Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ขุทฺทสิกฺขา-มูลสิกฺขา • Khuddasikkhā-mūlasikkhā

    ๓๔. ปถวีนิเทฺทสวณฺณนา

    34. Pathavīniddesavaṇṇanā

    ๒๔๒. ชาตาชาตาติ ทุวิธาติ ชาตา ปถวี อชาตา ปถวีติ ปถวี ทุวิธาติ อโตฺถฯ อิมินา ชาตปถวิญฺจ อชาตปถวิญฺจ ทเสฺสติฯ ตาสํ วิภาคํ ทเสฺสติ ‘‘สุทฺธา’’ติอาทินาฯ สุทฺธมตฺติกปํสุกา จ อทฑฺฒา จ พหุมตฺติกปํสุกา จ จาตุมาสาธิโกวฎฺฐปํสุมตฺติกราสิ จ ชาตา ปถวีติ สมฺพโนฺธฯ มตฺติกา จ ปํสุ จาติ ทฺวโนฺทฯ สุทฺธา อปฺปสกฺขราทิตาย มตฺติกา ปํสโว ยสฺสาติ พาหิรโตฺถฯ อทฑฺฒาติ อุทฺธนปจนาทิวเสน ตถา ตถา อทฑฺฒาฯ สา ปน วิสุํ นตฺถิ, สุทฺธมตฺติกาทีสุ อญฺญตราว เวทิตพฺพาฯ จตฺตาโร มาสา, เตหิ สหิโต อติเรโก กาโล, ตสฺมิํ โอวโฎฺฐติ สมาโสฯ โอวโฎฺฐติ เยน เกนจิ อุทเกน โอวโฎฺฐฯ พุธา ปน ‘‘อากาสโต วุฎฺฐอุทเกเนว, น อญฺญตฺถ ปหริตฺวา ปติตพินฺทุนา’’ติ วทนฺติ, ‘‘โอวโฎฺฐ’’ติ สามเญฺญน วุตฺตตฺตา จ ‘‘โปกฺขรณิยา ฐิตตนุกทฺทโม วฎฺฎติ, พหโล ตุ น วฎฺฎตี’’ติ (ปาจิ. อฎฺฐ. ๘๖) วุตฺตตฺตา จ ‘‘วินยวินิจฺฉเย สมฺปเตฺต ครุเก ฐาตพฺพ’’นฺติ วินยลกฺขณโต จ น ตํ ยุชฺชตีติ อมฺหากํ ขนฺติฯ ปํสุมตฺติกานํ ราสิ ปํสุมตฺติกราสิฯ จตุ…เป.… วโฎฺฐ ปํสุมตฺติกราสิ ยสฺสาติ อญฺญปทโตฺถ, กมฺมธารโย วาฯ

    242.Jātājātātiduvidhāti jātā pathavī ajātā pathavīti pathavī duvidhāti attho. Iminā jātapathaviñca ajātapathaviñca dasseti. Tāsaṃ vibhāgaṃ dasseti ‘‘suddhā’’tiādinā. Suddhamattikapaṃsukā ca adaḍḍhā ca bahumattikapaṃsukā ca cātumāsādhikovaṭṭhapaṃsumattikarāsi ca jātā pathavīti sambandho. Mattikā ca paṃsu cāti dvando. Suddhā appasakkharāditāya mattikā paṃsavo yassāti bāhirattho. Adaḍḍhāti uddhanapacanādivasena tathā tathā adaḍḍhā. Sā pana visuṃ natthi, suddhamattikādīsu aññatarāva veditabbā. Cattāro māsā, tehi sahito atireko kālo, tasmiṃ ovaṭṭhoti samāso. Ovaṭṭhoti yena kenaci udakena ovaṭṭho. Budhā pana ‘‘ākāsato vuṭṭhaudakeneva, na aññattha paharitvā patitabindunā’’ti vadanti, ‘‘ovaṭṭho’’ti sāmaññena vuttattā ca ‘‘pokkharaṇiyā ṭhitatanukaddamo vaṭṭati, bahalo tu na vaṭṭatī’’ti (pāci. aṭṭha. 86) vuttattā ca ‘‘vinayavinicchaye sampatte garuke ṭhātabba’’nti vinayalakkhaṇato ca na taṃ yujjatīti amhākaṃ khanti. Paṃsumattikānaṃ rāsi paṃsumattikarāsi. Catu…pe… vaṭṭho paṃsumattikarāsi yassāti aññapadattho, kammadhārayo vā.

    ๒๔๓. วาลุกา จ ทฑฺฒา จ เยภุยฺยสกฺขราทิมหีปิ จ จาตุมาโสมวฎฺฐโก วุตฺตราสิ จ ทุติยา ภูมีติ สมฺพโนฺธ สกฺขรา จ ปาสาณา จ มรุมฺพา จ กถลา จ วาลุกา จาติ ทฺวโนฺทฯ สุทฺธา สกฺขร…เป.… วาลุกา ยสฺสาติ วิคฺคโหฯ หตฺถมุฎฺฐินา คเหตพฺพปฺปมาณา สกฺขรา, ตโต อุปริ ปาสาณา, กฎสกฺขรา มรุมฺพา, กปาลขณฺฑานิ กถลาติ เวทิตพฺพาฯ ทุติยาติ อชาตาฯ วุตฺตราสีติ วุโตฺต มตฺติกปํสุสิราฯ

    243. Vālukā ca daḍḍhā ca yebhuyyasakkharādimahīpi ca cātumāsomavaṭṭhako vuttarāsi ca dutiyā bhūmīti sambandho sakkharā ca pāsāṇā ca marumbā ca kathalā ca vālukā cāti dvando. Suddhā sakkhara…pe… vālukā yassāti viggaho. Hatthamuṭṭhinā gahetabbappamāṇā sakkharā, tato upari pāsāṇā, kaṭasakkharā marumbā, kapālakhaṇḍāni kathalāti veditabbā. Dutiyāti ajātā. Vuttarāsīti vutto mattikapaṃsusirā.

    ๒๔๔. กีทิสี เยภุยุมตฺติกาทีติ อาห ‘‘เทฺว ภาคา’’ติอาทิฯ ยสฺส ภูมิยาติ ยสฺสา ภูมิยาฯ เสเสสุปีติ เยภุยฺยปํสุเยภุยฺยสกฺขรเยภุยฺยปาสาณาทีสุฯ

    244. Kīdisī yebhuyumattikādīti āha ‘‘dve bhāgā’’tiādi. Yassa bhūmiyāti yassā bhūmiyā. Sesesupīti yebhuyyapaṃsuyebhuyyasakkharayebhuyyapāsāṇādīsu.

    ๒๔๕. ‘‘ปาจิตฺตี’’ติอาทินา ตตฺถ วินิจฺฉยํ ทเสฺสติฯ ชาเต ชาตสญฺญิสฺส ขณเน ปาจิตฺตีติ สมฺพโนฺธฯ ชาเตติ ชาเต ภูมิภาเค, ลิงฺควิปลฺลาโส วา, ชาตายาติ วุตฺตํ โหติฯ ชาเต เทฺวฬฺหสฺส วิมติสฺส ทุกฺกฎนฺติ สมฺพโนฺธฯ ชาเต อชาตสญฺญิสฺส อนาปตฺติฯ ตถา อาณาปเน อนาปตฺตีติ โยชนาฯ อชาตสญฺญิสฺสาติ อชาตาติ สญฺญา อชาตสญฺญา, สา อสฺส อตฺถีติ อชาตสญฺญี, ตสฺสฯ

    245.‘‘Pācittī’’tiādinā tattha vinicchayaṃ dasseti. Jāte jātasaññissa khaṇane pācittīti sambandho. Jāteti jāte bhūmibhāge, liṅgavipallāso vā, jātāyāti vuttaṃ hoti. Jāte dveḷhassa vimatissa dukkaṭanti sambandho. Jāte ajātasaññissa anāpatti. Tathā āṇāpane anāpattīti yojanā. Ajātasaññissāti ajātāti saññā ajātasaññā, sā assa atthīti ajātasaññī, tassa.

    ๒๔๖. เอกายาณตฺติยา เอกาติ สเจ สกิํ อาณโตฺต ทิวสมฺปิ ขณติ, อาณาปกสฺส เอกา เอว อาปตฺตีติ อโตฺถฯ วาจโส อาปตฺตีติ สมฺพโนฺธฯ วาจโสติ วิจฺฉายํ โส, วาจาย วาจายาติ อโตฺถฯ

    246.Ekāyāṇattiyā ekāti sace sakiṃ āṇatto divasampi khaṇati, āṇāpakassa ekā eva āpattīti attho. Vācaso āpattīti sambandho. Vācasoti vicchāyaṃ so, vācāya vācāyāti attho.

    ๒๔๗. ‘‘อิมํ ฐานํ ขณ วา’’ติอาทินา โยเชตพฺพํฯ ‘‘เอตฺถ อคฺคิํ ชาเลหิ วา’’ติ โยชนา ฯ ‘‘วตฺตุ’’นฺติ อิทํ ‘‘น วฎฺฎตี’’ติ อิมสฺส กตฺตุปทวจนนฺติ อโตฺถฯ อถ วา ‘‘อิมํ ฐานํ ขณา’’ติอาทิปฺปกาโร วจนาย น วฎฺฎตีติ อโตฺถฯ นิยเมตฺวาติ อิมินา ‘‘อาวาฎํ ขณ, กนฺทํ ขณา’’ติอาทินา อนิยเมตฺวา วตฺตุํ วฎฺฎตีติ ทีเปติฯ

    247. ‘‘Imaṃ ṭhānaṃ khaṇa vā’’tiādinā yojetabbaṃ. ‘‘Ettha aggiṃ jālehi vā’’ti yojanā . ‘‘Vattu’’nti idaṃ ‘‘na vaṭṭatī’’ti imassa kattupadavacananti attho. Atha vā ‘‘imaṃ ṭhānaṃ khaṇā’’tiādippakāro vacanāya na vaṭṭatīti attho. Niyametvāti iminā ‘‘āvāṭaṃ khaṇa, kandaṃ khaṇā’’tiādinā aniyametvā vattuṃ vaṭṭatīti dīpeti.

    ๒๔๘. ‘‘อิมสฺส ถมฺภสฺส อาวาฎํ ชาน วา, กปฺปิยํ กโรหิ วา’’ติ จ ‘‘มตฺติกํ ชาน วา, มตฺติกํ อาหร วา, มตฺติกํ กปฺปิยํ กโรหิ วา’’ติ จ เอทิสํ วจนํ วฎฺฎตีติ สมฺพโนฺธฯ เอตํ วิย ทิสฺสตีติ เอทิสํ, กิํ ตํ? ‘‘มตฺติกํ เทหี’’ติอาทิกํ อุปเมยฺยํฯ ‘‘มตฺติกํ ชานา’’ติอาทิกํ ปน อุปมานํ, เตสํ อุปมาโนปเมยฺยานํ ยา กปฺปิยสงฺขาตา สมานธมฺมตา, สา อุปมาฯ ตถา จ วุตฺตํ อเมฺหหิ สุโพธาลงฺกาเร ‘‘อุปมาโนปเมยฺยานํ, สธมฺมตฺตํ สิโยปมา’’ติฯ อญฺญถา อุปมานภูตอกฺขราวฬิสทิสีเยว, อกฺขราวฬิ อุปเมยฺยํ สิยาฯ วาเกฺย วิย-สโทฺทเยว ปน อุปมานํ โชเตตีติ เวทิตพฺพํฯ

    248. ‘‘Imassa thambhassa āvāṭaṃ jāna vā, kappiyaṃ karohi vā’’ti ca ‘‘mattikaṃ jāna vā, mattikaṃ āhara vā, mattikaṃ kappiyaṃ karohi vā’’ti ca edisaṃ vacanaṃ vaṭṭatīti sambandho. Etaṃ viya dissatīti edisaṃ, kiṃ taṃ? ‘‘Mattikaṃ dehī’’tiādikaṃ upameyyaṃ. ‘‘Mattikaṃ jānā’’tiādikaṃ pana upamānaṃ, tesaṃ upamānopameyyānaṃ yā kappiyasaṅkhātā samānadhammatā, sā upamā. Tathā ca vuttaṃ amhehi subodhālaṅkāre ‘‘upamānopameyyānaṃ, sadhammattaṃ siyopamā’’ti. Aññathā upamānabhūtaakkharāvaḷisadisīyeva, akkharāvaḷi upameyyaṃ siyā. Vākye viya-saddoyeva pana upamānaṃ jotetīti veditabbaṃ.

    ๒๔๙. ปถวิยา อสมฺพทฺธํ สุกฺขกทฺทมอาทิกญฺจ ตนุกํ อุสฺสิญฺจนียกทฺทมญฺจ โกเปตุํ ลพฺภนฺติ สมฺพโนฺธฯ กทฺทมอาทิกนฺติ เอตฺถ อาทิ-สเทฺทน อุทเกน คตฎฺฐาเน อุทกปปฺปฎโก นาม โหติ, ยํ วาตปฺปหาเรน จลติ, ตํ สงฺคณฺหาติฯ อุสฺสิญฺจนียกทฺทมนฺติ ฆเฎหิ อุสฺสิญฺจิตุํ สกฺกุเณยฺยกทฺทมํฯ

    249. Pathaviyā asambaddhaṃ sukkhakaddamaādikañca tanukaṃ ussiñcanīyakaddamañca kopetuṃ labbhanti sambandho. Kaddamaādikanti ettha ādi-saddena udakena gataṭṭhāne udakapappaṭako nāma hoti, yaṃ vātappahārena calati, taṃ saṅgaṇhāti. Ussiñcanīyakaddamanti ghaṭehi ussiñcituṃ sakkuṇeyyakaddamaṃ.

    ๒๕๐. ‘‘จาตุมาสาธิโกวฎฺฐํ คณฺฑุปฺปาท’’นฺติอาทินา สมฺพนฺธิตพฺพํฯ คณฺฑํ ปถวิยา คณฺฑสทิสํ มตฺติกราสิํ อุปฺปาเทนฺตีติ คณฺฑุปฺปาทาฯ อิธ ปน เตหิ อุฎฺฐาปิโต คูโถ ‘‘คณฺฑุปฺปาท’’นฺติ นิทฺทิโฎฺฐฯ โปตฺถเกสุ ปน ‘‘คณฺฑุปฺปาโท’’ติ ปาโฐ ทิสฺสติฯ ตํ ‘‘น โกปเย’’ติ เอตฺถ กเมฺมน ภวิตพฺพนฺติ น ยุชฺชติฯ มูสิกุกฺกิรนฺติ มูสิกานํ อุกฺกิโร ขณิตฺวา พหิ กตํ ปํสุราสิ มูสิกุกฺกิโรติฯ เลฑฺฑาทินฺติ เอตฺถ เลฑฺฑุนฺติ กสิตฎฺฐาเน นงฺคลจฺฉินฺนมตฺติกาปิณฺฑํฯ อาทิ-สเทฺทน คาวีนํ ขุรจฺฉินฺนํ กทฺทมํ สงฺคณฺหาติฯ

    250. ‘‘Cātumāsādhikovaṭṭhaṃ gaṇḍuppāda’’ntiādinā sambandhitabbaṃ. Gaṇḍaṃ pathaviyā gaṇḍasadisaṃ mattikarāsiṃ uppādentīti gaṇḍuppādā. Idha pana tehi uṭṭhāpito gūtho ‘‘gaṇḍuppāda’’nti niddiṭṭho. Potthakesu pana ‘‘gaṇḍuppādo’’ti pāṭho dissati. Taṃ ‘‘na kopaye’’ti ettha kammena bhavitabbanti na yujjati. Mūsikukkiranti mūsikānaṃ ukkiro khaṇitvā bahi kataṃ paṃsurāsi mūsikukkiroti. Leḍḍādinti ettha leḍḍunti kasitaṭṭhāne naṅgalacchinnamattikāpiṇḍaṃ. Ādi-saddena gāvīnaṃ khuracchinnaṃ kaddamaṃ saṅgaṇhāti.

    ๒๕๑-๒. อุทกสนฺติเก ปติเต วาปิอาทีนํ กูเล จ ปาสาเณ ลเคฺค รเช จ นวโสณฺฑิยา ปติเต รเช จ อโพฺภกาสุฎฺฐิเต วมฺมิเก จ มตฺติกากุเฎฺฎ จ ตถาติ สมฺพโนฺธฯ ตถาติ อิมินา กูลาทิเก จาตุมาสาธิโกวฎฺฐํ วา สพฺพํ น โกปเยติ อิทํ อติทิสติฯ อิฎฺฐกกุฎฺฎโก วฎฺฎตีติ อาห ‘‘เยภุยฺยา’’ติอาทิฯ เยภุเยฺยน กถลา เอตฺถาติ เยภุยฺยกถลา, ภูมิ , ติฎฺฐติ เอตฺถาติ ฐานํ , เยภุยฺยกถลาย ฐานํ, ตสฺมิํฯ อิฎฺฐกกุฎฺฎโก เยภุยฺยกถลา วิย โหตีติ อธิปฺปาโยฯ กุฎฺฎกํ โกเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อธิปฺปาโยฯ อิฎฺฐกาย กโต กุฎฺฎโกติ สมาโสฯ

    251-2. Udakasantike patite vāpiādīnaṃ kūle ca pāsāṇe lagge raje ca navasoṇḍiyā patite raje ca abbhokāsuṭṭhite vammike ca mattikākuṭṭe ca tathāti sambandho. Tathāti iminā kūlādike cātumāsādhikovaṭṭhaṃ vā sabbaṃ na kopayeti idaṃ atidisati. Iṭṭhakakuṭṭako vaṭṭatīti āha ‘‘yebhuyyā’’tiādi. Yebhuyyena kathalā etthāti yebhuyyakathalā, bhūmi , tiṭṭhati etthāti ṭhānaṃ, yebhuyyakathalāya ṭhānaṃ, tasmiṃ. Iṭṭhakakuṭṭako yebhuyyakathalā viya hotīti adhippāyo. Kuṭṭakaṃ kopentassa anāpattīti adhippāyo. Iṭṭhakāya kato kuṭṭakoti samāso.

    ๒๕๓-๕. สญฺจาเลตฺวา ภูมิํ วิโกปยํ ถมฺภาทิํ คณฺหิตุํ วาติ สมฺพโนฺธฯ ตตฺถ วิโกปยนฺติ กรณเตฺถ ปจฺจตฺตวจนํ, วิโกปยตาติ อโตฺถฯ อญฺญถา กถเมตฺถ ปฐมาปสโงฺคฯ ปฐมา หิ ‘‘ภว’’นฺติ วุเตฺต สิยา, น จ ‘‘คณฺหิตุ’’นฺติอาทีสุ ตุํ-ปจฺจเยหิ วุโตฺต โกจิ อตฺถิ, ยทา ภาเว ตุํ-ปจฺจโย, ตทา น กิญฺจิ วุตฺตํ โหตีติ, ‘‘น กปฺปตี’’ติ ปธานกิริยายปิ เหฎฺฐา วุตฺตนเยน กตฺตา อโญฺญเยวาติ เอวํ สพฺพตฺถฯ ตติยเตฺถ ตุ สติ อิโต จิโต สญฺจาเลตฺวา ภูมิํ วิโกปยตา ถมฺภาทิํ คณฺหิตุํ น กปฺปตีติ อตีว ยุชฺชติฯ ธารายาติ ปสฺสาวธารายฯ วิสมํ สมํ กาตุํ สมฺมุญฺชนีหิ ฆํสิตุํ วาติ โยชนาฯ วิสมนฺติ วิสมฎฺฐานํฯ ‘‘ปทํ ทเสฺสสฺสามี’’ติ ภูมิํ ภินฺทโนฺต จงฺกมิตุํ วาติ สมฺพโนฺธฯ ภินฺทโนฺตติ ภินฺทตาฯ กณฺฑุโรคี วา ตฎาทีสุ องฺคปจฺจงฺคํ ฆํสิตุนฺติ โยชนาฯ กณฺฑุโรคีติ กณฺฑุโรคินาฯ -สโทฺท อวธารเณฯ

    253-5. Sañcāletvā bhūmiṃ vikopayaṃ thambhādiṃ gaṇhituṃ vāti sambandho. Tattha vikopayanti karaṇatthe paccattavacanaṃ, vikopayatāti attho. Aññathā kathamettha paṭhamāpasaṅgo. Paṭhamā hi ‘‘bhava’’nti vutte siyā, na ca ‘‘gaṇhitu’’ntiādīsu tuṃ-paccayehi vutto koci atthi, yadā bhāve tuṃ-paccayo, tadā na kiñci vuttaṃ hotīti, ‘‘na kappatī’’ti padhānakiriyāyapi heṭṭhā vuttanayena kattā aññoyevāti evaṃ sabbattha. Tatiyatthe tu sati ito cito sañcāletvā bhūmiṃ vikopayatā thambhādiṃ gaṇhituṃ na kappatīti atīva yujjati. Dhārāyāti passāvadhārāya. Visamaṃ samaṃ kātuṃ sammuñjanīhi ghaṃsituṃ vāti yojanā. Visamanti visamaṭṭhānaṃ. ‘‘Padaṃ dassessāmī’’ti bhūmiṃ bhindanto caṅkamituṃ vāti sambandho. Bhindantoti bhindatā. Kaṇḍurogī vā taṭādīsu aṅgapaccaṅgaṃ ghaṃsitunti yojanā. Kaṇḍurogīti kaṇḍuroginā. Ca-saddo avadhāraṇe.

    ๒๕๖-๗. สุทฺธจิตฺตสฺสาติ ปถวิเภทาธิปฺปายวิรเหน ปริสุทฺธจิตฺตสฺสฯ

    256-7.Suddhacittassāti pathavibhedādhippāyavirahena parisuddhacittassa.

    ๒๕๘. อคฺคิสฺส อนุปาทาเน กปาเล วา อนุปาทานาย อิฎฺฐกาย วา อคฺคิํ ปาเตตุํ วา อวเส สติ ภูมิยํ ปาเตตุํ วา ลพฺภเตติ สมฺพโนฺธฯ อุปาทานํ อินฺธนํ, น อุปาทานํ อนุปาทานํ, ตสฺมิํฯ วโส ปภุตฺตํฯ ‘‘วโส ปภุเตฺต อายเตฺต’’ติ หิ นิฆณฺฑุฯ น วโส อวโส, ตสฺมิํ อปภุเตฺตติ อโตฺถฯ ปติตฎฺฐาเนเยว อุปาทานํ ทตฺวา อคฺคิํ กาตุํ วฎฺฎติฯ สุกฺขขาณุกสุกฺขรุกฺขาทีสุ จ อคฺคิํ ทาตุํ น วฎฺฎติฯ สเจ ปน ‘‘ปถวิํ อปฺปตฺตเมว นิพฺพาเปตฺวา คมิสฺสามี’’ติ เทติ, วฎฺฎติ, ปจฺฉา นิพฺพาเปตุํ น สโกฺกติ, อวิสยตฺตา อนาปตฺติฯ ‘‘ภูมิยํ ปาเตหี’’ติ เอวมฺปิ วตฺตุํ น วฎฺฎตีติฯ

    258. Aggissa anupādāne kapāle vā anupādānāya iṭṭhakāya vā aggiṃ pātetuṃ vā avase sati bhūmiyaṃ pātetuṃ vā labbhateti sambandho. Upādānaṃ indhanaṃ, na upādānaṃ anupādānaṃ, tasmiṃ. Vaso pabhuttaṃ. ‘‘Vaso pabhutte āyatte’’ti hi nighaṇḍu. Na vaso avaso, tasmiṃ apabhutteti attho. Patitaṭṭhāneyeva upādānaṃ datvā aggiṃ kātuṃ vaṭṭati. Sukkhakhāṇukasukkharukkhādīsu ca aggiṃ dātuṃ na vaṭṭati. Sace pana ‘‘pathaviṃ appattameva nibbāpetvā gamissāmī’’ti deti, vaṭṭati, pacchā nibbāpetuṃ na sakkoti, avisayattā anāpatti. ‘‘Bhūmiyaṃ pātehī’’ti evampi vattuṃ na vaṭṭatīti.

    ปถวีนิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Pathavīniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.





    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact