Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วินยสงฺคห-อฎฺฐกถา • Vinayasaṅgaha-aṭṭhakathā |
๑๔. ปถวีขณนวินิจฺฉยกถา
14. Pathavīkhaṇanavinicchayakathā
๗๒. ปถวีติ เทฺว ปถวี ชาตา จ ปถวี อชาตา จ ปถวีติฯ ตตฺถ ชาตา นาม ปถวี สุทฺธปํสุกา สุทฺธมตฺติกา อปฺปปาสาณา อปฺปสกฺขรา อปฺปกฐลา อปฺปมรุมฺพา อปฺปวาลุกา เยภุเยฺยนปํสุกา เยภุเยฺยนมตฺติกา, อทฑฺฒาปิ วุจฺจติ ‘‘ชาตา ปถวี’’ติฯ โยปิ ปํสุปุโญฺช วา มตฺติกาปุโญฺช วา อติเรกจาตุมาสํ โอวโฎฺฐ, โสปิ วุจฺจติ ‘‘ชาตา ปถวี’’ติฯ อชาตา นาม ปถวี สุทฺธปาสาณา สุทฺธสกฺขรา สุทฺธกฐลา สุทฺธมรุมฺพา สุทฺธวาลุกา อปฺปปํสุกา อปฺปมตฺติกา เยภุเยฺยนปาสาณา เยภุเยฺยนสกฺขรา เยภุเยฺยนกฐลา เยภุเยฺยนมรุมฺพา เยภุเยฺยนวาลุกา, ทฑฺฒาปิ วุจฺจติ ‘‘อชาตา ปถวี’’ติฯ โยปิ ปํสุปุโญฺช วา มตฺติกาปุโญฺช วา โอมกจาตุมาสํ โอวโฎฺฐ, โสปิ วุจฺจติ ‘‘อชาตา ปถวี’’ติ (ปาจิ. ๘๔-๘๖)ฯ
72.Pathavīti dve pathavī jātā ca pathavī ajātā ca pathavīti. Tattha jātā nāma pathavī suddhapaṃsukā suddhamattikā appapāsāṇā appasakkharā appakaṭhalā appamarumbā appavālukā yebhuyyenapaṃsukā yebhuyyenamattikā, adaḍḍhāpi vuccati ‘‘jātā pathavī’’ti. Yopi paṃsupuñjo vā mattikāpuñjo vā atirekacātumāsaṃ ovaṭṭho, sopi vuccati ‘‘jātā pathavī’’ti. Ajātā nāma pathavī suddhapāsāṇā suddhasakkharā suddhakaṭhalā suddhamarumbā suddhavālukā appapaṃsukā appamattikā yebhuyyenapāsāṇā yebhuyyenasakkharā yebhuyyenakaṭhalā yebhuyyenamarumbā yebhuyyenavālukā, daḍḍhāpi vuccati ‘‘ajātā pathavī’’ti. Yopi paṃsupuñjo vā mattikāpuñjo vā omakacātumāsaṃ ovaṭṭho, sopi vuccati ‘‘ajātā pathavī’’ti (pāci. 84-86).
ตตฺถ ชาตปถวิํ ขณนฺตสฺส ขณาเปนฺตสฺส วา ปาจิตฺติยํฯ ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปาจิ. อฎฺฐ. ๘๖) – สเจ สยํ ขณติ, ปหาเร ปหาเร ปาจิตฺติยํฯ สเจ อญฺญํ อาณาเปติ, สกิํ อาณโตฺต สเจปิ สกลทิวสํ ขณติ, อาณาปกสฺส เอกเมว ปาจิตฺติยํฯ สเจ ปน กุสีโต โหติ, ปุนปฺปุนํ อาณาเปตโพฺพ, ตํ อาณาเปตฺวา ขณาเปนฺตสฺส วาจาย วาจาย ปาจิตฺติยํฯ สเจ ‘‘โปกฺขรณิํ ขณาหี’’ติ วทติ, วฎฺฎติฯ ขตาเยว หิ โปกฺขรณี นาม โหติฯ ตสฺมา อยํ กปฺปิยโวหาโรฯ เอส นโย ‘‘วาปิํ ตฬากํ อาวาฎํ ขณา’’ติอาทีสุปิฯ ‘‘อิมํ โอกาสํ ขณ, อิมสฺมิํ โอกาเส โปกฺขรณิํ ขณา’’ติ วตฺตุํ ปน น วฎฺฎติฯ ‘‘กนฺทํ ขณ, มูลํ ขณา’’ติ อนิยเมตฺวา วตฺตุํ วฎฺฎติ, ‘‘อิมํ วลฺลิํ ขณ, อิมสฺมิํ โอกาเส กนฺทํ วา มูลํ วา ขณา’’ติ วตฺตุํ น วฎฺฎติฯ
Tattha jātapathaviṃ khaṇantassa khaṇāpentassa vā pācittiyaṃ. Tatrāyaṃ vinicchayo (pāci. aṭṭha. 86) – sace sayaṃ khaṇati, pahāre pahāre pācittiyaṃ. Sace aññaṃ āṇāpeti, sakiṃ āṇatto sacepi sakaladivasaṃ khaṇati, āṇāpakassa ekameva pācittiyaṃ. Sace pana kusīto hoti, punappunaṃ āṇāpetabbo, taṃ āṇāpetvā khaṇāpentassa vācāya vācāya pācittiyaṃ. Sace ‘‘pokkharaṇiṃ khaṇāhī’’ti vadati, vaṭṭati. Khatāyeva hi pokkharaṇī nāma hoti. Tasmā ayaṃ kappiyavohāro. Esa nayo ‘‘vāpiṃ taḷākaṃ āvāṭaṃ khaṇā’’tiādīsupi. ‘‘Imaṃ okāsaṃ khaṇa, imasmiṃ okāse pokkharaṇiṃ khaṇā’’ti vattuṃ pana na vaṭṭati. ‘‘Kandaṃ khaṇa, mūlaṃ khaṇā’’ti aniyametvā vattuṃ vaṭṭati, ‘‘imaṃ valliṃ khaṇa, imasmiṃ okāse kandaṃ vā mūlaṃ vā khaṇā’’ti vattuṃ na vaṭṭati.
๗๓. โปกฺขรณิํ โสเธเนฺตหิ โย กุเฎหิ อุสฺสิญฺจิตุํ สกฺกา โหติ ตนุกกทฺทโม, ตํ อปเนตุํ วฎฺฎติ, พหโล น วฎฺฎติฯ อาตเปน สุกฺขกทฺทโม ผลติ, ตตฺร โย เหฎฺฐา ปถวิยา อสมฺพโนฺธ, ตเมว อปเนตุํ วฎฺฎติฯ อุทเกน คตฎฺฐาเน อุทกปปฺปฎโก นาม โหติ, วาตปหาเรน จลติ, ตํ อปเนตุํ วฎฺฎติฯ โปกฺขรณีอาทีนํ ตฎํ ภิชฺชิตฺวา อุทกสามนฺตา ปตติฯ สเจ โอมกจาตุมาสํ โอวฎฺฐํ, ฉินฺทิตุํ ภินฺทิตุํ วา วฎฺฎติ, จาตุมาสโต อุทฺธํ น วฎฺฎติฯ สเจ ปน อุทเกเยว ปตติ, เทเวน อติเรกจาตุมาสํ โอวเฎฺฐปิ อุทเกเยว อุทกสฺส ปติตตฺตา วฎฺฎติฯ
73. Pokkharaṇiṃ sodhentehi yo kuṭehi ussiñcituṃ sakkā hoti tanukakaddamo, taṃ apanetuṃ vaṭṭati, bahalo na vaṭṭati. Ātapena sukkhakaddamo phalati, tatra yo heṭṭhā pathaviyā asambandho, tameva apanetuṃ vaṭṭati. Udakena gataṭṭhāne udakapappaṭako nāma hoti, vātapahārena calati, taṃ apanetuṃ vaṭṭati. Pokkharaṇīādīnaṃ taṭaṃ bhijjitvā udakasāmantā patati. Sace omakacātumāsaṃ ovaṭṭhaṃ, chindituṃ bhindituṃ vā vaṭṭati, cātumāsato uddhaṃ na vaṭṭati. Sace pana udakeyeva patati, devena atirekacātumāsaṃ ovaṭṭhepi udakeyeva udakassa patitattā vaṭṭati.
ปาสาณปิฎฺฐิยํ โสณฺฑิํ ขณนฺติ, สเจ ตตฺถ ปฐมเมว สุขุมรชํ ปตติ, ตํ เทเวน โอวฎฺฐํ โหติ, จาตุมาสจฺจเยน อกปฺปิยปถวีสงฺขฺยํ คจฺฉติฯ อุทเก ปริยาทิเนฺน โสณฺฑิํ โสเธเนฺตหิ วิโกเปตุํ น วฎฺฎติฯ สเจ ปฐมเมว อุทเกน ปูรติ, ปจฺฉา รชํ ปตติ, ตํ วิโกเปตุํ วฎฺฎติฯ ตตฺถ หิ เทเว วสฺสเนฺตปิ อุทเกเยว อุทกํ ปตติฯ ปิฎฺฐิปาสาเณ สุขุมรชํ โหติ, เทเว ผุสายเนฺต อลฺลียติ, ตมฺปิ จาตุมาสจฺจเยน วิโกเปตุํ น วฎฺฎติฯ อกตปพฺภาเร วมฺมิโก อุฎฺฐิโต โหติ, ยถาสุขํ วิโกเปตุํ วฎฺฎติฯ สเจ อโพฺภกาเส อุฎฺฐหติ, โอมกจาตุมาสํ โอวโฎฺฐเยว วฎฺฎติฯ รุกฺขาทีสุ อารุฬฺหอุปจิกมตฺติกายมฺปิ เอเสว นโยฯ คณฺฑุปฺปาทคูถมูสิกุกฺกรโคกณฺฎกาทีสุปิ เอเสว นโยฯ โคกณฺฎโก นาม คาวีนํ ขุรจฺฉินฺนกทฺทโม วุจฺจติฯ สเจ ปน เหฎฺฐิมตเลน ภูมิสมฺพโนฺธ โหติ, เอกทิวสมฺปิ น วฎฺฎติฯ กสิตฎฺฐาเน นงฺคลจฺฉินฺนมตฺติกาปิณฺฑํ คณฺหนฺตสฺส เอเสว นโยฯ
Pāsāṇapiṭṭhiyaṃ soṇḍiṃ khaṇanti, sace tattha paṭhamameva sukhumarajaṃ patati, taṃ devena ovaṭṭhaṃ hoti, cātumāsaccayena akappiyapathavīsaṅkhyaṃ gacchati. Udake pariyādinne soṇḍiṃ sodhentehi vikopetuṃ na vaṭṭati. Sace paṭhamameva udakena pūrati, pacchā rajaṃ patati, taṃ vikopetuṃ vaṭṭati. Tattha hi deve vassantepi udakeyeva udakaṃ patati. Piṭṭhipāsāṇe sukhumarajaṃ hoti, deve phusāyante allīyati, tampi cātumāsaccayena vikopetuṃ na vaṭṭati. Akatapabbhāre vammiko uṭṭhito hoti, yathāsukhaṃ vikopetuṃ vaṭṭati. Sace abbhokāse uṭṭhahati, omakacātumāsaṃ ovaṭṭhoyeva vaṭṭati. Rukkhādīsu āruḷhaupacikamattikāyampi eseva nayo. Gaṇḍuppādagūthamūsikukkaragokaṇṭakādīsupi eseva nayo. Gokaṇṭako nāma gāvīnaṃ khuracchinnakaddamo vuccati. Sace pana heṭṭhimatalena bhūmisambandho hoti, ekadivasampi na vaṭṭati. Kasitaṭṭhāne naṅgalacchinnamattikāpiṇḍaṃ gaṇhantassa eseva nayo.
ปุราณเสนาสนํ โหติ อจฺฉทนํ วา วินฎฺฐจฺฉทนํ วา อติเรกจาตุมาสํ โอวฎฺฐํ ชาตปถวีสงฺขฺยเมว คจฺฉติ, ตโต อวเสสํ ฉทนิฎฺฐกํ วา โคปานสีอาทิกํ อุปกรณํ วา ‘‘อิฎฺฐกํ คณฺหามิ, โคปานสิํ ภิตฺติปาทํ ปทรตฺถรณํ ปาสาทตฺถมฺภํ คณฺหามี’’ติ สญฺญาย คณฺหิตุํ วฎฺฎติ, เตน สทฺธิํ มตฺติกา ปตติ, อนาปตฺติ, ภิตฺติมตฺติกํ คณฺหนฺตสฺส ปน อาปตฺติฯ สเจ ยา ยา อตินฺตา, ตํ ตํ คณฺหาติ, อนาปตฺติฯ อโนฺตเคเห มตฺติกาปุโญฺช โหติ, ตสฺมิํ เอกทิวสํ โอวเฎฺฐ เคหํ ฉาเทนฺติฯ สเจ สโพฺพ ติโนฺต, จาตุมาสจฺจเยน ชาตปถวีเยวฯ อถสฺส อุปริภาโคเยว ติโนฺต, อโนฺต อติโนฺต, ยตฺตกํ ตินฺตํ, ตํ กปฺปิยการเกหิ กปฺปิยโวหาเรน อปนาเมตฺวา เสสํ ยถาสุขํ วฬเญฺชตุํ วฎฺฎติ อุทเกน เตมิตตฺตาฯ เอกาพทฺธาเยว หิ ชาตปถวี โหติ, น อิตราติฯ อโพฺภกาเส มตฺติกาปากาโร โหติ, อติเรกจาตุมาสํ โอวโฎฺฐ ชาตปถวีสงฺขฺยํ คจฺฉติ, ตตฺถ ลคฺคปํสุํ ปน อลฺลหเตฺถน ฉุปิตฺวา คเหตุํ วฎฺฎติฯ สเจ อิฎฺฐกปากาโร โหติ, เยภุเยฺยนกฐลฎฺฐาเน ติฎฺฐติ, ยถาสุขํ วิโกเปตุํ วฎฺฎติฯ อโพฺภกาเส ฐิตมณฺฑปตฺถมฺภํ อิโต จิโต จ สญฺจาเลตฺวา ปถวิํ วิโกเปเนฺตน คเหตุํ น วฎฺฎติ, อุชุกเมว อุทฺธริตุํ วฎฺฎติฯ อญฺญมฺปิ สุกฺขรุกฺขํ สุกฺขขาณุกํ วา คณฺหนฺตสฺส เอเสว นโยฯ
Purāṇasenāsanaṃ hoti acchadanaṃ vā vinaṭṭhacchadanaṃ vā atirekacātumāsaṃ ovaṭṭhaṃ jātapathavīsaṅkhyameva gacchati, tato avasesaṃ chadaniṭṭhakaṃ vā gopānasīādikaṃ upakaraṇaṃ vā ‘‘iṭṭhakaṃ gaṇhāmi, gopānasiṃ bhittipādaṃ padarattharaṇaṃ pāsādatthambhaṃ gaṇhāmī’’ti saññāya gaṇhituṃ vaṭṭati, tena saddhiṃ mattikā patati, anāpatti, bhittimattikaṃ gaṇhantassa pana āpatti. Sace yā yā atintā, taṃ taṃ gaṇhāti, anāpatti. Antogehe mattikāpuñjo hoti, tasmiṃ ekadivasaṃ ovaṭṭhe gehaṃ chādenti. Sace sabbo tinto, cātumāsaccayena jātapathavīyeva. Athassa uparibhāgoyeva tinto, anto atinto, yattakaṃ tintaṃ, taṃ kappiyakārakehi kappiyavohārena apanāmetvā sesaṃ yathāsukhaṃ vaḷañjetuṃ vaṭṭati udakena temitattā. Ekābaddhāyeva hi jātapathavī hoti, na itarāti. Abbhokāse mattikāpākāro hoti, atirekacātumāsaṃ ovaṭṭho jātapathavīsaṅkhyaṃ gacchati, tattha laggapaṃsuṃ pana allahatthena chupitvā gahetuṃ vaṭṭati. Sace iṭṭhakapākāro hoti, yebhuyyenakaṭhalaṭṭhāne tiṭṭhati, yathāsukhaṃ vikopetuṃ vaṭṭati. Abbhokāse ṭhitamaṇḍapatthambhaṃ ito cito ca sañcāletvā pathaviṃ vikopentena gahetuṃ na vaṭṭati, ujukameva uddharituṃ vaṭṭati. Aññampi sukkharukkhaṃ sukkhakhāṇukaṃ vā gaṇhantassa eseva nayo.
๗๔. นวกมฺมตฺถํ ถมฺภํ วา ปาสาณํ วา รุกฺขํ วา ทณฺฑเกหิ อุจฺจาเลตฺวา ปวเฎฺฎนฺตา คจฺฉนฺติ , ตตฺถ ชาตปถวี ภิชฺชติ, สเจ สุทฺธจิตฺตา ปวเฎฺฎนฺติ, อนาปตฺติฯ อถ ปน เตน อปเทเสน ปถวิํ ภินฺทิตุกามาเยว โหนฺติ, อาปตฺติฯ สาขาทีนิ กฑฺฒนฺตานมฺปิ ปถวิยํ ทารูนิ ผาเลนฺตานมฺปิ เอเสว นโยฯ ปถวิยํ อฎฺฐิสูจิกณฺฎกาทีสุปิ ยํ กิญฺจิ อาโกเฎตุํ วา ปเวเสตุํ วา น วฎฺฎติ, ‘‘ปสฺสาวธาราย เวเคน ปถวิํ ภินฺทิสฺสามี’’ติ เอวํ ปสฺสาวมฺปิ กาตุํ น วฎฺฎติฯ กโรนฺตสฺส ภิชฺชติ, อาปตฺติ, ‘‘วิสมภูมิํ สมํ กริสฺสามี’’ติ สมฺมชฺชนิยา ฆํสิตุมฺปิ น วฎฺฎติฯ วตฺตสีเสเนว หิ สมฺมชฺชิตพฺพํฯ เกจิ กตฺตรยฎฺฐิยา ภูมิํ โกเฎฺฎนฺติ, ปาทงฺคุฎฺฐเกน วิลิขนฺติ, ‘‘จงฺกมิตฎฺฐานํ ทเสฺสสฺสามา’’ติ ปุนปฺปุนํ ภูมิํ ภินฺทนฺตา จงฺกมนฺติ, สพฺพํ น วฎฺฎติ, วีริยสมฺปคฺคหตฺถํ ปน สมณธมฺมํ กโรเนฺตน สุทฺธจิเตฺตน จงฺกมิตุํ วฎฺฎติฯ ‘‘หตฺถํ โขวิสฺสามา’’ติ ปถวิยํ ฆํสนฺติ, น วฎฺฎติ, อฆํสเนฺตน ปน อลฺลหตฺถํ ปถวิยํ ฐเปตฺวา รชํ คเหตุํ วฎฺฎติฯ
74. Navakammatthaṃ thambhaṃ vā pāsāṇaṃ vā rukkhaṃ vā daṇḍakehi uccāletvā pavaṭṭentā gacchanti , tattha jātapathavī bhijjati, sace suddhacittā pavaṭṭenti, anāpatti. Atha pana tena apadesena pathaviṃ bhinditukāmāyeva honti, āpatti. Sākhādīni kaḍḍhantānampi pathaviyaṃ dārūni phālentānampi eseva nayo. Pathaviyaṃ aṭṭhisūcikaṇṭakādīsupi yaṃ kiñci ākoṭetuṃ vā pavesetuṃ vā na vaṭṭati, ‘‘passāvadhārāya vegena pathaviṃ bhindissāmī’’ti evaṃ passāvampi kātuṃ na vaṭṭati. Karontassa bhijjati, āpatti, ‘‘visamabhūmiṃ samaṃ karissāmī’’ti sammajjaniyā ghaṃsitumpi na vaṭṭati. Vattasīseneva hi sammajjitabbaṃ. Keci kattarayaṭṭhiyā bhūmiṃ koṭṭenti, pādaṅguṭṭhakena vilikhanti, ‘‘caṅkamitaṭṭhānaṃ dassessāmā’’ti punappunaṃ bhūmiṃ bhindantā caṅkamanti, sabbaṃ na vaṭṭati, vīriyasampaggahatthaṃ pana samaṇadhammaṃ karontena suddhacittena caṅkamituṃ vaṭṭati. ‘‘Hatthaṃ khovissāmā’’ti pathaviyaṃ ghaṃsanti, na vaṭṭati, aghaṃsantena pana allahatthaṃ pathaviyaṃ ṭhapetvā rajaṃ gahetuṃ vaṭṭati.
เกจิ กณฺฑุกจฺฉุอาทีหิ อาพาธิกา ฉินฺนตฎาทีสุ องฺคปจฺจงฺคานิ ฆํสนฺติ, น วฎฺฎติฯ ชาตปถวิํ ทหติ วา ทหาเปติ วา, ปาจิตฺติยํ, อนฺตมโส ปตฺตมฺปิ ปจโนฺต ยตฺตเกสุ ฐาเนสุ อคฺคิํ เทติ วา ทาเปติ วา, ตตฺตกานิ ปาจิตฺติยานิ, ตสฺมา ปตฺตํ ปจเนฺตนปิ ปุเพฺพ ปกฺกฎฺฐาเนเยว ปจิตโพฺพฯ อทฑฺฒาย ปถวิยา อคฺคิํ ฐเปตุํ น วฎฺฎติ, ปตฺตปจนกปาลสฺส ปน อุปริ อคฺคิํ ฐเปตุํ วฎฺฎติฯ ทารูนํ อุปริ ฐเปติ, โส อคฺคิ ตานิ ทหโนฺต คนฺตฺวา ปถวิํ ทหติ, น วฎฺฎติฯ อิฎฺฐกกปาลาทีสุปิ เอเสว นโยฯ ตตฺราปิ หิ อิฎฺฐกาทีนํเยว อุปริ ฐเปตุํ วฎฺฎติฯ กสฺมา? เตสํ อนุปาทานตฺตาฯ น หิ ตานิ อคฺคิสฺส อุปาทานสงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ, สุกฺขขาณุสุกฺขรุกฺขาทีสุปิ อคฺคิํ ทาตุํ น วฎฺฎติฯ สเจ ปน ‘‘ปถวิํ อปฺปตฺตเมว นิพฺพาเปตฺวา คมิสฺสามี’’ติ เทติ, วฎฺฎติฯ ปจฺฉา นิพฺพาเปตุํ น สโกฺกติ, อวิสยตฺตา อนาปตฺติฯ ติณุกฺกํ คเหตฺวา คจฺฉโนฺต หเตฺถ ฑยฺหมาเน ภูมิยํ ปาเตติ, อนาปตฺติฯ ปติตฎฺฐาเนเยว อุปาทานํ ทตฺวา อคฺคิํ กาตุํ วฎฺฎติฯ ทฑฺฒปถวิยา จ ยตฺตกํ ฐานํ อุสุมาย อนุคตํ, สพฺพํ วิโกเปตุํ วฎฺฎติฯ
Keci kaṇḍukacchuādīhi ābādhikā chinnataṭādīsu aṅgapaccaṅgāni ghaṃsanti, na vaṭṭati. Jātapathaviṃ dahati vā dahāpeti vā, pācittiyaṃ, antamaso pattampi pacanto yattakesu ṭhānesu aggiṃ deti vā dāpeti vā, tattakāni pācittiyāni, tasmā pattaṃ pacantenapi pubbe pakkaṭṭhāneyeva pacitabbo. Adaḍḍhāya pathaviyā aggiṃ ṭhapetuṃ na vaṭṭati, pattapacanakapālassa pana upari aggiṃ ṭhapetuṃ vaṭṭati. Dārūnaṃ upari ṭhapeti, so aggi tāni dahanto gantvā pathaviṃ dahati, na vaṭṭati. Iṭṭhakakapālādīsupi eseva nayo. Tatrāpi hi iṭṭhakādīnaṃyeva upari ṭhapetuṃ vaṭṭati. Kasmā? Tesaṃ anupādānattā. Na hi tāni aggissa upādānasaṅkhyaṃ gacchanti, sukkhakhāṇusukkharukkhādīsupi aggiṃ dātuṃ na vaṭṭati. Sace pana ‘‘pathaviṃ appattameva nibbāpetvā gamissāmī’’ti deti, vaṭṭati. Pacchā nibbāpetuṃ na sakkoti, avisayattā anāpatti. Tiṇukkaṃ gahetvā gacchanto hatthe ḍayhamāne bhūmiyaṃ pāteti, anāpatti. Patitaṭṭhāneyeva upādānaṃ datvā aggiṃ kātuṃ vaṭṭati. Daḍḍhapathaviyā ca yattakaṃ ṭhānaṃ usumāya anugataṃ, sabbaṃ vikopetuṃ vaṭṭati.
โย ปน อชานนโก ภิกฺขุ อรณิสหิเตน อคฺคิํ นิพฺพเตฺตตฺวา หเตฺถน อุกฺขิปิตฺวา ‘‘กิํ กโรมี’’ติ วทติ, ‘‘ชาเลหี’’ติ วตฺตโพฺพฯ ‘‘หโตฺถ ฑยฺหตี’’ติ วทติ, ‘‘ยถา น ฑยฺหติ, ตถา กโรหี’’ติ วตฺตโพฺพฯ ‘‘ภูมิยํ ปาเตหี’’ติ ปน น วตฺตโพฺพฯ สเจ หเตฺถ ฑยฺหมาเน ปาเตติ, ‘‘ปถวิํ ทหิสฺสามี’’ติ อปาติตตฺตา อนาปตฺติ, ปติตฎฺฐาเน ปน อคฺคิํ กาตุํ วฎฺฎติฯ ‘‘อิมสฺส ถมฺภสฺส อาวาฎํ ชาน, มหามตฺติกํ ชาน, ถุสมตฺติกํ ชาน, มหามตฺติกํ เทหิ, ถุสมตฺติกํ เทหิ, มตฺติกํ อาหร, ปํสุํ อาหร, มตฺติกาย อโตฺถ, ปํสุนา อโตฺถ , อิมสฺส ถมฺภสฺส อาวาฎํ กปฺปิยํ กโรหิ, อิมํ มตฺติกํ กปฺปิยํ กโรหิ, อิมํ ปํสุํ กปฺปิยํ กโรหี’’ติ เอวํ กปฺปิยโวหาเรน ยํ กิญฺจิ การาเปตุํ วฎฺฎติฯ อญฺญวิหิโต เกนจิ สทฺธิํ กิญฺจิ กเถโนฺต ปาทงฺคุฎฺฐเกน กตฺตรยฎฺฐิยา วา ปถวิํ วิลิขโนฺต ติฎฺฐติ, เอวํ อสติยา วิลิขนฺตสฺส ภินฺทนฺตสฺส วา อนาปตฺติฯ
Yo pana ajānanako bhikkhu araṇisahitena aggiṃ nibbattetvā hatthena ukkhipitvā ‘‘kiṃ karomī’’ti vadati, ‘‘jālehī’’ti vattabbo. ‘‘Hattho ḍayhatī’’ti vadati, ‘‘yathā na ḍayhati, tathā karohī’’ti vattabbo. ‘‘Bhūmiyaṃ pātehī’’ti pana na vattabbo. Sace hatthe ḍayhamāne pāteti, ‘‘pathaviṃ dahissāmī’’ti apātitattā anāpatti, patitaṭṭhāne pana aggiṃ kātuṃ vaṭṭati. ‘‘Imassa thambhassa āvāṭaṃ jāna, mahāmattikaṃ jāna, thusamattikaṃ jāna, mahāmattikaṃ dehi, thusamattikaṃ dehi, mattikaṃ āhara, paṃsuṃ āhara, mattikāya attho, paṃsunā attho , imassa thambhassa āvāṭaṃ kappiyaṃ karohi, imaṃ mattikaṃ kappiyaṃ karohi, imaṃ paṃsuṃ kappiyaṃ karohī’’ti evaṃ kappiyavohārena yaṃ kiñci kārāpetuṃ vaṭṭati. Aññavihito kenaci saddhiṃ kiñci kathento pādaṅguṭṭhakena kattarayaṭṭhiyā vā pathaviṃ vilikhanto tiṭṭhati, evaṃ asatiyā vilikhantassa bhindantassa vā anāpatti.
อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห
Iti pāḷimuttakavinayavinicchayasaṅgahe
ปถวีขณนวินิจฺฉยกถา สมตฺตาฯ
Pathavīkhaṇanavinicchayakathā samattā.