Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) |
๗. ปฐมตถาคตอจฺฉริยสุตฺตวณฺณนา
7. Paṭhamatathāgataacchariyasuttavaṇṇanā
๑๒๗. สตฺตเม ปาตุภาวาติ ปาตุภาเวนฯ กุจฺฉิํ โอกฺกมตีติ เอตฺถ กุจฺฉิํ โอกฺกโนฺต โหตีติ อโตฺถฯ โอกฺกเนฺต หิ ตสฺมิํ เอวํ โหติ, น โอกฺกมมาเนฯ อปฺปมาโณติ วุฑฺฒิปฺปมาโณ, วิปุโลติ อโตฺถฯ อุฬาโรติ ตเสฺสว เววจนํฯ เทวานํ เทวานุภาวนฺติ เอตฺถ เทวานํ อยมานุภาโว – นิวตฺถวตฺถสฺส ปภา ทฺวาทส โยชนานิ ผรติ, ตถา สรีรสฺส, ตถา วิมานสฺส, ตํ อติกฺกมิตฺวาติ อโตฺถฯ โลกนฺตริกาติ ติณฺณํ ติณฺณํ จกฺกวาฬานํ อนฺตรา เอเกโก โลกนฺตริโก โหติ, ติณฺณํ สกฎจกฺกานํ ปตฺตานํ วา อญฺญมญฺญํ อาหจฺจ ฐปิตานํ มเชฺฌ โอกาโส วิยฯ โส ปน โลกนฺตริกนิรโย ปริมาณโต อฎฺฐโยชนสหสฺสปฺปมาโณ โหติฯ อฆาติ นิจฺจวิวฎาฯ อสํวุตาติ เหฎฺฐาปิ อปฺปติฎฺฐาฯ อนฺธการาติ ตมภูตาฯ อนฺธการติมิสาติ จกฺขุวิญฺญาณุปฺปตฺตินิวารณโต อนฺธภาวกรณติมิสาย สมนฺนาคตาฯ ตตฺถ กิร จกฺขุวิญฺญาณํ น ชายติฯ เอวํมหิทฺธิกานนฺติ จนฺทิมสูริยา กิร เอกปฺปหาเรเนว ตีสุ ทีเปสุ ปญฺญายนฺติ, เอวํมหิทฺธิกาฯ เอเกกาย ทิสาย นว นว โยชนสตสหสฺสานิ อนฺธการํ วิธมิตฺวา อาโลกํ ทเสฺสนฺติ, เอวํมหานุภาวาฯ อาภา นานุโภนฺตีติ ปภา นปฺปโหนฺติฯ เต กิร จกฺกวาฬปพฺพตสฺส เวมเชฺฌน จรนฺติ จกฺกวาฬปพฺพตญฺจ อติกฺกมิตฺวา โลกนฺตรนิรยาฯ ตสฺมา เตสํ ตตฺถ อาภา นปฺปโหนฺติฯ
127. Sattame pātubhāvāti pātubhāvena. Kucchiṃ okkamatīti ettha kucchiṃ okkanto hotīti attho. Okkante hi tasmiṃ evaṃ hoti, na okkamamāne. Appamāṇoti vuḍḍhippamāṇo, vipuloti attho. Uḷāroti tasseva vevacanaṃ. Devānaṃ devānubhāvanti ettha devānaṃ ayamānubhāvo – nivatthavatthassa pabhā dvādasa yojanāni pharati, tathā sarīrassa, tathā vimānassa, taṃ atikkamitvāti attho. Lokantarikāti tiṇṇaṃ tiṇṇaṃ cakkavāḷānaṃ antarā ekeko lokantariko hoti, tiṇṇaṃ sakaṭacakkānaṃ pattānaṃ vā aññamaññaṃ āhacca ṭhapitānaṃ majjhe okāso viya. So pana lokantarikanirayo parimāṇato aṭṭhayojanasahassappamāṇo hoti. Aghāti niccavivaṭā. Asaṃvutāti heṭṭhāpi appatiṭṭhā. Andhakārāti tamabhūtā. Andhakāratimisāti cakkhuviññāṇuppattinivāraṇato andhabhāvakaraṇatimisāya samannāgatā. Tattha kira cakkhuviññāṇaṃ na jāyati. Evaṃmahiddhikānanti candimasūriyā kira ekappahāreneva tīsu dīpesu paññāyanti, evaṃmahiddhikā. Ekekāya disāya nava nava yojanasatasahassāni andhakāraṃ vidhamitvā ālokaṃ dassenti, evaṃmahānubhāvā. Ābhā nānubhontīti pabhā nappahonti. Te kira cakkavāḷapabbatassa vemajjhena caranti cakkavāḷapabbatañca atikkamitvā lokantaranirayā. Tasmā tesaṃ tattha ābhā nappahonti.
เยปิ ตตฺถ สตฺตาติ เยปิ ตสฺมิํ โลกนฺตรมหานิรเย สตฺตา อุปปนฺนาฯ กิํ ปน กมฺมํ กตฺวา ตตฺถ อุปฺปชฺชนฺตีติ? ภาริยํ ทารุณํ มาตาปิตูนํ ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานญฺจ อุปริ อปราธํ, อญฺญญฺจ ทิวเส ทิวเส ปาณวธาทิสาหสิกกมฺมํ กตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ ตมฺพปณฺณิทีเป อภยโจรนาคโจราทโย วิยฯ เตสํ อตฺตภาโว ติคาวุติโก โหติ, วคฺคุลีนํ วิย ทีฆนขา โหนฺติฯ เต รุเกฺข วคฺคุลิโย วิย นเขหิ จกฺกวาฬปพฺพตปาเท ลคฺคนฺติฯ ยทา สํสปฺปนฺตา อญฺญมญฺญสฺส หตฺถปาสคตา โหนฺติ, อถ ‘‘ภโกฺข โน ลโทฺธ’’ติ มญฺญมานา ตตฺถ พฺยาวฎา วิปริวตฺติตฺวา โลกสนฺธารกอุทเก ปตนฺติ, วาเต ปหรเนฺตปิ มธุกผลานิ วิย ฉิชฺชิตฺวา อุทเก ปตนฺติ, ปติตมตฺตาว อจฺจนฺตขาเร อุทเก ปิฎฺฐปิณฺฑิ วิย วิลียนฺติฯ อเญฺญปิ กิร โภ สนฺติ สตฺตาติ โภ ยถา มยํ มหาทุกฺขํ อนุภวาม, เอวํ อเญฺญปิ กิร สตฺตา อิทํ ทุกฺขํ อนุภวนตฺถาย อิธูปปนฺนาติ ตํทิวสํ ปสฺสนฺติฯ อยํ ปน โอภาโส เอกยาคุปานมตฺตมฺปิ น ติฎฺฐติฯ ยาวตา นิทฺทายิตฺวา ปพุโทฺธ อารมฺมณํ วิภาเวติ , ตตฺตกํ กาลํ โหติฯ ทีฆภาณกา ปน ‘‘อจฺฉราสงฺฆาตมตฺตเมว วิชฺชุโอภาโส วิย นิจฺฉริตฺวา กิํ อิทนฺติ ภณนฺตานํเยว อนฺตรธายตี’’ติ วทนฺติฯ
Yepi tattha sattāti yepi tasmiṃ lokantaramahāniraye sattā upapannā. Kiṃ pana kammaṃ katvā tattha uppajjantīti? Bhāriyaṃ dāruṇaṃ mātāpitūnaṃ dhammikasamaṇabrāhmaṇānañca upari aparādhaṃ, aññañca divase divase pāṇavadhādisāhasikakammaṃ katvā uppajjanti tambapaṇṇidīpe abhayacoranāgacorādayo viya. Tesaṃ attabhāvo tigāvutiko hoti, vaggulīnaṃ viya dīghanakhā honti. Te rukkhe vagguliyo viya nakhehi cakkavāḷapabbatapāde lagganti. Yadā saṃsappantā aññamaññassa hatthapāsagatā honti, atha ‘‘bhakkho no laddho’’ti maññamānā tattha byāvaṭā viparivattitvā lokasandhārakaudake patanti, vāte paharantepi madhukaphalāni viya chijjitvā udake patanti, patitamattāva accantakhāre udake piṭṭhapiṇḍi viya vilīyanti. Aññepi kira bho santi sattāti bho yathā mayaṃ mahādukkhaṃ anubhavāma, evaṃ aññepi kira sattā idaṃ dukkhaṃ anubhavanatthāya idhūpapannāti taṃdivasaṃ passanti. Ayaṃ pana obhāso ekayāgupānamattampi na tiṭṭhati. Yāvatā niddāyitvā pabuddho ārammaṇaṃ vibhāveti , tattakaṃ kālaṃ hoti. Dīghabhāṇakā pana ‘‘accharāsaṅghātamattameva vijjuobhāso viya niccharitvā kiṃ idanti bhaṇantānaṃyeva antaradhāyatī’’ti vadanti.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๗. ปฐมตถาคตอจฺฉริยสุตฺตํ • 7. Paṭhamatathāgataacchariyasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๗. ปฐมตถาคตอจฺฉริยสุตฺตวณฺณนา • 7. Paṭhamatathāgataacchariyasuttavaṇṇanā