Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā

    ๕. ปฐมปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา

    5. Paṭhamapavāraṇāsikkhāpadavaṇṇanā

    ๒๓๖. ปญฺจเม ภุตฺตาวีติ ภุตฺตาวิโน ภุตฺตวโนฺต, กตภตฺตกิจฺจาติ วุตฺตํ โหติฯ ปวาริตาติ เอตฺถ จตูสุ ปวารณาสุ ยาวทตฺถปวารณา ปฎิเกฺขปปวารณา จ ลพฺภตีติ อาห ‘‘พฺราหฺมเณน…เป.… ปฎิเกฺขปปวารณาย ปวาริตา’’ติฯ จตุพฺพิธา หิ ปวารณา วสฺสํวุตฺถปวารณา, ปจฺจยปวารณา , ปฎิเกฺขปปวารณา, ยาวทตฺถปวารณาติฯ ตตฺถ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสํวุตฺถานํ ภิกฺขูนํ ตีหิ ฐาเนหิ ปวาเรตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๐๙) อยํ วสฺสํวุตฺถปวารณาฯ ปกาเรหิ ทิฎฺฐาทีหิ วาเรติ สงฺฆาทิเก ภชาเปติ ภเตฺต กโรติ เอตายาติ ปวารณา, อาปตฺติวิโสธนาย อตฺตโวสฺสโคฺคกาสทานํฯ สา ปน ยสฺมา เยภุเยฺยน วสฺสํวุเตฺถหิ กาตพฺพา วุตฺตา, ตสฺมา ‘‘วสฺสํวุตฺถปวารณา’’ติ วุจฺจติฯ ‘‘อิจฺฉามหํ, ภเนฺต, สงฺฆํ จาตุมาสํ เภสเชฺชน ปวาเรตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๓๐๓) จ, ‘‘อญฺญตฺร ปุน ปวารณาย อญฺญตฺร นิจฺจปวารณายา’’ติ (ปาจิ. ๓๐๖) จ อยํ ปจฺจยปวารณา ปวาเรติ ปจฺจเย อิจฺฉาเปติ เอตายาติ กตฺวา, จีวราทีหิ อุปนิมนฺตนาเยตํ อธิวจนํฯ ‘‘ปวาริโต นาม อสนํ ปญฺญายติ, โภชนํ ปญฺญายติ, หตฺถปาเส ฐิโต อภิหรติ, ปฎิเกฺขโป ปญฺญายติ, เอโส ปวาริโต นามา’’ติ (ปาจิ. ๒๓๙) อยํ ปฎิเกฺขปปวารณาฯ วิปฺปกตโภชนตาทิปญฺจงฺคสหิโต โภชนปฎิเกฺขโปเยว เหตฺถ ปการยุตฺตา วารณาติ ปวารณาฯ ‘‘ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตเปฺปสิ สมฺปวาเรสี’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๖๓) อยํ ยาวทตฺถปวารณาฯ ยาวทตฺถํ โภชนสฺส ปวารณา ยาวทตฺถปวารณาฯ

    236. Pañcame bhuttāvīti bhuttāvino bhuttavanto, katabhattakiccāti vuttaṃ hoti. Pavāritāti ettha catūsu pavāraṇāsu yāvadatthapavāraṇā paṭikkhepapavāraṇā ca labbhatīti āha ‘‘brāhmaṇena…pe… paṭikkhepapavāraṇāya pavāritā’’ti. Catubbidhā hi pavāraṇā vassaṃvutthapavāraṇā, paccayapavāraṇā , paṭikkhepapavāraṇā, yāvadatthapavāraṇāti. Tattha ‘‘anujānāmi, bhikkhave, vassaṃvutthānaṃ bhikkhūnaṃ tīhi ṭhānehi pavāretu’’nti (mahāva. 209) ayaṃ vassaṃvutthapavāraṇā. Pakārehi diṭṭhādīhi vāreti saṅghādike bhajāpeti bhatte karoti etāyāti pavāraṇā, āpattivisodhanāya attavossaggokāsadānaṃ. Sā pana yasmā yebhuyyena vassaṃvutthehi kātabbā vuttā, tasmā ‘‘vassaṃvutthapavāraṇā’’ti vuccati. ‘‘Icchāmahaṃ, bhante, saṅghaṃ cātumāsaṃ bhesajjena pavāretu’’nti (pāci. 303) ca, ‘‘aññatra puna pavāraṇāya aññatra niccapavāraṇāyā’’ti (pāci. 306) ca ayaṃ paccayapavāraṇā pavāreti paccaye icchāpeti etāyāti katvā, cīvarādīhi upanimantanāyetaṃ adhivacanaṃ. ‘‘Pavārito nāma asanaṃ paññāyati, bhojanaṃ paññāyati, hatthapāse ṭhito abhiharati, paṭikkhepo paññāyati, eso pavārito nāmā’’ti (pāci. 239) ayaṃ paṭikkhepapavāraṇā. Vippakatabhojanatādipañcaṅgasahito bhojanapaṭikkhepoyeva hettha pakārayuttā vāraṇāti pavāraṇā. ‘‘Paṇītena khādanīyena bhojanīyena sahatthā santappesi sampavāresī’’ti (ma. ni. 1.363) ayaṃ yāvadatthapavāraṇā. Yāvadatthaṃ bhojanassa pavāraṇā yāvadatthapavāraṇā.

    ๒๓๗. ติ-การํ อวตฺวา…เป.… วตฺตุํ วฎฺฎตีติ อิทํ วตฺตพฺพาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตํฯ ‘‘ติ-กาเร ปน วุเตฺตปิ อกตํ นาม น โหตี’’ติ ตีสุปิ คณฺฐิปเทสุ วุตฺตํฯ

    237.Ti-kāraṃ avatvā…pe… vattuṃ vaṭṭatīti idaṃ vattabbākāradassanatthaṃ vuttaṃ. ‘‘Ti-kāre pana vuttepi akataṃ nāma na hotī’’ti tīsupi gaṇṭhipadesu vuttaṃ.

    ๒๓๘-๒๓๙. ปวาริโตติ ปฎิเกฺขปิโตฯ โย หิ ภุญฺชโนฺต ปริเวสเกน อุปนีตํ โภชนํ อนิจฺฉโนฺต ปฎิกฺขิปติ, โส เตน ปวาริโต ปฎิเกฺขปิโต นาม โหติฯ พฺยญฺชนํ ปน อนาทิยิตฺวา อตฺถมตฺตเมว ทเสฺสตุํ ‘‘กตปวารโณ กตปฎิเกฺขโป’’ติ วุตฺตํฯ ยสฺมา ‘‘อสน’’นฺติ อิมินาว ปเทน ‘‘ภุตฺตาวี’’ติ อิมสฺส อโตฺถ วุโตฺต, ตสฺมา น ตสฺส กิญฺจิ ปโยชนํ วิสุํ อุปลพฺภติฯ ยทิ หิ อุปลเพฺภยฺย, ปวารณา ฉฬงฺคสมนฺนาคตา อาปเชฺชยฺยาติ มนสิ กตฺวา ปญฺจสมนฺนาคตตฺตํเยว ทเสฺสตุํ ‘‘วุตฺตมฺปิ เจต’’นฺติอาทินา ปาฬิํ อาหรติฯ เกจิ ปน ‘‘หตฺถปาเส ฐิโต อภิหรตี’’ติ เอกเมว องฺคํ กตฺวา ‘‘จตุรงฺคสมนฺนาคตา ปวารณา’’ติปิ วทนฺติฯ

    238-239.Pavāritoti paṭikkhepito. Yo hi bhuñjanto parivesakena upanītaṃ bhojanaṃ anicchanto paṭikkhipati, so tena pavārito paṭikkhepito nāma hoti. Byañjanaṃ pana anādiyitvā atthamattameva dassetuṃ ‘‘katapavāraṇo katapaṭikkhepo’’ti vuttaṃ. Yasmā ‘‘asana’’nti imināva padena ‘‘bhuttāvī’’ti imassa attho vutto, tasmā na tassa kiñci payojanaṃ visuṃ upalabbhati. Yadi hi upalabbheyya, pavāraṇā chaḷaṅgasamannāgatā āpajjeyyāti manasi katvā pañcasamannāgatattaṃyeva dassetuṃ ‘‘vuttampi ceta’’ntiādinā pāḷiṃ āharati. Keci pana ‘‘hatthapāse ṭhito abhiharatī’’ti ekameva aṅgaṃ katvā ‘‘caturaṅgasamannāgatā pavāraṇā’’tipi vadanti.

    อมฺพิลปายาสาทีสูติ อาทิ-สเทฺทน ขีรปายาสาทิํ สงฺคณฺหาติฯ ตตฺถ อมฺพิลปายาสคฺคหเณน ตกฺกาทิอมฺพิลสํยุตฺตา ฆนยาคุ วุตฺตาฯ ขีรปายาสคฺคหเณน ขีรสํยุตฺตา ยาคุ สงฺคยฺหติฯ ปวารณํ น ชเนตีติ อนติริตฺตโภชนาปตฺตินิพนฺธนํ ปฎิเกฺขปํ น สาเธติฯ กโตปิ ปฎิเกฺขโป อนติริตฺตโภชนาปตฺตินิพนฺธโน น โหตีติ อกตฎฺฐาเนเยว ติฎฺฐตีติ อาห ‘‘ปวารณํ น ชเนตี’’ติฯ ‘‘ยาคุ-สทฺทสฺส ปวารณชนกยาคุยาปิ สาธารณตฺตา ‘ยาคุํ คณฺหถา’ติ วุเตฺตปิ ปวารณา โหตีติ ปวารณํ ชเนติเยวาติ วุตฺต’’นฺติ ตีสุปิ คณฺฐิปเทสุ วุตฺตํ, ตํ ปรโต ตเตฺถว ‘‘ภตฺตมิสฺสกํ ยาคุํ อาหริตฺวา’’ติ เอตฺถ วุตฺตการเณน น สเมติฯ วุตฺตญฺหิ ตตฺถ ‘‘เหฎฺฐา อยาคุเก นิมนฺตเน อุทกกญฺชิกขีราทีหิ สทฺธิํ มทฺทิตํ ภตฺตเมว สนฺธาย ‘ยาคุํ คณฺหถา’ติ วุตฺตตฺตา ปวารณา โหติ, ‘ภตฺตมิสฺสกํ ยาคุํ อาหริตฺวา’ติ เอตฺถ ปน วิสุํ ยาคุยา วิชฺชมานตฺตา ปวารณา น โหตี’’ติฯ ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว ขีราทีหิ สํมทฺทิตํ ภตฺตเมว สนฺธาย ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ วุตฺตตฺตา ยาคุยา จ ตตฺถ อภาวโต ปวารณา โหตีติ เอวเมตฺถ การณํ วตฺตพฺพํฯ เอวญฺหิ สติ ปรโต ‘‘เยนาปุจฺฉิโต, ตสฺส อตฺถิตายา’’ติ อฎฺฐกถายํ วุตฺตการเณนปิ สํสนฺทติ, อญฺญถา คณฺฐิปเทสุเยว ปุพฺพาปรวิโรโธ อาปชฺชติฯ อฎฺฐกถาวจเนน จ น สเมติฯ สเจ…เป.… ปญฺญายตีติ อิมินา วุตฺตปฺปมาณสฺส มจฺฉมํสขณฺฑสฺส นหารุโน วา สพฺภาวมตฺตํ ทเสฺสติฯ ตาหีติ ปุถุกาหิฯ

    Ambilapāyāsādīsūti ādi-saddena khīrapāyāsādiṃ saṅgaṇhāti. Tattha ambilapāyāsaggahaṇena takkādiambilasaṃyuttā ghanayāgu vuttā. Khīrapāyāsaggahaṇena khīrasaṃyuttā yāgu saṅgayhati. Pavāraṇaṃ na janetīti anatirittabhojanāpattinibandhanaṃ paṭikkhepaṃ na sādheti. Katopi paṭikkhepo anatirittabhojanāpattinibandhano na hotīti akataṭṭhāneyeva tiṭṭhatīti āha ‘‘pavāraṇaṃ na janetī’’ti. ‘‘Yāgu-saddassa pavāraṇajanakayāguyāpi sādhāraṇattā ‘yāguṃ gaṇhathā’ti vuttepi pavāraṇā hotīti pavāraṇaṃ janetiyevāti vutta’’nti tīsupi gaṇṭhipadesu vuttaṃ, taṃ parato tattheva ‘‘bhattamissakaṃ yāguṃ āharitvā’’ti ettha vuttakāraṇena na sameti. Vuttañhi tattha ‘‘heṭṭhā ayāguke nimantane udakakañjikakhīrādīhi saddhiṃ madditaṃ bhattameva sandhāya ‘yāguṃ gaṇhathā’ti vuttattā pavāraṇā hoti, ‘bhattamissakaṃ yāguṃ āharitvā’ti ettha pana visuṃ yāguyā vijjamānattā pavāraṇā na hotī’’ti. Tasmā tattha vuttanayeneva khīrādīhi saṃmadditaṃ bhattameva sandhāya ‘‘yāguṃ gaṇhathā’’ti vuttattā yāguyā ca tattha abhāvato pavāraṇā hotīti evamettha kāraṇaṃ vattabbaṃ. Evañhi sati parato ‘‘yenāpucchito, tassa atthitāyā’’ti aṭṭhakathāyaṃ vuttakāraṇenapi saṃsandati, aññathā gaṇṭhipadesuyeva pubbāparavirodho āpajjati. Aṭṭhakathāvacanena ca na sameti. Sace…pe… paññāyatīti iminā vuttappamāṇassa macchamaṃsakhaṇḍassa nahāruno vā sabbhāvamattaṃ dasseti. Tāhīti puthukāhi.

    สาลิวีหิยเวหิ กตสตฺตูติ เยภุยฺยนเยน วุตฺตํ, สตฺต ธญฺญานิ ปน ภชฺชิตฺวา กโตปิ สตฺตุเยวฯ เตเนวาห ‘‘กงฺคุวรก…เป.… สตฺตุสงฺคหเมว คจฺฉตี’’ติฯ สตฺตุโมทโกติ สตฺตุโย ปิเณฺฑตฺวา กโต อปโกฺก สตฺตุคุโฬฯ ปญฺจนฺนํ โภชนานํ อญฺญตรวเสน วิปฺปกตโภชนภาวสฺส อุปจฺฉินฺนตฺตา ‘‘มุเข สาสปมตฺตมฺปิ…เป.… น ปวาเรตี’’ติ วุตฺตํฯ ‘‘อกปฺปิยมํสํ ปฎิกฺขิปติ, น ปวาเรตี’’ติ วจนโต สเจ สงฺฆิกํ ลาภํ อตฺตโน อปาปุณนฺตํ ชานิตฺวา วา อชานิตฺวา วา ปฎิกฺขิปติ, น ปวาเรติ ปฎิกฺขิปิตพฺพเสฺสว ปฎิกฺขิตฺตตฺตาฯ อลชฺชิสนฺตกํ ปฎิกฺขิปโนฺตปิ น ปวาเรติฯ อวตฺถุตายาติ อนติริตฺตาปตฺติสาธิกาย ปวารณาย อวตฺถุภาวโตฯ เอเตน ปฎิกฺขิปิตพฺพเสฺสว ปฎิกฺขิตฺตภาวํ ทีเปติ ฯ ยญฺหิ ปฎิกฺขิปิตพฺพํ โหติ, ตสฺส ปฎิเกฺขโป อาปตฺติองฺคํ น โหตีติ ตํ ‘‘ปวารณาย อวตฺถู’’ติ วุจฺจติฯ

    Sālivīhiyavehi katasattūti yebhuyyanayena vuttaṃ, satta dhaññāni pana bhajjitvā katopi sattuyeva. Tenevāha ‘‘kaṅguvaraka…pe… sattusaṅgahameva gacchatī’’ti. Sattumodakoti sattuyo piṇḍetvā kato apakko sattuguḷo. Pañcannaṃ bhojanānaṃ aññataravasena vippakatabhojanabhāvassa upacchinnattā ‘‘mukhe sāsapamattampi…pe… na pavāretī’’ti vuttaṃ. ‘‘Akappiyamaṃsaṃ paṭikkhipati, na pavāretī’’ti vacanato sace saṅghikaṃ lābhaṃ attano apāpuṇantaṃ jānitvā vā ajānitvā vā paṭikkhipati, na pavāreti paṭikkhipitabbasseva paṭikkhittattā. Alajjisantakaṃ paṭikkhipantopi na pavāreti. Avatthutāyāti anatirittāpattisādhikāya pavāraṇāya avatthubhāvato. Etena paṭikkhipitabbasseva paṭikkhittabhāvaṃ dīpeti . Yañhi paṭikkhipitabbaṃ hoti, tassa paṭikkhepo āpattiaṅgaṃ na hotīti taṃ ‘‘pavāraṇāya avatthū’’ti vuccati.

    อุปนาเมตีติ อิมินา กายาภิหารํ ทเสฺสติฯ หตฺถปาสโต พหิ ฐิตสฺส สติปิ ทาตุกามาภิหาเร ปฎิกฺขิปนฺตสฺส ทูรภาเวเนว ปวารณาย อภาวโต เถรสฺสปิ ทูรภาวมตฺตํ คเหตฺวา ปวารณาย อภาวํ ทเสฺสโนฺต ‘‘เถรสฺส ทูรภาวโต’’ติ อาห, น ปน เถรสฺส อภิหารสพฺภาวโตฯ สเจปิ คเหตฺวา คโต หตฺถปาเส ฐิโต โหติ, กิญฺจิ ปน อวตฺวา อาธารกฎฺฐาเน ฐิตตฺตา อภิหาโร นาม น โหตีติ ‘‘ทูตสฺส จ อนภิหรณโต’’ติ วุตฺตํฯ ‘‘คเหตฺวา คเตน ‘ภตฺตํ คณฺหถา’ติ วุเตฺต อภิหาโร นาม โหตีติ ‘สเจ ปน คเหตฺวา อาคโต ภิกฺขุ…เป.… ปวารณา โหตี’ติ วุตฺต’’นฺติ ตีสุปิ คณฺฐิปเทสุ วุตฺตํฯ เกจิ ปน ‘‘ปตฺตํ กิญฺจิ อุปนาเมตฺวา ‘อิมํ ภตฺตํ คณฺหถา’ติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ, ตํ ยุตฺตํ วิย ทิสฺสติ วาจาภิหารสฺส อิธ อนธิเปฺปตตฺตาฯ

    Upanāmetīti iminā kāyābhihāraṃ dasseti. Hatthapāsato bahi ṭhitassa satipi dātukāmābhihāre paṭikkhipantassa dūrabhāveneva pavāraṇāya abhāvato therassapi dūrabhāvamattaṃ gahetvā pavāraṇāya abhāvaṃ dassento ‘‘therassa dūrabhāvato’’ti āha, na pana therassa abhihārasabbhāvato. Sacepi gahetvā gato hatthapāse ṭhito hoti, kiñci pana avatvā ādhārakaṭṭhāne ṭhitattā abhihāro nāma na hotīti ‘‘dūtassa ca anabhiharaṇato’’ti vuttaṃ. ‘‘Gahetvā gatena ‘bhattaṃ gaṇhathā’ti vutte abhihāro nāma hotīti ‘sace pana gahetvā āgato bhikkhu…pe… pavāraṇā hotī’ti vutta’’nti tīsupi gaṇṭhipadesu vuttaṃ. Keci pana ‘‘pattaṃ kiñci upanāmetvā ‘imaṃ bhattaṃ gaṇhathā’ti vuttanti gahetabba’’nti vadanti, taṃ yuttaṃ viya dissati vācābhihārassa idha anadhippetattā.

    ปริเวสนายาติ ภตฺตเคฺคฯ อภิหฎาว โหตีติ ปริเวสเกเนว อภิหฎา โหติฯ ตโต ทาตุกามตาย คณฺหนฺตํ ปฎิกฺขิปนฺตสฺส ปวารณา โหตีติ เอตฺถ อคณฺหนฺตมฺปิ ปฎิกฺขิปโต ปวารณา โหติเยวฯ กสฺมา? ทาตุกามตาย อภิหฎตฺตาฯ ‘‘ตสฺมา สา อภิหฎาว โหตี’’ติ หิ วุตฺตํฯ เตเนว ตีสุปิ คณฺฐิปเทสุ ‘‘ทาตุกามาภิหาเร สติ เกวลํ ‘ทสฺสามี’ติ คหณเมว อภิหาโร นาม น โหติ, ‘ทสฺสามี’ติ คณฺหเนฺตปิ อคณฺหเนฺตปิ ทาตุกามาภิหาโรว อภิหาโร นาม โหติ, ตสฺมา คหณสมเย วา อคฺคหณสมเย วา ตํ ปฎิกฺขิปโต ปวารณา โหตี’’ติ วุตฺตํฯ อิทานิ อสติ ตสฺส ทาตุกามาภิหาเร คหณสมเยปิ ปฎิกฺขิปโต ปวารณา น โหตีติ ทเสฺสตุํ ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ

    Parivesanāyāti bhattagge. Abhihaṭāva hotīti parivesakeneva abhihaṭā hoti. Tato dātukāmatāya gaṇhantaṃ paṭikkhipantassa pavāraṇā hotīti ettha agaṇhantampi paṭikkhipato pavāraṇā hotiyeva. Kasmā? Dātukāmatāya abhihaṭattā. ‘‘Tasmā sā abhihaṭāva hotī’’ti hi vuttaṃ. Teneva tīsupi gaṇṭhipadesu ‘‘dātukāmābhihāre sati kevalaṃ ‘dassāmī’ti gahaṇameva abhihāro nāma na hoti, ‘dassāmī’ti gaṇhantepi agaṇhantepi dātukāmābhihārova abhihāro nāma hoti, tasmā gahaṇasamaye vā aggahaṇasamaye vā taṃ paṭikkhipato pavāraṇā hotī’’ti vuttaṃ. Idāni asati tassa dātukāmābhihāre gahaṇasamayepi paṭikkhipato pavāraṇā na hotīti dassetuṃ ‘‘sace panā’’tiādi vuttaṃ.

    ‘‘รสํ คณฺหถา’’ติ อปวารณชนกสฺส นามํ คเหตฺวา วุตฺตตฺตา ‘‘ตํ สุตฺวา ปฎิกฺขิปโต ปวารณา นตฺถี’’ติ วุตฺตํฯ มจฺฉรสํ มํสรสนฺติ เอตฺถ ปน น เกวลํ มจฺฉสฺส รสํ มจฺฉรสมิเจฺจว วิญฺญายติ, อถ โข มโจฺฉ จ มจฺฉรสญฺจ มจฺฉรสนฺติ เอวํ ปวารณชนกสาธารณนามวเสนปิ วิญฺญายมานตฺตา ตํ ปฎิกฺขิปโต ปวารณาว โหติฯ ปรโต มจฺฉสูปนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ ‘‘อิทํ คณฺหถา’’ติ วุเตฺตปีติ เอตฺถ เอวํ อวตฺวาปิ ปวารณปโหนกํ ยํกิญฺจิ อภิหฎํ ปฎิกฺขิปโต ปวารณา โหติเยวาติ ทฎฺฐพฺพํฯ กรมฺพโกติ มิสฺสกาธิวจนเมตํฯ ยญฺหิ อเญฺญนเญฺญน มิเสฺสตฺวา กโรนฺติ, โส ‘‘กรมฺพโก’’ติ วุจฺจติฯ โส สเจปิ มํเสน มิเสฺสตฺวา กโตว โหติ, ‘‘กรมฺพกํ คณฺหถา’’ติ อปวารณารหสฺส นาเมน วุตฺตตฺตา ปฎิกฺขิปโต ปวารณา น โหติฯ ‘‘มํสกรมฺพกํ คณฺหถา’’ติ วุเตฺต ปน มํสมิสฺสกํ คณฺหถาติ วุตฺตํ โหติ, ตสฺมา ปวารณาว โหติฯ

    ‘‘Rasaṃ gaṇhathā’’ti apavāraṇajanakassa nāmaṃ gahetvā vuttattā ‘‘taṃ sutvā paṭikkhipato pavāraṇā natthī’’ti vuttaṃ. Maccharasaṃ maṃsarasanti ettha pana na kevalaṃ macchassa rasaṃ maccharasamicceva viññāyati, atha kho maccho ca maccharasañca maccharasanti evaṃ pavāraṇajanakasādhāraṇanāmavasenapi viññāyamānattā taṃ paṭikkhipato pavāraṇāva hoti. Parato macchasūpanti etthāpi eseva nayo. ‘‘Idaṃ gaṇhathā’’ti vuttepīti ettha evaṃ avatvāpi pavāraṇapahonakaṃ yaṃkiñci abhihaṭaṃ paṭikkhipato pavāraṇā hotiyevāti daṭṭhabbaṃ. Karambakoti missakādhivacanametaṃ. Yañhi aññenaññena missetvā karonti, so ‘‘karambako’’ti vuccati. So sacepi maṃsena missetvā katova hoti, ‘‘karambakaṃ gaṇhathā’’ti apavāraṇārahassa nāmena vuttattā paṭikkhipato pavāraṇā na hoti. ‘‘Maṃsakarambakaṃ gaṇhathā’’ti vutte pana maṃsamissakaṃ gaṇhathāti vuttaṃ hoti, tasmā pavāraṇāva hoti.

    ‘‘อุทฺทิสฺสกต’’นฺติ มญฺญมาโนติ เอตฺถ ‘‘วตฺถุโน กปฺปิยตฺตา อกปฺปิยสญฺญาย ปฎิกฺขิปโตปิ อจิตฺตกตฺตา อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส ปวารณา โหตี’’ติ วทนฺติฯ ‘‘เหฎฺฐา อยาคุเก นิมนฺตเน อุทกกญฺชิกขีราทีหิ สทฺธิํ มทฺทิตํ ภตฺตเมว สนฺธาย ‘ยาคุํ คณฺหถา’ติ วุตฺตตฺตา ปวารณา โหติ, ‘ภตฺตมิสฺสกํ ยาคุํ อาหริตฺวา’ติ เอตฺถ ปน วิสุํ ยาคุยา วิชฺชมานตฺตา ปวารณา น โหตี’’ติ วทนฺติฯ อยเมตฺถ อธิปฺปาโยติ ‘‘เยนาปุจฺฉิโต’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ สนฺธาย วทติฯ การณํ ปเนตฺถ ทุทฺทสนฺติ เอตฺถ เอเก ตาว วทนฺติ ‘‘ยสฺมา ยาคุมิสฺสกํ นาม ภตฺตเมว น โหติ, ขีราทิกมฺปิ โหติเยว, ตสฺมา กรมฺพเก วิย ปวารณาย น ภวิตพฺพํฯ เอวญฺจ สติ ยาคุ พหุตรา วา โหติ สมสมา วา, น ปวาเรติฯ ‘ยาคุ มนฺทา, ภตฺตํ พหุตรํ, ปวาเรตี’ติ เอตฺถ การณํ ทุทฺทส’’นฺติฯ เกจิ ปน วทนฺติ ‘‘ยาคุมิสฺสกํ นาม ภตฺตํ, ตสฺมา ตํ ปฎิกฺขิปโต ปวารณาย เอว ภวิตพฺพํฯ เอวญฺจ สติ ‘อิธ ปวารณา โหติ น โหตี’ติ เอตฺถ การณํ ทุทฺทส’’นฺติฯ

    ‘‘Uddissakata’’nti maññamānoti ettha ‘‘vatthuno kappiyattā akappiyasaññāya paṭikkhipatopi acittakattā imassa sikkhāpadassa pavāraṇā hotī’’ti vadanti. ‘‘Heṭṭhā ayāguke nimantane udakakañjikakhīrādīhi saddhiṃ madditaṃ bhattameva sandhāya ‘yāguṃ gaṇhathā’ti vuttattā pavāraṇā hoti, ‘bhattamissakaṃ yāguṃ āharitvā’ti ettha pana visuṃ yāguyā vijjamānattā pavāraṇā na hotī’’ti vadanti. Ayamettha adhippāyoti ‘‘yenāpucchito’’tiādinā vuttamevatthaṃ sandhāya vadati. Kāraṇaṃ panettha duddasanti ettha eke tāva vadanti ‘‘yasmā yāgumissakaṃ nāma bhattameva na hoti, khīrādikampi hotiyeva, tasmā karambake viya pavāraṇāya na bhavitabbaṃ. Evañca sati yāgu bahutarā vā hoti samasamā vā, na pavāreti. ‘Yāgu mandā, bhattaṃ bahutaraṃ, pavāretī’ti ettha kāraṇaṃ duddasa’’nti. Keci pana vadanti ‘‘yāgumissakaṃ nāma bhattaṃ, tasmā taṃ paṭikkhipato pavāraṇāya eva bhavitabbaṃ. Evañca sati ‘idha pavāraṇā hoti na hotī’ti ettha kāraṇaṃ duddasa’’nti.

    ยถา เจตฺถ การณํ ทุทฺทสํ, เอวํ ปรโต ‘‘มิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ เอตฺถาปิ การณํ ทุทฺทสเมวาติ เวทิตพฺพํฯ น หิ ปวารณปฺปโหนกสฺส อปฺปพหุภาโว ปวารณาย ภาวาภาวนิมิตฺตํ, กิญฺจรหิ ปวารณชนกสฺส นามคฺคหณเมเวตฺถ ปมาณํ, ตสฺมา ‘‘อิทญฺจ กรมฺพเกน น สมาเนตพฺพ’’นฺติอาทินา ยมฺปิ การณํ วุตฺตํ, ตมฺปิ ปุเพฺพ วุเตฺตน สํสนฺทิยมานํ น สเมติฯ ยทิ หิ ‘‘มิสฺสก’’นฺติ ภตฺตมิสฺสเกเยว รุฬฺหํ สิยา, เอวํ สติ ยถา ‘‘ภตฺตมิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ วุเตฺต ภตฺตํ พหุตรํ วา สมํ วา อปฺปตรํ วา โหติ, ปวาเรติเยว, เอวํ ‘‘มิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ วุเตฺตปิ อปฺปตเรปิ ภเตฺต ปวารณาย ภวิตพฺพํ มิสฺสกนฺติ ภตฺตมิสฺสเกเยว รุฬฺหตฺตาฯ ตถา หิ ‘‘มิสฺสกนฺติ ภตฺตมิสฺสเกเยว รุฬฺหโวหารตฺตา อิทํ ปน ‘ภตฺตมิสฺสกเมวา’ติ วุตฺต’’นฺติ ตีสุปิ คณฺฐิปเทสุ วุตฺตํฯ อถ ‘‘มิสฺสก’’นฺติ ภตฺตมิสฺสเก รุฬฺหํ น โหติ, มิสฺสกภตฺตํ ปน สนฺธาย ‘‘มิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ วุตฺตนฺติฯ เอวมฺปิ ยถา อยาคุเก นิมนฺตเน ขีราทีหิ สทฺธิํ มทฺทิตํ ภตฺตเมว สนฺธาย ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ วุเตฺต ปวารณา โหติ, เอวมิธาปิ มิสฺสกภตฺตเมว สนฺธาย ‘‘มิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ วุเตฺต ภตฺตํ อปฺปํ วา โหตุ พหุ วา, ปวารณา เอว สิยาฯ ตสฺมา ‘‘มิสฺสก’’นฺติ ภตฺตมิสฺสเก รุฬฺหํ วา โหตุ สนฺธายภาสิตํ วา, อุภยตฺถาปิ ปุเพฺพนาปรํ น สเมตีติ กิเมตฺถ การณจินฺตาย, อีทิเสสุ ปน ฐาเนสุ อฎฺฐกถาปมาเณเนว คนฺตพฺพนฺติ อยํ อมฺหากํ ขนฺติฯ

    Yathā cettha kāraṇaṃ duddasaṃ, evaṃ parato ‘‘missakaṃ gaṇhathā’’ti etthāpi kāraṇaṃ duddasamevāti veditabbaṃ. Na hi pavāraṇappahonakassa appabahubhāvo pavāraṇāya bhāvābhāvanimittaṃ, kiñcarahi pavāraṇajanakassa nāmaggahaṇamevettha pamāṇaṃ, tasmā ‘‘idañca karambakena na samānetabba’’ntiādinā yampi kāraṇaṃ vuttaṃ, tampi pubbe vuttena saṃsandiyamānaṃ na sameti. Yadi hi ‘‘missaka’’nti bhattamissakeyeva ruḷhaṃ siyā, evaṃ sati yathā ‘‘bhattamissakaṃ gaṇhathā’’ti vutte bhattaṃ bahutaraṃ vā samaṃ vā appataraṃ vā hoti, pavāretiyeva, evaṃ ‘‘missakaṃ gaṇhathā’’ti vuttepi appatarepi bhatte pavāraṇāya bhavitabbaṃ missakanti bhattamissakeyeva ruḷhattā. Tathā hi ‘‘missakanti bhattamissakeyeva ruḷhavohārattā idaṃ pana ‘bhattamissakamevā’ti vutta’’nti tīsupi gaṇṭhipadesu vuttaṃ. Atha ‘‘missaka’’nti bhattamissake ruḷhaṃ na hoti, missakabhattaṃ pana sandhāya ‘‘missakaṃ gaṇhathā’’ti vuttanti. Evampi yathā ayāguke nimantane khīrādīhi saddhiṃ madditaṃ bhattameva sandhāya ‘‘yāguṃ gaṇhathā’’ti vutte pavāraṇā hoti, evamidhāpi missakabhattameva sandhāya ‘‘missakaṃ gaṇhathā’’ti vutte bhattaṃ appaṃ vā hotu bahu vā, pavāraṇā eva siyā. Tasmā ‘‘missaka’’nti bhattamissake ruḷhaṃ vā hotu sandhāyabhāsitaṃ vā, ubhayatthāpi pubbenāparaṃ na sametīti kimettha kāraṇacintāya, īdisesu pana ṭhānesu aṭṭhakathāpamāṇeneva gantabbanti ayaṃ amhākaṃ khanti.

    ‘‘วิสุํ กตฺวา เทตีติ ภตฺตสฺส อุปริ ฐิตํ รสาทิํ วิสุํ คเหตฺวา เทตี’’ติ ตีสุปิ คณฺฐิปเทสุ วุตฺตํฯ เกนจิ ปน ‘‘ยถา ภตฺตสิตฺถํ น ปตติ, ตถา คาฬฺหํ หเตฺถน ปีเฬตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา เทตี’’ติ วุตฺตํฯ ตถาปิ การณํ น ทิสฺสติฯ ยถา หิ ภตฺตมิสฺสกํ ยาคุํ อาหริตฺวา ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา ยาคุมิสฺสกํ ภตฺตมฺปิ เทนฺตํ ปฎิกฺขิปโต ปวารณา น โหติ, เอวมิธาปิ พหุขีรรสาทีสุ ภเตฺตสุ ‘‘ขีรํ คณฺหถา’’ติอาทีนิ วตฺวา ขีราทีนิ วา เทตุ ขีราทิมิสฺสกภตฺตํ วา, อุภยถาปิ ปวารณาย น ภวิตพฺพํ, ตสฺมา ‘‘วิสุํ กตฺวา เทตี’’ติ เตนากาเรน เทนฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ปน ภตฺตมิสฺสกํ กตฺวา ทิยฺยมานํ ปฎิกฺขิปโต ปวารณา โหตีติ ทสฺสนตฺถนฺติ คเหตพฺพํฯ ยทิ ปน ภตฺตมิสฺสกํ กตฺวา ทิยฺยมาเน ปวารณา โหตีติ อธิปฺปาเยน อฎฺฐกถายํ ‘‘วิสุํ กตฺวา เทตี’’ติ วุตฺตํ, เอวํ สติ อฎฺฐกถาเยเวตฺถ ปมาณนฺติ คเหตพฺพํ, น ปน การณนฺตรํ คเวสิตพฺพํฯ

    ‘‘Visuṃkatvā detīti bhattassa upari ṭhitaṃ rasādiṃ visuṃ gahetvā detī’’ti tīsupi gaṇṭhipadesu vuttaṃ. Kenaci pana ‘‘yathā bhattasitthaṃ na patati, tathā gāḷhaṃ hatthena pīḷetvā parissāvetvā detī’’ti vuttaṃ. Tathāpi kāraṇaṃ na dissati. Yathā hi bhattamissakaṃ yāguṃ āharitvā ‘‘yāguṃ gaṇhathā’’ti vatvā yāgumissakaṃ bhattampi dentaṃ paṭikkhipato pavāraṇā na hoti, evamidhāpi bahukhīrarasādīsu bhattesu ‘‘khīraṃ gaṇhathā’’tiādīni vatvā khīrādīni vā detu khīrādimissakabhattaṃ vā, ubhayathāpi pavāraṇāya na bhavitabbaṃ, tasmā ‘‘visuṃ katvā detī’’ti tenākārena dentaṃ sandhāya vuttaṃ, na pana bhattamissakaṃ katvā diyyamānaṃ paṭikkhipato pavāraṇā hotīti dassanatthanti gahetabbaṃ. Yadi pana bhattamissakaṃ katvā diyyamāne pavāraṇā hotīti adhippāyena aṭṭhakathāyaṃ ‘‘visuṃ katvā detī’’ti vuttaṃ, evaṃ sati aṭṭhakathāyevettha pamāṇanti gahetabbaṃ, na pana kāraṇantaraṃ gavesitabbaṃ.

    สเจ อุกฺกุฎิกํ นิสิโนฺน ปาเท อมุญฺจิตฺวาปิ ภูมิยํ นิสีทติ, อิริยาปถํ วิโกเปโนฺต นาม โหตีติ อุกฺกุฎิกาสนํ อวิโกเปตฺวาว สุเขน นิสีทิตุํ ‘‘ตสฺส ปน เหฎฺฐา…เป.… นิสีทนกํ ทาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํฯ ‘‘อาสนํ อจาเลตฺวาติ ปีเฐ ผุโฎฺฐกาสโต อานิสทมํสํ อโมเจตฺวา, อนุฎฺฐหิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ, อทินฺนาทาเน วิย ฐานาจาวนํ น คเหตพฺพ’’นฺติ ตีสุปิ คณฺฐิปเทสุ วุตฺตํฯ

    Sace ukkuṭikaṃ nisinno pāde amuñcitvāpi bhūmiyaṃ nisīdati, iriyāpathaṃ vikopento nāma hotīti ukkuṭikāsanaṃ avikopetvāva sukhena nisīdituṃ ‘‘tassa pana heṭṭhā…pe… nisīdanakaṃ dātabba’’nti vuttaṃ. ‘‘Āsanaṃ acāletvāti pīṭhe phuṭṭhokāsato ānisadamaṃsaṃ amocetvā, anuṭṭhahitvāti vuttaṃ hoti, adinnādāne viya ṭhānācāvanaṃ na gahetabba’’nti tīsupi gaṇṭhipadesu vuttaṃ.

    อกปฺปิยกตนฺติ เอตฺถ อกปฺปิยกตเสฺสว อนติริตฺตภาวโต กปฺปิยํ อการาเปตฺวา ตสฺมิํ ปเตฺต ปกฺขิตฺตมูลผลาทิเยว อติริตฺตํ น โหติ, เสสํ ปน ปตฺตปริยาปนฺนํ อติริตฺตเมว โหติ, ปริภุญฺชิตุํ วฎฺฎติฯ ตํ ปน มูลผลาทิํ ปริภุญฺชิตุกาเมน ตโต นีหริตฺวา กปฺปิยํ การาเปตฺวา อญฺญสฺมิํ ภาชเน ฐเปตฺวา อติริตฺตํ การาเปตฺวา ภุญฺชิตพฺพํฯ

    Akappiyakatanti ettha akappiyakatasseva anatirittabhāvato kappiyaṃ akārāpetvā tasmiṃ patte pakkhittamūlaphalādiyeva atirittaṃ na hoti, sesaṃ pana pattapariyāpannaṃ atirittameva hoti, paribhuñjituṃ vaṭṭati. Taṃ pana mūlaphalādiṃ paribhuñjitukāmena tato nīharitvā kappiyaṃ kārāpetvā aññasmiṃ bhājane ṭhapetvā atirittaṃ kārāpetvā bhuñjitabbaṃ.

    โส ปุน กาตุํ น ลภตีติ ตสฺมิํเยว ภาชเน กริยมานํ ปฐมํ กเตน สทฺธิํ กตํ โหตีติ ปุน โสเยว กาตุํ น ลภติ, อโญฺญ ลภติฯ อญฺญสฺมิํ ปน ภาชเน เตน วา อเญฺญน วา กาตุํ วฎฺฎติฯ เตนาห ‘‘เยน อกตํ, เตน กาตพฺพํฯ ยญฺจ อกตํ, ตํ กาตพฺพ’’นฺติฯ เตนปีติ เอตฺถ ปิ-สโทฺท น เกวลํ อเญฺญน วาติ อิมมตฺถํ ทีเปติฯ เอวํ กตนฺติ อญฺญสฺมิํ ภาชเน กตํฯ เปเสตฺวาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส หเตฺถ เปเสตฺวาฯ อิมสฺส วินยกมฺมภาวโต ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส หเตฺถ ฐิตํ น กาเรตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํฯ

    So puna kātuṃ na labhatīti tasmiṃyeva bhājane kariyamānaṃ paṭhamaṃ katena saddhiṃ kataṃ hotīti puna soyeva kātuṃ na labhati, añño labhati. Aññasmiṃ pana bhājane tena vā aññena vā kātuṃ vaṭṭati. Tenāha ‘‘yena akataṃ, tena kātabbaṃ. Yañca akataṃ, taṃ kātabba’’nti. Tenapīti ettha pi-saddo na kevalaṃ aññena vāti imamatthaṃ dīpeti. Evaṃ katanti aññasmiṃ bhājane kataṃ. Pesetvāti anupasampannassa hatthe pesetvā. Imassa vinayakammabhāvato ‘‘anupasampannassa hatthe ṭhitaṃ na kāretabba’’nti vuttaṃ.

    สเจ ปน อามิสสํสฎฺฐานีติ เอตฺถ สเจ มุขคเตนปิ อนติริเตฺตน อามิเสน สํสฎฺฐานิ โหนฺติ , ปาจิตฺติยเมวาติ เวทิตพฺพํฯ ตสฺมา ปวาริเตน โภชนํ อติริตฺตํ การาเปตฺวา ภุญฺชเนฺตนปิ ยถา อกเตน มิสฺสํ น โหติ, เอวํ มุขญฺจ หตฺถญฺจ สุทฺธํ กตฺวา ภุญฺชิตพฺพํฯ กิญฺจาปิ อปฺปวาริตสฺส ปุเรภตฺตํ ยามกาลิกาทีนิ อาหารตฺถาย ปริภุญฺชโตปิ อนาปตฺติ, ปวาริตสฺส ปน ปวารณมูลกํ ทุกฺกฎํ โหติเยวาติ ‘‘ยามกาลิกํ…เป.… อโชฺฌหาเร อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติ ปาฬิยํ วุตฺตํฯ

    Sace pana āmisasaṃsaṭṭhānīti ettha sace mukhagatenapi anatirittena āmisena saṃsaṭṭhāni honti , pācittiyamevāti veditabbaṃ. Tasmā pavāritena bhojanaṃ atirittaṃ kārāpetvā bhuñjantenapi yathā akatena missaṃ na hoti, evaṃ mukhañca hatthañca suddhaṃ katvā bhuñjitabbaṃ. Kiñcāpi appavāritassa purebhattaṃ yāmakālikādīni āhāratthāya paribhuñjatopi anāpatti, pavāritassa pana pavāraṇamūlakaṃ dukkaṭaṃ hotiyevāti ‘‘yāmakālikaṃ…pe… ajjhohāre āpatti dukkaṭassā’’ti pāḷiyaṃ vuttaṃ.

    ๒๔๑. กาเยน ภุญฺชนโต วาจาย อาณาเปตฺวา อติริตฺตํ อการาปนโต จ อาปชฺชตีติ ‘‘กายวาจโต’’ติ วุตฺตํฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวฯ ปวาริตภาโว, อามิสสฺส อนติริตฺตตา, กาเล อโชฺฌหรณนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิฯ

    241. Kāyena bhuñjanato vācāya āṇāpetvā atirittaṃ akārāpanato ca āpajjatīti ‘‘kāyavācato’’ti vuttaṃ. Sesamettha uttānameva. Pavāritabhāvo, āmisassa anatirittatā, kāle ajjhoharaṇanti imāni panettha tīṇi aṅgāni.

    ปฐมปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Paṭhamapavāraṇāsikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๔. โภชนวโคฺค • 4. Bhojanavaggo

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๕. ปฐมปวารณสิกฺขาปทวณฺณนา • 5. Paṭhamapavāraṇasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๕. ปฐมปวารณสิกฺขาปทวณฺณนา • 5. Paṭhamapavāraṇasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๕. ปฐมปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา • 5. Paṭhamapavāraṇāsikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๕. ปฐมปวารณสิกฺขาปทํ • 5. Paṭhamapavāraṇasikkhāpadaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact