Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กงฺขาวิตรณี-อภินว-ฎีกา • Kaṅkhāvitaraṇī-abhinava-ṭīkā |
๕. ปฐมสหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา
5. Paṭhamasahaseyyasikkhāpadavaṇṇanā
อิธ ‘‘ภิกฺขุํ ฐเปตฺวา อวเสโส อนุปสมฺปโนฺน นามา’’ติ (ปาจิ. ๕๒) วจนโต ติรจฺฉานคโตปิ อนุปสมฺปโนฺนเยว, โส จ โข น สโพฺพ, เมถุนธมฺมาปตฺติยา วตฺถุภูโตวาติ อาห ‘‘อนฺตมโส’’ติอาทิฯ ตสฺส จ ปริเจฺฉโท เมถุนธมฺมาปตฺติยา วุตฺตนเยเนว เวทิตโพฺพฯ ทิรตฺตติรตฺตนฺติ เอตฺถ ทิรตฺตวจเนน น โกจิ วิเสสโตฺถ ลพฺภติ, เกวลํ โลกโวหารวเสน พฺยญฺชนสิลิฎฺฐตาย, มุขารุฬฺหตาย เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ ทฺวินฺนํ วา ติณฺณํ วา รตฺตีนนฺติ ปน วจนตฺถมตฺตทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, นิรนฺตรติรตฺตทสฺสนตฺถํ วา ทิรตฺตคฺคหณํ กตนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ สหเสยฺยนฺติ เอกโต เสยฺยํฯ เสยฺยาติ จ กายปฺปสารณสงฺขาตํ สยนมฺปิ วุจฺจติ ‘‘สยนํ เสยฺยา’’ติ กตฺวา, ยสฺมิํ เสนาสเน สยนฺติ, ตมฺปิ ‘‘สยนฺติ เอตฺถาติ เสยฺยา’’ติ กตฺวาฯ ตทุภยมฺปิ อิธ สามเญฺญน, เอกเสสนเยน วา คหิตนฺติ อาห ‘‘สพฺพจฺฉนฺนปริจฺฉเนฺน’’ติอาทิฯ
Idha ‘‘bhikkhuṃ ṭhapetvā avaseso anupasampanno nāmā’’ti (pāci. 52) vacanato tiracchānagatopi anupasampannoyeva, so ca kho na sabbo, methunadhammāpattiyā vatthubhūtovāti āha ‘‘antamaso’’tiādi. Tassa ca paricchedo methunadhammāpattiyā vuttanayeneva veditabbo. Dirattatirattanti ettha dirattavacanena na koci visesattho labbhati, kevalaṃ lokavohāravasena byañjanasiliṭṭhatāya, mukhāruḷhatāya evaṃ vuttanti veditabbaṃ. Dvinnaṃ vā tiṇṇaṃ vā rattīnanti pana vacanatthamattadassanatthaṃ vuttaṃ, nirantaratirattadassanatthaṃ vā dirattaggahaṇaṃ katanti daṭṭhabbaṃ. Sahaseyyanti ekato seyyaṃ. Seyyāti ca kāyappasāraṇasaṅkhātaṃ sayanampi vuccati ‘‘sayanaṃ seyyā’’ti katvā, yasmiṃ senāsane sayanti, tampi ‘‘sayanti etthāti seyyā’’ti katvā. Tadubhayampi idha sāmaññena, ekasesanayena vā gahitanti āha ‘‘sabbacchannaparicchanne’’tiādi.
ตตฺถ ยํ เสนาสนํ อุปริ ปญฺจหิ ฉทเนหิ (ปาจิ. อฎฺฐ. ๕๑), อเญฺญน วา เกนจิ อนฺตมโส วเตฺถนาปิ สพฺพเมว ปริจฺฉนฺนํ, ภูมิโต ปฎฺฐาย ยาว ฉทนํ อาหจฺจ, อนาหจฺจาปิ วา สพฺพนฺติเมน ปริยาเยน ทิยฑฺฒหตฺถุเพฺพเธน ปากาเรน วา อเญฺญน วา เกนจิ อนฺตมโส วเตฺถนาปิ ปริกฺขิตฺตํ, อิทํ สพฺพจฺฉนฺนสพฺพปริจฺฉนฺนํ นามฯ ยสฺส ปน อุปริ พหุตรํ ฐานํ ฉนฺนํ, อปฺปํ อจฺฉนฺนํ, สมนฺตโต จ พหุตรํ ปริกฺขิตฺตํ, อปฺปํ อปริกฺขิตฺตํ, อิทํ เยภุเยฺยน ฉนฺนํ เยภุเยฺยน ปริจฺฉนฺนํ นามฯ ตสฺมิํ สพฺพจฺฉนฺนปริจฺฉเนฺน, เยภุเยฺยน ฉนฺนปริจฺฉเนฺน วาฯ
Tattha yaṃ senāsanaṃ upari pañcahi chadanehi (pāci. aṭṭha. 51), aññena vā kenaci antamaso vatthenāpi sabbameva paricchannaṃ, bhūmito paṭṭhāya yāva chadanaṃ āhacca, anāhaccāpi vā sabbantimena pariyāyena diyaḍḍhahatthubbedhena pākārena vā aññena vā kenaci antamaso vatthenāpi parikkhittaṃ, idaṃ sabbacchannasabbaparicchannaṃ nāma. Yassa pana upari bahutaraṃ ṭhānaṃ channaṃ, appaṃ acchannaṃ, samantato ca bahutaraṃ parikkhittaṃ, appaṃ aparikkhittaṃ, idaṃ yebhuyyena channaṃ yebhuyyena paricchannaṃ nāma. Tasmiṃ sabbacchannaparicchanne, yebhuyyena channaparicchanne vā.
วิทเหยฺยาติ กเรยฺย, ตญฺจ โข อตฺถโต สมฺปาทนนฺติ อาห ‘‘สมฺปาเทยฺยา’’ติฯ อยเญฺหตฺถ สเงฺขปโตฺถ ‘‘เสนาสนสงฺขาตํ เสยฺยํ ปวิสิตฺวา กายปฺปสารณสงฺขาตํ เสยฺยํ กเปฺปยฺย วิทเหยฺย สมฺปาเทยฺยา’’ติฯ ทิยฑฺฒหตฺถุเพฺพโธ วฑฺฒกิหเตฺถน คเหตโพฺพฯ เอกูปจาโรติ วลญฺชนทฺวารสฺส เอกตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํฯ สตคพฺภํ วา จตุสาลํ เอกูปจารํ โหตีติ สมฺพโนฺธฯ ตตฺถ วาติ ปุริมปุริมทิวเส ยตฺถ วุฎฺฐํ, ตสฺมิํเยว เสนาสเน วาฯ อญฺญตฺถ วา ตาทิเสติ ยถาวุตฺตลกฺขเณน สมนฺนาคเต อญฺญสฺมิํ ปุเพฺพ อวุฎฺฐเสนาสเน วาฯ เตน วาติ เยน สห ปุริมปุริมทิวเส วุฎฺฐํ, เตน วาฯ อเญฺญน วาติ เยน สห ปุริมปุริมสฺมิํ ทิวเส วุฎฺฐํ, ตโต อเญฺญน วาฯ สเงฺขโปติ สเงฺขปวณฺณนาฯ ยทิ เอวํ วิตฺถาโร กถํ เวทิตโพฺพติ อาห ‘‘วิตฺถาโร ปนา’’ติอาทิฯ
Vidaheyyāti kareyya, tañca kho atthato sampādananti āha ‘‘sampādeyyā’’ti. Ayañhettha saṅkhepattho ‘‘senāsanasaṅkhātaṃ seyyaṃ pavisitvā kāyappasāraṇasaṅkhātaṃ seyyaṃ kappeyya vidaheyya sampādeyyā’’ti. Diyaḍḍhahatthubbedho vaḍḍhakihatthena gahetabbo. Ekūpacāroti valañjanadvārassa ekattaṃ sandhāya vuttaṃ. Satagabbhaṃ vā catusālaṃ ekūpacāraṃ hotīti sambandho. Tattha vāti purimapurimadivase yattha vuṭṭhaṃ, tasmiṃyeva senāsane vā. Aññattha vā tādiseti yathāvuttalakkhaṇena samannāgate aññasmiṃ pubbe avuṭṭhasenāsane vā. Tena vāti yena saha purimapurimadivase vuṭṭhaṃ, tena vā. Aññena vāti yena saha purimapurimasmiṃ divase vuṭṭhaṃ, tato aññena vā. Saṅkhepoti saṅkhepavaṇṇanā. Yadi evaṃ vitthāro kathaṃ veditabboti āha ‘‘vitthāro panā’’tiādi.
อุปฑฺฒจฺฉนฺนปริจฺฉนฺนาทีสูติ อาทิสเทฺทน ‘‘สพฺพจฺฉเนฺน จูฬกปริจฺฉเนฺน ทุกฺกฎํ, เยภุเยฺยน ฉเนฺน จูฬกปริจฺฉเนฺน ทุกฺกฎํ, สพฺพปริจฺฉเนฺน จูฬกจฺฉเนฺน ทุกฺกฎํ, เยภุเยฺยน ปริจฺฉเนฺน จูฬกจฺฉเนฺน ทุกฺกฎ’’นฺติ (ปาจิ. อฎฺฐ. ๕๓) อฎฺฐกถายํ วุตฺตานํ คหณํฯ ตติยาย รตฺติยา ปุรารุณา นิกฺขมิตฺวา ปุน วสนฺตสฺสาติ ตติยาย รตฺติยา อรุณโต ปุเรตรเมว นิกฺขมิตฺวา อรุณํ พหิ อุฎฺฐาเปตฺวา จตุตฺถทิวเส อตฺถงฺคเต สูริเย ปุน วสนฺตสฺสฯ สพฺพจฺฉนฺนสพฺพาปริจฺฉนฺนาทีสูติ เอตฺถ ปน อาทิสเทฺทน ‘‘สพฺพปริจฺฉเนฺน สพฺพอจฺฉเนฺน, เยภุเยฺยน อจฺฉเนฺน เยภุเยฺยน อปริจฺฉเนฺน’’ติ (ปาจิ. ๕๔) ปาฬิยํ อาคตานํ, ‘‘อุปฑฺฒจฺฉเนฺน จูฬกปริจฺฉเนฺน อนาปตฺติ, อุปฑฺฒปริจฺฉเนฺน จูฬกจฺฉเนฺน อนาปตฺติ, จูฬกจฺฉเนฺน จูฬกปริจฺฉเนฺน อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฎฺฐ. ๕๓) อฎฺฐกถายํ อาคตานญฺจ คหณํฯ
Upaḍḍhacchannaparicchannādīsūti ādisaddena ‘‘sabbacchanne cūḷakaparicchanne dukkaṭaṃ, yebhuyyena channe cūḷakaparicchanne dukkaṭaṃ, sabbaparicchanne cūḷakacchanne dukkaṭaṃ, yebhuyyena paricchanne cūḷakacchanne dukkaṭa’’nti (pāci. aṭṭha. 53) aṭṭhakathāyaṃ vuttānaṃ gahaṇaṃ. Tatiyāya rattiyā purāruṇā nikkhamitvā puna vasantassāti tatiyāya rattiyā aruṇato puretarameva nikkhamitvā aruṇaṃ bahi uṭṭhāpetvā catutthadivase atthaṅgate sūriye puna vasantassa. Sabbacchannasabbāparicchannādīsūti ettha pana ādisaddena ‘‘sabbaparicchanne sabbaacchanne, yebhuyyena acchanne yebhuyyena aparicchanne’’ti (pāci. 54) pāḷiyaṃ āgatānaṃ, ‘‘upaḍḍhacchanne cūḷakaparicchanne anāpatti, upaḍḍhaparicchanne cūḷakacchanne anāpatti, cūḷakacchanne cūḷakaparicchanne anāpattī’’ti (pāci. aṭṭha. 53) aṭṭhakathāyaṃ āgatānañca gahaṇaṃ.
ปฐมสหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Paṭhamasahaseyyasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.