Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๒. ปฐมสํขิตฺตสุตฺตวณฺณนา
2. Paṭhamasaṃkhittasuttavaṇṇanā
๔๘๒. อินฺทฺริยานํ ติกฺขาทิภาโว วิปสฺสนาวเสน วา มคฺควเสน วา ผลวเสน วา คเหตโพฺพติ วุตฺตํ ‘‘ตโตติ…เป.… เวทิตพฺพ’’นฺติฯ นนุ เจตฺถ มุทุภาโว เอว ปาฬิยํ คหิโตติ? สจฺจเมตํ, ตํ ปน ติกฺขภาเว อสติ น โหติ ติกฺขาทิภาโวติ วุตฺตํฯ ยโต หิ อยํ มุทุ, อิโต ตํ ติกฺขนฺติ วตฺตพฺพตํ ลภติ อเปกฺขาสิทฺธตฺตา ติกฺขมุทุภาวานํ ปาราปารํ วิยฯ อิทานิ ‘‘ตโต’’ติอาทินา สเงฺขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทเสฺสตุํ ‘‘สมตฺตานี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ สมตฺตานีติ สมฺปนฺนานิฯ อิตรํ ตเสฺสว เววจนํฯ สมตฺตานีติ วา ปริยตฺตานิ, สมตฺตานีติ อโตฺถฯ ‘‘ตโต มุทุตรานิ ธมฺมานุสารีมคฺคสฺสา’’ติ กสฺมา วุตฺตํ? ตโตติ หิ โสตาปตฺติมคฺควิปสฺสนินฺทฺริยานิ อธิเปฺปตานิเยว, ‘‘ตโต มุทุตรานี’’ติ วุตฺตปฐมมโคฺค ธมฺมานุสารี วา สิยา สทฺธานุสารี วาติ พฺยภิจรติ? นายํ โทโส, โสตาปตฺติมเคฺคกเทสวเสเนว ลทฺธพฺพปฐมมคฺคาเปกฺขาย วิปสฺสนาย วิภาคสฺส อธิเปฺปตตฺตาฯ โย หิ โสตาปโนฺน หุตฺวา อิริยาปถํ อโกเปตฺวา ยถานิสิโนฺนว สกทาคามิมคฺคํ ปาปุณาติ, ตสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ สนฺธาย อวิภาเคน วุตฺตํ – ‘‘ตโต มุทุตรานิ โสตาปตฺติมคฺคสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ นามา’’ติฯ โย ปน โสตาปโนฺน หุตฺวา กาลนฺตเรน สกทาคามี โหติ, ตสฺส โสตาปตฺติมคฺคตฺถาย ปวตฺตานิ วิปสฺสนินฺทฺริยานิ นาม โหนฺติฯ โส เจ ธมฺมานุสารีโคโตฺต, ตสฺส ยถาวุตฺตวิปสฺสนินฺทฺริยโต มุทุตรานีติ ‘‘ตโต มุทุตรานิ ธมฺมานุสารีมคฺคสฺสา’’ติ วุตฺตํฯ วิปสฺสนินฺทฺริยานิ นามาติ อาเนตฺวา สมฺพโนฺธฯ ธมฺมานุสารีวิปสฺสนินฺทฺริยโต สทฺธานุสารีวิปสฺสนินฺทฺริยานํ มุทุภาวสฺส การณํ สยเมว วกฺขติฯ ธเมฺมน ปญฺญาย มคฺคโสตํ อนุสฺสรตีติ ธมฺมานุสารี, ปญฺญุตฺตโร อริโยฯ สทฺธาย มคฺคโสตํ อนุสฺสรตีติ สทฺธานุสารี, สทฺธุตฺตโร อริโยฯ
482. Indriyānaṃ tikkhādibhāvo vipassanāvasena vā maggavasena vā phalavasena vā gahetabboti vuttaṃ ‘‘tatoti…pe… veditabba’’nti. Nanu cettha mudubhāvo eva pāḷiyaṃ gahitoti? Saccametaṃ, taṃ pana tikkhabhāve asati na hoti tikkhādibhāvoti vuttaṃ. Yato hi ayaṃ mudu, ito taṃ tikkhanti vattabbataṃ labhati apekkhāsiddhattā tikkhamudubhāvānaṃ pārāpāraṃ viya. Idāni ‘‘tato’’tiādinā saṅkhepato vuttamatthaṃ vitthārato dassetuṃ ‘‘samattānī’’tiādi vuttaṃ. Tattha samattānīti sampannāni. Itaraṃ tasseva vevacanaṃ. Samattānīti vā pariyattāni, samattānīti attho. ‘‘Tato mudutarāni dhammānusārīmaggassā’’ti kasmā vuttaṃ? Tatoti hi sotāpattimaggavipassanindriyāni adhippetāniyeva, ‘‘tato mudutarānī’’ti vuttapaṭhamamaggo dhammānusārī vā siyā saddhānusārī vāti byabhicarati? Nāyaṃ doso, sotāpattimaggekadesavaseneva laddhabbapaṭhamamaggāpekkhāya vipassanāya vibhāgassa adhippetattā. Yo hi sotāpanno hutvā iriyāpathaṃ akopetvā yathānisinnova sakadāgāmimaggaṃ pāpuṇāti, tassa vipassanindriyāni sandhāya avibhāgena vuttaṃ – ‘‘tato mudutarāni sotāpattimaggassa vipassanindriyāni nāmā’’ti. Yo pana sotāpanno hutvā kālantarena sakadāgāmī hoti, tassa sotāpattimaggatthāya pavattāni vipassanindriyāni nāma honti. So ce dhammānusārīgotto, tassa yathāvuttavipassanindriyato mudutarānīti ‘‘tato mudutarāni dhammānusārīmaggassā’’ti vuttaṃ. Vipassanindriyāni nāmāti ānetvā sambandho. Dhammānusārīvipassanindriyato saddhānusārīvipassanindriyānaṃ mudubhāvassa kāraṇaṃ sayameva vakkhati. Dhammena paññāya maggasotaṃ anussaratīti dhammānusārī, paññuttaro ariyo. Saddhāya maggasotaṃ anussaratīti saddhānusārī, saddhuttaro ariyo.
เอวํ วิปสฺสนาวเสน ทเสฺสตฺวา มคฺควเสน ทเสฺสตุํ ‘‘ตถา’’ติอาทิ อารทฺธํฯ สมฺปโยคโต สภาวโต จ อรหตฺตมคฺคปริยาปนฺนานิ อรหตฺตมคฺคินฺทฺริยานิฯ อรหตฺตผลินฺทฺริยานีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ
Evaṃ vipassanāvasena dassetvā maggavasena dassetuṃ ‘‘tathā’’tiādi āraddhaṃ. Sampayogato sabhāvato ca arahattamaggapariyāpannāni arahattamaggindriyāni. Arahattaphalindriyānīti etthāpi eseva nayo.
อิทานิ ผลวเสน ทเสฺสตุํ ‘‘สมตฺตานิ ปริปุณฺณานี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ โสตาปตฺติมคฺคฎฺฐปุคฺคลวเสน นานตฺตํ ชาตํ, ตสฺมา เต เทฺวปิ อิธ ตติยวาเร น ลพฺภนฺตีติ อธิปฺปาโยฯ ธมฺมานุสารีสทฺธานุสารีนํ นานตฺตํ กถํ ชาตนฺติ อาห ‘‘อาคมเนนปิ มเคฺคนปี’’ติฯ ตทุภยํ ทเสฺสโนฺต ‘‘สทฺธานุสารีปุคฺคโล’’ติอาทิมาหฯ อุทฺทิสาเปโนฺตติ อุเทฺทสํ คณฺหโนฺตฯ
Idāni phalavasena dassetuṃ ‘‘samattāni paripuṇṇānī’’tiādi vuttaṃ. Sotāpattimaggaṭṭhapuggalavasena nānattaṃ jātaṃ, tasmā te dvepi idha tatiyavāre na labbhantīti adhippāyo. Dhammānusārīsaddhānusārīnaṃ nānattaṃ kathaṃ jātanti āha ‘‘āgamanenapi maggenapī’’ti. Tadubhayaṃ dassento ‘‘saddhānusārīpuggalo’’tiādimāha. Uddisāpentoti uddesaṃ gaṇhanto.
มโคฺค ติโกฺข โหติ อุปนิสฺสยินฺทฺริยานํ ติกฺขวิสทภาวโตฯ เตนาห ‘‘สูรํ ญาณํ วหตี’’ติฯ อสงฺขาเรนาติ สรเสเนวฯ อปฺปโยเคนาติ ตเสฺสว เววจนํฯ ธมฺมานุสารีปุคฺคโล หิ อาคมนมฺหิ กิเลเส วิกฺขเมฺภโนฺต อปฺปทุเกฺขน อปฺปกสิเรน อกิลมโนฺตว วิกฺขเมฺภตุํ สโกฺกติฯ สทฺธานุสารีปุคฺคโล ปน ทุเกฺขน กสิเรน กิลมโนฺต หุตฺวา วิกฺขเมฺภตุํ สโกฺกติ, ตสฺมา ธมฺมานุสาริสฺส ปุพฺพภาคมคฺคกฺขเณ กิเลสเจฺฉทกญาณํ อทนฺธํ ติขิณํ หุตฺวา วหติ, ยถา นาม ติขิเณน อสินา กทลิํ ฉินฺทนฺตสฺส ฉินฺนฎฺฐานํ มฎฺฐํ โหติ, อสิ ขิปฺปํ วหติ, สโทฺท น สุยฺยติ, พลววายามกิจฺจํ น โหติ, เอวรูปา ธมฺมานุสาริโน ปุพฺพภาคภาวนา โหติ, สทฺธานุสาริโน ปน ปุพฺพภาคกฺขเณ กิเลสเจฺฉทกญาณํ ทนฺธํ น ติขิณํ อสูรํ หุตฺวา วหติ, ยถา นาม นาติติขิเณน อสินา กทลิํ ฉินฺทนฺตสฺส ฉินฺนฎฺฐานํ น มฎฺฐํ โหติ, อสิ สีฆํ น วหติ, สโทฺท สุยฺยติ, พลววายามกิจฺจํ อิจฺฉิตพฺพํ โหติ, เอวรูปา สทฺธานุสาริโน ปุพฺพภาคภาวนา โหติฯ เอวํ สเนฺตปิ กิเลสกฺขเย นานตฺตํ นตฺถิฯ เตนาห ‘‘กิเลสกฺขเย ปนา’’ติอาทิฯ อวเสสา จ กิเลสา ขียนฺติ สํโยชนกฺขยาย โยคตฺตาฯ
Maggo tikkho hoti upanissayindriyānaṃ tikkhavisadabhāvato. Tenāha ‘‘sūraṃ ñāṇaṃ vahatī’’ti. Asaṅkhārenāti saraseneva. Appayogenāti tasseva vevacanaṃ. Dhammānusārīpuggalo hi āgamanamhi kilese vikkhambhento appadukkhena appakasirena akilamantova vikkhambhetuṃ sakkoti. Saddhānusārīpuggalo pana dukkhena kasirena kilamanto hutvā vikkhambhetuṃ sakkoti, tasmā dhammānusārissa pubbabhāgamaggakkhaṇe kilesacchedakañāṇaṃ adandhaṃ tikhiṇaṃ hutvā vahati, yathā nāma tikhiṇena asinā kadaliṃ chindantassa chinnaṭṭhānaṃ maṭṭhaṃ hoti, asi khippaṃ vahati, saddo na suyyati, balavavāyāmakiccaṃ na hoti, evarūpā dhammānusārino pubbabhāgabhāvanā hoti, saddhānusārino pana pubbabhāgakkhaṇe kilesacchedakañāṇaṃ dandhaṃ na tikhiṇaṃ asūraṃ hutvā vahati, yathā nāma nātitikhiṇena asinā kadaliṃ chindantassa chinnaṭṭhānaṃ na maṭṭhaṃ hoti, asi sīghaṃ na vahati, saddo suyyati, balavavāyāmakiccaṃ icchitabbaṃ hoti, evarūpā saddhānusārino pubbabhāgabhāvanā hoti. Evaṃ santepi kilesakkhaye nānattaṃ natthi. Tenāha ‘‘kilesakkhaye panā’’tiādi. Avasesā ca kilesā khīyanti saṃyojanakkhayāya yogattā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๒. ปฐมสํขิตฺตสุตฺตํ • 2. Paṭhamasaṃkhittasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๒. ปฐมสํขิตฺตสุตฺตวณฺณนา • 2. Paṭhamasaṃkhittasuttavaṇṇanā