Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) |
๖. ปฐมสิกฺขาสุตฺตวณฺณนา
6. Paṭhamasikkhāsuttavaṇṇanā
๘๗. ฉเฎฺฐ สมตฺตการีติ อนูเนน ปริปูเรน อากาเรน สมนฺนาคโตฯ สิกฺขาปทานํ ขุทฺทานุขุทฺทกตฺตํ อเปกฺขาสิทฺธนฺติ อาห ‘‘ตตฺราปิ สงฺฆาทิเสสํ ขุทฺทก’’นฺติอาทิฯ องฺคุตฺตรมหานิกายวฬญฺชนกอาจริยาติ องฺคุตฺตรนิกายํ ปริหรนฺตา อาจริยา, องฺคุตฺตรภาณกาติ วุตฺตํ โหติฯ โลกวชฺชํ นาปชฺชติ โลกวชฺชสิกฺขาปทานํ วีติกฺกมสาธกสฺส กิเลสคหนสฺส สพฺพโส ปหีนตฺตาฯ ปณฺณตฺติวชฺชเมว อาปชฺชติ ปณฺณตฺติวีติกฺกมํ วา อชานโตปิ อาปตฺติสมฺภวโตฯ จิเตฺตน อาปชฺชโนฺต รูปิยปฺปฎิคฺคหณํ อาปชฺชตีติ อุปนิกฺขิตฺตสาทิเยน อาปชฺชติฯ
87. Chaṭṭhe samattakārīti anūnena paripūrena ākārena samannāgato. Sikkhāpadānaṃ khuddānukhuddakattaṃ apekkhāsiddhanti āha ‘‘tatrāpi saṅghādisesaṃ khuddaka’’ntiādi. Aṅguttaramahānikāyavaḷañjanakaācariyāti aṅguttaranikāyaṃ pariharantā ācariyā, aṅguttarabhāṇakāti vuttaṃ hoti. Lokavajjaṃ nāpajjati lokavajjasikkhāpadānaṃ vītikkamasādhakassa kilesagahanassa sabbaso pahīnattā. Paṇṇattivajjameva āpajjati paṇṇattivītikkamaṃ vā ajānatopi āpattisambhavato. Cittena āpajjanto rūpiyappaṭiggahaṇaṃ āpajjatīti upanikkhittasādiyena āpajjati.
พฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตานิ อาทิพฺรหฺมจริยานิ, ตานิ เอว อาทิพฺรหฺมจริยกานิ ยถา ‘‘วินโย เอว เวนยิโก’’ติ อาห ‘‘มคฺคพฺรหฺมจริยสฺสา’’ติอาทิฯ จตฺตาริ มหาสีลสิกฺขาปทานีติ จตฺตาริ ปาราชิกานิ สนฺธาย วทติฯ ปฎิปกฺขธมฺมานํ อนวเสสโต สวนโต ปคฺฆรณโต โสโต, อริยมโคฺคติ อาห ‘‘โสตสงฺขาเตน มเคฺคนา’’ติฯ วินิปาเตติ วิรูปํ สทุกฺขํ สอุปายาสํ นิปาเตตีติ วินิปาโต, อปายทุเกฺข ขิปนโกฯ ธโมฺมติ สภาโวฯ นาสฺส วินิปาโต ธโมฺมติ อวินิปาตธโมฺม, น อตฺตานํ อปาเยสุ วินิปาตนสภาโวติ วุตฺตํ โหติฯ กสฺมา? เย ธมฺมา อปายคมนียา, เตสํ ปหีนตฺตาฯ เตนาห ‘‘อวินิปาตธโมฺมติ จตูสุ อปาเยสุ อปตนสภาโว’’ติฯ ตตฺถ อปตนสภาโวติ อนุปฺปชฺชนสภาโวฯ โสตาปตฺติมคฺคนิยาเมน นิยโตติ อุปริมคฺคาธิคมสฺส อวสฺสํภาวีภาวโต นิยโตฯ เตเนวาห ‘‘สโมฺพธิปรายโณ’’ติฯ เหฎฺฐิมนฺตโต สตฺตมภวโต อุปริ อนุปฺปชฺชนธมฺมตาย วา นิยโตฯ สมฺพุชฺฌตีติ สโมฺพธิ, อริยมโคฺคฯ โส ปน ปฐมมคฺคสฺส อธิคตตฺตา อวสิโฎฺฐ จ อธิคนฺตพฺพภาเวน อิจฺฉิตโพฺพติ อุปริมคฺคตฺตยสงฺขาตา สโมฺพธิ ปรํ อยนํ ปรา คติ อสฺสาติ สโมฺพธิปรายโณฯ เตนาห ‘‘อุปริมคฺคตฺตยสโมฺพธิปรายโณ’’ติฯ
Brahmacariyassa ādibhūtāni ādibrahmacariyāni, tāni eva ādibrahmacariyakāni yathā ‘‘vinayo eva venayiko’’ti āha ‘‘maggabrahmacariyassā’’tiādi. Cattāri mahāsīlasikkhāpadānīti cattāri pārājikāni sandhāya vadati. Paṭipakkhadhammānaṃ anavasesato savanato paggharaṇato soto, ariyamaggoti āha ‘‘sotasaṅkhātena maggenā’’ti. Vinipāteti virūpaṃ sadukkhaṃ saupāyāsaṃ nipātetīti vinipāto, apāyadukkhe khipanako. Dhammoti sabhāvo. Nāssa vinipāto dhammoti avinipātadhammo, na attānaṃ apāyesu vinipātanasabhāvoti vuttaṃ hoti. Kasmā? Ye dhammā apāyagamanīyā, tesaṃ pahīnattā. Tenāha ‘‘avinipātadhammoti catūsu apāyesu apatanasabhāvo’’ti. Tattha apatanasabhāvoti anuppajjanasabhāvo. Sotāpattimagganiyāmenaniyatoti uparimaggādhigamassa avassaṃbhāvībhāvato niyato. Tenevāha ‘‘sambodhiparāyaṇo’’ti. Heṭṭhimantato sattamabhavato upari anuppajjanadhammatāya vā niyato. Sambujjhatīti sambodhi, ariyamaggo. So pana paṭhamamaggassa adhigatattā avasiṭṭho ca adhigantabbabhāvena icchitabboti uparimaggattayasaṅkhātā sambodhi paraṃ ayanaṃ parā gati assāti sambodhiparāyaṇo. Tenāha ‘‘uparimaggattayasambodhiparāyaṇo’’ti.
ตนุภาวาติ ปริยุฎฺฐานมนฺทตาย จ กทาจิ กรหจิ อุปฺปตฺติยา จ ตนุภาเวนฯ ตนุตฺตญฺหิ ทฺวีหิ การเณหิ เวทิตพฺพํ อธิจฺจุปฺปตฺติยา จ ปริยุฎฺฐานมนฺทตาย จฯ สกทาคามิสฺส หิ วฎฺฎานุสาริมหาชนสฺส วิย กิเลสา อภิณฺหํ น อุปฺปชฺชนฺติ, กทาจิ กรหจิ อุปฺปชฺชนฺติ วิรฬาการา หุตฺวา วิรฬวาปิเต เขเตฺต องฺกุรา วิยฯ อุปฺปชฺชมานาปิ จ วฎฺฎานุสาริมหาชนเสฺสว มทฺทนฺตา ผรนฺตา ฉาเทนฺตา อนฺธการํ กโรนฺตา น อุปฺปชฺชนฺติ, มนฺทมนฺทา อุปฺปชฺชนฺติ ตนุกาการา หุตฺวา อพฺภปฎลมิว มกฺขิกาปตฺตมิว จฯ ตตฺถ เกจิ เถรา ภณนฺติ ‘‘สกทาคามิสฺส กิเลสา กิญฺจาปิ จิเรน อุปฺปชฺชนฺติ, พหลาว อุปฺปชฺชนฺติฯ ตถา หิสฺส ปุตฺตา จ ธีตโร จ ทิสฺสนฺตี’’ติฯ เอตํ ปน อปฺปมาณํฯ ปุตฺตธีตโร หิ องฺคปจฺจงฺคปรามสนมเตฺตนปิ โหนฺตีติฯ ทฺวีหิเยว การเณหิสฺส กิเลสานํ ตนุตฺตํ เวทิตพฺพํ อธิจฺจุปฺปตฺติยา จ ปริยุฎฺฐานมนฺทตาย จาติฯ
Tanubhāvāti pariyuṭṭhānamandatāya ca kadāci karahaci uppattiyā ca tanubhāvena. Tanuttañhi dvīhi kāraṇehi veditabbaṃ adhiccuppattiyā ca pariyuṭṭhānamandatāya ca. Sakadāgāmissa hi vaṭṭānusārimahājanassa viya kilesā abhiṇhaṃ na uppajjanti, kadāci karahaci uppajjanti viraḷākārā hutvā viraḷavāpite khette aṅkurā viya. Uppajjamānāpi ca vaṭṭānusārimahājanasseva maddantā pharantā chādentā andhakāraṃ karontā na uppajjanti, mandamandā uppajjanti tanukākārā hutvā abbhapaṭalamiva makkhikāpattamiva ca. Tattha keci therā bhaṇanti ‘‘sakadāgāmissa kilesā kiñcāpi cirena uppajjanti, bahalāva uppajjanti. Tathā hissa puttā ca dhītaro ca dissantī’’ti. Etaṃ pana appamāṇaṃ. Puttadhītaro hi aṅgapaccaṅgaparāmasanamattenapi hontīti. Dvīhiyeva kāraṇehissa kilesānaṃ tanuttaṃ veditabbaṃ adhiccuppattiyā ca pariyuṭṭhānamandatāya cāti.
เหฎฺฐาภาคิยานนฺติ เอตฺถ เหฎฺฐาติ มหคฺคตภูมิโต เหฎฺฐา, กามภูมิยนฺติ อโตฺถฯ เตสํ ปจฺจยภาเวน เหฎฺฐาภาคสฺส หิตาติ เหฎฺฐาภาคิยา, เตสํ เหฎฺฐาภาคิยานํ, เหฎฺฐาภาคสฺส กามภวสฺส ปจฺจยภาเวน คหิตานนฺติ อโตฺถฯ สํโยเชนฺติ พนฺธนฺติ ขนฺธคติภวาทีหิ ขนฺธคติภวาทโย, กมฺมํ วา ผเลนาติ สํโยชนานีติ อาห ‘‘สํโยชนานนฺติ พนฺธนาน’’นฺติฯ อสมุจฺฉินฺนราคาทิกสฺส หิ เอตรหิ ขนฺธาทีนํ อายติํ ขนฺธาทีหิ สมฺพโนฺธ, สมุจฺฉินฺนราคาทิกสฺส ปน ตํ นตฺถิ, กตานมฺปิ กมฺมานํ อสมตฺถภาวาปตฺติโต ราคาทีนํ อนฺวยโต พฺยติเรกโต จ สํโยชนโฎฺฐ สิโทฺธฯ ปริกฺขเยนาติ สมุเจฺฉเทนฯ
Heṭṭhābhāgiyānanti ettha heṭṭhāti mahaggatabhūmito heṭṭhā, kāmabhūmiyanti attho. Tesaṃ paccayabhāvena heṭṭhābhāgassa hitāti heṭṭhābhāgiyā, tesaṃ heṭṭhābhāgiyānaṃ, heṭṭhābhāgassa kāmabhavassa paccayabhāvena gahitānanti attho. Saṃyojenti bandhanti khandhagatibhavādīhi khandhagatibhavādayo, kammaṃ vā phalenāti saṃyojanānīti āha ‘‘saṃyojanānanti bandhanāna’’nti. Asamucchinnarāgādikassa hi etarahi khandhādīnaṃ āyatiṃ khandhādīhi sambandho, samucchinnarāgādikassa pana taṃ natthi, katānampi kammānaṃ asamatthabhāvāpattito rāgādīnaṃ anvayato byatirekato ca saṃyojanaṭṭho siddho. Parikkhayenāti samucchedena.
โอปปาติโกติ อุปปาติกโยนิโก อุปปตเน สาธุการีฯ เสสโยนิปฎิเกฺขปวจนเมตํฯ เตน คพฺภวาสทุกฺขาภาวมาหฯ ตตฺถ ปรินิพฺพายีติ อิมินา เสสทุกฺขาภาวํฯ ตตฺถ ปรินิพฺพายิตา จสฺส กามโลเก ขนฺธพีชสฺส อปุนาคมนวเสเนวาติ ทเสฺสตุํ ‘‘อนาวตฺติธโมฺม’’ติ วุตฺตํฯ อุปริเยวาติ พฺรหฺมโลเกเยวฯ อนาวตฺติธโมฺมติ ตโต พฺรหฺมโลกา ปุนปฺปุนํ ปฎิสนฺธิวเสน น อาวตฺตนธโมฺมฯ เตนาห ‘‘โยนิคติวเสน อนาคมนธโมฺม’’ติฯ
Opapātikoti upapātikayoniko upapatane sādhukārī. Sesayonipaṭikkhepavacanametaṃ. Tena gabbhavāsadukkhābhāvamāha. Tattha parinibbāyīti iminā sesadukkhābhāvaṃ. Tattha parinibbāyitā cassa kāmaloke khandhabījassa apunāgamanavasenevāti dassetuṃ ‘‘anāvattidhammo’’ti vuttaṃ. Upariyevāti brahmalokeyeva. Anāvattidhammoti tato brahmalokā punappunaṃ paṭisandhivasena na āvattanadhammo. Tenāha ‘‘yonigativasena anāgamanadhammo’’ti.
ปเทสํ ปเทสการี อาราเธตีติ สีลกฺขนฺธาทีนํ ปาริปูริยา เอกเทสภูตํ เหฎฺฐิมมคฺคตฺตยํ ปเทโส, ตํ กโรโนฺต ปเทสํ เอกเทสภูตํ เหฎฺฐิมํ ผลตฺตยเมว อาราเธติ, นิปฺผาเทตีติ อโตฺถฯ เตนาห ‘‘ปเทสการี ปุคฺคโล นาม โสตาปโนฺน’’ติอาทิฯ ปริปูรํ ปริปูรการีติ สีลกฺขนฺธาทีหิ สทฺธินฺทฺริยาทีหิ จ ปริโต ปูรเณน ปริปูรสงฺขาตํ อรหตฺตมคฺคํ กโรโนฺต นิพฺพเตฺตโนฺต ปริปูรํ อรหตฺตผลํ อาราเธติ, นิปฺผาเทตีติ อโตฺถฯ เตนาห ‘‘ปริปูรการี นาม อรหา’’ติอาทิฯ
Padesaṃpadesakārī ārādhetīti sīlakkhandhādīnaṃ pāripūriyā ekadesabhūtaṃ heṭṭhimamaggattayaṃ padeso, taṃ karonto padesaṃ ekadesabhūtaṃ heṭṭhimaṃ phalattayameva ārādheti, nipphādetīti attho. Tenāha ‘‘padesakārī puggalo nāma sotāpanno’’tiādi. Paripūraṃ paripūrakārīti sīlakkhandhādīhi saddhindriyādīhi ca parito pūraṇena paripūrasaṅkhātaṃ arahattamaggaṃ karonto nibbattento paripūraṃ arahattaphalaṃ ārādheti, nipphādetīti attho. Tenāha ‘‘paripūrakārī nāma arahā’’tiādi.
ปฐมสิกฺขาสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Paṭhamasikkhāsuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๖. ปฐมสิกฺขาสุตฺตํ • 6. Paṭhamasikkhāsuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๖. ปฐมสิกฺขาสุตฺตวณฺณนา • 6. Paṭhamasikkhāsuttavaṇṇanā