Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ภิกฺขุนีวิภงฺค • Bhikkhunīvibhaṅga

    ๒. สงฺฆาทิเสสกณฺฑํ (ภิกฺขุนีวิภโงฺค)

    2. Saṅghādisesakaṇḍaṃ (bhikkhunīvibhaṅgo)

    ๑. ปฐมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทํ

    1. Paṭhamasaṅghādisesasikkhāpadaṃ

    อิเม โข ปนายฺยาโย สตฺตรส สงฺฆาทิเสสา

    Ime kho panāyyāyo sattarasa saṅghādisesā

    ธมฺมา อุเทฺทสํ อาคจฺฉนฺติฯ

    Dhammā uddesaṃ āgacchanti.

    ๖๗๘. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร อุปาสโก ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อุโทสิตํ 1 ทตฺวา กาลงฺกโต โหติฯ ตสฺส เทฺว ปุตฺตา โหนฺติ – เอโก อสฺสโทฺธ อปฺปสโนฺน, เอโก สโทฺธ ปสโนฺนฯ เต เปตฺติกํ สาปเตยฺยํ วิภชิํสุฯ อถ โข โส อสฺสโทฺธ อปฺปสโนฺน ตํ สทฺธํ ปสนฺนํ เอตทโวจ – ‘‘อมฺหากํ อุโทสิโต, ตํ ภาเชมา’’ติฯ เอวํ วุเตฺต โส สโทฺธ ปสโนฺน ตํ อสฺสทฺธํ อปฺปสนฺนํ เอตทโวจ – ‘‘มาโยฺย, เอวํ อวจฯ อมฺหากํ ปิตุนา ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส ทิโนฺน’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข โส อสฺสโทฺธ อปฺปสโนฺน ตํ สทฺธํ ปสนฺนํ เอตทโวจ – ‘‘อมฺหากํ อุโทสิโต, ตํ ภาเชมา’’ติฯ อถ โข โส สโทฺธ ปสโนฺน ตํ อสฺสทฺธํ อปฺปสนฺนํ เอตทโวจ – ‘‘มาโยฺย, เอวํ อวจฯ อมฺหากํ ปิตุนา ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส ทิโนฺน’’ติฯ ตติยมฺปิ โข โส อสฺสโทฺธ อปฺปสโนฺน ตํ สทฺธํ ปสนฺนํ เอตทโวจ – ‘‘อมฺหากํ อุโทสิโต, ตํ ภาเชมา’’ติฯ อถ โข โส สโทฺธ ปสโนฺน – ‘‘สเจ มยฺหํ ภวิสฺสติ, อหมฺปิ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส ทสฺสามี’’ติ – ตํ อสฺสทฺธํ อปฺปสนฺนํ เอตทโวจ – ‘‘ภาเชมา’’ติฯ อถ โข โส อุโทสิโต เตหิ ภาชียมาโน ตสฺส อสฺสทฺธสฺส อปฺปสนฺนสฺส ปาปุณาติ 2ฯ อถ โข โส อสฺสโทฺธ อปฺปสโนฺน ภิกฺขุนิโย อุปสงฺกมิตฺวา เอตทโวจ – ‘‘นิกฺขมถาเยฺย, อมฺหากํ อุโทสิโต’’ติฯ

    678. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena aññataro upāsako bhikkhunisaṅghassa udositaṃ 3 datvā kālaṅkato hoti. Tassa dve puttā honti – eko assaddho appasanno, eko saddho pasanno. Te pettikaṃ sāpateyyaṃ vibhajiṃsu. Atha kho so assaddho appasanno taṃ saddhaṃ pasannaṃ etadavoca – ‘‘amhākaṃ udosito, taṃ bhājemā’’ti. Evaṃ vutte so saddho pasanno taṃ assaddhaṃ appasannaṃ etadavoca – ‘‘māyyo, evaṃ avaca. Amhākaṃ pitunā bhikkhunisaṅghassa dinno’’ti. Dutiyampi kho so assaddho appasanno taṃ saddhaṃ pasannaṃ etadavoca – ‘‘amhākaṃ udosito, taṃ bhājemā’’ti. Atha kho so saddho pasanno taṃ assaddhaṃ appasannaṃ etadavoca – ‘‘māyyo, evaṃ avaca. Amhākaṃ pitunā bhikkhunisaṅghassa dinno’’ti. Tatiyampi kho so assaddho appasanno taṃ saddhaṃ pasannaṃ etadavoca – ‘‘amhākaṃ udosito, taṃ bhājemā’’ti. Atha kho so saddho pasanno – ‘‘sace mayhaṃ bhavissati, ahampi bhikkhunisaṅghassa dassāmī’’ti – taṃ assaddhaṃ appasannaṃ etadavoca – ‘‘bhājemā’’ti. Atha kho so udosito tehi bhājīyamāno tassa assaddhassa appasannassa pāpuṇāti 4. Atha kho so assaddho appasanno bhikkhuniyo upasaṅkamitvā etadavoca – ‘‘nikkhamathāyye, amhākaṃ udosito’’ti.

    เอวํ วุเตฺต ถุลฺลนนฺทา ภิกฺขุนี ตํ ปุริสํ เอตทโวจ – ‘‘มาโยฺย, เอวํ อวจ, ตุมฺหากํ ปิตุนา ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส ทิโนฺน’’ติฯ ‘‘ทิโนฺน น ทิโนฺน’’ติ โวหาริเก มหามเตฺต ปุจฺฉิํสุฯ มหามตฺตา เอวมาหํสุ – ‘‘โก, อเยฺย, ชานาติ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส ทิโนฺน’’ติ? เอวํ วุเตฺต ถุลฺลนนฺทา ภิกฺขุนี เต มหามเตฺต เอตทโวจ – ‘‘อปิ นาโยฺย 5 ตุเมฺหหิ ทิฎฺฐํ วา สุตํ วา สกฺขิํ ฐปยิตฺวา ทานํ ทิยฺยมาน’’นฺติ ? อถ โข เต มหามตฺตา – ‘‘สจฺจํ โข อยฺยา อาหา’’ติ ตํ อุโทสิตํ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อกํสุฯ อถ โข โส ปุริโส ปราชิโต อุชฺฌายติ ขิยฺยติ วิปาเจติ – ‘‘อสฺสมณิโย อิมา มุณฺฑา พนฺธกินิโยฯ กถญฺหิ นาม อมฺหากํ อุโทสิตํ อจฺฉินฺทาเปสฺสนฺตี’’ติ! ถุลฺลนนฺทา ภิกฺขุนี มหามตฺตานํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ มหามตฺตา ตํ ปุริสํ ทณฺฑาเปสุํฯ อถ โข โส ปุริโส ทณฺฑิโต ภิกฺขุนูปสฺสยสฺส อวิทูเร อาชีวกเสยฺยํ การาเปตฺวา อาชีวเก อุโยฺยเชสิ – ‘‘เอตา ภิกฺขุนิโย อจฺจาวทถา’’ติฯ

    Evaṃ vutte thullanandā bhikkhunī taṃ purisaṃ etadavoca – ‘‘māyyo, evaṃ avaca, tumhākaṃ pitunā bhikkhunisaṅghassa dinno’’ti. ‘‘Dinno na dinno’’ti vohārike mahāmatte pucchiṃsu. Mahāmattā evamāhaṃsu – ‘‘ko, ayye, jānāti bhikkhunisaṅghassa dinno’’ti? Evaṃ vutte thullanandā bhikkhunī te mahāmatte etadavoca – ‘‘api nāyyo 6 tumhehi diṭṭhaṃ vā sutaṃ vā sakkhiṃ ṭhapayitvā dānaṃ diyyamāna’’nti ? Atha kho te mahāmattā – ‘‘saccaṃ kho ayyā āhā’’ti taṃ udositaṃ bhikkhunisaṅghassa akaṃsu. Atha kho so puriso parājito ujjhāyati khiyyati vipāceti – ‘‘assamaṇiyo imā muṇḍā bandhakiniyo. Kathañhi nāma amhākaṃ udositaṃ acchindāpessantī’’ti! Thullanandā bhikkhunī mahāmattānaṃ etamatthaṃ ārocesi. Mahāmattā taṃ purisaṃ daṇḍāpesuṃ. Atha kho so puriso daṇḍito bhikkhunūpassayassa avidūre ājīvakaseyyaṃ kārāpetvā ājīvake uyyojesi – ‘‘etā bhikkhuniyo accāvadathā’’ti.

    ถุลฺลนนฺทา ภิกฺขุนี มหามตฺตานํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ มหามตฺตา ตํ ปุริสํ พนฺธาเปสุํฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘ปฐมํ ภิกฺขุนิโย อุโทสิตํ อจฺฉินฺทาเปสุํ, ทุติยํ ทณฺฑาเปสุํ, ตติยํ พนฺธาเปสุํฯ อิทานิ ฆาตาเปสฺสนฺตี’’ติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขุนิโย เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ ยา ตา ภิกฺขุนิโย อปฺปิจฺฉา…เป.… ตา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อยฺยา ถุลฺลนนฺทา อุสฺสยวาทิกา วิหริสฺสตี’’ติ! อถ โข ตา ภิกฺขุนิโย ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว, ถุลฺลนนฺทา ภิกฺขุนี อุสฺสยวาทิกา วิหรตีติฯ ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม, ภิกฺขเว, ถุลฺลนนฺทา ภิกฺขุนี อุสฺสยวาทิกา วิหริสฺสติ! เนตํ, ภิกฺขเว, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิโย อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิสนฺตุ –

    Thullanandā bhikkhunī mahāmattānaṃ etamatthaṃ ārocesi. Mahāmattā taṃ purisaṃ bandhāpesuṃ. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘paṭhamaṃ bhikkhuniyo udositaṃ acchindāpesuṃ, dutiyaṃ daṇḍāpesuṃ, tatiyaṃ bandhāpesuṃ. Idāni ghātāpessantī’’ti! Assosuṃ kho bhikkhuniyo tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Yā tā bhikkhuniyo appicchā…pe… tā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma ayyā thullanandā ussayavādikā viharissatī’’ti! Atha kho tā bhikkhuniyo bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… saccaṃ kira, bhikkhave, thullanandā bhikkhunī ussayavādikā viharatīti. ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma, bhikkhave, thullanandā bhikkhunī ussayavādikā viharissati! Netaṃ, bhikkhave, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, bhikkhuniyo imaṃ sikkhāpadaṃ uddisantu –

    ๖๗๙. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี อุสฺสยวาทิกา วิหเรยฺย คหปตินา วา คหปติปุเตฺตน วา ทาเสน วา กมฺมกาเรน 7 วา อนฺตมโส สมณปริพฺพาชเกนาปิ, อยํ ภิกฺขุนี ปฐมาปตฺติกํ ธมฺมํ อาปนฺนา นิสฺสารณียํ สงฺฆาทิเสส’’นฺติฯ

    679.‘‘Yā pana bhikkhunī ussayavādikā vihareyya gahapatinā vā gahapatiputtena vā dāsena vā kammakārena 8 vā antamaso samaṇaparibbājakenāpi, ayaṃ bhikkhunī paṭhamāpattikaṃ dhammaṃ āpannā nissāraṇīyaṃ saṅghādisesa’’nti.

    ๖๘๐. ยา ปนาติ ยา ยาทิสา…เป.… ภิกฺขุนีติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปตา ภิกฺขุนีติฯ

    680.Yā panāti yā yādisā…pe… bhikkhunīti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippetā bhikkhunīti.

    อุสฺสยวาทิกา นาม อฑฺฑการิกา วุจฺจติฯ

    Ussayavādikā nāma aḍḍakārikā vuccati.

    คหปติ นาม โย โกจิ อคารํ อชฺฌาวสติฯ

    Gahapati nāma yo koci agāraṃ ajjhāvasati.

    คหปติปุโตฺต นาม เย เกจิ ปุตฺตภาตโรฯ

    Gahapatiputto nāma ye keci puttabhātaro.

    ทาโส นาม อโนฺตชาโต ธนกฺกีโต กรมรานีโต ฯ

    Dāso nāma antojāto dhanakkīto karamarānīto .

    กมฺมกาโร นาม ภฎโก อาหตโกฯ

    Kammakāro nāma bhaṭako āhatako.

    สมณปริพฺพาชโก นาม ภิกฺขุญฺจ ภิกฺขุนิญฺจ สิกฺขมานญฺจ สามเณรญฺจ สามเณริญฺจ ฐเปตฺวา โย โกจิ ปริพฺพาชกสมาปโนฺนฯ

    Samaṇaparibbājako nāma bhikkhuñca bhikkhuniñca sikkhamānañca sāmaṇerañca sāmaṇeriñca ṭhapetvā yo koci paribbājakasamāpanno.

    อฑฺฑํ กริสฺสามีติ ทุติยํ วา ปริเยสติ คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ เอกสฺส อาโรเจติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ทุติยสฺส อาโรเจติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ อฑฺฑปริโยสาเน อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสฯ

    Aḍḍaṃ karissāmīti dutiyaṃ vā pariyesati gacchati vā, āpatti dukkaṭassa. Ekassa āroceti, āpatti dukkaṭassa. Dutiyassa āroceti, āpatti thullaccayassa. Aḍḍapariyosāne āpatti saṅghādisesassa.

    ปฐมาปตฺติกนฺติ สห วตฺถุชฺฌาจารา อาปชฺชติ อสมนุภาสนายฯ

    Paṭhamāpattikanti saha vatthujjhācārā āpajjati asamanubhāsanāya.

    นิสฺสารณียนฺติ สงฺฆมฺหา นิสฺสารียติฯ

    Nissāraṇīyanti saṅghamhā nissārīyati.

    สงฺฆาทิเสสนฺติ สโงฺฆว ตสฺสา อาปตฺติยา มานตฺตํ เทติ มูลาย ปฎิกสฺสติ อเพฺภติ, น สมฺพหุลา น เอกา ภิกฺขุนีฯ เตน วุจฺจติ ‘‘สงฺฆาทิเสโส’’ติฯ ตเสฺสว อาปตฺตินิกายสฺส นามกมฺมํ อธิวจนํฯ เตนปิ วุจฺจติ ‘‘สงฺฆาทิเสโส’’ติฯ

    Saṅghādisesanti saṅghova tassā āpattiyā mānattaṃ deti mūlāya paṭikassati abbheti, na sambahulā na ekā bhikkhunī. Tena vuccati ‘‘saṅghādiseso’’ti. Tasseva āpattinikāyassa nāmakammaṃ adhivacanaṃ. Tenapi vuccati ‘‘saṅghādiseso’’ti.

    ๖๘๑. อนาปตฺติ มนุเสฺสหิ อากฑฺฒียมานา คจฺฉติ, อารกฺขํ ยาจติ, อโนทิสฺส อาจิกฺขติ, อุมฺมตฺติกาย…เป.… อาทิกมฺมิกายาติฯ

    681. Anāpatti manussehi ākaḍḍhīyamānā gacchati, ārakkhaṃ yācati, anodissa ācikkhati, ummattikāya…pe… ādikammikāyāti.

    ปฐมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํฯ

    Paṭhamasaṅghādisesasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ.







    Footnotes:
    1. อุโทฺทสิตํ (สี. สฺยา.)
    2. ปาปุณิ (สฺยา.)
    3. uddositaṃ (sī. syā.)
    4. pāpuṇi (syā.)
    5. อปิ นฺวยฺยา (สฺยา.), อปิ นาโยฺย (ก.)
    6. api nvayyā (syā.), api nāyyo (ka.)
    7. กมฺมกเรน (สี. สฺยา.)
    8. kammakarena (sī. syā.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / ภิกฺขุนีวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Bhikkhunīvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๑. ปฐมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Paṭhamasaṅghādisesasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๑. ปฐมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Paṭhamasaṅghādisesasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๑. ปฐมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Paṭhamasaṅghādisesasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๑. ปฐมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Paṭhamasaṅghādisesasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๑. ปฐมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปท-อตฺถโยชนา • 1. Paṭhamasaṅghādisesasikkhāpada-atthayojanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact