Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กงฺขาวิตรณี-ปุราณ-ฎีกา • Kaṅkhāvitaraṇī-purāṇa-ṭīkā |
ปาจิตฺติยกณฺฑํ
Pācittiyakaṇḍaṃ
๑. ปฐมวคฺควณฺณนา
1. Paṭhamavaggavaṇṇanā
ปฐเม หริตปตฺตวโณฺณ หริตโกฯ จาปลสุณํ อมิญฺชโกฯ องฺกุรมตฺตเมว หิ ตสฺส โหติฯ ปลณฺฑุกาทโย สภาเวเนว วฎฺฎนฺติฯ สูปสมฺปากาที วินาปิ อนฺตมโส ยาคุภเตฺตปิ ปกฺขิปิตุํ วฎฺฎตีติ ลิขิตํ, ‘‘ภิกฺขุนิยาปิ คิลานาย ปุเรภตฺตเมว ลสุณํ กปฺปติ, น อคิลานายา’’ติ อภยคิรีนํ อุคฺคโหติฯ
Paṭhame haritapattavaṇṇo haritako. Cāpalasuṇaṃ amiñjako. Aṅkuramattameva hi tassa hoti. Palaṇḍukādayo sabhāveneva vaṭṭanti. Sūpasampākādī vināpi antamaso yāgubhattepi pakkhipituṃ vaṭṭatīti likhitaṃ, ‘‘bhikkhuniyāpi gilānāya purebhattameva lasuṇaṃ kappati, na agilānāyā’’ti abhayagirīnaṃ uggahoti.
ทุติเย อาพาธปจฺจยา ภิกฺขุนิสงฺฆํ อาปุจฺฉิตฺวา สํหราเปตุํ วฎฺฎติ, ภิกฺขุสฺส เอตฺถ จ ลสุเณ จ ทุกฺกฎํฯ
Dutiye ābādhapaccayā bhikkhunisaṅghaṃ āpucchitvā saṃharāpetuṃ vaṭṭati, bhikkhussa ettha ca lasuṇe ca dukkaṭaṃ.
สตฺตเม ‘‘สมุฎฺฐานาทีนิ อทฺธานมคฺคสิกฺขาปทสทิสานี’’ติ ปาโฐฯ
Sattame ‘‘samuṭṭhānādīni addhānamaggasikkhāpadasadisānī’’ti pāṭho.
นวเม กุโฎฺฎ นาม ฆรกุโฎฺฎฯ ปากาโร นาม ปริเกฺขปปากาโรฯ
Navame kuṭṭo nāma gharakuṭṭo. Pākāro nāma parikkhepapākāro.
ฉฑฺฑิตเขเตฺตติ ปุราณเขเตฺตฯ สงฺฆสนฺตเก ภิกฺขุสฺส ฉเฑฺฑตุํ วฎฺฎติ สงฺฆปริยาปนฺนตฺตาฯ ภิกฺขุนีนมฺปิ สงฺฆสนฺตเก ภิกฺขุสงฺฆสนฺตเก วุตฺตนเยเนว วฎฺฎติฯ เอวํ สเนฺตปิ สารุปฺปวเสน กาตพฺพนฺติ ลิขิตํฯ
Chaḍḍitakhetteti purāṇakhette. Saṅghasantake bhikkhussa chaḍḍetuṃ vaṭṭati saṅghapariyāpannattā. Bhikkhunīnampi saṅghasantake bhikkhusaṅghasantake vuttanayeneva vaṭṭati. Evaṃ santepi sāruppavasena kātabbanti likhitaṃ.
ทสเม ‘‘สยํ ตานิ วตฺถูนิ กโรนฺติยา’’ติอาทิ อิธ สิกฺขาปเท นตฺถิฯ กสฺมา? เอฬกโลมสมุฎฺฐานตฺตาฯ ยทิ เอวํ กสฺมา วุตฺตนฺติ เจ? สุตฺตานุโลมมหาปเทสโตฯ ยทิ นจฺจาทีนิ ปสฺสิตุํ วา สุณิตุํ วา น ลภติ, ปเคว อตฺตนา กาตุนฺติ นยโต ลพฺภมานตฺตา วุตฺตํฯ อิตรถา มหาปเทสา นิรตฺถกา สิยุํฯ ‘‘เอวํ อญฺญตฺถปิ นโย เนตโพฺพฯ สมุฎฺฐานมฺปิ อิธ วุตฺตเมว อคฺคเหตฺวา ฉสมุฎฺฐานวเสน คเหตพฺพ’’นฺติ อาจริยาฯ อิธ วุตฺตํ สมุฎฺฐานํ นาม มูลภูตสฺส อนฺตรา วุตฺตาปตฺติยา, ตสฺมา เอฬกโลมสมุฎฺฐานเมวาติ อปเรฯ อาราเม ฐตฺวาติ น เกวลํ ฐตฺวา, ตโต คนฺตฺวา ปน สพฺพิริยาปเถหิปิ ลภติฯ อาราเม ฐิตาติ ปน อารามปริยาปนฺนาติ อโตฺถฯ อิตรถา นิสินฺนาปิ น ลเภยฺยาติฯ
Dasame ‘‘sayaṃ tāni vatthūni karontiyā’’tiādi idha sikkhāpade natthi. Kasmā? Eḷakalomasamuṭṭhānattā. Yadi evaṃ kasmā vuttanti ce? Suttānulomamahāpadesato. Yadi naccādīni passituṃ vā suṇituṃ vā na labhati, pageva attanā kātunti nayato labbhamānattā vuttaṃ. Itarathā mahāpadesā niratthakā siyuṃ. ‘‘Evaṃ aññatthapi nayo netabbo. Samuṭṭhānampi idha vuttameva aggahetvā chasamuṭṭhānavasena gahetabba’’nti ācariyā. Idha vuttaṃ samuṭṭhānaṃ nāma mūlabhūtassa antarā vuttāpattiyā, tasmā eḷakalomasamuṭṭhānamevāti apare. Ārāme ṭhatvāti na kevalaṃ ṭhatvā, tato gantvā pana sabbiriyāpathehipi labhati. Ārāme ṭhitāti pana ārāmapariyāpannāti attho. Itarathā nisinnāpi na labheyyāti.
ปฐมวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Paṭhamavaggavaṇṇanā niṭṭhitā.