Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) |
๗. ปฐมเวรสุตฺตวณฺณนา
7. Paṭhamaverasuttavaṇṇanā
๒๗. สตฺตเม (สํ. นิ. ฎี. ๒.๒๔๑) ยโตติ ยสฺมิํ กาเลฯ อยญฺหิ โต-สโทฺท ทา-สโทฺท วิย อิธ กาลวิสโย, ยทาติ วุตฺตํ โหติฯ ภยานิ เวรานีติ ภียเต ภยํ, ภเยน โยคา, ภายิตเพฺพน วา ภยํ เอว เวรปฺปสวเฎฺฐน เวรนฺติ จ ลทฺธนามา เจตนาทโยฯ ปาณาติปาตาทโย หิ ยสฺส ปวตฺตนฺติ, ยญฺจ อุทฺทิสฺส ปวตฺตียนฺติ, อุภเยสญฺจ เวราวหา, ตโต เอว เจเต ภายิตพฺพา เวรสญฺชนกา นามาติฯ โสตสฺส อริยมคฺคสฺส อาทิโต ปชฺชนํ ปฎิปตฺติ อธิคโม โสตาปตฺติฯ ตทตฺถาย ตตฺถ ปติฎฺฐิตสฺส จ องฺคานิ โสตาปตฺติยงฺคานิฯ ทุวิธญฺหิ (สํ. นิ. อฎฺฐ. ๒.๒.๔๑) โสตาปตฺติยงฺคํ โสตาปตฺติอตฺถาย จ องฺคํ การณํ, ยํ โสตาปตฺติมคฺคปฺปฎิลาภโต ปุพฺพภาเค โสตาปตฺติปฺปฎิลาภาย สํวตฺตติ, ‘‘สปฺปุริสสํเสโว สทฺธมฺมสฺสวนํ โยนิโสมนสิกาโร ธมฺมานุธมฺมปฎิปตฺตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๑๑) เอวํ อาคตํฯ ปฎิลทฺธคุณสฺส จ โสตาปตฺติํ ปตฺวา ฐิตสฺส องฺคํ, ยํ ‘‘โสตาปนฺนสฺส องฺค’’นฺติปิ วุจฺจติ ‘‘โสตาปโนฺน องฺคียติ ญายติ เอเตนา’’ติ กตฺวา, พุเทฺธ อเวจฺจปฺปสาทาทีนํ เอตํ อธิวจนํฯ อิทมิธาธิเปฺปตํฯ
27. Sattame (saṃ. ni. ṭī. 2.241) yatoti yasmiṃ kāle. Ayañhi to-saddo dā-saddo viya idha kālavisayo, yadāti vuttaṃ hoti. Bhayāni verānīti bhīyate bhayaṃ, bhayena yogā, bhāyitabbena vā bhayaṃ eva verappasavaṭṭhena veranti ca laddhanāmā cetanādayo. Pāṇātipātādayo hi yassa pavattanti, yañca uddissa pavattīyanti, ubhayesañca verāvahā, tato eva cete bhāyitabbā verasañjanakā nāmāti. Sotassa ariyamaggassa ādito pajjanaṃ paṭipatti adhigamo sotāpatti. Tadatthāya tattha patiṭṭhitassa ca aṅgāni sotāpattiyaṅgāni. Duvidhañhi (saṃ. ni. aṭṭha. 2.2.41) sotāpattiyaṅgaṃ sotāpattiatthāya ca aṅgaṃ kāraṇaṃ, yaṃ sotāpattimaggappaṭilābhato pubbabhāge sotāpattippaṭilābhāya saṃvattati, ‘‘sappurisasaṃsevo saddhammassavanaṃ yonisomanasikāro dhammānudhammapaṭipattī’’ti (dī. ni. 3.311) evaṃ āgataṃ. Paṭiladdhaguṇassa ca sotāpattiṃ patvā ṭhitassa aṅgaṃ, yaṃ ‘‘sotāpannassa aṅga’’ntipi vuccati ‘‘sotāpanno aṅgīyati ñāyati etenā’’ti katvā, buddhe aveccappasādādīnaṃ etaṃ adhivacanaṃ. Idamidhādhippetaṃ.
ขีณนิรโยติอาทีสุ อายติํ ตตฺถ อนุปฺปชฺชนตาย ขีโณ นิรโย มยฺหติ, โส อหํ ขีณนิรโยฯ เอส นโย สพฺพตฺถฯ โสตาปโนฺนติ มคฺคโสตํ อาปโนฺนฯ อวินิปาตธโมฺมติ น วินิปาตสภาโวฯ นิยโตติ ปฐมมคฺคสงฺขาเตน สมฺมตฺตนิยาเมน นิยโตฯ สโมฺพธิปรายโณติ อุปริมคฺคตฺตยสงฺขาโต สโมฺพธิ ปรํ อยนํ มยฺหนฺติ โสหํ สโมฺพธิปรายโณ, สโมฺพธิํ อวสฺสํ อภิสมฺพุชฺฌนโกติ อโตฺถฯ
Khīṇanirayotiādīsu āyatiṃ tattha anuppajjanatāya khīṇo nirayo mayhati, so ahaṃ khīṇanirayo. Esa nayo sabbattha. Sotāpannoti maggasotaṃ āpanno. Avinipātadhammoti na vinipātasabhāvo. Niyatoti paṭhamamaggasaṅkhātena sammattaniyāmena niyato. Sambodhiparāyaṇoti uparimaggattayasaṅkhāto sambodhi paraṃ ayanaṃ mayhanti sohaṃ sambodhiparāyaṇo, sambodhiṃ avassaṃ abhisambujjhanakoti attho.
ปาณาติปาตปจฺจยาติ ปาณาติปาตกมฺมสฺส กรณเหตุฯ ภยํ เวรนฺติ อตฺถโต เอกํฯ เวรํ วุจฺจติ วิโรโธ, ตเทว ภายิตพฺพโต ‘‘ภย’’นฺติ วุจฺจติฯ ตญฺจ ปเนตํ ทุวิธํ โหติ – พาหิรํ, อชฺฌตฺติกนฺติฯ เอเกน หิ เอกสฺส ปิตา มาริโต โหติฯ โส จิเนฺตติ ‘‘เอเตน กิร เม ปิตา มาริโต, อหมฺปิ ตํเยว มาเรสฺสามี’’ติ นิสิตํ สตฺถํ อาทาย จรติฯ ยา ตสฺส อพฺภนฺตเร อุปฺปนฺนา เวรเจตนา, อิทํ พาหิรํ เวรํ นาม ตสฺส เวรสฺส มูลภูตโต เวรการกปุคฺคลโต พหิภาวตฺตาฯ ยา ปน อิตรสฺส ‘‘อยํ กิร มํ มาเรสฺสามีติ จรติ, อหเมว นํ ปฐมตรํ มาเรสฺสามี’’ติ เจตนา อุปฺปชฺชติ, อิทํ อชฺฌตฺติกํ เวรํ นามฯ อิทํ ตาว อุภยมฺปิ ทิฎฺฐธมฺมิกเมวฯ ยา ปน ตํ นิรเย อุปฺปนฺนํ ทิสฺวา ‘‘เอตํ ปหริสฺสามี’’ติ ชลิตํ อยมุคฺครํ คณฺหนฺตสฺส นิรยปาลสฺส เจตนา อุปฺปชฺชติ, อิทมสฺส สมฺปรายิกํ พาหิรํ เวรํฯ ยา จสฺส ‘‘อยํ นิโทฺทสํ มํ ปหริสฺสามีติ อาคจฺฉติ, อหเมว นํ ปฐมตรํ ปหริสฺสามี’’ติ เจตนา อุปฺปชฺชติ, อิทมสฺส สมฺปรายิกํ อชฺฌตฺตํ เวรํฯ ยํ ปเนตํ พาหิรํ เวรํ, ตํ อฎฺฐกถาสุ ‘‘ปุคฺคลเวร’’นฺติ วุจฺจติฯ ทุกฺขํ โทมนสฺสนฺติ อตฺถโต เอกเมวฯ ยถา เจตฺถ, เอวํ เสเสสุปิ ‘‘อิมินา มม ภณฺฑํ หฎํ, มยฺหํ ทาเรสุ จาริตฺตํ อาปนฺนํ, มุสา วตฺวา อโตฺถ ภโคฺค, สุรามทมเตฺตน อิทํ นาม กต’’นฺติอาทินา นเยน เวรปฺปวตฺติ เวทิตพฺพาฯ
Pāṇātipātapaccayāti pāṇātipātakammassa karaṇahetu. Bhayaṃ veranti atthato ekaṃ. Veraṃ vuccati virodho, tadeva bhāyitabbato ‘‘bhaya’’nti vuccati. Tañca panetaṃ duvidhaṃ hoti – bāhiraṃ, ajjhattikanti. Ekena hi ekassa pitā mārito hoti. So cinteti ‘‘etena kira me pitā mārito, ahampi taṃyeva māressāmī’’ti nisitaṃ satthaṃ ādāya carati. Yā tassa abbhantare uppannā veracetanā, idaṃ bāhiraṃ veraṃ nāma tassa verassa mūlabhūtato verakārakapuggalato bahibhāvattā. Yā pana itarassa ‘‘ayaṃ kira maṃ māressāmīti carati, ahameva naṃ paṭhamataraṃ māressāmī’’ti cetanā uppajjati, idaṃ ajjhattikaṃ veraṃ nāma. Idaṃ tāva ubhayampi diṭṭhadhammikameva. Yā pana taṃ niraye uppannaṃ disvā ‘‘etaṃ paharissāmī’’ti jalitaṃ ayamuggaraṃ gaṇhantassa nirayapālassa cetanā uppajjati, idamassa samparāyikaṃ bāhiraṃ veraṃ. Yā cassa ‘‘ayaṃ niddosaṃ maṃ paharissāmīti āgacchati, ahameva naṃ paṭhamataraṃ paharissāmī’’ti cetanā uppajjati, idamassa samparāyikaṃ ajjhattaṃ veraṃ. Yaṃ panetaṃ bāhiraṃ veraṃ, taṃ aṭṭhakathāsu ‘‘puggalavera’’nti vuccati. Dukkhaṃ domanassanti atthato ekameva. Yathā cettha, evaṃ sesesupi ‘‘iminā mama bhaṇḍaṃ haṭaṃ, mayhaṃ dāresu cārittaṃ āpannaṃ, musā vatvā attho bhaggo, surāmadamattena idaṃ nāma kata’’ntiādinā nayena verappavatti veditabbā.
อเวจฺจปฺปสาเทนาติ อธิคเตน อจลปฺปสาเทนฯ อริยกเนฺตหีติ ปญฺจหิ สีเลหิฯ ตานิ หิ อริยานํ กนฺตานิ ปิยานิ ภวนฺติ, ภวนฺตรคตาปิ อริยา ตานิ น วิชหนฺติ, ตสฺมา ‘‘อริยกนฺตานี’’ติ วุจฺจนฺติฯ เสสเมตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมเคฺค อนุสฺสตินิเทฺทเส วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ
Aveccappasādenāti adhigatena acalappasādena. Ariyakantehīti pañcahi sīlehi. Tāni hi ariyānaṃ kantāni piyāni bhavanti, bhavantaragatāpi ariyā tāni na vijahanti, tasmā ‘‘ariyakantānī’’ti vuccanti. Sesamettha yaṃ vattabbaṃ siyā, taṃ sabbaṃ visuddhimagge anussatiniddese vuttanti veditabbaṃ.
ปฐมเวรสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Paṭhamaverasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๗. ปฐมเวรสุตฺตํ • 7. Paṭhamaverasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๗-๘. เวรสุตฺตทฺวยวณฺณนา • 7-8. Verasuttadvayavaṇṇanā