Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) |
๓. อุรุเวลวโคฺค
3. Uruvelavaggo
๑. ปฐมอุรุเวลสุตฺตวณฺณนา
1. Paṭhamauruvelasuttavaṇṇanā
๒๑. ตติยสฺส ปฐเม มหาเวลา วิย มหาเวลา, วิปุลวาลิกปุญฺชตาย มหโนฺต เวลาตโฎ วิยาติ อโตฺถฯ เตนาห ‘‘มหาวาลิกราสีติ อโตฺถ’’ติฯ อุรุ, มรุ, สิกตา, วาลุกา, วณฺณุ, วาลิกาติ อิเม สทฺทา สมานตฺถา, พฺยญฺชนเมว นานํฯ เตนาห ‘‘อุรูติ วาลิกา วุจฺจตี’’ติฯ
21. Tatiyassa paṭhame mahāvelā viya mahāvelā, vipulavālikapuñjatāya mahanto velātaṭo viyāti attho. Tenāha ‘‘mahāvālikarāsīti attho’’ti. Uru, maru, sikatā, vālukā, vaṇṇu, vālikāti ime saddā samānatthā, byañjanameva nānaṃ. Tenāha ‘‘urūti vālikā vuccatī’’ti.
นชฺชาติ นทติ สทฺทายตีติ นที, ตสฺสา นชฺชา, นทิยา นินฺนคายาติ อโตฺถฯ เนรญฺชรายาติ ‘‘เนลญฺชลายา’’ติ วตฺตเพฺพ ล-การสฺส ร-การํ กตฺวา ‘‘เนรญฺชรายา’’ติ วุตฺตํ, กทฺทมเสวาลปณกาทิโทสรหิตสลิลายาติ อโตฺถฯ เกจิ ‘‘นีลํ-ชลายาติ วตฺตเพฺพ เนรญฺชรายา’’ติ วทนฺติฯ นามเมว วา เอตํ ตสฺสา นทิยาติ เวทิตพฺพํฯ ตสฺสา นทิยา ตีเร ยตฺถ ภควา วิหาสิ, ตํ ทเสฺสตุํ ‘‘อชปาลนิโคฺรเธ’’ติ วุตฺตํฯ กสฺมา ปนายํ อชปาลนิโคฺรโธ นาม ชาโตติ อาห ‘‘ตสฺสา’’ติอาทิฯ เกจิ ปน ‘‘ยสฺมา ตตฺถ เวเท สชฺฌายิตุํ อสมตฺถา มหลฺลกพฺราหฺมณา ปาการปริเกฺขปยุตฺตานิ นิเวสนานิ กตฺวา สเพฺพ วสิํสุ, ตสฺมาสฺส อชปาลนิโคฺรโธติ นามํ ชาต’’นฺติ วทนฺติ ฯ ตตฺรายํ วจนโตฺถ – น ชปนฺตีติ อชปา, มนฺตานํ อนชฺฌายกาติ อโตฺถฯ อชปาลนฺติ อาทิยนฺติ นิวาสํ เอตฺถาติ อชปาโลติฯ อปเร ปน วทนฺติ ‘‘ยสฺมา มชฺฌนฺหิกสมเย อโนฺตปวิเฎฺฐ อเช อตฺตโน ฉายาย ปาเลติ รกฺขติ, ตสฺมา ‘อชปาโล’ติสฺส นามํ รุฬฺห’’นฺติฯ สพฺพตฺถาปิ นามเมตํ ตสฺส รุกฺขสฺสฯ
Najjāti nadati saddāyatīti nadī, tassā najjā, nadiyā ninnagāyāti attho. Nerañjarāyāti ‘‘nelañjalāyā’’ti vattabbe la-kārassa ra-kāraṃ katvā ‘‘nerañjarāyā’’ti vuttaṃ, kaddamasevālapaṇakādidosarahitasalilāyāti attho. Keci ‘‘nīlaṃ-jalāyāti vattabbe nerañjarāyā’’ti vadanti. Nāmameva vā etaṃ tassā nadiyāti veditabbaṃ. Tassā nadiyā tīre yattha bhagavā vihāsi, taṃ dassetuṃ ‘‘ajapālanigrodhe’’ti vuttaṃ. Kasmā panāyaṃ ajapālanigrodho nāma jātoti āha ‘‘tassā’’tiādi. Keci pana ‘‘yasmā tattha vede sajjhāyituṃ asamatthā mahallakabrāhmaṇā pākāraparikkhepayuttāni nivesanāni katvā sabbe vasiṃsu, tasmāssa ajapālanigrodhoti nāmaṃ jāta’’nti vadanti . Tatrāyaṃ vacanattho – na japantīti ajapā, mantānaṃ anajjhāyakāti attho. Ajapālanti ādiyanti nivāsaṃ etthāti ajapāloti. Apare pana vadanti ‘‘yasmā majjhanhikasamaye antopaviṭṭhe aje attano chāyāya pāleti rakkhati, tasmā ‘ajapālo’tissa nāmaṃ ruḷha’’nti. Sabbatthāpi nāmametaṃ tassa rukkhassa.
ปฐมาภิสมฺพุโทฺธติ ปฐมํ อภิสมฺพุโทฺธ, อนุนาสิกโลเปนายํ นิเทฺทโสฯ เตเนวาห ‘‘สมฺพุโทฺธ หุตฺวา ปฐมเมวา’’ติฯ ปฐมนฺติ จ ภาวนปุํสกนิเทฺทโส, ตสฺมา อภิสมฺพุโทฺธ หุตฺวา ปฐมํ อชปาลนิโคฺรเธ วิหรามีติ เอวเมตฺถ สมฺพโนฺธ เวทิตโพฺพฯ อยํ วิตโกฺกติ อยํ ‘‘กินฺนุ ขฺวาหํ…เป.… วิหเรยฺย’’นฺติ เอวํ ปวตฺตวิตโกฺกฯ หตฺถี จ วานโร จ ติตฺติโร จ หตฺถิวานรติตฺติราฯ
Paṭhamābhisambuddhoti paṭhamaṃ abhisambuddho, anunāsikalopenāyaṃ niddeso. Tenevāha ‘‘sambuddho hutvā paṭhamamevā’’ti. Paṭhamanti ca bhāvanapuṃsakaniddeso, tasmā abhisambuddho hutvā paṭhamaṃ ajapālanigrodhe viharāmīti evamettha sambandho veditabbo. Ayaṃ vitakkoti ayaṃ ‘‘kinnu khvāhaṃ…pe… vihareyya’’nti evaṃ pavattavitakko. Hatthī ca vānaro ca tittiro ca hatthivānaratittirā.
เย วุทฺธมปจายนฺตีติ ชาติวุโทฺธ, วโยวุโทฺธ, คุณวุโทฺธติ ตโย วุทฺธาฯ เตสุ ชาติสมฺปโนฺน ชาติวุโทฺธ นาม, วเย ฐิโต วโยวุโทฺธ นาม, คุณสมฺปโนฺน คุณวุโทฺธ นามฯ เตสุ คุณสมฺปโนฺน วโยวุโทฺธ อิมสฺมิํ ฐาเน วุโทฺธติ อธิเปฺปโตฯ อปจายนฺตีติ เชฎฺฐาปจายิกากเมฺมน ปูเชนฺติฯ ธมฺมสฺส โกวิทาติ เชฎฺฐาปจายนธมฺมสฺส โกวิทา กุสลาฯ ทิเฎฺฐว ธเมฺมติ อิมสฺมิํเยว อตฺตภาเวฯ ปาสํสาติ ปสํสารหาฯ สมฺปราเย จ สุคฺคตีติ สมฺปเรตเพฺพ อิมํ โลกํ หิตฺวา คนฺตเพฺพ ปรโลเกปิ เตสํ สุคติเยวฯ อยํ ปเนตฺถ ปิณฺฑโตฺถ – ขตฺติยา วา โหนฺตุ พฺราหฺมณา วา เวสฺสา วา สุทฺทา วา คหฎฺฐา วา ปพฺพชิตา วา ติรจฺฉานคตา วา, เย เกจิ สตฺตา เชฎฺฐาปจิติกเมฺมน สีลาทิคุณสมฺปนฺนานํ วโยวุทฺธานํ อปจิติํ กโรนฺติ, เต อิมสฺมิญฺจ อตฺตภาเว เชฎฺฐาปจิติการกาติ ปสํสํ วณฺณนํ โถมนํ ลภนฺติ, กายสฺส จ เภทา สเคฺค นิพฺพตฺตนฺตีติฯ
Ye vuddhamapacāyantīti jātivuddho, vayovuddho, guṇavuddhoti tayo vuddhā. Tesu jātisampanno jātivuddho nāma, vaye ṭhito vayovuddho nāma, guṇasampanno guṇavuddho nāma. Tesu guṇasampanno vayovuddho imasmiṃ ṭhāne vuddhoti adhippeto. Apacāyantīti jeṭṭhāpacāyikākammena pūjenti. Dhammassa kovidāti jeṭṭhāpacāyanadhammassa kovidā kusalā. Diṭṭheva dhammeti imasmiṃyeva attabhāve. Pāsaṃsāti pasaṃsārahā. Samparāye ca suggatīti samparetabbe imaṃ lokaṃ hitvā gantabbe paralokepi tesaṃ sugatiyeva. Ayaṃ panettha piṇḍattho – khattiyā vā hontu brāhmaṇā vā vessā vā suddā vā gahaṭṭhā vā pabbajitā vā tiracchānagatā vā, ye keci sattā jeṭṭhāpacitikammena sīlādiguṇasampannānaṃ vayovuddhānaṃ apacitiṃ karonti, te imasmiñca attabhāve jeṭṭhāpacitikārakāti pasaṃsaṃ vaṇṇanaṃ thomanaṃ labhanti, kāyassa ca bhedā sagge nibbattantīti.
อญฺญสฺมินฺติ ปรสฺมิํฯ อตฺตา น โหตีติ อโญฺญ, ปโรฯ โส ปเนตฺถ น โย โกจิ อธิเปฺปโต, อถ โข ครุฎฺฐานิโยฯ เตนาห ‘‘กญฺจิ ครุฎฺฐาเน อฎฺฐเปตฺวา’’ติฯ ปติสฺสติ ครุโน อาณํ สมฺปฎิจฺฉตีติ ปติโสฺส, น ปติโสฺส อปฺปติโสฺส, ปติสฺสยรหิโต, ครุปสฺสยรหิโตติ อโตฺถฯ
Aññasminti parasmiṃ. Attā na hotīti añño, paro. So panettha na yo koci adhippeto, atha kho garuṭṭhāniyo. Tenāha ‘‘kañci garuṭṭhāne aṭṭhapetvā’’ti. Patissati garuno āṇaṃ sampaṭicchatīti patisso, na patisso appatisso, patissayarahito, garupassayarahitoti attho.
สเทวเกติ อวยเวน วิคฺคโห สมุทาโย สมาสโตฺถฯ สเทวกคฺคหเณน ปญฺจกามาวจรเทวคฺคหณํ ปาริเสสญาเยน อิตเรสํ ปทนฺตเรหิ สงฺคหิตตฺตาฯ สมารกคฺคหเณน ฉฎฺฐกามาวจรเทวคฺคหณํ ปจฺจาสตฺติญาเยนฯ ตตฺถ หิ มาโร ชาโต ตนฺนิวาสี จ โหติฯ สพฺรหฺมกวจเนน พฺรหฺมกายิกาทิพฺรหฺมคฺคหณํ ปจฺจาสตฺติญาเยเนวฯ สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชายาติ สาสนสฺส ปจฺจตฺถิกสมณพฺราหฺมณคฺคหณํฯ นิทสฺสนมตฺตเญฺจตํ อปจฺจตฺถิกานํ อสมิตาพาหิตปาปานญฺจ สมณพฺราหฺมณานํ เตเนว วจเนน คหิตตฺตาฯ กามํ ‘‘สเทวเก’’ติอาทิวิเสสนานํ วเสน สตฺตวิสโย โลกสโทฺทติ วิญฺญายติ ตุลฺยโยควิสยตฺตา เตสํ, ‘‘สโลมโก สปกฺขโก’’ติอาทีสุ ปน อตุลฺยโยเค อยํ สมาโส ลพฺภตีติ พฺยภิจารทสฺสนโต ปชาคหณนฺติ ปชาวจเนน สตฺตโลกคฺคหณํฯ
Sadevaketi avayavena viggaho samudāyo samāsattho. Sadevakaggahaṇena pañcakāmāvacaradevaggahaṇaṃ pārisesañāyena itaresaṃ padantarehi saṅgahitattā. Samārakaggahaṇena chaṭṭhakāmāvacaradevaggahaṇaṃ paccāsattiñāyena. Tattha hi māro jāto tannivāsī ca hoti. Sabrahmakavacanena brahmakāyikādibrahmaggahaṇaṃ paccāsattiñāyeneva. Sassamaṇabrāhmaṇiyā pajāyāti sāsanassa paccatthikasamaṇabrāhmaṇaggahaṇaṃ. Nidassanamattañcetaṃ apaccatthikānaṃ asamitābāhitapāpānañca samaṇabrāhmaṇānaṃ teneva vacanena gahitattā. Kāmaṃ ‘‘sadevake’’tiādivisesanānaṃ vasena sattavisayo lokasaddoti viññāyati tulyayogavisayattā tesaṃ, ‘‘salomako sapakkhako’’tiādīsu pana atulyayoge ayaṃ samāso labbhatīti byabhicāradassanato pajāgahaṇanti pajāvacanena sattalokaggahaṇaṃ.
เทวภาวสามเญฺญน มารพฺรเหฺมสุ คหิเตสุปิ อิตเรหิ เตสํ ลพฺภมานวิเสสทสฺสนตฺถํ วิสุํ คหณนฺติ ทเสฺสโนฺต ‘‘มาโร นามา’’ติอาทิมาหฯ มาโร พฺรหฺมานมฺปิ วิจกฺขุกมฺมาย ปโหตีติ อาห ‘‘สเพฺพส’’นฺติฯ อุปรีติ อุปริภาเคฯ พฺรหฺมาติ ทสสหสฺสิพฺรหฺมานํ สนฺธายาหฯ ตถา จาห ‘‘ทสหิ องฺคุลีหี’’ติอาทิฯ อิธ ทีฆนิกายาทโย วิย พาหิรกานมฺปิ คนฺถนิกาโย ลพฺภตีติ อาห ‘‘เอกนิกายาทิวเสนา’’ติฯ วตฺถุวิชฺชาทีติ อาทิ-สเทฺทน วิชฺชาฎฺฐานานิ สงฺคยฺหนฺติฯ ยถาสกํ กมฺมกิเลเสหิ ปชาตตฺตา นิพฺพตฺตตฺตา ปชา, สตฺตนิกาโย, ตสฺสา ปชายฯ สเทวมนุสฺสายาติ วา อิมินา สมฺมุติเทวคฺคหณํ ตทวสิฎฺฐมนุสฺสโลกคฺคหณญฺจ ทฎฺฐพฺพํฯ
Devabhāvasāmaññena mārabrahmesu gahitesupi itarehi tesaṃ labbhamānavisesadassanatthaṃ visuṃ gahaṇanti dassento ‘‘māro nāmā’’tiādimāha. Māro brahmānampi vicakkhukammāya pahotīti āha ‘‘sabbesa’’nti. Uparīti uparibhāge. Brahmāti dasasahassibrahmānaṃ sandhāyāha. Tathā cāha ‘‘dasahi aṅgulīhī’’tiādi. Idha dīghanikāyādayo viya bāhirakānampi ganthanikāyo labbhatīti āha ‘‘ekanikāyādivasenā’’ti. Vatthuvijjādīti ādi-saddena vijjāṭṭhānāni saṅgayhanti. Yathāsakaṃ kammakilesehi pajātattā nibbattattā pajā, sattanikāyo, tassā pajāya. Sadevamanussāyāti vā iminā sammutidevaggahaṇaṃ tadavasiṭṭhamanussalokaggahaṇañca daṭṭhabbaṃ.
เอวํ ภาคโส โลกํ คเหตฺวา โยชนํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ อภาคโส โลกํ คเหตฺวา โยชนํ ทเสฺสตุํ ‘‘อปิเจตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ โลกวเสน วุตฺตานิ ‘‘โลกียนฺติ เอตฺถ กมฺมํ กมฺมผลานี’’ติ กตฺวาฯ ปชาวเสน ‘‘เหตุปจฺจเยหิ ปชาตา’’ติ กตฺวาฯ สีลสมฺปนฺนตรนฺติ เอตฺถ ปริปุณฺณสมฺปนฺนตา อธิเปฺปตา ‘‘สมฺปนฺนํ สาลิเกทาร’’นฺติอาทีสุ (ชา. ๑.๑๔.๑) วิยฯ เตนาห ‘‘อธิกตรนฺติ อโตฺถ’’ติฯ ปริปุณฺณญฺหิ อธิกตรนฺติ วตฺตุํ อรหติฯ การณนฺติ ยุตฺติํฯ อตฺถนฺติ อวิปรีตตฺถํฯ วฑฺฒินฺติ อติวฑฺฒินิมิตฺตํฯ
Evaṃ bhāgaso lokaṃ gahetvā yojanaṃ dassetvā idāni abhāgaso lokaṃ gahetvā yojanaṃ dassetuṃ ‘‘apicetthā’’tiādi vuttaṃ. Lokavasena vuttāni ‘‘lokīyanti ettha kammaṃ kammaphalānī’’ti katvā. Pajāvasena ‘‘hetupaccayehi pajātā’’ti katvā. Sīlasampannataranti ettha paripuṇṇasampannatā adhippetā ‘‘sampannaṃ sālikedāra’’ntiādīsu (jā. 1.14.1) viya. Tenāha ‘‘adhikataranti attho’’ti. Paripuṇṇañhi adhikataranti vattuṃ arahati. Kāraṇanti yuttiṃ. Atthanti aviparītatthaṃ. Vaḍḍhinti ativaḍḍhinimittaṃ.
อิมินา วจเนนาติ อิมสฺมิํ สุเตฺต อนนฺตรํ วุตฺตวจเนนฯ น เกวลํ อิมินาว, สุตฺตนฺตรมฺปิ อาเนตฺวา ปฎิพาหิตโพฺพติ ทเสฺสโนฺต ‘‘น เม อาจริโย อตฺถี’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ น เม อาจริโย อตฺถีติ โลกุตฺตรธเมฺม มยฺหํ อาจริโย นาม นตฺถิฯ กิญฺจาปิ โลกิยธมฺมานมฺปิ ยาทิโส โลกนาถสฺส อธิคโม, น ตาทิโส อธิคโม ปรูปเทโส อตฺถิฯ โลกุตฺตรธเมฺม ปนสฺส เลโสปิ นตฺถิฯ นตฺถิ เม ปฎิปุคฺคโลติ มยฺหํ สีลาทีหิ คุเณหิ ปฎินิธิภูโต ปุคฺคโล นาม นตฺถิฯ สรนฺติ กรเณ เอตํ ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห ‘‘สรเนฺตนา’’ติ, สรนฺติ วา สรณเหตุ จาติ อโตฺถฯ
Imināvacanenāti imasmiṃ sutte anantaraṃ vuttavacanena. Na kevalaṃ imināva, suttantarampi ānetvā paṭibāhitabboti dassento ‘‘na me ācariyo atthī’’tiādimāha. Tattha na me ācariyo atthīti lokuttaradhamme mayhaṃ ācariyo nāma natthi. Kiñcāpi lokiyadhammānampi yādiso lokanāthassa adhigamo, na tādiso adhigamo parūpadeso atthi. Lokuttaradhamme panassa lesopi natthi. Natthi me paṭipuggaloti mayhaṃ sīlādīhi guṇehi paṭinidhibhūto puggalo nāma natthi. Saranti karaṇe etaṃ paccattavacananti āha ‘‘sarantenā’’ti, saranti vā saraṇahetu cāti attho.
ยโตติ ภุมฺมเตฺถ โตสโทฺทติ อาห ‘‘ยสฺมิํ กาเล’’ติฯ รตฺติโย ชานนฺตีติ รตฺตญฺญู, อตฺตโน ปพฺพชิตทิวสโต ปฎฺฐาย พหู รตฺติโย ชานนฺติ, จิรปพฺพชิตาติ วุตฺตํ โหติฯ รตฺตญฺญูนํ มหนฺตภาโว รตฺตญฺญุมหนฺตํฯ ภาวปฺปธาโน เอส นิเทฺทโสฯ ‘‘รตฺตญฺญุมหตฺต’’นฺติ วา ปาโฐฯ เอส นโย เสเสสุปิฯ เถรนวมชฺฌิมานํ วเสน วิปุลภาโว เวปุลฺลมหนฺตํฯ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตสฺส สาสนพฺรหฺมจริยสฺส ฌานาภิญฺญาทิวเสน วิปุลภาโว พฺรหฺมจริยมหนฺตํฯ วิสิฎฺฐสฺส ปจฺจยลาภสฺส วิปุลภาโว ลาภคฺคมหนฺตํฯ จตุพฺพิเธน มหเนฺตนาติ จตุพฺพิเธน มหนฺตภาเวนฯ มหาปชาปติยา ทุสฺสยุคทานกาเลติ ภควโต สเงฺฆ คารวสฺส ปากฎกาลทสฺสนมตฺตํฯ น หิ ภควา ตโต ปุเพฺพ สเงฺฆ คารวรหิโต วิหาสิฯ
Yatoti bhummatthe tosaddoti āha ‘‘yasmiṃ kāle’’ti. Rattiyo jānantīti rattaññū, attano pabbajitadivasato paṭṭhāya bahū rattiyo jānanti, cirapabbajitāti vuttaṃ hoti. Rattaññūnaṃ mahantabhāvo rattaññumahantaṃ. Bhāvappadhāno esa niddeso. ‘‘Rattaññumahatta’’nti vā pāṭho. Esa nayo sesesupi. Theranavamajjhimānaṃ vasena vipulabhāvo vepullamahantaṃ. Sikkhattayasaṅgahitassa sāsanabrahmacariyassa jhānābhiññādivasena vipulabhāvo brahmacariyamahantaṃ. Visiṭṭhassa paccayalābhassa vipulabhāvo lābhaggamahantaṃ. Catubbidhena mahantenāti catubbidhena mahantabhāvena. Mahāpajāpatiyā dussayugadānakāleti bhagavato saṅghe gāravassa pākaṭakāladassanamattaṃ. Na hi bhagavā tato pubbe saṅghe gāravarahito vihāsi.
ปฐมอุรุเวลสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Paṭhamauruvelasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๑. ปฐมอุรุเวลสุตฺตํ • 1. Paṭhamauruvelasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๑. ปฐมอุรุเวลสุตฺตวณฺณนา • 1. Paṭhamauruvelasuttavaṇṇanā