Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กงฺขาวิตรณี-อภินว-ฎีกา • Kaṅkhāvitaraṇī-abhinava-ṭīkā

    ๔. ปฐมเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา

    4. Paṭhamasenāsanasikkhāpadavaṇṇanā

    มญฺจํ วาติ มสารโก, พุนฺทิกาพโทฺธ, กุฬีรปาทโก, อาหจฺจปาทโกติ อิเมสุ จตูสุ ยํ กญฺจิ มญฺจํ วาฯ ปีฐํ วาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ ภิสิํ วาติ อุณฺณภิสิ, โจฬภิสิ, วากภิสิ, ติณภิสิ, ปณฺณภิสีติ อิมาสุ ปญฺจสุ ภิสีสุ ยํ กญฺจิ ภิสิํ วาฯ เตนาห ‘‘มญฺจาทีสู’’ติอาทิฯ ตตฺถ ‘‘มญฺจสเงฺขเปนา’’ติ อิมินา ปีฐสเงฺขปํ ปฎิกฺขิปติฯ กปฺปิยจเมฺมนาติ มิคาเชฬกจเมฺมนฯ เอตฺถ ปน มิคจเมฺม เอณิมิโค, วาตมิโค, ปสทมิโค, กุรุงฺคมิโค, มิคมาตุโก, โรหิตมิโคติ เอเตสํเยว จมฺมานิ วฎฺฎนฺติ, อเญฺญสํ ปน –

    Mañcaṃti masārako, bundikābaddho, kuḷīrapādako, āhaccapādakoti imesu catūsu yaṃ kañci mañcaṃ vā. Pīṭhaṃ vāti etthāpi eseva nayo. Bhisiṃ vāti uṇṇabhisi, coḷabhisi, vākabhisi, tiṇabhisi, paṇṇabhisīti imāsu pañcasu bhisīsu yaṃ kañci bhisiṃ vā. Tenāha ‘‘mañcādīsū’’tiādi. Tattha ‘‘mañcasaṅkhepenā’’ti iminā pīṭhasaṅkhepaṃ paṭikkhipati. Kappiyacammenāti migājeḷakacammena. Ettha pana migacamme eṇimigo, vātamigo, pasadamigo, kuruṅgamigo, migamātuko, rohitamigoti etesaṃyeva cammāni vaṭṭanti, aññesaṃ pana –

    มกฺกโฎ กาฬสีโห จ, สรโภ กทลีมิโค;

    Makkaṭo kāḷasīho ca, sarabho kadalīmigo;

    เย จ วาฬมิคา เกจิ, เตสํ จมฺมํ น วฎฺฎตีติฯ (มหาว. อฎฺฐ. ๒๕๙);

    Ye ca vāḷamigā keci, tesaṃ cammaṃ na vaṭṭatīti. (mahāva. aṭṭha. 259);

    ตตฺถ วาฬมิคาติ สีหพฺยคฺฆอจฺฉตรจฺฉาฯ น เกวลญฺจ เอเตเยว, เยสํ ปน จมฺมํ วฎฺฎตีติ วุตฺตํ, เต ฐเปตฺวา อวเสสา อนฺตมโส โคมหิํสสสพิฬาราทโยปิ สเพฺพ อิมสฺมิํ อเตฺถ ‘‘วาฬมิคา’’เตฺวว เวทิตพฺพาฯ เอเตสญฺหิ สเพฺพสํ จมฺมํ น วฎฺฎติฯ ตาลีสปตฺตนฺติ สุทฺธํ ตมาลปตฺตํ, อเญฺญน มิสฺสํ ปน วฎฺฎติฯ ติณวากโจเฬสุ อกปฺปิยํ นาม นตฺถิฯ กิํ ปเนตฺถ พิโพฺพหเน วิย นิสีทิตุญฺจ นิปชฺชิตุญฺจ น วฎฺฎตีติ อาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิฯ น เกวลเญฺจทเมวาติ อาห ‘‘ปมาณปริเจฺฉโทปิ เจตฺถ นตฺถี’’ติ, ‘‘เอตฺตกเมว กาตพฺพ’’นฺติ ภิสิยา ปมาณนิยโมปิ นตฺถีติ อโตฺถฯ มญฺจภิสิปีฐภิสิภูมตฺถรณภิสิจงฺกมนภิสิปาทปุญฺฉนภิสีติ เอตาสํ ปน อนุรูปโต สลฺลเกฺขตฺวา อตฺตโน รุจิวเสน ปมาณํ กาตพฺพํฯ อโนฺต สํเวลฺลิตฺวา พทฺธนฺติ ยถา เวมชฺฌํ สํขิตฺตํ โหติ, เอวํ มเชฺฌ สุฎฺฐุ เวเฐตฺวา พทฺธํฯ

    Tattha vāḷamigāti sīhabyagghaacchataracchā. Na kevalañca eteyeva, yesaṃ pana cammaṃ vaṭṭatīti vuttaṃ, te ṭhapetvā avasesā antamaso gomahiṃsasasabiḷārādayopi sabbe imasmiṃ atthe ‘‘vāḷamigā’’tveva veditabbā. Etesañhi sabbesaṃ cammaṃ na vaṭṭati. Tālīsapattanti suddhaṃ tamālapattaṃ, aññena missaṃ pana vaṭṭati. Tiṇavākacoḷesu akappiyaṃ nāma natthi. Kiṃ panettha bibbohane viya nisīdituñca nipajjituñca na vaṭṭatīti āha ‘‘tatthā’’tiādi. Na kevalañcedamevāti āha ‘‘pamāṇaparicchedopi cettha natthī’’ti, ‘‘ettakameva kātabba’’nti bhisiyā pamāṇaniyamopi natthīti attho. Mañcabhisipīṭhabhisibhūmattharaṇabhisicaṅkamanabhisipādapuñchanabhisīti etāsaṃ pana anurūpato sallakkhetvā attano rucivasena pamāṇaṃ kātabbaṃ. Anto saṃvellitvā baddhanti yathā vemajjhaṃ saṃkhittaṃ hoti, evaṃ majjhe suṭṭhu veṭhetvā baddhaṃ.

    เย อฎฺฐ มาสาติ สมฺพโนฺธฯ ‘‘อวสฺสิกสเงฺกตา’’ติ เอตเสฺสว วิวรณํ ‘‘วสฺสานมาสาติ เอวํ อปญฺญาตา’’ติ, อปฺปติตา อปฺปสิทฺธาติ อโตฺถฯ ‘‘อสญฺญิตา’’ติปิ ปาโฐ, ตตฺถ อวิญฺญาตาติ อโตฺถฯ อฎฺฐ มาสาติ จตฺตาโร เหมนฺติกา, จตฺตาโร คิมฺหิกา มาสาติ อฎฺฐ มาสาฯ โอวสฺสกมณฺฑเปติ สาขามณฺฑปปทรมณฺฑปานํ ยตฺถ กตฺถจิ โอวสฺสเก มณฺฑเปฯ ยตฺถาติ เยสุ ชนปเทสุฯ สพฺพตฺถาติ สเพฺพสุ ชนปเทสุ ฯ กากาทีนํ นิพทฺธวาสรุกฺขมูเลติ ยตฺถ ธุวนิวาเสน กากา วา กุลาลา วา อเญฺญ วา สกุนฺตา กุลาวเก กตฺวา วสนฺติ, ตาทิสสฺส กากาทีนํ นิพทฺธวาสสฺส ยสฺส กสฺสจิ รุกฺขสฺส เหฎฺฐาฯ ยตฺถ ปน โคจรปฺปสุตา สกุนฺตา วิสฺสมิตฺวา คจฺฉนฺติ, ตสฺส รุกฺขสฺส มูเล นิกฺขิปิตุํ วฎฺฎติฯ ‘‘กทาจิปี’’ติ อิมินา น เกวลํ วสฺสิกสเงฺกเตเยวาติ ทเสฺสติฯ ยตฺถาติ ยสฺมิํ ปเทเสฯ ยทาติ ยสฺมิํ กาเลฯ

    Ye aṭṭha māsāti sambandho. ‘‘Avassikasaṅketā’’ti etasseva vivaraṇaṃ ‘‘vassānamāsāti evaṃ apaññātā’’ti, appatitā appasiddhāti attho. ‘‘Asaññitā’’tipi pāṭho, tattha aviññātāti attho. Aṭṭha māsāti cattāro hemantikā, cattāro gimhikā māsāti aṭṭha māsā. Ovassakamaṇḍapeti sākhāmaṇḍapapadaramaṇḍapānaṃ yattha katthaci ovassake maṇḍape. Yatthāti yesu janapadesu. Sabbatthāti sabbesu janapadesu . Kākādīnaṃ nibaddhavāsarukkhamūleti yattha dhuvanivāsena kākā vā kulālā vā aññe vā sakuntā kulāvake katvā vasanti, tādisassa kākādīnaṃ nibaddhavāsassa yassa kassaci rukkhassa heṭṭhā. Yattha pana gocarappasutā sakuntā vissamitvā gacchanti, tassa rukkhassa mūle nikkhipituṃ vaṭṭati. ‘‘Kadācipī’’ti iminā na kevalaṃ vassikasaṅketeyevāti dasseti. Yatthāti yasmiṃ padese. Yadāti yasmiṃ kāle.

    โสติ ยสฺสตฺถาย สนฺถโต, โสฯ ปกติสนฺถเตติ ปกติยาว สนฺถเต, ยํ เนวตฺตนา สนฺถตํ, น ปเรน สนฺถราปิตํ, ตสฺมินฺติ วุตฺตํ โหติฯ ลชฺชี โหตีติ ลชฺชนสีโล โหติ, ปริกฺขารวินาสเน ภีโตติ อโตฺถฯ เตนาห ‘‘อตฺตโน ปลิโพธํ วิย มญฺญตี’’ติ, อิมินา อลชฺชิํ อาปุจฺฉิตฺวา คนฺตุํ น วฎฺฎตีติ ทเสฺสติฯ นิรเปโกฺขติ ‘‘อาคนฺตฺวา อุทฺธริสฺสามี’’ติ อเปกฺขารหิโต, อิมินา สาเปโกฺข เจ คจฺฉติ, อนาปตฺตีติ ทเสฺสติฯ เตเนว หิ อนาปตฺติวาเร ‘‘โอตาเปโนฺต คจฺฉตี’’ติ (ปาจิ. ๑๑๓) วุตฺตํฯ อญฺญตฺถ คจฺฉโนฺตติ ตํ มคฺคํ อติกฺกมิตฺวา อญฺญตฺถ คจฺฉโนฺตฯ เลฑฺฑุปาตูปจารโต พหิ ฐิตตฺตา ‘‘ปาทุทฺธาเรน กาเรตโพฺพ’’ติ วุตฺตํ, อญฺญตฺถ คจฺฉนฺตสฺส ปฐมปาทุทฺธาเร ทุกฺกฎํ, ทุติยปาทุทฺธาเร ปาจิตฺติยนฺติ อโตฺถฯ

    Soti yassatthāya santhato, so. Pakatisanthateti pakatiyāva santhate, yaṃ nevattanā santhataṃ, na parena santharāpitaṃ, tasminti vuttaṃ hoti. Lajjī hotīti lajjanasīlo hoti, parikkhāravināsane bhītoti attho. Tenāha ‘‘attano palibodhaṃ viya maññatī’’ti, iminā alajjiṃ āpucchitvā gantuṃ na vaṭṭatīti dasseti. Nirapekkhoti ‘‘āgantvā uddharissāmī’’ti apekkhārahito, iminā sāpekkho ce gacchati, anāpattīti dasseti. Teneva hi anāpattivāre ‘‘otāpento gacchatī’’ti (pāci. 113) vuttaṃ. Aññattha gacchantoti taṃ maggaṃ atikkamitvā aññattha gacchanto. Leḍḍupātūpacārato bahi ṭhitattā ‘‘pāduddhārena kāretabbo’’ti vuttaṃ, aññattha gacchantassa paṭhamapāduddhāre dukkaṭaṃ, dutiyapāduddhāre pācittiyanti attho.

    ติกปาจิตฺติยํ สงฺฆิเก สงฺฆิกสญฺญิเวมติกปุคฺคลิกสญฺญีนํ วเสนฯ อิมินาว นเยน ติกทุกฺกฎมฺปิ เวทิตพฺพํฯ จิมิลิกาทีนํ อโตฺถ ทุติยสิกฺขาปเท ทสฺสิโตวฯ ปาทปุญฺฉนี (ปาจิ. อฎฺฐ. ๑๑๒) นาม รชฺชุเกหิ วา ปิโลติกาหิ วา ปาทปุญฺฉนตฺถํ กตาฯ ผลกปีฐํ นาม ผลกมยํ ปีฐํฯ น เกวลํ จิมิลิกาทีนิเยว อโชฺฌกาเส ฐเปตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฎนฺติ อาห ‘‘ยํ วา ปนา’’ติอาทิฯ ยํ กิญฺจิ ทารุภณฺฑํ, ยํ กิญฺจิ มตฺติกาภณฺฑนฺติ สมฺพโนฺธฯ ‘‘อนฺตมโส ปตฺตาธารกมฺปี’’ติ อิมินา ตาลวณฺฎพีชนิปตฺตปานียอุฬอุงฺกปานียสงฺขาทีสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทเสฺสติฯ

    Tikapācittiyaṃ saṅghike saṅghikasaññivematikapuggalikasaññīnaṃ vasena. Imināva nayena tikadukkaṭampi veditabbaṃ. Cimilikādīnaṃ attho dutiyasikkhāpade dassitova. Pādapuñchanī (pāci. aṭṭha. 112) nāma rajjukehi vā pilotikāhi vā pādapuñchanatthaṃ katā. Phalakapīṭhaṃ nāma phalakamayaṃ pīṭhaṃ. Na kevalaṃ cimilikādīniyeva ajjhokāse ṭhapetvā gacchantassa dukkaṭanti āha ‘‘yaṃ vā panā’’tiādi. Yaṃ kiñci dārubhaṇḍaṃ, yaṃ kiñci mattikābhaṇḍanti sambandho. ‘‘Antamaso pattādhārakampī’’ti iminā tālavaṇṭabījanipattapānīyauḷauṅkapānīyasaṅkhādīsu vattabbameva natthīti dasseti.

    อรเญฺญ (ปาจิ. อฎฺฐ. ๑๑๐) ปณฺณกุฎีสุ วสนฺตานํ สีลสมฺปทาย ปสนฺนจิตฺตา มนุสฺสา มญฺจปีฐาทีนิ เทนฺติ ‘‘สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุญฺชถา’’ติ, ตตฺถ กิํ กาตพฺพนฺติ อาห ‘‘อารญฺญเกน ปนา’’ติอาทิฯ ตตฺถ อสติ อโนวสฺสเกติ ปพฺภาราทิอโนวสฺสกฎฺฐาเน อสติฯ อิทญฺจ ลกฺขณวจนํ ‘‘สภาคานํ อภาเว’’ติ จ อิจฺฉิตพฺพตฺตาฯ อารญฺญเกน หิ ภิกฺขุนา ตตฺถ วสิตฺวา อญฺญตฺถ คจฺฉเนฺตน สามนฺตวิหาเร ภิกฺขูนํ เปเสตฺวา คนฺตพฺพํฯ สภาคานํ อภาเว อโนวสฺสเก นิกฺขิปิตฺวา คนฺตพฺพํฯ อโนวสฺสเก อสติ รุเกฺข ลเคฺคตฺวา คนฺตพฺพํฯ

    Araññe (pāci. aṭṭha. 110) paṇṇakuṭīsu vasantānaṃ sīlasampadāya pasannacittā manussā mañcapīṭhādīni denti ‘‘saṅghikaparibhogena paribhuñjathā’’ti, tattha kiṃ kātabbanti āha ‘‘āraññakena panā’’tiādi. Tattha asati anovassaketi pabbhārādianovassakaṭṭhāne asati. Idañca lakkhaṇavacanaṃ ‘‘sabhāgānaṃ abhāve’’ti ca icchitabbattā. Āraññakena hi bhikkhunā tattha vasitvā aññattha gacchantena sāmantavihāre bhikkhūnaṃ pesetvā gantabbaṃ. Sabhāgānaṃ abhāve anovassake nikkhipitvā gantabbaṃ. Anovassake asati rukkhe laggetvā gantabbaṃ.

    น เกวลํ อิทํเยว กตฺวา คนฺตุํ วฎฺฎตีติ อาห ‘‘ยถา วา’’ติอาทิฯ ยถา วา อุปจิกาหิ น ขชฺชตีติ ยถา ฐปิเต อุปจิกาหิ เสนาสนํ น ขชฺชติ, เอวํ ตถา ปาสาณานํ อุปริ ฐปนํ กตฺวาติ อโตฺถฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – จตูสุ (ปาจิ. อฎฺฐ. ๑๑๖) ปาสาเณสุ มญฺจํ ฐเปตฺวา มเญฺจ อวเสสมญฺจปีฐานิ อาโรเปตฺวา อุปริ ภิสิอาทิกํ ราสิํ กตฺวา ทารุภณฺฑํ มตฺติกาภณฺฑํ ปฎิสาเมตฺวา คมิกวตฺตํ ปูเรตฺวา คนฺตพฺพนฺติฯ

    Na kevalaṃ idaṃyeva katvā gantuṃ vaṭṭatīti āha ‘‘yathā vā’’tiādi. Yathā vā upacikāhi na khajjatīti yathā ṭhapite upacikāhi senāsanaṃ na khajjati, evaṃ tathā pāsāṇānaṃ upari ṭhapanaṃ katvāti attho. Idaṃ vuttaṃ hoti – catūsu (pāci. aṭṭha. 116) pāsāṇesu mañcaṃ ṭhapetvā mañce avasesamañcapīṭhāni āropetvā upari bhisiādikaṃ rāsiṃ katvā dārubhaṇḍaṃ mattikābhaṇḍaṃ paṭisāmetvā gamikavattaṃ pūretvā gantabbanti.

    อโพฺภกาสิเกนาปิ ‘‘อหํ อุกฺกฎฺฐอโพฺภกาสิโก’’ติ จีวรกุฎิมฺปิ อกตฺวา อสมเย อโชฺฌกาเส ปญฺญเปตฺวา นิสีทิตุํ วา นิปชฺชิตุํ วา น วฎฺฎตีติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อโพฺภกาสิเกนา’’ติอาทิฯ สเจ ปน จตุคฺคุเณนปิ จีวเรน กตกุฎิ อเตเมนฺตํ รกฺขิตุํ เนว สโกฺกติ, สตฺตาหวทฺทลิกาทีนิ ภวนฺติ, ภิกฺขุโน กายานุคติกตฺตา วฎฺฎติฯ รุกฺขมูลิกสฺสาปิ เอเสว นโยฯ

    Abbhokāsikenāpi ‘‘ahaṃ ukkaṭṭhaabbhokāsiko’’ti cīvarakuṭimpi akatvā asamaye ajjhokāse paññapetvā nisīdituṃ vā nipajjituṃ vā na vaṭṭatīti dassento āha ‘‘abbhokāsikenā’’tiādi. Sace pana catugguṇenapi cīvarena katakuṭi atementaṃ rakkhituṃ neva sakkoti, sattāhavaddalikādīni bhavanti, bhikkhuno kāyānugatikattā vaṭṭati. Rukkhamūlikassāpi eseva nayo.

    ยสฺมิํ วิสฺสาสคฺคาโห รุหติ, ตสฺส สนฺตกํ อตฺตโน ปุคฺคลิกมิว โหตีติ อาห ‘‘วิสฺสาสิกปุคฺคลิเก’’ติฯ ยสฺมิํ ปน วิสฺสาโส น รุหติ, ตสฺส สนฺตเก ทุกฺกฎเมวฯ อมนุโสฺสติ ยโกฺข วา เปโต วาฯ ปลิพุทฺธํ โหตีติ อุปทฺทุตํ โหติฯ

    Yasmiṃ vissāsaggāho ruhati, tassa santakaṃ attano puggalikamiva hotīti āha ‘‘vissāsikapuggalike’’ti. Yasmiṃ pana vissāso na ruhati, tassa santake dukkaṭameva. Amanussoti yakkho vā peto vā. Palibuddhaṃ hotīti upaddutaṃ hoti.

    ปฐมเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Paṭhamasenāsanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.





    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact