Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga

    ๑. ปาราชิกกณฺฑํ

    1. Pārājikakaṇḍaṃ

    ๑. ปฐมปาราชิกํ

    1. Paṭhamapārājikaṃ

    สุทินฺนภาณวาโร

    Sudinnabhāṇavāro

    ๒๔. เตน โข ปน สมเยน เวสาลิยา อวิทูเร กลนฺทคาโม นาม อตฺถิ 1ฯ ตตฺถ สุทิโนฺน นาม กลนฺทปุโตฺต เสฎฺฐิปุโตฺต โหติฯ อถ โข สุทิโนฺน กลนฺทปุโตฺต สมฺพหุเลหิ 2 สหายเกหิ สทฺธิํ เวสาลิํ อคมาสิ เกนจิเทว กรณีเยน ฯ เตน โข ปน สมเยน ภควา มหติยา ปริสาย ปริวุโต ธมฺมํ เทเสโนฺต นิสิโนฺน โหติฯ อทฺทส โข สุทิโนฺน กลนฺทปุโตฺต ภควนฺตํ มหติยา ปริสาย ปริวุตํ ธมฺมํ เทเสนฺตํ นิสินฺนํฯ ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหมฺปิ ธมฺมํ สุเณยฺย’’นฺติฯ อถ โข สุทิโนฺน กลนฺทปุโตฺต เยน สา ปริสา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนสฺส โข สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยถา ยถา โข อหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ, นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ; ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’’นฺติฯ อถ โข สา ปริสา ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุเตฺตชิตา สมฺปหํสิตา อุฎฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิฯ

    24. Tena kho pana samayena vesāliyā avidūre kalandagāmo nāma atthi 3. Tattha sudinno nāma kalandaputto seṭṭhiputto hoti. Atha kho sudinno kalandaputto sambahulehi 4 sahāyakehi saddhiṃ vesāliṃ agamāsi kenacideva karaṇīyena . Tena kho pana samayena bhagavā mahatiyā parisāya parivuto dhammaṃ desento nisinno hoti. Addasa kho sudinno kalandaputto bhagavantaṃ mahatiyā parisāya parivutaṃ dhammaṃ desentaṃ nisinnaṃ. Disvānassa etadahosi – ‘‘yaṃnūnāhampi dhammaṃ suṇeyya’’nti. Atha kho sudinno kalandaputto yena sā parisā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnassa kho sudinnassa kalandaputtassa etadahosi – ‘‘yathā yathā kho ahaṃ bhagavatā dhammaṃ desitaṃ ājānāmi, nayidaṃ sukaraṃ agāraṃ ajjhāvasatā ekantaparipuṇṇaṃ ekantaparisuddhaṃ saṅkhalikhitaṃ brahmacariyaṃ carituṃ; yaṃnūnāhaṃ kesamassuṃ ohāretvā kāsāyāni vatthāni acchādetvā agārasmā anagāriyaṃ pabbajeyya’’nti. Atha kho sā parisā bhagavatā dhammiyā kathāya sandassitā samādapitā samuttejitā sampahaṃsitā uṭṭhāyāsanā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā pakkāmi.

    ๒๕. อถ โข สุทิโนฺน กลนฺทปุโตฺต อจิรวุฎฺฐิตาย ปริสาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข สุทิโนฺน กลนฺทปุโตฺต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ยถา ยถาหํ, ภเนฺต, ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ , นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ; อิจฺฉามหํ, ภเนฺต, เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํฯ ปพฺพาเชตุ มํ ภควา’’ติฯ ‘‘อนุญฺญาโตสิ ปน ตฺวํ, สุทฺทินฺน, มาตาปิตูหิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติ? ‘‘น โข อหํ, ภเนฺต, อนุญฺญาโต มาตาปิตูหิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติฯ ‘‘น โข, สุทินฺน, ตถาคตา อนนุญฺญาตํ มาตาปิตูหิ ปุตฺตํ ปพฺพาเชนฺตี’’ติฯ ‘‘โสหํ, ภเนฺต, ตถา กริสฺสามิ ยถา มํ มาตาปิตโร อนุชานิสฺสนฺติ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติฯ

    25. Atha kho sudinno kalandaputto aciravuṭṭhitāya parisāya yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho sudinno kalandaputto bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘yathā yathāhaṃ, bhante, bhagavatā dhammaṃ desitaṃ ājānāmi , nayidaṃ sukaraṃ agāraṃ ajjhāvasatā ekantaparipuṇṇaṃ ekantaparisuddhaṃ saṅkhalikhitaṃ brahmacariyaṃ carituṃ; icchāmahaṃ, bhante, kesamassuṃ ohāretvā kāsāyāni vatthāni acchādetvā agārasmā anagāriyaṃ pabbajituṃ. Pabbājetu maṃ bhagavā’’ti. ‘‘Anuññātosi pana tvaṃ, suddinna, mātāpitūhi agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāyā’’ti? ‘‘Na kho ahaṃ, bhante, anuññāto mātāpitūhi agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāyā’’ti. ‘‘Na kho, sudinna, tathāgatā ananuññātaṃ mātāpitūhi puttaṃ pabbājentī’’ti. ‘‘Sohaṃ, bhante, tathā karissāmi yathā maṃ mātāpitaro anujānissanti agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāyā’’ti.

    ๒๖. อถ โข สุทิโนฺน กลนฺทปุโตฺต เวสาลิยํ ตํ กรณียํ ตีเรตฺวา เยน กลนฺทคาโม เยน มาตาปิตโร เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มาตาปิตโร เอตทโวจ – ‘‘อมฺมตาตา, ยถา ยถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ, นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ; อิจฺฉามหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํฯ อนุชานาถ มํ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติฯ เอวํ วุเตฺต สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส มาตาปิตโร สุทินฺนํ กลนฺทปุตฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ตฺวํ โขสิ, ตาต สุทินฺน, อมฺหากํ เอกปุตฺตโก ปิโย มนาโป สุเขธิโต สุขปริหโตฯ น ตฺวํ, ตาต สุทินฺน, กิญฺจิ ทุกฺขสฺส ชานาสิฯ มรเณนปิ มยํ เต อกามกา วินา ภวิสฺสาม, กิํ ปน มยํ ตํ ชีวนฺตํ อนุชานิสฺสาม อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข สุทิโนฺน กลนฺทปุโตฺต มาตาปิตโร เอตทโวจ – ‘‘อมฺมตาตา, ยถา ยถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ, นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ; อิจฺฉามหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํฯ อนุชานาถ มํ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส มาตาปิตโร สุทินฺนํ กลนฺทปุตฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ตฺวํ โขสิ, ตาต สุทินฺน, อมฺหากํ เอกปุตฺตโก ปิโย มนาโป สุเขธิโต สุขปริหโตฯ น ตฺวํ, ตาต สุทินฺน, กิญฺจิ ทุกฺขสฺส ชานาสิฯ มรเณนปิ มยํ เต อกามกา วินา ภวิสฺสาม, กิํ ปน มยํ ตํ ชีวนฺตํ อนุชานิสฺสาม อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติ! ตติยมฺปิ โข สุทิโนฺน กลนฺทปุโตฺต มาตาปิตโร เอตทโวจ – ‘‘อมฺมตาตา , ยถา ยถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ, นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ; อิจฺฉามหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํ ฯ อนุชานาถ มํ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติฯ ตติยมฺปิ โข สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส มาตาปิตโร สุทินฺนํ กลนฺทปุตฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ตฺวํ โขสิ, ตาต สุทินฺน, อมฺหากํ เอกปุตฺตโก ปิโย มนาโป สุเขธิโต สุขปริหโตฯ น ตฺวํ, ตาต สุทินฺน, กิญฺจิ ทุกฺขสฺส ชานาสิฯ มรเณนปิ มยํ เต อกามกา วินา ภวิสฺสาม, กิํ ปน มยํ ตํ ชีวนฺตํ อนุชานิสฺสาม อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติ!

    26. Atha kho sudinno kalandaputto vesāliyaṃ taṃ karaṇīyaṃ tīretvā yena kalandagāmo yena mātāpitaro tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā mātāpitaro etadavoca – ‘‘ammatātā, yathā yathāhaṃ bhagavatā dhammaṃ desitaṃ ājānāmi, nayidaṃ sukaraṃ agāraṃ ajjhāvasatā ekantaparipuṇṇaṃ ekantaparisuddhaṃ saṅkhalikhitaṃ brahmacariyaṃ carituṃ; icchāmahaṃ kesamassuṃ ohāretvā kāsāyāni vatthāni acchādetvā agārasmā anagāriyaṃ pabbajituṃ. Anujānātha maṃ agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāyā’’ti. Evaṃ vutte sudinnassa kalandaputtassa mātāpitaro sudinnaṃ kalandaputtaṃ etadavocuṃ – ‘‘tvaṃ khosi, tāta sudinna, amhākaṃ ekaputtako piyo manāpo sukhedhito sukhaparihato. Na tvaṃ, tāta sudinna, kiñci dukkhassa jānāsi. Maraṇenapi mayaṃ te akāmakā vinā bhavissāma, kiṃ pana mayaṃ taṃ jīvantaṃ anujānissāma agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāyā’’ti. Dutiyampi kho sudinno kalandaputto mātāpitaro etadavoca – ‘‘ammatātā, yathā yathāhaṃ bhagavatā dhammaṃ desitaṃ ājānāmi, nayidaṃ sukaraṃ agāraṃ ajjhāvasatā ekantaparipuṇṇaṃ ekantaparisuddhaṃ saṅkhalikhitaṃ brahmacariyaṃ carituṃ; icchāmahaṃ kesamassuṃ ohāretvā kāsāyāni vatthāni acchādetvā agārasmā anagāriyaṃ pabbajituṃ. Anujānātha maṃ agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāyā’’ti. Dutiyampi kho sudinnassa kalandaputtassa mātāpitaro sudinnaṃ kalandaputtaṃ etadavocuṃ – ‘‘tvaṃ khosi, tāta sudinna, amhākaṃ ekaputtako piyo manāpo sukhedhito sukhaparihato. Na tvaṃ, tāta sudinna, kiñci dukkhassa jānāsi. Maraṇenapi mayaṃ te akāmakā vinā bhavissāma, kiṃ pana mayaṃ taṃ jīvantaṃ anujānissāma agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāyā’’ti! Tatiyampi kho sudinno kalandaputto mātāpitaro etadavoca – ‘‘ammatātā , yathā yathāhaṃ bhagavatā dhammaṃ desitaṃ ājānāmi, nayidaṃ sukaraṃ agāraṃ ajjhāvasatā ekantaparipuṇṇaṃ ekantaparisuddhaṃ saṅkhalikhitaṃ brahmacariyaṃ carituṃ; icchāmahaṃ kesamassuṃ ohāretvā kāsāyāni vatthāni acchādetvā agārasmā anagāriyaṃ pabbajituṃ . Anujānātha maṃ agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāyā’’ti. Tatiyampi kho sudinnassa kalandaputtassa mātāpitaro sudinnaṃ kalandaputtaṃ etadavocuṃ – ‘‘tvaṃ khosi, tāta sudinna, amhākaṃ ekaputtako piyo manāpo sukhedhito sukhaparihato. Na tvaṃ, tāta sudinna, kiñci dukkhassa jānāsi. Maraṇenapi mayaṃ te akāmakā vinā bhavissāma, kiṃ pana mayaṃ taṃ jīvantaṃ anujānissāma agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāyā’’ti!

    ๒๗. อถ โข สุทิโนฺน กลนฺทปุโตฺต – ‘‘น มํ มาตาปิตโร อนุชานนฺติ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติ, ตเตฺถว อนนฺตรหิตาย ภูมิยา นิปชฺชิ – อิเธว เม มรณํ ภวิสฺสติ ปพฺพชฺชา วาติฯ อถ โข สุทิโนฺน กลนฺทปุโตฺต เอกมฺปิ ภตฺตํ น ภุญฺชิ, เทฺวปิ ภตฺตานิ น ภุญฺชิ, ตีณิปิ ภตฺตานิ น ภุญฺชิ, จตฺตาริปิ ภตฺตานิ น ภุญฺชิ, ปญฺจปิ ภตฺตานิ น ภุญฺชิ, ฉปิ ภตฺตานิ น ภุญฺชิ, สตฺตปิ ภตฺตานิ น ภุญฺชิฯ

    27. Atha kho sudinno kalandaputto – ‘‘na maṃ mātāpitaro anujānanti agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāyā’’ti, tattheva anantarahitāya bhūmiyā nipajji – idheva me maraṇaṃ bhavissati pabbajjā vāti. Atha kho sudinno kalandaputto ekampi bhattaṃ na bhuñji, dvepi bhattāni na bhuñji, tīṇipi bhattāni na bhuñji, cattāripi bhattāni na bhuñji, pañcapi bhattāni na bhuñji, chapi bhattāni na bhuñji, sattapi bhattāni na bhuñji.

    ๒๘. อถ โข สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส มาตาปิตโร สุทินฺนํ กลนฺทปุตฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ตฺวํ โขสิ, ตาต สุทินฺน, อมฺหากํ เอกปุตฺตโก ปิโย มนาโป สุเขธิโต สุขปริหโตฯ น ตฺวํ, ตาต สุทินฺน, กิญฺจิ ทุกฺขสฺส ชานาสิฯ มรเณนปิ มยํ เต อกามกา วินา ภวิสฺสาม, กิํ ปน มยํ ตํ ชีวนฺตํ อนุชานิสฺสาม อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชาย? อุเฎฺฐหิ, ตาต สุทินฺน, ภุญฺช จ ปิว จ ปริจาเรหิ จ, ภุญฺชโนฺต ปิวโนฺต ปริจาเรโนฺต กาเม ปริภุญฺชโนฺต ปุญฺญานิ กโรโนฺต อภิรมสฺสุฯ น ตํ มยํ อนุชานาม อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติฯ เอวํ วุเตฺต สุทิโนฺน กลนฺทปุโตฺต ตุณฺหี อโหสิฯ ทุติยมฺปิ โข…เป.… ตติยมฺปิ โข สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส มาตาปิตโร สุทินฺนํ กลนฺทปุตฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ตฺวํ โขสิ, ตาต สุทินฺน, อมฺหากํ เอกปุตฺตโก ปิโย มนาโป สุเขธิโต สุขปริหโตฯ น ตฺวํ, ตาต สุทินฺน, กิญฺจิ ทุกฺขสฺส ชานาสิฯ มรเณนปิ มยํ เต อกามกา วินา ภวิสฺสาม, กิํ ปน มยํ ตํ ชีวนฺตํ อนุชานิสฺสาม อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชาย! อุเฎฺฐหิ, ตาต สุทินฺน, ภุญฺช จ ปิว จ ปริจาเรหิ จ, ภุญฺชโนฺต ปิวโนฺต ปริจาเรโนฺต กาเม ปริภุญฺชโนฺต ปุญฺญานิ กโรโนฺต อภิรมสฺสุฯ น ตํ มยํ อนุชานาม อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติฯ ตติยมฺปิ โข สุทิโนฺน กลนฺทปุโตฺต ตุณฺหี อโหสิฯ

    28. Atha kho sudinnassa kalandaputtassa mātāpitaro sudinnaṃ kalandaputtaṃ etadavocuṃ – ‘‘tvaṃ khosi, tāta sudinna, amhākaṃ ekaputtako piyo manāpo sukhedhito sukhaparihato. Na tvaṃ, tāta sudinna, kiñci dukkhassa jānāsi. Maraṇenapi mayaṃ te akāmakā vinā bhavissāma, kiṃ pana mayaṃ taṃ jīvantaṃ anujānissāma agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāya? Uṭṭhehi, tāta sudinna, bhuñja ca piva ca paricārehi ca, bhuñjanto pivanto paricārento kāme paribhuñjanto puññāni karonto abhiramassu. Na taṃ mayaṃ anujānāma agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāyā’’ti. Evaṃ vutte sudinno kalandaputto tuṇhī ahosi. Dutiyampi kho…pe… tatiyampi kho sudinnassa kalandaputtassa mātāpitaro sudinnaṃ kalandaputtaṃ etadavocuṃ – ‘‘tvaṃ khosi, tāta sudinna, amhākaṃ ekaputtako piyo manāpo sukhedhito sukhaparihato. Na tvaṃ, tāta sudinna, kiñci dukkhassa jānāsi. Maraṇenapi mayaṃ te akāmakā vinā bhavissāma, kiṃ pana mayaṃ taṃ jīvantaṃ anujānissāma agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāya! Uṭṭhehi, tāta sudinna, bhuñja ca piva ca paricārehi ca, bhuñjanto pivanto paricārento kāme paribhuñjanto puññāni karonto abhiramassu. Na taṃ mayaṃ anujānāma agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāyā’’ti. Tatiyampi kho sudinno kalandaputto tuṇhī ahosi.

    อถ โข สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส สหายกา เยน สุทิโนฺน กลนฺทปุโตฺต เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา สุทินฺนํ กลนฺทปุตฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ตฺวํ โขสิ, สมฺม สุทินฺน, มาตาปิตูนํ เอกปุตฺตโก ปิโย มนาโป สุเขธิโต สุขปริหโตฯ น ตฺวํ, สมฺม สุทินฺน, กิญฺจิ ทุกฺขสฺส ชานาสิฯ มรเณนปิ เต มาตาปิตโร อกามกา วินา ภวิสฺสนฺติ, กิํ ปน ตํ ชีวนฺตํ อนุชานิสฺสนฺติ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชาย! อุเฎฺฐหิ, สมฺม สุทินฺน, ภุญฺช จ ปิว จ ปริจาเรหิ จ, ภุญฺชโนฺต ปิวโนฺต ปริจาเรโนฺต กาเม ปริภุญฺชโนฺต ปุญฺญานิ กโรโนฺต อภิรมสฺสุ, น ตํ มาตาปิตโร อนุชานิสฺสนฺติ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติฯ เอวํ วุเตฺต, สุทิโนฺน กลนฺทปุโตฺต ตุณฺหี อโหสิฯ ทุติยมฺปิ โข…เป.… ตติยมฺปิ โข สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส สหายกา สุทินฺนํ กลนฺทปุตฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ตฺวํ โขสิ, สมฺม สุทินฺน…เป.… ตติยมฺปิ โข สุทิโนฺน กลนฺทปุโตฺต ตุณฺหี อโหสิฯ

    Atha kho sudinnassa kalandaputtassa sahāyakā yena sudinno kalandaputto tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā sudinnaṃ kalandaputtaṃ etadavocuṃ – ‘‘tvaṃ khosi, samma sudinna, mātāpitūnaṃ ekaputtako piyo manāpo sukhedhito sukhaparihato. Na tvaṃ, samma sudinna, kiñci dukkhassa jānāsi. Maraṇenapi te mātāpitaro akāmakā vinā bhavissanti, kiṃ pana taṃ jīvantaṃ anujānissanti agārasmā anagāriyaṃ pabbajāya! Uṭṭhehi, samma sudinna, bhuñja ca piva ca paricārehi ca, bhuñjanto pivanto paricārento kāme paribhuñjanto puññāni karonto abhiramassu, na taṃ mātāpitaro anujānissanti agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāyā’’ti. Evaṃ vutte, sudinno kalandaputto tuṇhī ahosi. Dutiyampi kho…pe… tatiyampi kho sudinnassa kalandaputtassa sahāyakā sudinnaṃ kalandaputtaṃ etadavocuṃ – ‘‘tvaṃ khosi, samma sudinna…pe… tatiyampi kho sudinno kalandaputto tuṇhī ahosi.

    ๒๙. อถ โข สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส สหายกา เยน สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส มาตาปิตโร เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส มาตาปิตโร เอตทโวจุํ – ‘‘อมฺมตาตา, เอโส สุทิโนฺน อนนฺตรหิตาย ภูมิยา นิปโนฺน – ‘อิเธว เม มรณํ ภวิสฺสติ ปพฺพชฺชา วา’ติฯ สเจ ตุเมฺห สุทินฺนํ นานุชานิสฺสถ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชาย, ตเตฺถว มรณํ อาคมิสฺสติฯ สเจ ปน ตุเมฺห สุทินฺนํ อนุชานิสฺสถ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชาย, ปพฺพชิตมฺปิ นํ ทกฺขิสฺสถฯ สเจ สุทิโนฺน นาภิรมิสฺสติ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชาย, กา ตสฺส อญฺญา คติ ภวิสฺสติ, อิเธว ปจฺจาคมิสฺสติฯ อนุชานาถ สุทินฺนํ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติฯ ‘‘อนุชานาม , ตาตา, สุทินฺนํ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติฯ อถ โข สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส สหายกา เยน สุทิโนฺน กลนฺทปุโตฺต เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา สุทินฺนํ กลนฺทปุตฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อุเฎฺฐหิ, สมฺม สุทินฺน, อนุญฺญาโตสิ มาตาปิตูหิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติฯ

    29. Atha kho sudinnassa kalandaputtassa sahāyakā yena sudinnassa kalandaputtassa mātāpitaro tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā sudinnassa kalandaputtassa mātāpitaro etadavocuṃ – ‘‘ammatātā, eso sudinno anantarahitāya bhūmiyā nipanno – ‘idheva me maraṇaṃ bhavissati pabbajjā vā’ti. Sace tumhe sudinnaṃ nānujānissatha agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāya, tattheva maraṇaṃ āgamissati. Sace pana tumhe sudinnaṃ anujānissatha agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāya, pabbajitampi naṃ dakkhissatha. Sace sudinno nābhiramissati agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāya, kā tassa aññā gati bhavissati, idheva paccāgamissati. Anujānātha sudinnaṃ agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāyā’’ti. ‘‘Anujānāma , tātā, sudinnaṃ agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāyā’’ti. Atha kho sudinnassa kalandaputtassa sahāyakā yena sudinno kalandaputto tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā sudinnaṃ kalandaputtaṃ etadavocuṃ – ‘‘uṭṭhehi, samma sudinna, anuññātosi mātāpitūhi agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāyā’’ti.

    ๓๐. อถ โข สุทิโนฺน กลนฺทปุโตฺต – ‘‘อนุญฺญาโตมฺหิ กิร มาตาปิตูหิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติ, หโฎฺฐ อุทโคฺค ปาณินา คตฺตานิ ปริปุญฺฉโนฺต วุฎฺฐาสิฯ อถ โข สุทิโนฺน กลนฺทปุโตฺต กติปาหํ พลํ คาเหตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสโนฺน โข สุทิโนฺน กลนฺทปุโตฺต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อนุญฺญาโต 5 อหํ, ภเนฺต, มาตาปิตูหิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายฯ ปพฺพาเชตุ มํ ภควา’’ติ ฯ อลตฺถ โข สุทิโนฺน กลนฺทปุโตฺต ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปทํฯ อจิรูปสมฺปโนฺน จ ปนายสฺมา สุทิโนฺน เอวรูเป ธุตคุเณ สมาทาย วตฺตติ, อารญฺญิโก โหติ ปิณฺฑปาติโก ปํสุกูลิโก สปทานจาริโก, อญฺญตรํ วชฺชิคามํ อุปนิสฺสาย วิหรติฯ

    30. Atha kho sudinno kalandaputto – ‘‘anuññātomhi kira mātāpitūhi agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāyā’’ti, haṭṭho udaggo pāṇinā gattāni paripuñchanto vuṭṭhāsi. Atha kho sudinno kalandaputto katipāhaṃ balaṃ gāhetvā yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisanno kho sudinno kalandaputto bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘anuññāto 6 ahaṃ, bhante, mātāpitūhi agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāya. Pabbājetu maṃ bhagavā’’ti . Alattha kho sudinno kalandaputto bhagavato santike pabbajjaṃ, alattha upasampadaṃ. Acirūpasampanno ca panāyasmā sudinno evarūpe dhutaguṇe samādāya vattati, āraññiko hoti piṇḍapātiko paṃsukūliko sapadānacāriko, aññataraṃ vajjigāmaṃ upanissāya viharati.

    เตน โข ปน สมเยน วชฺชี ทุพฺภิกฺขา โหติ ทฺวีหิติกา เสตฎฺฐิกา สลากาวุตฺตา, น สุกรา อุเญฺฉน ปคฺคเหน ยาเปตุํฯ อถ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส เอตทโหสิ – ‘‘เอตรหิ โข วชฺชี ทุพฺภิกฺขา ทฺวีหิติกา เสตฎฺฐิกา สลากาวุตฺตา, น สุกรา อุเญฺฉน ปคฺคเหน ยาเปตุํฯ พหู โข ปน เม เวสาลิยํ ญาตี อฑฺฒา มหทฺธนา มหาโภคา ปหูตชาตรูปรชตา ปหูตวิตฺตูปกรณา ปหูตธนธญฺญาฯ ยํนูนาหํ ญาตี อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยํ! ญาตี มํ 7 นิสฺสาย ทานานิ ทสฺสนฺติ ปุญฺญานิ กริสฺสนฺติ, ภิกฺขู จ ลาภํ ลจฺฉนฺติ, อหญฺจ ปิณฺฑเกน น กิลมิสฺสามี’’ติฯ อถ โข อายสฺมา สุทิโนฺน เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน เวสาลี เตน ปกฺกามิฯ อนุปุเพฺพน เยน เวสาลี ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ อายสฺมา สุทิโนฺน เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฎาคารสาลายํฯ อโสฺสสุํ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ญาตกา – ‘‘สุทิโนฺน กิร กลนฺทปุโตฺต เวสาลิํ อนุปฺปโตฺต’’ติฯ เต อายสฺมโต สุทินฺนสฺส สฎฺฐิมเตฺต ถาลิปาเก ภตฺตาภิหารํ อภิหริํสุฯ อถ โข อายสฺมา สุทิโนฺน เต สฎฺฐิมเตฺต ถาลิปาเก ภิกฺขูนํ วิสฺสเชฺชตฺวา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย กลนฺทคามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ กลนฺทคาเม สปทานํ ปิณฺฑาย จรมาโน เยน สกปิตุ นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิฯ

    Tena kho pana samayena vajjī dubbhikkhā hoti dvīhitikā setaṭṭhikā salākāvuttā, na sukarā uñchena paggahena yāpetuṃ. Atha kho āyasmato sudinnassa etadahosi – ‘‘etarahi kho vajjī dubbhikkhā dvīhitikā setaṭṭhikā salākāvuttā, na sukarā uñchena paggahena yāpetuṃ. Bahū kho pana me vesāliyaṃ ñātī aḍḍhā mahaddhanā mahābhogā pahūtajātarūparajatā pahūtavittūpakaraṇā pahūtadhanadhaññā. Yaṃnūnāhaṃ ñātī upanissāya vihareyyaṃ! Ñātī maṃ 8 nissāya dānāni dassanti puññāni karissanti, bhikkhū ca lābhaṃ lacchanti, ahañca piṇḍakena na kilamissāmī’’ti. Atha kho āyasmā sudinno senāsanaṃ saṃsāmetvā pattacīvaramādāya yena vesālī tena pakkāmi. Anupubbena yena vesālī tadavasari. Tatra sudaṃ āyasmā sudinno vesāliyaṃ viharati mahāvane kūṭāgārasālāyaṃ. Assosuṃ kho āyasmato sudinnassa ñātakā – ‘‘sudinno kira kalandaputto vesāliṃ anuppatto’’ti. Te āyasmato sudinnassa saṭṭhimatte thālipāke bhattābhihāraṃ abhihariṃsu. Atha kho āyasmā sudinno te saṭṭhimatte thālipāke bhikkhūnaṃ vissajjetvā pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya kalandagāmaṃ piṇḍāya pāvisi. Kalandagāme sapadānaṃ piṇḍāya caramāno yena sakapitu nivesanaṃ tenupasaṅkami.

    ๓๑. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ญาติทาสี อาภิโทสิกํ กุมฺมาสํ ฉเฑฺฑตุกามา 9 โหติฯ อถ โข อายสฺมา สุทิโนฺน ตํ ญาติทาสิํ เอตทโวจ – ‘‘สเจ ตํ, ภคินิ, ฉฑฺฑนียธมฺมํ , อิธ เม ปเตฺต อากิรา’’ติฯ อถ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ญาติทาสี ตํ อาภิโทสิกํ กุมฺมาสํ อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ปเตฺต อากิรนฺตี หตฺถานญฺจ ปาทานญฺจ สรสฺส จ นิมิตฺตํ อคฺคเหสิฯ อถ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ญาติทาสี เยนายสฺมโต สุทินฺนสฺส มาตา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมโต สุทินฺนสฺส มาตรํ เอตทโวจ – ‘‘ยเคฺฆเยฺย, ชาเนยฺยาสิ, อยฺยปุโตฺต สุทิโนฺน อนุปฺปโตฺต’’ติฯ ‘‘สเจ, เช, ตฺวํ สจฺจํ ภณสิ, อทาสิํ ตํ กโรมี’’ติฯ

    31. Tena kho pana samayena āyasmato sudinnassa ñātidāsī ābhidosikaṃ kummāsaṃ chaḍḍetukāmā 10 hoti. Atha kho āyasmā sudinno taṃ ñātidāsiṃ etadavoca – ‘‘sace taṃ, bhagini, chaḍḍanīyadhammaṃ , idha me patte ākirā’’ti. Atha kho āyasmato sudinnassa ñātidāsī taṃ ābhidosikaṃ kummāsaṃ āyasmato sudinnassa patte ākirantī hatthānañca pādānañca sarassa ca nimittaṃ aggahesi. Atha kho āyasmato sudinnassa ñātidāsī yenāyasmato sudinnassa mātā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmato sudinnassa mātaraṃ etadavoca – ‘‘yaggheyye, jāneyyāsi, ayyaputto sudinno anuppatto’’ti. ‘‘Sace, je, tvaṃ saccaṃ bhaṇasi, adāsiṃ taṃ karomī’’ti.

    ๓๒. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สุทิโนฺน ตํ อาภิโทสิกํ กุมฺมาสํ อญฺญตรํ กุฎฺฎมูลํ 11 นิสฺสาย ปริภุญฺชติฯ ปิตาปิ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส กมฺมนฺตา อาคจฺฉโนฺต อทฺทส อายสฺมนฺตํ สุทินฺนํ ตํ อาภิโทสิกํ กุมฺมาสํ อญฺญตรํ กุฎฺฎมูลํ นิสฺสาย ปริภุญฺชนฺตํ ฯ ทิสฺวาน เยนายสฺมา สุทิโนฺน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ สุทินฺนํ เอตทโวจ – ‘‘อตฺถิ นาม, ตาต สุทินฺน, อาภิโทสิกํ กุมฺมาสํ ปริภุญฺชิสฺสสิ! นนุ นาม, ตาต สุทินฺน, สกํ เคหํ คนฺตพฺพ’’นฺติ? ‘‘อคมิมฺห 12 โข เต คหปติ, เคหํฯ ตโตยํ อาภิโทสิโก กุมฺมาโส’’ติฯ อถ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ปิตา อายสฺมโต สุทินฺนสฺส พาหายํ คเหตฺวา อายสฺมนฺตํ สุทินฺนํ เอตทโวจ – ‘‘เอหิ, ตาต สุทินฺน, ฆรํ คมิสฺสามา’’ติฯ อถ โข อายสฺมา สุทิโนฺน เยน สกปิตุ นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ อถ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ปิตา อายสฺมนฺตํ สุทินฺนํ เอตทโวจ – ‘‘ภุญฺช, ตาต สุทินฺนา’’ติฯ ‘‘อลํ, คหปติ, กตํ เม อชฺช ภตฺตกิจฺจ’’นฺติฯ ‘‘อธิวาเสหิ, ตาต สุทินฺน, สฺวาตนาย ภตฺต’’นฺติฯ อธิวาเสสิ โข อายสฺมา สุทิโนฺน ตุณฺหีภาเวนฯ อถ โข อายสฺมา สุทิโนฺน อุฎฺฐายาสนา ปกฺกามิฯ

    32. Tena kho pana samayena āyasmā sudinno taṃ ābhidosikaṃ kummāsaṃ aññataraṃ kuṭṭamūlaṃ 13 nissāya paribhuñjati. Pitāpi kho āyasmato sudinnassa kammantā āgacchanto addasa āyasmantaṃ sudinnaṃ taṃ ābhidosikaṃ kummāsaṃ aññataraṃ kuṭṭamūlaṃ nissāya paribhuñjantaṃ . Disvāna yenāyasmā sudinno tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ sudinnaṃ etadavoca – ‘‘atthi nāma, tāta sudinna, ābhidosikaṃ kummāsaṃ paribhuñjissasi! Nanu nāma, tāta sudinna, sakaṃ gehaṃ gantabba’’nti? ‘‘Agamimha 14 kho te gahapati, gehaṃ. Tatoyaṃ ābhidosiko kummāso’’ti. Atha kho āyasmato sudinnassa pitā āyasmato sudinnassa bāhāyaṃ gahetvā āyasmantaṃ sudinnaṃ etadavoca – ‘‘ehi, tāta sudinna, gharaṃ gamissāmā’’ti. Atha kho āyasmā sudinno yena sakapitu nivesanaṃ tenupasaṅkami ; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi. Atha kho āyasmato sudinnassa pitā āyasmantaṃ sudinnaṃ etadavoca – ‘‘bhuñja, tāta sudinnā’’ti. ‘‘Alaṃ, gahapati, kataṃ me ajja bhattakicca’’nti. ‘‘Adhivāsehi, tāta sudinna, svātanāya bhatta’’nti. Adhivāsesi kho āyasmā sudinno tuṇhībhāvena. Atha kho āyasmā sudinno uṭṭhāyāsanā pakkāmi.

    ๓๓. อถ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส มาตา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน หริเตน โคมเยน ปถวิํ โอปุญฺชาเปตฺวา 15 เทฺว ปุเญฺช การาเปสิ – เอกํ หิรญฺญสฺส, เอกํ สุวณฺณสฺสฯ ตาว มหนฺตา ปุญฺชา อเหสุํ, โอรโต ฐิโต ปุริโส ปารโต ฐิตํ ปุริสํ น ปสฺสติ; ปารโต ฐิโต ปุริโส โอรโต ฐิตํ ปุริสํ น ปสฺสติฯ เต ปุเญฺช กิลเญฺชหิ ปฎิจฺฉาทาเปตฺวา มเชฺฌ อาสนํ ปญฺญาเปตฺวา ติโรกรณียํ ปริกฺขิปิตฺวา อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ปุราณทุติยิกํ อามเนฺตสิ – ‘‘เตน หิ, วธุ, เยน อลงฺกาเรน อลงฺกตา ปุตฺตสฺส เม สุทินฺนสฺส ปิยา อโหสิ มนาปา เตน อลงฺกาเรน อลงฺกรา’’ติฯ ‘‘เอวํ, อเยฺย’’ติ, โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ปุราณทุติยิกา อายสฺมโต สุทินฺนสฺส มาตุยา ปจฺจโสฺสสิฯ

    33. Atha kho āyasmato sudinnassa mātā tassā rattiyā accayena haritena gomayena pathaviṃ opuñjāpetvā 16 dve puñje kārāpesi – ekaṃ hiraññassa, ekaṃ suvaṇṇassa. Tāva mahantā puñjā ahesuṃ, orato ṭhito puriso pārato ṭhitaṃ purisaṃ na passati; pārato ṭhito puriso orato ṭhitaṃ purisaṃ na passati. Te puñje kilañjehi paṭicchādāpetvā majjhe āsanaṃ paññāpetvā tirokaraṇīyaṃ parikkhipitvā āyasmato sudinnassa purāṇadutiyikaṃ āmantesi – ‘‘tena hi, vadhu, yena alaṅkārena alaṅkatā puttassa me sudinnassa piyā ahosi manāpā tena alaṅkārena alaṅkarā’’ti. ‘‘Evaṃ, ayye’’ti, kho āyasmato sudinnassa purāṇadutiyikā āyasmato sudinnassa mātuyā paccassosi.

    ๓๔. อถ โข อายสฺมา สุทิโนฺน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน สกปิตุ นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ อถ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ปิตา เยนายสฺมา สุทิโนฺน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ปุเญฺช วิวราเปตฺวา อายสฺมนฺตํ สุทินฺนํ เอตทโวจ – ‘‘อิทํ เต, ตาต สุทินฺน, มาตุ มตฺติกํ อิตฺถิกาย อิตฺถิธนํ, อญฺญํ เปตฺติกํ อญฺญํ ปิตามหํฯ ลพฺภา, ตาต สุทินฺน, หีนายาวตฺติตฺวา โภคา จ ภุญฺชิตุํ ปุญฺญานิ จ กาตุํฯ เอหิ ตฺวํ, ตาต สุทินฺน, หีนายาวตฺติตฺวา โภเค จ ภุญฺชสฺสุ ปุญฺญานิ จ กโรหี’’ติ ฯ ‘‘ตาต, น อุสฺสหามิ น วิสหามิ, อภิรโต อหํ พฺรหฺมจริยํ จรามี’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข…เป.… ตติยมฺปิ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ปิตา อายสฺมนฺตํ สุทินฺนํ เอตทโวจ – ‘‘อิทํ เต, ตาต สุทินฺน, มาตุ มตฺติกํ, อิตฺถิกาย อิตฺถิธนํ, อญฺญํ เปตฺติกํ , อญฺญํ ปิตามหํฯ ลพฺภา, ตาต สุทินฺน, หีนายาวตฺติตฺวา โภคา จ ภุญฺชิตุํ ปุญฺญานิ จ กาตุํฯ เอหิ ตฺวํ, ตาต สุทินฺน, หีนายาวตฺติตฺวา โภเค จ ภุญฺชสฺสุ ปุญฺญานิ จ กโรหี’’ติฯ ‘‘วเทยฺยาม โข ตํ, คหปติ, สเจ ตฺวํ นาติกเฑฺฒยฺยาสี’’ติฯ ‘‘วเทหิ, ตาต สุทินฺนา’’ติฯ เตน หิ ตฺวํ, คหปติ, มหเนฺต มหเนฺต สาณิปสิพฺพเก การาเปตฺวา หิรญฺญสุวณฺณสฺส ปูราเปตฺวา สกเฎหิ นิพฺพาหาเปตฺวา มเชฺฌ คงฺคาย โสเต โอปาเตหิ 17ฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ยญฺหิ เต, คหปติ, ภวิสฺสติ ตโตนิทานํ ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา อารโกฺข วา โส เต น ภวิสฺสตี’’ติฯ เอวํ วุเตฺต, อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ปิตา อนตฺตมโน อโหสิ – ‘‘กถญฺหิ นาม ปุโตฺต สุทิโนฺน เอวํ วกฺขตี’’ติ!

    34. Atha kho āyasmā sudinno pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yena sakapitu nivesanaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi. Atha kho āyasmato sudinnassa pitā yenāyasmā sudinno tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā te puñje vivarāpetvā āyasmantaṃ sudinnaṃ etadavoca – ‘‘idaṃ te, tāta sudinna, mātu mattikaṃ itthikāya itthidhanaṃ, aññaṃ pettikaṃ aññaṃ pitāmahaṃ. Labbhā, tāta sudinna, hīnāyāvattitvā bhogā ca bhuñjituṃ puññāni ca kātuṃ. Ehi tvaṃ, tāta sudinna, hīnāyāvattitvā bhoge ca bhuñjassu puññāni ca karohī’’ti . ‘‘Tāta, na ussahāmi na visahāmi, abhirato ahaṃ brahmacariyaṃ carāmī’’ti. Dutiyampi kho…pe… tatiyampi kho āyasmato sudinnassa pitā āyasmantaṃ sudinnaṃ etadavoca – ‘‘idaṃ te, tāta sudinna, mātu mattikaṃ, itthikāya itthidhanaṃ, aññaṃ pettikaṃ , aññaṃ pitāmahaṃ. Labbhā, tāta sudinna, hīnāyāvattitvā bhogā ca bhuñjituṃ puññāni ca kātuṃ. Ehi tvaṃ, tāta sudinna, hīnāyāvattitvā bhoge ca bhuñjassu puññāni ca karohī’’ti. ‘‘Vadeyyāma kho taṃ, gahapati, sace tvaṃ nātikaḍḍheyyāsī’’ti. ‘‘Vadehi, tāta sudinnā’’ti. Tena hi tvaṃ, gahapati, mahante mahante sāṇipasibbake kārāpetvā hiraññasuvaṇṇassa pūrāpetvā sakaṭehi nibbāhāpetvā majjhe gaṅgāya sote opātehi 18. Taṃ kissa hetu? Yañhi te, gahapati, bhavissati tatonidānaṃ bhayaṃ vā chambhitattaṃ vā lomahaṃso vā ārakkho vā so te na bhavissatī’’ti. Evaṃ vutte, āyasmato sudinnassa pitā anattamano ahosi – ‘‘kathañhi nāma putto sudinno evaṃ vakkhatī’’ti!

    ๓๕. อถ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ปิตา อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ปุราณทุติยิกํ อามเนฺตสิ – ‘‘เตน หิ, วธุ, ตฺวํ ปิยา จ มนาปา จ 19ฯ อเปฺปว นาม ปุโตฺต สุทิโนฺน ตุยฺหมฺปิ วจนํ กเรยฺยา’’ติ! อถ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ปุราณทุติยิกา อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ปาเทสุ คเหตฺวา อายสฺมนฺตํ สุทินฺนํ เอตทโวจ – ‘‘กีทิสา นาม ตา, อยฺยปุตฺต, อจฺฉราโย ยาสํ ตฺวํ เหตุ พฺรหฺมจริยํ จรสี’’ติ? ‘‘น โข อหํ, ภคินิ, อจฺฉรานํ เหตุ พฺรหฺมจริยํ จรามี’’ติฯ อถ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ปุราณทุติยิกา – ‘‘อชฺชตเคฺค มํ อยฺยปุโตฺต สุทิโนฺน ภคินิวาเทน สมุทาจรตี’’ติ, ตเตฺถว มุจฺฉิตา ปปตาฯ

    35. Atha kho āyasmato sudinnassa pitā āyasmato sudinnassa purāṇadutiyikaṃ āmantesi – ‘‘tena hi, vadhu, tvaṃ piyā ca manāpā ca 20. Appeva nāma putto sudinno tuyhampi vacanaṃ kareyyā’’ti! Atha kho āyasmato sudinnassa purāṇadutiyikā āyasmato sudinnassa pādesu gahetvā āyasmantaṃ sudinnaṃ etadavoca – ‘‘kīdisā nāma tā, ayyaputta, accharāyo yāsaṃ tvaṃ hetu brahmacariyaṃ carasī’’ti? ‘‘Na kho ahaṃ, bhagini, accharānaṃ hetu brahmacariyaṃ carāmī’’ti. Atha kho āyasmato sudinnassa purāṇadutiyikā – ‘‘ajjatagge maṃ ayyaputto sudinno bhaginivādena samudācaratī’’ti, tattheva mucchitā papatā.

    อถ โข อายสฺมา สุทิโนฺน ปิตรํ เอตทโวจ – ‘‘สเจ, คหปติ, โภชนํ ทาตพฺพํ เทถ, มา โน วิเหฐยิตฺถา’’ติฯ ‘‘ภุญฺช, ตาต สุทินฺนา’’ติฯ อถ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส มาตา จ ปิตา จ อายสฺมนฺตํ สุทินฺนํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตเปฺปสุํ สมฺปวาเรสุํฯ อถ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส มาตา อายสฺมนฺตํ สุทินฺนํ ภุตฺตาวิํ โอนีตปตฺตปาณิํ เอตทโวจ – ‘‘อิทํ, ตาต สุทินฺน, กุลํ อฑฺฒํ มหทฺธนํ มหาโภคํ ปหูตชาตรูปรชตํ ปหูตวิตฺตูปกรณํ ปหูตธนธญฺญํฯ ลพฺภา, ตาต สุทินฺน, หีนายาวตฺติตฺวา โภคา จ ภุญฺชิตุํ ปุญฺญานิ จ กาตุํฯ เอหิ ตฺวํ, ตาต สุทินฺน, หีนายาวตฺติตฺวา โภเค จ ภุญฺชสฺสุ ปุญฺญานิ จ กโรหี’’ติฯ ‘‘อมฺม, น อุสฺสหามิ น วิสหามิ , อภิรโต อหํ พฺรหฺมจริยํ จรามี’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข…เป.… ตติยมฺปิ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส มาตา อายสฺมนฺตํ สุทินฺนํ เอตทโวจ – ‘‘อิทํ, ตาต สุทินฺน, กุลํ อฑฺฒํ มหทฺธนํ มหาโภคํ ปหูตชาตรูปรชตํ ปหูตวิตฺตูปกรณํ ปหูตธนธญฺญํ 21ฯ เตน หิ, ตาต สุทินฺน, พีชกมฺปิ เทหิ – มา โน อปุตฺตกํ สาปเตยฺยํ ลิจฺฉวโย อติหราเปสุ’’นฺติฯ ‘‘เอตํ โข เม, อมฺม, สกฺกา กาตุ’’นฺติฯ ‘‘กหํ ปน, ตาต สุทินฺน, เอตรหิ วิหรสี’’ติ? ‘‘มหาวเน, อมฺมา’’ติฯ อถ โข อายสฺมา สุทิโนฺน อุฎฺฐายาสนา ปกฺกามิฯ

    Atha kho āyasmā sudinno pitaraṃ etadavoca – ‘‘sace, gahapati, bhojanaṃ dātabbaṃ detha, mā no viheṭhayitthā’’ti. ‘‘Bhuñja, tāta sudinnā’’ti. Atha kho āyasmato sudinnassa mātā ca pitā ca āyasmantaṃ sudinnaṃ paṇītena khādanīyena bhojanīyena sahatthā santappesuṃ sampavāresuṃ. Atha kho āyasmato sudinnassa mātā āyasmantaṃ sudinnaṃ bhuttāviṃ onītapattapāṇiṃ etadavoca – ‘‘idaṃ, tāta sudinna, kulaṃ aḍḍhaṃ mahaddhanaṃ mahābhogaṃ pahūtajātarūparajataṃ pahūtavittūpakaraṇaṃ pahūtadhanadhaññaṃ. Labbhā, tāta sudinna, hīnāyāvattitvā bhogā ca bhuñjituṃ puññāni ca kātuṃ. Ehi tvaṃ, tāta sudinna, hīnāyāvattitvā bhoge ca bhuñjassu puññāni ca karohī’’ti. ‘‘Amma, na ussahāmi na visahāmi , abhirato ahaṃ brahmacariyaṃ carāmī’’ti. Dutiyampi kho…pe… tatiyampi kho āyasmato sudinnassa mātā āyasmantaṃ sudinnaṃ etadavoca – ‘‘idaṃ, tāta sudinna, kulaṃ aḍḍhaṃ mahaddhanaṃ mahābhogaṃ pahūtajātarūparajataṃ pahūtavittūpakaraṇaṃ pahūtadhanadhaññaṃ 22. Tena hi, tāta sudinna, bījakampi dehi – mā no aputtakaṃ sāpateyyaṃ licchavayo atiharāpesu’’nti. ‘‘Etaṃ kho me, amma, sakkā kātu’’nti. ‘‘Kahaṃ pana, tāta sudinna, etarahi viharasī’’ti? ‘‘Mahāvane, ammā’’ti. Atha kho āyasmā sudinno uṭṭhāyāsanā pakkāmi.

    ๓๖. อถ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส มาตา อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ปุราณทุติยิกํ อามเนฺตสิ – ‘‘เตน หิ, วธุ, ยทา อุตุนี โหสิ, ปุปฺผํ เต อุปฺปนฺนํ โหติ, อถ เม อาโรเจยฺยาสี’’ติฯ ‘‘เอวํ อเยฺย’’ติ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ปุราณทุติยิกา อายสฺมโต สุทินฺนสฺส มาตุยา ปจฺจโสฺสสิฯ อถ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ปุราณทุติยิกา นจิรเสฺสว อุตุนี อโหสิ, ปุปฺผํสา อุปฺปชฺชิฯ อถ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ปุราณทุติยิกา อายสฺมโต สุทินฺนสฺส มาตรํ เอตทโวจ – ‘‘อุตุนีมฺหิ, อเยฺย, ปุปฺผํ เม อุปฺปนฺน’’นฺติฯ ‘‘เตน หิ, วธุ, เยน อลงฺกาเรน อลงฺกตา ปุตฺตสฺส สุทินฺนสฺส ปิยา อโหสิ มนาปา เตน อลงฺกาเรน อลงฺกรา’’ติฯ ‘‘เอวํ อเยฺย’’ติ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ปุราณทุติยิกา อายสฺมโต สุทินฺนสฺส มาตุยา ปจฺจโสฺสสิฯ อถ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส มาตา อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ปุราณทุติยิกํ อาทาย เยน มหาวนํ เยนายสฺมา สุทิโนฺน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ สุทินฺนํ เอตทโวจ – ‘‘อิทํ, ตาต สุทินฺน, กุลํ อฑฺฒํ มหทฺธนํ มหาโภคํ ปหูตชาตรูปรชตํ ปหูตวิตฺตูปกรณํ ปหูตธนธญฺญํฯ ลพฺภา, ตาต สุทินฺน, หีนายาวตฺติตฺวา โภคา จ ภุญฺชิตุํ ปุญฺญานิ จ กาตุํฯ เอหิ ตฺวํ, ตาต สุทินฺน, หีนายาวตฺติตฺวา โภเค จ ภุญฺชสฺสุ ปุญฺญานิ จ กโรหี’’ติฯ ‘‘อมฺม, น อุสฺสหามิ น วิสหามิ, อภิรโต อหํ พฺรหฺมจริยํ จรามี’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข…เป.… ตติยมฺปิ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส มาตา อายสฺมนฺตํ สุทินฺนํ เอตทโวจ – ‘‘อิทํ, ตาต สุทินฺน, กุลํ อฑฺฒํ มหทฺธนํ มหาโภคํ ปหูตชาตรูปรชตํ ปหูตวิตฺตูปกรณํ ปหูตธนธญฺญํฯ เตน หิ, ตาต สุทินฺน, พีชกมฺปิ เทหิ – มา โน อปุตฺตกํ สาปเตยฺยํ ลิจฺฉวโย อติหราเปสุ’’นฺติฯ ‘‘เอตํ โข เม, อมฺม, สกฺกา กาตุ’’นฺติ, ปุราณทุติยิกาย พาหายํ คเหตฺวา มหาวนํ อโชฺฌคาเหตฺวา อปญฺญเตฺต สิกฺขาปเท อนาทีนวทโสฺส ปุราณทุติยิกาย ติกฺขตฺตุํ เมถุนํ ธมฺมํ อภิวิญฺญาเปสิฯ สา เตน คพฺภํ คณฺหิฯ ภุมฺมา เทวา สทฺทมนุสฺสาเวสุํ – ‘‘นิรพฺพุโท วต, โภ, ภิกฺขุสโงฺฆ นิราทีนโว; สุทิเนฺนน กลนฺทปุเตฺตน อพฺพุทํ อุปฺปาทิตํ, อาทีนโว อุปฺปาทิโต’’ติฯ ภุมฺมานํ เทวานํ สทฺทํ สุตฺวา จาตุมหาราชิกา 23 เทวา สทฺทมนุสฺสาเวสุํ…เป.… ตาวติํสา เทวา… ยามา เทวา … ตุสิตา เทวา… นิมฺมานรตี เทวา… ปรนิมฺมิตวสวตฺตี เทวา… พฺรหฺมกายิกา เทวา สทฺทมนุสฺสาเวสุํ – ‘‘นิรพฺพุโท วต, โภ, ภิกฺขุสโงฺฆ นิราทีนโว; สุทิเนฺนน กลนฺทปุเตฺตน อพฺพุทํ อุปฺปาทิตํ, อาทีนโว อุปฺปาทิโต’’ติฯ อิติห เตน ขเณน เตน มุหุเตฺตน ยาว พฺรหฺมโลกา สโทฺท อพฺภุคฺคจฺฉิฯ

    36. Atha kho āyasmato sudinnassa mātā āyasmato sudinnassa purāṇadutiyikaṃ āmantesi – ‘‘tena hi, vadhu, yadā utunī hosi, pupphaṃ te uppannaṃ hoti, atha me āroceyyāsī’’ti. ‘‘Evaṃ ayye’’ti kho āyasmato sudinnassa purāṇadutiyikā āyasmato sudinnassa mātuyā paccassosi. Atha kho āyasmato sudinnassa purāṇadutiyikā nacirasseva utunī ahosi, pupphaṃsā uppajji. Atha kho āyasmato sudinnassa purāṇadutiyikā āyasmato sudinnassa mātaraṃ etadavoca – ‘‘utunīmhi, ayye, pupphaṃ me uppanna’’nti. ‘‘Tena hi, vadhu, yena alaṅkārena alaṅkatā puttassa sudinnassa piyā ahosi manāpā tena alaṅkārena alaṅkarā’’ti. ‘‘Evaṃ ayye’’ti kho āyasmato sudinnassa purāṇadutiyikā āyasmato sudinnassa mātuyā paccassosi. Atha kho āyasmato sudinnassa mātā āyasmato sudinnassa purāṇadutiyikaṃ ādāya yena mahāvanaṃ yenāyasmā sudinno tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ sudinnaṃ etadavoca – ‘‘idaṃ, tāta sudinna, kulaṃ aḍḍhaṃ mahaddhanaṃ mahābhogaṃ pahūtajātarūparajataṃ pahūtavittūpakaraṇaṃ pahūtadhanadhaññaṃ. Labbhā, tāta sudinna, hīnāyāvattitvā bhogā ca bhuñjituṃ puññāni ca kātuṃ. Ehi tvaṃ, tāta sudinna, hīnāyāvattitvā bhoge ca bhuñjassu puññāni ca karohī’’ti. ‘‘Amma, na ussahāmi na visahāmi, abhirato ahaṃ brahmacariyaṃ carāmī’’ti. Dutiyampi kho…pe… tatiyampi kho āyasmato sudinnassa mātā āyasmantaṃ sudinnaṃ etadavoca – ‘‘idaṃ, tāta sudinna, kulaṃ aḍḍhaṃ mahaddhanaṃ mahābhogaṃ pahūtajātarūparajataṃ pahūtavittūpakaraṇaṃ pahūtadhanadhaññaṃ. Tena hi, tāta sudinna, bījakampi dehi – mā no aputtakaṃ sāpateyyaṃ licchavayo atiharāpesu’’nti. ‘‘Etaṃ kho me, amma, sakkā kātu’’nti, purāṇadutiyikāya bāhāyaṃ gahetvā mahāvanaṃ ajjhogāhetvā apaññatte sikkhāpade anādīnavadasso purāṇadutiyikāya tikkhattuṃ methunaṃ dhammaṃ abhiviññāpesi. Sā tena gabbhaṃ gaṇhi. Bhummā devā saddamanussāvesuṃ – ‘‘nirabbudo vata, bho, bhikkhusaṅgho nirādīnavo; sudinnena kalandaputtena abbudaṃ uppāditaṃ, ādīnavo uppādito’’ti. Bhummānaṃ devānaṃ saddaṃ sutvā cātumahārājikā 24 devā saddamanussāvesuṃ…pe… tāvatiṃsā devā… yāmā devā … tusitā devā… nimmānaratī devā… paranimmitavasavattī devā… brahmakāyikā devā saddamanussāvesuṃ – ‘‘nirabbudo vata, bho, bhikkhusaṅgho nirādīnavo; sudinnena kalandaputtena abbudaṃ uppāditaṃ, ādīnavo uppādito’’ti. Itiha tena khaṇena tena muhuttena yāva brahmalokā saddo abbhuggacchi.

    อถ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ปุราณทุติยิกา ตสฺส คพฺภสฺส ปริปากมนฺวาย ปุตฺตํ วิชายิฯ อถ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส สหายกา ตสฺส ทารกสฺส ‘พีชโก’ติ นามํ อกํสุฯ อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ปุราณทุติยิกาย พีชกมาตาติ นามํ อกํสุฯ อายสฺมโต สุทินฺนสฺส พีชกปิตาติ นามํ อกํสุฯ เต อปเรน สมเยน อุโภ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉากํสุฯ

    Atha kho āyasmato sudinnassa purāṇadutiyikā tassa gabbhassa paripākamanvāya puttaṃ vijāyi. Atha kho āyasmato sudinnassa sahāyakā tassa dārakassa ‘bījako’ti nāmaṃ akaṃsu. Āyasmato sudinnassa purāṇadutiyikāya bījakamātāti nāmaṃ akaṃsu. Āyasmato sudinnassa bījakapitāti nāmaṃ akaṃsu. Te aparena samayena ubho agārasmā anagāriyaṃ pabbajitvā arahattaṃ sacchākaṃsu.

    ๓๗. อถ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส อหุเทว กุกฺกุจฺจํ, อหุ วิปฺปฎิสาโร – ‘‘อลาภา วต เม, น วต เม ลาภา! ทุลฺลทฺธํ วต เม, น วต เม สุลทฺธํ! โยหํ เอวํ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย ปพฺพชิตฺวา นาสกฺขิํ ยาวชีวํ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จริตุ’’นฺติฯ โส เตเนว กุกฺกุเจฺจน เตน วิปฺปฎิสาเรน กิโส อโหสิ ลูโข ทุพฺพโณฺณ อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโต ธมนิสนฺถตคโตฺต อโนฺตมโน ลีนมโน ทุกฺขี ทุมฺมโน วิปฺปฎิสารี ปชฺฌายิฯ

    37. Atha kho āyasmato sudinnassa ahudeva kukkuccaṃ, ahu vippaṭisāro – ‘‘alābhā vata me, na vata me lābhā! Dulladdhaṃ vata me, na vata me suladdhaṃ! Yohaṃ evaṃ svākkhāte dhammavinaye pabbajitvā nāsakkhiṃ yāvajīvaṃ paripuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ caritu’’nti. So teneva kukkuccena tena vippaṭisārena kiso ahosi lūkho dubbaṇṇo uppaṇḍuppaṇḍukajāto dhamanisanthatagatto antomano līnamano dukkhī dummano vippaṭisārī pajjhāyi.

    ๓๘. อถ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส สหายกา ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ สุทินฺนํ เอตทโวจุํ – ‘‘ปุเพฺพ โข ตฺวํ, อาวุโส สุทินฺน, วณฺณวา อโหสิ ปีณินฺทฺริโย ปสนฺนมุขวโณฺณ วิปฺปสนฺนฉวิวโณฺณ; โส ทานิ ตฺวํ เอตรหิ กิโส ลูโข ทุพฺพโณฺณ อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโต ธมนิสนฺถตคโตฺต อโนฺตมโน ลีนมโน ทุกฺขี ทุมฺมโน วิปฺปฎิสารี ปชฺฌายสิฯ กจฺจิ โน ตฺวํ, อาวุโส สุทินฺน, อนภิรโต พฺรหฺมจริยํ จรสี’’ติ? ‘‘น โข อหํ, อาวุโส, อนภิรโต พฺรหฺมจริยํ จรามิฯ อตฺถิ เม ปาปกมฺมํ กตํ; ปุราณทุติยิกาย เมถุโน ธโมฺม ปฎิเสวิโต; ตสฺส มยฺหํ, อาวุโส, อหุเทว กุกฺกุจฺจํ อหุ วิปฺปฎิสาโร – ‘อลาภา วต เม, น วต เม ลาภา; ทุลฺลทฺธํ วต เม, น วต เม สุลทฺธํ; โยหํ เอวํ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย ปพฺพชิตฺวา นาสกฺขิํ ยาวชีวํ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จริตุ’’นฺติฯ ‘‘อลญฺหิ เต, อาวุโส สุทินฺน, กุกฺกุจฺจาย อลํ วิปฺปฎิสาราย ยํ ตฺวํ เอวํ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย ปพฺพชิตฺวา น สกฺขิสฺสสิ ยาวชีวํ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํฯ นนุ, อาวุโส, ภควตา อเนกปริยาเยน วิราคาย ธโมฺม เทสิโต, โน สราคาย; วิสํโยคาย ธโมฺม เทสิโต, โน สํโยคาย; อนุปาทานาย ธโมฺม เทสิโต, โน สอุปาทานายฯ ตตฺถ นาม ตฺวํ, อาวุโส, ภควตา วิราคาย ธเมฺม เทสิเต สราคาย เจเตสฺสสิ, วิสํโยคาย ธเมฺม เทสิเต สํโยคาย เจเตสฺสสิ, อนุปาทานาย ธเมฺม เทสิเต สอุปาทานาย เจเตสฺสสิ! นนุ, อาวุโส, ภควตา อเนกปริยาเยน ราควิราคาย ธโมฺม เทสิโต, มทนิมฺมทนาย ปิปาสวินยาย อาลยสมุคฺฆาตาย วฎฺฎุปเจฺฉทาย ตณฺหากฺขยาย วิราคาย นิโรธาย นิพฺพานาย ธโมฺม เทสิโต! นนุ, อาวุโส, ภควตา อเนกปริยาเยน กามานํ ปหานํ อกฺขาตํ, กามสญฺญานํ ปริญฺญา อกฺขาตา, กามปิปาสานํ ปฎิวินโย อกฺขาโต, กามวิตกฺกานํ สมุคฺฆาโต อกฺขาโต, กามปริฬาหานํ วูปสโม อกฺขาโต! เนตํ, อาวุโส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย, ปสนฺนานํ วา ภิโยฺยภาวายฯ อถ เขฺวตํ, อาวุโส, อปฺปสนฺนานเญฺจว อปฺปสาทาย ปสนฺนานญฺจ เอกจฺจานํ อญฺญถตฺตายา’’ติฯ

    38. Atha kho āyasmato sudinnassa sahāyakā bhikkhū āyasmantaṃ sudinnaṃ etadavocuṃ – ‘‘pubbe kho tvaṃ, āvuso sudinna, vaṇṇavā ahosi pīṇindriyo pasannamukhavaṇṇo vippasannachavivaṇṇo; so dāni tvaṃ etarahi kiso lūkho dubbaṇṇo uppaṇḍuppaṇḍukajāto dhamanisanthatagatto antomano līnamano dukkhī dummano vippaṭisārī pajjhāyasi. Kacci no tvaṃ, āvuso sudinna, anabhirato brahmacariyaṃ carasī’’ti? ‘‘Na kho ahaṃ, āvuso, anabhirato brahmacariyaṃ carāmi. Atthi me pāpakammaṃ kataṃ; purāṇadutiyikāya methuno dhammo paṭisevito; tassa mayhaṃ, āvuso, ahudeva kukkuccaṃ ahu vippaṭisāro – ‘alābhā vata me, na vata me lābhā; dulladdhaṃ vata me, na vata me suladdhaṃ; yohaṃ evaṃ svākkhāte dhammavinaye pabbajitvā nāsakkhiṃ yāvajīvaṃ paripuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ caritu’’nti. ‘‘Alañhi te, āvuso sudinna, kukkuccāya alaṃ vippaṭisārāya yaṃ tvaṃ evaṃ svākkhāte dhammavinaye pabbajitvā na sakkhissasi yāvajīvaṃ paripuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ carituṃ. Nanu, āvuso, bhagavatā anekapariyāyena virāgāya dhammo desito, no sarāgāya; visaṃyogāya dhammo desito, no saṃyogāya; anupādānāya dhammo desito, no saupādānāya. Tattha nāma tvaṃ, āvuso, bhagavatā virāgāya dhamme desite sarāgāya cetessasi, visaṃyogāya dhamme desite saṃyogāya cetessasi, anupādānāya dhamme desite saupādānāya cetessasi! Nanu, āvuso, bhagavatā anekapariyāyena rāgavirāgāya dhammo desito, madanimmadanāya pipāsavinayāya ālayasamugghātāya vaṭṭupacchedāya taṇhākkhayāya virāgāya nirodhāya nibbānāya dhammo desito! Nanu, āvuso, bhagavatā anekapariyāyena kāmānaṃ pahānaṃ akkhātaṃ, kāmasaññānaṃ pariññā akkhātā, kāmapipāsānaṃ paṭivinayo akkhāto, kāmavitakkānaṃ samugghāto akkhāto, kāmapariḷāhānaṃ vūpasamo akkhāto! Netaṃ, āvuso, appasannānaṃ vā pasādāya, pasannānaṃ vā bhiyyobhāvāya. Atha khvetaṃ, āvuso, appasannānañceva appasādāya pasannānañca ekaccānaṃ aññathattāyā’’ti.

    ๓๙. อถ โข เต ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ สุทินฺนํ อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา อายสฺมนฺตํ สุทินฺนํ ปฎิปุจฺฉิ – ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, สุทินฺน, ปุราณทุติยิกาย เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวี’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา – ‘‘อนนุจฺฉวิกํ 25, โมฆปุริส, อนนุโลมิกํ อปฺปฎิรูปํ อสฺสามณกํ อกปฺปิยํ อกรณียํฯ กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, เอวํ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย ปพฺพชิตฺวา น สกฺขิสฺสสิ ยาวชีวํ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ! นนุ มยา, โมฆปุริส, อเนกปริยาเยน วิราคาย ธโมฺม เทสิโต, โน สราคาย; วิสํโยคาย ธโมฺม เทสิโต, โน สํโยคาย; อนุปาทานาย ธโมฺม เทสิโต, โน สอุปาทานาย! ตตฺถ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, มยา วิราคาย ธเมฺม เทสิเต สราคาย เจเตสฺสสิ , วิสํโยคาย ธเมฺม เทสิเต สํโยคาย เจเตสฺสสิ, อนุปาทานาย ธเมฺม เทสิเต สอุปาทานาย เจเตสฺสสิ! นนุ มยา, โมฆปุริส, อเนกปริยาเยน ราควิราคาย ธโมฺม เทสิโต! มทนิมฺมทนาย ปิปาสวินยาย อาลยสมุคฺฆาตาย วฎฺฎุปเจฺฉทาย ตณฺหากฺขยาย วิราคาย นิโรธาย นิพฺพานาย ธโมฺม เทสิโต! นนุ มยา, โมฆปุริส, อเนกปริยาเยน กามานํ ปหานํ อกฺขาตํ, กามสญฺญานํ ปริญฺญา อกฺขาตา, กามปิปาสานํ ปฎิวินโย อกฺขาโต, กามวิตกฺกานํ สมุคฺฆาโต อกฺขาโต, กามปริฬาหานํ วูปสโม อกฺขาโต! วรํ เต, โมฆปุริส, อาสิวิสสฺส 26 โฆรวิสสฺส มุเข องฺคชาตํ ปกฺขิตฺตํ, น เตฺวว มาตุคามสฺส องฺคชาเต องฺคชาตํ ปกฺขิตฺตํฯ วรํ เต, โมฆปุริส, กณฺหสปฺปสฺส มุเข องฺคชาตํ ปกฺขิตฺตํ, น เตฺวว มาตุคามสฺส องฺคชาเต องฺคชาตํ ปกฺขิตฺตํฯ วรํ เต, โมฆปุริส, องฺคารกาสุยา อาทิตฺตาย สมฺปชฺชลิตาย สโชติภูตาย องฺคชาตํ ปกฺขิตฺตํ, น เตฺวว มาตุคามสฺส องฺคชาเต องฺคชาตํ ปกฺขิตฺตํฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ตโตนิทานญฺหิ, โมฆปุริส, มรณํ วา นิคเจฺฉยฺย มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ, น เตฺวว ตปฺปจฺจยา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปเชฺชยฺยฯ อิโตนิทานญฺจ โข, โมฆปุริส, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปเชฺชยฺยฯ ตตฺถ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, ยํ ตฺวํ อสทฺธมฺมํ คามธมฺมํ วสลธมฺมํ ทุฎฺฐุลฺลํ โอทกนฺติกํ รหสฺสํ ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติํ สมาปชฺชิสฺสสิ, พหูนํ โข ตฺวํ, โมฆปุริส, อกุสลานํ ธมฺมานํ อาทิกตฺตา ปุพฺพงฺคโมฯ เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย, ปสนฺนานํ วา ภิโยฺยภาวาย; อถ เขฺวตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานเญฺจว อปฺปสาทาย, ปสนฺนานญฺจ เอกจฺจานํ อญฺญถตฺตายา’’ติฯ

    39. Atha kho te bhikkhū āyasmantaṃ sudinnaṃ anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe bhikkhusaṅghaṃ sannipātāpetvā āyasmantaṃ sudinnaṃ paṭipucchi – ‘‘saccaṃ kira tvaṃ, sudinna, purāṇadutiyikāya methunaṃ dhammaṃ paṭisevī’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā – ‘‘ananucchavikaṃ 27, moghapurisa, ananulomikaṃ appaṭirūpaṃ assāmaṇakaṃ akappiyaṃ akaraṇīyaṃ. Kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, evaṃ svākkhāte dhammavinaye pabbajitvā na sakkhissasi yāvajīvaṃ paripuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ carituṃ! Nanu mayā, moghapurisa, anekapariyāyena virāgāya dhammo desito, no sarāgāya; visaṃyogāya dhammo desito, no saṃyogāya; anupādānāya dhammo desito, no saupādānāya! Tattha nāma tvaṃ, moghapurisa, mayā virāgāya dhamme desite sarāgāya cetessasi , visaṃyogāya dhamme desite saṃyogāya cetessasi, anupādānāya dhamme desite saupādānāya cetessasi! Nanu mayā, moghapurisa, anekapariyāyena rāgavirāgāya dhammo desito! Madanimmadanāya pipāsavinayāya ālayasamugghātāya vaṭṭupacchedāya taṇhākkhayāya virāgāya nirodhāya nibbānāya dhammo desito! Nanu mayā, moghapurisa, anekapariyāyena kāmānaṃ pahānaṃ akkhātaṃ, kāmasaññānaṃ pariññā akkhātā, kāmapipāsānaṃ paṭivinayo akkhāto, kāmavitakkānaṃ samugghāto akkhāto, kāmapariḷāhānaṃ vūpasamo akkhāto! Varaṃ te, moghapurisa, āsivisassa 28 ghoravisassa mukhe aṅgajātaṃ pakkhittaṃ, na tveva mātugāmassa aṅgajāte aṅgajātaṃ pakkhittaṃ. Varaṃ te, moghapurisa, kaṇhasappassa mukhe aṅgajātaṃ pakkhittaṃ, na tveva mātugāmassa aṅgajāte aṅgajātaṃ pakkhittaṃ. Varaṃ te, moghapurisa, aṅgārakāsuyā ādittāya sampajjalitāya sajotibhūtāya aṅgajātaṃ pakkhittaṃ, na tveva mātugāmassa aṅgajāte aṅgajātaṃ pakkhittaṃ. Taṃ kissa hetu? Tatonidānañhi, moghapurisa, maraṇaṃ vā nigaccheyya maraṇamattaṃ vā dukkhaṃ, na tveva tappaccayā kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ nirayaṃ upapajjeyya. Itonidānañca kho, moghapurisa, kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ nirayaṃ upapajjeyya. Tattha nāma tvaṃ, moghapurisa, yaṃ tvaṃ asaddhammaṃ gāmadhammaṃ vasaladhammaṃ duṭṭhullaṃ odakantikaṃ rahassaṃ dvayaṃdvayasamāpattiṃ samāpajjissasi, bahūnaṃ kho tvaṃ, moghapurisa, akusalānaṃ dhammānaṃ ādikattā pubbaṅgamo. Netaṃ, moghapurisa, appasannānaṃ vā pasādāya, pasannānaṃ vā bhiyyobhāvāya; atha khvetaṃ, moghapurisa, appasannānañceva appasādāya, pasannānañca ekaccānaṃ aññathattāyā’’ti.

    อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ สุทินฺนํ อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ทุพฺภรตาย ทุโปฺปสตาย มหิจฺฉตาย อสนฺตุฎฺฐิตาย 29 สงฺคณิกาย โกสชฺชสฺส อวณฺณํ ภาสิตฺวา อเนกปริยาเยน สุภรตาย สุโปสตาย อปฺปิจฺฉสฺส สนฺตุฎฺฐสฺส สเลฺลขสฺส ธุตสฺส ปาสาทิกสฺส อปจยสฺส วีริยารมฺภสฺส 30 วณฺณํ ภาสิตฺวา ภิกฺขูนํ ตทนุจฺฉวิกํ ตทนุโลมิกํ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญเปสฺสามิ 31 ทส อตฺถวเส ปฎิจฺจ – สงฺฆสุฎฺฐุตาย, สงฺฆผาสุตาย, ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหาย, เปสลานํ ภิกฺขูนํ ผาสุวิหาราย, ทิฎฺฐธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวราย, สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฎิฆาตาย, อปฺปสนฺนานํ ปสาทาย, ปสนฺนานํ ภิโยฺยภาวาย, สทฺธมฺมฎฺฐิติยา, วินยานุคฺคหายฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    Atha kho bhagavā āyasmantaṃ sudinnaṃ anekapariyāyena vigarahitvā dubbharatāya dupposatāya mahicchatāya asantuṭṭhitāya 32 saṅgaṇikāya kosajjassa avaṇṇaṃ bhāsitvā anekapariyāyena subharatāya suposatāya appicchassa santuṭṭhassa sallekhassa dhutassa pāsādikassa apacayassa vīriyārambhassa 33 vaṇṇaṃ bhāsitvā bhikkhūnaṃ tadanucchavikaṃ tadanulomikaṃ dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘tena hi, bhikkhave, bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññapessāmi 34 dasa atthavase paṭicca – saṅghasuṭṭhutāya, saṅghaphāsutāya, dummaṅkūnaṃ puggalānaṃ niggahāya, pesalānaṃ bhikkhūnaṃ phāsuvihārāya, diṭṭhadhammikānaṃ āsavānaṃ saṃvarāya, samparāyikānaṃ āsavānaṃ paṭighātāya, appasannānaṃ pasādāya, pasannānaṃ bhiyyobhāvāya, saddhammaṭṭhitiyā, vinayānuggahāya. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘โย ปน ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสเวยฺย, ปาราชิโก โหติ อสํวาโส’’ติฯ

    ‘‘Yopana bhikkhu methunaṃ dhammaṃ paṭiseveyya, pārājiko hoti asaṃvāso’’ti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    สุทินฺนภาณวาโร นิฎฺฐิโตฯ

    Sudinnabhāṇavāro niṭṭhito.

    มกฺกฎีวตฺถุ

    Makkaṭīvatthu

    ๔๐. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ เวสาลิยํ มหาวเน มกฺกฎิํ อามิเสน อุปลาเปตฺวา ตสฺสา เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวติฯ อถ โข โส ภิกฺขุ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรํ อาทาย เวสาลิํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑนฺตา เยน ตสฺส ภิกฺขุโน วิหาโร เตนุปสงฺกมิํสุฯ อทฺทส โข สา มกฺกฎี เต ภิกฺขู ทูรโตว อาคจฺฉเนฺตฯ ทิสฺวาน เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เตสํ ภิกฺขูนํ ปุรโต กฎิมฺปิ จาเลสิ เฉปฺปมฺปิ จาเลสิ, กฎิมฺปิ โอฑฺฑิ, นิมิตฺตมฺปิ อกาสิฯ อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข โส ภิกฺขุ อิมิสฺสา มกฺกฎิยา เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวตี’’ติฯ เอกมนฺตํ นิลียิํสุฯ อถ โข โส ภิกฺขุ เวสาลิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปิณฺฑปาตํ อาทาย ปฎิกฺกมิฯ

    40. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu vesāliyaṃ mahāvane makkaṭiṃ āmisena upalāpetvā tassā methunaṃ dhammaṃ paṭisevati. Atha kho so bhikkhu pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaraṃ ādāya vesāliṃ piṇḍāya pāvisi. Tena kho pana samayena sambahulā bhikkhū senāsanacārikaṃ āhiṇḍantā yena tassa bhikkhuno vihāro tenupasaṅkamiṃsu. Addasa kho sā makkaṭī te bhikkhū dūratova āgacchante. Disvāna yena te bhikkhū tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā tesaṃ bhikkhūnaṃ purato kaṭimpi cālesi cheppampi cālesi, kaṭimpi oḍḍi, nimittampi akāsi. Atha kho tesaṃ bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘nissaṃsayaṃ kho so bhikkhu imissā makkaṭiyā methunaṃ dhammaṃ paṭisevatī’’ti. Ekamantaṃ nilīyiṃsu. Atha kho so bhikkhu vesāliyaṃ piṇḍāya caritvā piṇḍapātaṃ ādāya paṭikkami.

    ๔๑. อถ โข สา มกฺกฎี เยน โส ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิฯ อถ โข โส ภิกฺขุ ตํ ปิณฺฑปาตํ เอกเทสํ ภุญฺชิตฺวา เอกเทสํ ตสฺสา มกฺกฎิยา อทาสิฯ อถ โข สา มกฺกฎี ตํ ปิณฺฑปาตํ ภุญฺชิตฺวา ตสฺส ภิกฺขุโน กฎิํ โอฑฺฑิฯ อถ โข โส ภิกฺขุ ตสฺสา มกฺกฎิยา เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวติฯ อถ โข เต ภิกฺขู ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจุํ – ‘‘นนุ, อาวุโส, ภควตา สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ; กิสฺส ตฺวํ, อาวุโส, มกฺกฎิยา เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวสี’’ติ? ‘‘สจฺจํ, อาวุโส, ภควตา สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ; ตญฺจ โข มนุสฺสิตฺถิยา , โน ติรจฺฉานคตายา’’ติฯ ‘‘นนุ, อาวุโส, ตเถว ตํ โหติฯ อนนุจฺฉวิกํ, อาวุโส, อนนุโลมิกํ อปฺปฎิรูปํ อสฺสามณกํ อกปฺปิยํ อกรณียํฯ กถญฺหิ นาม ตฺวํ, อาวุโส, เอวํ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย ปพฺพชิตฺวา น สกฺขิสฺสสิ ยาวชีวํ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ! นนุ, อาวุโส, ภควตา อเนกปริยาเยน วิราคาย ธโมฺม เทสิโต, โน สราคาย…เป.… กามปริฬาหานํ วูปสโม อกฺขาโต! เนตํ, อาวุโส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย ปสนฺนานํ วา ภิโยฺยภาวายฯ อถ เขฺวตํ, อาวุโส, อปฺปสนฺนานเญฺจว อปฺปสาทาย, ปสนฺนานญฺจ เอกจฺจานํ อญฺญถตฺตายา’’ติฯ อถ โข เต ภิกฺขู ตํ ภิกฺขุํ อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อโรเจสุํฯ

    41. Atha kho sā makkaṭī yena so bhikkhu tenupasaṅkami. Atha kho so bhikkhu taṃ piṇḍapātaṃ ekadesaṃ bhuñjitvā ekadesaṃ tassā makkaṭiyā adāsi. Atha kho sā makkaṭī taṃ piṇḍapātaṃ bhuñjitvā tassa bhikkhuno kaṭiṃ oḍḍi. Atha kho so bhikkhu tassā makkaṭiyā methunaṃ dhammaṃ paṭisevati. Atha kho te bhikkhū taṃ bhikkhuṃ etadavocuṃ – ‘‘nanu, āvuso, bhagavatā sikkhāpadaṃ paññattaṃ; kissa tvaṃ, āvuso, makkaṭiyā methunaṃ dhammaṃ paṭisevasī’’ti? ‘‘Saccaṃ, āvuso, bhagavatā sikkhāpadaṃ paññattaṃ; tañca kho manussitthiyā , no tiracchānagatāyā’’ti. ‘‘Nanu, āvuso, tatheva taṃ hoti. Ananucchavikaṃ, āvuso, ananulomikaṃ appaṭirūpaṃ assāmaṇakaṃ akappiyaṃ akaraṇīyaṃ. Kathañhi nāma tvaṃ, āvuso, evaṃ svākkhāte dhammavinaye pabbajitvā na sakkhissasi yāvajīvaṃ paripuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ carituṃ! Nanu, āvuso, bhagavatā anekapariyāyena virāgāya dhammo desito, no sarāgāya…pe… kāmapariḷāhānaṃ vūpasamo akkhāto! Netaṃ, āvuso, appasannānaṃ vā pasādāya pasannānaṃ vā bhiyyobhāvāya. Atha khvetaṃ, āvuso, appasannānañceva appasādāya, pasannānañca ekaccānaṃ aññathattāyā’’ti. Atha kho te bhikkhū taṃ bhikkhuṃ anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ arocesuṃ.

    ๔๒. อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ตํ ภิกฺขุํ ปฎิปุจฺฉิ – ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ภิกฺขุ, มกฺกฎิยา เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวี’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา – ‘‘อนนุจฺฉวิกํ, โมฆปุริส, อนนุโลมิกํ อปฺปติรูปํ อสฺสามณกํ อกปฺปิยํ อกรณียํฯ กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, เอวํ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย ปพฺพชิตฺวา น สกฺขิสฺสสิ ยาวชีวํ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ! นนุ มยา, โมฆปุริส, อเนกปริยาเยน วิราคาย ธโมฺม เทสิโต, โน สราคาย …เป.… กามปริฬาหานํ วูปสโม อกฺขาโต! วรํ เต, โมฆปุริส, อาสีวิสสฺส โฆรวิสสฺส มุเข องฺคชาตํ ปกฺขิตฺตํ, น เตฺวว มกฺกฎิยา องฺคชาเต องฺคชาตํ ปกฺขิตฺตํฯ วรํ เต, โมฆปุริส, กณฺหสปฺปสฺส มุเข องฺคชาตํ ปกฺขิตฺตํ, น เตฺวว มกฺกฎิยา องฺคชาเต องฺคชาตํ ปกฺขิตฺตํฯ วรํ เต, โมฆปุริส, องฺคารกาสุยา อาทิตฺตาย สมฺปชฺชลิตาย สโชติภูตาย องฺคชาตํ ปกฺขิตฺตํ, น เตฺวว มกฺกฎิยา องฺคชาเต องฺคชาตํ ปกฺขิตฺตํฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ตโตนิทานญฺหิ, โมฆปุริส, มรณํ วา นิคเจฺฉยฺย มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ; น เตฺวว ตปฺปจฺจยา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปเชฺชยฺยฯ อิโตนิทานญฺจ โข, โมฆปุริส, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปเชฺชยฺยฯ ตตฺถ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, ยํ ตฺวํ อสทฺธมฺมํ คามธมฺมํ วสลธมฺมํ ทุฎฺฐุลฺลํ โอทกนฺติกํ รหสฺสํ ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติํ สมาปชฺชิสฺสสิ! เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    42. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe bhikkhusaṅghaṃ sannipātāpetvā taṃ bhikkhuṃ paṭipucchi – ‘‘saccaṃ kira tvaṃ, bhikkhu, makkaṭiyā methunaṃ dhammaṃ paṭisevī’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā – ‘‘ananucchavikaṃ, moghapurisa, ananulomikaṃ appatirūpaṃ assāmaṇakaṃ akappiyaṃ akaraṇīyaṃ. Kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, evaṃ svākkhāte dhammavinaye pabbajitvā na sakkhissasi yāvajīvaṃ paripuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ carituṃ! Nanu mayā, moghapurisa, anekapariyāyena virāgāya dhammo desito, no sarāgāya …pe… kāmapariḷāhānaṃ vūpasamo akkhāto! Varaṃ te, moghapurisa, āsīvisassa ghoravisassa mukhe aṅgajātaṃ pakkhittaṃ, na tveva makkaṭiyā aṅgajāte aṅgajātaṃ pakkhittaṃ. Varaṃ te, moghapurisa, kaṇhasappassa mukhe aṅgajātaṃ pakkhittaṃ, na tveva makkaṭiyā aṅgajāte aṅgajātaṃ pakkhittaṃ. Varaṃ te, moghapurisa, aṅgārakāsuyā ādittāya sampajjalitāya sajotibhūtāya aṅgajātaṃ pakkhittaṃ, na tveva makkaṭiyā aṅgajāte aṅgajātaṃ pakkhittaṃ. Taṃ kissa hetu? Tatonidānañhi, moghapurisa, maraṇaṃ vā nigaccheyya maraṇamattaṃ vā dukkhaṃ; na tveva tappaccayā kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ nirayaṃ upapajjeyya. Itonidānañca kho, moghapurisa, kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ nirayaṃ upapajjeyya. Tattha nāma tvaṃ, moghapurisa, yaṃ tvaṃ asaddhammaṃ gāmadhammaṃ vasaladhammaṃ duṭṭhullaṃ odakantikaṃ rahassaṃ dvayaṃdvayasamāpattiṃ samāpajjissasi! Netaṃ, moghapurisa, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘โย ปน ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสเวยฺย อนฺตมโส ติรจฺฉานคตายปิ, ปาราชิโก โหติ อสํวาโส’’ติฯ

    ‘‘Yopana bhikkhu methunaṃ dhammaṃ paṭiseveyya antamaso tiracchānagatāyapi, pārājiko hoti asaṃvāso’’ti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    มกฺกฎีวตฺถุ นิฎฺฐิตํฯ

    Makkaṭīvatthu niṭṭhitaṃ.

    สนฺถตภาณวาโร

    Santhatabhāṇavāro

    ๔๓. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา เวสาลิกา วชฺชิปุตฺตกา ภิกฺขู ยาวทตฺถํ ภุญฺชิํสุ, ยาวทตฺถํ สุปิํสุ, ยาวทตฺถํ นฺหายิํสุฯ ยาวทตฺถํ ภุญฺชิตฺวา ยาวทตฺถํ สุปิตฺวา ยาวทตฺถํ นฺหายิตฺวา อโยนิโส มนสิ กริตฺวา สิกฺขํ อปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิํสุฯ เต อปเรน สมเยน ญาติพฺยสเนนปิ ผุฎฺฐา โภคพฺยสเนนปิ ผุฎฺฐา โรคพฺยสเนนปิ ผุฎฺฐา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทนฺติ – ‘‘น มยํ, ภเนฺต อานนฺท, พุทฺธครหิโน น ธมฺมครหิโน น สงฺฆครหิโน; อตฺตครหิโน มยํ, ภเนฺต อานนฺท, อนญฺญครหิโนฯ มยเมวมฺหา อลกฺขิกา มยํ อปฺปปุญฺญา, เย มยํ เอวํ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย ปพฺพชิตฺวา นาสกฺขิมฺหา ยาวชีวํ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํฯ อิทานิ เจปิ 35 มยํ, ภเนฺต อานนฺท, ลเภยฺยาม ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ ลเภยฺยาม อุปสมฺปทํ, อิทานิปิ มยํ วิปสฺสกา กุสลานํ ธมฺมานํ ปุพฺพรตฺตาปรรตฺตํ โพธิปกฺขิกานํ ธมฺมานํ ภาวนานุโยคมนุยุตฺตา วิหเรยฺยามฯ สาธุ, ภเนฺต อานนฺท, ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจหี’’ติฯ ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา อานโนฺท เวสาลิกานํ วชฺชิปุตฺตกานํ ปฎิสฺสุณิตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ

    43. Tena kho pana samayena sambahulā vesālikā vajjiputtakā bhikkhū yāvadatthaṃ bhuñjiṃsu, yāvadatthaṃ supiṃsu, yāvadatthaṃ nhāyiṃsu. Yāvadatthaṃ bhuñjitvā yāvadatthaṃ supitvā yāvadatthaṃ nhāyitvā ayoniso manasi karitvā sikkhaṃ apaccakkhāya dubbalyaṃ anāvikatvā methunaṃ dhammaṃ paṭiseviṃsu. Te aparena samayena ñātibyasanenapi phuṭṭhā bhogabyasanenapi phuṭṭhā rogabyasanenapi phuṭṭhā āyasmantaṃ ānandaṃ upasaṅkamitvā evaṃ vadanti – ‘‘na mayaṃ, bhante ānanda, buddhagarahino na dhammagarahino na saṅghagarahino; attagarahino mayaṃ, bhante ānanda, anaññagarahino. Mayamevamhā alakkhikā mayaṃ appapuññā, ye mayaṃ evaṃ svākkhāte dhammavinaye pabbajitvā nāsakkhimhā yāvajīvaṃ paripuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ carituṃ. Idāni cepi 36 mayaṃ, bhante ānanda, labheyyāma bhagavato santike pabbajjaṃ labheyyāma upasampadaṃ, idānipi mayaṃ vipassakā kusalānaṃ dhammānaṃ pubbarattāpararattaṃ bodhipakkhikānaṃ dhammānaṃ bhāvanānuyogamanuyuttā vihareyyāma. Sādhu, bhante ānanda, bhagavato etamatthaṃ ārocehī’’ti. ‘‘Evamāvuso’’ti kho āyasmā ānando vesālikānaṃ vajjiputtakānaṃ paṭissuṇitvā yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesi.

    ‘‘อฎฺฐานเมตํ, อานนฺท, อนวกาโส ยํ ตถาคโต วชฺชีนํ วา วชฺชิปุตฺตกานํ วา การณา สาวกานํ ปาราชิกํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ สมูหเนยฺยา’’ติฯ

    ‘‘Aṭṭhānametaṃ, ānanda, anavakāso yaṃ tathāgato vajjīnaṃ vā vajjiputtakānaṃ vā kāraṇā sāvakānaṃ pārājikaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ samūhaneyyā’’ti.

    อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘โย, ภิกฺขเว 37, สิกฺขํ อปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวติ โส อาคโต น อุปสมฺปาเทตโพฺพ ; โย จ โข, ภิกฺขเว 38, สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวติ โส อาคโต อุปสมฺปาเทตโพฺพฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘yo, bhikkhave 39, sikkhaṃ apaccakkhāya dubbalyaṃ anāvikatvā methunaṃ dhammaṃ paṭisevati so āgato na upasampādetabbo ; yo ca kho, bhikkhave 40, sikkhaṃ paccakkhāya dubbalyaṃ āvikatvā methunaṃ dhammaṃ paṭisevati so āgato upasampādetabbo. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๔๔. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปโนฺน สิกฺขํ อปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสเวยฺย อนฺตมโส ติรจฺฉานคตายปิ, ปาราชิโก โหติ อสํวาโส’’ติฯ

    44.‘‘Yo pana bhikkhu bhikkhūnaṃ sikkhāsājīvasamāpanno sikkhaṃ apaccakkhāya dubbalyaṃ anāvikatvā methunaṃ dhammaṃ paṭiseveyya antamaso tiracchānagatāyapi, pārājiko hoti asaṃvāso’’ti.

    ๔๕. โย ปนาติ โย ยาทิโส ยถายุโตฺต ยถาชโจฺจ ยถานาโม ยถาโคโตฺต ยถาสีโล ยถาวิหารี ยถาโคจโร เถโร วา นโว วา มชฺฌิโม วาฯ เอโส วุจฺจติ ‘โย ปนา’ติฯ

    45.Yo panāti yo yādiso yathāyutto yathājacco yathānāmo yathāgotto yathāsīlo yathāvihārī yathāgocaro thero vā navo vā majjhimo vā. Eso vuccati ‘yo panā’ti.

    41 ภิกฺขูติ ภิกฺขโกติ ภิกฺขุ, ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคโตติ ภิกฺขุ, ภินฺนปฎธโรติ ภิกฺขุ, สมญฺญาย ภิกฺขุ, ปฎิญฺญาย ภิกฺขุ, เอหิ ภิกฺขูติ ภิกฺขุ, ตีหิ สรณคมเนหิ อุปสมฺปโนฺนติ ภิกฺขุ, ภโทฺร ภิกฺขุ, สาโร ภิกฺขุ, เสโข ภิกฺขุ, อเสโข ภิกฺขุ, สมเคฺคน สเงฺฆน ญตฺติจตุเตฺถน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน อุปสมฺปโนฺนติ ภิกฺขุฯ ตตฺร ยฺวายํ ภิกฺขุ สมเคฺคน สเงฺฆน ญตฺติจตุเตฺถน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน อุปสมฺปโนฺน, อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    42Bhikkhūti bhikkhakoti bhikkhu, bhikkhācariyaṃ ajjhupagatoti bhikkhu, bhinnapaṭadharoti bhikkhu, samaññāya bhikkhu, paṭiññāya bhikkhu, ehi bhikkhūti bhikkhu, tīhi saraṇagamanehi upasampannoti bhikkhu, bhadro bhikkhu, sāro bhikkhu, sekho bhikkhu, asekho bhikkhu, samaggena saṅghena ñatticatutthena kammena akuppena ṭhānārahena upasampannoti bhikkhu. Tatra yvāyaṃ bhikkhu samaggena saṅghena ñatticatutthena kammena akuppena ṭhānārahena upasampanno, ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    43 สิกฺขาติ ติโสฺส สิกฺขา – อธิสีลสิกฺขา, อธิจิตฺตสิกฺขา, อธิปญฺญาสิกฺขา ฯ ตตฺร ยายํ อธิสีลสิกฺขา, อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปตา สิกฺขาติฯ

    44Sikkhāti tisso sikkhā – adhisīlasikkhā, adhicittasikkhā, adhipaññāsikkhā . Tatra yāyaṃ adhisīlasikkhā, ayaṃ imasmiṃ atthe adhippetā sikkhāti.

    สาชีวํ นาม ยํ ภควตา ปญฺญตฺตํ สิกฺขาปทํ, เอตํ สาชีวํ นามฯ ตสฺมิํ สิกฺขติ, เตน วุจฺจติ สาชีวสมาปโนฺนติฯ

    Sājīvaṃ nāma yaṃ bhagavatā paññattaṃ sikkhāpadaṃ, etaṃ sājīvaṃ nāma. Tasmiṃ sikkhati, tena vuccati sājīvasamāpannoti.

    สิกฺขํ อปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวาติ อตฺถิ, ภิกฺขเว, ทุพฺพลฺยาวิกมฺมเญฺจว โหติ สิกฺขา จ อปจฺจกฺขาตา; อตฺถิ, ภิกฺขเว, ทุพฺพลฺยาวิกมฺมเญฺจว โหติ สิกฺขา จ ปจฺจกฺขาตาฯ

    Sikkhaṃapaccakkhāya dubbalyaṃ anāvikatvāti atthi, bhikkhave, dubbalyāvikammañceva hoti sikkhā ca apaccakkhātā; atthi, bhikkhave, dubbalyāvikammañceva hoti sikkhā ca paccakkhātā.

    ‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ทุพฺพลฺยาวิกมฺมเญฺจว โหติ สิกฺขา จ อปจฺจกฺขาตาฯ อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุกฺกณฺฐิโต อนภิรโต สามญฺญา จวิตุกาโม ภิกฺขุภาวํ อฎฺฎียมาโน หรายมาโน ชิคุจฺฉมาโน คิหิภาวํ ปตฺถยมาโน อุปาสกภาวํ ปตฺถยมาโน อารามิกภาวํ ปตฺถยมาโน สามเณรภาวํ ปตฺถยมาโน ติตฺถิยภาวํ ปตฺถยมาโน ติตฺถิยสาวกภาวํ ปตฺถยมาโน อสฺสมณภาวํ ปตฺถยมาโน อสกฺยปุตฺติยภาวํ ปตฺถยมาโน – ‘ยํนูนาหํ พุทฺธํ ปจฺจเกฺขยฺย’นฺติ วทติ วิญฺญาเปติฯ เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ทุพฺพลฺยาวิกมฺมเญฺจว โหติ สิกฺขา จ อปจฺจกฺขาตาฯ

    ‘‘Kathañca, bhikkhave, dubbalyāvikammañceva hoti sikkhā ca apaccakkhātā. Idha, bhikkhave, bhikkhu ukkaṇṭhito anabhirato sāmaññā cavitukāmo bhikkhubhāvaṃ aṭṭīyamāno harāyamāno jigucchamāno gihibhāvaṃ patthayamāno upāsakabhāvaṃ patthayamāno ārāmikabhāvaṃ patthayamāno sāmaṇerabhāvaṃ patthayamāno titthiyabhāvaṃ patthayamāno titthiyasāvakabhāvaṃ patthayamāno assamaṇabhāvaṃ patthayamāno asakyaputtiyabhāvaṃ patthayamāno – ‘yaṃnūnāhaṃ buddhaṃ paccakkheyya’nti vadati viññāpeti. Evampi, bhikkhave, dubbalyāvikammañceva hoti sikkhā ca apaccakkhātā.

    ‘‘อถ วา ปน อุกฺกณฺฐิโต อนภิรโต สามญฺญา จวิตุกาโม ภิกฺขุภาวํ อฎฺฎียมาโน หรายมาโน ชิคุจฺฉมาโน คิหิภาวํ ปตฺถยมาโน…เป.… อสกฺยปุตฺติยภาวํ ปตฺถยมาโน – ‘ยํนูนาหํ ธมฺมํ ปจฺจเกฺขยฺย’นฺติ วทติ วิญฺญาเปติ…เป.… ยํนูนาหํ สงฺฆํ… ยํนูนาหํ สิกฺขํ… ยํนูนาหํ วินยํ… ยํนูนาหํ ปาติโมกฺขํ… ยํนูนาหํ อุเทฺทสํ… ยํนูนาหํ อุปชฺฌายํ… ยํนูนาหํ อาจริยํ… ยํนูนาหํ สทฺธิวิหาริกํ… ยํนูนาหํ อเนฺตวาสิกํ… ยํนูนาหํ สมานุปชฺฌายกํ… ยํนูนาหํ สมานาจริยกํ ยํนูนาหํ สพฺรหฺมจาริํ ปจฺจเกฺขยฺย’นฺติ วทติ วิญฺญาเปติฯ ‘ยํนูนาหํ คิหี อสฺส’นฺติ วทติ วิญฺญาเปติฯ ‘ยํนูนาหํ อุปาสโก อสฺส’นฺติ… ‘ยํนูนาหํ อารามิโก อสฺส’นฺติ… ‘ยํนูนาหํ สามเณโร อสฺส’นฺติ… ‘ยํนูนาหํ ติตฺถิโย อสฺส’นฺติ… ‘ยํนูนาหํ ติตฺถิยสาวโก อสฺส’นฺติ… ‘ยํนูนาหํ อสฺสมโณ อสฺส’นฺติ… ‘ยํนูนาหํ อสกฺยปุตฺติโย อสฺส’นฺติ วทติ วิญฺญาเปติฯ เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ทุพฺพลฺยาวิกมฺมเญฺจว โหติ สิกฺขา จ อปจฺจกฺขาตาฯ

    ‘‘Atha vā pana ukkaṇṭhito anabhirato sāmaññā cavitukāmo bhikkhubhāvaṃ aṭṭīyamāno harāyamāno jigucchamāno gihibhāvaṃ patthayamāno…pe… asakyaputtiyabhāvaṃ patthayamāno – ‘yaṃnūnāhaṃ dhammaṃ paccakkheyya’nti vadati viññāpeti…pe… yaṃnūnāhaṃ saṅghaṃ… yaṃnūnāhaṃ sikkhaṃ… yaṃnūnāhaṃ vinayaṃ… yaṃnūnāhaṃ pātimokkhaṃ… yaṃnūnāhaṃ uddesaṃ… yaṃnūnāhaṃ upajjhāyaṃ… yaṃnūnāhaṃ ācariyaṃ… yaṃnūnāhaṃ saddhivihārikaṃ… yaṃnūnāhaṃ antevāsikaṃ… yaṃnūnāhaṃ samānupajjhāyakaṃ… yaṃnūnāhaṃ samānācariyakaṃ yaṃnūnāhaṃ sabrahmacāriṃ paccakkheyya’nti vadati viññāpeti. ‘Yaṃnūnāhaṃ gihī assa’nti vadati viññāpeti. ‘Yaṃnūnāhaṃ upāsako assa’nti… ‘yaṃnūnāhaṃ ārāmiko assa’nti… ‘yaṃnūnāhaṃ sāmaṇero assa’nti… ‘yaṃnūnāhaṃ titthiyo assa’nti… ‘yaṃnūnāhaṃ titthiyasāvako assa’nti… ‘yaṃnūnāhaṃ assamaṇo assa’nti… ‘yaṃnūnāhaṃ asakyaputtiyo assa’nti vadati viññāpeti. Evampi, bhikkhave, dubbalyāvikammañceva hoti sikkhā ca apaccakkhātā.

    ๔๖. ‘‘อถ วา ปน อุกฺกณฺฐิโต อนภิรโต สามญฺญา จวิตุกาโม ภิกฺขุภาวํ อฎฺฎียมาโน หรายมาโน ชิคุจฺฉมาโน คิหิภาวํ ปตฺถยมาโน…เป.… อสกฺยปุตฺติยภาวํ ปตฺถยมาโน – ‘ยทิ ปนาหํ พุทฺธํ ปจฺจเกฺขยฺย’นฺติ วทติ วิญฺญาเปติ…เป.… ‘ยทิ ปนาหํ อสกฺยปุตฺติโย อสฺส’นฺติ วทติ วิญฺญาเปติ…เป.… ‘อปาหํ พุทฺธํ ปจฺจเกฺขยฺย’นฺติ วทติ วิญฺญาเปติ…เป.… ‘อปาหํ อสกฺยปุตฺติโย อสฺส’นฺติ วทติ วิญฺญาเปติ…เป.… ‘หนฺทาหํ พุทฺธํ ปจฺจเกฺขยฺย’นฺติ วทติ วิญฺญาเปติ…เป.… ‘หนฺทาหํ อสกฺยปุตฺติโย อสฺส’นฺติ วทติ วิญฺญาเปติ…เป.… ‘โหติ เม พุทฺธํ ปจฺจเกฺขยฺย’นฺติ วทติ วิญฺญาเปติ…เป.… ‘โหติ เม อสกฺยปุตฺติโย อสฺส’นฺติ วทติ วิญฺญาเปติฯ เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ทุพฺพลฺยาวิกมฺมเญฺจว โหติ สิกฺขา จ อปจฺจกฺขาตาฯ

    46. ‘‘Atha vā pana ukkaṇṭhito anabhirato sāmaññā cavitukāmo bhikkhubhāvaṃ aṭṭīyamāno harāyamāno jigucchamāno gihibhāvaṃ patthayamāno…pe… asakyaputtiyabhāvaṃ patthayamāno – ‘yadi panāhaṃ buddhaṃ paccakkheyya’nti vadati viññāpeti…pe… ‘yadi panāhaṃ asakyaputtiyo assa’nti vadati viññāpeti…pe… ‘apāhaṃ buddhaṃ paccakkheyya’nti vadati viññāpeti…pe… ‘apāhaṃ asakyaputtiyo assa’nti vadati viññāpeti…pe… ‘handāhaṃ buddhaṃ paccakkheyya’nti vadati viññāpeti…pe… ‘handāhaṃ asakyaputtiyo assa’nti vadati viññāpeti…pe… ‘hoti me buddhaṃ paccakkheyya’nti vadati viññāpeti…pe… ‘hoti me asakyaputtiyo assa’nti vadati viññāpeti. Evampi, bhikkhave, dubbalyāvikammañceva hoti sikkhā ca apaccakkhātā.

    ๔๗. ‘‘อถ วา ปน อุกฺกณฺฐิโต อนภิรโต สามญฺญา จวิตุกาโม ภิกฺขุภาวํ อฎฺฎียมาโน หรายมาโน ชิคุจฺฉมาโน คิหิภาวํ ปตฺถยมาโน…เป.… อสกฺยปุตฺติยภาวํ ปตฺถยมาโน ‘มาตรํ สรามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ปิตรํ สรามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ภาตรํ สรามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ภคินิํ สรามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ปุตฺตํ สรามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ธีตรํ สรามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ปชาปติํ สรามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ญาตเก สรามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘มิเตฺต สรามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘คามํ สรามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘นิคมํ สรามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘เขตฺตํ สรามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘วตฺถุํ สรามิ’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘หิรญฺญํ สรามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘สุวณฺณํ สรามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘สิปฺปํ สรามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ปุเพฺพ หสิตํ ลปิตํ กีฬิตํ สมนุสฺสรามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติฯ เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ทุพฺพลฺยาวิกมฺมเญฺจว โหติ สิกฺขา จ อปจฺจกฺขาตาฯ

    47. ‘‘Atha vā pana ukkaṇṭhito anabhirato sāmaññā cavitukāmo bhikkhubhāvaṃ aṭṭīyamāno harāyamāno jigucchamāno gihibhāvaṃ patthayamāno…pe… asakyaputtiyabhāvaṃ patthayamāno ‘mātaraṃ sarāmī’ti vadati viññāpeti… ‘pitaraṃ sarāmī’ti vadati viññāpeti… ‘bhātaraṃ sarāmī’ti vadati viññāpeti… ‘bhaginiṃ sarāmī’ti vadati viññāpeti… ‘puttaṃ sarāmī’ti vadati viññāpeti… ‘dhītaraṃ sarāmī’ti vadati viññāpeti… ‘pajāpatiṃ sarāmī’ti vadati viññāpeti… ‘ñātake sarāmī’ti vadati viññāpeti… ‘mitte sarāmī’ti vadati viññāpeti… ‘gāmaṃ sarāmī’ti vadati viññāpeti… ‘nigamaṃ sarāmī’ti vadati viññāpeti… ‘khettaṃ sarāmī’ti vadati viññāpeti… ‘vatthuṃ sarāmi’ti vadati viññāpeti… ‘hiraññaṃ sarāmī’ti vadati viññāpeti… ‘suvaṇṇaṃ sarāmī’ti vadati viññāpeti… ‘sippaṃ sarāmī’ti vadati viññāpeti… ‘pubbe hasitaṃ lapitaṃ kīḷitaṃ samanussarāmī’ti vadati viññāpeti. Evampi, bhikkhave, dubbalyāvikammañceva hoti sikkhā ca apaccakkhātā.

    ๔๘. ‘‘อถ วา ปน อุกฺกณฺฐิโต อนภิรโต สามญฺญา จวิตุกาโม ภิกฺขุภาวํ อฎฺฎียมาโน หรายมาโน ชิคุจฺฉมาโน คิหิภาวํ ปตฺถยมาโน…เป.… อสกฺยปุตฺติยภาวํ ปตฺถยมาโน – ‘มาตา เม อตฺถิ, สา มยา โปเสตพฺพา’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ปิตา เม อตฺถิ, โส มยา โปเสตโพฺพ’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ภาตา เม อตฺถิ, โส มยา โปเสตโพฺพ’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ภคินี เม อตฺถิ, สา มยา โปเสตพฺพา’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ปุโตฺต เม อตฺถิ, โส มยา โปเสตโพฺพ’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ธีตา เม อตฺถิ, สา มยา โปเสตพฺพา’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ปชาปติ เม อตฺถิ, สา มยา โปเสตพฺพา’ติ วทติ วิญฺญาเปติ … ‘ญาตกา เม อตฺถิ, เต มยา โปเสตพฺพา’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘มิตฺตา เม อตฺถิ, เต มยา โปเสตพฺพา’ติ วทติ วิญฺญาเปติฯ เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ทุพฺพลฺยาวิกมฺมเญฺจว โหติ สิกฺขา จ อปจฺจกฺขาตาฯ

    48. ‘‘Atha vā pana ukkaṇṭhito anabhirato sāmaññā cavitukāmo bhikkhubhāvaṃ aṭṭīyamāno harāyamāno jigucchamāno gihibhāvaṃ patthayamāno…pe… asakyaputtiyabhāvaṃ patthayamāno – ‘mātā me atthi, sā mayā posetabbā’ti vadati viññāpeti… ‘pitā me atthi, so mayā posetabbo’ti vadati viññāpeti… ‘bhātā me atthi, so mayā posetabbo’ti vadati viññāpeti… ‘bhaginī me atthi, sā mayā posetabbā’ti vadati viññāpeti… ‘putto me atthi, so mayā posetabbo’ti vadati viññāpeti… ‘dhītā me atthi, sā mayā posetabbā’ti vadati viññāpeti… ‘pajāpati me atthi, sā mayā posetabbā’ti vadati viññāpeti … ‘ñātakā me atthi, te mayā posetabbā’ti vadati viññāpeti… ‘mittā me atthi, te mayā posetabbā’ti vadati viññāpeti. Evampi, bhikkhave, dubbalyāvikammañceva hoti sikkhā ca apaccakkhātā.

    ๔๙. ‘‘อถ วา ปน อุกฺกณฺฐิโต อนภิรโต สามญฺญา จวิตุกาโม ภิกฺขุภาวํ อฎฺฎียมาโน หรายมาโน ชิคุจฺฉมาโน คิหิภาวํ ปตฺถยมาโน…เป.… อสกฺยปุตฺติยภาวํ ปตฺถยมาโน – ‘มาตา เม อตฺถิ, สา มํ โปเสสฺสตี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ปิตา เม อตฺถิ, โส มํ โปเสสฺสตี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ภาตา เม อตฺถิ, โส มํ โปเสสฺสตี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ภคินี เม อตฺถิ, สา มํ โปเสสฺสตี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ปุโตฺต เม อตฺถิ, โส มํ โปเสสฺสตี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ธีตา เม อตฺถิ, สา มํ โปเสสฺสตี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ปชาปติ เม อตฺถิ, สา มํ โปเสสฺสตี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ญาตกา เม อตฺถิ, เต มํ โปเสสฺสนฺตี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘มิตฺตา เม อตฺถิ, เต มํ โปเสสฺสนฺตี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘คาโม เม อตฺถิ, เตนาหํ ชีวิสฺสามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘นิคโม เม อตฺถิ, เตนาหํ ชีวิสฺสามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘เขตฺตํ เม อตฺถิ, เตนาหํ ชีวิสฺสามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘วตฺถุ เม อตฺถิ, เตนาหํ ชีวิสฺสามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘หิรญฺญํ เม อตฺถิ, เตนาหํ ชีวิสฺสามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘สุวณฺณํ เม อตฺถิ, เตนาหํ ชีวิสฺสามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘สิปฺปํ เม อตฺถิ, เตนาหํ ชีวิสฺสามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติฯ เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ทุพฺพลฺยาวิกมฺมเญฺจว โหติ สิกฺขา จ อปจฺจกฺขาตาฯ

    49. ‘‘Atha vā pana ukkaṇṭhito anabhirato sāmaññā cavitukāmo bhikkhubhāvaṃ aṭṭīyamāno harāyamāno jigucchamāno gihibhāvaṃ patthayamāno…pe… asakyaputtiyabhāvaṃ patthayamāno – ‘mātā me atthi, sā maṃ posessatī’ti vadati viññāpeti… ‘pitā me atthi, so maṃ posessatī’ti vadati viññāpeti… ‘bhātā me atthi, so maṃ posessatī’ti vadati viññāpeti… ‘bhaginī me atthi, sā maṃ posessatī’ti vadati viññāpeti… ‘putto me atthi, so maṃ posessatī’ti vadati viññāpeti… ‘dhītā me atthi, sā maṃ posessatī’ti vadati viññāpeti… ‘pajāpati me atthi, sā maṃ posessatī’ti vadati viññāpeti… ‘ñātakā me atthi, te maṃ posessantī’ti vadati viññāpeti… ‘mittā me atthi, te maṃ posessantī’ti vadati viññāpeti… ‘gāmo me atthi, tenāhaṃ jīvissāmī’ti vadati viññāpeti… ‘nigamo me atthi, tenāhaṃ jīvissāmī’ti vadati viññāpeti… ‘khettaṃ me atthi, tenāhaṃ jīvissāmī’ti vadati viññāpeti… ‘vatthu me atthi, tenāhaṃ jīvissāmī’ti vadati viññāpeti… ‘hiraññaṃ me atthi, tenāhaṃ jīvissāmī’ti vadati viññāpeti… ‘suvaṇṇaṃ me atthi, tenāhaṃ jīvissāmī’ti vadati viññāpeti… ‘sippaṃ me atthi, tenāhaṃ jīvissāmī’ti vadati viññāpeti. Evampi, bhikkhave, dubbalyāvikammañceva hoti sikkhā ca apaccakkhātā.

    ๕๐. ‘‘อถ วา ปน อุกฺกณฺฐิโต อนภิรโต สามญฺญา จวิตุกาโม ภิกฺขุภาวํ อฎฺฎียมาโน หรายมาโน ชิคุจฺฉมาโน คิหิภาวํ ปตฺถยมาโน…เป.… อสกฺยปุตฺติยภาวํ ปตฺถยมาโน ‘ทุกฺกร’นฺติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘น สุกร’นฺติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ทุจฺจร’นฺติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘น สุจร’นฺติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘น อุสฺสหามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘น วิสหามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘น รมามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘นาภิรมามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติฯ เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ทุพฺพลฺยาวิกมฺมเญฺจว โหติ สิกฺขา จ อปจฺจกฺขาตาฯ

    50. ‘‘Atha vā pana ukkaṇṭhito anabhirato sāmaññā cavitukāmo bhikkhubhāvaṃ aṭṭīyamāno harāyamāno jigucchamāno gihibhāvaṃ patthayamāno…pe… asakyaputtiyabhāvaṃ patthayamāno ‘dukkara’nti vadati viññāpeti… ‘na sukara’nti vadati viññāpeti… ‘duccara’nti vadati viññāpeti… ‘na sucara’nti vadati viññāpeti… ‘na ussahāmī’ti vadati viññāpeti… ‘na visahāmī’ti vadati viññāpeti… ‘na ramāmī’ti vadati viññāpeti… ‘nābhiramāmī’ti vadati viññāpeti. Evampi kho, bhikkhave, dubbalyāvikammañceva hoti sikkhā ca apaccakkhātā.

    ๕๑. ‘‘กถญฺจ , ภิกฺขเว, ทุพฺพลฺยาวิกมฺมเญฺจว โหติ สิกฺขา จ ปจฺจกฺขาตา? อิธ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุกฺกณฺฐิโต อนภิรโต สามญฺญา จวิตุกาโม ภิกฺขุภาวํ อฎฺฎียมาโน หรายมาโน ชิคุจฺฉมาโน คิหิภาวํ ปตฺถยมาโน…เป.… อสกฺยปุตฺติยภาวํ ปตฺถยมาโน – ‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติฯ เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ทุพฺพลฺยาวิกมฺมเญฺจว โหติ สิกฺขา จ ปจฺจกฺขาตาฯ

    51. ‘‘Kathañca , bhikkhave, dubbalyāvikammañceva hoti sikkhā ca paccakkhātā? Idha , bhikkhave, bhikkhu ukkaṇṭhito anabhirato sāmaññā cavitukāmo bhikkhubhāvaṃ aṭṭīyamāno harāyamāno jigucchamāno gihibhāvaṃ patthayamāno…pe… asakyaputtiyabhāvaṃ patthayamāno – ‘buddhaṃ paccakkhāmī’ti vadati viññāpeti. Evampi, bhikkhave, dubbalyāvikammañceva hoti sikkhā ca paccakkhātā.

    ‘‘อถ วา ปน อุกฺกณฺฐิโต อนภิรโต สามญฺญา จวิตุกาโม ภิกฺขุภาวํ อฎฺฎียมาโน หรายมาโน ชิคุจฺฉมาโน คิหิภาวํ ปตฺถยมาโน…เป.… อสกฺยปุตฺติยภาวํ ปตฺถยมาโน – ‘ธมฺมํ ปจฺจกฺขามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘สงฺฆํ ปจฺจกฺขามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘สิกฺขํ ปจฺจกฺขามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘วินยํ ปจฺจกฺขามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ปาติโมกฺขํ ปจฺจกฺขามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘อุเทฺทสํ ปจฺจกฺขามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘อุปชฺฌายํ ปจฺจกฺขามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘อาจริยํ ปจฺจกฺขามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘สทฺธิวิหาริกํ ปจฺจกฺขามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘อเนฺตวาสิกํ ปจฺจกฺขามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘สมานุปชฺฌายกํ ปจฺจกฺขามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘สมานาจริยกํ ปจฺจกฺขามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘สพฺรหฺมจาริํ ปจฺจกฺขามี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘คิหีติ มํ ธาเรหี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘อุปาสโกติ มํ ธาเรหี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘อารามิโกติ มํ ธาเรหี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘สามเณโรติ มํ ธาเรหี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ติตฺถิโยติ มํ ธาเรหี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘ติตฺถิยสาวโกติ มํ ธาเรหี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘อสฺสมโณติ มํ ธาเรหี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘อสกฺยปุตฺติโยติ มํ ธาเรหี’ติ วทติ วิญฺญาเปติฯ เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ทุพฺพลฺยาวิกมฺมเญฺจว โหติ สิกฺขา จ ปจฺจกฺขาตาฯ

    ‘‘Atha vā pana ukkaṇṭhito anabhirato sāmaññā cavitukāmo bhikkhubhāvaṃ aṭṭīyamāno harāyamāno jigucchamāno gihibhāvaṃ patthayamāno…pe… asakyaputtiyabhāvaṃ patthayamāno – ‘dhammaṃ paccakkhāmī’ti vadati viññāpeti… ‘saṅghaṃ paccakkhāmī’ti vadati viññāpeti… ‘sikkhaṃ paccakkhāmī’ti vadati viññāpeti… ‘vinayaṃ paccakkhāmī’ti vadati viññāpeti… ‘pātimokkhaṃ paccakkhāmī’ti vadati viññāpeti… ‘uddesaṃ paccakkhāmī’ti vadati viññāpeti… ‘upajjhāyaṃ paccakkhāmī’ti vadati viññāpeti… ‘ācariyaṃ paccakkhāmī’ti vadati viññāpeti… ‘saddhivihārikaṃ paccakkhāmī’ti vadati viññāpeti… ‘antevāsikaṃ paccakkhāmī’ti vadati viññāpeti… ‘samānupajjhāyakaṃ paccakkhāmī’ti vadati viññāpeti… ‘samānācariyakaṃ paccakkhāmī’ti vadati viññāpeti… ‘sabrahmacāriṃ paccakkhāmī’ti vadati viññāpeti… ‘gihīti maṃ dhārehī’ti vadati viññāpeti… ‘upāsakoti maṃ dhārehī’ti vadati viññāpeti… ‘ārāmikoti maṃ dhārehī’ti vadati viññāpeti… ‘sāmaṇeroti maṃ dhārehī’ti vadati viññāpeti… ‘titthiyoti maṃ dhārehī’ti vadati viññāpeti… ‘titthiyasāvakoti maṃ dhārehī’ti vadati viññāpeti… ‘assamaṇoti maṃ dhārehī’ti vadati viññāpeti… ‘asakyaputtiyoti maṃ dhārehī’ti vadati viññāpeti. Evampi, bhikkhave, dubbalyāvikammañceva hoti sikkhā ca paccakkhātā.

    ๕๒. ‘‘อถ วา ปน อุกฺกณฺฐิโต อนภิรโต สามญฺญา จวิตุกาโม ภิกฺขุภาวํ อฎฺฎียมาโน หรายมาโน ชิคุจฺฉมาโน คิหิภาวํ ปตฺถยมาโน…เป.… อสกฺยปุตฺติยภาวํ ปตฺถยมาโน – ‘อลํ เม พุเทฺธนา’ติ วทติ วิญฺญาเปติ…เป.… ‘อลํ เม สพฺรหฺมจารีหี’ติ วทติ วิญฺญาเปติฯ เอวมฺปิ…เป.… อถ วา ปน…เป.… ‘กิํ นุ เม พุเทฺธนา’ติ วทติ วิญฺญาเปติ…เป.… ‘กิํ นุ เม สพฺรหฺมจารีหี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘น มมโตฺถ พุเทฺธนา’ติ วทติ วิญฺญาเปติ…เป.… ‘น มมโตฺถ สพฺรหฺมจารีหี’ติ วทติ วิญฺญาเปติ… ‘สุมุตฺตาหํ พุเทฺธนา’ติ วทติ วิญฺญาเปติ…เป.… ‘สุมุตฺตาหํ สพฺรหฺมจารีหี’ติ วทติ วิญฺญาเปติฯ เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ทุพฺพลฺยาวิกมฺมเญฺจว โหติ สิกฺขา จ ปจฺจกฺขาตาฯ

    52. ‘‘Atha vā pana ukkaṇṭhito anabhirato sāmaññā cavitukāmo bhikkhubhāvaṃ aṭṭīyamāno harāyamāno jigucchamāno gihibhāvaṃ patthayamāno…pe… asakyaputtiyabhāvaṃ patthayamāno – ‘alaṃ me buddhenā’ti vadati viññāpeti…pe… ‘alaṃ me sabrahmacārīhī’ti vadati viññāpeti. Evampi…pe… atha vā pana…pe… ‘kiṃ nu me buddhenā’ti vadati viññāpeti…pe… ‘kiṃ nu me sabrahmacārīhī’ti vadati viññāpeti… ‘na mamattho buddhenā’ti vadati viññāpeti…pe… ‘na mamattho sabrahmacārīhī’ti vadati viññāpeti… ‘sumuttāhaṃ buddhenā’ti vadati viññāpeti…pe… ‘sumuttāhaṃ sabrahmacārīhī’ti vadati viññāpeti. Evampi, bhikkhave, dubbalyāvikammañceva hoti sikkhā ca paccakkhātā.

    ๕๓. ‘‘ยานิ วา ปนญฺญานิปิ อตฺถิ พุทฺธเววจนานิ วา ธมฺมเววจนานิ วา สงฺฆเววจนานิ วา สิกฺขาเววจนานิ วา วินยเววจนานิ วา ปาติโมกฺขเววจนานิ วา อุเทฺทสเววจนานิ วา อุปชฺฌายเววจนานิ วา อาจริยเววจนานิ วา สทฺธิวิหาริกเววจนานิ วา อเนฺตวาสิกเววจนานิ วา สมานุปชฺฌายกเววจนานิ วา สมานาจริยกเววจนานิ วา สพฺรหฺมจาริเววจนานิ วา คิหิเววจนานิ วา อุปาสกเววจนานิ วา อารามิกเววจนานิ วา สามเณรเววจนานิ วา ติตฺถิยเววจนานิ วา ติตฺถิยสาวกเววจนานิ วา อสฺสมณเววจนานิ วา อสกฺยปุตฺติยเววจนานิ วา, เตหิ อากาเรหิ เตหิ ลิเงฺคหิ เตหิ นิมิเตฺตหิ วทติ วิญฺญาเปติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ทุพฺพลฺยาวิกมฺมเญฺจว โหติ สิกฺขา จ ปจฺจกฺขาตาฯ

    53. ‘‘Yāni vā panaññānipi atthi buddhavevacanāni vā dhammavevacanāni vā saṅghavevacanāni vā sikkhāvevacanāni vā vinayavevacanāni vā pātimokkhavevacanāni vā uddesavevacanāni vā upajjhāyavevacanāni vā ācariyavevacanāni vā saddhivihārikavevacanāni vā antevāsikavevacanāni vā samānupajjhāyakavevacanāni vā samānācariyakavevacanāni vā sabrahmacārivevacanāni vā gihivevacanāni vā upāsakavevacanāni vā ārāmikavevacanāni vā sāmaṇeravevacanāni vā titthiyavevacanāni vā titthiyasāvakavevacanāni vā assamaṇavevacanāni vā asakyaputtiyavevacanāni vā, tehi ākārehi tehi liṅgehi tehi nimittehi vadati viññāpeti. Evaṃ kho, bhikkhave, dubbalyāvikammañceva hoti sikkhā ca paccakkhātā.

    ๕๔. ‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, อปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา? อิธ, ภิกฺขเว, เยหิ อากาเรหิ เยหิ ลิเงฺคหิ เยหิ นิมิเตฺตหิ สิกฺขา ปจฺจกฺขาตา โหติ เตหิ อากาเรหิ เตหิ ลิเงฺคหิ เตหิ นิมิเตฺตหิ อุมฺมตฺตโก สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, อปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขาฯ อุมฺมตฺตกสฺส สนฺติเก สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, อปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขาฯ ขิตฺตจิโตฺต สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, อปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขาฯ ขิตฺตจิตฺตสฺส สนฺติเก สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, อปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขาฯ เวทนาโฎฺฎ สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, อปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขาฯ เวทนาฎฺฎสฺส สนฺติเก สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, อปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขาฯ เทวตาย สนฺติเก สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, อปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขาฯ ติรจฺฉานคตสฺส สนฺติเก สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, อปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขาฯ อริยเกน มิลกฺขสฺส 45 สนฺติเก สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, โส จ น ปฎิวิชานาติ, อปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขาฯ มิลกฺขเกน อริยกสฺส สนฺติเก สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, โส จ น ปฎิวิชานาติ, อปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขาฯ อริยเกน อริยสฺส สนฺติเก สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, โส จ น ปฎิวิชานาติ , อปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขาฯ มิลกฺขเกน มิลกฺขสฺส สนฺติเก สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, โส จ น ปฎิวิชานาติ, อปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขาฯ ทวาย สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, อปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขาฯ รวาย สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, อปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขาฯ อสาเวตุกาโม สาเวติ, อปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขาฯ สาเวตุกาโม น สาเวติ, อปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขาฯ อวิญฺญุสฺส สาเวติ, อปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขาฯ วิญฺญุสฺส น สาเวติ, อปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขาฯ สพฺพโส วา ปน น สาเวติ, อปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขาฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, อปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา’’ฯ

    54. ‘‘Kathañca, bhikkhave, apaccakkhātā hoti sikkhā? Idha, bhikkhave, yehi ākārehi yehi liṅgehi yehi nimittehi sikkhā paccakkhātā hoti tehi ākārehi tehi liṅgehi tehi nimittehi ummattako sikkhaṃ paccakkhāti, apaccakkhātā hoti sikkhā. Ummattakassa santike sikkhaṃ paccakkhāti, apaccakkhātā hoti sikkhā. Khittacitto sikkhaṃ paccakkhāti, apaccakkhātā hoti sikkhā. Khittacittassa santike sikkhaṃ paccakkhāti, apaccakkhātā hoti sikkhā. Vedanāṭṭo sikkhaṃ paccakkhāti, apaccakkhātā hoti sikkhā. Vedanāṭṭassa santike sikkhaṃ paccakkhāti, apaccakkhātā hoti sikkhā. Devatāya santike sikkhaṃ paccakkhāti, apaccakkhātā hoti sikkhā. Tiracchānagatassa santike sikkhaṃ paccakkhāti, apaccakkhātā hoti sikkhā. Ariyakena milakkhassa 46 santike sikkhaṃ paccakkhāti, so ca na paṭivijānāti, apaccakkhātā hoti sikkhā. Milakkhakena ariyakassa santike sikkhaṃ paccakkhāti, so ca na paṭivijānāti, apaccakkhātā hoti sikkhā. Ariyakena ariyassa santike sikkhaṃ paccakkhāti, so ca na paṭivijānāti , apaccakkhātā hoti sikkhā. Milakkhakena milakkhassa santike sikkhaṃ paccakkhāti, so ca na paṭivijānāti, apaccakkhātā hoti sikkhā. Davāya sikkhaṃ paccakkhāti, apaccakkhātā hoti sikkhā. Ravāya sikkhaṃ paccakkhāti, apaccakkhātā hoti sikkhā. Asāvetukāmo sāveti, apaccakkhātā hoti sikkhā. Sāvetukāmo na sāveti, apaccakkhātā hoti sikkhā. Aviññussa sāveti, apaccakkhātā hoti sikkhā. Viññussa na sāveti, apaccakkhātā hoti sikkhā. Sabbaso vā pana na sāveti, apaccakkhātā hoti sikkhā. Evaṃ kho, bhikkhave, apaccakkhātā hoti sikkhā’’.

    ๕๕. 47 เมถุนธโมฺม นาม โย โส อสทฺธโมฺม คามธโมฺม วสลธโมฺม ทุฎฺฐุลฺลํ โอทกนฺติกํ รหสฺสํ ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติ, เอโส เมถุนธโมฺม นามฯ

    55.48Methunadhammo nāma yo so asaddhammo gāmadhammo vasaladhammo duṭṭhullaṃ odakantikaṃ rahassaṃ dvayaṃdvayasamāpatti, eso methunadhammo nāma.

    ปฎิเสวติ นาม โย นิมิเตฺตน นิมิตฺตํ องฺคชาเตน องฺคชาตํ อนฺตมโส ติลผลมตฺตมฺปิ ปเวเสติ, เอโส ปฎิเสวติ นามฯ

    Paṭisevati nāma yo nimittena nimittaṃ aṅgajātena aṅgajātaṃ antamaso tilaphalamattampi paveseti, eso paṭisevati nāma.

    อนฺตมโส ติรจฺฉานคตายปีติ ติรจฺฉานคติตฺถิยาปิ เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิตฺวา อสฺสมโณ โหติ อสกฺยปุตฺติโย, ปเคว มนุสฺสิตฺถิยาฯ เตน วุจฺจติ – ‘อนฺตมโส ติรจฺฉานคตายปี’ติฯ

    Antamasotiracchānagatāyapīti tiracchānagatitthiyāpi methunaṃ dhammaṃ paṭisevitvā assamaṇo hoti asakyaputtiyo, pageva manussitthiyā. Tena vuccati – ‘antamaso tiracchānagatāyapī’ti.

    ปาราชิโก โหตีติ เสยฺยถาปิ นาม ปุริโส สีสจฺฉิโนฺน อภโพฺพ เตน สรีรพนฺธเนน ชีวิตุํ, เอวเมว ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิตฺวา อสฺสมโณ โหติ อสกฺยปุตฺติโยฯ เตน วุจฺจติ – ‘ปาราชิโก โหตี’ติฯ

    Pārājiko hotīti seyyathāpi nāma puriso sīsacchinno abhabbo tena sarīrabandhanena jīvituṃ, evameva bhikkhu methunaṃ dhammaṃ paṭisevitvā assamaṇo hoti asakyaputtiyo. Tena vuccati – ‘pārājiko hotī’ti.

    อสํวาโสติ สํวาโส นาม เอกกมฺมํ เอกุเทฺทโส สมสิกฺขตา – เอโส สํวาโส นามฯ โส เตน สทฺธิํ นตฺถิฯ เตน วุจฺจติ – ‘อสํวาโส’ติฯ

    Asaṃvāsoti saṃvāso nāma ekakammaṃ ekuddeso samasikkhatā – eso saṃvāso nāma. So tena saddhiṃ natthi. Tena vuccati – ‘asaṃvāso’ti.

    ๕๖. ติโสฺส อิตฺถิโย – มนุสฺสิตฺถี, อมนุสฺสิตฺถี, ติรจฺฉานคติตฺถีฯ ตโย อุภโตพฺยญฺชนกา – มนุสฺสุภโตพฺยญฺชนโก, อมนุสฺสุภโตพฺยญฺชนโก, ติรจฺฉานคตุภโตพฺยญฺชนโกฯ ตโย ปณฺฑกา – มนุสฺสปณฺฑโก, อมนุสฺสปณฺฑโก , ติรจฺฉานคตปณฺฑโกฯ ตโย ปุริสา – มนุสฺสปุริโส, อมนุสฺสปุริโส, ติรจฺฉานคตปุริโสฯ

    56. Tisso itthiyo – manussitthī, amanussitthī, tiracchānagatitthī. Tayo ubhatobyañjanakā – manussubhatobyañjanako, amanussubhatobyañjanako, tiracchānagatubhatobyañjanako. Tayo paṇḍakā – manussapaṇḍako, amanussapaṇḍako , tiracchānagatapaṇḍako. Tayo purisā – manussapuriso, amanussapuriso, tiracchānagatapuriso.

    มนุสฺสิตฺถิยา ตโย มเคฺค เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺส – วจฺจมเคฺค, ปสฺสาวมเคฺค, มุเขฯ อมนุสฺสิตฺถิยา…เป.… ติรจฺฉานคติตฺถิยา ตโย มเคฺค เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺส – วจฺจมเคฺค, ปสฺสาวมเคฺค, มุเขฯ มนุสฺสุภโตพฺยญฺชนกสฺส… อมนุสฺสุภโตพฺยญฺชนกสฺส… ติรจฺฉานคตุภโตพฺยญฺชนกสฺส ตโย มเคฺค เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺส – วจฺจมเคฺค, ปสฺสาวมเคฺค, มุเขฯ มนุสฺสปณฺฑกสฺส เทฺว มเคฺค เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺส – วจฺจมเคฺค, มุเขฯ อมนุสฺสปณฺฑกสฺส… ติรจฺฉานคตปณฺฑกสฺส… มนุสฺสปุริสสฺส… อมนุสฺสปุริสสฺส… ติรจฺฉานคตปุริสสฺส เทฺว มเคฺค เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺส – วจฺจมเคฺค, มุเขฯ

    Manussitthiyā tayo magge methunaṃ dhammaṃ paṭisevantassa āpatti pārājikassa – vaccamagge, passāvamagge, mukhe. Amanussitthiyā…pe… tiracchānagatitthiyā tayo magge methunaṃ dhammaṃ paṭisevantassa āpatti pārājikassa – vaccamagge, passāvamagge, mukhe. Manussubhatobyañjanakassa… amanussubhatobyañjanakassa… tiracchānagatubhatobyañjanakassa tayo magge methunaṃ dhammaṃ paṭisevantassa āpatti pārājikassa – vaccamagge, passāvamagge, mukhe. Manussapaṇḍakassa dve magge methunaṃ dhammaṃ paṭisevantassa āpatti pārājikassa – vaccamagge, mukhe. Amanussapaṇḍakassa… tiracchānagatapaṇḍakassa… manussapurisassa… amanussapurisassa… tiracchānagatapurisassa dve magge methunaṃ dhammaṃ paṭisevantassa āpatti pārājikassa – vaccamagge, mukhe.

    ๕๗. ภิกฺขุสฺส เสวนจิตฺตํ อุปฎฺฐิเต มนุสฺสิตฺถิยา วจฺจมคฺคํ องฺคชาตํ ปเวเสนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ภิกฺขุสฺส เสวนจิตฺตํ อุปฎฺฐิเต มนุสฺสิตฺถิยา ปสฺสาวมคฺคํ… มุขํ องฺคชาตํ ปเวเสนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ภิกฺขุสฺส เสวนจิตฺตํ อุปฎฺฐิเต อมนุสฺสิตฺถิยา… ติรจฺฉานคติตฺถิยา… มนุสฺสุภโตพฺยญฺชนกสฺส… อมนุสฺสุภโตพฺยญฺชนกสฺส… ติรจฺฉานคตุภโตพฺยญฺชนกสฺส… วจฺจมคฺคํ ปสฺสาวมคฺคํ มุขํ องฺคชาตํ ปเวเสนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ภิกฺขุสฺส เสวนจิตฺตํ อุปฎฺฐิเต มนุสฺสปณฺฑกสฺส วจฺจมคฺคํ มุขํ องฺคชาตํ ปเวเสนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ภิกฺขุสฺส เสวนจิตฺตํ อุปฎฺฐิเต อมนุสฺสปณฺฑกสฺส… ติรจฺฉานคตปณฺฑกสฺส… มนุสฺสปุริสสฺส… อมนุสฺสปุริสสฺส… ติรจฺฉานคตปุริสสฺส วจฺจมคฺคํ มุขํ องฺคชาตํ ปเวเสนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ

    57. Bhikkhussa sevanacittaṃ upaṭṭhite manussitthiyā vaccamaggaṃ aṅgajātaṃ pavesentassa āpatti pārājikassa. Bhikkhussa sevanacittaṃ upaṭṭhite manussitthiyā passāvamaggaṃ… mukhaṃ aṅgajātaṃ pavesentassa āpatti pārājikassa. Bhikkhussa sevanacittaṃ upaṭṭhite amanussitthiyā… tiracchānagatitthiyā… manussubhatobyañjanakassa… amanussubhatobyañjanakassa… tiracchānagatubhatobyañjanakassa… vaccamaggaṃ passāvamaggaṃ mukhaṃ aṅgajātaṃ pavesentassa āpatti pārājikassa. Bhikkhussa sevanacittaṃ upaṭṭhite manussapaṇḍakassa vaccamaggaṃ mukhaṃ aṅgajātaṃ pavesentassa āpatti pārājikassa. Bhikkhussa sevanacittaṃ upaṭṭhite amanussapaṇḍakassa… tiracchānagatapaṇḍakassa… manussapurisassa… amanussapurisassa… tiracchānagatapurisassa vaccamaggaṃ mukhaṃ aṅgajātaṃ pavesentassa āpatti pārājikassa.

    ๕๘. ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสิตฺถิํ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมเคฺคน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติฯ โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ 49, ปวิฎฺฐํ สาทิยติ, ฐิตํ สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสิตฺถิํ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมเคฺคน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติฯ โส เจ ปเวสนํ น สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ สาทิยติ, ฐิตํ สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสิตฺถิํ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมเคฺคน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติฯ โส เจ ปเวสนํ น สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ น สาทิยติ, ฐิตํ สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสิตฺถิํ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมเคฺคน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติฯ โส เจ ปเวสนํ น สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ น สาทิยติ, ฐิตํ น สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสิตฺถิํ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมเคฺคน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติฯ โส เจ ปเวสนํ น สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ น สาทิยติ, ฐิตํ น สาทิยติ, อุทฺธรณํ น สาทิยติ, อนาปตฺติฯ

    58. Bhikkhupaccatthikā manussitthiṃ bhikkhussa santike ānetvā vaccamaggena aṅgajātaṃ abhinisīdenti. So ce pavesanaṃ sādiyati 50, paviṭṭhaṃ sādiyati, ṭhitaṃ sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti pārājikassa. Bhikkhupaccatthikā manussitthiṃ bhikkhussa santike ānetvā vaccamaggena aṅgajātaṃ abhinisīdenti. So ce pavesanaṃ na sādiyati, paviṭṭhaṃ sādiyati, ṭhitaṃ sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti pārājikassa. Bhikkhupaccatthikā manussitthiṃ bhikkhussa santike ānetvā vaccamaggena aṅgajātaṃ abhinisīdenti. So ce pavesanaṃ na sādiyati, paviṭṭhaṃ na sādiyati, ṭhitaṃ sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti pārājikassa. Bhikkhupaccatthikā manussitthiṃ bhikkhussa santike ānetvā vaccamaggena aṅgajātaṃ abhinisīdenti. So ce pavesanaṃ na sādiyati, paviṭṭhaṃ na sādiyati, ṭhitaṃ na sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati āpatti pārājikassa. Bhikkhupaccatthikā manussitthiṃ bhikkhussa santike ānetvā vaccamaggena aṅgajātaṃ abhinisīdenti. So ce pavesanaṃ na sādiyati, paviṭṭhaṃ na sādiyati, ṭhitaṃ na sādiyati, uddharaṇaṃ na sādiyati, anāpatti.

    ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสิตฺถิํ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา ปสฺสาวมเคฺคน… มุเขน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติฯ โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ สาทิยติ, ฐิตํ สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส…เป.… น สาทิยติ, อนาปตฺติฯ

    Bhikkhupaccatthikā manussitthiṃ bhikkhussa santike ānetvā passāvamaggena… mukhena aṅgajātaṃ abhinisīdenti. So ce pavesanaṃ sādiyati, paviṭṭhaṃ sādiyati, ṭhitaṃ sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti pārājikassa…pe… na sādiyati, anāpatti.

    ๕๙. ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสิตฺถิํ ชาครนฺติํ… สุตฺตํ… มตฺตํ… อุมฺมตฺตํ… ปมตฺตํ… มตํ อกฺขายิตํ… มตํ เยภุเยฺยน อกฺขายิตํ…เป.… อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ มตํ เยภุเยฺยน ขายิตํ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมเคฺคน… ปสฺสาวมเคฺคน… มุเขน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติฯ โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ สาทิยติ, ฐิตํ สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส…เป.… น สาทิยติ, อนาปตฺติฯ

    59. Bhikkhupaccatthikā manussitthiṃ jāgarantiṃ… suttaṃ… mattaṃ… ummattaṃ… pamattaṃ… mataṃ akkhāyitaṃ… mataṃ yebhuyyena akkhāyitaṃ…pe… āpatti pārājikassa. Mataṃ yebhuyyena khāyitaṃ bhikkhussa santike ānetvā vaccamaggena… passāvamaggena… mukhena aṅgajātaṃ abhinisīdenti. So ce pavesanaṃ sādiyati, paviṭṭhaṃ sādiyati, ṭhitaṃ sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti thullaccayassa…pe… na sādiyati, anāpatti.

    ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา อมนุสฺสิตฺถิํ… ติรจฺฉานคติตฺถิํ… มนุสฺสุภโตพฺยญฺชนกํ… อมนุสฺสุภโตพฺยญฺชนกํ… ติรจฺฉานคตุภโตพฺยญฺชนกํ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมเคฺคน… ปสฺสาวมเคฺคน… มุเขน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติฯ โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ สาทิยติ, ฐิตํ สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส…เป.… น สาทิยติ, อนาปตฺติฯ

    Bhikkhupaccatthikā amanussitthiṃ… tiracchānagatitthiṃ… manussubhatobyañjanakaṃ… amanussubhatobyañjanakaṃ… tiracchānagatubhatobyañjanakaṃ bhikkhussa santike ānetvā vaccamaggena… passāvamaggena… mukhena aṅgajātaṃ abhinisīdenti. So ce pavesanaṃ sādiyati, paviṭṭhaṃ sādiyati, ṭhitaṃ sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti pārājikassa…pe… na sādiyati, anāpatti.

    ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา ติรจฺฉานคตุภโตพฺยญฺชนกํ ชาครนฺตํ… สุตฺตํ… มตฺตํ… อุมฺมตฺตํ… ปมตฺตํ… มตํ อกฺขายิตํ… มตํ เยภุเยฺยน อกฺขายิตํ…เป.… อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ มตํ เยภุเยฺยน ขายิตํ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมเคฺคน… ปสฺสาวมเคฺคน… มุเขน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติฯ โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ , ปวิฎฺฐํ สาทิยติ, ฐิตํ สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส…เป.… น สาทิยติ, อนาปตฺติฯ

    Bhikkhupaccatthikā tiracchānagatubhatobyañjanakaṃ jāgarantaṃ… suttaṃ… mattaṃ… ummattaṃ… pamattaṃ… mataṃ akkhāyitaṃ… mataṃ yebhuyyena akkhāyitaṃ…pe… āpatti pārājikassa. Mataṃ yebhuyyena khāyitaṃ bhikkhussa santike ānetvā vaccamaggena… passāvamaggena… mukhena aṅgajātaṃ abhinisīdenti. So ce pavesanaṃ sādiyati , paviṭṭhaṃ sādiyati, ṭhitaṃ sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti thullaccayassa…pe… na sādiyati, anāpatti.

    ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสปณฺฑกํ… อมนุสฺสปณฺฑกํ… ติรจฺฉานคตปณฺฑกํ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมเคฺคน… มุเขน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติฯ โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ สาทิยติ, ฐิตํ สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส…เป.… น สาทิยติ, อนาปตฺติฯ

    Bhikkhupaccatthikā manussapaṇḍakaṃ… amanussapaṇḍakaṃ… tiracchānagatapaṇḍakaṃ bhikkhussa santike ānetvā vaccamaggena… mukhena aṅgajātaṃ abhinisīdenti. So ce pavesanaṃ sādiyati, paviṭṭhaṃ sādiyati, ṭhitaṃ sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti pārājikassa…pe… na sādiyati, anāpatti.

    ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา ติรจฺฉานคตปณฺฑกํ ชาครนฺตํ… สุตฺตํ… มตฺตํ… อุมฺมตฺตํ… ปมตฺตํ… มตํ อกฺขายิตํ … มตํ เยภุเยฺยน อกฺขายิตํ…เป.… อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ มตํ เยภุเยฺยน ขายิตํ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมเคฺคน… มุเขน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติฯ โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ สาทิยติ, ฐิตํ สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส…เป.… น สาทิยติ, อนาปตฺติฯ

    Bhikkhupaccatthikā tiracchānagatapaṇḍakaṃ jāgarantaṃ… suttaṃ… mattaṃ… ummattaṃ… pamattaṃ… mataṃ akkhāyitaṃ … mataṃ yebhuyyena akkhāyitaṃ…pe… āpatti pārājikassa. Mataṃ yebhuyyena khāyitaṃ bhikkhussa santike ānetvā vaccamaggena… mukhena aṅgajātaṃ abhinisīdenti. So ce pavesanaṃ sādiyati, paviṭṭhaṃ sādiyati, ṭhitaṃ sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti thullaccayassa…pe… na sādiyati, anāpatti.

    ๖๐. ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสปุริสํ… อมนุสฺสปุริสํ… ติรจฺฉานคตปุริสํ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมเคฺคน… มุเขน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติฯ โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ สาทิยติ, ฐิตํ สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส…เป.… น สาทิยติ, อนาปตฺติฯ

    60. Bhikkhupaccatthikā manussapurisaṃ… amanussapurisaṃ… tiracchānagatapurisaṃ bhikkhussa santike ānetvā vaccamaggena… mukhena aṅgajātaṃ abhinisīdenti. So ce pavesanaṃ sādiyati, paviṭṭhaṃ sādiyati, ṭhitaṃ sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti pārājikassa…pe… na sādiyati, anāpatti.

    ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา ติรจฺฉานคตปุริสํ ชาครนฺตํ… สุตฺตํ… มตฺตํ… อุมฺมตฺตํ… ปมตฺตํ… มตํ อกฺขายิตํ… มตํ เยภุเยฺยน อกฺขายิตํ…เป.… อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ มตํ เยภุเยฺยน ขายิตํ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมเคฺคน… มุเขน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติฯ โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ สาทิยติ, ฐิตํ สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส…เป.… น สาทิยติ, อนาปตฺติฯ

    Bhikkhupaccatthikā tiracchānagatapurisaṃ jāgarantaṃ… suttaṃ… mattaṃ… ummattaṃ… pamattaṃ… mataṃ akkhāyitaṃ… mataṃ yebhuyyena akkhāyitaṃ…pe… āpatti pārājikassa. Mataṃ yebhuyyena khāyitaṃ bhikkhussa santike ānetvā vaccamaggena… mukhena aṅgajātaṃ abhinisīdenti. So ce pavesanaṃ sādiyati, paviṭṭhaṃ sādiyati, ṭhitaṃ sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti thullaccayassa…pe… na sādiyati, anāpatti.

    ๖๑. ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสิตฺถิํ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมเคฺคน… ปสฺสาวมเคฺคน… มุเขน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติ สนฺถตาย อสนฺถตสฺส, อสนฺถตาย สนฺถตสฺส, สนฺถตาย สนฺถตสฺส, อสนฺถตาย อสนฺถตสฺสฯ โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ สาทิยติ, ฐิตํ สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส…เป.… น สาทิยติ, อนาปตฺติ ฯ

    61. Bhikkhupaccatthikā manussitthiṃ bhikkhussa santike ānetvā vaccamaggena… passāvamaggena… mukhena aṅgajātaṃ abhinisīdenti santhatāya asanthatassa, asanthatāya santhatassa, santhatāya santhatassa, asanthatāya asanthatassa. So ce pavesanaṃ sādiyati, paviṭṭhaṃ sādiyati, ṭhitaṃ sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti pārājikassa…pe… na sādiyati, anāpatti .

    ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสิตฺถิํ ชาครนฺติํ… สุตฺตํ… มตฺตํ… อุมฺมตฺตํ… ปมตฺตํ… มตํ อกฺขายิตํ… มตํ เยภุเยฺยน อกฺขายิตํ…เป.… อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ มตํ เยภุเยฺยน ขายิตํ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมเคฺคน… ปสฺสาวมเคฺคน… มุเขน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติ, สนฺถตาย อสนฺถตสฺส, อสนฺถตาย สนฺถตสฺส, สนฺถตาย สนฺถตสฺส, อสนฺถตาย อสนฺถตสฺสฯ โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ สาทิยติ, ฐิตํ สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส…เป.… น สาทิยติ, อนาปตฺติฯ

    Bhikkhupaccatthikā manussitthiṃ jāgarantiṃ… suttaṃ… mattaṃ… ummattaṃ… pamattaṃ… mataṃ akkhāyitaṃ… mataṃ yebhuyyena akkhāyitaṃ…pe… āpatti pārājikassa. Mataṃ yebhuyyena khāyitaṃ bhikkhussa santike ānetvā vaccamaggena… passāvamaggena… mukhena aṅgajātaṃ abhinisīdenti, santhatāya asanthatassa, asanthatāya santhatassa, santhatāya santhatassa, asanthatāya asanthatassa. So ce pavesanaṃ sādiyati, paviṭṭhaṃ sādiyati, ṭhitaṃ sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti thullaccayassa…pe… na sādiyati, anāpatti.

    ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา อมนุสฺสิตฺถิํ… ติรจฺฉานคติตฺถิํ… มนุสฺสุภโตพฺยญฺชนกํ… อมนสฺสุภโตพฺยญฺชนกํ … ติรจฺฉานคตุภโตพฺยญฺชนกํ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมเคฺคน… ปสฺสาวมเคฺคน… มุเขน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติ สนฺถตสฺส อสนฺถตสฺส, อสนฺถตสฺส สนฺถตสฺส, สนฺถตสฺส สนฺถตสฺส, อสนฺถตสฺส อสนฺถตสฺสฯ โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ สาทิยติ, ฐิตํ สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส…เป.… น สาทิยติ, อนาปตฺติฯ

    Bhikkhupaccatthikā amanussitthiṃ… tiracchānagatitthiṃ… manussubhatobyañjanakaṃ… amanassubhatobyañjanakaṃ … tiracchānagatubhatobyañjanakaṃ bhikkhussa santike ānetvā vaccamaggena… passāvamaggena… mukhena aṅgajātaṃ abhinisīdenti santhatassa asanthatassa, asanthatassa santhatassa, santhatassa santhatassa, asanthatassa asanthatassa. So ce pavesanaṃ sādiyati, paviṭṭhaṃ sādiyati, ṭhitaṃ sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti pārājikassa…pe… na sādiyati, anāpatti.

    ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา ติรจฺฉานคตุภโตพฺยญฺชนกํ ชาครนฺตํ… สุตฺตํ… มตฺตํ… อุมฺมตฺตํ… ปมตฺตํ… มตํ อกฺขายิตํ… มตํ เยภุเยฺยน อกฺขายิตํ…เป.… อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ มตํ เยภุเยฺยน ขายิตํ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมเคฺคน… ปสฺสาวมเคฺคน… มุเขน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติ, สนฺถตสฺส อสนฺถตสฺส, อสนฺถตสฺส สนฺถตสฺส, สนฺถตสฺส สนฺถตสฺส, อสนฺถตสฺส อสนฺถตสฺสฯ โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ สาทิยติ, ฐิตํ สาทิยติ , อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส…เป.… น สาทิยติ, อนาปตฺติฯ

    Bhikkhupaccatthikā tiracchānagatubhatobyañjanakaṃ jāgarantaṃ… suttaṃ… mattaṃ… ummattaṃ… pamattaṃ… mataṃ akkhāyitaṃ… mataṃ yebhuyyena akkhāyitaṃ…pe… āpatti pārājikassa. Mataṃ yebhuyyena khāyitaṃ bhikkhussa santike ānetvā vaccamaggena… passāvamaggena… mukhena aṅgajātaṃ abhinisīdenti, santhatassa asanthatassa, asanthatassa santhatassa, santhatassa santhatassa, asanthatassa asanthatassa. So ce pavesanaṃ sādiyati, paviṭṭhaṃ sādiyati, ṭhitaṃ sādiyati , uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti thullaccayassa…pe… na sādiyati, anāpatti.

    ๖๒. ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสปณฺฑกํ… อมนุสฺสปณฺฑกํ… ติรจฺฉานคตปณฺฑกํ… มนุสฺสปุริสํ… อมนุสฺสปุริสํ… ติรจฺฉานคตปุริสํ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมเคฺคน… มุเขน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติ สนฺถตสฺส อสนฺถตสฺส, อสนฺถตสฺส สนฺถตสฺส, สนฺถตสฺส สนฺถตสฺส, อสนฺถตสฺส อสนฺถตสฺสฯ โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ สาทิยติ, ฐิตํ สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส…เป.… น สาทิยติ, อนาปตฺติฯ

    62. Bhikkhupaccatthikā manussapaṇḍakaṃ… amanussapaṇḍakaṃ… tiracchānagatapaṇḍakaṃ… manussapurisaṃ… amanussapurisaṃ… tiracchānagatapurisaṃ bhikkhussa santike ānetvā vaccamaggena… mukhena aṅgajātaṃ abhinisīdenti santhatassa asanthatassa, asanthatassa santhatassa, santhatassa santhatassa, asanthatassa asanthatassa. So ce pavesanaṃ sādiyati, paviṭṭhaṃ sādiyati, ṭhitaṃ sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti pārājikassa…pe… na sādiyati, anāpatti.

    ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา ติรจฺฉานคตปุริสํ ชาครนฺตํ… สุตฺตํ… มตฺตํ… อุมฺมตฺตํ… ปมตฺตํ… มตํ อกฺขายิตํ… มตํ เยภุเยฺยน อกฺขายิตํ…เป.… อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ มตํ เยภุเยฺยน ขายิตํ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมเคฺคน… มุเขน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติ, สนฺถตสฺส อสนฺถตสฺส, อสนฺถตสฺส สนฺถตสฺส, สนฺถตสฺส สนฺถตสฺส, อสนฺถตสฺส อสนฺถตสฺสฯ โส จ ปเวสนํ สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ สาทิยติ, ฐิตํ สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ , อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส…เป.… น สาทิยติ, อนาปตฺติฯ

    Bhikkhupaccatthikā tiracchānagatapurisaṃ jāgarantaṃ… suttaṃ… mattaṃ… ummattaṃ… pamattaṃ… mataṃ akkhāyitaṃ… mataṃ yebhuyyena akkhāyitaṃ…pe… āpatti pārājikassa. Mataṃ yebhuyyena khāyitaṃ bhikkhussa santike ānetvā vaccamaggena… mukhena aṅgajātaṃ abhinisīdenti, santhatassa asanthatassa, asanthatassa santhatassa, santhatassa santhatassa, asanthatassa asanthatassa. So ca pavesanaṃ sādiyati, paviṭṭhaṃ sādiyati, ṭhitaṃ sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati , āpatti thullaccayassa…pe… na sādiyati, anāpatti.

    ๖๓. ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา ภิกฺขุํ มนุสฺสิตฺถิยา สนฺติเก อาเนตฺวา องฺคชาเตน วจฺจมคฺคํ… ปสฺสาวมคฺคํ… มุขํ อภินิสีเทนฺติฯ โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ สาทิยติ , ฐิตํ สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส…เป.… น สาทิยติ, อนาปตฺติฯ

    63. Bhikkhupaccatthikā bhikkhuṃ manussitthiyā santike ānetvā aṅgajātena vaccamaggaṃ… passāvamaggaṃ… mukhaṃ abhinisīdenti. So ce pavesanaṃ sādiyati, paviṭṭhaṃ sādiyati , ṭhitaṃ sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti pārājikassa…pe… na sādiyati, anāpatti.

    ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา ภิกฺขุํ มนุสฺสิตฺถิยา ชาครนฺติยา… สุตฺตาย… มตฺตาย… อุมฺมตฺตาย… ปมตฺตาย … มตาย อกฺขายิตาย… มตาย เยภุเยฺยน อกฺขายิตาย…เป.… อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ มตาย เยภุเยฺยน ขายิตาย สนฺติเก อาเนตฺวา องฺคชาเตน วจฺจมคฺคํ… ปสฺสาวมคฺคํ… มุขํ อภินิสีเทนฺติฯ โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ สาทิยติ, ฐิตํ สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส…เป.… น สาทิยติ, อนาปตฺติฯ

    Bhikkhupaccatthikā bhikkhuṃ manussitthiyā jāgarantiyā… suttāya… mattāya… ummattāya… pamattāya … matāya akkhāyitāya… matāya yebhuyyena akkhāyitāya…pe… āpatti pārājikassa. Matāya yebhuyyena khāyitāya santike ānetvā aṅgajātena vaccamaggaṃ… passāvamaggaṃ… mukhaṃ abhinisīdenti. So ce pavesanaṃ sādiyati, paviṭṭhaṃ sādiyati, ṭhitaṃ sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti thullaccayassa…pe… na sādiyati, anāpatti.

    ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา ภิกฺขุํ อมนุสฺสิตฺถิยา… ติรจฺฉานคติตฺถิยา… มนุสฺสุภโตพฺยญฺชนกสฺส… อมนุสฺสุภโตพฺยญฺชนกสฺส… ติรจฺฉานคตุภโตพฺยญฺชนกสฺส… มนุสฺสปณฺฑกสฺส… อมนุสฺสปณฺฑกสฺส… ติรจฺฉานคตปณฺฑกสฺส… มนุสฺสปุริสสฺส… อมนุสฺสปุริสสฺส… ติรจฺฉานคตปุริสสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา องฺคชาเตน วจฺจมคฺคํ… มุขํ อภินิสีเทนฺติฯ โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ สาทิยติ, ฐิตํ สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส…เป.… น สาทิยติ, อนาปตฺติฯ

    Bhikkhupaccatthikā bhikkhuṃ amanussitthiyā… tiracchānagatitthiyā… manussubhatobyañjanakassa… amanussubhatobyañjanakassa… tiracchānagatubhatobyañjanakassa… manussapaṇḍakassa… amanussapaṇḍakassa… tiracchānagatapaṇḍakassa… manussapurisassa… amanussapurisassa… tiracchānagatapurisassa santike ānetvā aṅgajātena vaccamaggaṃ… mukhaṃ abhinisīdenti. So ce pavesanaṃ sādiyati, paviṭṭhaṃ sādiyati, ṭhitaṃ sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti pārājikassa…pe… na sādiyati, anāpatti.

    ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา ภิกฺขุํ ติรจฺฉานคตปุริสสฺส ชาครนฺตสฺส… สุตฺตสฺส… มตฺตสฺส… อุมฺมตฺตสฺส… ปมตฺตสฺส… มตสฺส อกฺขายิตสฺส… มตสฺส เยภุเยฺยน อกฺขายิตสฺส…เป.… อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ มตสฺส เยภุเยฺยน ขายิตสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา องฺคชาเตน วจฺจมคฺคํ… มุขํ อภินิสีเทนฺติฯ โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ สาทิยติ, ฐิตํ สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส…เป.… น สาทิยติ, อนาปตฺติฯ

    Bhikkhupaccatthikā bhikkhuṃ tiracchānagatapurisassa jāgarantassa… suttassa… mattassa… ummattassa… pamattassa… matassa akkhāyitassa… matassa yebhuyyena akkhāyitassa…pe… āpatti pārājikassa. Matassa yebhuyyena khāyitassa santike ānetvā aṅgajātena vaccamaggaṃ… mukhaṃ abhinisīdenti. So ce pavesanaṃ sādiyati, paviṭṭhaṃ sādiyati, ṭhitaṃ sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti thullaccayassa…pe… na sādiyati, anāpatti.

    ๖๔. ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา ภิกฺขุํ มนุสฺสิตฺถิยา สนฺติเก อาเนตฺวา องฺคชาเตน วจฺจมคฺคํ… ปสฺสาวมคฺคํ… มุขํ อภินิสีเทนฺติ สนฺถตสฺส อสนฺถตาย, อสนฺถตสฺส สนฺถตาย, สนฺถตสฺส สนฺถตาย, อสนฺถตสฺส อสนฺถตายฯ โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ สาทิยติ, ฐิตํ สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส…เป.… น สาทิยติ, อนาปตฺติฯ

    64. Bhikkhupaccatthikā bhikkhuṃ manussitthiyā santike ānetvā aṅgajātena vaccamaggaṃ… passāvamaggaṃ… mukhaṃ abhinisīdenti santhatassa asanthatāya, asanthatassa santhatāya, santhatassa santhatāya, asanthatassa asanthatāya. So ce pavesanaṃ sādiyati, paviṭṭhaṃ sādiyati, ṭhitaṃ sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti pārājikassa…pe… na sādiyati, anāpatti.

    ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา ภิกฺขุํ มนุสฺสิตฺถิยา ชาครนฺติยา… สุตฺตาย… มตฺตาย… อุมฺมตฺตาย… ปมตฺตาย… มตาย อกฺขายิตาย… มตาย เยภุเยฺยน อกฺขายิตาย…เป.… อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ มตาย เยภุเยฺยน ขายิตาย สนฺติเก อาเนตฺวา องฺคชาเตน วจฺจมคฺคํ… ปสฺสาวมคฺคํ… มุขํ อภินิสีเทนฺติ สนฺถตสฺส อสนฺถตาย, อสนฺถตสฺส สนฺถตาย, สนฺถตสฺส สนฺถตาย, อสนฺถตสฺส อสนฺถตายฯ โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ สาทิยติ, ฐิตํ สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส…เป.… น สาทิยติ, อนาปตฺติฯ

    Bhikkhupaccatthikā bhikkhuṃ manussitthiyā jāgarantiyā… suttāya… mattāya… ummattāya… pamattāya… matāya akkhāyitāya… matāya yebhuyyena akkhāyitāya…pe… āpatti pārājikassa. Matāya yebhuyyena khāyitāya santike ānetvā aṅgajātena vaccamaggaṃ… passāvamaggaṃ… mukhaṃ abhinisīdenti santhatassa asanthatāya, asanthatassa santhatāya, santhatassa santhatāya, asanthatassa asanthatāya. So ce pavesanaṃ sādiyati, paviṭṭhaṃ sādiyati, ṭhitaṃ sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti thullaccayassa…pe… na sādiyati, anāpatti.

    ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา ภิกฺขุํ อมนุสฺสิตฺถิยา… ติรจฺฉานคติตฺถิยา… มนุสฺสุภโตพฺยญฺชนกสฺส… อมนุสฺสุภโตพฺยญฺชนกสฺส… ติรจฺฉานคตุภโตพฺยญฺชนกสฺส… มนุสฺสปณฺฑกสฺส… อมนุสฺสปณฺฑกสฺส… ติรจฺฉานคตปณฺฑกสฺส… มนุสฺสปุริสสฺส… อมนุสฺสปุริสสฺส… ติรจฺฉานคตปุริสสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา องฺคชาเตน วจฺจมคฺคํ… มุขํ อภินิสีเทนฺติ สนฺถตสฺส อสนฺถตสฺส, อสนฺถตสฺส สนฺถตสฺส, สนฺถตสฺส สนฺถตสฺส, อสนฺถตสฺส อสนฺถตสฺสฯ โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ สาทิยติ, ฐิตํ สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส…เป.… น สาทิยติ, อนาปตฺติฯ

    Bhikkhupaccatthikā bhikkhuṃ amanussitthiyā… tiracchānagatitthiyā… manussubhatobyañjanakassa… amanussubhatobyañjanakassa… tiracchānagatubhatobyañjanakassa… manussapaṇḍakassa… amanussapaṇḍakassa… tiracchānagatapaṇḍakassa… manussapurisassa… amanussapurisassa… tiracchānagatapurisassa santike ānetvā aṅgajātena vaccamaggaṃ… mukhaṃ abhinisīdenti santhatassa asanthatassa, asanthatassa santhatassa, santhatassa santhatassa, asanthatassa asanthatassa. So ce pavesanaṃ sādiyati, paviṭṭhaṃ sādiyati, ṭhitaṃ sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti pārājikassa…pe… na sādiyati, anāpatti.

    ๖๕. ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา ภิกฺขุํ ติรจฺฉานคตปุริสสฺส ชาครนฺตสฺส… สุตฺตสฺส… มตฺตสฺส… อุมฺมตฺตสฺส… ปมตฺตสฺส… มตสฺส อกฺขายิตสฺส… มตสฺส เยภุเยฺยน อกฺขายิตสฺส…เป.… อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ มตสฺส เยภุเยฺยน ขายิตสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา องฺคชาเตน วจฺจมคฺคํ… มุขํ อภินิสีเทนฺติ สนฺถตสฺส อสนฺถตสฺส, อสนฺถตสฺส สนฺถตสฺส, สนฺถตสฺส สนฺถตสฺส, อสนฺถตสฺส อสนฺถตสฺสฯ โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ สาทิยติ, ฐิตํ สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส…เป.… น สาทิยติ, อนาปตฺติฯ

    65. Bhikkhupaccatthikā bhikkhuṃ tiracchānagatapurisassa jāgarantassa… suttassa… mattassa… ummattassa… pamattassa… matassa akkhāyitassa… matassa yebhuyyena akkhāyitassa…pe… āpatti pārājikassa. Matassa yebhuyyena khāyitassa santike ānetvā aṅgajātena vaccamaggaṃ… mukhaṃ abhinisīdenti santhatassa asanthatassa, asanthatassa santhatassa, santhatassa santhatassa, asanthatassa asanthatassa. So ce pavesanaṃ sādiyati, paviṭṭhaṃ sādiyati, ṭhitaṃ sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti thullaccayassa…pe… na sādiyati, anāpatti.

    ยถา ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา วิตฺถาริตา, เอวํ วิตฺถาเรตพฺพาฯ

    Yathā bhikkhupaccatthikā vitthāritā, evaṃ vitthāretabbā.

    ราชปจฺจตฺถิกา… โจรปจฺจตฺถิกา… ธุตฺตปจฺจตฺถิกา… อุปฺปฬคนฺธปจฺจตฺถิกาฯ สํขิตฺตํฯ

    Rājapaccatthikā… corapaccatthikā… dhuttapaccatthikā… uppaḷagandhapaccatthikā. Saṃkhittaṃ.

    ๖๖. มเคฺคน มคฺคํ ปเวเสติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ มเคฺคน อมคฺคํ ปเวเสติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ อมเคฺคน มคฺคํ ปเวเสติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ อมเคฺคน อมคฺคํ ปเวเสติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ

    66. Maggena maggaṃ paveseti, āpatti pārājikassa. Maggena amaggaṃ paveseti, āpatti pārājikassa. Amaggena maggaṃ paveseti, āpatti pārājikassa. Amaggena amaggaṃ paveseti, āpatti thullaccayassa.

    ภิกฺขุ สุตฺตภิกฺขุมฺหิ วิปฺปฎิปชฺชติ; ปฎิพุโทฺธ สาทิยติ, อุโภ นาเสตพฺพาฯ ปฎิพุโทฺธ น สาทิยติ, ทูสโก นาเสตโพฺพฯ ภิกฺขุ สุตฺตสามเณรมฺหิ วิปฺปฎิปชฺชติ; ปฎิพุโทฺธ สาทิยติ, อุโภ นาเสตพฺพาฯ ปฎิพุโทฺธ น สาทิยติ, ทูสโก นาเสตโพฺพฯ สามเณโร สุตฺตภิกฺขุมฺหิ วิปฺปฎิปชฺชติ; ปฎิพุโทฺธ สาทิยติ, อุโภ นาเสตพฺพาฯ ปฎิพุโทฺธ น สาทิยติ, ทูสโก นาเสตโพฺพฯ สามเณโร สุตฺตสามเณรมฺหิ วิปฺปฎิปชฺชติ; ปฎิพุโทฺธ สาทิยติ, อุโภ นาเสตพฺพา ฯ ปฎิพุโทฺธ น สาทิยติ, ทูสโก นาเสตโพฺพฯ

    Bhikkhu suttabhikkhumhi vippaṭipajjati; paṭibuddho sādiyati, ubho nāsetabbā. Paṭibuddho na sādiyati, dūsako nāsetabbo. Bhikkhu suttasāmaṇeramhi vippaṭipajjati; paṭibuddho sādiyati, ubho nāsetabbā. Paṭibuddho na sādiyati, dūsako nāsetabbo. Sāmaṇero suttabhikkhumhi vippaṭipajjati; paṭibuddho sādiyati, ubho nāsetabbā. Paṭibuddho na sādiyati, dūsako nāsetabbo. Sāmaṇero suttasāmaṇeramhi vippaṭipajjati; paṭibuddho sādiyati, ubho nāsetabbā . Paṭibuddho na sādiyati, dūsako nāsetabbo.

    อนาปตฺติ อชานนฺตสฺส, อสาทิยนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกสฺส, ขิตฺตจิตฺตสฺส, เวทนาฎฺฎสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    Anāpatti ajānantassa, asādiyantassa, ummattakassa, khittacittassa, vedanāṭṭassa, ādikammikassāti.

    สนฺถตภาณวาโร นิฎฺฐิโตฯ

    Santhatabhāṇavāro niṭṭhito.

    วินีตวตฺถุอุทฺทานคาถา

    Vinītavatthuuddānagāthā

    มกฺกฎี วชฺชิปุตฺตา จ, คิหี นโคฺค จ ติตฺถิยา;

    Makkaṭī vajjiputtā ca, gihī naggo ca titthiyā;

    ทาริกุปฺปลวณฺณา จ, พฺยญฺชเนหิปเร ทุเวฯ

    Dārikuppalavaṇṇā ca, byañjanehipare duve.

    มาตา ธีตา ภคินี จ, ชายา จ มุทุ ลมฺพินา;

    Mātā dhītā bhaginī ca, jāyā ca mudu lambinā;

    เทฺว วณา เลปจิตฺตญฺจ, ทารุธีตลิกาย จฯ

    Dve vaṇā lepacittañca, dārudhītalikāya ca.

    สุนฺทเรน สห ปญฺจ, ปญฺจ สิวถิกฎฺฐิกา;

    Sundarena saha pañca, pañca sivathikaṭṭhikā;

    นาคี ยกฺขี จ เปตี จ, ปณฺฑโกปหโต ฉุเปฯ

    Nāgī yakkhī ca petī ca, paṇḍakopahato chupe.

    ภทฺทิเย อรหํ สุโตฺต, สาวตฺถิยา จตุโร ปเร;

    Bhaddiye arahaṃ sutto, sāvatthiyā caturo pare;

    เวสาลิยา ตโย มาลา, สุปิเน ภารุกจฺฉโกฯ

    Vesāliyā tayo mālā, supine bhārukacchako.

    สุปพฺพา สทฺธา ภิกฺขุนี, สิกฺขมานา สามเณรี จ;

    Supabbā saddhā bhikkhunī, sikkhamānā sāmaṇerī ca;

    เวสิยา ปณฺฑโก คิหี, อญฺญมญฺญํ วุฑฺฒปพฺพชิโต มิโคติฯ

    Vesiyā paṇḍako gihī, aññamaññaṃ vuḍḍhapabbajito migoti.

    วินีตวตฺถุ

    Vinītavatthu

    ๖๗. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ มกฺกฎิยา เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ – ‘‘ภควตา สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ, กจฺจิ นุ โข อหํ ปาราชิกํ อาปตฺติํ อาปโนฺน’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ

    67. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu makkaṭiyā methunaṃ dhammaṃ paṭisevi. Tassa kukkuccaṃ ahosi – ‘‘bhagavatā sikkhāpadaṃ paññattaṃ, kacci nu kho ahaṃ pārājikaṃ āpattiṃ āpanno’’ti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesi. ‘‘Āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา เวสาลิกา วชฺชิปุตฺตกา ภิกฺขู สิกฺขํ อปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิํสุฯ เตสํ กุกฺกุจฺจํ อโหสิ – ‘‘ภควตา สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ, กจฺจิ นุ โข มยํ ปาราชิกํ อาปตฺติํ อาปนฺนา’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อาปตฺติํ ตุเมฺห, ภิกฺขเว, อาปนฺนา ปาราชิก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena sambahulā vesālikā vajjiputtakā bhikkhū sikkhaṃ apaccakkhāya dubbalyaṃ anāvikatvā methunaṃ dhammaṃ paṭiseviṃsu. Tesaṃ kukkuccaṃ ahosi – ‘‘bhagavatā sikkhāpadaṃ paññattaṃ, kacci nu kho mayaṃ pārājikaṃ āpattiṃ āpannā’’ti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Āpattiṃ tumhe, bhikkhave, āpannā pārājika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ – ‘เอวํ เม อนาปตฺติ ภวิสฺสตี’ติ, คิหิลิเงฺคน เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ ‘‘ภควตา สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ, กจฺจิ นุ โข อหํ ปาราชิกํ อาปตฺติํ อาปโนฺน’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu – ‘evaṃ me anāpatti bhavissatī’ti, gihiliṅgena methunaṃ dhammaṃ paṭisevi. Tassa kukkuccaṃ ahosi ‘‘bhagavatā sikkhāpadaṃ paññattaṃ, kacci nu kho ahaṃ pārājikaṃ āpattiṃ āpanno’’ti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesi. ‘‘Āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ – ‘เอวํ เม อนาปตฺติ ภวิสฺสตี’ติ, นโคฺค หุตฺวา เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu – ‘evaṃ me anāpatti bhavissatī’ti, naggo hutvā methunaṃ dhammaṃ paṭisevi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ – ‘เอวํ เม อนาปตฺติ ภวิสฺสตี’ติ, กุสจีรํ นิวาเสตฺวา… วากจีรํ นิวาเสตฺวา… ผลกจีรํ นิวาเสตฺวา… เกสกมฺพลํ นิวาเสตฺวา… วาลกมฺพลํ นิวาเสตฺวา… อุลูกปกฺขิกํ นิวาเสตฺวา… อชินกฺขิปํ นิวาเสตฺวา เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu – ‘evaṃ me anāpatti bhavissatī’ti, kusacīraṃ nivāsetvā… vākacīraṃ nivāsetvā… phalakacīraṃ nivāsetvā… kesakambalaṃ nivāsetvā… vālakambalaṃ nivāsetvā… ulūkapakkhikaṃ nivāsetvā… ajinakkhipaṃ nivāsetvā methunaṃ dhammaṃ paṭisevi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ปิณฺฑจาริโก ภิกฺขุ ปีฐเก นิปนฺนํ ทาริกํ ปสฺสิตฺวา สารโตฺต องฺคุฎฺฐํ องฺคชาตํ ปเวเสสิฯ สา กาลมกาสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ , ภิกฺขุ, ปาราชิกสฺสฯ อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro piṇḍacāriko bhikkhu pīṭhake nipannaṃ dārikaṃ passitvā sāratto aṅguṭṭhaṃ aṅgajātaṃ pavesesi. Sā kālamakāsi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti , bhikkhu, pārājikassa. Āpatti saṅghādisesassā’’ti.

    ๖๘. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร มาณวโก อุปฺปลวณฺณาย ภิกฺขุนิยา ปฎิพทฺธจิโตฺต โหติฯ อถ โข โส มาณวโก อุปฺปลวณฺณาย ภิกฺขุนิยา คามํ ปิณฺฑาย ปวิฎฺฐาย กุฎิกํ ปวิสิตฺวา นิลีโน อจฺฉิฯ อุปฺปลวณฺณา ภิกฺขุนี ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฎิกฺกนฺตา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา กุฎิกํ ปวิสิตฺวา มญฺจเก นิสีทิฯ อถ โข โส มาณวโก อุปฺปลวณฺณํ ภิกฺขุนิํ อุคฺคเหตฺวา ทูเสสิฯ อุปฺปลวณฺณา ภิกฺขุนี ภิกฺขุนีนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ภิกฺขุนิโย ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, อสาทิยนฺติยา’’ติฯ

    68. Tena kho pana samayena aññataro māṇavako uppalavaṇṇāya bhikkhuniyā paṭibaddhacitto hoti. Atha kho so māṇavako uppalavaṇṇāya bhikkhuniyā gāmaṃ piṇḍāya paviṭṭhāya kuṭikaṃ pavisitvā nilīno acchi. Uppalavaṇṇā bhikkhunī pacchābhattaṃ piṇḍapātapaṭikkantā pāde pakkhāletvā kuṭikaṃ pavisitvā mañcake nisīdi. Atha kho so māṇavako uppalavaṇṇaṃ bhikkhuniṃ uggahetvā dūsesi. Uppalavaṇṇā bhikkhunī bhikkhunīnaṃ etamatthaṃ ārocesi. Bhikkhuniyo bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesuṃ. Bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anāpatti, bhikkhave, asādiyantiyā’’ti.

    ๖๙. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน อิตฺถิลิงฺคํ ปาตุภูตํ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตํเยว อุปชฺฌํ ตเมว อุปสมฺปทํ ตานิเยว 51 วสฺสานิ ภิกฺขุนีหิ สงฺคมิตุํ 52ฯ ยา อาปตฺติโย ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีหิ สาธารณา ตา อาปตฺติโย ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก วุฎฺฐาตุํฯ ยา อาปตฺติโย ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีหิ อสาธารณา ตาหิ อาปตฺตีหิ อนาปตฺตี’’ติฯ

    69. Tena kho pana samayena aññatarassa bhikkhuno itthiliṅgaṃ pātubhūtaṃ hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, taṃyeva upajjhaṃ tameva upasampadaṃ tāniyeva 53 vassāni bhikkhunīhi saṅgamituṃ 54. Yā āpattiyo bhikkhūnaṃ bhikkhunīhi sādhāraṇā tā āpattiyo bhikkhunīnaṃ santike vuṭṭhātuṃ. Yā āpattiyo bhikkhūnaṃ bhikkhunīhi asādhāraṇā tāhi āpattīhi anāpattī’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตริสฺสา ภิกฺขุนิยา ปุริสลิงฺคํ ปาตุภูตํ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตํเยว อุปชฺฌํ ตเมว อุปสมฺปทํ ตานิเยว 55 วสฺสานิ ภิกฺขูหิ สงฺคมิตุํ 56ฯ ยา อาปตฺติโย ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูหิ สาธารณา ตา อาปตฺติโย ภิกฺขูนํ สนฺติเก วุฎฺฐาตุํฯ ยา อาปตฺติโย ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูหิ อสาธารณา ตาหิ อาปตฺตีหิ อนาปตฺตี’’ติฯ

    Tena kho pana samayena aññatarissā bhikkhuniyā purisaliṅgaṃ pātubhūtaṃ hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, taṃyeva upajjhaṃ tameva upasampadaṃ tāniyeva 57 vassāni bhikkhūhi saṅgamituṃ 58. Yā āpattiyo bhikkhunīnaṃ bhikkhūhi sādhāraṇā tā āpattiyo bhikkhūnaṃ santike vuṭṭhātuṃ. Yā āpattiyo bhikkhunīnaṃ bhikkhūhi asādhāraṇā tāhi āpattīhi anāpattī’’ti.

    ๗๐. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ – ‘เอวํ เม อนาปตฺติ ภวิสฺสตี’ติ, มาตุยา เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิ… ธีตุยา เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิ… ภคินิยา เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิ… ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ

    70. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu – ‘evaṃ me anāpatti bhavissatī’ti, mātuyā methunaṃ dhammaṃ paṭisevi… dhītuyā methunaṃ dhammaṃ paṭisevi… bhaginiyā methunaṃ dhammaṃ paṭisevi… tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ปุราณทุติยิกาย เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu purāṇadutiyikāya methunaṃ dhammaṃ paṭisevi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.

    ๗๑. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ มุทุปิฎฺฐิโก โหติฯ โส อนภิรติยา ปีฬิโต อตฺตโน องฺคชาตํ มุเขน อคฺคเหสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปราชิก’’นฺติฯ

    71. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu mudupiṭṭhiko hoti. So anabhiratiyā pīḷito attano aṅgajātaṃ mukhena aggahesi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno parājika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ลมฺพี โหติฯ โส อนภิรติยา ปีฬิโต อตฺตโน องฺคชาตํ อตฺตโน วจฺจมคฺคํ ปเวเสสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu lambī hoti. So anabhiratiyā pīḷito attano aṅgajātaṃ attano vaccamaggaṃ pavesesi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ มตสรีรํ ปสฺสิฯ ตสฺมิญฺจ สรีเร องฺคชาตสามนฺตา วโณ โหติฯ โส – ‘เอวํ เม อนาปตฺติ ภวิสฺสตี’ติ, องฺคชาเต องฺคชาตํ ปเวเสตฺวา วเณน นีหริฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu matasarīraṃ passi. Tasmiñca sarīre aṅgajātasāmantā vaṇo hoti. So – ‘evaṃ me anāpatti bhavissatī’ti, aṅgajāte aṅgajātaṃ pavesetvā vaṇena nīhari. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ มตสรีรํ ปสฺสิฯ ตสฺมิญฺจ สรีเร องฺคชาตสามนฺตา วโณ โหติฯ โส – ‘เอวํ เม อนาปตฺติ ภวิสฺสตี’ติ, วเณ องฺคชาตํ ปเวเสตฺวา องฺคชาเตน นีหริฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu matasarīraṃ passi. Tasmiñca sarīre aṅgajātasāmantā vaṇo hoti. So – ‘evaṃ me anāpatti bhavissatī’ti, vaṇe aṅgajātaṃ pavesetvā aṅgajātena nīhari. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สารโตฺต เลปจิตฺตสฺส นิมิตฺตํ องฺคชาเตน ฉุปิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, ปาราชิกสฺสฯ อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu sāratto lepacittassa nimittaṃ aṅgajātena chupi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhu, pārājikassa. Āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สารโตฺต ทารุธีตลิกาย นิมิตฺตํ องฺคชาเตน ฉุปิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, ปาราชิกสฺสฯ อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu sāratto dārudhītalikāya nimittaṃ aṅgajātena chupi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhu, pārājikassa. Āpatti dukkaṭassā’’ti.

    ๗๒. เตน โข ปน สมเยน สุนฺทโร นาม ภิกฺขุ ราชคหา ปพฺพชิโต รถิกาย 59 คจฺฉติฯ อญฺญตรา อิตฺถี – ‘มุหุตฺตํ 60, ภเนฺต, อาคเมหิ, วนฺทิสฺสามี’ติ สา วนฺทนฺตี อนฺตรวาสกํ อุกฺขิปิตฺวา มุเขน องฺคชาตํ อคฺคเหสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘สาทิยิ ตฺวํ, ภิกฺขู’’ติ? ‘‘นาหํ, ภควา, สาทิยิ’’นฺติฯ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, อสาทิยนฺตสฺสา’’ติฯ

    72. Tena kho pana samayena sundaro nāma bhikkhu rājagahā pabbajito rathikāya 61 gacchati. Aññatarā itthī – ‘muhuttaṃ 62, bhante, āgamehi, vandissāmī’ti sā vandantī antaravāsakaṃ ukkhipitvā mukhena aṅgajātaṃ aggahesi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘sādiyi tvaṃ, bhikkhū’’ti? ‘‘Nāhaṃ, bhagavā, sādiyi’’nti. ‘‘Anāpatti, bhikkhu, asādiyantassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรา อิตฺถี ภิกฺขุํ ปสฺสิตฺวา เอตทโวจ – ‘‘เอหิ, ภเนฺต, เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวา’’ติฯ ‘‘อลํ, ภคินิ, เนตํ กปฺปตี’’ติฯ ‘‘เอหิ, ภเนฺต, อหํ วายมิสฺสามิ, ตฺวํ มา วายมิ, เอวํ เต อนาปตฺติ ภวิสฺสตี’’ติฯ โส ภิกฺขุ ตถา อกาสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññatarā itthī bhikkhuṃ passitvā etadavoca – ‘‘ehi, bhante, methunaṃ dhammaṃ paṭisevā’’ti. ‘‘Alaṃ, bhagini, netaṃ kappatī’’ti. ‘‘Ehi, bhante, ahaṃ vāyamissāmi, tvaṃ mā vāyami, evaṃ te anāpatti bhavissatī’’ti. So bhikkhu tathā akāsi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรา อิตฺถี ภิกฺขุํ ปสฺสิตฺวา เอตทโวจ – ‘‘เอหิ, ภเนฺต, เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวา’’ติฯ ‘‘อลํ, ภคินิ, เนตํ กปฺปตี’’ติฯ ‘‘เอหิ ภเนฺต, ตฺวํ วายม, อหํ น วายมิสฺสามิ, เอวํ เต อนาปตฺติ ภวิสฺสตี’’ติฯ โส ภิกฺขุ ตถา อกาสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññatarā itthī bhikkhuṃ passitvā etadavoca – ‘‘ehi, bhante, methunaṃ dhammaṃ paṭisevā’’ti. ‘‘Alaṃ, bhagini, netaṃ kappatī’’ti. ‘‘Ehi bhante, tvaṃ vāyama, ahaṃ na vāyamissāmi, evaṃ te anāpatti bhavissatī’’ti. So bhikkhu tathā akāsi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรา อิตฺถี ภิกฺขุํ ปสฺสิตฺวา เอตทโวจ – ‘‘เอหิ, ภเนฺต, เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวา’’ติฯ ‘‘อลํ, ภคินิ, เนตํ กปฺปตี’’ติฯ ‘‘เอหิ, ภเนฺต, อพฺภนฺตรํ ฆเฎฺฎตฺวา พหิ โมเจหิ…เป.… พหิ ฆเฎฺฎตฺวา อพฺภนฺตรํ โมเจหิ, เอวํ เต อนาปตฺติ ภวิสฺสตี’’ติฯ โส ภิกฺขุ ตถา อกาสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññatarā itthī bhikkhuṃ passitvā etadavoca – ‘‘ehi, bhante, methunaṃ dhammaṃ paṭisevā’’ti. ‘‘Alaṃ, bhagini, netaṃ kappatī’’ti. ‘‘Ehi, bhante, abbhantaraṃ ghaṭṭetvā bahi mocehi…pe… bahi ghaṭṭetvā abbhantaraṃ mocehi, evaṃ te anāpatti bhavissatī’’ti. So bhikkhu tathā akāsi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.

    ๗๓. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สิวถิกํ คนฺตฺวา อกฺขายิตํ สรีรํ ปสฺสิตฺวา ตสฺมิํ เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ

    73. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu sivathikaṃ gantvā akkhāyitaṃ sarīraṃ passitvā tasmiṃ methunaṃ dhammaṃ paṭisevi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สิวถิกํ คนฺตฺวา เยภุเยฺยน อกฺขายิตํ สรีรํ ปสฺสิตฺวา ตสฺมิํ เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu sivathikaṃ gantvā yebhuyyena akkhāyitaṃ sarīraṃ passitvā tasmiṃ methunaṃ dhammaṃ paṭisevi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สิวถิกํ คนฺตฺวา เยภุเยฺยน ขายิตํ สรีรํ ปสฺสิตฺวา ตสฺมิํ เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, ปาราชิกสฺสฯ อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu sivathikaṃ gantvā yebhuyyena khāyitaṃ sarīraṃ passitvā tasmiṃ methunaṃ dhammaṃ paṭisevi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhu, pārājikassa. Āpatti thullaccayassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สิวถิกํ คนฺตฺวา ฉินฺนสีสํ ปสฺสิตฺวา วฎฺฎกเต มุเข ฉุปนฺตํ องฺคชาตํ ปเวเสสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu sivathikaṃ gantvā chinnasīsaṃ passitvā vaṭṭakate mukhe chupantaṃ aṅgajātaṃ pavesesi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สิวถิกํ คนฺตฺวา ฉินฺนสีสํ ปสฺสิตฺวา วฎฺฎกเต มุเข อจฺฉุปนฺตํ องฺคชาตํ ปเวเสสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, ปาราชิกสฺสฯ อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu sivathikaṃ gantvā chinnasīsaṃ passitvā vaṭṭakate mukhe acchupantaṃ aṅgajātaṃ pavesesi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhu, pārājikassa. Āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ อญฺญตริสฺสา อิตฺถิยา ปฎิพทฺธจิโตฺต โหติฯ สา กาลงฺกตา 63 สุสาเน ฉฑฺฑิตาฯ อฎฺฐิกานิ วิปฺปกิณฺณานิ โหนฺติฯ อถ โข โส ภิกฺขุ สิวถิกํ คนฺตฺวา อฎฺฐิกานิ สงฺกฑฺฒิตฺวา นิมิเตฺต องฺคชาตํ ปฎิปาเทสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, ปาราชิกสฺสฯ อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu aññatarissā itthiyā paṭibaddhacitto hoti. Sā kālaṅkatā 64 susāne chaḍḍitā. Aṭṭhikāni vippakiṇṇāni honti. Atha kho so bhikkhu sivathikaṃ gantvā aṭṭhikāni saṅkaḍḍhitvā nimitte aṅgajātaṃ paṭipādesi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhu, pārājikassa. Āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ นาคิยา เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิ… ยกฺขินิยา เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิ… เปติยา เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิ … ปณฺฑกสฺส เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu nāgiyā methunaṃ dhammaṃ paṭisevi… yakkhiniyā methunaṃ dhammaṃ paṭisevi… petiyā methunaṃ dhammaṃ paṭisevi … paṇḍakassa methunaṃ dhammaṃ paṭisevi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ อุปหตินฺทฺริโย โหติฯ โส – ‘นาหํ เวทิยามิ 65 สุขํ วา ทุกฺขํ วา, อนาปตฺติ เม ภวิสฺสตี’ติ, เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘เวทยิ วา โส, ภิกฺขเว, โมฆปุริโส น วา เวทยิ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu upahatindriyo hoti. So – ‘nāhaṃ vediyāmi 66 sukhaṃ vā dukkhaṃ vā, anāpatti me bhavissatī’ti, methunaṃ dhammaṃ paṭisevi. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Vedayi vā so, bhikkhave, moghapuriso na vā vedayi, āpatti pārājikassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ – ‘อิตฺถิยา เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิสฺสามี’ติ, ฉุปิตมเตฺต วิปฺปฎิสารี อโหสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, ปาราชิกสฺสฯ อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu – ‘itthiyā methunaṃ dhammaṃ paṭisevissāmī’ti, chupitamatte vippaṭisārī ahosi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhu, pārājikassa. Āpatti saṅghādisesassā’’ti.

    ๗๔. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ภทฺทิเย ชาติยาวเน ทิวาวิหารคโต นิปโนฺน โหติฯ ตสฺส องฺคมงฺคานิ วาตูปตฺถทฺธานิ โหนฺติฯ อญฺญตรา อิตฺถี ปสฺสิตฺวา องฺคชาเต อภินิสีทิตฺวา ยาวทตฺถํ กตฺวา ปกฺกามิฯ ภิกฺขู กิลินฺนํ ปสฺสิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘ปญฺจหิ , ภิกฺขเว, อากาเรหิ องฺคชาตํ กมฺมนิยํ โหติ – ราเคน, วเจฺจน, ปสฺสาเวน, วาเตน, อุจฺจาลิงฺคปาณกทเฎฺฐนฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหากาเรหิ องฺคชาตํ กมฺมนิยํ โหติ ฯ อฎฺฐานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส ยํ ตสฺส ภิกฺขุโน ราเคน องฺคชาตํ กมฺมนิยํ อสฺสฯ อรหํ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุฯ อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, ตสฺส ภิกฺขุโน’’ติฯ

    74. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu bhaddiye jātiyāvane divāvihāragato nipanno hoti. Tassa aṅgamaṅgāni vātūpatthaddhāni honti. Aññatarā itthī passitvā aṅgajāte abhinisīditvā yāvadatthaṃ katvā pakkāmi. Bhikkhū kilinnaṃ passitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Pañcahi , bhikkhave, ākārehi aṅgajātaṃ kammaniyaṃ hoti – rāgena, vaccena, passāvena, vātena, uccāliṅgapāṇakadaṭṭhena. Imehi kho, bhikkhave, pañcahākārehi aṅgajātaṃ kammaniyaṃ hoti . Aṭṭhānametaṃ, bhikkhave, anavakāso yaṃ tassa bhikkhuno rāgena aṅgajātaṃ kammaniyaṃ assa. Arahaṃ so, bhikkhave, bhikkhu. Anāpatti, bhikkhave, tassa bhikkhuno’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สาวตฺถิยา อนฺธวเน ทิวาวิหารคโต นิปโนฺน โหติฯ อญฺญตรา โคปาลิกา ปสฺสิตฺวา องฺคชาเต อภินิสีทิฯ โส ภิกฺขุ ปเวสนํ สาทิยิ, ปวิฎฺฐํ สาทิยิ, ฐิตํ สาทิยิ, อุทฺธรณํ สาทิยิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu sāvatthiyā andhavane divāvihāragato nipanno hoti. Aññatarā gopālikā passitvā aṅgajāte abhinisīdi. So bhikkhu pavesanaṃ sādiyi, paviṭṭhaṃ sādiyi, ṭhitaṃ sādiyi, uddharaṇaṃ sādiyi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สาวตฺถิยา อนฺธวเน ทิวาวิหารคโต นิปโนฺน โหติฯ อญฺญตรา อชปาลิกา ปสฺสิตฺวา… อญฺญตรา กฎฺฐหาริกา ปสฺสิตฺวา… อญฺญตรา โคมยหาริกา ปสฺสิตฺวา องฺคชาเต อภินิสีทิฯ โส ภิกฺขุ ปเวสนํ สาทิยิ, ปวิฎฺฐํ สาทิยิ, ฐิตํ สาทิยิ, อุทฺธรณํ สาทิยิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu sāvatthiyā andhavane divāvihāragato nipanno hoti. Aññatarā ajapālikā passitvā… aññatarā kaṭṭhahārikā passitvā… aññatarā gomayahārikā passitvā aṅgajāte abhinisīdi. So bhikkhu pavesanaṃ sādiyi, paviṭṭhaṃ sādiyi, ṭhitaṃ sādiyi, uddharaṇaṃ sādiyi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.

    ๗๕. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ เวสาลิยํ มหาวเน ทิวาวิหารคโต นิปโนฺน โหติฯ อญฺญตรา อิตฺถี ปสฺสิตฺวา องฺคชาเต อภินิสีทิตฺวา ยาวทตฺถํ กตฺวา สามนฺตา หสมานา ฐิตา โหติ ฯ โส ภิกฺขุ ปฎิพุชฺฌิตฺวา ตํ อิตฺถิํ เอตทโวจ – ‘‘ตุยฺหิทํ กมฺม’’นฺติ? ‘‘อาม, มยฺหํ กมฺม’’นฺติฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘สาทิยิ ตฺวํ, ภิกฺขู’’ติ? ‘‘นาหํ, ภควา, ชานามี’’ติฯ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, อชานนฺตสฺสา’’ติฯ

    75. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu vesāliyaṃ mahāvane divāvihāragato nipanno hoti. Aññatarā itthī passitvā aṅgajāte abhinisīditvā yāvadatthaṃ katvā sāmantā hasamānā ṭhitā hoti . So bhikkhu paṭibujjhitvā taṃ itthiṃ etadavoca – ‘‘tuyhidaṃ kamma’’nti? ‘‘Āma, mayhaṃ kamma’’nti. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘sādiyi tvaṃ, bhikkhū’’ti? ‘‘Nāhaṃ, bhagavā, jānāmī’’ti. ‘‘Anāpatti, bhikkhu, ajānantassā’’ti.

    ๗๖. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ เวสาลิยํ มหาวเน ทิวาวิหารคโต รุกฺขํ อปสฺสาย นิปโนฺน โหติฯ อญฺญตรา อิตฺถี ปสฺสิตฺวา องฺคชาเต อภินิสีทิฯ โส ภิกฺขุ สหสา วุฎฺฐาสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘สาทิยิ ตฺวํ, ภิกฺขู’’ติ? ‘‘นาหํ, ภควา, สาทิยิ’’นฺติฯ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, อสาทิยนฺตสฺสา’’ติฯ

    76. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu vesāliyaṃ mahāvane divāvihāragato rukkhaṃ apassāya nipanno hoti. Aññatarā itthī passitvā aṅgajāte abhinisīdi. So bhikkhu sahasā vuṭṭhāsi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘sādiyi tvaṃ, bhikkhū’’ti? ‘‘Nāhaṃ, bhagavā, sādiyi’’nti. ‘‘Anāpatti, bhikkhu, asādiyantassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ เวสาลิยํ มหาวเน ทิวาวิหารคโต รุกฺขํ อปสฺสาย นิปโนฺน โหติฯ อญฺญตรา อิตฺถี ปสฺสิตฺวา องฺคชาเต อภินิสีทิฯ โส ภิกฺขุ อกฺกมิตฺวา ปวเตฺตสิ 67ฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘สาทิยิ ตฺวํ, ภิกฺขู’’ติ? ‘‘นาหํ, ภควา, สาทิยิ’’นฺติฯ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, อสาทิยนฺตสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu vesāliyaṃ mahāvane divāvihāragato rukkhaṃ apassāya nipanno hoti. Aññatarā itthī passitvā aṅgajāte abhinisīdi. So bhikkhu akkamitvā pavattesi 68. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘sādiyi tvaṃ, bhikkhū’’ti? ‘‘Nāhaṃ, bhagavā, sādiyi’’nti. ‘‘Anāpatti, bhikkhu, asādiyantassā’’ti.

    ๗๗. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ เวสาลิยํ มหาวเน กูฎาคารสาลายํ ทิวาวิหารคโต ทฺวารํ วิวริตฺวา นิปโนฺน โหติฯ ตสฺส องฺคมงฺคานิ วาตูปตฺถทฺธานิ โหนฺติฯ เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา อิตฺถิโย คนฺธญฺจ มาลญฺจ อาทาย อารามํ อาคมํสุ วิหารเปกฺขิกาโยฯ อถ โข ตา อิตฺถิโย ตํ ภิกฺขุํ ปสฺสิตฺวา องฺคชาเต อภินิสีทิตฺวา ยาวทตฺถํ กตฺวา, ปุริสูสโภ วตายนฺติ วตฺวา คนฺธญฺจ มาลญฺจ อาโรเปตฺวา ปกฺกมิํสุฯ ภิกฺขู กิลินฺนํ ปสฺสิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘ปญฺจหิ, ภิกฺขเว, อากาเรหิ องฺคชาตํ กมฺมนิยํ โหติ – ราเคน, วเจฺจน, ปสฺสาเวน, วาเตน, อุจฺจาลิงฺคปาณกทเฎฺฐนฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหากาเรหิ องฺคชาตํ กมฺมนิยํ โหติฯ อฎฺฐานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ ตสฺส ภิกฺขุโน ราเคน องฺคชาตํ กมฺมนิยํ อสฺสฯ อรหํ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุฯ อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, ตสฺส ภิกฺขุโนฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทิวา ปฎิสลฺลียเนฺตน ทฺวารํ สํวริตฺวา ปฎิสลฺลียิตุ’’นฺติฯ

    77. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu vesāliyaṃ mahāvane kūṭāgārasālāyaṃ divāvihāragato dvāraṃ vivaritvā nipanno hoti. Tassa aṅgamaṅgāni vātūpatthaddhāni honti. Tena kho pana samayena sambahulā itthiyo gandhañca mālañca ādāya ārāmaṃ āgamaṃsu vihārapekkhikāyo. Atha kho tā itthiyo taṃ bhikkhuṃ passitvā aṅgajāte abhinisīditvā yāvadatthaṃ katvā, purisūsabho vatāyanti vatvā gandhañca mālañca āropetvā pakkamiṃsu. Bhikkhū kilinnaṃ passitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Pañcahi, bhikkhave, ākārehi aṅgajātaṃ kammaniyaṃ hoti – rāgena, vaccena, passāvena, vātena, uccāliṅgapāṇakadaṭṭhena. Imehi kho, bhikkhave, pañcahākārehi aṅgajātaṃ kammaniyaṃ hoti. Aṭṭhānametaṃ, bhikkhave, anavakāso, yaṃ tassa bhikkhuno rāgena aṅgajātaṃ kammaniyaṃ assa. Arahaṃ so, bhikkhave, bhikkhu. Anāpatti, bhikkhave, tassa bhikkhuno. Anujānāmi, bhikkhave, divā paṭisallīyantena dvāraṃ saṃvaritvā paṭisallīyitu’’nti.

    ๗๘. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภารุกจฺฉโก ภิกฺขุ สุปินเนฺต 69 ปุราณทุติยิกาย เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิตฺวา – ‘อสฺสมโณ อหํ, วิพฺภมิสฺสามี’ติ, ภารุกจฺฉํ คจฺฉโนฺต อนฺตรามเคฺค อายสฺมนฺตํ อุปาลิํ ปสฺสิตฺวา เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ อายสฺมา อุปาลิ เอวมาห – ‘‘อนาปตฺติ, อาวุโส, สุปินเนฺตนา’’ติฯ

    78. Tena kho pana samayena aññataro bhārukacchako bhikkhu supinante 70 purāṇadutiyikāya methunaṃ dhammaṃ paṭisevitvā – ‘assamaṇo ahaṃ, vibbhamissāmī’ti, bhārukacchaṃ gacchanto antarāmagge āyasmantaṃ upāliṃ passitvā etamatthaṃ ārocesi. Āyasmā upāli evamāha – ‘‘anāpatti, āvuso, supinantenā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ราชคเห สุปพฺพา นาม อุปาสิกา มุธปฺปสนฺนา 71 โหติฯ สา เอวํทิฎฺฐิกา โหติ – ‘‘ยา เมถุนํ ธมฺมํ เทติ สา อคฺคทานํ เทตี’’ติฯ สา ภิกฺขุํ ปสฺสิตฺวา เอตทโวจ – ‘‘เอหิ, ภเนฺต, เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวา’’ติฯ ‘‘อลํ, ภคินิ, เนตํ กปฺปตี’’ติฯ ‘‘เอหิ, ภเนฺต, อูรุนฺตริกาย 72 ฆเฎฺฎหิ, เอวํ เต อนาปตฺติ ภวิสฺสตี’’ติ…เป.… เอหิ, ภเนฺต, นาภิยํ ฆเฎฺฎหิ… เอหิ, ภเนฺต, อุทรวฎฺฎิยํ ฆเฎฺฎหิ… เอหิ, ภเนฺต, อุปกจฺฉเก ฆเฎฺฎหิ… เอหิ, ภเนฺต, คีวายํ ฆเฎฺฎหิ… เอหิ, ภเนฺต, กณฺณจฺฉิเทฺท ฆเฎฺฎหิ… เอหิ, ภเนฺต, เกสวฎฺฎิยํ ฆเฎฺฎหิ… เอหิ, ภเนฺต, องฺคุลนฺตริกาย ฆเฎฺฎหิ… ‘‘เอหิ, ภเนฺต, หเตฺถน อุปกฺกมิตฺวา โมเจสฺสามิ, เอวํ เต อนาปตฺติ ภวิสฺสตี’’ติฯ โส ภิกฺขุ ตถา อกาสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, ปาราชิกสฺสฯ อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena rājagahe supabbā nāma upāsikā mudhappasannā 73 hoti. Sā evaṃdiṭṭhikā hoti – ‘‘yā methunaṃ dhammaṃ deti sā aggadānaṃ detī’’ti. Sā bhikkhuṃ passitvā etadavoca – ‘‘ehi, bhante, methunaṃ dhammaṃ paṭisevā’’ti. ‘‘Alaṃ, bhagini, netaṃ kappatī’’ti. ‘‘Ehi, bhante, ūruntarikāya 74 ghaṭṭehi, evaṃ te anāpatti bhavissatī’’ti…pe… ehi, bhante, nābhiyaṃ ghaṭṭehi… ehi, bhante, udaravaṭṭiyaṃ ghaṭṭehi… ehi, bhante, upakacchake ghaṭṭehi… ehi, bhante, gīvāyaṃ ghaṭṭehi… ehi, bhante, kaṇṇacchidde ghaṭṭehi… ehi, bhante, kesavaṭṭiyaṃ ghaṭṭehi… ehi, bhante, aṅgulantarikāya ghaṭṭehi… ‘‘ehi, bhante, hatthena upakkamitvā mocessāmi, evaṃ te anāpatti bhavissatī’’ti. So bhikkhu tathā akāsi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhu, pārājikassa. Āpatti saṅghādisesassā’’ti.

    ๗๙. เตน โข ปน สมเยน สาวตฺถิยํ สทฺธา นาม อุปาสิกา มุธปฺปสนฺนา โหติฯ สา เอวํทิฎฺฐิกา โหติ – ‘‘ยา เมถุนํ ธมฺมํ เทติ สา อคฺคทานํ เทตี’’ติฯ สา ภิกฺขุํ ปสฺสิตฺวา เอตทโวจ – ‘‘เอหิ, ภเนฺต, เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวา’’ติฯ ‘‘อลํ, ภคินิ, เนตํ กปฺปตี’’ติฯ ‘‘เอหิ, ภเนฺต, อูรุนฺตริกาย ฆเฎฺฎหิ…เป.… เอหิ, ภเนฺต, หเตฺถน อุปกฺกมิตฺวา โมเจสฺสามิ, เอวํ เต อนาปตฺติ ภวิสฺสตี’’ติฯ โส ภิกฺขุ ตถา อกาสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, ปาราชิกสฺสฯ อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติฯ

    79. Tena kho pana samayena sāvatthiyaṃ saddhā nāma upāsikā mudhappasannā hoti. Sā evaṃdiṭṭhikā hoti – ‘‘yā methunaṃ dhammaṃ deti sā aggadānaṃ detī’’ti. Sā bhikkhuṃ passitvā etadavoca – ‘‘ehi, bhante, methunaṃ dhammaṃ paṭisevā’’ti. ‘‘Alaṃ, bhagini, netaṃ kappatī’’ti. ‘‘Ehi, bhante, ūruntarikāya ghaṭṭehi…pe… ehi, bhante, hatthena upakkamitvā mocessāmi, evaṃ te anāpatti bhavissatī’’ti. So bhikkhu tathā akāsi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhu, pārājikassa. Āpatti saṅghādisesassā’’ti.

    ๘๐. เตน โข ปน สมเยน เวสาลิยํ ลิจฺฉวิกุมารกา ภิกฺขุํ คเหตฺวา ภิกฺขุนิยา วิปฺปฎิปาเทสุํ… สิกฺขมานาย วิปฺปฎิปาเทสุํ… สามเณริยา วิปฺปฎิปาเทสุํฯ อุโภ สาทิยิํสุฯ อุโภ นาเสตพฺพาฯ อุโภ น สาทิยิํสุฯ อุภินฺนํ อนาปตฺติฯ

    80. Tena kho pana samayena vesāliyaṃ licchavikumārakā bhikkhuṃ gahetvā bhikkhuniyā vippaṭipādesuṃ… sikkhamānāya vippaṭipādesuṃ… sāmaṇeriyā vippaṭipādesuṃ. Ubho sādiyiṃsu. Ubho nāsetabbā. Ubho na sādiyiṃsu. Ubhinnaṃ anāpatti.

    ๘๑. เตน โข ปน สมเยน เวสาลิยํ ลิจฺฉวิกุมารกา ภิกฺขุํ คเหตฺวา เวสิยา วิปฺปฎิปาเทสุํ… ปณฺฑเก วิปฺปฎิปาเทสุํ… คิหินิยา วิปฺปฎิปาเทสุํฯ ภิกฺขุ สาทิยิฯ ภิกฺขุ นาเสตโพฺพฯ ภิกฺขุ น สาทิยิฯ ภิกฺขุสฺส อนาปตฺติฯ

    81. Tena kho pana samayena vesāliyaṃ licchavikumārakā bhikkhuṃ gahetvā vesiyā vippaṭipādesuṃ… paṇḍake vippaṭipādesuṃ… gihiniyā vippaṭipādesuṃ. Bhikkhu sādiyi. Bhikkhu nāsetabbo. Bhikkhu na sādiyi. Bhikkhussa anāpatti.

    เตน โข ปน สมเยน เวสาลิยํ ลิจฺฉวิกุมารกา ภิกฺขู คเหตฺวา อญฺญมญฺญํ วิปฺปฎิปาเทสุํฯ อุโภ สาทิยิํสุฯ อุโภ นาเสตพฺพาฯ อุโภ น สาทิยิํสุฯ อุภินฺนํ อนาปตฺติฯ

    Tena kho pana samayena vesāliyaṃ licchavikumārakā bhikkhū gahetvā aññamaññaṃ vippaṭipādesuṃ. Ubho sādiyiṃsu. Ubho nāsetabbā. Ubho na sādiyiṃsu. Ubhinnaṃ anāpatti.

    ๘๒. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร วุฑฺฒปพฺพชิโต ภิกฺขุ ปุราณทุติยิกาย ทสฺสนํ อคมาสิฯ สา – ‘เอหิ, ภเนฺต, วิพฺภมา’ติ อคฺคเหสิฯ โส ภิกฺขุ ปฎิกฺกมโนฺต อุตฺตาโน ปริปติฯ สา อุพฺภชิตฺวา 75 องฺคชาเต 76 อภินิสีทิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ …เป.… ‘‘สาทิยิ ตฺวํ, ภิกฺขู’’ติ? ‘‘นาหํ, ภควา, สาทิยิ’’นฺติฯ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, อสาทิยนฺตสฺสา’’ติฯ

    82. Tena kho pana samayena aññataro vuḍḍhapabbajito bhikkhu purāṇadutiyikāya dassanaṃ agamāsi. Sā – ‘ehi, bhante, vibbhamā’ti aggahesi. So bhikkhu paṭikkamanto uttāno paripati. Sā ubbhajitvā 77 aṅgajāte 78 abhinisīdi. Tassa kukkuccaṃ ahosi …pe… ‘‘sādiyi tvaṃ, bhikkhū’’ti? ‘‘Nāhaṃ, bhagavā, sādiyi’’nti. ‘‘Anāpatti, bhikkhu, asādiyantassā’’ti.

    ๘๓. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ อรเญฺญ วิหรติฯ มิคโปตโก ตสฺส ปสฺสาวฎฺฐานํ อาคนฺตฺวา ปสฺสาวํ ปิวโนฺต มุเขน องฺคชาตํ อคฺคเหสิฯ โส ภิกฺขุ สาทิยิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ

    83. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu araññe viharati. Migapotako tassa passāvaṭṭhānaṃ āgantvā passāvaṃ pivanto mukhena aṅgajātaṃ aggahesi. So bhikkhu sādiyi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.

    ปฐมปาราชิกํ สมตฺตํฯ

    Paṭhamapārājikaṃ samattaṃ.







    Footnotes:
    1. กลนฺทคาโม นาม โหติ (สี.), กลนฺทคาโม โหติ (สฺยา.)
    2. สมฺปหูเลหิ (สี.)
    3. kalandagāmo nāma hoti (sī.), kalandagāmo hoti (syā.)
    4. sampahūlehi (sī.)
    5. อนุญฺญาโตมฺหิ (สี. สฺยา.)
    6. anuññātomhi (sī. syā.)
    7. ญาตกาปิ มํ (สฺยา.)
    8. ñātakāpi maṃ (syā.)
    9. ฉเฎฺฎตุกามา (ก.)
    10. chaṭṭetukāmā (ka.)
    11. กุฑฺฑมูลํ (สี. สฺยา.)
    12. อคมมฺหา (ก.)
    13. kuḍḍamūlaṃ (sī. syā.)
    14. agamamhā (ka.)
    15. โอปุจฺฉาเปตฺวา (สี. สฺยา.)
    16. opucchāpetvā (sī. syā.)
    17. โอสาเทหิ (สี. สฺยา.)
    18. osādehi (sī. syā.)
    19. ตฺวมฺปิ ยาจ (สี.)
    20. tvampi yāca (sī.)
    21. ปหูตธนธญฺญํ (ป. จรามีติ) อิติปาโฐ สพฺพตฺถ นตฺถิ, อูโน มเญฺญ
    22. pahūtadhanadhaññaṃ (pa. carāmīti) itipāṭho sabbattha natthi, ūno maññe
    23. จาตุมฺมหาราชิกา (สี. สฺยา.)
    24. cātummahārājikā (sī. syā.)
    25. อนนุจฺฉวิยํ (สี.)
    26. อาสีวิสสฺส (สี. สฺยา.)
    27. ananucchaviyaṃ (sī.)
    28. āsīvisassa (sī. syā.)
    29. อสนฺตุฎฺฐตาย (สฺยา.)
    30. วีริยารพฺภสฺส (ก.)
    31. ปญฺญาเปสฺสามิ (สี. สฺยา.)
    32. asantuṭṭhatāya (syā.)
    33. vīriyārabbhassa (ka.)
    34. paññāpessāmi (sī. syā.)
    35. อิทานิปิ เจ (สฺยา.)
    36. idānipi ce (syā.)
    37. โย ปน ภิกฺขเว ภิกฺขุ (สี.) โย โข ภิกฺขเว ภิกฺขุ (สฺยา.)
    38. โย จ โข ภิกฺขเว ภิกฺขุ (สี. สฺยา.)
    39. yo pana bhikkhave bhikkhu (sī.) yo kho bhikkhave bhikkhu (syā.)
    40. yo ca kho bhikkhave bhikkhu (sī. syā.)
    41. วิภ. ๕๑๐, ฌานวิภเงฺคปิ
    42. vibha. 510, jhānavibhaṅgepi
    43. ที. นิ. ๓.๓๐๕
    44. dī. ni. 3.305
    45. มิลกฺขกสฺส (สี. สฺยา.) มิลกฺขุสฺส (ก.)
    46. milakkhakassa (sī. syā.) milakkhussa (ka.)
    47. มหานิ. ๔๙, ๕๐, ๕๑
    48. mahāni. 49, 50, 51
    49. ปวิสนํ สาทยติ (ก.)
    50. pavisanaṃ sādayati (ka.)
    51. ตานิ (สี. สฺยา.)
    52. สงฺกมิตุํ (สี. สฺยา.)
    53. tāni (sī. syā.)
    54. saṅkamituṃ (sī. syā.)
    55. ตานิ (สี. สฺยา.)
    56. สงฺกมิตุํ (สี. สฺยา.)
    57. tāni (sī. syā.)
    58. saṅkamituṃ (sī. syā.)
    59. รถิยาย (ก.)
    60. อิตฺถี ตํ ปสฺสิตฺวา เอตทโวจ มุหุตฺตํ (สฺยา.)
    61. rathiyāya (ka.)
    62. itthī taṃ passitvā etadavoca muhuttaṃ (syā.)
    63. กาลกตา (สี. สฺยา.)
    64. kālakatā (sī. syā.)
    65. เวทยามิ (ก.)
    66. vedayāmi (ka.)
    67. ปวเฎฺฎสิ (สี. สฺยา.)
    68. pavaṭṭesi (sī. syā.)
    69. สุปินเนฺตน (สี. สฺยา.)
    70. supinantena (sī. syā.)
    71. มุทฺธปฺปสนฺนา (สี.)
    72. อูรนฺตริกาย (สี.)
    73. muddhappasannā (sī.)
    74. ūrantarikāya (sī.)
    75. อุพฺภุชิตฺวา (สี. สฺยา.)
    76. องฺคชาเตน (สี.)
    77. ubbhujitvā (sī. syā.)
    78. aṅgajātena (sī.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๑. ปฐมปาราชิกํ • 1. Paṭhamapārājikaṃ

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā
    สุทินฺนภาณวารวณฺณนา • Sudinnabhāṇavāravaṇṇanā
    มกฺกฎิวตฺถุกถาวณฺณนา • Makkaṭivatthukathāvaṇṇanā
    วชฺชิปุตฺตกวตฺถุวณฺณนา • Vajjiputtakavatthuvaṇṇanā
    จตุพฺพิธวินยกถาวณฺณนา • Catubbidhavinayakathāvaṇṇanā
    สิกฺขาปจฺจกฺขานวิภงฺควณฺณนา • Sikkhāpaccakkhānavibhaṅgavaṇṇanā
    มูลปญฺญตฺติวณฺณนา • Mūlapaññattivaṇṇanā
    อนุปญฺญตฺติวณฺณนา • Anupaññattivaṇṇanā
    ปฐมจตุกฺกกถาวณฺณนา • Paṭhamacatukkakathāvaṇṇanā
    เอกูนสตฺตติทฺวิสตจตุกฺกกถาวณฺณนา • Ekūnasattatidvisatacatukkakathāvaṇṇanā
    สนฺถตจตุกฺกเภทกถาวณฺณนา • Santhatacatukkabhedakathāvaṇṇanā
    ราชปจฺจตฺถิกาทิจตุกฺกเภทกถาวณฺณนา • Rājapaccatthikādicatukkabhedakathāvaṇṇanā
    อาปตฺตานาปตฺติวารวณฺณนา • Āpattānāpattivāravaṇṇanā
    วินีตวตฺถุวณฺณนา • Vinītavatthuvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā
    สุทินฺนภาณวารวณฺณนา • Sudinnabhāṇavāravaṇṇanā
    มกฺกฎีวตฺถุกถาวณฺณนา • Makkaṭīvatthukathāvaṇṇanā
    วชฺชิปุตฺตกวตฺถุกถาวณฺณนา • Vajjiputtakavatthukathāvaṇṇanā
    จตุพฺพิธวินยาทิกถาวณฺณนา • Catubbidhavinayādikathāvaṇṇanā
    ปจฺจกฺขานวิภงฺควณฺณนา • Paccakkhānavibhaṅgavaṇṇanā
    มูลปญฺญตฺติวณฺณนา • Mūlapaññattivaṇṇanā
    อนุปญฺญตฺติวณฺณนา • Anupaññattivaṇṇanā
    ปฐมจตุกฺกวณฺณนา • Paṭhamacatukkavaṇṇanā
    เอกูนสตฺตติทฺวิสตจตุกฺกกถาวณฺณนา • Ekūnasattatidvisatacatukkakathāvaṇṇanā
    สนฺถตจตุกฺกเภทกถาวณฺณนา • Santhatacatukkabhedakathāvaṇṇanā
    ราชปจฺจตฺถิกาทิจตุกฺกเภทกถาวณฺณนา • Rājapaccatthikādicatukkabhedakathāvaṇṇanā
    อาปตฺตานาปตฺติวารวณฺณนา • Āpattānāpattivāravaṇṇanā
    วินีตวตฺถุวณฺณนา • Vinītavatthuvaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact