวสนํ อภิกฺขณํ คจฺฉติ – ‘‘วาสิํ เทถ, ปรสุํ 1 เทถ, กุฐาริํ 2 เทถ, กุทฺทาลํ เทถ, นิขาทนํ เทถา’’ติฯ สาโฬฺหปิ มิคารนตฺตา ภิกฺขุนุปสฺสยํ อภิกฺขณํ คจฺฉติ กตากตํ ชานิตุํฯ เต อภิณฺหทสฺสเนน ปฎิพทฺธจิตฺตา อเหสุํฯ
656. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena sāḷho migāranattā bhikkhunisaṅghassa vihāraṃ kattukāmo hoti. Atha kho sāḷho migāranattā bhikkhuniyo upasaṅkamitvā etadavoca – ‘‘icchāmahaṃ, ayye, bhikkhunisaṅghassa vihāraṃ kātuṃ. Detha me navakammikaṃ bhikkhuni’’nti. Tena kho pana samayena catasso bhaginiyo bhikkhunīsu pabbajitā honti – nandā, nandavatī, sundarīnandā, thullanandāti. Tāsu sundarīnandā bhikkhunī taruṇapabbajitā abhirūpā hoti dassanīyā pāsādikā paṇḍitā byattā medhāvinī dakkhā analasā, tatrupāyāya vīmaṃsāya samannāgatā, alaṃ kātuṃ alaṃ saṃvidhātuṃ. Atha kho bhikkhunisaṅgho sundarīnandaṃ bhikkhuniṃ sammannitvā sāḷhassa migāranattuno navakammikaṃ adāsi. Tena kho pana samayena sundarīnandā bhikkhunī sāḷhassa migāranattuno nivesanaṃ abhikkhaṇaṃ gacchati – ‘‘vāsiṃ detha, parasuṃ 3 detha, kuṭhāriṃ 4 detha, kuddālaṃ detha, nikhādanaṃ dethā’’ti. Sāḷhopi migāranattā bhikkhunupassayaṃ abhikkhaṇaṃ gacchati katākataṃ jānituṃ. Te abhiṇhadassanena paṭibaddhacittā ahesuṃ.
อถ โข สาโฬฺห มิคารนตฺตา สุนฺทรีนนฺทํ ภิกฺขุนิํ ทูเสตุํ โอกาสํ อลภมาโน เอตเทวตฺถาย ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส ภตฺตํ อกาสิฯ อถ โข สาโฬฺห มิคารนตฺตา ภตฺตเคฺค อาสนํ ปญฺญเปโนฺต – ‘‘เอตฺตกา ภิกฺขุนิโย อยฺยาย สุนฺทรีนนฺทาย วุฑฺฒตรา’’ติ เอกมนฺตํ อาสนํ ปญฺญเปสิ ‘‘เอตฺตกา นวกตรา’’ติ – เอกมนฺตํ อาสนํ ปญฺญเปสิฯ ปฎิจฺฉเนฺน โอกาเส นิกูเฎ สุนฺทรีนนฺทาย ภิกฺขุนิยา อาสนํ ปญฺญเปสิ, ยถา เถรา ภิกฺขุนิโย ชาเนยฺยุํ – ‘‘นวกานํ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก นิสินฺนา’’ติ; นวกาปิ ภิกฺขุนิโย ชาเนยฺยุํ – ‘‘เถรานํ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก นิสินฺนา’’ติฯ อถ โข สาโฬฺห มิคารนตฺตา ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, อเยฺย, นิฎฺฐิตํ ภตฺต’’นฺติฯ สุนฺทรีนนฺทา ภิกฺขุนี สลฺลเกฺขตฺวา – ‘‘น พหุกโต สาโฬฺห มิคารนตฺตา ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส ภตฺตํ อกาสิ; มํ โส ทูเสตุกาโมฯ สจาหํ คมิสฺสามิ วิสฺสโร เม ภวิสฺสตี’’ติ, อเนฺตวาสินิํ ภิกฺขุนิํ อาณาเปสิ – ‘‘คจฺฉ เม ปิณฺฑปาตํ นีหรฯ โย เจ มํ ปุจฺฉติ, ‘คิลานา’ติ ปฎิเวเทหี’’ติฯ ‘‘เอวํ, อเยฺย’’ติ โข สา ภิกฺขุนี สุนฺทรีนนฺทาย ภิกฺขุนิยา ปจฺจโสฺสสิฯ
Atha kho sāḷho migāranattā sundarīnandaṃ bhikkhuniṃ dūsetuṃ okāsaṃ alabhamāno etadevatthāya bhikkhunisaṅghassa bhattaṃ akāsi. Atha kho sāḷho migāranattā bhattagge āsanaṃ paññapento – ‘‘ettakā bhikkhuniyo ayyāya sundarīnandāya vuḍḍhatarā’’ti ekamantaṃ āsanaṃ paññapesi ‘‘ettakā navakatarā’’ti – ekamantaṃ āsanaṃ paññapesi. Paṭicchanne okāse nikūṭe sundarīnandāya bhikkhuniyā āsanaṃ paññapesi, yathā therā bhikkhuniyo jāneyyuṃ – ‘‘navakānaṃ bhikkhunīnaṃ santike nisinnā’’ti; navakāpi bhikkhuniyo jāneyyuṃ – ‘‘therānaṃ bhikkhunīnaṃ santike nisinnā’’ti. Atha kho sāḷho migāranattā bhikkhunisaṅghassa kālaṃ ārocāpesi – ‘‘kālo, ayye, niṭṭhitaṃ bhatta’’nti. Sundarīnandā bhikkhunī sallakkhetvā – ‘‘na bahukato sāḷho migāranattā bhikkhunisaṅghassa bhattaṃ akāsi; maṃ so dūsetukāmo. Sacāhaṃ gamissāmi vissaro me bhavissatī’’ti, antevāsiniṃ bhikkhuniṃ āṇāpesi – ‘‘gaccha me piṇḍapātaṃ nīhara. Yo ce maṃ pucchati, ‘gilānā’ti paṭivedehī’’ti. ‘‘Evaṃ, ayye’’ti kho sā bhikkhunī sundarīnandāya bhikkhuniyā paccassosi.
เตน โข ปน สมเยน สาโฬฺห มิคารนตฺตา พหิทฺวารโกฎฺฐเก ฐิโต โหติ สุนฺทรีนนฺทํ ภิกฺขุนิํ ปฎิปุจฺฉโนฺต – ‘‘กหํ, อเยฺย, อยฺยา สุนฺทรีนนฺทา? กหํ, อเยฺย, อยฺยา สุนฺทรีนนฺทา’’ติ? เอวํ วุเตฺต สุนฺทรีนนฺทาย ภิกฺขุนิยา อเนฺตวาสินี ภิกฺขุนี สาฬฺหํ มิคารนตฺตารํ เอตทโวจ – ‘‘คิลานาวุโส; ปิณฺฑปาตํ นีหริสฺสามี’’ติฯ อถ โข สาโฬฺห มิคารนตฺตา – ‘‘ยมฺปาหํ อตฺถาย 5 ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส ภตฺตํ อกาสิํ อยฺยาย สุนฺทรีนนฺทาย การณา’’ติ มนุเสฺส อาณาเปตฺวา – ‘‘ภิกฺขุนิสงฺฆํ ภเตฺตน ปริวิสถา’’ติ วตฺวา เยน ภิกฺขุนุปสฺสโย เตนุปสงฺกมิฯ เตน โข ปน สมเยน สุนฺทรีนนฺทา ภิกฺขุนี พหารามโกฎฺฐเก ฐิตา โหติ สาฬฺหํ มิคารนตฺตารํ ปติมาเนนฺตีฯ อทฺทสา โข สุนฺทรีนนฺทา ภิกฺขุนี สาฬฺหํ มิคารนตฺตารํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํฯ ทิสฺวาน อุปสฺสยํ ปวิสิตฺวา สสีสํ ปารุปิตฺวา มญฺจเก นิปชฺชิฯ อถ โข สาโฬฺห มิคารนตฺตา เยน สุนฺทรีนนฺทา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา สุนฺทรีนนฺทํ ภิกฺขุนิํ เอตทโวจ – ‘‘กิํ เต, อเยฺย, อผาสุ, กิสฺส นิปนฺนาสี’’ติ? ‘‘เอวเญฺหตํ, อาวุโส, โหติ ยา อนิจฺฉนฺตํ อิจฺฉตี’’ติฯ ‘‘กฺยาหํ ตํ, อเยฺย , น อิจฺฉิสฺสามิ? อปิ จาหํ โอกาสํ น ลภามิ ตํ ทูเสตุ’’นฺติฯ อวสฺสุโต อวสฺสุตาย สุนฺทรีนนฺทาย ภิกฺขุนิยา กายสํสคฺคํ สมาปชฺชิฯ
Tena kho pana samayena sāḷho migāranattā bahidvārakoṭṭhake ṭhito hoti sundarīnandaṃ bhikkhuniṃ paṭipucchanto – ‘‘kahaṃ, ayye, ayyā sundarīnandā? Kahaṃ, ayye, ayyā sundarīnandā’’ti? Evaṃ vutte sundarīnandāya bhikkhuniyā antevāsinī bhikkhunī sāḷhaṃ migāranattāraṃ etadavoca – ‘‘gilānāvuso; piṇḍapātaṃ nīharissāmī’’ti. Atha kho sāḷho migāranattā – ‘‘yampāhaṃ atthāya 6 bhikkhunisaṅghassa bhattaṃ akāsiṃ ayyāya sundarīnandāya kāraṇā’’ti manusse āṇāpetvā – ‘‘bhikkhunisaṅghaṃ bhattena parivisathā’’ti vatvā yena bhikkhunupassayo tenupasaṅkami. Tena kho pana samayena sundarīnandā bhikkhunī bahārāmakoṭṭhake ṭhitā hoti sāḷhaṃ migāranattāraṃ patimānentī. Addasā kho sundarīnandā bhikkhunī sāḷhaṃ migāranattāraṃ dūratova āgacchantaṃ. Disvāna upassayaṃ pavisitvā sasīsaṃ pārupitvā mañcake nipajji. Atha kho sāḷho migāranattā yena sundarīnandā bhikkhunī tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā sundarīnandaṃ bhikkhuniṃ etadavoca – ‘‘kiṃ te, ayye, aphāsu, kissa nipannāsī’’ti? ‘‘Evañhetaṃ, āvuso, hoti yā anicchantaṃ icchatī’’ti. ‘‘Kyāhaṃ taṃ, ayye , na icchissāmi? Api cāhaṃ okāsaṃ na labhāmi taṃ dūsetu’’nti. Avassuto avassutāya sundarīnandāya bhikkhuniyā kāyasaṃsaggaṃ samāpajji.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรา ภิกฺขุนี ชราทุพฺพลา จรณคิลานา สุนฺทรีนนฺทาย ภิกฺขุนิยา อวิทูเร นิปนฺนา โหติฯ อทฺทสา โข สา ภิกฺขุนี สาฬฺหํ มิคารนตฺตารํ อวสฺสุตํ อวสฺสุตาย สุนฺทรีนนฺทาย ภิกฺขุนิยา กายสํสคฺคํ สมาปชฺชนฺตํฯ ทิสฺวาน อุชฺฌายติ ขิยฺยติ วิปาเจติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อยฺยา สุนฺทรีนนฺทา อวสฺสุตา อวสฺสุตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส กายสํสคฺคํ สาทิยิสฺสตี’’ติ ! อถ โข สา ภิกฺขุนี ภิกฺขุนีนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ยา ตา ภิกฺขุนิโย อปฺปิจฺฉา สนฺตุฎฺฐา ลชฺชินิโย กุกฺกุจฺจิกา สิกฺขากามา ตา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อยฺยา สุนฺทรีนนฺทา อวสฺสุตา อวสฺสุตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส กายสํสคฺคํ สาทิยิสฺสตี’’ติ! อถ โข ตา ภิกฺขุนิโย ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา สนฺตุฎฺฐา ลชฺชิโน กุกฺกุจฺจกา สิกฺขากามา เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สุนฺทรีนนฺทา ภิกฺขุนี อวสฺสุตา อวสฺสุตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส กายสํสคฺคํ สาทิยิสฺสตี’’ติ!
Tena kho pana samayena aññatarā bhikkhunī jarādubbalā caraṇagilānā sundarīnandāya bhikkhuniyā avidūre nipannā hoti. Addasā kho sā bhikkhunī sāḷhaṃ migāranattāraṃ avassutaṃ avassutāya sundarīnandāya bhikkhuniyā kāyasaṃsaggaṃ samāpajjantaṃ. Disvāna ujjhāyati khiyyati vipāceti – ‘‘kathañhi nāma ayyā sundarīnandā avassutā avassutassa purisapuggalassa kāyasaṃsaggaṃ sādiyissatī’’ti ! Atha kho sā bhikkhunī bhikkhunīnaṃ etamatthaṃ ārocesi. Yā tā bhikkhuniyo appicchā santuṭṭhā lajjiniyo kukkuccikā sikkhākāmā tā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma ayyā sundarīnandā avassutā avassutassa purisapuggalassa kāyasaṃsaggaṃ sādiyissatī’’ti! Atha kho tā bhikkhuniyo bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesuṃ. Ye te bhikkhū appicchā santuṭṭhā lajjino kukkuccakā sikkhākāmā te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma sundarīnandā bhikkhunī avassutā avassutassa purisapuggalassa kāyasaṃsaggaṃ sādiyissatī’’ti!
อถ โข เต ภิกฺขู สุนฺทรีนนฺทํ ภิกฺขุนิํ อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ภิกฺขู ปฎิปุจฺฉิ – ‘‘สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว, สุนฺทรีนนฺทา ภิกฺขุนี อวสฺสุตา อวสฺสุตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส กายสํสคฺคํ สาทิยตี’’ติ 7? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา – ‘‘อนนุจฺฉวิกํ, ภิกฺขเว, สุนฺทรีนนฺทาย ภิกฺขุนิยา อนนุโลมิกํ อปฺปติรูปํ อสฺสามณกํ อกปฺปิยํ อกรณียํฯ กถญฺหิ นาม, ภิกฺขเว, สุนฺทรีนนฺทา ภิกฺขุนี อวสฺสุตา อวสฺสุตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส กายสํสคฺคํ สาทิยิสฺสติ! เนตํ, ภิกฺขเว, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย ปสนฺนานํ วา ภิโยฺยภาวายฯ อถ เขฺวตํ, ภิกฺขเว , อปฺปสนฺนานเญฺจว อปฺปสาทาย ปสนฺนานญฺจ เอกจฺจานํ อญฺญถตฺตายา’’ติฯ อถ โข ภควา สุนฺทรีนนฺทํ ภิกฺขุนิํ อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ทุพฺภรตาย ทุโปฺปสตาย มหิจฺฉตาย อสนฺตุฎฺฐิตาย 8 สงฺคณิกาย โกสชฺชสฺส อวณฺณํ ภาสิตฺวา, อเนกปริยาเยน สุภรตาย สุโปสตาย อปฺปิจฺฉสฺส สนฺตุฎฺฐสฺส 9 สเลฺลขสฺส ธุตสฺส ปาสาทิกสฺส อปจยสฺส วีริยารมฺภสฺส วณฺณํ ภาสิตฺวา, ภิกฺขูนํ ตทนุจฺฉวิกํ ตทนุโลมิกํ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนีนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญเปสฺสามิ ทส อตฺถวเส ปฎิจฺจ – สงฺฆสุฎฺฐุตาย, สงฺฆผาสุตาย, ทุมฺมงฺกูนํ ภิกฺขุนีนํ นิคฺคหาย , เปสลานํ ภิกฺขุนีนํ ผาสุวิหาราย, ทิฎฺฐธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวราย, สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฎิฆาตาย, อปฺปสนฺนานํ ปสาทาย, ปสนฺนานํ ภิโยฺยภาวาย, สทฺธมฺมฎฺฐิติยา วินยานุคฺคหายฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิโย อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิสนฺตุ –
Atha kho te bhikkhū sundarīnandaṃ bhikkhuniṃ anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe bhikkhusaṅghaṃ sannipātāpetvā bhikkhū paṭipucchi – ‘‘saccaṃ kira, bhikkhave, sundarīnandā bhikkhunī avassutā avassutassa purisapuggalassa kāyasaṃsaggaṃ sādiyatī’’ti 10? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā – ‘‘ananucchavikaṃ, bhikkhave, sundarīnandāya bhikkhuniyā ananulomikaṃ appatirūpaṃ assāmaṇakaṃ akappiyaṃ akaraṇīyaṃ. Kathañhi nāma, bhikkhave, sundarīnandā bhikkhunī avassutā avassutassa purisapuggalassa kāyasaṃsaggaṃ sādiyissati! Netaṃ, bhikkhave, appasannānaṃ vā pasādāya pasannānaṃ vā bhiyyobhāvāya. Atha khvetaṃ, bhikkhave , appasannānañceva appasādāya pasannānañca ekaccānaṃ aññathattāyā’’ti. Atha kho bhagavā sundarīnandaṃ bhikkhuniṃ anekapariyāyena vigarahitvā dubbharatāya dupposatāya mahicchatāya asantuṭṭhitāya 11 saṅgaṇikāya kosajjassa avaṇṇaṃ bhāsitvā, anekapariyāyena subharatāya suposatāya appicchassa santuṭṭhassa 12 sallekhassa dhutassa pāsādikassa apacayassa vīriyārambhassa vaṇṇaṃ bhāsitvā, bhikkhūnaṃ tadanucchavikaṃ tadanulomikaṃ dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘tena hi, bhikkhave, bhikkhunīnaṃ sikkhāpadaṃ paññapessāmi dasa atthavase paṭicca – saṅghasuṭṭhutāya, saṅghaphāsutāya, dummaṅkūnaṃ bhikkhunīnaṃ niggahāya , pesalānaṃ bhikkhunīnaṃ phāsuvihārāya, diṭṭhadhammikānaṃ āsavānaṃ saṃvarāya, samparāyikānaṃ āsavānaṃ paṭighātāya, appasannānaṃ pasādāya, pasannānaṃ bhiyyobhāvāya, saddhammaṭṭhitiyā vinayānuggahāya. Evañca pana, bhikkhave, bhikkhuniyo imaṃ sikkhāpadaṃ uddisantu –
๖๕๗. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี อวสฺสุตา อวสฺสุตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑลํ อามสนํ วา ปรามสนํ วา คหณํ วา ฉุปนํ วา ปฎิปีฬนํ วา สาทิเยยฺย, อยมฺปิ ปาราชิกา โหติ อสํวาสา อุพฺภชาณุมณฺฑลิกา’’ติฯ
657.‘‘Yā pana bhikkhunī avassutā avassutassa purisapuggalassa adhakkhakaṃ ubbhajāṇumaṇḍalaṃ āmasanaṃ vā parāmasanaṃ vā gahaṇaṃ vā chupanaṃ vā paṭipīḷanaṃ vā sādiyeyya, ayampi pārājikā hoti asaṃvāsā ubbhajāṇumaṇḍalikā’’ti.
๖๕๘. ยา ปนาติ ยา ยาทิสา ยถายุตฺตา ยถาชจฺจา ยถานามา ยถาโคตฺตา ยถาสีลา ยถาวิหารินี ยถาโคจรา เถรา วา นวา วา มชฺฌิมา วา, เอสา วุจฺจติ ยา ปนาติฯ
658.Yāpanāti yā yādisā yathāyuttā yathājaccā yathānāmā yathāgottā yathāsīlā yathāvihārinī yathāgocarā therā vā navā vā majjhimā vā, esā vuccati yā panāti.
ภิกฺขุนีติ ภิกฺขิกาติ ภิกฺขุนี; ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคตาติ ภิกฺขุนี; ภินฺนปฎธราติ ภิกฺขุนี ; สมญฺญาย ภิกฺขุนี; ปฎิญฺญาย ภิกฺขุนี; เอหิ ภิกฺขุนีติ ภิกฺขุนี; ตีหิ สรณคมเนหิ อุปสมฺปนฺนาติ ภิกฺขุนี; ภทฺรา ภิกฺขุนี; สารา ภิกฺขุนี; เสขา ภิกฺขุนี; อเสขา ภิกฺขุนี; สมเคฺคน อุภโตสเงฺฆน ญตฺติจตุเตฺถน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน อุปสมฺปนฺนาติ ภิกฺขุนีฯ ตตฺร ยายํ ภิกฺขุนี สมเคฺคน อุภโตสเงฺฆน ญตฺติจตุเตฺถน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน อุปสมฺปนฺนา, อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปตา ภิกฺขุนีติฯ
Bhikkhunīti bhikkhikāti bhikkhunī; bhikkhācariyaṃ ajjhupagatāti bhikkhunī; bhinnapaṭadharāti bhikkhunī ; samaññāya bhikkhunī; paṭiññāya bhikkhunī; ehi bhikkhunīti bhikkhunī; tīhi saraṇagamanehi upasampannāti bhikkhunī; bhadrā bhikkhunī; sārā bhikkhunī; sekhā bhikkhunī; asekhā bhikkhunī; samaggena ubhatosaṅghena ñatticatutthena kammena akuppena ṭhānārahena upasampannāti bhikkhunī. Tatra yāyaṃ bhikkhunī samaggena ubhatosaṅghena ñatticatutthena kammena akuppena ṭhānārahena upasampannā, ayaṃ imasmiṃ atthe adhippetā bhikkhunīti.
อวสฺสุตา นาม สารตฺตา อเปกฺขวตี ปฎิพทฺธจิตฺตาฯ
Avassutā nāma sārattā apekkhavatī paṭibaddhacittā.
อวสฺสุโต นาม สารโตฺต อเปกฺขวา ปฎิพทฺธจิโตฺตฯ
Avassuto nāma sāratto apekkhavā paṭibaddhacitto.
ปุริสปุคฺคโล นาม มนุสฺสปุริโส น ยโกฺข น เปโต น ติรจฺฉานคโต วิญฺญู ปฎิพโล กายสํสคฺคํ สมาปชฺชิตุํฯ
Purisapuggalo nāma manussapuriso na yakkho na peto na tiracchānagato viññū paṭibalo kāyasaṃsaggaṃ samāpajjituṃ.
อธกฺขกนฺติ เหฎฺฐกฺขกํฯ
Adhakkhakanti heṭṭhakkhakaṃ.
อุพฺภชาณุมณฺฑลนฺติ อุปริชาณุมณฺฑลํฯ
Ubbhajāṇumaṇḍalanti uparijāṇumaṇḍalaṃ.
อามสนํ นาม อามฎฺฐมตฺตํฯ
Āmasanaṃ nāma āmaṭṭhamattaṃ.
ปรามสนํ นาม อิโตจิโต จ สโญฺจปนํฯ
Parāmasanaṃ nāma itocito ca sañcopanaṃ.
คหณํ นาม คหิตมตฺตํฯ
Gahaṇaṃ nāma gahitamattaṃ.
ฉุปนํ นาม ผุฎฺฐมตฺตํฯ
Chupanaṃ nāma phuṭṭhamattaṃ.
ปฎิปีฬนํ วา สาทิเยยฺยาติ องฺคํ คเหตฺวา นิปฺปีฬนํ สาทิยติฯ
Paṭipīḷanaṃvā sādiyeyyāti aṅgaṃ gahetvā nippīḷanaṃ sādiyati.
อยมฺปีติ ปุริมาโย อุปาทาย วุจฺจติฯ
Ayampīti purimāyo upādāya vuccati.
ปาราชิกา โหตีติ เสยฺยถาปิ นาม ปุริโส สีสจฺฉิโนฺน อภโพฺพ เตน สรีรพนฺธเนน ชีวิตุํ, เอวเมว ภิกฺขุนี อวสฺสุตา อวสฺสุตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑลํ อามสนํ วา ปรามสนํ วา คหณํ วา ฉุปนํ วา ปฎิปีฬนํ วา สาทิยนฺตี อสฺสมณี โหติ อสกฺยธีตาฯ เตน วุจฺจติ ปาราชิกา โหตีติฯ
Pārājikā hotīti seyyathāpi nāma puriso sīsacchinno abhabbo tena sarīrabandhanena jīvituṃ, evameva bhikkhunī avassutā avassutassa purisapuggalassa adhakkhakaṃ ubbhajāṇumaṇḍalaṃ āmasanaṃ vā parāmasanaṃ vā gahaṇaṃ vā chupanaṃ vā paṭipīḷanaṃ vā sādiyantī assamaṇī hoti asakyadhītā. Tena vuccati pārājikā hotīti.
อสํวาสาติ สํวาโส นาม เอกกมฺมํ เอกุเทฺทโส สมสิกฺขตา, เอโส สํวาโส นามฯ โส ตาย สทฺธิํ นตฺถิ, เตน วุจฺจติ อสํวาสาติฯ
Asaṃvāsāti saṃvāso nāma ekakammaṃ ekuddeso samasikkhatā, eso saṃvāso nāma. So tāya saddhiṃ natthi, tena vuccati asaṃvāsāti.
๖๕๙. อุภโตอวสฺสุเต อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑลํ กาเยน กายํ อามสติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ กาเยน กายปฎิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ กายปฎิพเทฺธน กายํ อามสติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ กายปฎิพเทฺธน กายปฎิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
659. Ubhatoavassute adhakkhakaṃ ubbhajāṇumaṇḍalaṃ kāyena kāyaṃ āmasati, āpatti pārājikassa. Kāyena kāyapaṭibaddhaṃ āmasati, āpatti thullaccayassa. Kāyapaṭibaddhena kāyaṃ āmasati, āpatti thullaccayassa. Kāyapaṭibaddhena kāyapaṭibaddhaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa.
นิสฺสคฺคิเยน กายํ อามสติ , อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นิสฺสคฺคิเยน กายปฎิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
Nissaggiyena kāyaṃ āmasati , āpatti dukkaṭassa. Nissaggiyena kāyapaṭibaddhaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Nissaggiyena nissaggiyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa.
อุพฺภกฺขกํ อโธชาณุมณฺฑลํ กาเยน กายํ อามสติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ กาเยน กายปฎิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ กายปฎิพเทฺธน กายํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ กายปฎิพเทฺธน กายปฎิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
Ubbhakkhakaṃ adhojāṇumaṇḍalaṃ kāyena kāyaṃ āmasati, āpatti thullaccayassa. Kāyena kāyapaṭibaddhaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Kāyapaṭibaddhena kāyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Kāyapaṭibaddhena kāyapaṭibaddhaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa.
นิสฺสคฺคิเยน กายํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นิสฺสคฺคิเยน กายปฎิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
Nissaggiyena kāyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Nissaggiyena kāyapaṭibaddhaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Nissaggiyena nissaggiyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa.
๖๖๐. เอกโตอวสฺสุเต อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑลํ กาเยน กายํ อามสติ , อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ กาเยน กายปฎิพทฺธํ อามสติ , อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ กายปฎิพเทฺธน กายํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ กายปฎิพเทฺธน กายปฎิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
660. Ekatoavassute adhakkhakaṃ ubbhajāṇumaṇḍalaṃ kāyena kāyaṃ āmasati , āpatti thullaccayassa. Kāyena kāyapaṭibaddhaṃ āmasati , āpatti dukkaṭassa. Kāyapaṭibaddhena kāyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Kāyapaṭibaddhena kāyapaṭibaddhaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa.
นิสฺสคฺคิเยน กายํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นิสฺสคฺคิเยน กายปฎิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
Nissaggiyena kāyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Nissaggiyena kāyapaṭibaddhaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Nissaggiyena nissaggiyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa.
อุพฺภกฺขกํ อโธชาณุมณฺฑลํ กาเยน กายํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ กาเยน กายปฎิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ กายปฎิพเทฺธน กายํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ กายปฎิพเทฺธน กายปฎิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
Ubbhakkhakaṃ adhojāṇumaṇḍalaṃ kāyena kāyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Kāyena kāyapaṭibaddhaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Kāyapaṭibaddhena kāyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Kāyapaṭibaddhena kāyapaṭibaddhaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa.
นิสฺสคฺคิเยน กายํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นิสฺสคฺคิเยน กายปฎิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
Nissaggiyena kāyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Nissaggiyena kāyapaṭibaddhaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Nissaggiyena nissaggiyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa.
๖๖๑. อุภโตอวสฺสุเต ยกฺขสฺส วา เปตสฺส วา ปณฺฑกสฺส วา ติรจฺฉานคตมนุสฺสวิคฺคหสฺส วา อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑลํ กาเยน กายํ อามสติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ กาเยน กายปฎิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ กายปฎิพเทฺธน กายํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ กายปฎิพเทฺธน กายปฎิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
661. Ubhatoavassute yakkhassa vā petassa vā paṇḍakassa vā tiracchānagatamanussaviggahassa vā adhakkhakaṃ ubbhajāṇumaṇḍalaṃ kāyena kāyaṃ āmasati, āpatti thullaccayassa. Kāyena kāyapaṭibaddhaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Kāyapaṭibaddhena kāyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Kāyapaṭibaddhena kāyapaṭibaddhaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa.
นิสฺสคฺคิเยน กายํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นิสฺสคฺคิเยน กายปฎิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
Nissaggiyena kāyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Nissaggiyena kāyapaṭibaddhaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Nissaggiyena nissaggiyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa.
อุพฺภกฺขกํ อโธชาณุมณฺฑลํ กาเยน กายํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ กาเยน กายปฎิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ กายปฎิพเทฺธน กายํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ กายปฎิพเทฺธน กายปฎิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
Ubbhakkhakaṃ adhojāṇumaṇḍalaṃ kāyena kāyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Kāyena kāyapaṭibaddhaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Kāyapaṭibaddhena kāyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Kāyapaṭibaddhena kāyapaṭibaddhaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa.
นิสฺสคฺคิเยน กายํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นิสฺสคฺคิเยน กายปฎิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
Nissaggiyena kāyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Nissaggiyena kāyapaṭibaddhaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Nissaggiyena nissaggiyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa.
๖๖๒. เอกโตอวสฺสุเต อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑลํ กาเยน กายํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ กาเยน กายปฎิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ กายปฎิพเทฺธน กายํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ กายปฎิพเทฺธน กายปฎิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
662. Ekatoavassute adhakkhakaṃ ubbhajāṇumaṇḍalaṃ kāyena kāyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Kāyena kāyapaṭibaddhaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Kāyapaṭibaddhena kāyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Kāyapaṭibaddhena kāyapaṭibaddhaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa.
นิสฺสคฺคิเยน กายํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นิสฺสคฺคิเยน กายปฎิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
Nissaggiyena kāyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Nissaggiyena kāyapaṭibaddhaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Nissaggiyena nissaggiyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa.
อุพฺภกฺขกํ อโธชาณุมณฺฑลํ กาเยน กายํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ กาเยน กายปฎิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ กายปฎิพเทฺธน กายํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ กายปฎิพเทฺธน กายปฎิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
Ubbhakkhakaṃ adhojāṇumaṇḍalaṃ kāyena kāyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Kāyena kāyapaṭibaddhaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Kāyapaṭibaddhena kāyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Kāyapaṭibaddhena kāyapaṭibaddhaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa.
นิสฺสคฺคิเยน กายํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นิสฺสคฺคิเยน กายปฎิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
Nissaggiyena kāyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Nissaggiyena kāyapaṭibaddhaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Nissaggiyena nissaggiyaṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa.
๖๖๓. อนาปตฺติ อสญฺจิจฺจ, อสฺสติยา, อชานนฺติยา, อสาทิยนฺติยา, อุมฺมตฺติกาย, ขิตฺตจิตฺตาย, เวทนาฎฺฎาย, อาทิกมฺมิกายาติฯ
663. Anāpatti asañcicca, assatiyā, ajānantiyā, asādiyantiyā, ummattikāya, khittacittāya, vedanāṭṭāya, ādikammikāyāti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / ภิกฺขุนีวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Bhikkhunīvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๑. ปฐมปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Paṭhamapārājikasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๑. ปฐมปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Paṭhamapārājikasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๑. ปฐมปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Paṭhamapārājikasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๑. อุพฺภชาณุมณฺฑลิกสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Ubbhajāṇumaṇḍalikasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๑. ปฐมปาราชิกสิกฺขาปทํ • 1. Paṭhamapārājikasikkhāpadaṃ