Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā

    ๘. ปฐมอุปกฺขฎสิกฺขาปทวณฺณนา

    8. Paṭhamaupakkhaṭasikkhāpadavaṇṇanā

    ๕๒๗. เตน สมเยนาติ อุปกฺขฎสิกฺขาปทํฯ ตตฺถ อตฺถาวุโส มํ โส อุปฎฺฐาโกติ อาวุโส, ยํ ตฺวํ ภณสิ, อตฺถิ เอวรูโป โส มม อุปฎฺฐาโกติ อยเมตฺถ อโตฺถฯ อปิ เมยฺย เอวํ โหตีติ อปิ เม อยฺย เอวํ โหติ, อปิ มยฺยา เอวนฺติปิ ปาโฐฯ

    527.Tenasamayenāti upakkhaṭasikkhāpadaṃ. Tattha atthāvuso maṃ so upaṭṭhākoti āvuso, yaṃ tvaṃ bhaṇasi, atthi evarūpo so mama upaṭṭhākoti ayamettha attho. Api meyya evaṃ hotīti api me ayya evaṃ hoti, api mayyā evantipi pāṭho.

    ๕๒๘-๙. ภิกฺขุํ ปเนว อุทฺทิสฺสาติ เอตฺถ อุทฺทิสฺสาติ อปทิสฺส อารพฺภฯ ยสฺมา ปน ยํ อุทฺทิสฺส อุปกฺขฎํ โหติ, ตํ ตสฺสตฺถาย อุปกฺขฎํ นาม โหติฯ ตสฺมาสฺส ปทภาชเน ‘‘ภิกฺขุสฺสตฺถายา’’ติ วุตฺตํฯ

    528-9.Bhikkhuṃ paneva uddissāti ettha uddissāti apadissa ārabbha. Yasmā pana yaṃ uddissa upakkhaṭaṃ hoti, taṃ tassatthāya upakkhaṭaṃ nāma hoti. Tasmāssa padabhājane ‘‘bhikkhussatthāyā’’ti vuttaṃ.

    ภิกฺขุํ อารมฺมณํ กริตฺวาติ ภิกฺขุํ ปจฺจยํ กตฺวา, ยญฺหิ ภิกฺขุํ อุทฺทิสฺส อุปกฺขฎํ, ตํ นิยเมเนว ภิกฺขุํ ปจฺจยํ กตฺวา อุปกฺขฎํ โหติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘ภิกฺขุํ อารมฺมณํ กริตฺวา’’ติฯ ปจฺจโยปิ หิ ‘‘ลภติ มาโร อารมฺมณ’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๒๔๓) อารมฺมณนฺติ อาคโตฯ อิทานิ ‘‘อุทฺทิสฺสา’’ติ เอตฺถ โย กตฺตา, ตสฺส อาการทสฺสนตฺถํ ‘‘ภิกฺขุํ อจฺฉาเทตุกาโม’’ติ วุตฺตํฯ ภิกฺขุํ อจฺฉาเทตุกาเมน หิ เตน ตํ อุทฺทิสฺส อุปกฺขฎํ, น อเญฺญน การเณนฯ อิติ โส อจฺฉาเทตุกาโม โหติฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘ภิกฺขุํ อจฺฉาเทตุกาโม’’ติฯ

    Bhikkhuṃ ārammaṇaṃ karitvāti bhikkhuṃ paccayaṃ katvā, yañhi bhikkhuṃ uddissa upakkhaṭaṃ, taṃ niyameneva bhikkhuṃ paccayaṃ katvā upakkhaṭaṃ hoti, tena vuttaṃ – ‘‘bhikkhuṃ ārammaṇaṃ karitvā’’ti. Paccayopi hi ‘‘labhati māro ārammaṇa’’ntiādīsu (saṃ. ni. 4.243) ārammaṇanti āgato. Idāni ‘‘uddissā’’ti ettha yo kattā, tassa ākāradassanatthaṃ ‘‘bhikkhuṃ acchādetukāmo’’ti vuttaṃ. Bhikkhuṃ acchādetukāmena hi tena taṃ uddissa upakkhaṭaṃ, na aññena kāraṇena. Iti so acchādetukāmo hoti. Tena vuttaṃ – ‘‘bhikkhuṃ acchādetukāmo’’ti.

    อญฺญาตกสฺส คหปติสฺส วาติ อญฺญาตเกน คหปตินา วาติ อโตฺถฯ กรณเตฺถ หิ อิทํ สามิวจนํฯ ปทภาชเน ปน พฺยญฺชนํ อวิจาเรตฺวา อตฺถมตฺตเมว ทเสฺสตุํ ‘‘อญฺญาตโก นาม…เป.… คหปติ นามา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ

    Aññātakassagahapatissa vāti aññātakena gahapatinā vāti attho. Karaṇatthe hi idaṃ sāmivacanaṃ. Padabhājane pana byañjanaṃ avicāretvā atthamattameva dassetuṃ ‘‘aññātako nāma…pe… gahapati nāmā’’tiādi vuttaṃ.

    จีวรเจตาปนฺนนฺติ จีวรมูลํ, ตํ ปน ยสฺมา หิรญฺญาทีสุ อญฺญตรํ โหติ, ตสฺมา ปทภาชเน ‘‘หิรญฺญํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อุปกฺขฎํ โหตีติ สชฺชิตํ โหติ, สํหริตฺวา ฐปิตํ, ยสฺมา ปน ‘‘หิรญฺญํ วา’’ติอาทินา วจเนนสฺส อุปกฺขฎภาโว ทสฺสิโต โหติ, ตสฺมา ‘‘อุปกฺขฎํ นามา’’ติ ปทํ อุทฺธริตฺวา วิสุํ ปทภาชนํ น วุตฺตํฯ อิมินาติ อุปกฺขฎํ สนฺธายาห, เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘ปจฺจุปฎฺฐิเตนา’’ติ วุตฺตํฯ ยญฺหิ อุปกฺขฎํ สํหริตฺวา ฐปิตํ, ตํ ปจฺจุปฎฺฐิตํ โหตีติฯ อจฺฉาเทสฺสามีติ โวหารวจนเมตํ ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสามี’’ติ อยํ ปเนตฺถ อโตฺถฯ เตเนวสฺส ปทภาชเนปิ ‘‘ทสฺสามี’’ติ วุตฺตํฯ

    Cīvaracetāpannanti cīvaramūlaṃ, taṃ pana yasmā hiraññādīsu aññataraṃ hoti, tasmā padabhājane ‘‘hiraññaṃ vā’’tiādi vuttaṃ. Upakkhaṭaṃ hotīti sajjitaṃ hoti, saṃharitvā ṭhapitaṃ, yasmā pana ‘‘hiraññaṃ vā’’tiādinā vacanenassa upakkhaṭabhāvo dassito hoti, tasmā ‘‘upakkhaṭaṃ nāmā’’ti padaṃ uddharitvā visuṃ padabhājanaṃ na vuttaṃ. Imināti upakkhaṭaṃ sandhāyāha, tenevassa padabhājane ‘‘paccupaṭṭhitenā’’ti vuttaṃ. Yañhi upakkhaṭaṃ saṃharitvā ṭhapitaṃ, taṃ paccupaṭṭhitaṃ hotīti. Acchādessāmīti vohāravacanametaṃ ‘‘itthannāmassa bhikkhuno dassāmī’’ti ayaṃ panettha attho. Tenevassa padabhājanepi ‘‘dassāmī’’ti vuttaṃ.

    ตตฺร เจ โส ภิกฺขูติ ยตฺร โส คหปติ วา คหปตานี วา ตตฺร โส ภิกฺขุ ปุเพฺพ อปฺปวาริโต อุปสงฺกมิตฺวา จีวเร วิกปฺปํ อาปเชฺชยฺย เจติ อยเมตฺถ ปทสมฺพโนฺธฯ ตตฺถ อุปสงฺกมิตฺวาติ อิมสฺส คนฺตฺวาติ อิมินาว อเตฺถ สิเทฺธ ปจุรโวหารวเสน ‘‘ฆร’’นฺติ วุตฺตํฯ ยตฺร ปน โส ทายโก ตตฺร คนฺตฺวาติ อยเมเวตฺถ อโตฺถ, ตสฺมา ปุนปิ วุตฺตํ ‘‘ยตฺถ กตฺถจิ อุปสงฺกมิตฺวา’’ติฯ วิกปฺปํ อาปเชฺชยฺยาติ วิสิฎฺฐกปฺปํ อธิกวิธานํ อาปเชฺชยฺย, ปทภาชเน ปน เยนากาเรน วิกปฺปํ อาปโนฺน โหติ ตเมว ทเสฺสตุํ ‘‘อายตํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ สาธูติ อายาจเน นิปาโตฯ วตาติ ปริวิตเกฺกฯ นฺติ อตฺตานํ นิทฺทิสติฯ อายสฺมาติ ปรํ อาลปติ อามเนฺตติฯ ยสฺมา ปนิทํ สพฺพํ พฺยญฺชนมตฺตเมว, อุตฺตานตฺถเมว, ตสฺมาสฺส ปทภาชเน อโตฺถ น วุโตฺตฯ กลฺยาณกมฺยตํ อุปาทายาติ สุนฺทรกามตํ วิสิฎฺฐกามตํ จิเตฺตน คเหตฺวา, ตสฺส ‘‘อาปเชฺชยฺย เจ’’ติ อิมินา สมฺพโนฺธฯ ยสฺมา ปน โย กลฺยาณกมฺยตํ อุปาทาย อาปชฺชติ, โส สาธตฺถิโก มหคฺฆตฺถิโก โหติ, ตสฺมาสฺส ปทภาชเน พฺยญฺชนํ ปหาย อธิเปฺปตตฺถเมว ทเสฺสตุํ ตเทว วจนํ วุตฺตํฯ ยสฺมา ปน น อิมสฺส อาปชฺชนมเตฺตเนว อาปตฺติ สีสํ เอติ, ตสฺมา ‘‘ตสฺส วจเนนา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ

    Tatra ce so bhikkhūti yatra so gahapati vā gahapatānī vā tatra so bhikkhu pubbe appavārito upasaṅkamitvā cīvare vikappaṃ āpajjeyya ceti ayamettha padasambandho. Tattha upasaṅkamitvāti imassa gantvāti imināva atthe siddhe pacuravohāravasena ‘‘ghara’’nti vuttaṃ. Yatra pana so dāyako tatra gantvāti ayamevettha attho, tasmā punapi vuttaṃ ‘‘yattha katthaci upasaṅkamitvā’’ti. Vikappaṃ āpajjeyyāti visiṭṭhakappaṃ adhikavidhānaṃ āpajjeyya, padabhājane pana yenākārena vikappaṃ āpanno hoti tameva dassetuṃ ‘‘āyataṃ vā’’tiādi vuttaṃ. Sādhūti āyācane nipāto. Vatāti parivitakke. Manti attānaṃ niddisati. Āyasmāti paraṃ ālapati āmanteti. Yasmā panidaṃ sabbaṃ byañjanamattameva, uttānatthameva, tasmāssa padabhājane attho na vutto. Kalyāṇakamyataṃ upādāyāti sundarakāmataṃ visiṭṭhakāmataṃ cittena gahetvā, tassa ‘‘āpajjeyya ce’’ti iminā sambandho. Yasmā pana yo kalyāṇakamyataṃ upādāya āpajjati, so sādhatthiko mahagghatthiko hoti, tasmāssa padabhājane byañjanaṃ pahāya adhippetatthameva dassetuṃ tadeva vacanaṃ vuttaṃ. Yasmā pana na imassa āpajjanamatteneva āpatti sīsaṃ eti, tasmā ‘‘tassa vacanenā’’tiādi vuttaṃ.

    ๕๓๑. อนาปตฺติ ญาตกานนฺติอาทีสุ ญาตกานํ จีวเร วิกปฺปํ อาปชฺชนฺตสฺส อนาปตฺตีติ เอวมโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ มหคฺฆํ เจตาเปตุกามสฺส อปฺปคฺฆํ เจตาเปตีติ คหปติสฺส วีสติอคฺฆนกํ จีวรํ เจตาเปตุกามสฺส ‘‘อลํ มยฺหํ เอเตน, ทสคฺฆนกํ วา อฎฺฐคฺฆนกํ วา เทหี’’ติ วทติ อนาปตฺติฯ อปฺปคฺฆนฺติ อิทญฺจ อติเรกนิวารณตฺถเมว วุตฺตํ, สมเกปิ ปน อนาปตฺติ , ตญฺจ โข อคฺฆวเสเนว น ปมาณวเสน, อคฺฆวฑฺฒนกญฺหิ อิทํ สิกฺขาปทํฯ ตสฺมา โย วีสติอคฺฆนกํ อนฺตรวาสกํ เจตาเปตุกาโม , ‘‘ตํ เอตฺตกเมว เม อคฺฆนกํ จีวรํ เทหี’’ติ วตฺตุมฺปิ วฎฺฎติฯ เสสํ อุตฺตานตฺถเมวฯ

    531.Anāpatti ñātakānantiādīsu ñātakānaṃ cīvare vikappaṃ āpajjantassa anāpattīti evamattho daṭṭhabbo. Mahagghaṃ cetāpetukāmassa appagghaṃ cetāpetīti gahapatissa vīsatiagghanakaṃ cīvaraṃ cetāpetukāmassa ‘‘alaṃ mayhaṃ etena, dasagghanakaṃ vā aṭṭhagghanakaṃ vā dehī’’ti vadati anāpatti. Appagghanti idañca atirekanivāraṇatthameva vuttaṃ, samakepi pana anāpatti , tañca kho agghavaseneva na pamāṇavasena, agghavaḍḍhanakañhi idaṃ sikkhāpadaṃ. Tasmā yo vīsatiagghanakaṃ antaravāsakaṃ cetāpetukāmo , ‘‘taṃ ettakameva me agghanakaṃ cīvaraṃ dehī’’ti vattumpi vaṭṭati. Sesaṃ uttānatthameva.

    สมุฎฺฐานาทีนิปิ ตตุตฺตริสิกฺขาปทสทิสาเนวาติฯ

    Samuṭṭhānādīnipi tatuttarisikkhāpadasadisānevāti.

    ปฐมอุปกฺขฎสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Paṭhamaupakkhaṭasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๘. อุปกฺขฎสิกฺขาปทํ • 8. Upakkhaṭasikkhāpadaṃ

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๘. ปฐมอุปกฺขฎสิกฺขาปทวณฺณนา • 8. Paṭhamaupakkhaṭasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๘. ปฐมอุปกฺขฎสิกฺขาปทวณฺณนา • 8. Paṭhamaupakkhaṭasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๘. ปฐมอุปกฺขฎสิกฺขาปทวณฺณนา • 8. Paṭhamaupakkhaṭasikkhāpadavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact