Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā |
๑๐. ปถวีขณนสิกฺขาปทวณฺณนา
10. Pathavīkhaṇanasikkhāpadavaṇṇanā
๘๖. ทสมสิกฺขาปเท – ชาตา จ ปถวี อชาตา จ ปถวีติ อิเมหิ ปเทหิ ชาตปถวิญฺจ อชาตปถวิญฺจ ทเสฺสติฯ อปฺปปาสาณาทีสุ อปฺปา ปาสาณา เอตฺถาติ อปฺปปาสาณาติ เอวมโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ ตตฺถ มุฎฺฐิปฺปมาณโต อุปริ ปาสาณาติ เวทิตพฺพา, มุฎฺฐิปฺปมาณา สกฺขราฯ กถลาติ กปาลขณฺฑานิฯ มรุมฺพาติ กฎสกฺขราฯ วาลิกาติ วาลุกาเยวฯ เยภุเยฺยน ปํสุกาติ ตีสุ โกฎฺฐาเสสุ เทฺว โกฎฺฐาสา ปํสุ, เอโก ปาสาณาทีสุ อญฺญตโรฯ อทฑฺฒาปีติ อุทฺธนปตฺตปจนกุมฺภการาวาปาทิวเสน ตถา ตถา อทฑฺฒาฯ สา ปน วิสุํ นตฺถิ, สุทฺธปํสุอาทีสุ อญฺญตราว เวทิตพฺพาฯ เยภุเยฺยนสกฺขราติ พหุตรา สกฺขราฯ หตฺถิกุจฺฉิยํ กิร เอกปจฺฉิปูรํ อาหราเปตฺวา โทณิยํ โธวิตฺวา ปถวิยา เยภุเยฺยน สกฺขรภาวํ ญตฺวา สยํ ภิกฺขู โปกฺขรณิํ ขณิํสุฯ ยานิ ปน มเชฺฌ ‘‘อปฺปปํสุ อปฺปมตฺติกา’’ติ เทฺว ปทานิ, ตานิ เยภุเยฺยนปาสาณาทิปญฺจกเมว ปวิสนฺติ เตสํเยว หิ ทฺวินฺนํ ปเภททสฺสนเมตํฯ สยํ ขณติ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ เอตฺถ ปหาเร ปหาเร ปาจิตฺติยํ เวทิตพฺพํฯ สกิํ อาณโตฺต พหุกมฺปิ ขณตีติ สเจปิ สกลทิวสํ ขณติ, อาณาปกสฺส เอกํเยว ปาจิตฺติยํฯ สเจ ปน กุสิโต โหติ, ปุนปฺปุนํ อาณาเปตโพฺพฯ ตํ อาณาเปตฺวา ขณาเปนฺตสฺส วาจาย วาจาย ปาจิตฺติยํฯ อยํ ตาว ปาฬิวณฺณนาฯ
86. Dasamasikkhāpade – jātā ca pathavī ajātā ca pathavīti imehi padehi jātapathaviñca ajātapathaviñca dasseti. Appapāsāṇādīsu appā pāsāṇā etthāti appapāsāṇāti evamattho daṭṭhabbo. Tattha muṭṭhippamāṇato upari pāsāṇāti veditabbā, muṭṭhippamāṇā sakkharā. Kathalāti kapālakhaṇḍāni. Marumbāti kaṭasakkharā. Vālikāti vālukāyeva. Yebhuyyena paṃsukāti tīsu koṭṭhāsesu dve koṭṭhāsā paṃsu, eko pāsāṇādīsu aññataro. Adaḍḍhāpīti uddhanapattapacanakumbhakārāvāpādivasena tathā tathā adaḍḍhā. Sā pana visuṃ natthi, suddhapaṃsuādīsu aññatarāva veditabbā. Yebhuyyenasakkharāti bahutarā sakkharā. Hatthikucchiyaṃ kira ekapacchipūraṃ āharāpetvā doṇiyaṃ dhovitvā pathaviyā yebhuyyena sakkharabhāvaṃ ñatvā sayaṃ bhikkhū pokkharaṇiṃ khaṇiṃsu. Yāni pana majjhe ‘‘appapaṃsu appamattikā’’ti dve padāni, tāni yebhuyyenapāsāṇādipañcakameva pavisanti tesaṃyeva hi dvinnaṃ pabhedadassanametaṃ. Sayaṃ khaṇati āpatti pācittiyassāti ettha pahāre pahāre pācittiyaṃ veditabbaṃ. Sakiṃ āṇatto bahukampi khaṇatīti sacepi sakaladivasaṃ khaṇati, āṇāpakassa ekaṃyeva pācittiyaṃ. Sace pana kusito hoti, punappunaṃ āṇāpetabbo. Taṃ āṇāpetvā khaṇāpentassa vācāya vācāya pācittiyaṃ. Ayaṃ tāva pāḷivaṇṇanā.
อยํ ปน ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย – ‘‘โปกฺขรณิํ ขณา’’ติ วทติ, วฎฺฎติฯ ขตาเยว หิ โปกฺขรณี นาม โหติ, ตสฺมา อยํ กปฺปิยโวหาโรฯ เอส นโย ‘‘วาปิํ ตฬากํ อาวาฎํ ขณา’’ติอาทีสุปิฯ ‘‘อิมํ โอกาสํ ขณ, อิมสฺมิํ โอกาเส โปกฺขรณิํ ขณา’’ติ วตฺตุํ ปน น วฎฺฎติฯ ‘‘กนฺทํ ขณ, มูลํ ขณา’’ติ อนิยาเมตฺวา วตฺตุํ วฎฺฎติฯ ‘‘อิมํ วลฺลิํ ขณ, อิมสฺมิํ โอกาเส กนฺทํ วา มูลํ วา ขณา’’ติ วตฺตุํ น วฎฺฎติฯ โปกฺขรณิํ โสเธเนฺตหิ โย กุเฎหิ อุสฺสิญฺจิตุํ สกฺกา โหติ ตนุกกทฺทโม, ตํ อปเนตุํ วฎฺฎติ, พหลํ น วฎฺฎติฯ อาตเปน สุกฺขกทฺทโม ผลติ, ตตฺร โย เหฎฺฐา ปถวิยา อสมฺพโทฺธ, ตเมว อปเนตุํ วฎฺฎติฯ อุทเกน คตฎฺฐาเน อุทกปปฺปฎโก นาม โหติ, วาตปฺปหาเรน จลติ, ตํ อปเนตุํ วฎฺฎติฯ
Ayaṃ pana pāḷimuttakavinicchayo – ‘‘pokkharaṇiṃ khaṇā’’ti vadati, vaṭṭati. Khatāyeva hi pokkharaṇī nāma hoti, tasmā ayaṃ kappiyavohāro. Esa nayo ‘‘vāpiṃ taḷākaṃ āvāṭaṃ khaṇā’’tiādīsupi. ‘‘Imaṃ okāsaṃ khaṇa, imasmiṃ okāse pokkharaṇiṃ khaṇā’’ti vattuṃ pana na vaṭṭati. ‘‘Kandaṃ khaṇa, mūlaṃ khaṇā’’ti aniyāmetvā vattuṃ vaṭṭati. ‘‘Imaṃ valliṃ khaṇa, imasmiṃ okāse kandaṃ vā mūlaṃ vā khaṇā’’ti vattuṃ na vaṭṭati. Pokkharaṇiṃ sodhentehi yo kuṭehi ussiñcituṃ sakkā hoti tanukakaddamo, taṃ apanetuṃ vaṭṭati, bahalaṃ na vaṭṭati. Ātapena sukkhakaddamo phalati, tatra yo heṭṭhā pathaviyā asambaddho, tameva apanetuṃ vaṭṭati. Udakena gataṭṭhāne udakapappaṭako nāma hoti, vātappahārena calati, taṃ apanetuṃ vaṭṭati.
โปกฺขรณีอาทีนํ ตฎํ ภิชฺชิตฺวา อุทกสามนฺตา ปตติ, สเจ โอมกจาตุมาสํ โอวฎฺฐํ, ฉินฺทิตุํ วา ภินฺทิตุํ วา วฎฺฎติ, จาตุมาสโต อุทฺธํ น วฎฺฎติฯ สเจ ปน อุทเกเยว ปตติ, เทเว อติเรกจาตุมาสํ โอวเฎฺฐปิ อุทเกเยว อุทกสฺส ปติตตฺตา วฎฺฎติฯ ปาสาณปิฎฺฐิยํ โสณฺฑิํ ขณนฺติ, สเจ ตตฺถ ปฐมเมว สุขุมรชํ ปตติ, ตเญฺจ เทเวน โอวฎฺฐํ โหติ, จาตุมาสจฺจเยน อกปฺปิยปถวีสงฺขฺยํ คจฺฉติฯ อุทเก ปริยาทิเณฺณ โสณฺฑิํ โสเธเนฺตหิ ตํ วิโกเปตุํ น วฎฺฎติฯ สเจ ปฐมเมว อุทเกน ปูรติ, ปจฺฉา รชํ ปตติ, ตํ วิโกเปตุํ วฎฺฎติฯ ตตฺถ หิ เทเว วสฺสเนฺตปิ อุทเกเยว อุทกํ ปตตีติฯ ปิฎฺฐิปาสาเณ สุขุมรชํ โหติ, เทเว ผุสายเนฺต อลฺลียติ, ตมฺปิ จาตุมาสจฺจเยน วิโกเปตุํ น วฎฺฎติฯ สเจ ปน อกตปพฺภาเร วมฺมิโก อุฎฺฐิโต โหติ, ยถาสุขํ วิโกเปตุํ วฎฺฎติฯ สเจ อโพฺภกาเส อุฎฺฐหติ, โอมกจาตุมาสํ โอวโฎฺฐเยว วฎฺฎติฯ รุกฺขาทีสุ อารุฬฺหอุปจิกามตฺติกายปิ เอเสว นโยฯ คณฺฑุปฺปาทคูถมูสิกุกฺกรโคกณฺฎกาทีสุปิ เอเสว นโยฯ
Pokkharaṇīādīnaṃ taṭaṃ bhijjitvā udakasāmantā patati, sace omakacātumāsaṃ ovaṭṭhaṃ, chindituṃ vā bhindituṃ vā vaṭṭati, cātumāsato uddhaṃ na vaṭṭati. Sace pana udakeyeva patati, deve atirekacātumāsaṃ ovaṭṭhepi udakeyeva udakassa patitattā vaṭṭati. Pāsāṇapiṭṭhiyaṃ soṇḍiṃ khaṇanti, sace tattha paṭhamameva sukhumarajaṃ patati, tañce devena ovaṭṭhaṃ hoti, cātumāsaccayena akappiyapathavīsaṅkhyaṃ gacchati. Udake pariyādiṇṇe soṇḍiṃ sodhentehi taṃ vikopetuṃ na vaṭṭati. Sace paṭhamameva udakena pūrati, pacchā rajaṃ patati, taṃ vikopetuṃ vaṭṭati. Tattha hi deve vassantepi udakeyeva udakaṃ patatīti. Piṭṭhipāsāṇe sukhumarajaṃ hoti, deve phusāyante allīyati, tampi cātumāsaccayena vikopetuṃ na vaṭṭati. Sace pana akatapabbhāre vammiko uṭṭhito hoti, yathāsukhaṃ vikopetuṃ vaṭṭati. Sace abbhokāse uṭṭhahati, omakacātumāsaṃ ovaṭṭhoyeva vaṭṭati. Rukkhādīsu āruḷhaupacikāmattikāyapi eseva nayo. Gaṇḍuppādagūthamūsikukkaragokaṇṭakādīsupi eseva nayo.
โคกณฺฎโก นาม คาวีนํ ขุรจฺฉินฺนกทฺทโม วุจฺจติฯ สเจ ปน เหฎฺฐิมตเลน ภูมิสมฺพโนฺธ โหติ, เอกทิวสมฺปิ น วฎฺฎติฯ กสิตฎฺฐาเนปิ นงฺคลจฺฉินฺนมตฺติกาปิณฺฑํ คณฺหนฺตสฺส เอเสว นโยฯ ปุราณเสนาสนํ โหติ อจฺฉทนํ วา วินฎฺฐจฺฉทนํ วา, อติเรกจาตุมาสํ โอวฎฺฐํ ชาตปถวีสงฺขฺยเมว คจฺฉติฯ ตโต อวเสสํ ฉทนิฎฺฐกํ วา โคปานสีอาทิกํ อุปกรณํ วา ‘‘อิฎฺฐกํ คณฺหามิ โคปนสิํ ภิตฺติปาทํ ปทรตฺถรณํ ปาสาณตฺถมฺภํ คณฺหามี’’ติ สญฺญาย คณฺหิตุํ วฎฺฎติฯ เตน สทฺธิํ มตฺติกา ปตติ, อนาปตฺติฯ ภิตฺติมตฺติกํ คณฺหนฺตสฺส ปน อาปตฺติฯ สเจ ยา ยา อตินฺตา ตํ ตํ คณฺหาติ, อนาปตฺติฯ
Gokaṇṭako nāma gāvīnaṃ khuracchinnakaddamo vuccati. Sace pana heṭṭhimatalena bhūmisambandho hoti, ekadivasampi na vaṭṭati. Kasitaṭṭhānepi naṅgalacchinnamattikāpiṇḍaṃ gaṇhantassa eseva nayo. Purāṇasenāsanaṃ hoti acchadanaṃ vā vinaṭṭhacchadanaṃ vā, atirekacātumāsaṃ ovaṭṭhaṃ jātapathavīsaṅkhyameva gacchati. Tato avasesaṃ chadaniṭṭhakaṃ vā gopānasīādikaṃ upakaraṇaṃ vā ‘‘iṭṭhakaṃ gaṇhāmi gopanasiṃ bhittipādaṃ padarattharaṇaṃ pāsāṇatthambhaṃ gaṇhāmī’’ti saññāya gaṇhituṃ vaṭṭati. Tena saddhiṃ mattikā patati, anāpatti. Bhittimattikaṃ gaṇhantassa pana āpatti. Sace yā yā atintā taṃ taṃ gaṇhāti, anāpatti.
อโนฺตเคเห มตฺติกาปุโญฺช โหติ, ตสฺมิํ เอกทิวสํ โอวเฎฺฐ เคหํ ฉาเทนฺติ, สเจ สโพฺพ ติโนฺต จาตุมาสจฺจเยน ชาตปถวีเยวฯ อถสฺส อุปริภาโคเยว ติโนฺต, อโนฺต อติโนฺต, ยตฺตกํ ตินฺตํ ตํ กปฺปิยการเกหิ กปฺปิยโวหาเรน อปนาเมตฺวา เสสํ ยถาสุขํ วฬเญฺชตุํ วฎฺฎติฯ อุทเกน เตเมตฺวา เอกาพทฺธาเยว หิ ชาตปถวี โหติ, น อิตราติฯ
Antogehe mattikāpuñjo hoti, tasmiṃ ekadivasaṃ ovaṭṭhe gehaṃ chādenti, sace sabbo tinto cātumāsaccayena jātapathavīyeva. Athassa uparibhāgoyeva tinto, anto atinto, yattakaṃ tintaṃ taṃ kappiyakārakehi kappiyavohārena apanāmetvā sesaṃ yathāsukhaṃ vaḷañjetuṃ vaṭṭati. Udakena temetvā ekābaddhāyeva hi jātapathavī hoti, na itarāti.
อโพฺภกาเส มตฺติกาปากาโร โหติ, อติเรกจาตุมาสํ เจ โอวโฎฺฐ ชาตปถวีสงฺขฺยํ คจฺฉติฯ ตตฺถ ลคฺคปํสุํ ปน อลฺลหเตฺถน ฉุปิตฺวา คเหตุํ วฎฺฎติฯ สเจ อิฎฺฐกปากาโร โหติ, เยภุเยฺยนกถลฎฺฐาเน ติฎฺฐติ, ยถาสุขํ วิโกเปตุํ วฎฺฎติฯ อโพฺภกาเส ฐิตมณฺฑปตฺถมฺภํ อิโต จิโต จ สญฺจาเลตฺวา ปถวิํ วิโกเปเนฺตน คเหตุํ น วฎฺฎติ, อุชุกเมว อุทฺธริตุํ วฎฺฎติฯ อญฺญมฺปิ สุกฺขรุกฺขํ วา สุกฺขขาณุกํ วา คณฺหนฺตสฺส เอเสว นโยฯ นวกมฺมตฺถํ ปาสาณํ วา รุกฺขํ วา ทณฺฑเกหิ อุจฺจาเลตฺวา ปวเฎฺฎนฺตา คจฺฉนฺติ, ตตฺถ ปถวี ภิชฺชติ, สเจ สุทฺธจิตฺตา ปวเฎฺฎนฺติ, อนาปตฺติฯ อถ ปน เตน อปเทเสน ปถวิํ ภินฺทิตุกามาเยว โหนฺติ, อาปตฺติฯ สาขาทีนิ กฑฺฒนฺตานมฺปิ ปถวิยํ ทารูนิ ผาเลนฺตานมฺปิ เอเสว นโยฯ
Abbhokāse mattikāpākāro hoti, atirekacātumāsaṃ ce ovaṭṭho jātapathavīsaṅkhyaṃ gacchati. Tattha laggapaṃsuṃ pana allahatthena chupitvā gahetuṃ vaṭṭati. Sace iṭṭhakapākāro hoti, yebhuyyenakathalaṭṭhāne tiṭṭhati, yathāsukhaṃ vikopetuṃ vaṭṭati. Abbhokāse ṭhitamaṇḍapatthambhaṃ ito cito ca sañcāletvā pathaviṃ vikopentena gahetuṃ na vaṭṭati, ujukameva uddharituṃ vaṭṭati. Aññampi sukkharukkhaṃ vā sukkhakhāṇukaṃ vā gaṇhantassa eseva nayo. Navakammatthaṃ pāsāṇaṃ vā rukkhaṃ vā daṇḍakehi uccāletvā pavaṭṭentā gacchanti, tattha pathavī bhijjati, sace suddhacittā pavaṭṭenti, anāpatti. Atha pana tena apadesena pathaviṃ bhinditukāmāyeva honti, āpatti. Sākhādīni kaḍḍhantānampi pathaviyaṃ dārūni phālentānampi eseva nayo.
ปถวิยํ อฎฺฐิสูจิกณฺฎกาทีสุปิ ยํกิญฺจิ อาโกเฎตุํ วา ปเวเสตุํ วา น วฎฺฎติฯ ปสฺสาวธาราย เวเคน ปถวิํ ภินฺทิสฺสามีติ เอวํ ปสฺสาวมฺปิ กาตุํ น วฎฺฎติ, กโรนฺตสฺส ภิชฺชติ, อาปตฺติฯ วิสมภูมิํ สมํ กริสฺสามีติ สมฺมุญฺชนิยา ฆํสิตุมฺปิ น วฎฺฎติ, วตฺตสีเสเนว หิ สมฺมชฺชิตพฺพํฯ เกจิ กตฺตรยฎฺฐิยา ภูมิํ โกเฎฺฎนฺติ, ปาทงฺคุฎฺฐเกน วิลิขนฺติ, ‘‘จงฺกมิตฎฺฐานํ ทเสฺสสฺสามา’’ติ ปุนปฺปุนํ ภูมิํ ภินฺทนฺตา จงฺกมนฺติ, สพฺพํ น วฎฺฎติฯ วีริยสมฺปคฺคหตฺถํ ปน สมณธมฺมํ กโรเนฺตน สุทฺธจิเตฺตน จงฺกมิตุํ วฎฺฎติ, ‘‘หตฺถํ โธวิสฺสามา’’ติ ปถวิยํ ฆํสนฺติ, น วฎฺฎติฯ อฆํสเนฺตน ปน อลฺลหตฺถํ ปถวิยํ ฐเปตฺวา รชํ คเหตุํ วฎฺฎติฯ เกจิ กณฺฑุกจฺฉุอาทีหิ อาพาธิกา ฉินฺนตฎาทีสุ องฺคปจฺจงฺคานิ ฆํสนฺติ น วฎฺฎติฯ
Pathaviyaṃ aṭṭhisūcikaṇṭakādīsupi yaṃkiñci ākoṭetuṃ vā pavesetuṃ vā na vaṭṭati. Passāvadhārāya vegena pathaviṃ bhindissāmīti evaṃ passāvampi kātuṃ na vaṭṭati, karontassa bhijjati, āpatti. Visamabhūmiṃ samaṃ karissāmīti sammuñjaniyā ghaṃsitumpi na vaṭṭati, vattasīseneva hi sammajjitabbaṃ. Keci kattarayaṭṭhiyā bhūmiṃ koṭṭenti, pādaṅguṭṭhakena vilikhanti, ‘‘caṅkamitaṭṭhānaṃ dassessāmā’’ti punappunaṃ bhūmiṃ bhindantā caṅkamanti, sabbaṃ na vaṭṭati. Vīriyasampaggahatthaṃ pana samaṇadhammaṃ karontena suddhacittena caṅkamituṃ vaṭṭati, ‘‘hatthaṃ dhovissāmā’’ti pathaviyaṃ ghaṃsanti, na vaṭṭati. Aghaṃsantena pana allahatthaṃ pathaviyaṃ ṭhapetvā rajaṃ gahetuṃ vaṭṭati. Keci kaṇḍukacchuādīhi ābādhikā chinnataṭādīsu aṅgapaccaṅgāni ghaṃsanti na vaṭṭati.
๘๗. ขณติ วา ขณาเปติ วาติ อนฺตมโส ปาทงฺคุฎฺฐเกนปิ สมฺมชฺชนีสลากายปิ สยํ วา ขณติ, อเญฺญน วา ขณาเปติฯ ภินฺทติ วา เภทาเปติ วาติ อนฺตมโส อุทกมฺปิ ฉเฑฺฑโนฺต สยํ วา ภินฺทติ, อเญฺญน วา ภินฺทาเปติฯ ทหติ วา ทหาเปติ วาติ อนฺตมโส ปตฺตมฺปิ ปจโนฺต สยํ วา ทหติ, อเญฺญน วา ทหาเปติฯ ยตฺตเกสุ ฐาเนสุ อคฺคิํ เทติ วา ทาเปติ วา ตตฺตกานิ ปาจิตฺติยานิฯ ปตฺตํ ปจเนฺตนปิ หิ ปุเพฺพ ปกฺกฎฺฐาเนเยว หิ ปจิตโพฺพฯ อทฑฺฒาย ปถวิยา อคฺคิํ ฐเปตุํ น วฎฺฎติฯ ปตฺตปจนกปาลสฺส ปน อุปริ อคฺคิํ ฐเปตุํ วฎฺฎติฯ ทารูนํ อุปริ ฐเปติ , โส อคฺคิ ตานิ ทหโนฺต คนฺตฺวา ปถวิํ ทหติ, น วฎฺฎติฯ อิฎฺฐกกปาลาทีสุปิ เอเสว นโยฯ
87.Khaṇati vā khaṇāpeti vāti antamaso pādaṅguṭṭhakenapi sammajjanīsalākāyapi sayaṃ vā khaṇati, aññena vā khaṇāpeti. Bhindati vā bhedāpeti vāti antamaso udakampi chaḍḍento sayaṃ vā bhindati, aññena vā bhindāpeti. Dahati vā dahāpeti vāti antamaso pattampi pacanto sayaṃ vā dahati, aññena vā dahāpeti. Yattakesu ṭhānesu aggiṃ deti vā dāpeti vā tattakāni pācittiyāni. Pattaṃ pacantenapi hi pubbe pakkaṭṭhāneyeva hi pacitabbo. Adaḍḍhāya pathaviyā aggiṃ ṭhapetuṃ na vaṭṭati. Pattapacanakapālassa pana upari aggiṃ ṭhapetuṃ vaṭṭati. Dārūnaṃ upari ṭhapeti , so aggi tāni dahanto gantvā pathaviṃ dahati, na vaṭṭati. Iṭṭhakakapālādīsupi eseva nayo.
ตตฺราปิ หิ อิฎฺฐกาทีนํเยว อุปริ ฐเปตุํ วฎฺฎติฯ กสฺมา? เตสํ อนุปาทานตฺตาฯ น หิ ตานิ อคฺคิสฺส อุปาทานสงฺขฺยํ คจฺฉนฺติฯ สุกฺขขาณุสุกฺขรุกฺขาทีสุปิ อคฺคิํ ทาตุํ น วฎฺฎติฯ สเจ ปน ปถวิํ อปฺปตฺตเมว นิพฺพาเปตฺวา คมิสฺสามีติ เทติ, วฎฺฎติฯ ปจฺฉา นิพฺพาเปตุํ น สโกฺกติ, อวิสยตฺตา อนาปตฺติฯ ติณุกฺกํ คเหตฺวา คจฺฉโนฺต หเตฺถ ฑยฺหมาเน ภูมิยํ ปาเตติ, อนาปตฺติฯ ปติตฎฺฐาเนเยว อุปาทานํ ทตฺวา อคฺคิํ กาตุํ วฎฺฎตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํฯ ทฑฺฒปถวิยา จ ยตฺตกํ ฐานํ อุสุมาย อนุคตํ, สพฺพํ วิโกเปตุํ วฎฺฎตีติ ตเตฺถว วุตฺตํฯ โย ปน อชานนโก ภิกฺขุ อรณีสหิเตน อคฺคิํ นิพฺพเตฺตตฺวา หเตฺถน อุกฺขิปิตฺวา ‘‘กิํ กโรมี’’ติ วทติ, ‘‘ชาเลหี’’ติ วตฺตโพฺพ, ‘‘หโตฺถ ฑยฺหตี’’ติ วทติ, ‘‘ยถา น ฑยฺหติ ตถา กโรหี’’ติ วตฺตโพฺพฯ ‘‘ภูมิยํ ปาเตหี’’ติ ปน น วตฺตโพฺพฯ สเจ หเตฺถ ฑยฺหมาเน ปาเตติ ‘‘ปถวิํ ทหิสฺสามี’’ติ อปาติตตฺตา อนาปตฺติฯ ปติตฎฺฐาเน ปน อคฺคิํ กาตุํ วฎฺฎตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํฯ
Tatrāpi hi iṭṭhakādīnaṃyeva upari ṭhapetuṃ vaṭṭati. Kasmā? Tesaṃ anupādānattā. Na hi tāni aggissa upādānasaṅkhyaṃ gacchanti. Sukkhakhāṇusukkharukkhādīsupi aggiṃ dātuṃ na vaṭṭati. Sace pana pathaviṃ appattameva nibbāpetvā gamissāmīti deti, vaṭṭati. Pacchā nibbāpetuṃ na sakkoti, avisayattā anāpatti. Tiṇukkaṃ gahetvā gacchanto hatthe ḍayhamāne bhūmiyaṃ pāteti, anāpatti. Patitaṭṭhāneyeva upādānaṃ datvā aggiṃ kātuṃ vaṭṭatīti mahāpaccariyaṃ vuttaṃ. Daḍḍhapathaviyā ca yattakaṃ ṭhānaṃ usumāya anugataṃ, sabbaṃ vikopetuṃ vaṭṭatīti tattheva vuttaṃ. Yo pana ajānanako bhikkhu araṇīsahitena aggiṃ nibbattetvā hatthena ukkhipitvā ‘‘kiṃ karomī’’ti vadati, ‘‘jālehī’’ti vattabbo, ‘‘hattho ḍayhatī’’ti vadati, ‘‘yathā na ḍayhati tathā karohī’’ti vattabbo. ‘‘Bhūmiyaṃ pātehī’’ti pana na vattabbo. Sace hatthe ḍayhamāne pāteti ‘‘pathaviṃ dahissāmī’’ti apātitattā anāpatti. Patitaṭṭhāne pana aggiṃ kātuṃ vaṭṭatīti kurundiyaṃ vuttaṃ.
๘๘. อนาปตฺติ อิมํ ชานาติอาทีสุ ‘‘อิมสฺส ถมฺภสฺส อาวาฎํ ชาน, มหามตฺติกํ ชาน, ถุสมตฺติกํ ชาน, มหามตฺติกํ เทหิ, ถุสมตฺติกํ เทหิ, มตฺติกํ อาหร, ปํสุํ อาหร, มตฺติกาย อโตฺถ, ปํสุนา อโตฺถ, อิมสฺส ถมฺภสฺส อาวาฎํ กปฺปิยํ กโรหิ, อิมํ มตฺติกํ กปฺปิยํ กโรหิ, อิมํ ปํสุํ กปฺปิยํ กโรหี’’ติ เอวมโตฺถ เวทิตโพฺพฯ
88.Anāpatti imaṃ jānātiādīsu ‘‘imassa thambhassa āvāṭaṃ jāna, mahāmattikaṃ jāna, thusamattikaṃ jāna, mahāmattikaṃ dehi, thusamattikaṃ dehi, mattikaṃ āhara, paṃsuṃ āhara, mattikāya attho, paṃsunā attho, imassa thambhassa āvāṭaṃ kappiyaṃ karohi, imaṃ mattikaṃ kappiyaṃ karohi, imaṃ paṃsuṃ kappiyaṃ karohī’’ti evamattho veditabbo.
อสญฺจิจฺจาติ ปาสาณรุกฺขาทีนิ วา ปวเฎฺฎนฺตสฺส กตฺตรทเณฺฑน วา อาหจฺจ อาหจฺจ คจฺฉนฺตสฺส ปถวี ภิชฺชติ, สา ‘‘เตน ภินฺทิสฺสามี’’ติ เอวํ สญฺจิจฺจ อภินฺนตฺตา อสญฺจิจฺจ ภินฺนา นาม โหติฯ อิติ อสญฺจิจฺจ ภินฺทนฺตสฺส อนาปตฺติฯ อสติยาติ อญฺญวิหิโต เกนจิ สทฺธิํ กิญฺจิ กเถโนฺต ปาทงฺคุฎฺฐเกน วา กตฺตรยฎฺฐิยา วา ปถวิํ วิลิขโนฺต ติฎฺฐติ, เอวํ อสติยา วิลิขนฺตสฺส วา ภินฺทนฺตสฺส วา อนาปตฺติฯ อชานนฺตสฺสาติ อโนฺตเคเห โอวฎฺฐํ ฉนฺนํ ปถวิํ ‘‘อกปฺปิยปถวี’’ติ น ชานาติ, ‘‘กปฺปิยปถวี’’ติ สญฺญาย วิโกเปติ, ‘‘ขณามิ ภินฺทามิ ทหามี’’ติ วา น ชานาติ , เกวลํ สโงฺคปนตฺถาย ขณิตฺตาทีนิ วา ฐเปติ, ฑยฺหมานหโตฺถ วา อคฺคิํ ปาเตติ, เอวํ อชานนฺตสฺส อนาปตฺติฯ เสสํ อุตฺตานเมวฯ
Asañciccāti pāsāṇarukkhādīni vā pavaṭṭentassa kattaradaṇḍena vā āhacca āhacca gacchantassa pathavī bhijjati, sā ‘‘tena bhindissāmī’’ti evaṃ sañcicca abhinnattā asañcicca bhinnā nāma hoti. Iti asañcicca bhindantassa anāpatti. Asatiyāti aññavihito kenaci saddhiṃ kiñci kathento pādaṅguṭṭhakena vā kattarayaṭṭhiyā vā pathaviṃ vilikhanto tiṭṭhati, evaṃ asatiyā vilikhantassa vā bhindantassa vā anāpatti. Ajānantassāti antogehe ovaṭṭhaṃ channaṃ pathaviṃ ‘‘akappiyapathavī’’ti na jānāti, ‘‘kappiyapathavī’’ti saññāya vikopeti, ‘‘khaṇāmi bhindāmi dahāmī’’ti vā na jānāti , kevalaṃ saṅgopanatthāya khaṇittādīni vā ṭhapeti, ḍayhamānahattho vā aggiṃ pāteti, evaṃ ajānantassa anāpatti. Sesaṃ uttānameva.
ติสมุฎฺฐานํ – กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฎฺฐาติฯ กิริยํ, สญฺญาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติฯ
Tisamuṭṭhānaṃ – kāyacittato vācācittato kāyavācācittato ca samuṭṭhāti. Kiriyaṃ, saññāvimokkhaṃ, sacittakaṃ, paṇṇattivajjaṃ, kāyakammaṃ, vacīkammaṃ, ticittaṃ, tivedananti.
ปถวีขณนสิกฺขาปทํ ทสมํฯ
Pathavīkhaṇanasikkhāpadaṃ dasamaṃ.
สมโตฺต วณฺณนากฺกเมน มุสาวาทวโคฺค ปฐโมฯ
Samatto vaṇṇanākkamena musāvādavaggo paṭhamo.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๑. มุสาวาทวโคฺค • 1. Musāvādavaggo
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๑๐. ปถวีขณนสิกฺขาปทวณฺณนา • 10. Pathavīkhaṇanasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๑๐. ปถวีขณนสิกฺขาปทวณฺณนา • 10. Pathavīkhaṇanasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๑๐. ปถวีขณนสิกฺขาปทวณฺณนา • 10. Pathavīkhaṇanasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๑๐. ปถวีขณนสิกฺขาปทํ • 10. Pathavīkhaṇanasikkhāpadaṃ